ความคิดเห็นที่ 1 ปกติเธอจะกลับมาเที่ยวที่แคนาดาทุก 2 ปีค่ะ แต่ต้องไปอาศัยบ้านเพื่อนอยู่ เพราะพี่น้อง และญาติๆ ไม่มีใครเอา  ส่วนครอบครัวดิฉันอยู่ไทยค่ะ แฟนย้ายมาอยู่ไทยกะดิฉัน 5 ปี จนกระทั่งเรามีีลูก ก็ตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ที่แคนาดากันเพื่อการศึกษาของลูก และตั้งแต่ดิฉันกะสามีย้ายมาอยู่ที่นี่ ก็ไม่ได้มีความสงบสุขเลย เพราะเธอจะโทรทางไกลจากเบลเยี่ยม มาที่บ้านทุกวัน วันละหลายๆ ครั้ง มากที่สุดคือ 9 ครั้งที่เธอโทรมาใน 1 วัน เล่นเอาสามีดิฉันสติแตกไปเลยทีเดียว ช่วงแรก ๆ เธอโทรมาค่ะ วันเว้นวัน ถามโน้นนี่ ไปทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร อย่าทำอย่างนั้น อย่างนี้ ควรจะอย่างนั้น อย่างนี้ สั่งมันทุกอย่าง เหมือนเราเป็นเด็ก 5 ขวบ นึกออกมั้ยค่ะ สั่งแบบวัน เว้น วัน ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง (กรูอายุจะ 40 อยู่อีกไม่กี่วันนี้แล้ว ชีวิตก็ประสบความสำเร็จมาในระดับหนึ่ง มีีความมั่นใจในตัวเองค่อนข้างสูง เมริงจะมาอะไรกันหนักกันหนาว่ะ ) จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 00:31:51

ความคิดเห็นที่ 2 แรกๆ ดิฉันก็รับโทรศัพท์ดี เพราะไม่ได้คิดอะไร เห็นว่า เธอคงเห่อหลาน แต่ก็แอบรำคาญนิดๆ เพราะลูกชายยังเล็ก เพิ่ง 8 เดือน วันหนึ่งจะนอน 2 รอบคือ เช้า กะ บ่าย เวลาโทรมา ลูกหลับๆ อยู่ก็จะสะดุ้งตื่น  แต่ก็เอานะ ไม่อยากทำร้ายหัวใจคนแก่ คงคิดถึงลูก คิดถึงหลาน ตอนแรกคิดไปแบบนั้น ก็พยายามอดทน แต่ก็แอบมีบ่นๆ กะสามี หนักข้อเข้า ดิฉันก็รับบ้าง ไม่รับบ้าง เพราะบางทีก็ไม่ได้ว่างตลอด ไหนจะงานบ้าน ไหนจะทำกับข้าว ไหนจะลูกอีก เธอก็ไม่พอใจ ที่ดิฉันไม่ค่อยรับโทรศัพท์ พอครั้งไหนที่เรารับ เธอก็จะทำเสียงจิกๆ เหมือนตำหนิเราว่า ทำไมไม่รับโทรศัพท์ ทำอะไรอยู่ มั่วแต่หลับละซิ ถึงไม่อยากรับโทร ประมาณเนี่ย ยิ่งวันไหนเราไม่รับโทร หล่อนจะยิงกระหน่ำ ซัมเมอร์เซลมาก โทรมา 4-5 ครั้งทีเดียว เราก็บอกไป ลูกหลับ ฉันก็ต้องรีบ ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า รีดผ้า ดูดฝุ่น ไหนจะเตรียมข้าวให้ลูก ทำกับข้าวของสามีอีก เราก็ขึ้นๆ ลงๆ บ้าน 3 ชั้น ไม่ได้อยู่หน้าเครื่องโทรตลอดเวลา บางทีก็วิ่งมารับไม่ทัน บางทีก็ไม่ได้ยินเสียง อะไรเราก็ว่าของเราไป จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 00:33:05

ความคิดเห็นที่ 3 จนมากๆ เข้า เราก็ขอให้แฟนบอกแม่เค้าว่าอย่าโทรมาบ่อยขนาดนี้ อาทิตย์ละครั้ง ก็พอทำเนาแล้ว ไม่ใช่วัน เว้น วัน แบบนี้ วันไหนเราไม่รับก็กระหน่ำมา 4-5 รอบแบบนี้ มันไม่ไหว respect กันหน่อย พอดีลูกไม่ต้องนอนกัน ลูกตื่น เราก็ทำอะไรไม่ได้อีก เพราะเด็กกำลังคลาน กำลังคืบ เราก็ต้องคอยระวัง คอยดูไม่ให้ห่างสายตา แฟนก็ไม่เข้าใจว่า เราจะอะไรหนักหนากะแม่เค้า แม่โทรมาก็รับๆ ไป เถอะ พูดไรก็พูดไป เดี๋ยวเค้าได้พูดกะเรา เค้าสบายใจก็จะไม่โทรมากวนเอง ยิ่งเราไม่รับ หล่อนก็ยิ่งกระหน่ำ เราก็เลยบอกแฟน แล้วเธอทำไมไม่บอกให้เค้าโทรหาเธอละ ถ้าอยากคุยกะลูกชายก็โทรหากันเอาเองดิ มือถือก็มี ทำไมต้องโทรมาที่บ้าน แล้วถามฉันถึงเธอด้วย มันรำคาญอ่ะ ฉันไม่ใช่คนส่งข้อความนะ อยากรู้ตื้นลึกหนาบ้าง ก็โทรหากันเอาเองดิ แฟนก็บอก ฉันทำงาน เธอก็รู้ ฉันไม่ชอบคุยเรื่องส่วนตัวเวลาทำงาน เกรงใจคนจ่ายเงินเดือน ฉันบอกแม่เองแหละว่า ไม่ให้โทรมาที่ทำงาน เพราะฉันต้องทำงาน ไม่มีเวลามานั่งคุย เรื่องไม่เป็นเรื่อง... เอ้า ตัวเธอเองยังรำคาญแม่ตัวเอง ทำงี้ก็เท่ากับโยนขรี้ มาให้ฉันดิ ตัวเองยังรู้จักรำคาญ แล้วฉันไม่รำคาญหรือไง ฉันมีลูกเล็กต้องดูแลนะ ... ก็จบด้วยการทะเลาะกันกะสามีอีก จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 00:39:48

ความคิดเห็นที่ 4 พอเราไม่รับโทรศัพท์หนักๆ เข้า เธอก็โทรมาฟ้องลูกชายว่า ทำไมเราไม่ยอมรับโทรศัพท์เธอ  แฟนเราก็ว่าเรา ว่าเป็นไร ทำไมไม่ยอมรับโทร เผื่อใครโทรมามีธุระก็ไม่ต้องรู้กันพอดี เอ้า ก็ฉันรำคาญญญญญแม่เธอ โทรมา ไม่เห็นมีเรื่องอะไรเลย คนไม่ว่างจะมานั่งคุยด้วย โทรมาทุกวัน ถามคำถามเดิมๆ หลานเป็นไง ลูกเป็นไง ทำไรอยู่ วันหยุดจะไปไหนกันเหรอ บลาๆๆ จะถามอะไรกันหนักกันหนาว่ะค่ะ อยากรู้ทุกเรื่อง ของทุกคนเลยหรือไง  จะบ้าตาย  ถ้าว่างมาก เหงามากก็ไปหาอะไรทำ ช่วยเหลือสังคมบ้าง ไม่ใช่มานั่งรบกวนเวลาคนอื่นแบบนี้  สามีก็ออกตัวแทนแม่ ก็เราไม่ยอมรับโทรศัพท์ เผื่อเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อนฝูงหรือเรื่องงานที่สมัครโทรเข้ามาจะว่าไง มาลงที่ตรูอีกจนได้ แม่สามีกำลังเอาไฟมาสุ่มบ้านเราเข้าให้แล้ว ทะเลาะกันบ่อยมากเรื่องโทรศัพท์พักนั้น .. จนเราเลยต้องยื่นไม้ตายกับสามี  เธอเลือกเอานะ ว่าเธอจะไปซื้อเครื่องรับฝากข้อความ เครืองละไม่กี่ตังค์มาติด หรือเธอจะให้ฉันโทรไปสมัครบล็อคเบอร์โทรเข้าของแม่เธอกับทางบริษัทโทรศัพท์ ที่ต้องจ่ายค่าบริการรายเดือน เลือกเอา เพราะฉันไม่อยากประสาทเสียคอยตอบคำถามบ้าๆ บอๆ ทุกวัน ยังกะฉันเป็นผู้ต้องหาคดีร้ายแรง อีกอย่างฉันไม่ใช่เลขาของเธอ ต้องมานั่งคอยรับโทรศัพท์ ใครมีไรเร่งด่วน อยากติดต่อเธอ ก็ให้ฝากข้อความไว้ มือถือเธอก็มี ด่วนจริงๆ เค้าก็โทรเข้ามือถือเองไม่เห็นจะยากตรงไหน ทำไมต้องมาใส่อารมย์กะฉันว่ะ ไม่เข้าใจ.. หลังจากซื้อเครื่องรับฝากข้อความาติด ก็ดีขึ้น คือ เราสามารถจะรู้ได้ว่า สายที่โทรเข้ามาเป็นใคร ถ้าเป็นเสียงแม่เค้าฝากข้อความ เราก็จะรับบ้างไม่รับบ้าง แล้วแต่อารมย์ แต่ก็จะรับสักอาทิตย์ละหน แต่อย่างหนึ่งที่เห็นชัดเจนขึ้นและเอาเป็นหลักฐานให้สามีเห็นได้ก็คือ แม่เค้าโทรมาถี่เกินไปจริงๆ  เคยมีโทรมากที่สุดถึง 9 ครั้งต่อวัน เราไม่อยู่ ไปข้างนอกกัน กลับมาสามีเปิดเครื่องเช็คข้อความ ถึงกับหน้าหงิก อารมย์เสียกันเลยทีเดียว จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 01:49:12

ความคิดเห็นที่ 5 พอเรามาอยู่ได้ 6 เดือน เธอก็บอกว่าจะมาเที่ยว มาหาหลาน 5 อาทิตย์ แต่ไม่เคยถามสักคำว่า จะมาอยู่ที่บ้านเราได้หรือเปล่า เธอทำเนียน ไม่ถาม ไม่อะไร สามีก็ไม่บอกเรา เราต้องเอ่ยปากเองว่า เราไม่สะดวกใจนะ เพราะเราเหนื่อยกะลูกก็มากพออยู่แล้ว แถมบ้านเราก็ 3 ชั้น จะขึ้น จะลง จะนอนยังไง เพราะแม่เธออ้วนมาก เดินเองยังไม่ไหว ต้องนั่งรถเข็น หรือใช้ไม้เท้ายัน เดิน 5-6 ก้าวจะเป็นลม ความดันขึ้น แล้วจะให้ฉันคอยมาจูงเดินไปเข้าห้องน้ำ เข้าห้องนอนทั้งวันเหรอ แล้วลูกล่ะ เกิดฉันจูงๆ เค้าขึ้นบันได ลูกปีนตามขึ้นมา ตกกระไดคอหักไป หรือแม่เธอพลาดตกกระไดกลิ้งลงมาทับลูก คอหัก เธอจะว่าไง ไม่ใช่ว่ามองโลกในแง่ร้าย แต่ความเป็นไปได้มันมี เพราะลูกกำลังเดิน กำลังซน แม่เธอก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ฉันก็ต้องคอยดูแล แล้วตอนที่ฉันจูงแม่เธอ ใครจะดูลูกให้ฉัน.. ที่ตอนฉันคลอด แม่ฉันมาอยู่บ้านช่วยฉันหลังคลอดแค่อาทิตย์เดียว เธอยังบ่นว่า ไม่มีความเป็นส่วนตัว ทั้งๆ ที่แม่ฉันก็ช่วยทุกอย่าง  ทำกับข้าว ซักผ้า ถูบ้าน ช่วยฉันอาบน้ำให้ลูก เก็บกวาด นอกบ้าน ในบ้าน เก็บสวน ตัดหญ้า ทำกระโจมให้อยู่ไฟ สารพัด แม่ฉันจะช่วยผ่อนแรง แม่ฉันทำทุกอย่าง แต่แม่เธอมา ไม่ช่วยไม่ว่า แถมต้องมาเป็นภาระฉัน ฉันว่างๆ ก็ว่าไปอย่าง ไหนจะลูก ไหนจะเธอ ไหนจะงานบ้าน คิดดูเอาเองแล้วกันว่า มันเหมาะสม ถูกต้องหรือเปล่า.. จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 02:15:29

ความคิดเห็นที่ 6 ซ้ำค่ะ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 05:42:09 จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 02:16:10

ความคิดเห็นที่ 7 สรุป คุณสามีก็ไม่ฟังเราอีกตามเคย ถึงเวลาแม่มา ก็ไปรับเอามาอยู่บ้านเรา แล้วเราก็เหนื่อยมากกกก เธอไม่แตะ ไม่ทำไรเลย ขนาดยืนหั่นผัก สามสี่ชิ้น เธอยังหอบแห่กๆ เพราะต้องพยุงน้ำหนัก 200 กว่าโลของเธอเอาไว้ เราต้องทำให้ทุกอย่าง ซักเสื้อผ้า ชุดชั้นใน พับผ้า รีดผ้า เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ตักข้าว เอาโน้นนี้ให้กิน ได้เวลาเธอก็เดินมานั่งรอที่โต๊ะกินข้าว เราต้องตักไปเสริฟ กินเสร็จเราก็ต้องเอาจาน เอาขยะของเธอไปทิ้ง กินขนมอะไรก็กองห่อขนม ห่อชีสทิ้งมันไว้ตรงนั้น ไม่เคยลุกเดินเอาไปทิ้ง แปลกจัง ตอนอยากกิน เดินไปหยิบได้ แต่พอกินเสร็จ เดินไม่เป็น บ่นขาไม่มีแรง คนอะไรช่างมักง่ายและสกปรก เสื้อผ้าก็เหม็นเปรี้ยวสุดๆ (เพราะความที่เค้าอ้วนมาก ต้องหยดไฮเตอร์ฆ่าเชื้อ และดับกลิ่น ไม่งั้น กลิ่นเกรี้ยวจะไม่หาย คุณเธอจะตำหนิเอา) เวลาซักจะเป็นลม ต้องกลั้นหายใจ ซักให้ พับให้ แค่ไม่กลับด้านชุดชั้นในเอาข้างนอกออก เธอก็บ่น มีเหน็บเราว่า ซักผ้าไม่ยอมกลับด้าน เราก็ยิ้มรับ เธอจะให้ฉันกลับด้านชุดชั้นในด้วยใช่มั้ย (แต่ในใจเดือดปุ๊ดๆ กรูซักให้ก็ดีแล้ว เหม็นก็เหม็น เห็นกรูเป็นขรี้ข้าหรือไง เก็บไว้ๆ ไม่อยากให้สามีเครียด มาอยู่แค่ 5 อาทิตย์ อีกไม่กี่วันก็กลับแล้ว ทนๆๆๆๆๆ ) จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 02:27:47

ความคิดเห็นที่ 8 ทำกับข้าวให้กินก็แสนจะเรื่องมาก ไม่ใส่ไอ้นั้นนะ ไม่ใส่ไอ้นี้นะ ฉันไม่ชอบ  ทำข้าวผัดให้กิน ก็มายืนสั่ง นี่เธอ ข้าวผัด เธอทำเป็นมั้ย รู้ป่าวต้องใส่ไรมั่ง ข้าวผัดอ่ะ อาหารไทยนะคะ คุณแม่ขา ลืมตัวหรือป่าวที่พูดออกมาเนี่ย หรือว่า ติดนิสัยชอบบงการ ชอบสั่ง ชอบจุ้นจ้าน  เวลาเราทำอะไรก็ชอบแอบมอง ชอบจับผิด แล้ววันรุ่งขึ้นก็เอามาว่า เรา เธอล้างจานทำไมไม่ใส่ไฮเตอร์ฆ่าเชื้อ ไม่สะอาดนะ เดี๋ยวก็ป่วยกันทั้งบ้านหรอก สกปรก... (ในใจ... กุล้างจานมาตลอดชีวิต ไม่เคยใส่ไฮเตอร์ ไม่เห็นเป็นไร แข็งแรงยังกะแรด ดูตัวเองก่อนเหอะ แล้วค่อยมาวิจาร์ณคนอื่น มีแต่โรคตั้งแต่อายุไม่ทันสามสิบ) เธอทำไมต้องกวาดบ้าน ถูบ้านทุกวัน ไม่เห็นต้องทำทุกวันเลย เสียเวลา... (ในใจ.. กุติดนิสัยแม่กุสอนมาแบบนี้ ยิ่งลูกเล็กๆ ยังไม่รู้เรื่องดี ไม่อยากให้หยิบอะไรเข้าปาก  คิดมั่งดิ เคยเลี้ยงลูกเองมั่งป่าว) เธอไม่ต้องให้ลูกกินข้าวทุกวันก็ได้ ข้าวกินมากๆ ไม่ดี ควรให้กินพวกขนมปัง สปาเกตตี้ ซีเรียลเยอะๆ มากกว่าข้าว (ในใจ.. แหม งี้คนเอเซียส่วนใหญ่ ก็เป็นโรคตายกันหมดแล้วดิคุณแม่ เพราะเค้ากินข้าวกันวันละสามมื้อ) เธอทำไมให้ลูกกินไข่เยอะจัง มื้อละฟอง เยอะเกินไป กินแค่อาทิตย์ละ 1-2 ฟองก็พอแล้ว (ในใจ.. แหม นี่อ่านหนังสือมั่งป่าวเนี่ย เด็กเล็กเค้าให้กินไข่วันละอย่างน้อย 2 ฟอง เพื่อให้โตและแข็งแรง ร่างกายเด็กต้องบิวโครงสร้าง ต้องโตอีกเยอะ ไข่อาทิตย์ละ 2 ฟองเนี่ย สำหรับคนแก่อย่างเธอ ไม่ใช่เด็กขวบเดียวอย่างลูกฉาน) เธอ ทำไมต้องรีดเสื้อผ้าทำงานให้สามีด้วย ไม่เห็นต้องรีดเลย รีดทำไม เคยตัว เสียเวลา (ในใจ.. นี่ คุณนายเคยเป็นเมียที่ดีกะเค้ามั้ยเนี่ย มิน่าอดีตสามีถึงทนอยู่ด้วยไม่ได้ เสื้อผ้าทำงานยังไม่คิดจะรีดนี่ก็ไม่ไหวแล้วนะคะ) ไปรษณีย์มาส่งจดหมาย ซึ่งเป็นของแฟนเรา.. เธอบอกเราให้เปิดอ่านซิ จะได้รู้ว่า เรื่องอะไร เออ.. ไม่หรอกค่ะคุณแม่ มันเสียมารยาท เพราะไม่ใช่จดหมายของเรา เดี๋ยวรอให้เค้ากลับมาเปิดเองดีกว่าค่ะ เห็นเราวิ่งขึ้นๆ ลงๆ ทำงานบ้าน เก็บบ้าน เลี้ยงลูกทั้งวัน ยังมาถาม นี่เธอ วันๆ เธอไม่ได้หยุดเลยจริงๆ อะเหรอ ไม่ได้งีบมั่งเลยเหรอ  หรือว่า เธอแกล้งทำตัวยุ่งๆ แต่ต่อหน้าฉัน ไม่ค่ะ ไม่เคยงีบเลย เพราะเวลาที่ลูกหลับคือ เวลาเงิน เวลาทองที่ต้องรีบทำอะไรๆ ให้เสร็จ (ในใจ... แหม คุณแม่คิดได้ไงเนี่ย เคยเป็นแม่บ้านที่ดีหรือป่าวฟ่ะ เคยเบบี้ซิสลูกตัวเองแบบเต็มๆ เวลาบ้างหรือป่าวเนี่ย พูดเหมือนคนไม่เคยมีลูก ทำไมฉันต้องแกล้งสะตอต่อหน้าเธอด้วย เธอไม่ได้มาส่งเสีย เลี้ยงดูปูเสื่ออะไรฉันนี่หว่า ตรงกันข้าม กุดิต้องมานั่งทำให้เธองกๆ) จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 02:56:30

ความคิดเห็นที่ 9 โอววว คุณเพนนี ที่รักคะ ทนค่ะ ทนไว้ อย่าสะสมเลยค่ะ เดี๋ยวไปลงที่ท่านอื่นๆกัน ออกไปร้องกรี๊ด ตัดหญ้า ฉับๆๆๆๆ สวนคงสวยงามแน่ๆ คิดเสียว่า ผลพวงที่เธอเป็นอย่างนั้น ก็ทำให้เธอต้องมีร่างบรรจุีร่วม 200 กิโลอย่างนั้นไง หากใครทำชีวิตได้ดี ก็ไม่ต้องไปเป็นภาระชาวบ้านแบบนั้นจริงๆหรอกนะ จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 04:03:09

ความคิดเห็นที่ 10 เธอนี่โชคดีเนอะ มีสามีทำเลี้ยง เงินทองสามีก็ให้เป็นคนถือบัญชีหมด ไม่งานนอกบ้านไม่ต้องทำงาน อยู่บ้านนอนเลี้ยงลูกอย่างเดียว... (ในใจ.. โอ้โห้ พูดงี้สวยเลยอี... (ฉุนมากขอบอก) ไม่รู้ตื้นลึกหนาเรื่องเงินๆ ทองๆ ในครอบครัวกุ อย่ามาสะเออวิจาร์ณ มีเวลาว่างมากก็บริหารเงินทองของตัวเองให้ดีเสียก่อนเถอะ) แ่ต่ปากพูดไป ยังมีอะไรอีกเยอะที่เธอไม่รู้ และก็ไม่ควรจะรู้ด้วย เพราะไม่ใช่ธุระอะไรของเธอ นี่เธอทำไมซื้อของตุนกันขนาดนี้เนี่ย เงินมีทำไมไม่เก็บในแบงค์ ไว้กินดอกเบี้ย (ในใจ.. ยุ่งอะไรกะบ้านกุนักหนาเนี่ย รำคาญโว้ยยยยยยย) แต่ปากพูดไป ของมันลดราคาเยอะ แล้วก็เป็นของใช้ในบ้านประจำวันทั้งนั้น ลดเยอะๆ ก็ซื้อตุนไว้ เพราะเดี๋ยวนี่ของขึ้นราคาบ่อยๆ เราซื้อตุน เราก็ได้เปรียบค่าครองชีพที่มันปรับตัวสูงเอาๆ เท่ากับเราซื้อของที่ลดราคาแล้ว แถมยังได้เซฟเงินในเรื่องราคาของที่อาจขึ้นในอนาคตอีก อีกอย่าง ฝากเงินในแบงค์ ถ้าไม่เยอะเกิน 5000$ ก็ไม่ได้ดอกเบี้ย แถมดอกเบี้ยก็ถูกแสนถูก สิ้นปีมา ยังต้องเสียภาษีรายได้จากดอกเบี้ยอีก ก็ไม่รู้จะเก็บเงินในแบงค์ให้นายแบงค์มันเอาเงินเราไปหมุนหากำไรทำไม เอามาตุนเป็นแฟ๊บ เป็นสบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน หรือของกินดีกว่า จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 05:00:45

ความคิดเห็นที่ 11 สารพัดจะเจอ อดทนจนกระทั่งเธอกลับไป ก่อนกลับมีพูดจาลำเลิกบุญคุณเราอีกนะ เนี่ยฉันมาอยู่บ้านเธอ ประหยัดไปหลายเลยนะ หรือเธอว่าไง เออ ประหยัดตรงไหนเหรอค่ะ ก็ไม่รู้สิ เธอลงๆ คิดดู เธอพูดแบบนี้ เพราะ เธอซื้อเสื้อผ้า ซื้อของเล่นให้ลูกเราแค่ไม่กี่ชิ้น ทั้งๆ ที่เราเองก็ม่ได้ร้องขอให้ซื้อ เธอเห่อหลาน เธออยากซื้อเอง ไม่ใช่ว่า เราเอ่ยปากขอโน้นนี้ซะที่ไหน ยิ่งรู้นิสัยว่า ปากมากยิ่งไม่เอาเลย กลัวใจคนแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แฟนเราก็ไม่เอาเหมือนกัน แต่เธอไปซื้อหามาเอง เราไม่ได้ไปช็อปปิ้งกะเธอด้วย พอได้ยินพูดคำนี้ออกมา เรางี้ ฉุนกึกเลย แน่ใจเหรอที่ว่ากุประหยัด มาอยู่ 5 อาทิตย์ออกค่ากลอเซอรี่ 2 ครั้ง รวมเป็นเงินไม่ถึง 250$ ลองไปอยู่โรงแรมดูเองมั้ย ค่าที่พักเท่าไหร่ ค่าอาหาร ค่าซักรีด ค่ารถ ค่าแท็กซี่ ไปไหนมาไหน แค่คิดเล่นๆ หยาบๆ ปาไปเกือบๆ 5000 $ ถ้าเธอไปอยู่โรงแรม ไม่มาอยู่บ้านฉัน ใครกันแน่ที่ประหยัด ยังมีหน้ามาลำเลิกอีก แถมมาอยู่บ้านฉัน มี( ^o^ )คอยรับใช้ ทุกฝีก้าวอีก สบายยังกะควีน สบายจนพี่ๆ น้องๆ ของเค้าเองเอ่ยปากว่า ทำตัวยังกะควีน ไม่สงสารลูกสะใภ้บางเหรอ (เราก็ได้แต่ยิ้ม) เรื่องนี้สามีไม่รู้นะ เธอไม่พูดต่อหน้าสามี เรื่องเจ้ากี้ เจ้าการก็เหมือนกัน เธอจะแสดงออก จะพูดก็ตอนสามีเราไม่อยู่บ้าน ฉลาดพอตัวทีเดียว  นี่ถ้าเราเล่าให้สามีฟังเรื่องเธอลำเลิกบุณคุณ มีหวัง เหอะๆ ไม่อยากคิด ในที่สุดเธอก็กลับไป จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 05:01:48

ความคิดเห็นที่ 12 เดี๋ยวมาต่อค่ะ ไปหาข้าวให้ลูกกินก่อน จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 05:05:12

ความคิดเห็นที่ 13 รออ่านนะคะ... อ่านแล้วรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่อดทนมากๆ ชื่นชมจัง... ขอให้แก้ปัญหาผ่านไปได้นะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : thangthai_ladypink เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 05:23:15

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านแล้วเวียนหัวแทนคุณเลย มีคนแบบนี้บนโลกจริงๆหรือนี่ !!!!! จากคุณ : PiNk*BloSsom เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 06:35:21

ความคิดเห็นที่ 15 เฮ้อโล่งอก กุรอดตายแว้ววววว... วันที่ไปส่งที่สนามบิน แฟนเล่าให้ฟังว่า เธอพูดว่า ให้ดูแลเราให้ดีๆ ผู้หญิงดีๆ อย่างเราหาไม่ได้อีกแล้วนะ อย่าปล่อยให้หลุดมือไป บอกให้แฟนเราสัญญาลูกผู้ชายเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า ให้ดูแลเราเป็นอย่างดี... หุ หุ อ้าปากมา กรูก็เห็นลิ้นไก่แล้ว  แฟนเราก็ปลื้มซิ แม่รักสะใภ้ มาเล่าให้เราฟัง เราก็เหรอ แม่เธอบอกให้ดูแลฉันเหรอ  ขอบคุณนะ แต่ฉันดูแลตัวเองได้ ฉันว่า เธอน่าจะจำคำพูดที่เธอรับปากพ่อฉันไว้ที่สนามบิน ก่อนที่เราจะย้ายมาดีกว่า ยังจำได้หรือเปล่า   ส่วนแม่เธอ เค้าจะไม่รักฉันได้ไง ฉันปรนนิบัติแทบทุกอย่าง เค้าแทบไม่ต้องกระดิก จะมีฝรั่งหน้าไหน มารองมือ รองเท้าเค้าได้มากเท่าฉัน ขนาดพี่น้องกันเอง ยังไม่มีใครเอาไปอยู่ด้วยเลย ทุกคนผลักภาระมาให้ฉันหมด ทั้งๆ ที่ฉันมีลูกเล็กต้องเลี้ยง ต้องดูแล แหมช่างรักพี่ รักน้อง กันจริงๆ ครอบครัวนี้ แฟนก็แหม เธอก็ ทำไมชอบมองโลกในแง่ร้าย .. กรูไม่ได้ร้ายเว้ยย กรูพูดตามเนื้อผ้า ที่กรูเห็น กรูได้ยิน ได้สัมผัส เมริงยังไม่รู้แม่เมริงพูดไรกะกรูไว้มั่ง.. หลังจากแม่สามีกลับไป (กลางเดือน พค. ที่ผ่านมา) ก็ทำนิสัยเดิมๆ อีก โทรมาเกือบทุกวัน วันไหนเราไม่รับสายก็กระหน่ำซัมเมอร์เซลเหมือนเดิม ผ่านไปได้สักสองอาทิตย์ เธอก็เริ่มแผนการใหม่อีก ด้วยการโทรบอกใครต่อใครว่า เธอจะกลับมาแคนาดาอีก เดือน ตค. ปีนี้ โดยที่ไม่เคยบอกเรากะแฟนเลย เราสองคนรู้มาจากปากเพื่อนสามี  เพราะเพื่อนสามีหลุดปาดถามมาว่า แม่จะกลับมาอีกเดือนสิบเหรอ เห็นโทรมาเล่าให้ฟัง สงสัยมาคร่าวล่าสุดคงจะแฮปปี้มากๆ เลยอยากกลับมาอีก... เราก็มองหน้าแฟน ทำไมกรูไม่เห็นรู้เรื่อง สามีก็งง บอกยังไม่เห็นรู้เรื่องเลย ไม่เห็นแม่บอกอะไรเรื่องนี้  ทำเอาเราเครียดไปเลย เป็นไง เจอเธอเล่นเกมส์โยนหินถามทางแบบนี้ อึ้งไปเลยมั้ย  เธก็คงคิดว่า มันไม่เหมาะ ไม่ควรที่จะมารบกวนเราบ่อยๆ แต่คงไม่กล้าเอ่ยปากเอง เลยใช้วิธีโพทนาบอกคนอื่นๆ จะได้มาเข้าหูเรากะแฟนให้รู้จากคนอื่นเอา เป็นไง แสบดีม่ะ  เรื่องนี้ี้้เป็นเรื่องที่ 2 ที่ทำให้เรา เริ่มจะทนกับพฤติกรรมของแม่สามีไม่ไหว แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 08:55:24 จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 08:30:15

ความคิดเห็นที่ 16 นี่แหละเราถึงไม่อยากแต่งงาน อยากคบก็ต่างคนต่างอยู่ แล้วค่อยแวะเวียนมาหาแล้วกันนะ..ที่รัก แม่แฟนก็เจ้ากี้เจ้าการ(มาก)เหมือนกันค่ะ แต่ไม่ถึงขนาดนี้มั้ง เขาอยากได้ลูกสะใภ้ที่สุดเพอร์เฟค หน้าที่การงานเยี่ยมยอด working woman จ๋า งานนี้บ้านเนียบ กล้าเสี่ยง มั่นใจสูง คุมได้ทุกอย่าง แต่เราไม่ใช่อะ งานทำได้เรื่อย ๆ ไม่ถึงกับเยี่ยมยุทธ งานบ้านโอเค แต่เราเป็นพวกตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องปรึกษา เขาไม่ชอบอะ ยังคิดอยู่ว่า จะให้ลูกชายคุณเป็นง่อยเลยหรอไง มีปัญหายังแก้เองไม่ได้เลย จากคุณ : เดินโซเซ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 08:35:36

ความคิดเห็นที่ 17 มาเรื่องที่ 3 ดีกว่า.. ช่วงเดือน 6 เราต้องย้ายบ้าน เพราะสัญญาเช่าหมด และเราสองคนไม่อยากต่อสัญญา อยากย้ายไปอยู่ย่านที่สิ่งแวดล้อมมันดีกว่านี้ ซึ่งใกล้ๆ กับพ่อสามี และบรรดาเพื่อนๆ สนิทของสามี ซึ่งก็คือละแวกที่สามีอยู่และโตมาตอนเด็กๆ นั้นแหละ คือเราก็ตระเวนหาบ้านเช่ากันนะ ก็ได้แล้วที่คิดว่าโอเคสุดๆ เรา 2 คนชอบ และลงตัวในหลายๆ เรื่อง แล้วเธอก็เข้ามาวุ่นวาย เธอพยายามจะถามเราว่า เจ้าของชื่ออะไร นามสกุลอะไร เบอร์โทรอะไร ถามหลายครั้งมากๆ จนเรารำคาญ คนกำลังยุ่งๆ แพ็คของ ขนของ ย้ายของ กะวิ่งเรื่องเอกสาร โน้นนี้ เราเลยย้อนถามกลับไปว่า เธอจะดิ้นรนอยากรู้ไปเพื่ออะไร เห็นถามหลายรอบแล้ว มีอะไรหรือเปล่า เธอก็บอกว่า ก็แค่อยากรู้เฉยๆ สนุกดี ไม่มีอะไร จนในที่สุด เธอสามารถสืบหาจนเจอว่า เจ้าของบ้านชื่ออะไร เบอร์โทรอะไร แล้วเธอก้โทรมาคุยกะเจ้าของบ้าน คุยอะไรกันเราก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า เธอโทรมาคุย เพราะเธอเล่าให้เราฟังว่า   รู้มั้ย ฉันรู้แล้วเจ้าของบ้านที่เธอเช่าชื่ออะไร เบอร์โทรอะไร เธอรู้ป่ะ ฉันจำได้ว่าเคยโทรมาคุยกะเค้า เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว ตอนที่เธออยู่ไทย กำลังจะย้ายมาอยู่แคนาดากัน .... เราก็ หาาาาาา..... อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้หรอก อมพระมาพูด ก็ไม่มีใครเชื่อ เราก็เลยสวนกลับไปแบบโกรธๆ ว่า เธอโทรมาคุยไรกับเค้า เธอจะเอาอะไร  อย่าเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องในครอบครัวของฉันได้มั้ยข้อร้อง คุยอะไรกัน เธอก็บอกว่า คุยตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่ใช่ตอนนี้สกัหน่อย .. เราเลยบอก อย่าได้คิดจะโทรมาหาเรื่องให้ครอบครัวฉันเดือดร้อนนะ ไม่งั้นฉันจะฟ้องลูกชายเธอว่า เธอโทรมาคุยกะเจ้าของบ้าน วุ่นวายไม่เข้าเรื่อง .. เธอก็บอกว่า เธอไม่เคยมีความคิดที่จะโทรมาคุยกะเจ้าของบ้านเลย เราคิดมากไปเอง.. เราเลยเล่าให้แฟนฟัง เล่ายังไม่ทันจบเลย แฟนฉุนขาด ยกหูโทร จะโทรไปยำแม่ตัวเอง จนเราต้องห้ามว่า อย่าเลย ฉันเตือนเค้าไปแล้วว่า อย่ามาวุ่นวายให้มากนัก แฟนถึงได้หยุด ไม่งั้นสงสัย เหอะๆ จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 08:53:33

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านไม่จบ แต่พอเข้าใจ จขกท. ว่าคนบ้ามักทำให้คนที่อยู่ด้วย บ้าตาม -..- จากคุณ : ผมแอบดูกระทู้คุณอยู่ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 09:00:54

ความคิดเห็นที่ 19 แล้วก็มาวุ่นวาย จะซื้อประกันเฟอร์นิเจอร์ให้ ประกัน พับบลิค ไรบิลิตี้ให้ เราก็บอกไม่ต้องหรอกนะ ขอบคุณ เดี๋ยวเราจัดการเอง แต่เธอก็ไม่ฟัง เที่ยวโทรหาคนโน้น คนนี้ให้วุ่นวาย จนเค้าป่วนกันไปหมด พี่ป้าน้าอา เพื่อนฝูง จนเราหงุดหงิดอ่ะ เพราะดูเหมือนทุกคนจะโทรมาจิกเราตลอดเรื่องประกัน คุยกะคนนั้นที คนนี้ที ปวดหัว โทรมาทีลูกกุก็นอนสะดุ้งที ทำไมไม่โทรหาแฟนกุกันว่ะ โทรมาหากุกันอยู่ได้ รำคาญญญญญ กุก็บอกไปล้ว เดี๋ยวจัดการเอง ไม่ต้องเป็นห่วง ยังจะโทรไปจุ้นจ้านคนอื่น ให้เค้าเดือนร้อน เป็นห่วงเป็นใยกันไปทำไมมากมาย กะแค่เรื่องประกัน ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ น่าเบื่อ แล้วก็จิกถามรายละเอียดซะ อย่างกะเธอเป็นคนรับเงินประกันเองซะงั้น คัพเวอร์อะไรบ้าง กี่ตังค์ เอากรมธรรม์ส่งมาให้ดูด้วยนะ โน้นนี้ โอ้ยยยยยยยยยยยยยยย อะไรกะกรูหนักหนาเนี่ย.. รำคาญญญ จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 09:08:23

ความคิดเห็นที่ 20 และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่เราทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เพราะเริ่มรู้สึกว่า เธอเริ่มก้าวเขยิบใกล้เข้ามาทุกทีๆ จนครอบครัวเรา เริ่มขาดความเป็นส่วนตัว ดูเหมือนทุกคน เพื่อนฝูง เพื่อนบ้าน  ญาติสนิท มิตรสหาย จะรู้ความเคลื่อนไหวของเราหมด ว่า วันไหน ไปทำอะไรมา อาทิตย์ไหนวางแผนจะไปไหน ประมาณนั้นเลย รู้สึกแย่จริงๆนะ เพราะเจอเพื่อนสามี เจอเพื่อนบ้าน ใครๆ ก็ทักว่า เรากำลังจะทำโน้น ทำนี้เหรอ ได้ยินมา เห็นแม่เล่าให้ฟัง จนเราแบบ นี้มันอะไรกันว่ะ กุจะอยู่กันแบบเงียบๆ สงบๆ แบบครอบครัวๆ ของเราเองได้มั่งมั้ยเนี่ย จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 09:16:11

ความคิดเห็นที่ 21 มันทำให้เรารู้สึกเหม็นหน้าเธอขึ้นมาเรื่อยๆ จริงๆ มันคงสะสมมานานเป็นปีแล้วละมั่ง จนกระทั่งเราทนไม่ไหว มันก็ระเบิดออกมา เพราะเธอโทรมา 4 ครั้ง ฝากข้อความไว้ในเครื่องอย่างอารมย์ดีว่า เพน นี้แม่นะ วันนี้ทำอะไร วันหยุดนี้จะไปไหนกันหรือเปล่า แม่อยากรู้ เดี๋ยวแม่โทรมาใหม่นะ  แล้วก็หัวเราะเหมือนคนอารมย์ดี มีความสุข ถูดใจอะไรสักอย่างอ่ะ เรากลับจากไปซื้อของมา ไปแค่ไม่ถึง 2 ชั่วโมง เพราะใกล้ๆ บ้าน เห็นเครื่องรับข้อความกระพริบ 4 ข้อความก็นึกในใจ ไม่มีใครหรอก รู้ๆ อยู่ แล้วก็จริงๆ พอกดฟัง ก็เป็นเค้า เท่านั้นแหละ อารมย์มันเหลืออด หมดความอดทนจริงๆ   เรารอจนค่ำ เอาลูกเข้านอนเสร็จ ก็ลงมือบรรเลงเขียนอีเมลไปถึงเค้าเลยทีเดียวเชียว กะว่า ชาตินี้ไม่เผาผีกันแล้ว ไม่เอาแล้วจริงๆ ต้องเลิกกะแฟนก็จะเลิก ไม่งั้นจะบ้าตาย.. จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 09:24:54

ความคิดเห็นที่ 22 บอกตรงๆ นะคะ ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยพูดจา แบบถอนหงอกผู้ใหญ่แบบนี้มาก่อนเลย ทำไปก็รู้สึกไม่ดีไป จะส่งดี ไม่ส่งดี กลัวเค้าเสียใจ น้อยใจ อีกใจก็สงสาร คงจะเหงา กะเห่อหลานชายคนแรกด้วย  แต่อีกใจก็คิด ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย เธอคงไม่ยอมหยุด ยิ่งนับวัน ยิ่งหนักข้อ แล้วถ้าเธอได้ใจ เดือนสิบมาอยู่บ้านเราอีก แล้วถ้าเธอเกิดอยากย้ายกลับมาอยู่แคนาดา มาอยู่ที่บ้านเรา เราไม่ตายเหรอ เพราะฉะนั้นก็ต้องตัดไฟแต่ต้นลม กัดฟันว่ะ ต้องใจดำ ก็ต้องทำ เพื่ออนาคตอันสดใส (หวังลมๆ แล้งๆ หรือป่าวก็ไม่รู้) จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 09:31:10

ความคิดเห็นที่ 23 เอ่อ... รออ่านอยู่นะคะ มีอะไรระบายออกมาให้หมดเลยค่ะ น่ากลัวมากๆ Mother-in-law from hell จริงๆ เลยเชียว... จากคุณ : Draconia เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 10:03:12

ความคิดเห็นที่ 24 กลัวว่าเธอจะวางแผนย้ายมาอยู่กับคุณจริงๆน่ะสิ เล่นผูกสัมพันธ์กับคนรอบข้างคุณไปทั่ว คิดว่าเรื่องอีเมล์ถอนหงอกอันนี้เธอคงจะเอาคุณไปประจานคนรอบข้างเช่นกัน เตรียมวางแผนรับมือไว้ได้เลยค่ะ น่าสงสารคุณเหมือนกันนะคะเนี่ย เป็นชั้นคงจะวางแผนให้กลิ้งตกบันไดลงมาตายให้ดูเหมือนอุบัติเหตุเอง ตั้งแต่ตอนที่มาอยู่ด้วย 5 อาทิตย์แล้วแหละ   ไม่แปลกที่แม่สามีจะเหงา เพราะทำตัวอย่างนี้ไม่มีใครอยากจะอยู่ใกล้หรอกค่ะ ขนาดลูกชายเค้าเองยังไม่รับเลย โยนภาระมาให้คุณอีกต่างหาก จากคุณ : เทพบุตรหมัดดาวหาง เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 10:04:04

ความคิดเห็นที่ 25 ในเมลพูดเยอะค่ะ สั้นๆ ก็ประมาณว่า เธอเป็นไรของเธอ ทำไมต้องโทรมาที่บ้านบ่อยๆ ขนาดนี้ บางวัน 4-5 รอบ เหงามากเหรอ หรืออยากรู้อยากเห็นว่า ตอนนี้พวกฉันกำลังทำไรอยู่ ถ้าอยากรู้มาก ตอนนี้ฉันไม่มีข่าวคร่าวไรจะบอกทั้งสิ้น กรุณาอย่าโทรมาบ่อยขนาดนี้ เพราะมันน่ารำคาญ และเป็นการรบกวนกันอย่างแรง ลูกฉันนอนหลับ เสียงโทรทำลูกฉันสะดุ้งตื่นทุกที ขอความกรุณาเข้าใจและเรสเปคกันบ้าง  กะแม่ฉันเอง ฉันยังโทรหาแค่อาทิตย์ละครั้ง แม่ไม่เคยเห็นจิกถามเลยว่า วันนี้ทำอะไร พรุ่งนี้ทำอะไร ฉันไม่เคยเห็นต้องรายงานแม่ฉันทุกวันเลยว่า ฉันทำอะไรบ้าง แม่ฉันรู้ว่า อะไรที่มันพอดี อะไรที่มันมากเกินขอบเขต ฉันอยากให้เธอทำเหมือนที่แม่ฉันทำได้มั้ย ฉันจะแชทกะเธอ หรือส่งข่าวคร่าวให้เธอรู้ความเคลื่อนไหว อาทิตย์ละครั้ง พอมั้ย ฉันว่า ชีวิตที่ผ่านมา 30 กว่าปีของฉัน ก็จัดว่า ฉันดูแลตัวเองได้ค่อนข้างดีนะ อาจจะดีมากด้วยซ้ำ เพราะพ่อแม่ฉันอบรมเลี้ยงดูมาด้วยความรัก  ขอร้องเถอะนะ ปล่อยให้ครอบครัวของฉันอยู่กันอย่างสงบๆ สันติสุขได้มั้ย กรุณาอย่ากดดันกันให้มากไปกว่านี้เลย ขอร้องเถอ ขอให้เข้าใจและเคารพในสิทธิของครอบครัวฉันบ้าง อีกอย่าง เดือน ตค. หรือจะเดือนไหนๆ ปีไหนๆ ก็แล้วแต่ หากเธอจะมา ฉันคงไม่สะดวกจะให้เธอมาอยู่ที่้บ้านฉัน เพราะฉันลงเรียนภาษาฝรั่งเศสแล้ว คงไม่มีเวลามานั่งดูแลเธอเหมือนเดิม ฉันคงจะยุ่งๆ กะเรื่องลูก เรื่องเรียน เรื่องหางาน และเรื่องอื่นๆ ในชีวิตอีกมากมาย หวังว่าเธอคงจะเข้าใจ และเคารพความรู้สึกของฉันและครอบครัวบ้าง ลงชื่อ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 10:16:47 จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 10:16:18

ความคิดเห็นที่ 26 หลังจากส่งเมลไป ก็นั่งเครียด จะเอาไงกะสามีดี คิดไป คิดมา ให้สามีรู้จากเรา ก่อนรู้จากแม่เค้าดีกว่า เราจะได้ผ่อนความรู้สึกสามีจากหนักเป็นเบาได้บ้าง คิดดังนั้น วันรุ่งขึ้นก็เลย โทรหาสามีที่ทำงาน บอกเค้าไปตรงๆ ว่า ฉันส่งอีเมลไปวีนแม่เธอมา เรื่องโทรโรคจิต กะเรื่องเดือนสิบที่จะมา เพราะฉันทนไม่ไหวแล้ว เธอจะว่าไง สามีหัวเราะ บอกเหรอ ตกลงเธอตัดสินใจบอกแม่แล้วใช่มั้ย เราว่า อือ เธอว่าไงล่ะ  สามีว่า เธอทำถูกแล้ว เห็นด้วย ฉันบอกเธอให้บอกแม่ไปตรงๆ ตั้งนานแล้ว เธอก็ไม่พูด พูดออกไปก็ดีแล้ว เพราะแม่ก็ทำเกินเหตุจริงๆ โทรกระหน่ำไม่รู้จักเกรงใจกัน ลูกหลับๆ ก็ตื่นทุกที เราก็เลยถาม เธอไม่โกรธเหรอ ถ้าแม่เธอโทรมาด่า เธอจะว่าไง แฟนบอกถ้าแม่โทรมาจะคุยกะแม่เอง ไม่ต้องห่วง เราเลยบอก ห่วงดิ ถึงได้โทรมาบอกเธอให้เตรียมรับมือไว้ก่อนอยู่เนี่ยไง สรุปกะสามีเคลียร์ ไม่มีปัญหาค่ะ แต่... แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 10:27:25 จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 10:25:38

ความคิดเห็นที่ 27 เออ แล้วแม่เธอจะถึงขั้นน้อยใจ ฆ่าตัวตายมั้ยเนี่ย เพราะเมลฉันแรงนะ แฟนยิ่งหัวเราะ เธอคิดมาก อย่างแม่เนี่ยนะ ไม่มีวันฆ่าตัวตายหรอก  เผลอๆ แป็ปเดียว เดี๋ยวลืม ก็โทรมาจิกกระหน่ำอีก รู้นิสัยอยู่ งี้เมลที่กรูส่งก็ไม่มีประโยชน์ดิ แฟนบอก มีประโยชน์อะมี เพราะอย่างน้อยก็ช่วยเบรคเค้าให้เพลาๆ ลงไปได้ระยะหนึ่ง แต่ไม่ตลอดไปหรอกนะ อย่างมากก็ 2-3 อาทิตย์ เดี๋ยวก็กลับมากวนประสาทอีก .. (โธ่  วัยรุ่นเซ็ง) จริงดังคาด ผ่านไป 3 อาทิตย์ เธอโทรมากวนประสาทใหม่ เราก็นึกว่าจะสัก 3-4 เดือน แต่คร่าวนี้ เธอโทรมาแต่ไม่ยอมพูด เหมือนโทรมาเช็คเรา หรือไม่ก็แกล้งเรา ให้ลูกตื่นอ่ะ เรารู้ว่าเป็นเธอ เพราะคนอื่นไม่มีใครทำแบบนี้แน่นอน วันแรก ก็เล่นไป 3 รอบ รุ่งขึ้นก็โทรมาอีก คร่าวนี้ฝากข้อความถึงลูกชาย ตกเย็นก็โทรไปจิกสามีเราที่ทำงาน  วานซืนก็โทรมาอีก แต่ไม่พูด เครื่องก็รับไว้ว่ามีคนโทรมา แต่ไม่มีเสียง เมื่อวานก็โทรมาอีก... แต่เราไม่รับโทรนะ เราปล่อยให้เครื่องรับฝากข้อความทำงาน เราตั้งใจว่าจะอิกนอร์  ทำเหมือนเค้าเป็นอากาศธาตุ ไม่มีผลกระทบอะไรกับเราทั้งสิ้น เราไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ยิน .. จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 10:39:17

ความคิดเห็นที่ 28 หน่ายแทนจริงๆค่ะ อดทนไว้น่ะค่ะ เอิ๊กๆๆ กำลังโดนอยู่เหมือนกัน แต่เป็นพ่อแฟน เรื่องบางเรื่องมันทำให้เราทนไม่ไหวแบบถึงขั้นคิดจะเลิกกันไป จะได้ไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนั้น แต่อะไรก้แล้วแต่ คิดทบทวนดูให้ดีน่ะค่ะ ถ้าทำไปแล้ว ก้ต้องยอมรับกับผลของมัน จากคุณ : Papayahanaga เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 10:43:02

ความคิดเห็นที่ 29 ตามอ่านอยู่ค่าาาา จากคุณ : dolphin_moo เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 10:44:21

ความคิดเห็นที่ 30 ทำไมสามีคุณต้องรอให้คุณส่งอีเมล์ไปหาแม่สามีคะ ทำไมเค้าไม่คิดจะทำเอง หรือทำอะไรให้มันดีขึ้นมาบ้าง เล่นลอยตัวเหนือปัญหาแบบนี้ไม่แฟร์เลย นั่นแม่เค้านะ ไม่ใช่แม่คุณ จากคุณ : เทพบุตรหมัดดาวหาง เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 10:46:18

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านแล้วกลัวจัง กลัวว่าตัวเองแก่แล้ว ไม่มีอะไรทำ จะเป็นแบบนี้หรือเปล่า แม่สามีคุณคงเหงา จริงๆ เรียกร้องความสนใจแบบเด็กๆ แต่คนยิ่งแก่ ก็จะยิ่งทำตัวเหมือนเด็กนะ เข้าใจคุณ เป็นเราก็คงทนไม่ไหว ถึงจะเข้าใจก็เถอะ จากคุณ : เจ้จ๋า เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 10:48:15

ความคิดเห็นที่ 32 เรื่องที่เราเมลไปว่าเค้าเหรอค่ะ กลายเป็น ทอลค์ ออฟ เดอะ ทาวน์ จริงๆ เพื่อนๆ สามีถามเรากันใหญ่ เป็นไงความสัมพันธ์กะแม่สามี ..ญาติๆ เค้าก็ถาม แต่เราไม่สนใจค่ะ เพราะคิดไว้อยู่แล้วว่า เค้าต้องเอาไปพูด เอาดีใส่ตัวแน่นอน เราไม่ค่อยแคร์นะ คนอื่นจะคิดไงกับเรา ถ้าเรารู้ว่า เราทำดี เราทำถูกแล้ว เราก็ยึดมั่นความดีและความถูกต้องนั้นไว้ แล้วเดินหน้าไปกับมัน ใครจะนินทา จะด่าลับหลัง เพราะได้ยินอะไรมา เราไม่ค่อยเอามาใส่ใจ เพราะเราไม่ได้ขอพวกเค้ากิน ไม่เคยคิดจะพึ่งพาอาศัย  ถ้าคนจะตัดสินเรา ไม่คบเรา เพราะได้ยินมาว่า เราทำแบบนั้น แบบนี้ โดยที่ไม่เคยแม้แต่จะคุย หรือซักถามเรื่องราว หรือรู้จักกันมาก่อน ก็ปล่อยเค้าไปค่ะ เราไม่ดิ้นตาม เห็นแล้วกลับขำมากกว่า ว่า อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ กันแล้ว ถ้ายังแยกแยะหรือสังเคราะห์ข้อมูลไม่ออก ก็ให้แก่เพราะกินข้าวเถอะค่ะ เราขอตัวไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์กะชีวิตตัวเองมากกว่านี้ดีกว่า ไม่ขอจมอยู่กะเรื่องบ้าๆ บอๆ นี้ไปนานๆ เซ็งค่ะ เสียเวลาดีๆ ในชีวิตป่าวๆ จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 10:49:20

ความคิดเห็นที่ 33 คุณเทพบุตรมัดดาวหางพูดเหมือนที่ดิฉันคิดเลย แล้วดิฉันก็ตำหนิแฟนเรื่องนี้ด้วย แต่ก็ไม่ได้คำตอบจากแฟนค่ะ แต่สำหรับเรา เราคิดว่า แฟนคงรู้นิสัยแม่ดี เค้าคงไม่อยากพูดกะแม่ เพราะกลัวแม่จะปรี๊ดแตก หาว่าเค้าเข้าข้างเมีย หรือไม่ก็คงจะเคยเจอเรื่องทำนองนี้มาบ่อยๆ จนชิน กะคนอื่นๆ แม่เค้าไม่ได้โทรจิกดิฉันคนเดียวนะคะ โทรจิกไปทั่ว ทุกคนในครอบครัว น้องสาว หลานสาว หลานเขย สะใภ้ เขยด้วยกัน เพื่อนฝูงตัวเอง เพื่อนๆ ของลูก  เพื่อนบ้านที่ไม่ได้เจอหน้ากันเป็นสิบๆ ปี ยังโทรหาเค้าเลยอ่ะ เรียกว่า โทรหาแบบอาทิตย์ละ ครั้งสองครั้ง เหมือนที่ทำกับดิฉันนะแหละ แต่ของดิฉัน ความถี่จะเยอะกว่าคนอื่นๆ หน่อย เพราะเป็นสะใภ้คนเดียวของบ้าน ประมาณจะโทรหาลูกชาย ก็โนเอ็ดว่า ไม่ให้โทรไปที่ทำงาน ก็เลยมาลงกะสะใภ้แทน จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 10:56:20

ความคิดเห็นที่ 34 เค้าก็เหงาจริงๆ แหละค่ะ แต่ดิฉันถามว่า เค้าทำตัวเองให้เหงาด้วยหรือเปล่า เพราะเป็นแบบนี้หรือเปล่า ทุกคนถึงได้เอือมระอา เค้าผลักทุกคนให้วิ่งหนีจากตัวเค้าเองนะคะ วันๆ ไม่ทำอะไรเลย นั่งแต่หน้าคอม กะคอยโทรจิกคนโน้น คนนี้ แล้วนิสัยส่วนตัวก็ต้องบอกว่า แย่มากๆๆๆๆๆ ตั้งแต่สมัยสาวๆ เห็นหลายๆ คนเม้าให้ดิฉันฟังว่า ตอนสาวๆ หนักกว่านี้หลายเท่า แฟนดิฉันเองก็พูด คุณเชื่อมั้ยว่าตอนอยู่ไทย ดิฉันเคยตำหนิแฟนว่า เธอเป็นลูกที่ใช้ไม่ได้ ทำไมไม่ดูแลแม่ ทำไมปล่อยให้อยู่คนเดียวแบบนั้น น่าจะชวนมาอยู่ที่ไทยด้วยกัน ฉันดูแลได้ คนแก่คนเดียว.. คุณจะเชื่อมั้ยว่า ฉันเคยออฟเฟอร์โอกาสอันนี้ให้เค้าเองกับปาก แต่แฟนดิฉันบอกว่า แม่เค้าเป็นคนที่อยู่ด้วยไม่ง่าย อย่าเลย เดี๋ยวดิฉันจะอกแตกตาย ตอนนั้น เราก็ไม่เข้าใจ แอบตำหนิแฟนในใจ คนแก่คนเดียว จะฤทธิ์มากมายแค่ไหนกันว้า เหอะๆ ตอนนี้เข้าใจจริงๆ .. จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 11:02:36

ความคิดเห็นที่ 35 คุณเทพบุตรฯ เธอวางแผนจริงๆ ค่ะ ตอนเธอมาอยู่ เธอเอ่ยปากกะดิฉันเองว่า เธอยากย้ายกลับมาอยู่แคนาดา เธออยากเห็นหลานโต (ฮือๆ) สามีเคยมีคุยเรื่องนี้กะดิฉันตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่ย้ายมาด้วยซ้ำ ว่าดิฉันจะว่าไง ดิฉันก้บอก ไม่เอา ไม่มีความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบ ขนาดอยู่ไทย ดิฉันยังซื้อบ้านย้ายออกมาอยู่ต่างหากกะสามีเลย ทั้งๆ ที่อยู่บ้านพ่อแม่แสนจะสบาย งานบ้านไม่ต้องทำ เพราะที่บ้านแม่มีเมด กับข้าวแม่ก็ทำให้กิน เราแค่ไปทำงานอย่างเดียว เสื้อผ้าก็จ้างเค้าซักรีด  สบายแบบนั้น ฉันยังไม่อยากอยู่เลย เพราะเห็นว่า มีครอบครัวแล้ว ก็ต้องการความเป็นส่วนตัว แล้วนี่ เธอจะเอาแม่เธอมาให้ฉันคอยดูแล ประคบประหงม เห็นฉันเป็นเบ๊ หรือไง กะหวังเอาฉันเป็นที่พึ่งตอนแก่เหรอ ฝันไปเถอะ พ่อแม่ดิฉันเอง ยังไม่เคยมีโอกาสได้ปรนนิบัติขนาดนี้เลย แล้วแม่เธอเป็นใคร ทำไมต้องมาคาดหวังเอาจากฉัน ถ้าอยากให้แม่มาอยู่ด้วน เธอก็อยู่กันไปสองคนแล้วกัน ฉันกับลูกก็จะไปอยู่ที่อื่นกันลำพังสองคนแม่ลูก เราเคยคุยกะแฟนเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนย้ายมาอยู่แคนาดา จนทุกวันนี้ เวลาเค้าเอ่ยปากเรื่องแม่จะมาอยู่ เราก็ยังยืนยันคำเดิม แถมยิ่งหนักแน่นกว่าเดิมด้วยว่า กรูไม่เอา... จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 11:14:26

ความคิดเห็นที่ 36 เหอะ เหอะ อย่างนี้ควรจะให้อยู่บ้านพักคนชราค่ะ เพราะจะได้ไม่เหงามีกิจกรรมให้ทำ หรือจะให้เด็ดกว่านั้นก็คือ แนะนำเว็บหาคู่ให้เค้าค่ะ พอมีแฟนแล้วจะได้ไม่เหงา วันๆ นั่งแชทกับผู้ชายจะได้ลืมหลาน ลองนัดบอดให้เค้าดูก็ได้ค่ะ เผื่อเึค้าจะได้เอาเวลาไปทำสวย ออกเดทแทนที่จะมาวุ่นวายกับชาวบ้าน จากคุณ : เทพบุตรหมัดดาวหาง เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 11:16:03

ความคิดเห็นที่ 37 ลืมเล่าไปค่ะ หลังจากเมลไป เธอก็ปิดแชท ปิดเมล อินวิสสิเบิ้ล หายไปเลยจากลิสของดิฉัน ไม่โผล่ออนไลน์มาให้เห็นเลย (สามีบอกไม่ได้หายหรอก เค้าแอบสุ่มดูเธออยู่เงียบๆ ว่าจะออนไลน์ เมื่อไหร่เวลาไหน ฉันรู้นิสัยแม่ รู้ใจกันดีจริงๆ แม่ลูก พับผ่า) เงียบไปได้สักอาทิตย์หนึ่ง เธอก็โทรมาฟ้องสามีเรา เรื่องเมล ร้องห่ม ร้องไห้ค่ะ หาว่าเราพูดจาแรง ทำให้เธอต้องเสียน้ำตาอยู่หลายวัน อ่านไปก็ร้องไห้ไปว่า ทำไมพูดจาทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้ เธออุตสาห์เห็นว่า ดิฉัน เป็น สวีต อิน ลอว์ มาตลอด (สะตอได้โล่นะคะเนี่ย) เธอว่า สงสัยดิฉันคงจะยัวะมาก ถึงได้พูดจาแบบนี้ เพราะตั้งแต่รู้จักมา เพนไม่เคยเป็นแบบนี้เลย บลาๆๆๆๆ (เออ กุเก็บกดไว้ เพราะสงสารสามี) สามีเรากลับบ้านก็มาเล่าให้ฟังว่า แม่โทรมาแล้วนะวันนี้  เรื่องอีเมลเธอ เราเลยถาม แล้วเธอตอบไปว่าไง เค้าว่า แม่ก็ืำเกินไป เป็นใครๆ ก็ต้องเหลืออด ลูกหลับๆ อยู่ก็ตื่น จะโทรกระหน่ำซัมเมอร์เซลอะไรกันขนาดนั้น ถ้าโทรมาแล้วเราไม่รับ แสดงว่า เราอาจยุ่งอยู่ ไม่ได้ยิน หรือยังไม่อยากคุยวันนั้น แม่ก็น่าจะเข้าใจ วันหลังค่อยโทรมาใหม่ก็ได้ ไม่ใช่กระหน่ำโทรมาวันเดียวเกือบ 10 ครั้งแบบนี้ เกินเหตุ.. สามีเลยบอกปัดๆ แม่ไปว่า ส่งอีเมลมาให้อ่านหน่อยแล้วกัน แล้วเดียวจะคุยกะเพนนีเอง เราก็ไม่รู้เค้าส่งหรือเปล่า ไม่เห็นสามีพูดถึงอีกเลยเรื่องอีเมล  แต่สามีก็ถามเรานะว่า ยูอัพเซทมากๆ เหรอ เห็นแม่บอกในอีเมลดูเหมือนยูจะโกรธมาก  ไอก็บอกแม่ไป เพนนีไม่โกรธหรอก ก็คงแค่อารมย์ชั่ววูบ อย่าคิดมาก แต่เราอ่ะ บอกสามีไป เออ กรูโกรธมากจริงๆ กะว่า ชาตินี้ ไม่ต้องเห็นหน้ากันอีกแล้ว ถ้าเค้าจะมาแคนาดา ก็เรื่องของเค้า สิทธิของเค้า แต่อย่ามาบังคับไอให้ไปรับที่สนามบินกะยูนะ แล้วก็ห้ามมาอยู่ที่บ้านด้วย ถ้าไม่ฟังกัน คราวนี้ ยูคงไม่ได้เห็นไอกะลูกอีก... ขอร้องนะ ถ้าอยากให้ครอบครัวสงบสุข โปรดรับไว้พิจารณา แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 11:34:35 จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 11:29:27

ความคิดเห็นที่ 38 ้เห็นใจนะคะ แต่ก็ขำ จากคุณ : กระต่ายลงพุง เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 14:01:27

ความคิดเห็นที่ 39 งือออ เหมือน คห.38 อะ เล่าเรื่องเครียดๆ ให้เราขำได้จริงๆ นะ แบบพอนึกภาพตามก็ดูตลกๆ ดีอะ (แต่สงสัยถ้าเจอเองคงไม่ตลกอะค่ะ = =')   เห็นด้วยกับ คห.ที่บอกว่าให้แม่หาแฟนเลยดีมั้ยคะ จะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นบ้าง... จากคุณ : เด็กหญิงเขียบ ณ บ้านนา เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 15:08:46

ความคิดเห็นที่ 40 รออ่านๆๆ จากคุณ : dolphin_moo เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 15:52:46

ความคิดเห็นที่ 41 ระวังสามีได้ยีนส์ส่วนนี้จากคุณแม่สามีนะคะ ฮ่า ฮ่า จากคุณ : เทพบุตรหมัดดาวหาง เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 16:41:35

ความคิดเห็นที่ 42 อ่านแล้วนึกถึงคำพูดนึงเลยอ่ะว่า "เด็กๆต้องการความรักมากที่สุด ในเวลาที่พวกเค้าทำตัวไม่น่ารัก" เราว่ากรณีแม่ของสามีคุณก็คงคล้ายๆกัน แต่วิธีเรียกร้องความรักความสนใจมันผิดที่ผิดทางไปหน่อย คนก็เลยยิ่งถอยหนี จากคุณ : PiNk*BloSsom เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:28:37

ความคิดเห็นที่ 43 เป็นกำลังใจให้จขกท.นะคะ อ่านแล้วโมโหแทน ได้แต่หวังว่าแม่แฟนคงจะไม่เป็นแบบนี้ จากคุณ : Zhen_x2 เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 17:38:34

ความคิดเห็นที่ 44   อ่านแล้วเครียดตามด้วยเลยค่ะ แต่คุณเล่าสนุกนะคะ เห็นภาพเลยค่ะ แม่สามีแบบนี้ ขออยู่ไกล ๆ กัน คนละทวีปไปเลยค่ะ จากคุณ : coast girl เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 18:09:50 A:124.180.151.224 X: TicketID:163162

ความคิดเห็นที่ 45 โอ๊ย อย่าพูดให้เสียวดิค่ะ ยิ่งๆ เสียวๆ อยู่ว่า สามีกุจะได้นิสัยแย่ๆติดมามั่งป่าวว่ะเนี่ย ณ ปัจจุบัน มีเห็นบางอย่างที่คล้ายค่ะ เช่น นิสัยหยาบ กินอะไร ทำอะไรแล้วไม่ค่อยเก็บ วางกองมันไว้ตรงนั้น แต่ก็ยังช่วยทำงานบ้านบ้าง ตั้งแต่เราแรงกะแม่สามี ดูเหมือนสามีจะอารมย์ดีขึ้นเยอะ เดี๋ยวนี้รับหน้าที่อาบน้ำตอนเย็นให้ลูกค่ะ แล้วก็จะอาสาพาลูกไปเดินเล่นทุกวันแทนเรา ให้เราได้พักบ้าง (ซึ่งกุก็ไม่ได้พักหรอก ต้องรีบล้างจาน กะถูกบ้านรอบเย็นให้เสร็จก่อนลูกกลับมาเดินลื่นล้มหัวฟาดพื้น แล้วก็รีบอาบน้ำซะ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน งานสามอย่างหลังนี้จะได้ทำก็ต่อเมื่อหลังเอาลูกเข้านอนไปแล้ว)  สามีเป็นคน ไม่จุ้นจ้าน วุ่นวาย ก้าวก่าย อยากรู้อยากเห็น นรกแตกเหมือนแม่เค้าค่ะ  แต่เรื่องชอบสั่งกะจุกจิกต้องทำยังงั้น ยังงี้ เนี่ยเป็นคล้ายๆ แม่ แต่ไม่นรกแตกเท่า เพราะโดนเรากินตับบ่อยๆ ตอนนี้ได้แต่ภาวนา อย่าให้ถึงกับพัฒนาไปถึงขั้นนรกแตกเหมือนแม่เลย โอมเพี้ยงงงง ไม่งั้นกรูตายแน่ๆ แต่เท่าที่อยู่ด้วยกันมา 6 ปี สามีก็ไม่ได้เป็น worse case scenario นะคะ ไปพับผ้า รีดผ้าก่อนค่ะ เดี๋ยวมาต่อเรื่องนิสัยของแม่สามีตอนยังไม่หย่ากะพ่อสามี เรื่องที่เราได้ยินจากปากพ่อสามี และบรรดา in law ของเธอค่ะ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 22:40:35 จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 20:28:12

ความคิดเห็นที่ 46   อ่านแ้ล้วเครียดแทนเลยค่ะ จากคุณ : CutieBam เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 21:24:35

ความคิดเห็นที่ 47 โห เจอคล้าย ๆ กันเลย เราว่าแม่สามีเราก็หนัก แล้วนะ แม่สามีคุณหนักกว่าอีก ของเราใช้ความสงบ สยบ ค่ะ แกจะให้เราต้องทำตามแกต้องการ เราจะทำแค่ ครึ่งนึง แล้วก้อค่อย ๆ ให้แกยอมรับว่าเราเป็นอย่างนี้แหละ อย่ามาเปลี่ยนเลย จนตอนนี้แกดีขี้น ปรับตัวลดลงมาเยอะ เราว่ามีอะไร พูดไปตรง ๆ เลย ชอบไม่ชอบ อธิบายกันไป สู้ ๆ ค่ะ จากคุณ : I-AM-KIM เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:15:08

ความคิดเห็นที่ 48 เรื่องหาแฟนให้เหรอค่ะ เธอคงไม่เอามั่ง แล้วก็คงไม่มีใครเอาเธอด้วยแหละ หนักขนาดน้องๆ ช้างเลยนะคะ อายุก็ 67 แล้ว ทุกวันนี้ อยู่ในบ้านยังต้องนั่งรถเข็นไฟฟ้า คิดดู เจ๊ไม่คิดจะขยับขาเดินเพื่อออกกำลังเลย งานบ้านไม่ทำค่ะ ซักผ้า ถูบ้าน เก็บกวาด ห้องน้ำไ่ม่ล้าง ขยะก็ไม่ทิ้ง ของกินของใช้หมด ขาดเหลือก็ฝากเพื่อนบ้านซื้อ มีหมากะเค้าอยู่ตัวหนึ่ง รักยิ่งกว่าลูก กว่าพี่น้อง (เห็นเธอพูดนะคะว่า หมามันรักเธอมากกว่าคนในครอบครัวเธอเสียอีก) แต่ขอโทษจะอาบน้ำให้หมายังขี้เกียจ จะให้เอาหมาไปเดินเล่น ไปถ่ายเหรอ โน้นค่ะ เพื่อนบ้านจัดให้ทุกอย่าง จะมีเพื่อนบ้านอยู่คนหนึ่ง ทำให้เธอทั้งหมด เธอบอกเพื่อนทำให้ฟรีๆ อาทิตย์ละครั้ง เธอว่า เพื่อนเธอคนนี้ ดีกว่าคนในครอบครัวเธออีก ซึ่งเราไม่เชื่อว่า คนแก่อายุใกล้ๆ จะ 60 อยู่แล้ว (เพื่อนบ้านที่เธออ้าง) จะทำอะไรๆ ทุกอย่างให้ฟรีๆ  มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนหรืออะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังที่เธอไม่บอกให้ใครรู้... เรากำลังสงสัยบางอย่างว่า อะไรทำให้เธอไปอยู่เบลเยี่ยมได้ง่ายๆ จนได้ซิติเซ่น และเงินเพนชั่นเดือนละตั้งเกือบๆ 1000 EURO  เห็นเธอเคยเม้าให้ฟังว่า เธอเจอรักกะหนุ่มเบลเยี่ยมทางเนต จนตกลงแต่งงานกัน พอไปแล้ว อยู่ได้กี่ปีไม่รู้ ก็หย่ากัน เห็นเม้าว่า ตอนทำเรื่องหย่ากะชายคนที่เธอตกหลุมรักที่เบลเยี่ยม เธอเกือบหมดตัว มันเลยทำให้เราสงสัยว่า ชายคนที่ว่า คือสามีเพื่อนคนนี้หรือป่าว เพราะเพื่อนคนนี้ เธอก็รู้จักทางเนต ก่อนที่จะย้ายไปอยู่เบลเยี่ยม สำหรับเรา กลิ่นมันไม่ดีอ่ะ แต่เราไม่อยากถามแฟน หรือพูดเรื่องนี้กับใครๆ เพราะมันไม่ใช่กงการอะไรของเรา .. ต่อเรื่องนิสัยของเธอค่ะ เธอไม่แตะอะไรเลยสักนิดจริงๆ จากที่เธอเล่าให้ฟัง วันๆ เธอทำอยู่ไม่กี่อย่างคือ กิน อาบน้ำ นอน เล่นเนต อย่าว่างั้นงี้นะคะ กะสามีเก่าเธอ ขนาดเลิกกันมาตั้ง 33 ปีแล้ว เธอยังชอบแอบถามดิฉันเรื่อยๆ ว่า สามีเก่าเธอมาหาหลานบ้างมั้ย เจอกันบ่อยมั้ย ไปทำอะไรกันมาบ้าง บลาๆๆๆ ทุกวันนี้ยังตามอยากรู้ อยากเห็น เสาะแสวงหาข่าวคราวของพ่อสามีดิฉันอยู่เลย  ... จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:30:04

ความคิดเห็นที่ 49 "บอกตรงๆ นะคะ ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยพูดจา แบบถอนหงอกผู้ใหญ่แบบนี้มาก่อนเลย ทำไปก็รู้สึกไม่ดีไป จะส่งดี ไม่ส่งดี กลัวเค้าเสียใจ น้อยใจ อีกใจก็สงสาร คงจะเหงา กะเห่อหลานชายคนแรกด้วย  แต่อีกใจก็คิด ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย เธอคงไม่ยอมหยุด ยิ่งนับวัน ยิ่งหนักข้อ" Been there, done that! Don't call her mother-in-law, but monster-in-law. ^-^ จากคุณ : anothersiamese เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 22:52:23

ความคิดเห็นที่ 50 อยากบอกสั้นๆว่าคนแบบนี้มีจริงค่ะ เคยได้ยินมากับหู และที่สำคัญเคยเห็นมากับตา โดนหางเลขกับตัวมานิดหน่อย แต่เผอิญเราไม่ใช่เป้าหมายคนหลักที่โดน การกระทำที่เราเห็นมากับตามากกว่า 50% แทบจะก๊อปปี้มาจากที่ จขกท เล่าเลยค่ะ และเช่นกันคนที่โดนมาตั้งแต่เก่าก่อนก็บอกว่า สมัยเค้าสาวๆน่ะ ยิ่งกว่านี้เยอะ ยังนึกอยู่เลยว่าสะใภ้สมัยก่อนนี่อดทนกันดีจริงๆ ถ้าเป็นสมัยนี้น่ะเหรอไม่บ้าตามกันไปก่อน ก็ทะเลาะกันบ้านแตกไปแล้วมั้ง จากคุณ : White Amulet เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 23:40:56

ความคิดเห็นที่ 51 นี่ขนาดแม่สามีนะคะ ของที่บ้านดิฉัน ป้าของสามีค่ะ เหมือนกันเป๊ะ โทรมาทุกวัน วันละหลายๆ รอบ เราก็ทำแบบเดียวกันเลย ซื้อเครื่องรับฝากข้อความ ถอดสายโทรศัพท์ในห้องนอนออก ถ้าครั้งไหน แกโทรมาแล้วเราไม่รับ หรือไม่มีคนรับ ก็นั่นแหละค่ะ กระหน่ำมาติดๆ กัน สี่ห้าครั้ง แบบว่าโทรมาจนกว่า จะรับน่ะค่ะ โทรคุยก็แต่เรื่องเดิมๆๆๆๆ ยังเคยพูดกะสามีว่า ถ้าเป็นแม่ยังให้อภัยได้ แต่นี่เป้นแค่ป้า จะอะไรกันนักหนา พ่อสามีของดิฉันเคยตวาดแกมาแล้ว ว่าอย่าโทรมาแต่เช้า (โทรมาตอนหกโมงเช้าทุกวัน) คนเขาจะหลับจะนอนกัน และจะให้เดี๊ยวโทรมาตอนไหนละคะ พ่อก้อเลยบอก เจ็ดโมงค่อยโทรมา โอเค โอเค แกไม่โกรธนะคะ ที่ถูกตวาด รุ่งขึ้น 6.59 เป๊ะ โทรปั๊ป เราก็ขำแบบเศร้าๆน่ะค่ะ แกก็รับมาตรงๆ ว่าเหงา ถ้าไม่โทรมาก็ไม่ได้คุยกับใครเลยวันๆๆๆ เราก็รับบ้างไม่รับบ้าง เพราะถึงรับทุกครั้ง แกก็โทรมาอย่างน้อยสองครั้งต่อวันอยู่ดี เช้า กับ บ่าย  ถ้าไม่รับ แกจะโทรจนกว่าเราจะรับ ดิฉันกะสามี ยังไม่เคยว่าแค เพราะ สงสาร แต่เมียพี่ชายสามี เซย์โนไปแล้ว ห้ามโทรมาบ้านฉัน ก่อนบ่ายโมงนะเจ๊ ผัวฉันจะนอนนนนนนน เมื่อก่อนเราก็ว่า พี่สะใภ้เราใจร้ายจังงงงง แต่ตอนนนี้ ฉันอยากใจร้ายบ้าง.........แต่ก็ไม่ทำเพราะ.....ใจไม่ถึงพอ และส่วนมาก สามีจะเป้นคนรับสาย บางครั้งเรารับสายแต่ไม่ได้ฟังหรอกค่ะ เพราะส่วนมาก แกจะพูดอยู่คนเดียว นานๆๆๆเราก็หัวเราะไป แกก็นึกว่าเราฟังอยู่ เฮ้อ......ทน จากคุณ : แม่น้องวิน เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 00:41:20

ความคิดเห็นที่ 52   ...ไม่ลงรอยกับแม่สามีต่างชาติเหมือนกันค่ะ จริงๆแล้วก่อนหน้านั้น ไม่มีปัญหาอะไรเลย มาผิดใจกันตอนกลับไปพักร้อนที่เมืองไทยด้วยกัน หลังจากกลับมา ก็มีปัญหาในครอบครัวกับสามี เกี่ยวกับแม่ของสามีเป็นปี แถมพี่สาวสามีเพิ่มมาอีกคน จริงๆก็เข้าใจว่าเขาแม่ลูกกัน เราทะเลาะกับแม่เขา ลูกสาวเขาก็ต้องย่อมเข้าข้างแม่ตัวเอง เป็นเรื่องปกติธรรมดา ...คนกลางค่ะ น่าสงสารที่สุด ตอนนั้นสามีดิฉันเองหัวเถิกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อยู่บ้านก็โดนเมียวีน ไปทางโน้นก็โดนพี่สาวกับแม่วีนกลับมา ช่วงนั้นสามีไปบ้านน้องชาย บ่อยมาก เครียดจัด โชคดีที่บรรดาญาติๆสนิทสามี ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวเลย ไม่มีใครซักถามอะไร เรื่องก็เลยคุกรุ่นแค่ ระหว่างดิฉัน แม่สามี พี่สาวสามี ...ปีถัดมา พี่สาวคนเดียวของดิฉัน ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง และจากไปอย่างรวดเร็ว ปัญหาของแม่สามีกลายเป็นเรื่องไร้สาระ เกินกว่าดิฉันจะใส่ใจ ช่วงนั้นดิฉันเครียดเก็บตัว ไม่พบปะใคร เป็นปีๆ หลังจากพี่สาวเสีย ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบค่ะ ตอนนี้ก็ไปมาหาสู่กันบ้างตามมารยาท และทุกๆคนก็ทำเป็นลืม ทั้งที่ๆรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีใครลืม ครอบครัวไหนที่เคยทะเลาะกันแรงๆ จะเข้าใจ จากคุณ : มาอีส เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 00:53:05 A:87.65.119.99 X: TicketID:064840

ความคิดเห็นที่ 53   เฮ้อ อ่านหลายๆ ความเห็นแล้วทำให้ตระหนักว่าเรานี่โชคดีมากจริงๆ ที่แม่แฟนเป็นคนน่ารัก ใจดี ใจเย็น แล้วก็ดีกับเรามากๆ สำหรับ จขกท ขอให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีนะคะ จริงๆ ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะแม่สามีอยู่คนละประเทศ คงจะก่อกวนคุณได้ไม่มากเท่าไหร่ อ้อ คุณเล่าเรื่องได้สนุกมากค่ะ จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 07:31:23 A:83.226.230.104 X: TicketID:077776

ความคิดเห็นที่ 54 แม่สามีโทรมาบ่อยเหมือนกันค่ะ แต่ไม่บ่อยเท่านี้ สังเกตได้ว่าลูกๆ ของเค้าทั้งสามคนก็แยกกันไปอยู่ที่ไกลๆ มากเช่นกัน เลยไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก ปีละครั้ง หรือสองปีครั้งเป็นพอค่ะ เจอบ่อยๆ ไม่ไหว เดี๋ยวประสาทกินค่ะ เค้าเป็นคนจู้จี้มากค่ะ อยู่ด้วยนานๆ แล้วเครียด เอาใจช่วยคุณนะคะ ขอให้ทุกอย่างลงเอยด้วยดี ดิฉันว่าสามีคุณน่าจะพูดกับแม่ให้รู้เรื่องไปเลยค่ะ เพราะคิดว่ายังไงน่าจะเข้าใจกันได้ดีกว่า จากคุณ : sandpainter เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 02:31:29

ความคิดเห็นที่ 55 ที่กลัวที่สุดตอนนี้คือ กลัวว่า เดือน 10 ที่จะถึงนี้ เธอจะแกล้งทำเนียน มาพักบ้านเราอีกเหมือนคราวที่แล้วที่เธอมา คราวที่แล้ว เราก็บอก ก็ย้ำตั้งหลายครั้งนะว่า บ้านเราไม่สะดวกกะเธอหลายอย่าง เกรงว่าจะอันตรายกับตัวเธอเอง ห้องนอนอยู่ชั้นบน ห้องน้ำก็อยู่ชั้นบน เมนฟลอร์ ไม่มีห้องน้ำ บันไดตั้ง 14 ขั้น จะขึ้นลงไหวเหรอ เตียงนอนก็ไม่มี ที่นอนก็ไม่มี  ไม่พูดเปล่านะคะ ดิฉันมีถ่ายรูปส่งไปให้ดูด้วยว่า บันไดมันสูงจริงๆ  ทำซะขนาดนี้ เธอยังตะคอกใส่หูโทรศัพท์ดิฉันเลยว่า ไม่ต้องเป็นห่วงเธอหรอก เธอดูแลตัวเองได้  เรื่องที่หลับ ที่นอนเดี๋ยวเธอจัดการเอง ไม่ต้องห่วง   เข้าใจที่เธอพูดมั้ยยยย ... ดิฉันยังอึ้งไม่หายเลย เออ กรูเป็นคนจ่ายค่าเช่าบ้านแท้ๆ กรูพูดซะขนาดนี้แล้ว คนธรรมดา ที่ไอคิวปานกลาง ก็ควรจะเกทว่า กรูไม่ต้อนรับ เมริงเป็นแค่แขกที่กรูไม่อยากรับเชิญ ไหงเมริงกลับมาโกรธกรู มาตะคอกใส่หูกรูอีกเนี่ยนะ โอ้ พระเจ้าจอร์จ.. จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 06:47:09

ความคิดเห็นที่ 56 พูดถึงสามี เราคิดว่า ที่เค้าวางเฉย เพราะเค้ารู้ฤทธิ์แม่เค้าดี  แล้วเค้าก็คงรู้ว่า เค้าพูดไปก็คงไม่มีน้ำหนักเหมือนเราพูด เพราะเราไม่ใช่ลูกในไส้ ในความรู้สึกเรา เรารู้สึกว่า บางทีก็เหมือนเค้ารำคาญแม่ตัวเอง ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน เห็นชอบตัดบทกะแม่บ่อยๆ เวลาแม่โทรมา ตั้งแต่สมัยอยู่ไทยด้วยกันโน้น บางทีก็เหมือนกลัวแม่ โดยเฉพาะเรื่องจะให้บอกแม่ว่า ไม่ให้มาอยู่ด้วยเนี่ย ให้ตายเค้าก็ไม่พูด เหมือนเค้ารู้สึกผิดกับแม่ เหมือนน้ำท่วมปาก เกรงใจแม่ บอกไม่ถูก หรือว่าสามีเรา ยืมมือเราสังหารแม่เค้าว่ะค่ะ เพราะตอนเราบอกว่า เราส่งอีเมลไปวีนแม่เค้า บิ๊กไทม์เนี่ย ไม่เห็นมานโกรธกรูเลย มันหัวเราะเหมือนชอบอกชอบใจอ่ะ (กรูก็งงๆ กะสามีเจงๆ) จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 06:52:51

ความคิดเห็นที่ 57 วันก่อนเราก็เพิ่งถามแฟนไปว่า แม่เธอจะมาเดือน 10 จริงๆ หรือเปล่า ฉันไม่โอเคนะ ถ้าจะมานอนที่นี่ แฟนก็บอกไม่รู้เหมือนกัน ไม่เห็นแม่พูดอะไร (ก็คงจริง เพราะเธอไม่บอกเราสองคน แต่เธอบอกชาวบ้านหมดทั้งหมู่บ้านว่าเธอจะมา เหมือนที่เราสองคนรู้ เพราะเพื่อนสามีถาม) ใจเราคิดๆ ไว้ว่าคราวนี้ ถ้าแฟนยังปากหนัก ไม่กล้าที่จะปฏิเสธแม่อีก เราอาจต้องพึ่งตำรวจ หรือไม่ก็สถานสงเคราห์ะแม่และเด็กชั่วคราว  คือ บอกตรงๆ ไม่รู้จะแก้ปัญหาด้วยวิธีไหนแล้วจริงๆ กะคนหน้าด้านแบบนี้.. ใครจะว่า เราปากจัด ใจดำ ไม่เห็นแก่คนแก่ขี้เหงา และสามีก็เอาเถอะ... (กรูเห็นแก่เค้า แล้วแมวที่ไหนเห็นแก่กรูว่ะค่ะ) จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 06:54:44

ความคิดเห็นที่ 61 จขกท เขียนได้มันมากครับ ชอบโคตร จากคุณ : มอสทาร่ายักษ์ เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 14:56:51

ความคิดเห็นที่ 62 อ่านแล้ว รู้สึกเราเป็นคนที่โชคดีจังเลยค่ะ แม่สามีเราดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดีแบบไม่น่าเชื่อ ดีแบบไม่เคยคาดหวัง ถ้าเราเจออย่างคุณเป็นโรคประสาทแน่ๆเลยค่ะ เพราะคุณยายสามีก็เ็ป็นคล้ายๆอย่างนี้ เรียกร้องความสนใจไปเรื่อย โทรมาร้องไห้ แต่กับสามีนะคะ เพราะเราแอ๊บว่าฟังภาษาเยอรมันไม่เข้าใจ 5555 แกเลย make conversation กับเราไม่ได้ โชคดีไป แต่คุณสามีอย่างเครียดค่ะ เพราะเราไปเยี่ยมยายอาทิตย์ละครั้ง ลูกหลายคนอื่นเค้าบอกว่าทนอยู่กับแกได้ไม่เกินครึ่งชั่วโมง เค้าไม่ค่อยไปเยี่ยมแกค่ะ เค้าจะโทรมาหาสามีเราแล้วก็ตัดพ้อ ... ไม่ไ้้ด้ข่าวคราวนานเลยนะ ไม่เห็นหน้านานแล้ว ทำงานยุ่งเหรอ สามีได้ยินก็ปรี๊ดแตกเลยค่ะ พึ่งไปมาเมื่อวันเสาร์ วันนี้วันพฤหัส นานมากๆเลย โห เข้าใจอารมณ์คุณเพนนีเลยค่ะ จากคุณ : asita เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 16:31:21

ความคิดเห็นที่ 63 เพราะงี้ไงถึงเกลียดคนแก่ เอาเป็นว่าให้เค้ามา แล้วทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แหละค่ะ ทำให้เหมือนอุบัติเหตุหน่อย อ้วนเผละขาเปลี้ยอย่างนั้น จะตกบันไดไปก็ไม่แปลกหรอกค่ะ (พูดเล่นนะ อย่าทำจริงล่ะ) จากคุณ : เทพบุตรหมัดดาวหาง เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 23:20:26

ความคิดเห็นที่ 64   ปัญหาใหญ่ของคุณเพนนีคือไม่มีคนรับใช้คอยรองมือรองเท้า ขอชมจริงๆค่ะว่าคุณเก่งมากที่ดูแลแม่สามียังกับว่าเค้าเป็นอัมพาต ทำไรไม่ได้ เคยคิดบ้างไหมว่าทำไมต้องทำ พ่อแม่ตัวเองเคยดูแล ขนาดนี้บ้างไหม..     ถึงว่า ฝรั่งชอบผู้หญิงไทย เพราะยอมได้ทุกเรื่อง ทำงานเกินหน้าที่ ดูถูกศักดิ์ศรีผู้หญิงไทยที่มองเราเป็น( ^o^ )หรือยังไง     ปัญหานี้จะไม่เกิดถ้าคุณเพนนีอยู่เมืองไทย เพราะคนรับใช้สามารถ หาได้ง่าย ราคาพอสู้ไหวหากขี้เกียจทำ     ดูในหนังฝรั่งทุกเรื่อง รวยแค่ไหนต้องทำกับข้าวกินเอง ล้างจานเอง สุดท้ายมาทะเลาะกันเรื่องล้างจานหลังงานปาร์ตี้     เกษียณแล้วดิฉันชวนคุณเพนนีกลับบ้านเราดีกว่าค่ะ จากคุณ : อ๋อย (อ๋อย เจ้าเก่า) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 13:18:40

ความคิดเห็นที่ 65 เค้าไม่เป็นอัมพาตก็เหมือนเป็นนะค่ะ เพราะขนาดยืนหั่นผัก เดิน 4-5 ก้าว ยังหอบแห่กๆ ความดันขึ้น ที่ทำให้ทุกอย่าง เพราะไม่อยากให้มาตายที่บ้านดิฉัน หรือต้องดูแลแกไปหลายเดือนจนกว่าจะฟื้นตัว หรืออาจจะตลอดชีวิตตตตตตต...(แม้อยากจะขัดขาให้ตกกระไดเสียตั้งหลายรอบก็เถอะ เหอะๆ)  อีกอย่าง มาครั้งแรกจะให้ดิฉันตั้งแง่ ตั้งงอน ไม่รับเลยก็จะหาว่า อคติ กะแม่ผัว เราเองก็ไม่คิดว่า เธอจะนรกได้ขนาดนี้ นึกว่าจะแค่เหงา เลยชอบโทรมาหาลูก หาหลาน พอมาอยู่ด้วยกันจริงๆ ถึงได้ ฮึ้มมมมมม..... จริงค่ะ ดิฉันก็รู้สึกว่า เค้าเห็นเราเป็นขรี้ข้า หรือป่าว... แปลกนะ ต่อหน้าน้องสาวเค้า เค้าไม่เรียกใช้เราให้น้องสาวเห็นนะ (คงกลัวโดนน้องสาวด่า)  แต่เวลาอยู่กันสองคนก็จะเป็นแบบที่เล่า เฮ้ออออออออ จากคุณ : เพนนี (MiniPenzman) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 21:33:49