สามปีก่อนผมคิดว่าทำไมชีวิตเรามันหนักขนาดนี้ แต่วันนี้....
|
|
เคยเป็นครอบครัวสุขสันต์ พ่อแม่รักกันดี ผมกับน้องมีงานการดีๆ ทำ ชีวิตสบายๆ มาตลอด
แต่ใครเล่าจะมีแต่ความสุขได้ตลอด สามปีก่อนป้าที่รักมาก(เปรียบเหมือนแม่คนที่สอง) ป่วยเป็นมะเร็ง ดูแลอยู่ 4 เดือนก็เสีย เสียใจมาก ไม่เคยร้องไห้มากขนาดนี้มากอน
ต่อมาไม่กี่เดือน พ่อก็มาเป็นมะเร็งอีก วันที่รู้ผลเป็นวันเดียวกับวันเกิดน้องสาว แต่น้องสาวทำงานอยู่ ตจว. ต้องแกล้งโทรไป hbd ทั้งๆที่แม่นั่งร้องไห้อยู่ข้างๆ เพราะถ้าบอกไปมีหวังต้องดิ้นรนกลับมาแน่กลัวน้องมันจะสติกระเจิง จำได้ว่าตอนบอกความจริง น้องเดินไปร้องไห้ไป ผมได้แต่ปลอบว่าไม่ต้องห่วง ผมเตรียมการทุกอย่างไว้หมดแล้ว พ่อหายแน่ (ผมโกหกไป อันที่จริงๆ แล้วผมก็คิดอะไรไม่ออกเหมือนกัน)
อาทิตย์ถัดมาประกาศผลสอบป.โทปรากฎว่าสอบติด (สอบก่อนรู้ว่าพ่อป่วย) แต่คิดว่าจะสละสิทธิ์ เพราะคชจ ตอนนั้นสูงมาก เฉพาะค่ายาพ่อเดือนละแสนกว่า พ่อก็ห้ามไว้ว่าอย่าให้พ่อต้องมาเป็นอุปสรรค ถ้าไม่ไหวจริงขอตายดีกว่าอยู่แบบทำให้ลูกต้องเสียโอกาส (ฟังแล้วน้ำตาจะไหล) ก็เลยเรียน
แต่แค่นั้นยังไม่พอ สามเดือนต่อมาโดนลูกพี่ลูกน้องที่เคยรักกันดี (ย้ำว่ารักกันมากๆ) ฟ้องร้องอีกเกี่ยวกับมรดก เป็นสมบัติจากป้าที่เสียไปก่อนหน้า พวกมันฟ้องว่าเรายักยอก เพราะพ่อผมโอนที่ดินให้พวกมันช้าเนื่องจาก รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ซึ่งอันที่จริงมันเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมาเพื่อบีบ ให้มอบทรัพย์สินให้มันเพิ่มขึ้น ผมถามมันว่าที่ฟ้องมานี่คิดว่าพวกผมเจตนายักยอก จริงเหรอ มันก็บอกเปล่าไม่ได้คิดหรอกแต่มันทำเพื่ออนาคต พูดแบบเย็นชามาก รู้สึกว่าพวกนี้เป็นคนประเภทที่ไม่เคยเจอมาก่อน นึกในใจขนาดพ่อกรูป่วยพวกเมิงยังทำได้นะ ไม่เคยนึกญาติที่เราเคยรักมันจะอำมหิตขนาดนี้ เคยสมเพชพวกข่าวพี่น้องฟ้องกัน วันนี้เจอกับตัว จุกพูดไม่ออก ความโลภนี่มันน่ากลัวจริงๆ
รู้สึกว่าชีวิตมันหนักจริงลำพังแค่เรียนกับทำงานก็แทบกระอักแล้ว นี่ต้องพาพ่อไปโรงพยาบาลอาทิตย์สอง สามวัน ลุ้นว่ามะเร็งมันจะยุบหนอพองหนอหรือไม่ แถมยัง เคยต้องขาดสอบเพื่อไปขึ้นศาลอีก ต้องมานั่งเดาว่ามันจะมาไม้ไหน มันจะเอาอะไรกับกรูฟระ แต่ละเรื่องมันวนอยู่ในหัวตลอดสลับไปสลับมา สารพัดเรื่อง ยิ่งช่วงไหนงานยุ่งบวก ช่วงสอบนี่ สุดๆ
แต่จะมาลำพึงลำพันไปก็เท่านั้น ลุยกับปัญหาดีกว่า เริ่มจากหาทางลด คชจ ยาของพ่อ เลยปรึกษาหมอ หมอพูดทีเล่นทีจริงว่าที่อินเดียจะมียาเหมือนกันแต่ละเมิดpatent ทำให้ถูกลง เลยพยายามขวนขวายจนได้ยามา คชจ. ลดเหลือเดือนละหมื่นกว่า
เรื่องคดีความ มานั่งคิดมรดกที่ได้มาถ้าไม่ตายหาใหม่ได้ มันอยากได้อะไรยกให้เลย จนทนายฝ่ายนั้นยังมาบ่นว่าลูกความเค้าทำเกินไป สุดท้ายพอได้ไปจนพอใจเรื่องก็จบ แค้นมั๊ย ...แค้นแต่คิดว่าพวกมัน สาบานในศาลแล้วสักวันคำสาบานนั้นจะลงโทษมันเอง
ระหว่างนั้นเลยก็ตัดสินใจออกจากงานประจำมาทำงานที่บ้านแทน รายได้ลดลง แต่มีเวลาดูแลครอบครัวมากขึ้น อาการป่วยของพ่อก็ดีขึ้นแต่ยังเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆ เหมือนเดิม ด้านคชจ. คุณหมอท่านเมตตาเห็นความพยายาม ในการหายาเลยส่งตัวเข้ามูลนิธิ ทุกวันนี้ค่ายาเลยฟรี จากที่เคยเหนื่อยมากๆ วันๆแทบไม่ได้นอน ก็เริ่มสบายขึ้น
ทุกวันนี้เรื่องเรียนกับคดีความจบแล้ว
หายเหนื่อยขึ้น...
ชีวิตดูดีขึ้นจริงๆ แต่ล่าสุด แฟนมาทิ้งไปอีก....ให้ได้งี้สิ
หึ ครบยัง ๆ ยังขาดอะไรอีกมาสิมาอีก(หลุดโลกไปพักนึง)
พอสติกลับเข้าร่าง เลยมานั่งคิดดูว่าสามปีมานี้เจออะไรมาเยอะนะ
คิดว่าแย่แล้วแต่ก็มักเจออะไรมาซ้ำเข้าไป
หรือพอคิดว่าดีขึ้นแล้ว ก็เจออะไรไม่คาดฝันอีก
ทุกวันนี้เลยรู้สึกว่าภูมิต้านทานในชีวิตสูงขึ้น
เวลาไปโรงพยาบาลหรือไปมีทติ้งของมูลนิธิกับพ่อ
ต้องเจอคนที่มีชะตากรรมเดียวกัน
ก็คิดได้ว่าไม่ใช่เราคนเดียวที่เจอ หนักกว่าเราก็มี เยอะด้วย
ฉะนั้นจะงานหนัก แฟนทิ้ง เจ็บไข้ได้ป่วย ต้องจากคนที่รัก
ปัญหาความขัดแย้ง ความแค้นฯ
ล้วนแต่เป็นเรื่องที่เจอกันทุกคน และส่วนใหญ่ก็ผ่านไปได้
พักหลังยิ่งได้เข้ามาห้องนี้ได้อ่านเรื่องของพี่ๆ เพื่อนๆ
ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องของเรามันก็เท่านั้น....
คิดว่าพยายามใช้ชีวิตให้มีความสุข ในช่วงชีวิตที่เป็นทุกข์ก็ได้นี่นา....
สุกๆ...ดิบ...กันไป
จากคุณ |
:
ขอโทษที่อ้วน
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ก.ย. 52 23:27:06
|
|
|
|