 |
ความคิดเห็นที่ 1 |
วันที่ 16 กันยายน ตื่น ตี 5 พาคุณพ่อไปหาหมอด้วยอาการที่ไม่ดีเอาซะเลย ปวดหัว เบ้าตามาก เอากัดฟัน เป็นผู้หญิงต้องอดทน ตกลงพาคุณพ่อไปหาหมอ (เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ) หมอนัดดูอาการทุก 4 เดือน แต่ว่า พ่อกลับต้องมานั่งดูแลเรา ถือกระเป๋าให้เรา และถามตลอดว่าเป็นยังไงมั่ง เดินไหวไหม เราก็แทบคลานแล้ว เดินไปไหนพยาบาลก็คิดว่าเราเป็นคนป่วย เพราะว่าเราเดินหยุดตามเสาทุกต้น และมีอาการหอบ เหนื่อยมาก 555++ ผ่านไป ครึ่งวันคุณพ่อตรวจเสร็จแล้ว เย้ๆ ๆ ครึ่งวันนี้มันช่างแสนทรมานและแทบเอาชีวิตไม่รอดจริงๆ รีบกลับไปส่งคุณพ่อ แล้วรีบตรงไปหาหมอโดยด่วน
ไปถึงโรงพยาบาล ประมาณ เที่ยงกว่า ด้วยสภาพที่แทบน๊อค วัดความดัน วัดไข้ อะไรต่ออะไร เต็มไปหมด ได้ยินแค่ว่า ไข้สูง 40 องศา เท่านั้น แล้วก็มีอาการเหนื่อย หอบ หายใจไม่ทัน ปวดหัวมาก มือ เท้าชา และหนาวสั่น ปวดท้อง ปวดเอว .... คุณหมอเข้ามาถามอาการก็ตอบถูกบ้างผิดบ้าง แบบจะพูดภาษาคนไม่รู้เรื่องแล้ว คนพาไป ตอบแทนให้บ้าง เพราะว่าคุณหมอ(อายุรกรรม)ต้องการลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่รักษาวันแรก ให้ยาอะไรไป เป็นอะไร และตอนนี้ต้องช่วยเหลือแบบไหน วินิจฉัยเสร็จ ... แอดมิด ... พยาบาลเอาพารามาให้กิน 2 เม็ด แล้วก็พาไป X-ray ปอด แล้วก็นอนรอห้องก่อน
ได้เวลาพักผ่อนแล้ว ... เลือกห้องพิเศษเดี่ยว โอ้ว ! ห้องใหญ่มาก แต่สภาพตอนนี้ ยังไงก็เดินไม่ทั่วห้องหรอก อิอิ พยาบาลจับเราแต่งตัวใหม่ด้วยชุดสีเขียวสดใส อิอิ แม้ๆๆๆ ข้างในก็โล่งสบายซะด้วย ชอบใจจัง อิอิ แต่..... จับเราวัดความดัน วัดไข้ และถามจนเรามึน ไม่รู้จะตอบอันไหนก่อน พยาบาลเข้ามาเยอะมาก แล้วก็ถามคนละคำถาม แต่ดันมาถามพร้อมกันนี้สิ เลยไม่รู้จะตอบคนไหนก่อนดี ... เลยให้เขาไปถามคนพามาแทน 555++
ฮั่นแน่ ... มิทันใด รถเข็ญเสียง ป๊อง แป๊ง มาแล้ว ... มาเจาะเลือดเอาไปเพาะเชื้อและให้น้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อนะค่ะ จามาทำไมตอนนี้ เมื่อวานยังเสียวไม่หาย แถมพวกจะเจาะที่เดิมอีก พี่พยาบาลขา ตรงนั้นอะ เมื่อวานเจาะไปแล้วค่ะ อ้าวหรอ ถ้างั้นเอาตรงนี้แล้วกัน (ตรงข้อมือ) พี่พยาบาลขา ไม่เอาเจ็บนะค่ะ (เราอ้อนไป) เจ็บนิดเดียวเอง เหมือนมดกัด โอ้ว ! ท่าทางมันจะมดตัวใหญ่มากนะพี่ พลางหันไปมอง ทำไมเอาเลือดเราไปเยอะจัง หลอดใหญ่ขนาดนั้นเลยหรอ แล้วก็เอา น้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อ เสียบให้แทน ... พี่ๆ ตัวนี้ไม่แพ้แน่นะค่ะ ยังสยองเมื่อวานไม่หาย ค่ะ รับรองตัวนี้ไม่แพ้ .... พี่พยาบาลคนสวยหันมายิ้มหวาน
มารวบยอดตรงนี้ว่า ... อยู่โรงพยาบาล 5 คืน 6 วัน 3 คืนแรก มีอาการ ปวดหัวมาก อาเจียน ปวดเอว(หลัง) ปัสสาวะแสบขัด นั่งประมาณ 5 นาที ถึงจะปัสสาวะออก และพยายามดื่มน้ำเยอะๆ แต่ว่าก็อาเจียนออกอยู่ดี ฉีดทั้งยาแก้ปวด 2 เข็ม และ ยาแก้อาเจียน นับไม่ถ้วน และให้ยากินด้วย แต่ว่า อาเจียนออกหมด มีไข้ สูงๆ ต่ำ รวมถึงความดันด้วย
แต่อีก 2 วันหลัง เริ่มดีขึ้น พอทานข้าวได้ แต่ว่านิดหน่อย แต่อาการทุกอย่าง ยังคงเหมือนเดิม ไข้ ปวดหัว ปวดหลัง
แต่น้อยกว่าวันแรกแล้วคุณหมอก็อนุญาตให้กลับบ้านได้ เมื่อวันที่ 21 กันยายน ให้ยามากิน 2 อย่างคือ
DZP 2 MG >> 1 เม็ด เช้า,เย็น LEFLOXIN 500 MG 1 เม็ด เช้า
และนัดให้มาดูอาการอีกที วันที่ 25 กันยายน (วันนี้ )
25 กันยายน ไปตามที่คุณหมอนัด และตรวจปัสสาวะอีกเช่นเคย ผลการตรวจ แจ้งว่า ในปัสสาวะยังมีเชื้อโรคอยู่ แต่ว่าดีขึ้น อาการที่แจ้งคุณหมอไปคือ ... ปวดเอว หลัง ขา ปวดหัวบ้างนิดหน่อย ตอนเย็นมีไข้ และไอมาก และคุณหมอให้ยามาใหม่คือ
D24T DEXTRO >> 1 เม็ด 4 เวลา (แก้ไอ) MO BIC 7.5 >> 1 เม็ด เช้า ( แก้ปวด,ลดอาการอักเสบบวม) M64T NORG >> 1 เม็ด เช้า,เย็น (ยาคลายกล้ามเนื้อ) T CLARITHRO 250 >> 1 เม็ด เช้า,เย็น (ยาฆ่าเชื้อ)
และนัดให้มาดูอาการใหม่ วันอังคารที่ 29 กันยายน ....
*** คำถาม ....เรื่องยา ตอนนี้ยังมียา DZP 2 MG >> 1 เม็ด เช้า,เย็น (เหลือ 2 เม็ด >> คือ ทานเย็นนี้ และเช้าพรุ่งนี้) LEFLOXIN 500 MG 1 เม็ด เช้า ( เหลือ 1 เม็ด >> คือ ทานเช้าพรุ่งนี้ ) ซึ่งมันจะไปตรงกับยาตัวใหม่ที่ให้มา ไม่ทราบว่า มันมีตัวไหนที่กินทับซ้อนกันบ้างหรือเปล่า
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านประสบการณ์ที่อาจจะยังไม่หายดีนักแต่ว่ามาเล่าถึงความน่ากลัวและความทรมาน ของการอั้นปัสสาวะ ... ผู้หญิงส่วนใหญ่มักเริ่มที่จะเป็น โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบก่อน แต่ถ้าไม่รีบรักษาจะขึ้นที่กรวยไต และทรมานหายร้อยเท่านัก (ปวดเอว) และอาจจะถึงขึ้นไตวายได้ ไม่เจอกับตัว ไม่รู้จริงๆว่ามันน่ากลัวและทรมานมากแค่ไหน
ตอนนี้คุณหมอก็วินิจฉันว่า เป็น กรวยไตอักเสบ และให้กินน้ำเยอะๆ
ขอให้ทุกคน รักษาสุขภาพ และดูแลตัวเอง ให้มากๆ เป็นอะไรนิดหน่อย รีบไปหาหมอจะได้รักษาทัน อย่าปล่อยให้เป็นเยอะเหมือนเรา
ขอบคุณทุกท่านค่ะ
จากคุณ |
:
จขกท. (น้องนู๋อิ๋ง)
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.ย. 52 14:52:13
|
|
|
|
 |