ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเป็นผมจะไปกราบเท้าแม่และแฟนเล่าเรื่องให้ฟัง...แล้วไปแต่งกะสาวท้องคับ โดยยึดหลักทฤษฎีเกม..เลือกทางที่เสียหายน้อยที่สุดดีกะทุกคนที่สุด แต่ถ้ามีอะไรกะแฟนไปแล้วคนต้องรับด้วยครับ จากคุณ : Babbitry Boy เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 14:30:28

ความคิดเห็นที่ 2 ความรับผิดชอบ คือสิ่งที่สุภาพบุรุษ(Gentleman)มี ส่วนผู้ชาย(Man)ก็แล้วแต่คุณจะคิดละกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป กรรม คือ ผลของการกระทำนะครับ จากคุณ : BerryWater เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 14:35:04

ความคิดเห็นที่ 3   แฟนผมรู้เรื่องแล้วครับ เธอแนะนำให้ผมไปตกลงกับผู้ ญ คนนั้น เพราะตอนนี้ผมยอมรับตรงๆเลย หลังจากผมรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นท้อง ผมก็แทบจะทำอะไรต่อไปไม่ไหว สิ่งเดียวที่ทำลงไปคือ พาเธอไปตรวจ...และยังไม่ได้ติดต่อกับเธออีกเลยครับ ผมไม่ได้จะหนี แต่ผมต้องการเวลาตั้งหลัก ปล.ผมกับแฟนเคยมีอะไรกัน 1 ครั้งครับ (เราอยู่ไกลกัน แต่ผมกับเธอรักกันมาก) จากคุณ : จขกท (jangky__black) เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 14:36:14

ความคิดเห็นที่ 4 งานเข้า... แล้วดันมาถามในนี้ด้วย โดนด่าเละแน่ครับ เดี๋ยวมาช่วยครับ  คิดแป๊ป แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 52 15:19:19 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 52 15:12:17 แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 52 14:45:39 จากคุณ : aftertime เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 14:44:39

ความคิดเห็นที่ 5 ตั้งสติให้มั่นไว้นะค่ะ สู้ๆค่ะ จากคุณ : ป้ายแดงแซงโค้ง เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 14:50:09

ความคิดเห็นที่ 6 เฮ้อ....มาถึงตรงนี้ผมสงสารผู้หญิงคนที่เป็นแฟนคุณจับใจ จากคุณ : กิ้งกือไฮสปีด เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 14:53:35

ความคิดเห็นที่ 7 เค้าท้องจริง แต่ทำไมถึงปล่อยให้ท้องอ่ะ (เราหมายถึงผู้หญิงนะ) แล้วคุณเมาไม่รู้เรื่องแสดงว่าเค้ารู้เรื่องเองรึป่าว ประมาณว่าจะจับคุณอ่ะ ถ้าผู้หญิงคนที่ท้องกล้ามีอะไรกับคุณทั้งที่คุณเมาไม่รู้เรื่อง ไม่แน่ เค้าอาจจะไปมีอะไรกับคนอื่นด้วยรึป่าว คนแน่ใจหรอว่า เค้าท้องกับคุณ เป็นลูกของคุณจริงๆ เราคิดว่าตอนนี้คุณกำลังงง สับสน ประมาณว่าเรื่องมันอิรุงตุงนัง แต่คุณควรที่จะเคลียร์กับผู้หญิงที่ท้องก่อน ถ้าคุณทำเธอท้องจริง และ เด็กในท้องเป็นลูกของคุณ ตัวเลือกที่เหลือก็ควรตัดทิ้ง ควรรับผิดชอบเธอ ถึงแม้ว่าคุณจะมีคนที่รักอยู่แล้วหรือไม่มีก็ตาม เคลียร์ป่าว จากคุณ : momo-mouy เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 14:55:36

ความคิดเห็นที่ 8   # 4 รอนะครับ ผมอ่านผลงานคุณมาเยอะ ชี้แนะผมด้วยครับ ตอบ # 7 ครับ ผมพอรู้มาว่าผู้ ญ คนนี้สนใจในตัวผมอยู่เหมือนกัน ผมก็แอบกังวลอยู่บ้าง ว่าเธอต้องการอะไรจากผมกันแน่ ผมควรคุยกับเธออย่างไรดี เฮ้อออออออ จากคุณ : จขกท (jangky__black) เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 14:59:23

ความคิดเห็นที่ 9 โห...กลุ้มแทนเลยครับ ไม่ใช่มีปัญหากับ 2 คนว่าจะเป็นคนไหนดี แต่นี่เป็น 3 คนอินุงตุงนังจริง ๆ  ซ้ำแต่ละฝ่ายก็คนละสุดขั้วเลย - คนแรก คนรัก (เพื่อตัวเอง) - คนที่ 2 คนที่จะแต่งงาน (เพื่อแม่) - คนที่ 3 คนท้อง (ความรับผิดชอบ,ลูก) ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้น้ำหนักตรงไหนมากที่สุด... ถ้าเป็นผมอย่างแรกเลยคงต้องคุยกับคนท้องก่อน ว่าจะให้รับผิดชอบยังไง บ้าง จะให้แต่งงานหรือว่าขอเลี้ยงดูลูก ?เพราะยังไงถ้าเป็นลูกคุณจริง ๆ ก็ต้องรับผิดชอบแหล่ะครับ ไม่งั้นก็บาปติดตัวไปตลอด ส่วนคนที่น้ำหนักน้อยที่สุด ก็คงเป็นคนที่จะแต่งงานด้วย เพราะความผูกพันหรือความรับผิดชอบต่าง ๆ ยังไม่มี ยังไม่มีอะไรเสียหาย แค่ยกเลิกการแต่งงาน ซึ่งก็คงต้องอธิบายเรื่องนี้กับคุณแม่ของคุณครับ สำหรับคนที่บอบช้ำทางใจที่สุดก็คงเป็นคนรักคุณ เพราะงานนี้ต้องเสียใจ สองเด้ง เฮ้อ..กลุ้มแทนจริง ๆ นี่แหล่ะโทษของเหล้าเลยละครับ จากคุณ : BluE_CheesE เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 14:59:51

ความคิดเห็นที่ 10 เค้าก็นิสัยดีไม่ใช่เหรอ  ไม่งั้นคุณไม่คบเค้าเป็นเพื่อนหรอก  คงจะมีบางสิ่งที่ต้องการให้ชีวิตคุณได้เจอกับเธอ  ได้ใช้ชีวิตกับเธอ  ไหลตามน้ำไปเถอะคับ   บางครั้งเราก็ไม่สามารถกำหนดอะไรได้ด้วยตัวเราเอง   ผมก็เป็นมาก่อนคับ  คล้ายกันเลย จากคุณ : ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 15:00:35

ความคิดเห็นที่ 11 ยอมแพ้ครับ ผมรู้รายละเอียดและองค์ประกอบในชีวิตคุณไม่มากพอ ความจำเป็นและความสัมพันธ์ระหว่างกัน รวมถึงรายละเอียดบุคคลที่เกี่ยวข้องในสถานะการณ์นี้ด้วย ตอบอะไรไปก็อาจจะพลาดได้ แต่ถ้าเป็นผม  ผมก็น่าจะตอบได้เลย เอาเป็นว่าค่อยๆแก้แล้วกันนะครับ ทีละเปลาะ เริ่มจากปัญหาที่เกิดขึ้นล่าสุดก่อน แล้วค่อยเอาผลของมันไปแก้ในปัญหาถัดไป เฮ้อ..  ช่วยได้มั๊ยเนี่ย จากคุณ : aftertime เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 15:02:41

ความคิดเห็นที่ 12 # 4 รอนะครับ ผมอ่านผลงานคุณมาเยอะ ชี้แนะผมด้วยครับ ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,, กำ,,,,กำ,,,,กำ,,,, จากคุณ : aftertime เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 15:08:47

ความคิดเห็นที่ 13 โหว ... อิรุงตุงนังจริงๆด้วย 1. คนที่จะแต่งด้วย (เอาไว้ทีหลังเลย วางไว้ก่อน) 2. แฟนคุณ ยังไงเค้ารับรู้ทุกๆเรื่องอยู่แล้ว (ให้เค้ายืนข้างๆคุณพอก่อน) 3. คนที่ท้อง (นี่ปัญหาใหญ่) เราว่า...สิ่งที่คุณควรทำก็คือ "รับผิดชอบเด็กที่จะเกิดมา" แต่คุณแน่ใจรึเปล่าว่าเค้าท้องกับคุณแน่ๆ ถ้าเธอไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการท้องกับคนอื่นได้อีก อันนี้ก็ไม่น่าคิดมาก แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าลูกคุณจริงรึเปล่า เพื่อนผู้ชายเคยพูดว่า "กุไม่เชื่อว่า พวกที่บอกว่าเมาแล้วทำอะไรลงไปแล้วบอกไม่รู้ตัว เพราะทุกครั้งที่ทำได้มันจะรู้ตัว อย่างน้อยรู้ว่าทำอะไรกับใครไม่งั้นจะโด่ได้ไง" เราว่าที่คุณควรทำคือ 1. ดูแลเธอที่ท้อง พาไปฝากท้องบ้าง 2. อย่าพึ่งตกลงว่าจะแต่งงานกับเธอ แต่ให้แสดงความรับผิดชอบ โดยการเซ็นต์ยอมรับว่าเป็นบุตรของคุณตอนคลอด 3. แล้วให้สบายใจทั้งสองฝ่าย แต่อย่าถือว่าทำร้ายความรู้สึกกัน ให้ตรวจเลือดเด็กด้วยว่าลูกคุณรึเปล่า มันจะได้ไม่คาใจกันทั้งสองฝ่าย เพราะเด็กที่เกิดมา ถ้าเกิดมาบนความไม่แน่ใจของพ่อตัวเอง เด็กคงรู้สึกเสียใจมาก แล้วถ้าเค้าเป็นลูกคุณจริงๆ คุณจะได้รักเค้าทุ่มเทให้เค้าได้เต็มหัวใจเหมือนกัน ส่วนแฟนคุณ น่าสงสารที่สุดเลยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ได้แต่ภาวนาให้เธอผ่านเรื่องเลวร้ายแบบนี้ไปได้ด้วยดี โดยที่ไม่ต้องเจ็บปวดหัวใจมากไปกว่านี้อีก ขอให้คุณโชคดีค่ะ จากคุณ : Ta Pling เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 15:11:31

ความคิดเห็นที่ 14 ในเมื่อคุณมาสำนึกผิดในเวลาที่สายไปเสียแล้ว สิ่งที่ต้องทำมากที่สุดไม่ใช่การที่ให้ผู้หญิงที่เป็นเพื่อนร่วมงานของคุณไปทำแท้งหรอก(เรารู้ว่าความคิดแวบๆนี้ผุดขึ้นมาจากหัวคุณ)แต่สิ่งที่ต้องทำคือรับผิดชอบเด็กในท้องของเธอ ซึ่งก็คือลูกของคุณ จริงๆอยากตำหนิคุณเหมือนกันแต่ไม่ใช่เรื่องที่ว่าคุณคบกับคนหนึ่งอยู่และจะแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง เราเข้าใจเรื่องนี้ดีค่ะ เพราะเราจำเป็นต้องทำตามคำสั่งของพ่อแม่เพื่อให้ท่านสบายใจซึ่งเป็นสิ่งที่เราเป็นลูกควรจะพึงกระทำ ซึ่งอาจจะเป็นคำขอที่สมเหตุสมผลหรือไม่ก็ตาม จริงๆแล้วบางทีหากเป็นคำขอที่ไร้สาระมากเราควรจะแจงเหตุผลของเราไปให้ท่านเข้าก่อน เพื่อให้เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย แต่หากคิดว่าไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนความคิดของท่านได้แล้ว ยังไงเราเป็นลูกก็ต้องทำตาม แตก็น่าสงสารคนที่คุณจะต้องมาแต่งงานด้วยอยู่ดี คุณลองคิดดูสิถ้าหากคุณเป็นเค้าแล้วคุณไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย เกี่ยวกับว่าคู่แต่งงานของคุณมีคนรักอยู่ก่อนแล้ว หรือบางทีเค้าก็อาจจะถูกบังคับเหมือนกับคุณก้ได้ มันน่าสงสารเกินไป คุณเคยลองศึกษาเรื่องราวของเจ้าหญิงไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งอังกฤษ ท่านมีพร้อมทุกอย่างยกเว้นความสุขเรื่องคู่ครอง ซึ่งพระสวามีของท่านได้มีคนรักตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน และ คบกันจนถึงเจ้าหญิงไดอาน่าตาย ดูสิ ผูหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งต้องมาแบกรับความอัปยศอดสูตลอดชีวิตของเธอ โดยที่พระสวามีก็ทำหน้าชื่นตาบานแถมยังดูหมิ่นศักดิ์ศรีโดยการเอาเมียเก็บมาออกหน้าออกตาแทน อย่าพยายามดูถูกผู้หญิงและทำร้ายคนที่เค้าไม่รู้เรื่องอีกเลย ถึงคุณจะน่าเห็นใจแต่สิ่งที่คุณทำตอนนี้มันคือการแสดงความเห็นแก่ตัว ตอนนี้คุณมีความสุขคนเดียว พยายามจะเอาทุกอย่าง แต่ทำให้ผุ้หญิง 3 คนมารับกรรมในสิ่งที่คุณทำเพียงคนเดียว และตอนนี้คุณยังทำให้เพื่อนร่วมงานคุณท้องอีกซึ่งก็เหมือนเป้นการเพิ่มปัญหาจากที่มีอยู่แล้ว ให้ไม่จบไม่สิ้นซักที ทางที่ดีกับการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้คือคุณควรจะเลิกติดต่อกับคนที่คุณคบด้วยและบอกเหตุผลเธอไปเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นคือการที่คุณทำให้ผุ้หยิงคนอื่นท้อง ถึงแม้ว่าเธอจะเจ็บปวดแต่ยังไงก็ดีกว่าการที่คุณจะยื้อเธอไว้ให้เธอไม่มีความสุขและต้องมานั่งทนทุกข์กับคุณ ต่อไปเธออาจจะได้ไปเจอคนที่ดีกว่าคุณหรือคนที่เค้ารักเธอมากกว่าคุณ ซึ่งตอนนั้นเธออาจจะคิดว่าโชคดีที่คุณบอกเลิกเธอก็ได้ และบอกกับแม่คุณเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดว่าคุณไปทำให้เพื่อนร่วมงานท้อง เราว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหหญ่ยังไงแม่คุณก็ต้องยอมให้คุณแต่งงานกับเพื่อนร่วมงานแน่นอน หรือว่าเค้าจะใจร้ายถึงขนาดไม่ดูดำดูดีหลานก็ให้มันรู้ไป อีกอย่างเค้าคงทนไม่ได้หากคนที่เค้าเลือกต้องมานั่งทนทุกข์แต่งงานกับคุณแน่นอน สิง่ที่คุณทำได้ในตอนนี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่จะทำเพื่อรักษาเกียรติของผุ้หยิงไว้คือบอกความจริงทั้งหมดและแต่งงานเพื่อรับผิดชอบสิ่งที่ตัวลงทำผิดพลาดและพยายามลืมอดีตทั้งหมด เริ่มต้นชีวิตใหม่ เพราะส่งที่ผ่านไปย่อมไม่สามารถกลัยไปแก้ไขได้อีกแล้ว จากคุณ : dfh เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 15:13:31

ความคิดเห็นที่ 15   มาเป็นกำลังใจให้คุณนะค่ะ อาจไม่ไรไม่ได้ ว่าแต่ว่า แน่ใจนะค่ะ ว่าเด็กคือลูกคุณจริงอะ จากคุณ : มดนิ่ม เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 15:20:25

ความคิดเห็นที่ 16   ผมว่า ควรจะตัดขาดทุนไปซักหนึ่งตัวเลือกก่อนเลยครับ หมายถึงที่วางแผนจะแต่งงาน หวังว่า คุณแม่ จขกท. จะเข้าใจ จากคุณ : ไม่ไหวจะเคลียร์ (เจริญจิต) เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 15:26:11

ความคิดเห็นที่ 17 ผมอาจจะโดนด่า แต่ผมมองว่าการรับผิดชอบไม่จำเป็นที่จะต้องจบลงด้วยคำว่าแต่งงานเสมอไป ที่สำคัญก็คือผู้หญิงคนนั้น "ใช้เด็กในท้องเป็นเครื่องมือ" ซึ่งผมว่ามันไม่ต่างอะไรกับการทำแท้งเลยเพราะผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อยากจะมีลูกกับคุณ แต่อยากได้คุณเป็นสามี และใช้วิธีนี้ในการผูกมัด ถ้าการทำแท้งคือการไม่เห็นคุณค่าของชีวิตเด็ก การผูกมัดด้วยการมีลูกเพราะอยากได้สามี..มันก็ไม่เห็นคุณค่าของชีวิตเด็กเหมือนกัน จากคุณ : อารมณ์ศิลปิน อินกับศิลปะ เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 15:31:28

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นเรา เราจะเก็บลูกไว้ แต่กับผู้หญิงคนนั้น ก็ต้องคุยกันว่าจะเอาไง เพราะถ้าไม่ได้รักกัน ตอนนี้ ผู้หญิงก็จะเสียอิสระไปเหมือนกัน เอาแฟร์ๆ ก็เก็บลูกไว้ ส่วนหลังคลอด ใครเลี้ยง หรือช่วยกัน ก็ว่าไป แต่ก็มีสิทธิ์ไปหาคนใหม่ทั้งคู่ ( ถ้าคิดเหมือนกันนะ ) ในส่วนความรับผิดชอบก็ต้องรับแหละ แต่เราจะเอาทั้งชีวิตมาจมกับความผูกมัดแบบนี้มันก็ไม่ใช่ ส่วนเรื่องที่ว่าลูกจะมีปัญหามั้ย ก็อยู่ที่หลายอย่าง เด็กโดนเลี้ยงมาอย่างดี มีพ่อแม่ครบ ยังเสียคนได้เลย ถ้าเด็กน่ารักจริง แกก็จะเป็นที่รักของญาติๆ คุณเองก็ต้องให้ควารักแกมากๆ พ่อรักแก แม่รักแก ถึงพ่อแม่ไม่รักกัน ก็ไม่ถือว่าแย่มากนะ ในความคิดเรา จากคุณ : Mrs.Reda เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 15:51:51

ความคิดเห็นที่ 19 จขกท. รายได้ดีมั๊ยคะ ถ้าคุณรายได้ดีและสามารถรับผิดชอบชีวิตเมีย(ในอนาคต)ทั้ง 3 ได้ แต่งมัน 3 เลย คนนู้นก็รัก คนนี้ก็เหมาะสม แถมยังจะมีคนท้องมาอีก เทห์ชมัด มีเมีย 3 คน (ช่วยไม่ได้จริงๆ) รักหลายเส้า  เรา 5 คน (รวมเด็กในท้องด้วย) จากคุณ : Cyber@Sunday เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 15:51:59

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่อยากให้รับผิดชอบด้วยการแต่งงานนะ กับคนที่ท้องนะ เพราะถ้าคุณไม่ได้รักเธอ แล้วเธอก็ไม่ได้รักคุณ อยู่กับไปก็ไม่มีความสุข คุณก็แค่กลับบ้านมานอน แต่ใจก็ยังอยู่กับคนรักเก่าอยู่ดี ยังไงก็เลิกติดต่อไม่ได้ แฟนคุณ จะกลายเป็นเมียน้อย เพราะรักคุณแล้วก็ตัดขาดคุณไม่ได้ เข้าใจคุณ ว่าคุณต้องแต่งงานเพื่อรับผิดชอบ เพื่อแม่ เธอจะยอมเป็นเมียน้อย เป็นคนของคุณ แฟนคุณจะกลายเป็นคนน่าสงสารมาก แล้วคุณผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยามีลูกกับคุณ แต่ไม่เคยได้รับความรักจากคุณเลย ก็จะน่าสงสารเช่นกัน อยู่แบบไม่รักก็ไม่มีความสุข อยากให้คุณแสดงความรับผิดชอบ รับเด็กคนนี้เป็นลูก ยอมออกค่าเลี้ยงดูทุกอย่าง ให้ความรักกับเด็ก มารับไปดูแลบ้าง อยู่บ้านพ่อบ้าง อยู่บ้านแม่บ้าง แล้วให้อิสระกับเพื่อนคุณ เพื่อนคุณรักใคร ก็ให้เธอได้มีโอกาสเลือก ได้ใช้ชีวิตในสิ่งที่เธอต้องการ ถ้าเธอแต่งงาน สามีของเธอ อาจจะไม่ต้องการลูก คุณก็ควรจะรับลูกมาดูแลเอง หรือว่าถ้าเขารับได้ คุณก็ส่งเงิน ดูแลเหมือนเดิม อย่าให้ขาดตกบกพร่อง ในหน้าที่พ่อ ส่วนหัวใจคุณอยู่ไหน ก็ควรจะแต่งกับคนนั้น แม่บังคับคุณได้ แต่ว่าแม่คุณอาจจะบังคับสาวคนนั้นไม่ได้ ถ้าเธอรู้ว่าคุณมีแฟนแล้ว แล้วก็มีลูกกับอีกสาวคนหนึ่ง ความเจ้าชู้ของคุณจะทำให้เธอไม่อยากแต่ง แต่งตามหน้าที่ ได้แต่ตัว หัวใจก็ไม่ได้ แต่งแล้วคุณก็ไปอยู่กับแฟนเหมือนเดิม ไม่รักเธอเลย คิดว่าเธอคงไม่อยากได้คุณเหมือนกัน ยกเว้นแม่คุณกับครอบครัวเธอมีเงือนไขอะไรต่อกัน ถึงได้บังคับทั้งคู่ให้แต่งงานกัน  คุณไปบอกความจริงสาวคนนั้น อาจจะยกเลิกคำสั่งแม่คุณได้ ชีวิตไม่ได้จบลงที่งานแต่งงานนะ แต่งไปแล้วกับใครก็ตามที่ไม่ได้รัก สักวัน ก็มีวันหย่า ไม่ว่าคนที่แม่เลือกให้ หรือเพื่อนสาวที่ท้อง อย่าให้ทั้งสองคนนั้นต้องมีมลทิน เป็นม่ายเพราะคุณไม่รักเลย รวบรวมความกล้าเผชิญปัญหาหน่อยนะ แต่งกับคนที่ตนรักดีกว่า จากคุณ : ..ฟ้าใส.. เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 16:08:25

ความคิดเห็นที่ 21 เรื่องนี้มันซับซ้อนจริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ละคร ดังนั้น พระเอกไม่จำเป็นต้องรับทุกกรณีนะ 1. เราไม่รู้ตื้นลึกหนาบางงของผู้หญิงคนนี้ หากลูกเป็นลูกคุณ คุณต้องรับค่ะ คุยกับผู้หญิงว่าจะเอายังงัย 1.1 รับเป็นบุตร ส่งค่าเลี้ยงดู แต่ไม่ต้องแต่งงาน 1.2 แต่งงานกับแม่เด็ก 2. แล้วเป็นลูกคุณแน่รึเปล่า  ผู้หญิงก็ดูจะง่ายเกิน มีวิธี 2.1 ตรวจ DNA ตั้งแต่ในครรภ์  ตรวจได้นะคะ แต่เสี่ยงต่อการแท้ง และ ติดเชื้ออยู่พอสมควร  สงสารเด็กค่ะ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ถ้าเค้าเป็นลูกคุณ ตรวจเมื่อไหร่ก็เป็นลูกคุณอยู่ดี 2.2 เด็กออกมาแล้ว ตรวจdna ค่ะ ถ้าใช่ ต้องยอมรับค่ะ  ทิ้งภาระให้ฝ่ายหญิงไม่ได้ แต่ถ้าไม่ใช่ ตัวใครตัวมัน ตอนนี้อย่าเพิ่งทำอะไร ทั้งแต่งงานกับคนที่แม่เลือกให้ รอเด็กออกมาก่อนค่อยว่ากัน ดูแล รับผิดชอบ ผู้หญิงที่ท้องไปก่อน ส่วนแฟนที่คุณรัก ก็ต้องคุยให้เค้าเข้าใจ ถ้าเค้าจะไป คุณก้ต้องปล่อย เพราะคุณผูกเงื่อนเอง ก็ต้องแก้เอง เราแค่เสนอมาให้คุณลองคิดนะคะ แต่ไม่ต้องเชื่อเรามากหรอกนะคะ เราไม่ใช่นักจิตวิทยา หรือ นักกฎหมาย แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 52 16:32:24 จากคุณ : พลูโต_มาดริด เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 16:31:56

ความคิดเห็นที่ 22 ทำตัวแบบนี้ ใช้คำว่า รัก ได้ด้วยเหรอครับ กล้าทำต้องกล้ารับครับ ความรับผิดชอบต้องมาก่อน จากคุณ : Bamboo Leaf เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 16:33:52

ความคิดเห็นที่ 23   เราตอบแบบกลางๆนะ ตามขั้นตอนเลย 1. บอกแม่คุณว่า ไปทำผุ้ ญ ท้อง เพื่อที่จะได้ยกเลิกงานแต่งซะ ตัดปัญหาไปอีก 1 ข้อ ถ้า แม่คุณไม่ยอม ก็ไปเจอกับว่าที่เจ้าสาวคุณซะ แล้วเล่าให้เค้าฟัง ถ้าเค้าได้ฟังแล้ว เค้าจะโบกมือลาคุณเอง โดยที่คุณไม่ต้องขอร้องเลย 2. ตัดปัญหาแม่คุณ กับว่าที่เจ้าสาวคุณไปแล้วก็เหลือ ปัญหาหลักคือ เพื่อนสาวของคุณที่ทำเค้าท้อง (ส่วนแฟนคุณยังไงเค้าก็อยู่ข้างคุณ ดังนั้นแค่ขอโทษเธอ แล้วทำให้เค้ารู้ว่าคุณพลาดเอง แต่ไม่ได้รับเพื่อนร่วมงานคนนั้น ฉันเชื่อว่า เธอต้องเข้าใจคุณ) คุณต้องบอกกับเพื่อนร่วมงานของคุณว่า คุณจะรับเป็นพ่อเด็ก แต่.........จะต้องตรวจเลือดเด็ก เมื่อเด็ก! คุณอาจจะโดนเพื่อนร่วมงานคุณด่า แต่ขอให้อดทน เพราะเค้าต้องด่าคุณอยู่แล้ว ว่าคุณไม่ไว้ใจเขา แต่มันก็ต้องแฟร์ๆ กัน ถูกไหม ถ้ามันใช่คุณจริงๆ เค้าก็ต้องกล้าให้คุณตรวจ ขอให้เข้าใจว่า เรื่องนี้สำคัญ เพราะคุณก็ไม่ได้รักเค้า เค้าก็ไม่ได้รักคุณ (แม้ว่าเค้าจะหวังให้คุณเป็นของเค้าด้วยการจับคุณโดยใช้ลูกมาเป็นเครื่องมือ แต่นั่น ก็ไม่ใช่ความรักที่ดีนัก มันคือความเห็นแก่ตัวของผู้ ญ คนนั้นมากกว่า) ดังนั้น คุณจะดูแลเค้าให้ดีที่สุด เท่าที่ผุ้ชายคนนึงหรือพ่อ( ตอนนี้เป็นพ่อไปก่อน แต่ขอให้ทำให้เต็มที่) พอจะทำได้ ถ้าแม่ของเด็กปฏิเสธ คุณก็จะต้องยื่นเงี่อนไขด้วย คือ ถ้าไม่ยอมตามข้อตกลงนี้ คุณก็จะไม่รับเป็นพ่อเด็ก และจะไม่รับผิดชอบไรทั้งสิ้น แต่ถ้าเป็นลูกคุณจริง ก็ต้องมาคุยกันว่า ผู้ ณ คนนั้นต้องการจะเอายังไงต่อ คือ ในเมื่อคุณกับเค้าไม่ได้รักกัน จะให้เอาไงก็ต้องคุยกัน ต่างคนต่างไปมีคนอื่นไหม แต่รับผิดชอบลูกร่วมกันไหม หรือ ถ้าผู้ญคนนั้นเกิดรักคุณขึ้นมา และไม่ยอมปล่อยคุณขึ้นมา คุณก็ค่อยมาคุยกับแฟนคนที่คุณรักอีกที แต่ ณ ตอนนี้ เราว่า เอาแบบนี้ไปก่อนดีกว่า ช่วยคิดแล้ว ยังไงก็ลองตัดสินใจเองละกันว่าจะเอาไง หวังว่าคุณจะหาหนทางที่ดีที่สุดนะ จากคุณ : ซือเจ๊ 30 ยังแจ๋ว เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 16:53:57 A:202.57.129.99 X: TicketID:169332

ความคิดเห็นที่ 24 ผมตอบในฐานะ ลูกผู้ชาย คนหนึ่ง ไม่ใช่สุภาพบุรุษ นะครับ อย่างแรก ที่ ผม จะทำ คือ พาเธอ คนนั้น ไป หาหมอ ฝากครรภ์ ไว้ ก่อน เพื่อความปลอดภัย ของ เด็ก แล้ว ตัวของแม่ เอง อันนี้ ไม่ได้เป็นการจัดผิด ว่าเธอท้อง หรือ ไม่ท้อง อย่างที่สอง คุณควรคุย กับ ทางบ้าน คุณ  ถึงเหตุการณ์ ที่ผ่านมา เล่าทุกเรื่อง แล้ว ก็ต้องเป็นเรื่องจริง อย่าเล่า ในแนว ที่ เลี่ยงความผิด หรือ เป็นการแก้ตัว อย่างที่สาม คุณ ต้อง เป็นคนบอก แฟน คุณ แล้ว เล่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เหมือนกัน อย่าบอก อย่าพูด ในแนว เป็นการแก้ตัว เพราะ ยังไง คุณ ก็ทำร้ายเธอไปแล้ว ตั้งแต่ คุณ พลาด ไปนั่นแหล่ะ เล่าความจริง ไป มันไม่ทำให้ถึงตาย แต่ ก็ เจ็บ เอาการเลย แต่คุณต้อง เป็นลูกผู้ชาย กล้ารับในสิ่งที่ตัวเองทำ ยืดอก ไหล่ผิงไว้ ครับ ท่องไว้ เรา ลูกผู้ชาย แล้ว สุดท้าย ผมรู้ว่า คุณ รับไม่ทันกับ เรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้ คุณมีทางเลือก ไม่มาก คือ ต้อง เลือก ที่ จะรับผิดชอบ เด็กในท้อง หรือ เลือกที่จะรับผิดชอบทั้งแม่ ทั้งเด็ก ตรงนี้ ผม ไม่ตอบ ว่า คุณควรทำอย่างไร ต่อไป เมื่อเธอคลอดลูก ออกมา คุณอาจไม่มั่นใจว่า เป็นลูกคุณ หรือ ปล่าว คุณก็ตรวจ DNA ได้ ถ้าคุณเคลียร์ คุยกับทางบ้าน กับ คนรัก ของคุณ เสร็จ คุณจะเลือก ได้เอง ว่า สุดท้ายแล้ว คุณ จะทำอย่างไร กับ สิ่งที่เกิด ขึ้น อยู่นี้ อยากฝากไว้ ว่า "อย่าฟุ้งซ่าน คิดอะไร ต่อ อะไร เอง  แล้ว มอง ทางแก้ปัญหา บนความเป็นจริง นะ ครับ แล้วจะเจอ ทางออกเอง ครับ" จากคุณ : แสบสันต์ หมายเลข 8 เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 17:36:17

ความคิดเห็นที่ 25 ไปตรวจ DNA ลูกในท้องคุณให้แน่ใจก่อนว่าลูกคุณหรือเปล่า ถ้าไม่ใช้ลูกคุณก็จบ ถ้าใช้ลูกคุณ ก็มีทางเลือก 1.ไปแต่งกับคนที่คุณทำเขาท้องซะ แต่วิธีนี้ถ้ามันไม่รักกันจริงคิดว่าคงอยู่กันไม่รอด 2.ไม่แต่งกับเขาแต่ก็รับผิดชอบลูก และดูแลส่งเสียเขาบ้าง 3.ทำแท้งก็ยังเป็นทางเลือกนะ ถ้าคิดจะทำกันจริงๆ อย่ารอให้เกิน 5 เดือนเดี่ยวจะสายไปรีบคิดให้ได้ว่าจะทำอะไรกันแน่ จากคุณ : Anqueetas เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 17:52:33

ความคิดเห็นที่ 26 บอกทางบ้านคุณให้รู้เรื่องนี้ด้วยครับ แล้วให้ทางบ้านไปคุยกับทางฝ่ายผู้หญิงที่คุณจะแต่งงานด้วยว่าจะโอเครึเปล่าที่คุณจะมีลูก ถ้าเขาไม่ตกลงก็คงจะต้องเลิกลากันไป จากนั้นลองกลับมาคุยกับแฟนคุณว่ายอมรับได้มั้ย ถ้ายอมรับได้แล้ว ก็อาจจะพร้อมสร้างครอบครัวกับคนที่คุณรัก ส่วนเพื่อนสาวของคุณ คุณคงไม่ได้อยากจะแต่งงานด้วย ยังงั้นก็รับเด็กมาอุปการะเองเถอะครับ ฟังดูอาจเห็นแก่ตัว แต่ผมว่ามันอาจจะจบอย่าง happy ending ก็ได้นะ จากคุณ : Naicollo เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 18:02:14

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นใจคุณนะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งตำหนิตัวเอง เวลามีค่า หาทางแก้ไขดีกว่า ต่อไปนี้คือข้อแนะนำ 1. ยกเลิกงานแต่งงาน บอกไปเลยว่าทำผู้หญิงอื่นท้อง 2. คุยกะแฟนคุณให้เข้าใจ ถามเธอว่าพร้อมที่จะเผชิญและแก้ไขปัญหาไปกับคุณไหม 3. รอจนเด็กคลอด ตรวจดีเอ็นเอ ถ้าเป็นลูกจริงจะรับเลี้ยงดู หรือ จะส่งเสียอะไรก็ตามแต่ตกลงกัน แต่ไม่แนะนำให้รับผิดชอบโดยการแต่งงาน 4. เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ถ้าแฟนคุณเข้าใจ ก็จะได้แต่งงานกัน สร้างครอบครัว มีลูกเลี้ยงให้เธอไปในคราวเดียวกัน คุณเป็นคนเดียวที่รู้สถานการณ์ดีที่สุด ขอให้คิดแก้ไขปัญหาอย่างมีสติ สุดท้าย ขอเอาใจช่วยคุณขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี จากคุณ : หลักสาม เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 18:06:19

ความคิดเห็นที่ 28 ตัดสินใจได้เองเลยครับ มีคำแนะนำหลากหลายทางแล้ว ทำในสิ่งที่ควรทำ โดยใช้สติเป็นตัวนำ ขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิตครอบครัวครับ จากคุณ : ชอนตะวัน เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 18:19:40

ความคิดเห็นที่ 29   ถ้าเป็นผม ต้องตรวจให้ละเอียดเลยว่าเป็นลูกของผมจริงมั้ย ถ้าลูกของผมจริง ผมไม่ดีขนาดต้องไปแต่งงานกับเขาหรอกครับ แต่ลูกผมผมจะรับผิดชอบเองทุกอย่าง ให้เอาลูกมาให้ผมเลี้ยง ถ้าแฟนคนปัจจุบันเข้าใจผมจะแต่งงานกับเธอ และไม่มีลูกด้วยกันแต่จะให้ลูกของผมคนนั้นมาเป็นลูกของเราแทน ส่วนผู้หญิงที่แม่หามาให้คงต้องบอกไปตรงๆว่ามีลูกแล้วคงแต่งด้วยไม่ได้ ถ้ายังยืนยันจะแต่งด้วยก็บอกว่าเขาต้องอยู่ในฐานะเมียน้อย เหมือนนิยายเน๊าะแต่ผมจะทำจริงๆ ชีวิตคุณมันยุ่งเหยิงจริงๆพับผ่าสิ จากคุณ : tuipeera เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 18:37:16

ความคิดเห็นที่ 30 เข้ามาเอาใจช่วยค่ะ สู้ๆ จากคุณ : Paion menos เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 18:46:05

ความคิดเห็นที่ 31 บอกแม่ทุกอย่างที่เกิดขึ้น - หญิงที่จะต้องแต่งงานด้วยเค้าคงยกเลิกเพราะรับไม่ได้ - แต่งงานกับแฟนของคุณซะ เพราะต่างก็รักกัน - เด็กก็รับเป็นลูกค่ะเป็นความรับผิดชอบของคุณ ถ้าเป็นลูกคุณ  เพราะคุณกับแ่ม่เด็กก็ไม่ได้รักกัน ถ้ามาอยู่ด้วยกันคงจะเป็นไปได้ยาก จากคุณ : seetruelove เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 20:38:46

ความคิดเห็นที่ 32 ตาม 27 ค่ะ คุยกับแฟนให้เข้าใจ และถามว่าพร้อมที่จะเผชิญทุกสิ่งกับคุณไหม ถ้าแฟนไม่โอเค....คุณต้องเลือกที่จะตัดใจแล้วล่ะ ไม่งั้นทั้งคุณและแฟน จะช้ำกันไปอีกนาน ปล่อยแฟนคุณไปดีกว่า คุณกลับมาคุยกับแม่เรื่องแต่งงานและอธิบายเรื่องผู้หญิงท้องให้แม่ฟัง และคุณต้องยืนยันว่า คุณจะไม่ให้ไปทำแท้ง (บุญกุศลอันนี้จะทำให้คุณผ่านปัญหาไปได้ เชื่อเหอะ) ถ้าแฟนตอบตกลงก็โอเค ก็คุยกับแม่ ว่าไม่แต่งงานได้ไหม ตอนนี้ผมมีปัญหาเรื่อง...ทำผู้หญิงท้อง แต่มีผู้หญิงอีกคนพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างผม แล้วระหว่างที่ผู้หญิงอีกคนท้อง ส่งแฟนไปดูแล แทนที่คุณจะไปดูเอง หากผู้หญิงท้องไม่อยากทำงาน เพราะอับอาย คุณต้องรับผิดชอบส่วนนี้ด้วย อาจจะให้เงินเดือนไปในระหว่าง 9-12 เดือน และตกลงว่า เด็กที่เกิดมาจะอยู่ในความรับผิดชอบของใคร และคุณต้องแสดงว่าคุณสามารถรับผิดชอบได้ทั้งหมด โดยให้ คุณและแฟน เป็นพ่อแม่ ส่วนผู้หญิงคนนั้นหากต้องการร่วมรับผิดชอบ ก็ไม่เป็นไร ให้อยู่ในฐานะแม่ได้ โดยให้แฟนคุณ(หากแฟนคุณทำตามคห.27) เป็นแม่ใหญ่ ส่วนเรื่องว่าใครจะเลี้ยงนั้นก็ตามแต่ผู้หญิงคนนั้นจะเลือกแบบใด เวลาคุยอย่าบีบบังคับ แต่ให้เขาตัดสินใจด้วยตัวเขาเอง เอาใจช่วยค่ะ ชีวิตคุณเหมือนนิยายเลยเนอะ จากคุณ : โอ้ย...แจ่ม เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 20:45:02

ความคิดเห็นที่ 33 เหมือนหลายๆความเห็นครับ แต่ของผมจะพูดในแนวใกล้ขึ้นอีกนิดเพราะน้องสาวผมต้องอยู่ในภาวะเดียวกับแฟน จขกท คือ แต่งงานกับแฟนไม่ได้ ( ได้ก็ต้องฝ่าฟันมากๆ ) เพราะทางบ้านฝ่ายชายมีธุรกิจครอบครัวที่ใหญ่มาก เรื่องแต่งงานมันสำคัญต่อธุรกิจมากกว่าเรื่องรัก ให้ความเห็นเป็นข้อๆ นะครับ เผื่อเป็นประโยชน์ขึ้นซักนิด 1. เรื่องแต่งงาน แฟนน้องผมแก้ปัญหาง่ายมากๆ คือ ไม่ยอมแต่ง ถ้าครั้งไหนไปดูตัวกัน ถ้าไม่มีผู้ใหญ่ไปด้วย มันก็หนีบน้องผมไปด้วย ( เออ !!! น้องเราก็กล้ามากๆ แต่บางครั้งพาไปแบบไม่บอกน้องผมก็มี ) ถ้าไปกับผู้ใหญ่ มันก็ชิงถามคนที่มาดูตัวเลยว่า " น้องมีแฟนยังครับ " แล้วต่อด้วยว่า " พี่มีแฟนแล้วนะ " มุกนี้ เห็นหลุดมาหลายรอบแล้ว ส่วนเรื่องแต่งก็เตะถ่วงไปเรื่อยๆ บ้านผมก็ห่วงๆนะว่าน้องผมจะอยู่ในฐานะไหนของสังคม แต่คิดไปอีกที นั่นชีวิตน้องตัวเอง เขาคือคนเลือก เราทำได้คือดูแล และช่วยเหลือหากวันที่เขาเกิดล้ม ... เป็นวิธีที่ผมคิดครับ ต้องถามแฟนคุณว่า อดทนได้แค่ไหน เรื่องแต่งงาน ถ้าเขายอมรับได้ว่าไม่มีโอกาสแต่งงาน แต่ยังรักกันได้ ก็อยู่ด้วยกันนะครับ ผมว่าแฟนคุณคงเข้าใจนะ แต่คุณก็ต้องไม่แต่งกับใครนะ ถ้ายอมแต่งงานกับหญิงอื่นเพื่อทางบ้านนะครับ ผมกลัวแฟนคุณจะทนไม่ไหวครับ จะอยู่ในฐานะบ้านสองได้ไม่นาน ปัญหาอีกข้อ .. เรื่องทำหญิงท้อง : ใครจะว่าคุณเลวเพราะเมาครองสติไม่ได้ ผมไม่ว่าครับ เพราะเพื่อนผมโดนแบบคุณมาแล้ว คือพลาดแล้ว พลาดเลย แต่อย่าเอาสิ่งนั้นมาพลิกชีวิต คุณต้องรับผิดชอบลูกในท้อง ( เมื่อพิสูจน์แล้วว่า เด็กคนนั้นคือลูกคุณจริงๆ ) แต่คุณไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับผู้หญิงอีกคนเพราะไม่ใช่เรื่องดี คุณไม่ได้รักเขา อยู่ด้วยกันไป ปัญหายิ่งเรื้อรัง เลี้ยงลูกได้ แต่เลี้ยงแม่นี่อย่าทำ .... ฟังดูใจร้าย แต่เป็นผลดีในระยะยาวมากกว่า ยอมรับกับแฟนว่าคุณจะมีลูก แต่คุณจะมี " เมีย " แค่แฟนคุณคนเดียวเท่านั้น อีกข้อที่สงสัยคือ คุณมีธุกิจทางบ้านหรือเปล่า เพราะรู้สึกเหมือนคุณจะทำงานบริษัท ถ้าไม่มีจะแต่งงานกับหญิงอื่นด้วยเหตุผลทางบ้านในข้อไหนครับ เพราะแต่งงานเพื่อธุรกิจ อันนี้พอเข้าใจและน่าเห็นใจ มันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ถ้าเพื่อเอาใจคนที่บ้าน ก็ขอบายไปเลยครับ ไม่มีประโยชน์ที่จะมาตามใจใครเรื่องพรรค์นี้ เราไม่รู้ว่าโลกจะแตกเมื่อไหร่ ทำใมต้องทำอะไรที่มันบังคับใจตัวเองมากๆด้วย ( แต่ก็ต้องเว้นเรื่อง ธุรกิจนะครับ โดยเฉพาะคนจีน อันนี้ มันเลี่ยงยากเหลือเกิน และต้องจบด้วยแต่งงนกันไปหลายรายมาก ) หมายเหตุ ถ้าคุณเป็นคนจีนนะครับ แล้วทางบ้านยังไม่มีหลานชายนะครับ แอบมีลูกกับแฟนเป็นผู้ชายเลยนะครับ เพื่อนผมฝากบอกมาครับ บอกว่า ได้ผลมากกว่า 80 เปอร์เซนต์ ( โปรดคิดถึงวิธีนี้เมื่อทางตันเท่านั้น ) ................................................................................................. ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ต้องทำตามที่ผมบอกก็ได้ แต่เอาไปคิดไว้ก็พอ !!! ................................................................................................. จากคุณ : Bud-to-budding (Bud-to-budding) เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 21:43:03

ความคิดเห็นที่ 34 # 24 เคลียร์มาก เราตอบอะไรให้ไม่ได้ เพราะเราไม่ใช่ผู้ชาย.. จะสมน้ำหน้าก็ใช่ที่ ขอให้คิดดีๆ ใช้สติมากๆ ยอมรับความจริง อย่าแก้ตัว (คนดีชอบแก้ไข คน...ชอบแก้ตัว) คิดให้ดี คิดให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในคืนนั้น  เราไม่เชื่อว่าจะไม่รู้ตัวเลย ถ้าไม่รู้ตัวเลย เขาเรียกอะไรนะ เมาเหมือน... ในฐานะผู้หญิง ฉันสงสารแฟนคุณจริงๆเลย ไม่ไหวจะเคลียร์ จากคุณ : klint77 เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 22:48:43

ความคิดเห็นที่ 35 อืมมมม ปัญหานี้คุ้นๆ มากเลยอ่ะ น้องชายเราก็มีปัญหานี้แหละ คบอยู่กับผู้หญิงคนนึงตั้งหลายปี 6-7 ปีได้มั๊ง รักกันมากมาย ครอบครัวทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้คบกัน วางแผนจะแต่งงานกัน ในระหว่างนั้นก็มีเหตุให้ต้องใกล้ชิดกับผู้หญิงอีกคนนึงด้วยเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ จนเรื่องราวเกินเลยและที่สุดผู้หญิงบอกว่า "หนูท้อง" เอาละซิ งานเข้าคับท่าน น้องชายมีอะไรปกติก็จะเล่าให้เราฟังตลอดนะ โดยเรื่องนี้มันบอกว่าก็เคยมีอะไรกันแค่ครั้งเดียวเอง แต่ดูแล้วผู้หญิงก็เป็นคนดี เพราะฉะนั้นเบบี๋ก็ไม่น่าจะเป็นลูกของคนอื่นต้องเป็นของมันแน่ๆ น้องเราเลยตัดสินใจคุยกับแฟนที่คบกันอยู่ เล่าเรื่องให้เค้าฟังทุกอย่าง แล้วก็ขอเลิก โดยน้องเราให้เหตุผลว่า ไม่ว่าจะอย่างไรทุกอย่างก็ไม่มีวันจะกลับไปเหมือนเดิม เค้ากำลังจะมีลูก แล้วเค้าก็อยากให้คนที่เค้ารักมีชีวิตใหม่ และมีความสุขกับชีวิต (เราด่ามันว่าพูดง่ายจังนะ) แต่ในที่สุดหลังจากเลิกกันไปประมาณ 2 ปี แฟนเก่าน้องเราก็แต่งงานใหม่และมีลูกที่น่ารัก กับผู้ชายที่ดีอีกคนนึง และทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีกับครอบครัวเรา ไปมาหาสู่กันเหมือนเป็นญาติกัน สรุปคือน้องเรากับผู้หญิงคนที่ท้องน่ะ ไม่ได้รักกัน แต่ต่างฝ่ายก็ต้องรับผิดชอบกับชีวิตที่จะเกิดมา ไม่รักกันอยู่กันไปก็เกิดปัญหาเปล่าๆ แย่หน่อยพาลเกิดปัญหาทะเลาะกันให้ลูกเห็นอีก จะแย่กันไปใหญ่ น้องชายเราเลยตกลงกับเขาว่าถ้าลูกคลอด น้องเราจะรับผิดชอบเอง ผู้หญิงคนนั้นก็สามารถที่จะไปมีชีวิตแบบที่เขาต้องการได้ ถ้าคิดถึงลูกก็มาหาได้ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กอยู่กับครอบครัวเรา น้องชายเราก็ไม่สนใจผู้หญิงคนไหนอีก ใช้ชีวิตเพื่อดูแลลูกอย่างเดียว ตั้งแต่ยังเป็นเบบี๋คลอดออกมาเค้าก็เอามาเลี้ยงเอง คุณแม่เราก็ช่วยบ้าง แต่ส่วนใหญ่น้องเราจะทำเองทั้งหมด ชงนม เปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ ป้อนข้าว อ่านนิทาน บ้าง ส่วนญาติๆ ก็ช่วยดูแลกันไป ทุกฝ่ายก็ดูมีความสุข เจ้าตัวเล็กก็เป็นเด็กฉลาด อารมณ์ดี ช่างพูด เป็นสุดที่รักของทุกคนทั้งบ้าน แม่เราก็หลงหลานน่าดู ลูกๆ นี่ตกกระป๋องไปเลย ส่วนคุณแม่ของเจ้าตัวเล็กก็มีชีวิตของเขาไป มาหาลูกอาทิตย์ละครั้งบ้าง เดือนละครั้งบ้าง ลูกก็รู้ว่านี่แม่เค้านะ ทั้งน้องชายเรากับเค้าก็เป็นเพื่อนกัน พาลูกออกไปเที่ยวด้วยกันบ้าง ไปกินไอติมบ้าง ที่เล่ามาทั้งหมดก็แค่อยากจะบอกกับคุณ จขกท ว่า ความรับผิดชอบไม่จำเป็นต้องจบลงที่การแต่งงานใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันเสมอไป ลองคุยกันดูกับทุกฝ่ายแล้วหาทางออกที่ดีที่สุดให้ทุกคน รวมทั้งลูกของคุณที่กำลังจะเกิดมาด้วยนะคะ เด็กเค้าไม่ได้ผิดอะไรนะคะ อย่าลืมล่ะ โชคดีนะคะ ขอให้พบทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่ายได้ในเร็ววันนะคะ ความรักความเข้าใจของคนในครอบครัวแก้ปัญหาทุกอย่างได้ดีเสมอค่ะ (แม่เราช็อคสุดๆ ตอนแรกที่รู้เรื่อง แต่แม่รักลูกมาก รวมทั้งพี่น้องทุกคนก็ช่วยกันคิดหาทางแก้ปัญหา จนได้ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน) จากคุณ : And So??? เขียนเมื่อ : 16 ก.ย. 52 23:38:43

ความคิดเห็นที่ 36   ผู้หญิงคนล่าสุด ที่ปล่อยให้ท้อง ไม่กลัวเอดส์เหรอ ยอมลงทุนให้ตัวเองท้อง เพื่อจับผู้ชาย คงผ่านมาหลายคนแล้ว ถ้าแนะนำ ก็รอให้เด็กออกมาก่อน แล้วค่อยตรวจ DNA ถ้าเป็นลูกคุณจริง ค่อยคุยกันอีกที ว่าจะทำอย่างไร ไม่ต้องรีบแต่ง เพราะกลัวผู้หญิงเสียหายหรอก เพราะผู้หญิงอย่างนี้ คงผ่านมาเยอะแล้ว ไม่มีอะไรจะเสีย ถ้าไม่ใช่ลูกคุณ คุณก็มีโอกาสกลับไปหาคนแรกนะ จากคุณ : แจ๊ค เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 05:07:57 A:86.74.73.18 X: TicketID:221104

ความคิดเห็นที่ 37   ก่อนอื่นผมขอบคุณทุกคำแนะนำนะครับ จะทยอยอ่าน..ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้หลายๆคนมาเสียเวลากับเรื่องราวของผม ขอบคุณจริงๆครับ -/\- จากคุณ : จขกท (jangky__black) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 08:16:13

ความคิดเห็นที่ 38 อืมส์ สำหรับคนที่ท้องทำไมถึงปล่อยไว้ถึง 3 เดือนถึงมาบอก เดือนหรือสองเดือนก็น่าจะบอกกันได้แล้ว คิดอะไรอยู่ จากคุณ : OSK29560 เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 08:59:12

ความคิดเห็นที่ 39 เพิ่งเจอมาเหมือนกัน ผู้หญิงคนที่ท้อง อายุ 35 ปี คนอีสาน ทำงานห้าง ไม่จบป.ตรี เรา อายุ 31 ปี คนไทย-จีน ทำงานบ.เอกชนแห่งหนึ่ง จบป.ตรี ยังไม่มีไรกะเค้า เพิ่งคบกัน(แบบแฟน)ไม่ถึงปีค่ะ ผู้ชายเค้าต้องรับผิดชอบผู้หญิงที่ท้องค่ะ ตอนแรกมาบอกเลิก ไม่บอกสาเหตุ จนเรามารู้ทีหลัง เพราะผู้หญิงเอาเครื่องแฟนเก่าเราโทรมา บอกว่า เค้าเป็นเมีย และท้อง 2 เดือน (ตอนนี้คงใกล้คลอดแล้วมั้ง) เราก็เดินออกมาจากชีวิตเค้าค่ะ แต่ต้องทำงานที่เดียวกัน เจอกันบ้าง ก็พยายามทำใจอยู่ ... ผู้หญิงที่จับผู้ชายด้วยวิธีปล่อยท้องเนี่ย เราขอประณามว่า คุณเอาชีวิตบริสุทธิ์มาต่อรองอนาคต ... จขกท.พาลูกไปตรวจด้วยนะคะว่าลูกคุณจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นลูกคุณจริง ก็รับผิดชอบเด็ก แต่แม่ของลูก คุณไม่จำเป็นต้องทำใจรักเธอค่ะ หัวใจคุณบอกว่ารักใคร ใช้ชีวิตกับคนนั้น ส่วนเรื่องของเรา โชคดีเหลือเกินที่เรายังไม่มีอะไรกัน ตอนนี้เราก็มีหนุ่มรุ่นน้องที่เพื่อนเราแนะนำให้รู้จักกันมาชอบพอ เราเล่าเรื่องแฟนเก่าเราให้น้องเค้าฟังด้วยค่ะ และหวังว่า เราคงไม่เจอ Dejavu อีก =_=' จากคุณ : benjy_p เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 09:03:26

ความคิดเห็นที่ 40 เอางี้ไหมครับ......เหมาหมดเลยดีไหม ทั้งสามคน แต่งมันหมดเลยนะแหละ จะได้ไม่ต้องเสียดาย ไม่ต้องมานั่งรักพี่เสียดายน้อง จับมานั่งคุยกันเลยทั้งสามคน สามสาว แต่งพร้อมกันเลย พูดจริงนะ ไม่ได้ประชด ลองคิดดูนะครับ วิน วิน ทุกฝ่าย คนหนึ่งถูกใจแม่ คนสองถูกใจเรา คนสามความรับผิดชอบ อืม.......อย่าคิดมากปัญหามีไว้แก้ ไม่ได้มีไว้กลุ้ม คิดไม่ออกหลังไมค์ครับ จากคุณ : คุณอ้วนกว่า (โคแก่และหญ้าอ่อน) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 12:08:14

ความคิดเห็นที่ 41   คุณเคยคุยเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดให้แม่คุณฟังหรือเปล่าคะ??? เราว่าถ้าแม่คุณทราบว่า คุณมีคนที่รักอยู่แล้ว แม่คุณน่าจะเข้าใจ และยกเลิกเรื่องที่ขอให้คุณแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน สำหรับเรื่องเพื่อนคุณที่ท้อง เราไมรู้ว่าลูกใคร แต่เราไม่อยากว่า เค้าเอาเด็กมาต่อรองคะ สำหรับเรา เรื่องนี้มีทางออก 2 อย่าง 1. คุณส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้เด็กทุกเดือน 2. รับเด็กมาเป็นลูกคุณ ในกรณีที่คุณตรวจจนมั่นใจแล้วว่านี่เป็น เลือดเนื้อของคุณ สำหรับแฟนคุณ คุณบอกว่าเธอทราบเรื่องทุกอย่าง เธอมีความเห็น อย่างไรบ้างต่อการกระทำของคุณ เราคิดว่าเธอคงใจกว้างพอควร นะคะที่ทราบเรื่องทั้งหมดแต่ไม่โวยวายอะไรเลย ลองเล่าให้แม่คุณ ทราบและพาแฟนคุณไปไหว้แม่คุณด้วย เราคิดว่าแม่คุณคงเปิดใจ รับฟังคะ จากคุณ : Lilly เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 14:00:13 A:203.147.45.116 X: TicketID:146866

ความคิดเห็นที่ 42   อ่านหลายๆความเห็น แล้วงงมากก เออ...ทำไมรู้สึกว่่าไปโทษผู้หญิงที่คุณ จขกท ไปทำให้่ท้อง จขกท ผิดเต็มๆเลยนะ เมาแล้วก็ไปทำอย่างนั้น เราว่าตอนนั้นคงเมาด้วยกันทั่งคู่หรือเปล่า คงไม่มีเวลามาคุมหรอก ผู้หญิงคนที่ท้องกลับถูกมองไม่ดี เฮ้อ....หาว่าจะจับบ้าง อย่างนู้นอย่างนี้ ตอนนี้สงสารคนที่ท้องกับแฟนจขกท มากที่สุดอะ จากคุณ : ผ่านมาตอบ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 15:11:57 A:118.174.19.210 X: TicketID:171516

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่น่าสงสารตรงไหนเลยค่ะ กินเหล้า ครองสติไม่ได้ แล้วปล่อยตัวมีอะไรกับผู้ชาย แค่จดทะเบียนรับรองบุตร ก็ถือว่าเป็นการรับผิดชอบเด็ก ไม่ต้องรับผิดชอบแม่เด็ก ทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ผู้ชายก็ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูเด็ก และไปดูแลบ้าง ทนฝืนใช้ชีวิตคู่ไปก็เท่านั้น ในเมื่อไม่ได้รักกัน จากคุณ : benjy_p เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 15:21:54

ความคิดเห็นที่ 44 ขั้นแรก คุณเคยคุยกับคนที่แม่หามาให้หรือเปล่าคะ ถ้ายังไงแล้ว ไปเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง แล้วเธอจะไปเอง เพราะไงก็ไม่ได้รักกันอยู่แล้ว แล้วแม่คุณก็คงบังคับเค้า มาแต่งงานกับคุณไม่ได้แน่ๆ พอบอกเธอแล้ว ก็มาเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณแม่คุณทราบค่ะ (แม่คุณคงไม่เลวร้าย เหมือนในละครนะ) ส่วนเรื่องเด็ก ตอนนี้ดูแลไปตามสภาพค่ะ พาไปฝากท้อง หาของบำรุง รอคลอด แล้วค่อยตรวจ DNA ค่ะ (อย่าเพิ่งตรวจตอนอยู่ในท้องเลยนะ  สงสารเด็ก) ผลเป็นอย่างไร จากนั้นค่อยว่ากันค่ะ ไม่ต้องรีบค่ะ แก้ไขไปทีละขั้น เดี๋ยวดีเอง จากคุณ : TheMillerTime เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 52 15:27:30

ความคิดเห็นที่ 45 สงสัย อีก 1 ข้อค่ะ หาก เพื่อนร่วมงานคนนั้น บอกทางบ้านว่าท้องกับคุณ แล้วทางบ้านเค้าให้คุณแต่งงานกับลูกสาวเค้าล่ะคะ จะทำยังไง แล้วช่วงที่ ท้องโตขึ้นเรื่อยๆ จะทำยังไง จะให้ผู้หญิงลาออกจากงาน ไปเก็บเนื้อ เก็บตัวเพื่อรอคลอด อย่างเดียวเเหรอค่ะ ที่ถาม เพราะคิดว่า ผู้หญิงคนนั้นคงไม่อาจอยู่ในที่ทำงานได้ หากคุณไม่ยอมรับเค้าว่า เป็นแฟน หรือ คบกัน  เพราะคนที่ทำงานไม่รู้เรื่องพวกคุณด้วย   คำถาม และ ร้อยแปด ปัญหา ตามมาแน่ๆเลยค่ะ จากคุณ : แก้วเปล่า...แก้วใหม่ เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 11:49:03

ความคิดเห็นที่ 46 บอกตรงๆ เห็นใจมากครับ ซับซ้อนจนไล่เรียงความคิดตามแทบไม่ถูกเหมือนกัน ยังกะเอาปัญหาของเพื่อนผม 3 คนมารวมกันยังไงยังงั้น 1.แบบพิสดารที่สุด ซึ่งมีผู้กล่าวถึงไปแล้ว คือ ถ้าคุณรวย ก็เก็บไว้ทั้ง3คน แต่ผมก็ไม่กล้าคาดเดาว่า ภายภาคหน้าอะไรจะตามมา? อาจจะสุขขี อาจจะขมปี๋ ใครจะรู้? 2.ถ้าพิสดารไม่ได้ อันดับแรก เรื่องทำแท้งลืมไปก่อน แต่ในฐานะที่คุณไม่ได้คิดอะไรกับเพื่อนคนนั้น บวกกับเราไม่แน่ใจวัตถุประสงค์ของเธอ ก็ควรจะตรวจดีเอ็นเอเพื่อความกระจ่างแก่ทุกฝ่าย ผมมองว่า เป็นเรื่องแฟร์มากๆครับ ไม่ใช่การดูหมิ่นฝ่ายหญิง 3.มองในเชิงชิงไหวชิงพริบ เป็นไปได้ไหมว่า เรื่องทำเพื่อนท้องเนี่ย อาจใช้เป็นเหตุในการระงับการคลุมถุงชนได้ ผมว่าฝ่ายผู้หญิง,ซึ่งก็ไม่ได้รักเราเหมือนกัน,เค้าก็ไม่อยากร่วมสังเวียนที่ฝุ่นตลบอุตลุตขนาดนี้หรอกนะครับ หรือพูดในอีกนัยหนึ่ง คิดได้ว่า เรื่องมันวุ่นขนาดนี้ อย่าดึงคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่เพิ่มอีกคนเปล่าๆเลยครับ และ เป็นไปได้มั้ยครับว่า คุณไปคุยเปิดอกกับผู้หญิงที่แม่หามาให้เลย ไม่ต้องคุยผ่านนายหน้า เจ้าตัวเองก็คนครับ ไม่ควรถูกมองข้ามจากทุกฝ่ายเป็นสินค้าครึ่งตัวอย่างนี้ 4.เรื่องโดนนินทา-ตกเป็นขี้ปากที่ทำงาน อย่าไปสนใจครับ ถ้าเป็นเกมของเพื่อนสาวของคุณก็ไม่ใช่ว่าเราตกเป็นขี้ปากได้คนเดียว หรืออย่างเลวสุดก็ย้ายงาน ประเทศไทยมีที่ให้ยืนอีกเยอะครับ ทีนี้ ถ้าเราพอเชื่อได้ว่า เพื่อนคุณไม่บริสุทธิ์ใจ -  กรณีที่เด็กไม่ใช่ลูกคุณก็จบไป กลับไปที่ปัญหาตั้งต้นซึ่งเล็กลงอีกนิด -  กรณีที่เด็กเป็นลูกคุณจริง ก็รับเด็กเป็นลูก จะจ่ายค่าดูแล หรือรับเด็กมาเลี้ยงดูเองก็แล้วแต่เห็นควร 5.กรณีที่กับเพื่อนคุณ เป็นการ "พลาด"จริงๆ ซึ่งก็เป็นไปได้ ก็กลับไปที่ข้อ3.ก่อน แล้วก็กลับมาทบทวนกันอีกว่า ในเมื่อไม่ได้รักกัน แล้วเค้าจะเอาไง อันนี้ก็อยู่ที่ข้อตกลงและความรู้สึกรับผิดชอบของคุณครับ ซึ่งถ้าผลออกมาในรูป เธอก็ไม่ได้อยากแต่งงานอยู่กินกับคุณ ก็ออกมาในบทสรุปของข้อ4. ซึ่งฝ่ายคลุมถุงชนก็อาจขยาดคุณจนออกมาในรูปข้อ3. แต่ผมก็กลัวใจแม่คุณเหมือนกัน ทิฐิของผู้ใหญ่มักบวมเป่งจนประมาทไม่ได้เสมอครับ ส่วนในกรณีที่เค้าต้องการให้คุณรับผิดชอบ ผมก็เห็นว่าเป็นการสมควรครับ ไม่รู้จะแย้งยังไง ท้ายที่สุดนี้ คนที่ผมไม่เคยกล่าวถึงเลย คือแฟนของคุณ ตกอยู่ในสภาพจำยอมสุดๆ เพราะจั่วหัวมาแล้วแนวโน้มมีอยู่ว่าคุณไม่กล้างัดคุณแม่ซึ่งๆหน้า ผมไม่บังอาจไปแนะนำอะไร ได้แต่คาดหวังว่า ถ้าเธอ(และผู้ใหญ่ของทุกคน)ยอมรับที่จะอยู่แบบเมียรองได้ ก็ว่ากันไป เพราะอย่างไรก็ยังรักกันอยู่ หรืออย่างเลวที่สุด เธอก็จำต้องถอยไป,แต่ไม่ใช่อย่างผู้แพ้, เพราะคนเราไม่ได้มีหน้าที่ต่อสู้กับชะตากรรมที่ปรากฎซึ่งหน้าแล้ว แต่เราก็ต้องหาเส้นทางดำเนินชีวิตกันต่อไปครับ ปิดท้ายแบบจนปัญญาแท้ๆเรา บอกได้คำเดียวว่า สู้เค้าพ่อหนุ่มมมมมมมมม จากคุณ : อาจารย์โยดา เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 13:14:06

ความคิดเห็นที่ 47   เรื่องจริงใช่เป่าเนี่ย? ถ้าจริงก็อย่าไปต่อแขนต่อขาล่ะ รอให้แน่ใจว่าเป็นลูกตัวเองก่อน ที่เหลือคิดไม่ตกเหมือนกันแฮะ จากคุณ : นังตัวดี เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 14:46:49 A:125.27.74.217 X: TicketID:222046

ความคิดเห็นที่ 48 อย่างแรกเลย..ผมไม่สนับสนุนให้เกิดการทำแท้งเลย ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะท้องกับคุณจริงรึเปล่า.. --ตั้งสติ-- บอกความจริงกับคนในครอบครัวเลยครับ..เค้ารักคุณและจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..นี้มันชีวิตจริงไม่ใช่ละครน่ะครับที่จะตัดสินใจไปตามอารมณ์ --ค่อยๆแก้ปัญหาไปทีล่ะอย่าง-- พาผู้หญิงคนนั้นไปฝากครรภ์ และ ดูแลเค้าให้ดีที่สุด..รวมทั้งให้คิดถึงน้องที่กำลังจะเกิดมาด้วยครับ...แน่นอนว่าเด็กทุกคนต้องการพ่อ..คุณเลือกได้ครับว่าจะรับผิดชอบต่อสังคมหรือ ปัดภาระให้สังคม.. --ข้อตกลง-- ผมว่าในใจตอนนี้คุณคงจะสับสนมากๆ ...เอาเป็นว่า..ถ้าคุณอยากรู้ว่าเด็กใช่ลูกคุณหรือเปล่า ก็คงต้องให้เด็กแข็งแรงก่อนครับถึงจะเจาะเลือดพิสูจน์ DNA..ได้..จากนั้นค่อยมาคุยกันอีกที...หลังจากได้ผลตรวจแล้ว --สุดท้าย-- คนเรามีโอกาสผิดพลาดกันได้..และ.มันคือการเรียนรู้ในชีวิตจริง...สิ่งที่จะต้องคิดและทำต่อไปของคุณคือต้องกล้า ยอมรับ และ กล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องครับ..ผมเชื่อว่าตอนนี้คนที่รู้เรื่องคุณอาจมองคุณในแง่ลบ..แต่ตอนนี้มีแต่คุณเท่านั้นที่รู้ว่าจะต้องทำอะไรให้ถูกต้อง(อย่าทำแท้งเลยน่ะครับ)....มันอาจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของคุณ..แต่ขอให้คุณผ่านมันไปให้ได้ครับ...ซักวันคุณหันกลับมามองแล้วจะภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองได้กล้าตัดสินใจไป....ว่าได้เกิดมาเป็นลูกผู้ชายตัวจริง..ผมรับรองจากใจจริงว่าไม่เสียชาติเกิดครับ.. สู้สู้ครับ.....ขอเป็นกำลังใจให้คุณสู้ต่อไป... จากคุณ : Vegetarian_Power เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 22:57:17

ความคิดเห็นที่ 49 ปรึกษาหมอเหอะ เด็กเกิดมาก็มีปัญหานะ จากคุณ : โจนบ้ากับป้าแก่ๆ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 14:49:47

ความคิดเห็นที่ 50 เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามครับ.. จากคุณ : tenno เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 17:18:26

ความคิดเห็นที่ 51 เรื่องทำแท้ง ตัดไปก่อนครับ ถ้าทำ บาป จะติดตัวคุณไปตลอดการ จากคุณ : BonShi เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 52 16:16:54

ความคิดเห็นที่ 52 แฟนคุณเค้าจะรับได้จริงหรอ คุณเป็นผู้ชายประสาอะไร ตัดสินใจชีวิตตัวเองไม่ได้ บุพการีน่ะ เค้าต้องเห็นความสุขของลูกสิ ซ้ำร้ายยังปล่อยตัวไปกลับผู้หญิงที่เรียกว่าเพื่อนร่วมงานอีก พิจารณาตัวเองเหอะ จากคุณ : สงสารผู้หญิง (muttanajang) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 14:43:16