ความคิดเห็นที่ 1 สัญญาตอนนี้มันเชื่ออะไรไม่ได้หรอก และอนาคตก็ไม่ทราบว่าจะเอาลูกมาขายกินหรือไม่ ??? ทุกอย่างมันตอบไม่ได้เพราะเป็นเรื่องในอนาคต จากคุณ : เด็กขายก๋วยจั๊บ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 11:45:50

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเป็นผม.. ถ้าจะมีลูก  ผมขอทำหน้าที่ทั้งพ่อ และ สามี ให้ดีที่สุดครับ จากคุณ : กังป๋วย เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 11:48:20

ความคิดเห็นที่ 3 คุณพู่กันกะจานสี "คิด" ให้หนัก ๆ ค่ะ.. อิชั้นไม่เห็นมีเหตุผลอันใดในการที่คุณจะต้องขออสุจิจากผู้ชายคนนั้น(ซึ่งตอนนี้ก็มีแฟนแล้ว) เพื่อให้ตัวเองมีลูก.."ลูก" ไม่ใช่ตัวแทนของใครนะคะ  ไม่มีใครหรืออะไรเป็นตัวแทนของใคร ได้หรอกค่ะ คิดถึงตัวเองแล้ว คิดถึง"คนรัก" ของเค้าด้วย ว่าถ้าหากทราบเรื่องนี้ภายหลังเรื่องราวมันจะยิ่งยุ่งเหยิงขนาดไหน (ไม่มีใครรับประกันอนาคตได้หรอกค่ะ) ..ทราบว่ารักมาก แต่รักแล้วขอให้มีสติให้มาก ๆ ด้วยเช่นกันนะคะ.. จากคุณ : i'm not superman เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 11:52:19

ความคิดเห็นที่ 4 ตอบคุณ  เด็กขายก๋วยจั๊บ แล้วมีวิธีไหน ที่จะช่วยให้เค้ามั่นใจได้บ้างคะ ว่าเราจะไม่ทำแบบนั้น เราต้องการลูก อย่างบริสุทธิใจจริง ๆ ค่ะ เพราะความจริงได้ลูกแล้ว เราคุยกับเค้าต่อก็ได้  แต่เราเลือกที่จะหายไป ก็เพื่อความสบายใจของเค้าน่ะค่ะ ตอบคุณ กังป๋วย ขอบคุณนะคะ  เค้าก็คงอยากทำแบบนั้นเหมือนกัน  แต่เราสองคนคงไม่มีทาง  ไม่มีโอกาส T_T ตอบคุณ : i'm not superman ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ แต่ก็คิดเรื่องนี้มาเป็นปีแล้วค่ะ เราอยากมีลูกกับคนที่เรารักจริง ๆ และก็จะไม่กลับมาอีกค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 11:56:03 จากคุณ : พู่กันกะจานสี เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 11:54:31

ความคิดเห็นที่ 5 รีบจดลิขสิทธิ์ไว้ครับ พล๊อตเรื่องนี้ถ้าเอาไปทำหนังหรือละคร  ขายดีแน่ ถ้าเป็นผมคงยอมครับ  แต่หลังจากจดทะเบียนสมรสกับแฟนตัวจริงก่อน เพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัยภายหลัง คุณลองยื่นข้อเสนอนี้ดู  ฝ่ายชายจะได้สบายใจ จากคุณ : --^ไชโย^-- เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 12:13:10

ความคิดเห็นที่ 6   สมมติว่าได้ลูกมาจริง ๆ คงเป็นความสุขของคุณตอนนี้ แล้วไม่นึกถึงจิตใจลูกเมื่อเค้าโตขึ้นเหรอ จากคุณ : เห็นแก่ตัวไปหน่อยมั้ง (นกนางนวลเดียวดาย) เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 12:14:07

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบได้อย่างเต็มภาคภูมิคือ...ไม่ครับ... จะมีเพื่ออะไรครับ.. สงสารเด็กที่เกิดมาครับ...เค้าจะรู้มั้ยว่าเค้าเกิดมาเพราะอะไร..เพื่อสนองอะไร ของใคร ถ้าไม่ได้คิดจะอยู่ด้วยกัน ก็อย่าสร้างปมด้วยให้กับเด็กที่คิดจะสร้างมา.. แล้วที่บอกว่าอยากได้ลูกสาว..แน่ใจได้ไงว่าจะต้องเป็นลูกสาว.. โลกแห่งความจริง กับโลกแห่งความฝัน มันต่างกันครับ ตอบแค่นี้ครับ... จากคุณ : จ่าหมาน เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 12:16:14

ความคิดเห็นที่ 8 ถึงผมจะเสื้อแดงแต่ก้อเห็นด้วยกับคุณเด็กขายก๋วยจั๊บและจ่าหมาน เพราะที่ใดมีรักที่นั่นมีทุก ยิ่งใจอ่อนๆแบบผู้ชาย'น่าสงสาร'คนนั้นยิ่ง เจ็บปวด...ส่วนคุณถ้าเห็นเค้าเจ็บปวดคุณจะยิ่งเจ็บปวดเพราะขนาดแค่ เค้านอนดึกยังสงสารเลย... จากคุณ : เอ๋...เข้าใจไหม (Babbitry Boy) เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 12:24:48

ความคิดเห็นที่ 9 อย่าเอาอารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล ผมบอกได้แค่นี้ ความหลงมันบังตาอยู่ ความอยากมีลูกสาวมันก็แค่หัวข้อสนทนาที่ตรงใจกัน แต่ไม่ได้หมายถึงเป็นช่องทางการได้มาถึงลูกสาว สามีคุณเป็นอย่างไรไม่ได้เล่า แต่ที่ไม่เล่า แสดงว่า ไม่ใช่คนเลวร้าย ลึกๆแล้วคุณไม่รู้สึกผิดต่อสามีบ้างเหรอ และในความเป็นจริงทางการแพทย์ มันมีเหตุผลอยู่หลายข้อที่แพทย์ไม่เปิดเผยข้อมูลผู้บริจาคอสุจิ และถ้าเป็นผม ผมก็ไม่มีวันให้อสุจิกับคุณเด็ดขาด อย่าเอาอารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล จำไว้ครับ หากคุณไม่อยากรับรู้อะไร และยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปก็ตามสบายครับ ปลายทางของเรื่องมันชัดเจนรออยู่แล้ว คุณจะเดินไปหาที่นั่นก็ตามใจครับ ไม่มีใครห้ามคุณได้อีกแล้ว จากคุณ : A.R.T. เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 12:26:12

ความคิดเห็นที่ 10 ตอบคุณ  --^ไชโย^-- ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ตอบคุณ นกนางนวลเดียวดาย ขอบคุณที่ให้แง่คิดเกี่ยวกับอนาคตของลูกนะคะ ตอบคุณ จ่าหมาน ขอบคุณสำหรับแง่คิดอีกเช่นกันนะคะ  เราคงยึดติดกับอดีตมากเกินไป โลกความจริง มันเจ็บปวด แต่เราก็ต้องออกมาเจอมันอยู่ดีใช่ไหมคะ ส่วนเรื่องเด็กผู้หญิง เท่าที่ถามคุณหมอดู คุณหมอบอกว่าสามารถทำได้ค่ะ แต่ยังไม่ได้สอบถามรายละเอียดอะไรมากนัก จากคุณ : พู่กันกะจานสี เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 12:28:44

ความคิดเห็นที่ 11 ตอบคุณ Babbitry Boy ใช่ค่ะ ยิ่งเห็นเค้าต้องทุกข์ หรือไม่สบายใจ เราก็ไม่สบายใจไปด้วย เห็นใจแม่เค้าด้วยที่ต้องมาคิดมากเรื่อง ของเรากับเค้า  ตอนนี้เราก็รู้สึกว่าทุกข์ บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ ตอบคุณ  A.R.T. ขอบคุณสำหรับการเตือนสตินะคะ ดิฉันกับสามี เราเลิกกันนานแล้วค่ะ เลิกกันด้วยดีค่ะ เลิกกันก่อนที่จะมาคบกับเค้าคนนี้ เรื่องอสุจิ เราตั้งใจว่า หากได้มาเราจะเอาไปฝากกับธนาคารอสุจิก่อน (ไม่รู้ว่าเค้าจะรับฝากไหม ตรงนี้ยังไม่ได้หาข้อมูลค่ะ) แล้วเมื่อร่างกายเราพร้อม (อยากเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนมีลูกค่ะ) แล้วก็จะผสมเทียม เคยถามหมอที่รู้จักกัน เค้าบอกว่า สามารถเลือกเพศจากอสุจิได้น่ะค่ะ **ขอบคุณสำหรับทุก ๆ คำตอบนะคะ** จากคุณ : พู่กันกะจานสี เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 12:37:03

ความคิดเห็นที่ 12   ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความต้องการของคุณสักเท่าไร คุณเองก็มีลูกแล้วไม่ใช่เหรอค่ะ ^^"? จากคุณ : ูู^^ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 12:41:14 A:76.204.194.60 X: TicketID:195523

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าเราเป็นผู้ชายเรา"ไม่ให้"ค่ะ คุณอยากให้เรื่องจบด้วยดี แต่สิ่งที่คุณพยายามทำอยู่ มันจะทำให้เรื่องไม่จบ ไม่มีวันจบด้วยค่ะ จากคุณ : TheMillerTime เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 12:50:42

ความคิดเห็นที่ 14 ...ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่ให้หรอกครับ...ภรรยาน่ะหย่าได้ ลูกหย่าไม่ได้นะครับ มันไม่จบแค่นั้น ความผูกพันนี้ตัดไม่ขาดครับ ถึงจะไม่ได้เลี้ยงดู แต่ก็เป็นเลือด เนื้อเชื้อไขครึ่งหนึ่งนะครับ...ที่คุณคิดแบบนี้ เป็นเพราะอารมณ์ช่วงนี้หรือเปล่าครับ คุณกำลังจะตัดสินใจครั้งใหญ่ ที่ไม่ได้มีผลต่อคุณคนเดียว แต่จะมีผลกับผู้บริจาค ที่สำคัญ จะมีผลต่อลูกที่จะเกิดขึ้นมา จะมีผลทั้งชีวิตลูกนะครับ ผมไม่แน่ใจว่าคุณ จะมีสิทธิที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ให้ลูกคุณได้นะครับ... จากคุณ : หมี่สดล้วน เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 13:00:01

ความคิดเห็นที่ 15   ตอบตรงๆ นะ จากที่คุณเล่ามา ในฐานะที่ผมเป็นผู้ชาย "คุณน่ากลัว" ครับ และอย่าว่าผมซ้ำเติมเลยนะ สุภาษิต สอนว่า "ขว้างงูให้พ้นคอ" คุณลองไปชั่งใจกับสุภาษิตนี้ดูนะครับ จากคุณ : ไอ้ลิงกัง เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 13:06:18 A:125.26.216.148 X: TicketID:187224

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบคุณ ^^ ใช่ค่ะ เรามีลูกชายแล้วคนนึง ทุกวันนี้ยังอยู่ด้วยกัน แต่ก็อยากได้ลูกสาวอีกสักคน กับคนที่เรารัก . . . ตอบคุณ TheMillerTime ขอบคุณสำหรับข้อคิดอีกทางหนึ่งนะคะ ที่เราคิดว่ามันจะจบ เพราะว่าเราจะเลิกติดต่อกับเค้า และเค้าก็จะไม่ได้เจอเราอีก ตอบคุณ  หมี่สดล้วน เค้าคงคิดอย่างคุณเช่นกัน  เค้าถึงได้บอกในตอนแรกว่าไม่อยากทำแบบนั้น เพราะเค้าก็บอกว่าเค้าคงทิ้งเรา กับลูกไม่ได้เหมือนกัน เรื่องนี้ เราเคยคุยกับเค้าตั้งแต่เราคบกันแล้วค่ะ แต่เค้าก็บอกเหมือนกับตอนนี้  นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เราขอเค้า แต่ที่บอกว่าตอนนี้กำลังเป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ (สำหรับเรา) ก็ "ใช่ค่ะ"  เพราะที่ผ่านมา เลิกกันก็จริง แต่เราไม่เคยตัดใจเลย เรารอเค้าตลอด แม้จะรู้ว่าไม่มีหวัง  ส่วนเค้าก็พยายามหาเวลาว่าง มาหาเราตลอด  แต่ตอนนี้ เราสงสารเค้าค่ะ เวลาเค้าจะพักผ่อนหลับนอนก็ไม่มี ยังต้องหาเวลา มาหาเราอีก เรารู้สึกแย่มาก ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เค้า ไม่สบายใจ และได้พักผ่อนน้อยลง ตอบคุณ  ไอ้ลิงกัง เราคงเป็นผู้หญิงที่น่ากลัว และน่ารังเกียจ จริง ๆ เราไม่ว่าคุณซ้ำเติมเราหรอกค่ะ สิ่งที่คุณพูด มันอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ เรามันไม่ได้ดีพอ เหมือนกับใคร ๆ ขอบคุณสำหรับสุภาษิต นะคะ จากคุณ : พู่กันกะจานสี เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 13:11:19

ความคิดเห็นที่ 17 ขอถามได้มั๊ยคะ จขกท บอกว่า มีลูกแล้ว 1 คน ก็คงจะกับคนที่ จขกท รักก่อนคนนี้ ใช่มั๊ยคะ แปลว่า ถ้า จขกท รักผู้ชายคนไหน ก็อยากจะมีลูกกับผู้ชายคนนั้นเหรอคะ ถ้าวันนี้ จขกท มีลูกกับคนนี้ จะด้วยวิธีใดก็แล้วแต่ แล้วเกิดวันข้างหน้า จขกท ได้มีโอกาสเจอผู้ชายคนใหม่อีก ก็อยากจะมีลูกกับเค้าอีกเหรอคะ สมมุติว่า จขกท มีโอกาสได้เจอผู้ชายที่คิดว่า รัก และขาดไม่ได้ 5 คน จขกท ก็ต้องมีลูกกับผู้ชายทั้ง 5 คน โดยที่ลูกแต่ละคนก็คนละพ่อ หรือเปล่า อนาคตมันเป็นสิ่งไม่แน่นอนค่ะ เราไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น จขกท อาจจะบอกว่า ไม่สามารถมีใครได้อีกแล้ว ขอมีคนนี้คนเดียว แต่ เชื่อมั๊ยว่า โอกาสของคนเรามันมีได้ตลอดชีวิตค่ะ วันนึงข้างหน้า จขกท อาจจะได้เจอกับผู้ชาย ที่เค้าสามารถเป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดีได้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆในชีวิตเลยก็ได้ค่ะ เมื่อถึงเวลานั้น จขกท จะนึกเสียดายทีหลังมั๊ย ถ้าผู้ชายคนนั้นปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่อาจจะรับเป็นพ่อของเด็ก 5 คน คนละพ่อได้ เราแค่สมมุตินะคะ  แต่เรากำลังจะบอกว่า จขกท กำลังทำลายโอกาส ของตัวเองค่ะ ไม่มีใครทำให้ชีวิตของ จขกท เลวร้ายลงไปกว่านี้ ถ้า จขกท ไม่ทำร้ายตัวเอง ปล. ดูแลลูกให้ดีค่ะ ชีวิตที่มีอยู่ตอนนี้น่าจะทุ่มให้กับลูกมากกว่าผู้ชายที่ไม่เคยเห็นแม้แต่ตัวตนนะคะ จากคุณ : ปีกพระพาย เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 13:15:35

ความคิดเห็นที่ 18 ไปถามแฟนให้แล้วค่ะ เขามองหน้าแล้วย้อนถามกลับมาทันที 'คุณจะแต่งนิยายเรื่องอะไรของคุณ' ตอบไปว่า 'เปล่าค่ะ ไม่ได้แต่ง เรื่องของคนอื่น เขาฝากมาถาม' แฟน - 'บอกเขาไปว่าให้เลิกดูละครน้ำเน่า เลิกอ่านนิยายน้ำเน่า แล้วเอาเวลาไปอยู่ในโลกความจริง ใส่ใจลูกชายที่มีอยู่คนนี้ ให้มีกิน ได้เรียนหนังสือ และให้โตขึ้นเป็นคนดีจะดีกว่า' ถามใหม่ - 'น่ะ อยากรู้ค่ะว่าดาร์ลิ้งจะยอมป่าว' แฟน - 'ก็ถ้าเป็นผู้ชายโง่ๆก็คงยอม แต่แน่ใจนะว่าคนที่ถามไม่ใช่คนบ้า' เรา - '???' จากคุณ : Pim~Dow เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 13:21:56

ความคิดเห็นที่ 19 ตอบคุณ  ปีกพระพาย ถามได้ค่ะ เรามีความจำเป็นต้องแต่งงาน กับผู้ชายคนแรกค่ะ เพราะว่าเรามีลูกคนแรก แต่เราก็รักลูกเรามาก ๆ ค่ะ และเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ไม่ใช่ว่ารักใครคนไหน แล้วต้องการมีลูกด้วยทุกคนเสมอไปอย่างที่คุณบอกค่ะ ส่วนเรื่องอนาคต มันไม่แน่นอนก็จริงค่ะ ว่าเราอาจจะเจอหรือไม่เจอใคร หลังจากเลิกกันจนถึง ณ ตอนนี้  เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ก็มีคนที่เค้าคุย ๆ กับเราอยู่บ้าง แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกถึงความรักอะไรเลย เราก็บอกกับหลาย ๆ คนที่คุย ว่าเราเคยเจอความรักแบบนี้  และตอนนี้เราก็เจ็บ เกินกว่าจะมีรักครั้งใหม่ บางคนก็เลยกลายเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องไปค่ะ ส่วนเรื่องโอกาสที่จะพบใครใหม่ เราไม่เคยคิดเลยค่ะ เพราะตั้งแต่รับรู้เหตุผลของแม่เค้าแล้ว เราก็รู้ตัวดี ว่าเราคงไม่ดีพอสำหรับใครอีก เราเลยปฏิเสธ ผู้ชายที่เข้ามาไป แต่สิ่งที่สำคัญ เรายังลืมเค้าไม่ได้ เรายังคงรักเค้าอยู่มาก ๆ จึงไม่อยากมีใครใหม่ เพราะเราคงไม่เต็ม 100 กับเค้าค่ะ ไม่อยากรับใครเข้ามาให้มาทุกข์ เพราะเรายังไม่ลืมและเลิกรักคนเก่า ทุกวันนี้ก็อยู่ดูแลลูกชายคนแรก อย่างปกติดีค่ะ ขอบคุณนะคะ ตอบคุณ Pim~Dow ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยไปถามแฟนคุณให้ และขอบคุณคำตอบของแฟนคุณด้วย บางครั้ง . . .  เราอาจจะบ้าอย่างที่แฟนคุณบอกก็ได้ค่ะ จากคุณ : พู่กันกะจานสี เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 13:27:43

ความคิดเห็นที่ 20 คห.8 ครับ.. ห้องนี้ไม่แยกสีครับ สังเกตจากหลายๆ กระทู้ บางกระทู้ อ่านแล้วรู้เลยว่ารวมๆ แล้ว ...สีเดียว... จากคุณ : จ่าหมาน เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 13:37:23

ความคิดเห็นที่ 21 ^ ^ ^ อิอิอิ...แสดงว่า'ห้องนี้ไม่แบ่งสี' แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 14:27:13 จากคุณ : Babbitry Boy เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 13:42:57

ความคิดเห็นที่ 22 บ้าจริงๆ ทั้งคู่เลย ทำอะไรที่เกินพอดี มันย่อมเพี้ยนไปบ้างอย่างนี้แล... กลับมาอยู่ในโลกจริงๆเถอะ อย่าหลงอยู่ในทางตันนั้นเลย จากคุณ : Jazzmania เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 13:44:12

ความคิดเห็นที่ 23 ผมว่า จขกท.อยากมีใครสักคนอยู่ข้าง ๆ มากเกินไปจนลืม "ความจริง" ของโลกใบนี้ ประโยคที่ว่า "เราคิดว่าหากเรามีลูกกับเค้า เราก็มีตัวแทน เราก็จะสนใจดูแลลูกของเรากับเค้าแทน" การคิดว่าจะมี "ลูก" ไว้เพียงเพื่อดูแลและนึกถึงนั้น ผมไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะ "ลูกไม่ใช่ของที่ระลึก" แต่ "ลูกเป็นพยานรัก" ของสามีและภรรยาที่ทั้งสองคนต้อง "มีความรักให้กันเท่านั้น" คิดและไตร่ตรองให้รอบคอบอย่างละเอียดโดยใช้เหตุผลเป็นตัวนำด้วยนะครับ ปล.ดีใจที่ จขกท.เปิดใจรับฟังทุก ๆ ความเห็นและเข้ามาถามในที่แห่งนี้ เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าคุณยังมี "สติ" ที่จะคิดอยู่..ขอให้กำลังใจครับ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 13:53:44 จากคุณ : อารมณ์ศิลปิน อินกับศิลปะ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 13:52:20

ความคิดเห็นที่ 24   1.ถ้าจะมีลูก ก็ไม่ควรผสมเทียม 2.เมื่อเด็กเกิด คุณต้องแจ้งบิดาด้วยครับ 3.ลูกเป็นทายาทโดยธรรม สามารถเรียกร้องทางกฎหมายได้ตลอดเวลา ไม่ว่า เค้า จะยังอยู่หรือไม่ จากคุณ : Fly boy เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 14:05:44 A:112.142.29.212 X: TicketID:149505

ความคิดเห็นที่ 25 ยังไม่เคยเห็นหน้ากันเลย อยากมีลูกกับเขาแล้วหรอคะ... อืม ถ้าคุณเจอเขาคุณอาจไม่คิดแบบนี้ก้อด้าย.. อีกอย่างเขาก้อมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว อย่าดีกว่าคะ ในอนาคตคุณจะตอบคำถามลูกของคุณลำบากนะ จากคุณ : klint77 เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 14:20:27

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าเราเป็นผู้ชาย เราก็ไม่ยอมนะ ไม่ใช่ว่ากลัวว่าคุณจะมาเรียกร้องอะไรทีหลังหรอก แต่ในเมื่อต้องจากกันแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี เก็บแต่สิ่งดีๆ เป็นความทรงจำ เราจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายต้องรับภาระที่เกิดจากเราคนเดียวหรอก ... เรื่องแบบนี้ตัดยังไงมันก็ตัดไม่ขาด มีลูกเป็นตัวเชื่อมอยู่ทั้งคน เค้าจะไม่อยากรู้เลยเหรอว่าลูกเป็นยังไง โตแค่ไหนแล้ว ... เราว่ามันจะยิ่งยุ่งไปกันใหญ่นะ ได้จะแฟนใหม่เค้า ไหนจะแฟนใหม่คุณ ไหนจะอนาคตของลูกอีกหล่ะ ... ยังไงก็อยากให้คิดทบทวนดีๆ ก่อนนะคะ จากคุณ : minty girl เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 14:25:16

ความคิดเห็นที่ 27 การที่บอกว่า มีลูกแล้ว จะหันหลังให้เขาตลอดไป หายไปจากชีวิตเขานั้น.... ไม่มีทางทำได้ ตรรกะของคุณผิด การมีลูก จะทำให้คุณและเขาต้องเข้าใกล้กันมากยิ่งขึ้น มันเป็นข้ออ้างอย่างดีในการที่จะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกัน และต่อไปถ้าเขาแต่งงาน ภรรยาเขารู้เข้า เธอจะรู้สึกอย่างไร ลูก จะรู้สึกอย่างไร เด็ก ไม่ใช่เป็นตัวแทนใคร เด็ก ต้องการความรักจากพ่อและแม่ เด็ก ต้องการความรักในฐานะตัวตนของเขาเอง นอกจากนั้น ลูก(ชาย)คุณจะรู้สึกอย่างไร คิดถึงความรู้สึกของเด็กสองคนให้มากๆ เราค่อนข้างจะเห็นด้วยกับ คห บน ที่บอกว่า เอาเวลาที่มี ไปให้กับลูกชายคุณดีกว่า ถ้าคุณยอมสละชีวิตเพื่อลูกได้ ทำไมถึงจะยอมสละความรักที่คุณมีกับคนที่พบในเนต ให้กับ "ลูกที่คุณมีอยู่แล้ว" ไม่ได้ คำตอบ คือ ไม่ให้ เพราะความสงสารเด็ก และ ถ้าคุณทำจริงๆ...คุณก็เป็นคนเห็นแก่ตัว เห็นแก่ความสุขของตน จนลืมความทุกข์ของคนรอบข้าง จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 14:29:44

ความคิดเห็นที่ 28 ในฐานะผู้ชาย ถ้าเป็นผม ผมจะ... -ตอบว่า"ไม่"อย่างเสียงดังฟังชัด -เลิกติดต่อกับจขกท.อย่างเด็ดขาด ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา ตอนนี้ ผู้ชายคนนั้นก็มีหญิงของเขาเองอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่พวกขายขนมจีบไปเรื่อยละก็ คิดว่าเขาจะมาสานสัมพันธ์ กับสาวในโลกไซเบอร์อย่างจริงๆจังๆอีกคนเหรอ??? ปอลอ เริ่มคล้อยตามคคห.บนๆละ ที่บอกว่าจขกท.กำลัง"หลง"ไม่ได้"รัก"หรอก ความหลงบังตานี่ ทำให้คนเดินลงเหวมานักต่อนักแล้วนะครับ จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 14:30:55

ความคิดเห็นที่ 29   ขอโทษนะคะที่พูดตรงๆ คือถ้าคิดได้แค่นี้ ถ้าคิดแค่ว่าจะเอาเด็กมาทดแทนผู้ชายคนนั้น แค่ความนี้นี้ ก็ไม่สมควรเป็นแม่คนแล้วค่ะ แล้วถ้าเราเป็นผู้ชาย และมีสมอง  เราก็คงไม่ทำค่ะ จากคุณ : นึกทีไรก็ยิ้มทุกที เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 14:32:31

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่สมควรอย่างยิ่งค่ะ... คุณเองก็เคยผิดหวังจากรักครั้งแรกมาแล้ว หากจะเริ่มต้นใหม่...คุณควรที่จะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้นมาอีกครั้งไม่ใช่เหรอคะ หากคุณจะทำแบบที่คิดจริงๆ คุณจะตอบคำถามลูกคุณว่ายังไงเมื่อเด็กๆถามถึงพ่อ ลูกคนแรก: แม่เลิกกับพ่อลูกไปนานแล้วล่ะ (จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่) ลูกคนที่สอง: แม่เจอพ่อในเน็ตแต่คนละพ่อกับพี่เค้านะจ๊ะ...แม่รักเค้ามาก แต่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ แม่เลยขออสุจิพ่อมาผสมเทียมแล้วออกมาเป็นลูกไงจ๊ะ อ้อ...ห้ามถามว่าจะเจอพ่อยังไงนะ เพราะเราทำสัญญากันไว้ว่าห้ามติดต่อกัน... ลูกสองคน: ?????? จากคุณ : Ayook เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 14:35:17

ความคิดเห็นที่ 31 คุณ จขกท คะ เมาชีวิตหรือปล่าวคะ หยุดคิด หยุดทำ สิ่งที่ทำให้คิดถึงเค้า แล้วนำสติกลับมาตั้งในการดำเนินชีวิตต่อไปค่ะ สู้ สู้ นะคะ ขอให้สติกลับมาค่ะ จากคุณ : พรางฟ้า เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 14:41:27

ความคิดเห็นที่ 32   !!!!!!  ไม่มีทาง  !!!!!!  ครับ จากคุณ : คนขายเกี๊ยะ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 14:46:02

ความคิดเห็นที่ 33 จากเรื่องราวทั้งหมดที่อ่านมา  ผมคิดว่า.. ผมเข้าใจคุณนะครับ อยากจะบอกว่า  ผมกับคุณมีนิสัยคล้ายๆกัน และผมเองก็เคยมีประสบการณ์มาเหมือนๆกันซะด้วย ในช่วงเวลานั้นของชีวิต ความมั่นใจความตั้งใจแน่วแน่ต่างๆ มันดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายไปซะหมด ผมรู้ว่า ณ ตอนนี้ คุณมีความตั้งใจและบริสุทธิ์ใจที่จะทำ แต่เชื่อผมเหอะ... ...เวลา...นี่หล่ะ จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่จิตใจของมนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆ แต่จะต้องนานเท่่าไหร่ ก็ขึ้นกับแต่ละบุคคล ความคิดของคุณตอนนี้...คุณคิดว่ามันถูกต้อง คุณสามารถดูแลได้ คุณเชื่อว่ามันจะไม่มีปัญหาตามมา  แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณแน่ใจหรือว่าคุณจะยังมีความมุ่งมั่นอย่างนี้อยู่อีก   เรื่องราวของความรักที่ไม่สมหวัง แล้วสามารถจบอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง มันมีอยู่แต่ในละครเท่านั้นแหล่ะครับ เนื่องจากปัจจัยทั้งหมดอยู่ที่คนแต่งเพียงคนเดียว   แต่่ชีวิตจริง.. นอกจากตัวคุณแล้ว  ยังมีอีกหลายๆคนที่จะเข้ามามีผลกับสิ่งที่จะตามมาได้อีก ผมเองเคยก็มีความคิดที่จะทำเพื่อสิ่งที่เราเชื่อว่าเรารักมากที่สุด เนื้อเรื่องก็เกือบจะคล้ายๆกันนะ แต่ผมก็ยับยั้งชั่งใจไว้ได้  จนมาวันนี้ มาเห็นเรื่องราวของคุณ ทำให้ผมอยากมาให้ข้อคิดไว้ ในฐานะที่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ปล. หวังว่า ผมอาจจะช่วยอะไรคุณได้บ้างไม่มากก็น้อย .....  Good luck จากคุณ : jutapit เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 14:47:23

ความคิดเห็นที่ 34   แน่ใจแล้วหรอคับ ว่าที่คุณรู้สึกอยู่ตอนนี้คือ รัก จริงๆ คุณแค่ได้โทรคุยกับเขา เล่นmsnกันโดยไม่เคยรู้สักนิด ว่าเวลาเขาเดิน เดินท่าไหนขาเป๋หรือเปล่า ตอนนอนชอบ นอนตดหรือเปล่า เวลากินข้าวมูมมามหรือเปล่า ยังไม่เคยแม้แต่ ใช้ชีวิตอยู่กับเขาสักเพียงนาทีเลย ไอ้คำพูดของคนมันปรุงแต่ง กันได้เป็นปีๆนะคุณ เพื่อนๆผมที่เป็น ญ ยังบ่นให้ฟังบ่อยๆ ว่า กูไม่น่าแต่งกะมันเลย ตอนจีบกันใหม่ๆเงี้ยดีแสนดี เอาอกเอาใจสารพัด แต่พอได้กูแล้วก็หน้ามือเป็นหลัง...หยาบไป นั้นขนาดว่าเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตอนเป็นแฟนตั้งหลายปี แต่กะคุณ ผมว่ามันไม่ได้เป็นแบบที่คุณคิดหรอกคับ . . ส่วนเรื่องลูกผมว่าอย่าหาเรื่องใส่ตัวดีกว่า เท่านี้ปัญหาสังคมก็เยอะพอแล้ว ถ้าเด็กเกิดมาขาดความอบอุ่น โตมาเป็นปัญหาสังคมหละ คุณรับผิดชอบไหวหรอ  ผมเองก็เพิ่งจะได้ลูกสาว ผมยังกลัวว่าจะสอนเขา ยังงัยไม่ให้ทำตัวแรดๆอย่าเด็กสาวสมัยนี้เลยยย นี่ขนาดเด็กมีทั้งพ่อทั้งแม่ นะคับ   อยากให้คุณมีความรับผิดชอบต่อสังคมให้มากว่านี้ ถ้าไม่เห็นกับอนาคต ของคุณ ของลูกคุณ ก็เป็นแก่อนาคตของลูกคนอื่นๆที่จะต้องอยู่ต่อไป บนโลกแย่ๆใบนี้เถอะคับ จากคุณ : สุดยอดนักรบ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 14:50:34

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ จขกท. คุณอย่าทำอย่างั้นเลยครับ อนาคตไม่ใช่มีแค่พรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ มันยังอีกยาวใกลมาก วันนี้คุณตัดสินใจทำอย่างนี้ คิดว่าดีแล้ว ถูกแล้ว หาก ในอนาคตคุณโชคดีที่เจอกับแฟนใหม่ คุณอาจจะคิดว่าไม่น่าที่จะหาภาระมาเพิ่มอีกหนึ่งชีวิตเลยก็ได้ จากคุณ : p_warat เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 14:53:56

ความคิดเห็นที่ 36 เป็นผม ผมก็ไม่ให้นะครับ เพราะยังไงๆ เด็กที่จะเกิดมาก็คือลูกของผม จะไม่ให้ผมเป็นห่วง ไม่ให้ผมอยากรู้เลยหรอ ว่าเค้าเป็นยังไง สบายดีมั้ย พันธะพ่อลูก คือพันธะชั่วชีวิตนะครับ จากคุณ : ความจริงที่ไม่มีจริง เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 14:59:51

ความคิดเห็นที่ 37 คนที่มีสติ ย่อมไม่ทำค่ะ จากคุณ : Papayahanaga เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 15:22:20

ความคิดเห็นที่ 38 ที่เล่ามาทั้งหมดนี่ คือยังไม่เคยเจอกันเลยใช่ไหม จากคุณ : ooh maple เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:04:16

ความคิดเห็นที่ 39   ถ้าเป็นเราเราคิดว่า คุณต้องการมีลูกเพื่อเหนี่ยวรั้งเขาไว้คะ และที่คุณบอกว่าพอคุณได้ลุกแล้วคุณจะหายไปจากชีวิตเขา  บอกได้เลยว่าคุณไม่มีวันทำได้อย่างแน่นอน เพราะเด็กที่คุณคาดหวังจะให้เป็นตัวแทนเขาจะคอยย้ำเตือนและเป็นเหมือนตัวบีบให้คุณไม่ไปจากเขา เหตุผลของคุณเราว่านะเหมือนพวกเมียน้อยที่อยากจะจับ ผช  ที่ตอนแรกบอกว่า ไม่เรียกอะไรขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆก็พอ , ไม่ว่าพี่จะมีใครน้องก็รับได้เสมอ  แล้วไงคะสุดท้ายก็พยายามยื้อแย่ง ผช ให้มาเป็นของตัวเองคนเดียวให้ได้ เราว่าคุณตัดอกตัดใจเสียดีกว่าคะ ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายให้เต็มที่เลี้ยงดูเขาให้ดี และดำเนินชีวิตของตัวเองให้มีความสุขที่จีรังยั่งยืนดีกว่า จากคุณ : ฉันนี้ล่ะคนไม่สวย เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:09:01

ความคิดเห็นที่ 40 อ่านๆดูแล้วเหมือนคุณ หลง มากกว่า รักค่ะ   เด็กไม่ใช่สิ่งของ  เด็กก็มีหัวใจ เกิดมาก็ต้องอยากมีพ่อ มีแม่ อยู่เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ อัตตาของคุณดูเยอะไปนะคะ  ไม่มีอะไรที่เป็นของเราหรืออยู่กับเราถาวรหรอกค่ะ ถ้าวันนึงคุณเกิดตายไป ใครจะดูแลลูกคุณ คุณมีลูกอยู่แล้วคนนึง ดูแลเค้าให้ดีก่อนเถอะค่ะ   จากที่คุณเล่ามา มีลูกอยู่แล้วคนนึง อย่าแล้ว คุยกับผู้ชายในเน็ต ผูกพัน แต่ไม่เคยเห็นหน้ากันเลย (รักแบบนี้ ไม่เข้าใจค่ะ  จินตนาการไปเอง) ขนาดคนที่ เราเห็นๆกันอยู่ทุกวัน ยังไม่รู้เลยว่าตัวตนที่แท้จริงเค้าเป็นเช่นไร จนกว่าจะรู้  หรือเมื่อรู้แล้ว อาจอึ้งกิมกี่ ไปเลยก็ได้นะคะ คุณยังไม่ได้รู้จักผู้ชายที่คุณใฝ่ฝันถึง แม้แต่น้อยนะคะ  คิดให้ดีๆ คุณใช้เวลาในการคุยกันผ่านทาง msn ทุกวัน ทุกคืน ขอถามหน่อย แล้วเวลาในการเลี้ยง อบรม ดูแลเอาใจใส่ต่อลูกของคุณเองน่ะ คุณเอาเวลาตอนไหนไปดูแลเหรอคะ  อ่านแล้วสงสารลูกคุณค่ะ เด็กๆน่ะ คุณมีเวลา อยู่ดูแลพวกเค้าอย่างใกล้ชิดก็แค่ช่วงก่อนวัยรุ่นนะคะ พออีกหน่อยเค้าโตแล้วก็ไปติดเพื่อน  ติดแฟน  ต่อให้คุณอยากเรียกร้องเวลาดีๆ ระหว่างคุณกับลูก ให้กลับมา  ก็ไม่มีทางเป็นไปได้แล้วนะคะ ถ้าไม่รู้จักเริ่มเสียแต่วันนี้ วันนี้คุณเป็นคุณแม่ ก็ทำหน้าที่ของแม่ให้เต็มที่  เต็มความสามารถก่อนดีกว่าค่ะ ส่วนเรื่องความรัก...ถ้าคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันหรอกค่ะ...แต่ถ้าไม่ใช่...ฝืนต่อไปก็จะมีแต่ผลเสียค่ะ ปล.รู้สึกอย่างนึง  เหมือนคุณกำลังต้องการเอาชนะอยู่เลยค่ะ ใช่ไหมคะ จากคุณ : luckycatty เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:22:29

ความคิดเห็นที่ 41 ตอบทุกคนอย่างรวม ๆ เลยนะคะ ขอขอบคุณทุกคน ที่เข้ามารับฟังปัญหาและความทุกข์ของเรา พร้อมทั้งให้คำแนะนำ ข้อคิด ที่หลากหลาย แตกต่างกันไป ตอนนี้เรารู้สึกเหนื่อยใจ และท้อแท้กับชีวิตมาก แต่ก็จะพยายามเอาข้อคิด ของทุก ๆ คนกลับไปคิดเสียใหม่นะคะ บางอย่างอาจจะทำได้ บางอย่างอาจจะทำไม่ได้ เพราะมันก็ขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตของแต่ละคน บางคนอาจจะเข้มแข็ง บางคนอาจจะอ่อนแอ เพียงแต่เราอ่อนแอมานานไปหน่อย อาจจะต้องอาศัยเวลา ซึ่งอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ที่จะกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง แต่เราจะพยายามค่ะ และขอบคุณคุณ  jutapit  มากนะคะ ที่เข้าใจ ถึงความรู้สึก ควาทุกข์ในใจที่เรามีอยู่อย่างแท้จริง อย่างน้อยคอมเม้นท์ของคุณก็ช่วยให้เรารู้สึกว่า ก็ยังมีคนคนนึงนะ ที่เข้าใจความรู้สึกของเราอย่างแท้จริง ขอบคุณทุก ๆ คนนะคะ  และขอโทษด้วย ที่ไม่ได้ตอบทุกคอมเม้นท์ เหมือนตอนแรก ๆ ไม่คิดว่าจะมีคนให้ข้อคิด และกำลังใจเยอะขนาดนี้ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ จากคุณ : พู่กันกะจานสี เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:28:01

ความคิดเห็นที่ 42 ขอตอบคุณ luckycatty  นะคะ หากเราเขียนข้อความแบบนั้น แล้วทำให้คุณเข้าใจไปแบบนั้น ก็ขอโทษด้วยค่ะ แต่สิ่งที่เราต้องการ คือแค่ต้องการมีลูกกับคนที่เรารักจริง ๆ ค่ะ ไม่เคยคิดจะเอาไปเรียกร้องอะไรเลย นี่คือความจริงจากใจ และไม่เคยคิดจะเอาชนะใครด้วยค่ะ เพราะหากชนะ แล้วต้องอยู่อย่างทุกข์ทน หากจะมีลูกเพื่อเรียกร้องโดยที่ฝ่ายชายไม่เต็มใจ เราก็ไม่มีความสุขเหมือนตอนนี้อยู่ดีค่ะ ส่วนลูกของเรา  เรายังดูแลเป็นปกติค่ะ เช้า - พาอาบน้ำกินข้าวไปส่งโรงเรียน เย็น -  ไปรับ พาไปทานไอติมบ้าง หรือขี่รถเล่นบ้าง ค่ำๆ - สอนการบ้าน แล้วพาเข้านอนค่ะ ถึงจะคุยกับเค้าคนนั้น ความคิดของเราคือแบบนี้นะคะ แต่หากคุณจะคิดไปแบบนั้น หรือจะไม่เชื่ออะไร เราก็ไม่ว่ากันค่ะ เพราะที่ตั้งกระทู้ ก็เพื่อถามความคิดเห็นของหลาย ๆ คน ทั้งคุณผู้ชาย และคุณผู้หญิง และก็ต้องขอขอบคุณ คุณด้วยค่ะ ที่เป็นอีกความคิดเห็นหนึ่งที่แตกต่างออกไป จากคุณ : พู่กันกะจานสี เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:35:17

ความคิดเห็นที่ 43   ไม่ให้เด็ดขาด จากคุณ : ตึกร้อยสี่ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 16:48:07

ความคิดเห็นที่ 44 แค่ตัวเองยังจะเอาชีวิตไม่รอดเลย วันๆ ยังนึกในใจว่าถ้ามีลูกจะลำบากแค่ไหน ไม่อยากให้มีใครเขาเกิดมาลำบากเพราะเรา อีกอย่างถ้าครอบครัวคุณไม่พร้อม พ่อแม่ลูก ก็อย่าเลย สงสารเด็ก มากๆ ค่ะ จากคุณ : มารุโกะจัง (กองกำลัง12วานร) เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 18:42:40

ความคิดเห็นที่ 45 เราถามคุณจริงๆนะคะ (อดอยู่เฉยๆไม่ได้จริงๆค่ะ) คุณเคยถามลูกชายไหม  ว่าอยากมีพ่อไหม  หรือ อยากมีพ่อใหม่ไหม เคยถามลูกชายไหม ว่าอยากมีน้องชาย หรือน้องสาว ที่ไม่มีพ่อบ้างหรือเปล่า เด็กก็มีหัวใจนะคะ  ไม่ใช่มีแต่ผู้ใหญ่ที่มีหัวใจ ตื่นได้แล้วคุณ  ยังมีความจริง ในโลกนี้อีกมากมาย ให้คุณได้เรียนรู้นะคะ จากคุณ : luckycatty เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 18:54:10

ความคิดเห็นที่ 46   ตามความคิดเรา การเอาเชื้อเค้ามาผสม มันไม่ได้หมายความว่าลูกเค้านะ เชื้อมันก้แค่เชื้อ มันไม่ได้มีความผุกพันธ์อะไรเลย คำว่า 'ลูก' มันมากกว่านั้นอ่ะ มันต้องมีการเลี้ยงดู เฝ้าดูเค้าเติบโต มีความผูกพันธ์ที่เกิดขึ้นมาตามสเต็ป <<<<ต๊ายยยย นี่พูดเหมือนเคยมีลูกเองเลยเนี่ย ฮาาาา อย่างไรก็ตาม ไม่เห็นด้วยค่ะ สงสารเด็ก โตมาถ้ารู้ความจริง คงอาย.....โห กรูเป็นแค่เด็กที่เกิดจากการฉีดนํ้าเชื้อ......ยังกะผสมเที่ยมวัว ลืมผู้ชายในโลกหน้าจอคอมไปให้พ้น แล้วเปิดใจรับคนใหม่ๆดีๆที่เค้ารักคุณในโลกแห่งความจริงเถอะค่ะ ผู้ชายดีๆมีอีกมากให้เลือกตั้งมากมายหลายชาติ ^_^ จากคุณ : happy n luckly เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 21:04:33 A:115.131.200.169 X: TicketID:076993

ความคิดเห็นที่ 47 เอ่อ...พูดไม่ออก จากคุณ : jommassalyn เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 21:12:05

ความคิดเห็นที่ 48 ตอนนี้มีลูกแล้ว และอยากมีลูกกับเขามาก เพื่ออะไรหรือ รักน่ะเข้าใจดี แต่การที่ต้องการลูกเขามาใกล้ชิดตัวนั้น มันช่วยได้ไหม คุณรู้ได้อย่างไรว่า ลูกเขาจะอยู่กับคุณตลอดไป ตราบมราคุณยังมีชีวิตอยู่ ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เสมอทุกสิ่งบนโลกนี้ เกิดมาก็คนเดียว ตายก็คนเดียว ไม่มีอะไรที่จะนำติดตัวไปได้เลย แล้วยังไปยึดติดกับบางสิ่งที่คิดว่าทำให้เรามีความสุข จริงหรือ สิ่งที่เป็นเจ้าของนั้น แม้แต่ร่างกายเรายังไม่สามารถเป็นเจ้าของได้เลย เราบังคับไม่ให้เจ็บป่วยได้ไหม บังคับไม่ให้แก่ได้ไหม ไม่ได้สักอย่าง นั่นก็หมายตวามว่า การยึดติดบางสิ่งบางอย่างนั้น มีแต่จะทำให้เราทุกข์มากขึ้นไป รวมทั้งลูกๆทั้งหมด จากคุณ : สิงหล เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 21:20:58

ความคิดเห็นที่ 49 ในอนาคตที่ไม่แน่นอน  คุณอาจจะไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้อีก แล้วใครจะเป็นผู้ดูแลต่อ   ก็คงไม่พ้นที่จะเป็นพ่อเด็ก ซึ่งตอนนั้น ก็อาจจะมีลูกกับแฟนใหม่เขาไปแล้ว   จากนั้น นิยายน้ำเน่าเรื่อง แม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง ก็จะเริ่มขึ้นอีกครั้ง จากคุณ : กินลม ชมทะเล เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 22:53:11

ความคิดเห็นที่ 50 อย่างงี้เรียกว่า...เห็นแก่ตัว..ได้มั้ยเนี่ย จากคุณ : ~lucky me~ (GniN) เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 23:19:51

ความคิดเห็นที่ 51 ถ้าเขาบอกว่าให้ แต่เอาของใครก็ไม่รู้มาให้ละ จากคุณ : กิ๊กกะเฮิร์ท เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 04:02:53

ความคิดเห็นที่ 52   งืมม... คิดแล้วคิดอีก คิดว่าไม่ให้อ่ะค่ะ เราว่าคุณน่ากลัวอ่ะ ไม่ได้ตัว ก็จะเอาเชื้อ จากคุณ : NiRider เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 08:58:00

ความคิดเห็นที่ 53 เห็นด้วยกับทุกความเห็นเลยค่ะ   ผู้ชายคนนั้นเป็นคนดีคนนึง  ที่ปฏิเสธที่จะให้ลูกสาวคุณ   เป็นคนดีคนนึง  ที่กตัญญู  หลี่กเลี่ยงการกระทำที่จะทำให้ผู้มีพระคุณสะเทือนใจ   เพราะฉะนั้น  ถ้ามีลูก  เป็นไปไม่ได้ที่เค้าจะไม่หันมาเหลี่ยวแล แล้วกับผู้หญิงคนใหม่  ที่เค้ากำลังคบอยู่   ผู้หญิงคนนั้นทำอะไรผิดคะ  ที่เค้าจะต้องได้รับกรรมนี้ไปด้วย เค้าอาจจะทุกข์ใจไม่แพ้คุณ   ที่อยู่ ๆ แฟนก็ยังกลับไปมีอะไรกับแฟนเก่า  จนมีลูก และถ้าสมมติว่าเค้าทั้ง 2 คนเป็นคนดี  ยอมจากกันเพื่อจะได้มารับผิดชอบ   ถึงแม้คุณจะไม่ได้เรียกร้องก็ตาม   (มันก็เหมือนเป็นตราบาปนะคะ  วันหน้า  หรือชาติหน้า  เราอาจจะต้องเป็นผู้หญิงคนนั้นก็ได้) แล้วคุณจะรู้สึกอย่างไร คุณอยากมีลูกสาว  มีแม่เลี้ยงเพียงคนเดียว  คงได้น่าจะเข้าใจกัน   แต่ถามว่าดีมั้ย  คงไม่ เพราะตอนเด็ก ๆ ลูกคงต้องการความรักความอบอุ่น  จากทั้งพ่อและแม่   ได้ซึมซาบความรู้สึกดี ๆ ความทรงจำดี ๆ ไปตอนโต   ไม่น่าจะมีลูกคนไหนที่ไม่คิดถึงพ่อ  (ผู้ที่จากไป  หรือไม่ก็เสียชีวิตไปแล้ว) อย่างน้อยวันหนึ่ง  ที่เค้าประสบความสำเร็จ  หรือวันที่เค้า้ล้ม เค้าอาจจะอยากมีทั้งพ่อและแม่  มายืนเคียงข้าง  เหมือนคนอื่นทั่วไป ที่เป็นห่วง  เพราะเห็นว่าคุณอยากได้ลูกสาว ซึ่งสังคมสมัยนี้  ถือว่าโหดร้ายค่ะ   ถ้าเค้ารู้สึกว่าขาดความรักความอบอุ่น  เค้าอาจจะทำอะไรเพื่อเป็นการแสวงหาความรัก  ในทางที่ไม่เหมาะสมก็ได้   แล้วปัญหาสังคมต่าง ๆ อีกมากมายก็จะตามมานะคะ   ดีใจ  ที่คุณเข้ามาถามความเห็นในห้องนี้ ดีใจ  ที่ทุก ๆ เสียง  ให้ความเห็นสอดคล้องกัน เคยมั้ยคะ  เมื่อเราโตมา  แล้วมองย้อนไปอดีต   เราอาจจะรู้สึกขำ ๆ กับบางเรื่องที่เคยทำตอนเด็ก  ว่าทำไปได้งัย หรืออาจจะรู้สึกผิด  ถ้าไม่ทำอย่างนั้นไป  ก็ไม่ต้องมารับกรรมตอนนี้ ดูแลลูกคนนี้ที่เกิดมาให้ดีที่สุด   เค้าน่าจะรับรู้ได้นะคะ  บางที  เค้าอาจจะรักเรา และดูแลเราได้ดีกว่าคนที่เรารักอยู่ในตอนนี้ก็ได้ จากคุณ : mikky (mikkymouse) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 09:33:38

ความคิดเห็นที่ 54 เราว่าจริง ๆ แล้วคุณอยากจะต้องการที่จะมีอะไรผูกพันกับเค้าอยู่ใช่มั้ยคะ และรู้ว่าเค้าต้องมีความรับผิดชอบในสิ่งที่ได้ทำไป  นั่นคือการมีลูกกับคุณ หยุดแค่นี้ดีกว่ามั้ยคะ  ความรักมันเป็นสิ่งดีค่ะ  แต่ก็ทำให้บางครั้งเรา เจ็บปวดได้   ถ้าคุณกับเค้าเป็นคู่กันจริง ๆ  วันข้างหน้าก็คงได้ครองรักกัน แต่ถ้าไม่ใช่เนื้อคู่กันแล้ว  ยังไงก็คงต้องพลัดพรากจากกันอยู่ดี  อย่าไป สร้างห่วงภาระหรือพันธะขึ้นมาเลยนะคะ  ข้างวันข้างหน้าคุณไปเจอคนที่คุณ รักจริง ๆ คุณอาจจะเสียใจกับสิ่งทั้งหมดที่ได้ทำไปก็ได้นะคะ จากคุณ : costarica เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 11:12:56

ความคิดเห็นที่ 55   คุณจขกท.  ใช้สติหน่อยค่ะ   คุณกำลังโดนกิเลสครอบงำ และหลง การมีลูกไม่ได้ช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้นมาหรอกค่ะ แล้วคุณแน่ใจได้ยังไงค่ะ  ว่าลูกที่คุณมีจะเป็นลูกสาว ถ้าเกิดเป็นชายมา  จะทำไง? แล้วถ้าลูกคุณถามว่าพ่อไปไหน  คุณจะตอบลูกว่าไง? ลูกไม่ใช่ตัวแทนของใคร  ถึงมีลูกคุณก็คงไม่หายไปจากชีวิตเค้าหรอกค่ะ พอดูจากเหตุการณ์แล้ว  จิตใจคุณหนักแน่นไม่พอ หมั่นเข้าวัดทำบุญค่ะ  มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ควรสนใจมากกว่านี้ คุณกำลังจะสร้างกรรมต่อ พิจารณาดีๆค่ะ จากคุณ : greezi เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 11:16:40

ความคิดเห็นที่ 56   ดูคุณจขกท. จะอยู่ในโลกของไซเบอร์มากเกินไปหรือเปล่าคะ เราว่าคุณอาจจะเหงา ก็เลยหาทางออกโดยการติดต่อพูดคุยกับผู้คนผ่าน msn ในโลกไซเบอร์จริงๆ แล้ว คนทุกคนสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่เค้าอยากจะเป็น อยากจะแสดงออกว่าเป็นคนที่ดี แต่ในชีวิตจริงอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยค่ะ เราว่าคุณอาจจะหลงกับภาพลักษณ์ที่เค้าสร้างขึ้นมามากกว่าค่ะ การพูดคุยกันผ่าน msn ใครอยากจะพูดอะไรให้ดูดีก็ทำได้ ไม่มีใครรู้หรอกค่ะว่าประโยคที่เขียนที่อ่านแล้วแสนจะอบอุ่น ในใจเค้าคิดแบบนั้นจริงหรือเปล่า เวลาเค้าพิมพ์ประโยคเหล่านั้น เค้าอาจจะทำหน้าตาล้อเลียนคุณอยู่หรือเปล่า คุณก็คงไม่ทราบหรอกค่ะ คุณไม่เคยพบเค้าเลย แต่กลับเชื่อในสิ่งที่เค้าพิมพ์ส่งมาให้คุณอ่าน ยิ่งที่คุณบอกว่าสงสารเค้าที่ต้องคุยโทรศัพท์กับแฟนเค้าถึงเช้า ทำให้เค้าไม่ได้พักผ่อนหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ เราว่าคุณรู้สึกอิจฉาแฟนเค้าอยู่หรือเปล่า ขอโทษนะคะถ้าเราจะว่าคุณตรงๆ ผู้ชายถ้าไม่รักไม่ชอบแฟนตัวเองก็คงไม่มานั่งเสียเวลาคุยโทรศัพท์นานๆ ถึงเช้าแบบนี้หรอกค่ะ มันเป็นความสุขแบบหนึ่งเหมือนที่คุณมีความสุขเวลาได้ติดต่อกับเค้าทาง msn ค่ะ คุณไม่คิดหรือคะว่าเค้าอาจจะเล่นเกมกับคุณอยู่ เค้าอาจจะ on msn อยุ๋ แต่ appear offline หรือเปล่า คุณมีประสบการณ์ของการเลิกร้างจากสามีคนก่อน ลองนึกย้อนดูว่าขนาดเรารู้จักตัวเป็นๆ ในบางเรื่องเรายังทนไม่ได้ แล้วคนที่อยู่ในโลกไซเบอร์ที่เราพูดคุยอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่เคยพบหน้าหรือรู้จักพฤติกรรมที่แท้จริง คุณอาจจะเจอยิ่งกว่าคนก่อนนะคะ ตื่นจากนิยายเพ้อฝันได้แล้วค่ะ คุณยังมีลูกชายที่ต้องดูแลอยู่อีกนะคะ ถึงแม้ว่าคุณจะบอกว่าคุณทำหน้าที่ของแม่ได้เต็มที่แล้ว เราว่าคุณเอาเวลาเรื่องพวกนี้ไปทุ่มให้กับลูกชายของคุณจะดีกว่า สำหรับเรา เราคิดว่าก็คงไม่ให้แหละค่ะ เพราะมันเป็นการสร้างการผูกมัดในอนาคต ซึ่งไม่มีใครบอกได้ว่าคุณจะเอาลูกที่อาจจะเกิดจากอสุจิของเขามาเรียกร้องจากเค้าในภายหลังค่ะ ถึงแม้คุณจะบอกเค้าว่าคุณจะหายไปจากชีวิตเค้า เค้าก็คงไม่เชื่อสนิทใจหรอกค่ะ ขอโทษนะคะที่ comment ซะยาว แต่อยากให้คุณเปลี่ยนวิธีคิดและการดำเนินชีวิตในสังคมของโลกแห่งความเป็นจริงเพื่ออนาคตของลูกชายของคุณค่ะ จากคุณ : ผู้ผ่านมา และกำลังจะผ่านไป เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 11:31:42 A:61.7.152.100 X: TicketID:226656

ความคิดเห็นที่ 57   วันหนึ่งเมื่อเด็กคนนั้นโตขึ้นอาจจะถามว่า "แม่ๆ พ่อหนูไปไหน ?" จากคุณ : ผมมันคนกรุงเทพฯจริงๆนะ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:08:21

ความคิดเห็นที่ 58 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 19:31:12

ความคิดเห็นที่ 59 เป็นผม ผมไม่ให้ครับ   ... ... ... ... ... ... ... ... ลูกเขามีชีวิตจิตใจ เป็นสร้อยทองคล้องใจของพ่อและแม่ ไม่ใช่ของที่จะเอามาดูต่างหน้ากันได้ ถ้ารักกัน แล้วใช้ชีวิตฉันสามี ภรรยา ได้สักระยะ แล้วเลิกกันไป ด้วยเหตุผลอันใดก็แล้วแต่ ลูกที่เกิดมา อย่างน้อยที่สุด ก็เคยเป็นสร้อยทองคล้องใจ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เวลาลูกถามถึงชีวิตความเป็นมาของเขา คุณจะสามารถเล่าความจริงได้อย่างสบายใจกว่า ดีกว่าต้องโกหกถึงความเป็นมาของเขา หรือบอกตามตรงว่ามีค่าแค่เพียงของดูต่างหน้าของผู้ชายในอินเตอร์เน็ตคนหนึ่ง.... จากคุณ : HellForge เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:26:14

ความคิดเห็นที่ 60   แล้วจิตใจลูกล่ะค่ะ ไม่สงสารเหรอ จากคุณ : intermeen (intermeen) เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 10:29:11

ความคิดเห็นที่ 61 คุณเป็นคนแปลก ๆ ค่ะ รักและหลงในสิ่งที่จอมปลอม การรู้จักหรือพูดคุยอะไรกันทางอินเตอร์เน็ตมันไม่ใช่ในสิ่งที่คุณเห็น คุณพบเจอก็แต่หน้าจอและเสียงที่โทรเมื่อไหร่ก็ได้ (นั่งขี้ยังโทรศัพท์คุยกันได้เลย) คำพูดจะให้ไพเราะ หวาน หรือว่าดีแค่ไหนก็พูดได้ แต่วิธีปฏิบัตินี่ซิสำคัญถ้าเขามาอยู่กับคุณจริงๆ อาจทำไม่ได้อย่างที่คุณเห็น และเขามีอะไรอีกมากมายที่ไม่จำเป็นต้องบอกคุณ คุณคิดจะมีลูกเพราะอยากจะมีลูกกับคนที่ตัวเองรัก คุณหลงรักเงา หลงรักในสิ่งที่ไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ ได้ลูกมาขอโทษเถอะเหมือนหาหมาซักตัวมาเลี้ยงยังไงยังงั้นเลย คิดง่ายจัง อยากได้เขามาเป็นลูกทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะเป็นหญิงหรือชาย (คุณอยากได้หญิง) ทั้งที่คุณก็มีลูกอยู่แล้ว น่าจะเอาเวลาที่มีอยู่ไปดูแลลูกคุณที่มีอยู่ไม่ดีกว่าเหรอ และหากคิดจะมีลูกอีกกับผู้ชายที่ไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ (เรื่องทั้งหมดเขาโกหกสร้างเรื่องต่าง ๆ โกหกคุณหรือเปล่าก็ไม่รู้) ซึ่งหากมีสงสารลูกบ้างเถอะถ้าเขาเกิดมาโดยไม่มีพ่อ ไม่รู้จักพ่อ รู้ว่าตัวเองเกิดมาจากความคิดแปลก ๆ ของคุณ สงสารเด็กค่ะ จากคุณ : tugsinat เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 17:20:32

ความคิดเห็นที่ 62 ง่ะ -*- จาก #19 ตอบคุณ  ปีกพระพาย ถามได้ค่ะ เรามีความจำเป็นต้องแต่งงาน กับผู้ชายคนแรกค่ะ เพราะว่าเรามีลูกคนแรก แต่เราก็รักลูกเรามาก ๆ ค่ะ และเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ^ ^ หมายความว่า แต่งงานเพราะท้อง แต่ไม่ได้รักเหรอคะ เราว่าคุณน่าจะกลับมาสู่ความเป็นจริงได้แล้วนะคะ เหมือนคุณกำลังเพ้อฝันอยู่กับลมๆแล้งๆที่ไม่มีวันเป็นจริง แต่เราคิดว่าคุณไม่ได้บ้าหรอกนะ  คุณแค่หลงผิดไปชั่วขณะ ซักวันที่คุณผ่านจุดของความทุกข์นี้มาได้  คุณจะกลับมาขำกับสิ่งที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้ ลูก คือ รางวัลชีวิต เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่ใช่แค่คิดว่าอยากมี แล้วจะได้มี หลายคนที่พยายามจะมีลูกทั้งทุกวิถีทาง คนที่มีลูกยากก็หาวิธีต่างๆนานา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คือ เค้ามีองค์ประกอบที่พร้อมแล้ว คือ ครอบครัว ที่พร้อมไปด้วย คนที่จะเป็นพ่อ คนที่จะเป็นแม่ แต่สิ่งที่คุณมี คืออะไร ? เหรอคะ แค่ความพร้อมทางร่างกายที่คุณกำลังพยายามจะทำ มันไม่พอหรอกนะ คุณผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว ผ่านการแตกหัก และผิดหวังมาแล้ว คุณน่าจะเข้าใจอะไรได้ดีกว่าฉันที่ยังไม่มีครอบครัวซะด้วยซ้ำ ลองกลับไปคิดดูใหม่นะคะ ว่าสิ่งที่คุณกำลังจะทำ เพื่อลูกหรือเพื่อใคร? มันไม่ใช่การเล่นขายของนะคะ  ไหนจะเวลา ไหนจะภาระค่าใช้จ่าย หากคุณจะบอกว่า คุณพร้อม คุณฐานะดี อันนี้ฉันก็ดีใจด้วยค่ะ แต่อยากให้คุณคิดให้ดี ว่าแค่เวลากับเงิน มันเพียงพอแล้วหรือกับการสร้างคนขึ้นมาหนึ่งคน ตอนนี้ปัญหาในสังคมมีเยอะแยะไปหมด คุณอย่าสร้างปัญหาขึ้นมาอีกเลยค่ะ เอาเวลาที่คุณมี ไปดูแลลูกของคุณดีกว่า หากวันนึงเค้าโตขึ้น คุณอาจจะไม่มีโอกาสได้ดูแลเค้าแบบใกล้ชิดเหมือนตอนนี้ก็ได้ แม้คุณจะบอกว่า คุณดูแลลูกดีแล้ว #42 เช้า - พาอาบน้ำกินข้าวไปส่งโรงเรียน เย็น -  ไปรับ พาไปทานไอติมบ้าง หรือขี่รถเล่นบ้าง ค่ำๆ - สอนการบ้าน แล้วพาเข้านอนค่ะ ^ ^ มันเพียงพอมั้ยคะ?  กับการดูแลลูกหนึ่งคน การจะดูแลเด็กคนหนึ่ง ที่วันข้างหน้าจะกลายเป็นอนาคตของชาติ มันง่ายอย่างนี้จริงหรือ? หากคุณจะสละเวลาที่คุณไปคุยกับผู้ชายทางเน็ต สละเวลาที่คุณไปเฝ้ารอเค้าออนเอ็ม   เอามาพูดคุยกับลูก  เอามาเล่นกับลูก ดูแลลูกแบบใกล้ชิด พูดคุยและซักถามเผื่อเค้ามีปัญหา มันจะดีกว่ามั้ยคะ เด็กก็คือเด็กค่ะ บางสิ่งที่เค้าไม่รู้ บางสิ่งที่เค้าไม่ยอมบอกใคร บางสิ่งที่เค้าปิดบัง คงมีแต่คุณเพียงคนเดียว ที่จะทำหน้าที่ต่างๆนั้นได้ดีกว่าใครค่ะ ไม่ว่ายังงัย คุณก็คือ คนที่ลูกคุณไว้ใจและรักมากที่สุด  และทั้งหมดนี้ ก็จำเป็นที่จะต้องการเวลาค่ะ แล้วคุณพร้อมมั้ยที่จะมีเวลาให้กับลูกของคุณบ้าง? ขออนุญาตเก็บกระทู้นี้เข้าคลังนะคะ  จะเก็บไว้เป็นบทเรียนสอนน้อง มีน้องสอนน้อง  มีหลานสอนหลาน มีลูกสอนลูก  เพราะคิดว่าจากที่อ่านหลายๆ คห. มีคำสอนดีๆอยู่เยอะเลยค่ะ หวังว่าคำสอนต่างๆนั้น คุณจะพอรับรู้ได้บ้างนะคะ หากวันหนึ่งที่คุณคิดได้แล้ว รบกวนมาตั้งกระทู้อีกได้ไหมคะ จะแวะมายินดีกับคุณด้วยใจจริงค่ะ  ^___^ ป.ล.ตั้งแต่เล่นเว็บนี้มา ไม่เคยเม้นยาวเท่านี้มาก่อนเลย ให้ตายสิ!! จากคุณ : ชาหวาน_กะ_โซดาเย็น เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 23:43:36

ความคิดเห็นที่ 63 รัก  กับ หลง มันต่างกันอย่างนี้นี่เอง ก่อนอื่น ไปเจอหน้ากันก่อนดีมั๊ยคะ  เผื่ออะไรๆมันจะไม่ใช่อย่างที่คุณคิด  เจอกันในโลกแห่งความจริงก่อนดีกว่า  แล้วค่อยคิดอย่างอื่นต่อ จากคุณ : นู๋เฉาก๊วย เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 00:08:35

ความคิดเห็นที่ 64 กำลังจะแต่งนิยายแน่ๆ เลยมาหาข้อมูลในเน็ตใช่มั๊ย - - จากคุณ : Demo_Boy เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 12:04:29

ความคิดเห็นที่ 65   แวะมากระทู้นี้ทุกวันค่ะ อยากรู้ว่าผู้ชายคนนั้น..เค้ามีปฏิกิริยายังไงกับจขกท.หลังจากที่ได้ยินคำถามนี้ เหวอ.. เงียบหาย.. หรือว่ากลัว!!! จากคุณ : 3KEeyore เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 13:04:31

ความคิดเห็นที่ 66 ตอบหลาย ๆ คอมเม้นท์รวมกันเลยนะคะ เราไม่ได้กำลังจะแต่งนิยายค่ะ  ตอนนี้ความรู้สึกดีขึ้นกว่าวันที่มาตั้งกระทู้นี้เยอะ วันที่มาตั้งกระทู้  เรารู้สึกแย่ ๆ  เลยอยากจะรู้ว่าผู้ชายคนอื่น ๆ เค้าคิดยังไง  ก็ได้รู้แล้ว และพอได้รู้ความเห็นของหลาย ๆ ท่านรวมกัน  ก็ทำให้เราเข้าใจเค้ามากขึ้น เราเลยตัดสินใจบอกเค้าว่าไม่ต้องให้เราแล้ว  เพราะไม่อยากให้เค้าลำบากใจ ทั้ง ๆ ที่ใจเราก็ยังคงรู้สึกเช่นเดิม   ช่วงที่หายไป ก็ไปทำใจมาค่ะ พยายามเข้าใจเค้าให้มาก ๆ หากิจกรรมทำเพื่อให้บรรเทาความรู้สึกแย่ ๆ ไป ค่ะ เลยออกไปถ่ายรูปบ้าง  พาลูกไปขี่รถเล่น  ประกอบกับ เสาร์อาทิตย์ ต้องทำงานด้วยน่ะค่ะ ไม่ได้กลัวอะไร อย่างที่คุณ 3KEeyore บอกค่ะ สิ่งที่เราตั้งกระทู้ถาม ก็เป็นเพียงความคิดของเราคนเดียว  ที่ต้องการสอบถามท่านอื่นเพิ่มเติม จึงไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรค่ะ จากคุณ : พู่กันกะจานสี เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 20:54:37

ความคิดเห็นที่ 67 ตอนแรกเราไม่นึกว่าคุณจะกลับมาอ่านนะคะ  เพราะเห็นแล้วเหมือนกันว่า  กระทู้ที่ตอบไปเกือบๆหมด ความเห็นจะสอดคล้องกันค่ะ เราก็ห่วงๆอยู่เหมือนกันว่าคุณจะรับไหวไหม  เพราะมันแตกต่างกับที่คุณคิดไว้อย่างสิ้นเชิงเลยน่ะค่ะ อันที่จริงนะ  ถ้าเราเป็นคนในครอบครัวคุณนะ  เราจะพาคุณไม่พบชายในฝันของคุณค่ะ    ไปตามดูชีวิตความเป็นอยู่ของเค้าน่ะค่ะ  เพราะอยากให้คุณได้เห็น เวลาเค้าอยู่กับแฟนเค้า  พวกเค้าไปทานข้าวกัน ไปเที่ยวกัน หวานแหววใส่กัน  พวกเค้ามีความสุขมากแค่ไหน ตามไปดูเวลาผช.พาแฟนไปหาแม่เค้าที่บ้าน ดูการต้อนรับที่แม่มีให้ผู้หญิงที่พวกเค้ามองว่าน่าจะมาเป็นลูกสะใภ้ในอนาคตน่ะค่ะ  คุณจะได้เห็นภาพจริงๆ ว่าสิ่งที่คุณคิด สิ่งที่คุณนึกอยู่มันต่างจากฝันที่คุณฝันไว้แค่ไหน(และตอนนี้คุณเป็นทุกข์มากแค่ไหน)  คุณจะได้เลิกสร้างจินตนาการแบบเอื้อมไม่ถึงนี้เสียทีค่ะ   คุณเห็นแล้วอาจเสียใจ  แต่นั่นคงเป็นสิ่งเดียวที่พอจะทำให้คุณกลับมาอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงได้ค่ะ   เพราะเท่าที่คุณเล่ามา ผช.เค้าปล่อยมือจากคุณแล้ว  และกำลังเริ่มต้นชีวิตในแบบที่เค้าเลือกเอง   เพราะงั้นคุณเองก็ควรมีสิทธิ์เลือกชีวิตใหม่ของคุณเองเช่นกันไม่ใช่เหรอคะ  ไม่เห็นมีความจำเป็นใดๆเลยที่คุณจะต้องมาจมปรักอยู่กับความผูกพันที่ไม่มีตัวตนแบบนี้   จงจำไว้นะคะ  อย่าเพิ่งบอกว่าใครดี  จนกว่าคุณจะได้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของคนๆนั้นเสียก่อนค่ะ สำหรับบางคน คุณอาจต้องใช้เวลาเป็นสิบปี หรือแทบทั้งชีวิตของคนๆนึงเลยก็ได้ค่ะ ความรักเป็นสิ่งสวยงามนะคะ   อย่าวิ่งตามด้านมืดของความรักเลยนะคะ ชีวิตเป็นของคุณนะ  อย่าให้ใครก็ไม่รู้มามีอำนาจอยู่เหนือชีวิตคุณได้นะ เป็นกำลังใจให้นะคะ  ขอให้เข้มแข็งต่อสู้กับจิตใจด้านที่อ่อนแอของตัวคุณเองได้ค่ะ จากคุณ : luckycatty เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 20:33:45

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณมากนะคะ  ^_^ สิ่งที่พูดมา ก็เคยคิดจะทำเหมือนกันค่ะ  เพราะมีเพื่อนรุ่นพี่ เค้าเคยตามสืบเรื่องให้เหมือนกัน เค้ารู้อะไรหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น แต่สำหรับฉัน  ฉันคิดว่า  ฉันคงอ่อนแอเกินไปที่จะเห็นภาพเหล่านั้น และคิดเสมอ  เมื่อวันหนึ่ง  ที่ฉันคิดว่าเรื่องของฉันกับเค้ามันควรจะจบสักทีแล้วฉันจะไปค่ะ แต่เมื่อถึงวันนั้น ขึ้นมาจริง ๆ วันที่ฉันทำใจได้จริง  ๆ  วันนั้น ไม่ว่าอะไร ก็คงไม่สำคัญอีกต่อไป  ไม่ว่าจะรู้  หรือจะเห็นอะไร  ก็คงไม่สำคัญอีกต่อไปค่ะ เพราะหากใจเราจะก้าวไป  อะไรก็ไม่สำคัญ ติดตรงที่ยังไม่เข้มแข็งพอเท่านั้นเอง ขอบคุณมากนะคะ  ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ จากคุณ : พู่กันกะจานสี เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 52 22:13:50

ความคิดเห็นที่ 69 พูดจริงๆ ไม่เห็นด้วยนะคะ ถ้าจะตัดกัน ก็ตัดให้ขาด คุณต้องคิดถึงลูกด้วย ตอนนี้คุณไม่คิดอะไร แต่ถ้าเด็กเกิดมา เค้าจะคิดยังไง อย่าคิดแต่ความรู้สึกตัวเองฝ่ายเดียว ผู้ชายมีเป็นล้าน โอกาสที่คุณจะเจอ"คนที่ใช่" ยังมี ทำไมถึงปิดโอกาสตัวเองเสียหละคะ จากคุณ : chackinthehat เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 11:59:10

ความคิดเห็นที่ 70 เอ่อ..​อยากให้ลองคิดดูมั่งว่า แฟนคนปัจจุบันของเค้าจะรู้สึกยังไง (-"- ) สงสารเค้าอ่ะ จากคุณ : shuneem เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 52 18:10:53

ความคิดเห็นที่ 71 ตอนนี้ทุกอย่างเป็นปกติแล้วนะคะ  สบายใจกันขึ้นมาแล้ว ทั้งดิฉัน และเค้า ขอบคุณทุก ๆ ความคิดเห็นมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : พู่กันกะจานสี เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 52 21:18:41