 |
ความคิดเห็นที่ 12 |
สวัสดีครับ ผมเป็นอีกคนที่เคยประสบความสำเร็จกับ Fast-5 ภายใน 6 เดือนครับ ลดจาก 96 kg. มาเป็น 73 kg. เอวจาก 40 นิ้วเหลือ 32 นิ้ว จากเคยเป็น เกาท์ ความดันสูล และน้ำตาลในเลือดสูง ปัจจุบัน ปรกติหมดทุกอย่าง หวัดยังไม่เคยเป็นมาเกือบสามปีแล้วครับ ดูไดอารี่ย้อนหลังของผมได้ที่ blog ผมครับ
เมื่อต้นปีผมต้องการทำ bodybuilding ผมจึงได้ขยับ EW จาก 5 ชั่วโมงเป็น 9 ชั่วโมง และทานแบบกระหน่ำแบบนักเพาะกายเขาทานกันเลย ทำให้น้ำหนักเพิ่มจาก 73 เป็น 86 ในเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา แต่เอวอยู่ที่แค่ 34.5 นิ้วเท่านั้น คาดว่าส่วนหนึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ขยายใหญ่ขึ้นมามากโดยเฉพาะที่อก,หลังและขา ปัจจุบันผมได้กล้ามเนืิ้อมากพอกับความต้องการแล้ว และกำลังกลับมาสู่การทานอาหารแบบ Fast-5 อีกครั้ง สำหรับตัวผมแล้ว การทานแบบ Fast-5 คือการวิถีชีวิตอันปรกติไปซะแล่วครับ การทานแบบอื่นๆ เป็นการฝืนร่างกายไปซะแล้ว ถึงแม้ไม่ได้ทาน Fast-5 มาถึง 8 เดือน แต่ก็ต้องการกลับมาตลอด เพราะรู้สึกมีความสุขกับ Fast-5 มากครับ
เรื่องการออกกำลังกายผมยืนยันได้ว่าถ้าคุณทานเพียงพอ คุณมีแรงเหลือพอครับเพราะผมเองออกกำลังกาย 6 วันต่อสัปดาห์ครับ โดยแบ่งเป็น จันทร์ พุธ ศุกร์ ---- Cardio (Tabata Burpee/Dumbbell Swings) อังคาร พฤหัส เสาร์ ------ Weight Training (1 ชัวโมง )
ผมขอทิ้งข้อคิดเล็กๆน้อยๆไว้ให้ครับ
—————–
ข้อคิดเล็กน้อย
—————–
- Fast-5 ไม่ใช่การทานอาหารให้น้อย แต่เป็นการทานให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย ไม่มากและน้อยเกินไปครับ สิ่งที่ทำให้ Fast-5 Work นั้น คือขบวนการเผาพลาญพลังงาน (Metabolism) ที่เกิดขึ้นในช่วง Fastingครับ ก่อนอื่นต้องให้ร่างกายเริ่มเรียนรู้ว่า ร่างกายมีเวลาเพียง 5 ชั่วโมงที่ระได้รับสารอาหารต่างๆ (ช่วง EW) และเวลาที่เหลืออีก 19 ชั่วโมง(Fasting)นั้น จะไม่มีสารอาหารตกถึงท้อง (0 cal) ร่างกายจะค่อยๆเรียนรู้และกระทำการปรับเปลี่ยนวิธีการย่อยสาร และการเผาพลาญพลังงานของเราให้เข้ากับ วิธีการดำรงชีวิตของเรา ( ในที่นี้คือ Fast-5) ร่างกายจะเริ่มเรียนรู้ที่จะนำอาหารออกมาจากคลังที่ร่างกายกักเก็บไว้ (FAT นั่นเอง) มาใช้เป็นพลังงานเมื่อจำเป็น และเมื่อร่างกายขาดอาหาร (ในช่วง Fasting) นานขึ้น ระบบเผาพลาญเราจะยิ่งทำงานหนักขึ้น นั่นเองที่ทำให้ไขมันเราถูกย่อยสลายออกจากร่างกายมากขึ้นและเร็วขึ้น
-การจะเริ่มทำ Fast-5 นั้น เราควรต้องรู้จักฟังเสียงกระซิบจากร่างกายของเราครับ เช่น ถ้าวันนี้หิวมากก่อน EW แสดงว่าเมื่อวานทานน้อยเกินไปหน่อย ถ้าวันนี้ต้องการทานอาหารรสหวาน แสดงว่าระดับน้ำตาลในเลือดคุณต่อเกินไปนั่นเอง เป็นต้นครับ ถ้าคุณค่อยๆที่จะเรียนรู้และปรับการทานอาหารของคุณให้เข้ากับความต้องการของร่างกายคุณได้ คุณจะมีสุขภาพที่แน่นอนครับ
- การทานอาหารในช่วง EW ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมากเช่นกัน เพราะร่างกายคุณจะได้รับสารอาหารเพียงแค่ 5 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น ร่างกายคุณจึงควรจะได้รับสารอาหารที่พอเพียงและมีคุณภาพ คุณควรเลือกที่จะทาน ผักและผลไม้ก่อนขนมหวาน และควรทานโปรตีนให้พอเพียงกับความต้องการของร่างกาย เพื่อที่จะให้กล้ามเนื้อคงสภาพไว้ไม่ให้ถูกย่อยสลายไป
- การออกกำลังกายนั้น มีท่านสมาชิกท่านหนึ่งเคยบอกไว้ว่า การทำ fast-5 เปรียบง่ายๆกับการขับรถ ค่อยๆทำไปก็จะถึงที่หมายในที่สุดไม่ช้าก็เร็ว การออกกำลังกายก็เหมือนการนำรถคันนั้นไปติด turbo มันทำให้คุณขับได้เร็วขึ้นแน่นอน และประสิทธิภาพของรถคุณโดยรวมก็ดีขึ้นด้วย เพียงแต่คุณต้องไม่โหมเหยียบคันเร่งจนเกินไป (อย่าหักโหมกับการออกกำลังกาย)
ขอให้คุณประสบความสำเร็จ ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหนครับ ป.ล. Fast-5 ไม่ใช่สำหรับทุกคนครับ
แก้ไข เพิ่มการออกกำลังกาย
แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 52 10:18:29
จากคุณ |
:
enlightened
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ส.ค. 52 10:09:07
|
|
|
|
 |