 |
ช่วยแนะนำทีค่ะ กำลังจิตตกกับ fast 5
|
|
คือตอนนี้เรากำลังควบคุมอาหารแบบ fast 5 ค่ะ โดยเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 26 สิงหา ก็เป็นระยะเวลา 2 อาทิตย์กว่าๆได้แล้ว
ก่อนทำก็ศึกษาข้อมูลค่อนข้างเยอะค่ะ ส่วนใหญ่อ่านประสบการณ์คนอื่นๆ แต่ไม่ได้อ่านตำราต้นฉบับ fast 5 ที่เป็นภาษาอังกฤษนะคะ เำพราะไม่เก่ง
เรื่องของน้ำหนัก นานๆชั่งที ไม่ลดลง แต่ก็ไม่เพิ่มขึ้น ในช่วง 5 ชั่วโมง(14.00-19.00)กินเยอะมาก และก็มีหลุดอาทิตย์ละ 1 วันค่ะ ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
วันนี้มีอาการแปลกๆค่ะ หูอื้อ ปวดตา หนักๆหัวบริเวณท้ายทอย มึนๆงงๆ แล้วก็หิว ท้องร้องกว่าทุกวัน กลัวว่าจะมีผลมาจาก fast 5 หาข้อมูลเพิ่มก็ไปเจอกับข้อความนี้
""""ร่างกายมนุษย์ประกอบไปด้วยเซลล์จำนวนมหาศาล ซึ่งทุกส่วนประกอบย่อย ๆ เล็ก ๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเหล่านั้นล้วนต้องการน้ำตาลกลูโคสที่ได้จากกระบวนการเผาผลาญอาหารมาใช้เพื่อเป็นพลังงานให้การทำงานของอวัยวะทุกส่วนเป็นไปอย่างปกติ ซึ่งระดับน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดนั้น จะสูงสุดในช่วงระยะเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร ต่อจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของตับและบรรดาฮอร์โมนเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด (counteregulatory hormone) ที่จะมาช่วยกันรักษาระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้ต่ำเกินไปจนเซลล์เกิดความเสีย หาย รวมทั้งต้องเพียงพอต่อการทำงานของ 2 อวัยวะที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการมีชีวิตมนุษย์ซึ่งก็คือสมองและหัวใจ อย่างไรก็ตาม, ร่างกายของเราก็มีแผนสำรองเผื่อไว้ในกรณีที่มนุษย์เกิดเหตุกรณ์ไม่สามารถเติมเต็มความหวานให้ชีวิต เอ๊ย…น้ำตาลในเลือดต่ำ ก็คือ...อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นน้ำตาลกลูโคสเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของ เซลล์ “ส่วนใหญ่” ในร่างกาย แต่ไม่ใช่สำหรับสมอง เพราะสมองยังสามารถใช้บริการพลังงานจาก “คีโตนบอดี้” (Ketone bodies) ซึ่งเป็นผลิตภันฑ์ที่เกิดจากกระบวนการสลายไขมันและโปรตีนที่สะสมไว้ตามแหล่ง ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่หน้าท้อง ต้นแขน-ขา หรือแม้แต่ในอวัยวะภายใน
มองเผิน ๆ แล้วน่าจะดีนะครับ เพราะอาจจะช่วยลดไขมันและน้ำหนักส่วนเกินได้ แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอกครับ (ถ้าดีจริงร่างกายก็เอามาใช้เป็นอันดับแรกแล้วสิ…ร่างกายมนุษย์ฉลาดจะตาย) เพราะคีโตนเป็นสารที่มีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อออกมามาก ๆ ย่อมเกิดการทำลายอวัยวะและเนื้อเยื่อต่าง ๆ, การที่เลือดเป็นกรดจะทำให้กระบวนการทั้งหลายของเซลล์เปลี่ยนแปลงไป เซลล์อีกมากที่ต้องการน้ำตาลกลูโคสเป็นหลัก-เช่น เม็ดเลือดแดง, เซลล์ประสาท-จะไม่สามารถทำงานได้ดี นอกจากนี้ร่างกายที่ขาดอาหารเช้าจะพยายามสะสมไขมันที่ได้จากอาหารเย็นไว้ มากกว่าปกติเพื่อเป็นแหล่งพลังงานในตอนเช้า
สรุปง่าย ๆ ก็คือแทนที่จะผอมจะกลายเป็นอ้วนกว่าเดิม ซึ่งถ้าหากเป็นอย่างนี้ทุกวัน สมองที่ใช้คีโตนได้ก็คงไม่รอดและเสื่อมในที่สุด ร่างกายรวนทั้งระบบจนสุขภาพทรุดโทรม เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาอย่างแน่นอน
ใครไม่เชื่อลองสังเกตตัวเองหรือคนรอบข้างดูก็ ได้นะครับ คนที่รับประทานอาหารเช้าเป็นอย่างไร คนที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้าเป็นอย่างไร คนไหนสดใสร่าเริง ดูกระฉับกระเฉงและพร้อมสำหรับวันใหม่มากกว่ากัน
ล่าสุด มหาวิทยาลัยโตรอนโตของประเทศแคนาดาได้ทำการศึกษาวิจัยผลของการรับประทาน อาหารเช้าของคุณลุงคุณป้าอายุ 61-79 ปี โดยแบ่งเป็นกลุ่มอดอาหารเช้า กับไม่อดอาหารเช้า แล้วมาทำแบบทดสอบความจำแข่งกัน
ปรากฏว่าบรรดาผู้มากอายุที่รับประทานอาหารเช้าจะมีความจำดีกว่าคุณลุงคุณป้าที่อดอาหารเช้าอย่างขาดลอย
ดังนั้นการอดอาหารเช้า-อาหารมื้อสำคญที่สุดในชีวิต-จึงเป็นการกระทำที่ประหยัดเวลา ประหยัดทรัพย์ ยืดเวลานอนหลับได้ แต่ขาดทุนสุขภาพ!!"""" จาก http://highwind.exteen.com/20090101/breakfast-is-important
มีใครพอจะมีเหตุผลดีๆมาโต้แย้งได้บ้างมั้ยคะ ว่า fast 5 ไม่มีผลเสียต่อสุขภาพและสมองจริงๆ ใจจริงก็เห็นว่าเป็นวิธีควบคุมอาหารที่ดี และเหมาะกับเรายังไม่อยากเลิกfast 5 ค่ะ แต่อยากมั่นใจว่าไม่มีปัญหา
จากคุณ |
:
ije_ab
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ก.ย. 52 11:28:32
|
|
|
|  |