 |
ใครเป็นโรคนิ้วล๊อคชิญทางนี้ครับ
|
|
การรักษาโรคนิ้วล๊อคโดยวิธีการเจาะครับ
คุณหมอวิชัย วิจิตรพรกุล ผู้ช่วย ผอ.รพ.เลิดสิน อธิบายว่า โรคนิ้วล็อก หรือที่บางคนเรียกว่า เอ็นนิ้วมือยึด หรือ นิ้วเหนี่ยวไกปืน เป็นความผิดปกติของนิ้วมือ พบได้บ่อยที่สุดในคนแข็ง
แรงปกติ อาการที่ปรากฏจะเริ่มต้นเจ็บบริเวณฐานนิ้ว ขยับนิ้วมือจะรู้สึกเจ็บ การงอ และการเหยียดนิ้วฝืด สะดุด งอนิ้วไม่เข้า นิ้วแข็ง บวมชา นิ้วเกยกัน กำมือไม่ลง นิ้วโก่งงอ หากไม่ได้รับการรักษา นิ้วข้างเคียงก็จะยึดติดแข็ง ใช้งานไม่ได้เปรียบเสมือนมือพิการ สาเหตุของนิ้วล็อก เกิดจากการใช้งานของมืออย่างรุนแรง ในการบีบกำ หิ้วของหนัก ๆ ซ้ำ ๆ จนปลอกหุ้มเอ็นบวมหดรัด ขาดความยืดหยุ่นเป็นผลให้เส้นเอ็นเคลื่อนตัวผ่านปลอกเอ็นไม่สะดวก โรคนี้เป็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ โดยในเด็กมักเป็นมาแต่กำเนิด สาเหตุมาจากเข็มขัดรัดเส้นเอ็นไม่ยืดหยุ่น ทำให้เส้นเอ็นเคลื่อนตัวผ่านปลอกเอ็นไม่สะดวก แต่ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 มักเกิดในผู้หญิงอายุ 45 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะแม่บ้าน ที่ใช้มือทำงานหนัก เช่น หิ้วถุงพลาสติกหนัก ๆ หิ้วตะกร้าจ่ายกับข้าว ชอปปิง หิ้วถังน้ำ บิดผ้า กำมีดสับหมู หรือสับอาหารประเภทต่าง ๆ ในผู้ชายมักจะพบในอาชีพที่ต้องใช้งานมือหนัก ๆ ซ้ำ ๆ เช่น คนทำสวนใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้ ใช้จอบ เสียม มีด ฟันต้นไม้ ช่างที่ใช้ไขควง สว่าน หิ้ว หรือ ยกของหนักเป็นประจำ เช่น คนส่งแก๊ส คนส่งน้ำขวด น้ำอัดลม กระบะผลไม้ และมักพบได้บ่อยในคนที่ตีกอล์ฟ รุนแรง ดังนั้นอาชีพที่มีความเสี่ยงต้องระวังเป็นพิเศษ คือ แม่บ้านที่หิ้วถุงหนัก ๆ ซักบิดผ้า คนทำสวน ขุดดิน ใช้กรรไกรเล็มกิ่งไม้ คนขายของ ขายผ้าที่ต้องหิ้วสินค้าเดินเร่ขาย ช่างไฟฟ้า ช่างโทรศัพท์ ช่างไม้ ช่างปูน ช่างก่อสร้าง ช่างตัดเสื้อผ้า ช่างทำผม ช่างเจียระไนพลอย คนขายน้ำ คนส่งน้ำอัดลม เบียร์ โซดา พนักงานธนาคาร ที่ต้องนับแบงก์บ่อย ๆ หรือหิ้วถุงเหรียญหนัก ๆ เป็นประจำ นักกอล์ฟ นักแบดมินตัน คนทำขนมนวดแป้ง และซาลาเปา หมอฟัน นักเขียน ครู นักบัญชี นักดนตรี ผู้บริหาร คนที่เป็นโรคนิ้วล็อกอาจจะเป็นที่นิ้วใดนิ้วหนึ่ง หรือข้างใดข้างหนึ่ง ในบางคนก็เป็นทั้ง 2 ข้าง และเป็นหลายนิ้ว หรือเป็นเกือบทุกนิ้ว จากที่หมอให้การรักษามาเป็นเวลา 9 ปี มีคนไข้มาใช้บริการไปแล้วกว่า 11,200 นิ้ว ซึ่งบางคนเป็นนิ้วล็อกถึง 8 นิ้วก็มี งอมือเหยียดมือไม่ได้เลย ทรมานมาก จากที่วิเคราะห์และพูดคุยกับคนไข้ พอจะสรุปได้ว่าคนที่เป็นแม่บ้านมักจะเป็นที่นิ้วกลาง และนิ้วนาง มากที่สุด ช่างตัดเสื้อ ตัดผม คนที่เขียนหนังสือ เซ็นงาน หรือจับปากกานาน ๆ มักเป็นที่นิ้วโป้งขวา คนที่เป็นหมอ นวดแผนโบราณ เป็นที่นิ้วหัวแม่มือ 2 ข้าง คนที่ทำสวน ส่งน้ำอัดลม แม่ค้าขายข้าวแกงต้องยกหูหม้อหนัก ๆ ทุกวัน มักจะเป็นที่นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง คนที่เล่นกอล์ฟ จะเป็นที่นิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อยซ้ายมือ ในส่วนของนิ้วก้อยข้างขวา อาจพบได้ในผู้ที่มีอาชีพช่างกลึง ที่ต้องขันนอต ประแจ โดยไม่มีการป้องกัน ทำให้ฐานนิ้วบวม เกิดพังผืด และเป็นนิ้วล็อกในที่สุด มาถึงวิธีการรักษาโรคนิ้วล็อกนั้น ถ้าเป็นในระยะเริ่มแรก มีอาการเจ็บเพียงฐานนิ้ว คุณหมอวิชัย บอกว่า ควรพักการใช้งานที่รุนแรง และแช่นิ้วมือในน้ำอุ่น ใช้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ การทำกายภาพบำบัด หรือฉีดยาสเตียรอยด์ ซึ่งมักจะได้ผลในระยะปานกลาง แต่ถ้าเป็นรุนแรง การฉีดยาสเตียรอยด์ อาจจะได้ผลในระยะสั้น 2-3 เดือนเท่านั้น จากนั้นจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก คนไข้จำเป็นที่จะต้องได้รับการผ่าตัด แต่เนื่องจากคนไข้บางคนกลัวการผ่าตัด อีกทั้งเมื่อผ่าตัดจะต้องเปิดแผลที่ฐานนิ้วมือ คนไข้ต้องใช้เวลาพัก หรือ หยุดงานหลายวันกว่าแผลจะหายและใช้มือได้ตามปกติ หมอจึงได้คิดค้นวิธีการรักษาโรคนิ้วล็อกด้วยวิธีการเจาะผ่านผิวหนังไปตัดเข็มขัดรัดเส้นเอ็น โดยวิธีนี้แผลจะเล็ก ใช้เวลารักษาเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น ในการเจาะผ่านผิวหนังนั้น คุณหมอวิชัย ได้อธิบายไปพร้อม ๆ กับรักษาคนไข้ไปในตัว โดยคุณหมอได้ใช้เครื่องมือทำฟันที่เรียกว่า carver ซึ่งใช้ในการอุดฟัน และตกแต่งฟัน โดยนำมาเจียให้ได้ความคมตามต้องการที่จะใช้งานให้เหมาะสมกับแต่ละนิ้ว ก่อนการรักษาคนไข้จะต้องล้างมือให้สะอาดก่อน คุณหมอจะถามคนไข้ซ้ำอีกครั้งว่านิ้วไหนที่มีปัญหา แล้วให้คนไข้งอนิ้ว และเหยียดนิ้วให้ดู จากนั้นจะให้คนไข้กำมือแล้วใช้ผ้าก๊อซพันมือเป็นการไล่เลือดออกจากบริเวณมือที่จะทำการเจาะก่อนทำการห้ามเลือด โดยใช้หนังยางรัดที่บริเวณเหนือข้อมือ เมื่อห้ามเลือดเสร็จแล้ว ก็จะแกะผ้าก๊อซที่พันออก ทาเบตาดีนให้ทั่วมือ และทาแอลกอฮอล์ซ้ำอีกรอบเพื่อฆ่าเชื้อ ทำการฉีดยาชา ก่อนตามด้วยยาแก้อักเสบเข้าไปตรงฐานของนิ้วล็อก และใช้เครื่องมือทำฟันที่ดัดแปลงแล้วเจาะผ่านผิวหนัง และทำการตัดเข็มขัดรัดเส้นเอ็นที่เป็นพังผืดออก ซึ่งขณะที่ขยับเครื่องมือไปมาจะมีเสียงดังแควก ๆ ๆ อยู่ตลอดเวลา หลังจากใช้เวลาประมาณ 5-6 นาที จากนิ้วมือที่งอ เหยียดไม่ได้ คนไข้ก็สามารถขยับมือได้ ร่องรอยของแผลที่ปรากฏนั้นก็มีขนาดเล็กมากจนแทบมองไม่เห็น จากนั้นก็ทำความสะอาดแผล ใช้ผ้าพันแผลปิดแผลไว้ ตามด้วยผ้าก๊อซพันซ้ำอีก เอาหนังยางรัดออก เป็นอัน เสร็จสิ้นกระบวนการ คนไข้กลับบ้านได้โดยหมอจะ จ่ายยาแก้ปวด และแก้อักเสบให้ไปรับประทานที่บ้าน และแนะนำให้เอาผ้าก๊อซออกในตอนกลางคืน และพยายามขยับนิ้วอยู่เรื่อย ๆ ส่วนกรณีที่คนไข้เป็นนิ้วล็อกทั้งข้างซ้ายและข้างขวา คุณหมอวิชัย บอกว่า จะต้องมาทำข้างใดข้างหนึ่งก่อน เมื่อหายดีแล้วค่อยกลับมาทำอีกข้าง เพราะถ้าทำทั้ง 2 ข้างไปพร้อม ๆ กัน คงเป็นไปไม่ได้ที่คนไข้จะไม่ใช้มือเลย เพราะไหนจะต้องเข้าห้องน้ำ ห้องส้วม หยิบจับโน่น หยิบจับนี่ คุณหมอวิชัยเตือนว่า การป้องกันโรคนิ้วล็อกวิธีที่ดีที่สุด คือ ต้องระมัดระวังการใช้งานของนิ้วมืออย่างถูกสุขลักษณะ ก็จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บของปลอกหุ้มเอ็น และโรคนิ้วล็อกได้ โดยในคนที่ต้องหิ้วถุงหนัก ๆ ก็ควรใช้ผ้าขนหนู หรือกระดาษห่อเป็นที่จับ หรือแทนที่จะหิ้วตะกร้าเวลาไปจับจ่ายซื้อของ ก็ใช้รถเข็น หรือรถลาก แทน การตัดกิ่งไม้ ก็ควรใส่ถุงมือ หรือแม่บ้านที่ซักผ้าบิดผ้าบ่อย ๆ ก็อาจจะเปลี่ยนมาใช้เครื่องซักผ้าแทน ในคนที่ตีกอล์ฟ ควรใส่ถุงมือ เพียงเท่านี้เราก็จะห่างไกลจากโรคนิ้วล็อกได้.
ขอบคุณ นายแพทย์ Vichai - Vijitpornkul โรงพยาบาลเลิดสิน ด้วยครับ
แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 52 12:18:37
แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 52 12:18:27
จากคุณ |
:
ccw_nt
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ส.ค. 52 12:15:58
|
|
|
|  |