พ่อครับ...ผมคิดถึงพ่อครับ (อาจจะดูนอกเรื่อง แต่อาจมีประโยชน์)
|
|
พ่อครับ...ผมคิดถึงพ่อครับ
พ่อเป็นมะเร็ง!!!
ความรู้สึกแรกที่ผมได้ยินจากพี่คือ เป็นไปได้ยังไง ใน
เมื่อพ่อผมท่านออกกำลังกายมาตลอดชีวิต ท่านหา
เลี้ยงผมและพี่ ๆ อีกสามคนด้วยอาชีพถีบสามล้อรับจ้าง
ทุกวันภาพที่ผมเห็นท่านคือ ผู้ชายตัวเล็ก ๆ หน้าตา
แบบคนจีนวัยอาแปะ ที่มีเหงื่อโทรมกายตลอดทุกวัน
ก่อนผมไปโรงเรียน
พ่อเป็นมะเร็งบริเวณขั้วปอด ที่ยากต่อการผ่าตัด ซึ่ง
มันก็เป็นไปได้สูง เพราะท่านสูบบุหรี่มาตั้งแต่ผมจำ
ความได้จนผมโตทำงานมีครอบครัวแล้ว ภาพที่ผม
ชินตาคือท่านชอบดูมวยทางทีวี และมวนใบจากสูบ ใน
ขณะที่เชียร์มวยด้วยความมันในอารมณ์
หลังจากได้รับรู้ข่าวร้าย ผมก็หาทางกลับไปเยี่ยมท่าน
บ่อยขึ้น อย่างที่ใครหลาย ๆ คนเคยพูด ว่า เมื่อไม่สูญ
เสีย ก็มักจะไม่เห็นความสำคัญ ต้องจากกัน ถึงจะ
เสียดาย แต่ผมยังโชคดีที่พี่ ๆ ผมทุกคนท่านทำงาน
ใกล้บ้าน ยกเว้นแต่ผมเพียงคนเดียวที่แยกมาทำงาน
ห่างไกลบ้านที่สุด
แต่ภาพที่ผมได้เห็นท่านครั้งแรก คือ ผมของท่านร่วง
แทบจะหมดศรีษะ ด้วยผลของคีโม ผมน้ำตาซึม แต่ก็
ไม่อาจจะปล่อยให้มีน้ำตาได้ด้วยเหตุผลที่ว่าท่านยังไม่
รู้ความจริงว่าท่านเป็นมะเร็ง เพราะพวกเราเห็นตรง
กันว่า ไม่อยากบอกให้ท่านรู้ เพราะกลัวท่านเสียกำลัง
ใจ แล้วจะทำให้ท่านแย่ลง เลยขอความกรุณาจากหมอ
ว่าอย่าบอกท่าน ซึ่งคุณหมอเองก็หนักใจไม่น้อย
ความนึกคิดความทรงจำต่าง ๆ สมัยเด็ก ๆ ผุดขึ้นมา
มากมาย สิ่งที่ผู้ชายตัวเล็ก ๆ กระทำให้กับผม ภาพที่
ผมยังคงจำติดในความทรงจำคือ
ท่านซื้อนาฬิกาข้อมือ เรือนแรกในชีวิตผม แล้วเรียก
ผมเข้าไปในตรอกเล็ก ๆ ระหว่างบ้าน ที่ลับจากสายตา
เพื่อนบ้านคนอื่น ๆ แล้วให้ผมยกข้อมือขึ้นมา ท่านก็
ค่อย ๆ เอานาฬิกาดิจิตอล เรือนเล็ก ๆ ออกมาคาดให้
ผม ในวันนั้นผมยังไม่รู้สึกอะไร ก็แค่ดีใจที่มีของเล่น
ใหม่ ผมยังไม่เห็นความสำคัญของมันจนถึงวันนี้...
เมื่อมาถึงวันที่ทำงานแล้วต่างหากทำให้ผมรู้ว่าเงินทองแต่บาทที่หาได้ ไม่ใช่หามาง่าย ๆ แต่ท่านก็พยายามทำในสิ่งที่ผมอยากได้ แม้จะเป็นสิ่งที่ผมไม่ได้ร้องขอ
หรือแม้แต่ผมต้องไปสอบเรียนต่อ ม.ต้น แล้วต้องไปหาซื้ออุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการสอบ คุณครูบอกให้เตรียมกระดาษ ขนาด 14x7 นิ้วมาสอบ ด้วยความโง่ปนซื่อ และเซ่อ ของผมก็คิดว่า กระดาษต้องมีขนาด 98 นิ้ว แน่ ๆ จึงบอกให้ท่านหาซื้อมาให้ ซึ่งไม่มีตามร้านทั่ว ๆ ไป และด้วยความที่ท่านเรียนแค่ ป.สี่ ลูกบอกอย่างไร ท่านก็ต้องหาให้ตามนั้น... ทุกวันนี้มานึกถึงเรื่องนี้ ทำให้ผมสงสารท่านที่ผมโง่ขนาดนั้น และสัญญากับตัวเองว่า ลูกคนนี้จะไม่ยอมโง่แบบนั้นอีกแล้ว
และเคยมีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่รู้สึกแย่ ๆ กับตัวผมเอง ช่วงนั้นผมติดเพื่อนมาก การบ้านไม่ค่อยทำ งานไม่ค่อยส่ง ไม่ค่อยขยันเรียนหนังสือ แล้วเพื่อน ๆ ที่คบก็แนวนี้ทั้งนั้น วันนั้นผมลืมเอาเงินมาโรงเรียน ตอนสายๆ พ่อก็ถีบสามล้อมาที่โรงเรียน เอาเงินมาให้ ผมพูดไม่ออก รู้สึกอายเพื่อนมากที่พ่อตัวเองถีบสามล้อ และผมก็คิดว่า พ่อเองก็น่าจะรู้สึกความรู้สึกนั้น เพราะท่านถีบสามล้อออกไปเงียบ ๆ ผมไม่รู้ว่าท่านเสียใจหรือไม่ แต่ทุกวันนี้ ผมรู้สึกว่าผมผิดมาก ที่คิดดูถูกท่าน ทั้ง ๆ ที่เงินทุกบาทที่ผมใช้ในแต่ละวัน ก็คือเงินที่ท่านให้แรงและหยาดเหงื่อแลกมาทั้งนั้น ท่านพูดให้ผมฟังบ่อย ๆ ว่า อย่าเป็นอย่างท่าน ท่านเรียนมาน้อย ก็ต้องเอาแรงแลกเงิน อยากให้พวกผมมีงานทำดี ๆ จะได้ไม่ต้องลำบากอย่างท่าน ... แต่พ่อครับ สิ่งที่ผมอยากกับพ่อ ทุก ๆ วัน คือ พ่อคือสุดยอดตัวอย่าง สุดยอดมนุษย์ที่ผมถือเอาเป็นแบบอย่างในการทำงานทุกวันนี้ ทั้งๆ พ่อถีบสามล้อ พ่อยังเลี้ยงให้พวกผมสี่คน เป็นคนดี และได้เรียนสูง ๆ ออกมาทำงานที่มีเกียรติ จนทุกวันนี้ ผมยังไม่มั่นใจตัวเองเลยว่า ถ้าวันที่ผมมีลูก ผม...จะทำได้สักครึ่งอย่างที่พ่อทำให้พวกผมหรือเปล่า...
ถึงวันนี้ พ่อจากพวกผมและแม่ ไปแล้ว แต่ผมยังคิดถึงพระคุณ พ่อ... ที่ถีบสามล้อ คนที่ผมเคยรังเกียจและอาย ...คนที่ผมไม่เคยเห็นว่าพ่อจะสำคัญ หลาย ๆ อย่างที่ผมไม่เคยเห็นความสำคัญ ทุกวันนี้ ผมยังคงคิดถึงมัน ผมไม่ได้พูดบอกพ่อว่า ผมขอโทษที่เคยคิดกับพ่อแบบนั้น แต่ผมเชื่อว่า ... เวลาที่เหลือ ... ทั้งหมดที่ผมทำ ทุกอย่างที่ผมปฏิบัติต่อแม่และพี่ ๆ รวมทั้งหลาน ๆ จะทำให้พ่อภาคภูมิใจในตัวผม และมีความสุข ผมเชื่อว่ามันน่าจะทดแทนกับสิ่งที่ผมเคยคิดกับพ่อได้
วันนี้ผมอยู่คนเดียว ไปเดินเล่น เห็นพ่อลูกเดินจูงมือกัน ผมจำได้ว่าพ่อก็เคยจูงผม ชี้ชวนให้ผมดูนั่น ดูนี่ พาผมไปเที่ยว เมื่อกลับมาอยู่คนเดียว คิดถึงสิ่งเหล่านั้น ทำให้ผมคิดถึงอดีต และผม...คิดถึงพ่อครับ
จากคุณ |
:
กาแลนท์เขียวเมืองนนท์
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ก.ย. 52 18:47:52
|
|
|
|