ความคิดเห็นที่ 1 ขอบคุณ ข้อมูลจากสถาบันมะเร็ง ครับ http://www.nci.go.th/knowledge/whatis.html ---------------------------------------------------------- มะเร็ง คือ กลุ่มของโรคที่เกิดเนื่องจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติ ที่ DNA หรือสารพันธุกรรม ส่งผลให้เซลล์มีการเจริญเติบโต มีการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ รวดเร็ว และมากกว่าปกติ              ดังนั้น จึงอาจทำให้เกิดก้อนเนื้อผิดปกติ และในที่สุดก็จะทำให้เกิดการตายของเซลล์ในก้อนเนื้อนั้น เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยงเพราะการเจริญเติบโตของหลอดเลือด ถ้าเซลล์พวกนี้เกิดอยู่ในอวัยวะใดก็จะเรียกชื่อ  มะเร็ง ตามอวัยวะนั้น เช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น เท่าที่มีรายงานไว้ใน ขณะนี้ มะเร็งที่พบในร่างกายมนุษย์มีมากกว่า 100 ชนิด มะเร็งแต่ละชนิดจะมีการดำเนินของโรคไม่เหมือนกัน เช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง จะมีการดำเนินชนิดของโรคที่รุนแรง ผู้ป่วยจะมีชีวิตการอยู่รอดสั้นกว่าผู้ป่วยมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น ดังนั้น การรักษามะเร็งแต่ละชนิดจะไม่เหมือนกัน มีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่เป็นมะเร็ง ระยะของมะเร็ง สภาพร่างกาย และความเหมาะสมของผู้ป่วยมะเร็ง การรักษาจะยากหรือง่ายนั้นก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเซลล์มะเร็งและการดำเนินโรคของมะเร็งด้วย เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งผิวหนัง รักษาง่ายกว่า มะเร็งปอด มะเร็งสมอง เป็นต้น จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:09:03

ความคิดเห็นที่ 2 อาการและอาการแสดงของโรคมะเร็ง 1. ไม่มีอาการใดเลยในช่วงแรกขณะที่ร่างกายมีเซลล์มะเร็งเป็นจำนวนน้อย 2. มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งตามสัญญาณอันตราย 8 ประการ ที่เป็นสัญญาณเตือน ว่าควรไปพบแพทย์ เพื่อการตรวจค้นหาโรคมะเร็ง หรือสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้มีสัญญาณเหล่านี้ เพื่อการรักษาและแก้ไขทางการแพทย์ที่ถูกต้องก่อนที่จะกลายเป็นโรคมะเร็ง หรือเป็นมะเร็งระยะลุกลาม 3. มีอาการป่วยของโรคทั่วไป เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ร่างกายทรุดโทรม ไม่สดชื่น และไม่แจ่มใส 4. มีอาการที่บ่งบอกว่า มะเร็งอยู่ในระยะลุกลาม หรือเป็นมาก ขึ้นอยู่กับว่าเป็นมะเร็ง ชนิดใดและมีการกระจายของโรคอยู่ที่ส่วนใดของร่างกาย ที่สำคัญที่สุดของอาการในกลุ่ม นี้ ได้แก่ อาการเจ็บปวด ที่แสนทุกข์ทรมาน สัญญาณอันตราย 8 ประการที่ทุกคนควรจะจำไว้เพื่อสุขภาพที่ดี ได้แก่ 1.มีการเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่ายอุจจาระ และปัสสาวะ เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ หรือปัสสาวะเป็นเลือด 2. กลืนอาหารลำบาก หรือมีอาการเสียด แน่นท้องเป็นเวลานาน 3. มีอาการเสียงแหบ และไอเรื้อรัง 4. มีเลือดหรือตกขาวที่ผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็น 5. แผลซึ่งรักษาแล้วไม่ยอมหาย 6. มีการเปลี่ยนแปลงของหูดหรือไฝตามร่างกาย 7. มีก้อนที่เต้านมหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 8. หูอื้อหรือมีเลือดกำเดาไหล จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:11:13

ความคิดเห็นที่ 3 มะเร็งที่รักษาให้หายได้   ปัจจุบันนี้ แพทย์สามารถรักษามะเร็งหลายชนิดให้หายได้ หรืออย่างน้อยก็ ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งมีชีวิตการอยู่รอดที่ยาวนานเท่ากับบุคคลปกติที่อยู่ในวัยเดียวกัน ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของมะเร็งที่พบ เพราะมะเร็งระยะ เริ่มแรกย่อมมีการตอบสนอง ต่อการรักษาหรือมีโอกาสหายมากกว่าระยะลุกลาม หรือระยะสุดท้าย --------------------------------------------------------------- มะเร็งต่าง ๆ ที่สามารถรักษาให้หายได้ในปัจจุบันนี้ ที่สำคัญ มีดังนี้ มะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบเฉียบพลันชนิดลิมป์โฟไซติค ลิวคีเมีย มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอร์ดกิ้น มะเร็งไตในเด็กชนิด วิมส์ ทูเมอร์ มะเร็งลูกอัณฑะ มะเร็งกระดูก ชนิด อ๊อสติโอเจนนิค ซาร์โคม่า มะเร็งรังไข่ชนิดเนื้อเยื่อบุผิว มะเร็งผิวหนังบางชนิดเช่น Basal cell carcinoma มะเร็งเต้านม มะเร็งปอดชนิด Small cell มะเร็งหลังโพรงจมูก มะเร็งชนิดเนื้อเยื่อ Germ cell จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:12:33

ความคิดเห็นที่ 4 มะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย เพศหญิง 1. มะเร็งปากมดลูก 2. มะเร็งเต้านม เพศชาย 1. มะเร็งตับ 2. มะเร็งปอด ------------------------------------------------- โภชนาการกับโรคมะเร็ง จากการศึกษาพบว่า อาหารอาจมีส่วนสัมพันธ์ กับการเกิดโรคมะเร็งได้ประมาณ 30-50% แต่ในขณะเดียวกันอาหารประเภทพืชผัก ผลไม้ ธัญพืช และ เครื่องเทศต่างๆ ก็มีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็งได้ ดังนั้น การรับประทานอาหารอย่างถูกต้องตามหลัก โภชนาการ จึงเป็นหนทางหนึ่ง ซึ่งสามารถป้องกันโรคมะเร็งได้ อาหารที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็ง 1.อาหารที่มีราขึ้นโดยเฉพาะราสีเขียว-สีเหลือง   2.อาหารไขมันสูง   3.อาหารเค็มจัด ส่วนไหม้เกรียมของอาหารปิ้ง ย่าง รมควัน และอาหารที่ถนอมด้วยเกลือ ดินประสิว จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:14:52

ความคิดเห็นที่ 6 มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ลำไส้ใหญ่เป็นส่วนล่างของระบบทางเดินอาหาร ซึ่งติดต่อโดยตรงกับลำไส้เล็กและส่วนปลายสุดของลำไส้ใหญ่ ก็คือ ทวารหนัก   ---------------------------------------------------------------------------- สาเหตุ/ปัจจัยที่ทำให้เกิดมะเร็งชนิดนี้ คือ อาหาร เช่น การรับประทานอาหารประเภท เนื้อสัตว์มาก ไขมันสูง หรือมีเส้นใยน้อย เป็นประจำ และโรคบางอย่างของลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นโรคทางกรรมพันธุ์ ติ่งเนื้องอกใน ลำไส้บางชนิดอาจกลาย เป็นมะเร็งได้ --------------------------------------------------------------------- อาการ 1. มีการเปลี่ยนแปลงนิสัยในการถ่ายอุจจาระ ทั้ง จำนวนครั้ง และลักษณะของอุจจาระที่ออกมา   2. มีเลือดเก่า ๆ และมูกออกมาทางทวารหนัก   3. ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรื้อรัง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ   4. น้ำหนักลด อ่อนเพลีย ซีด หรือโลหิตจาง โดย หาสาเหตุไม่ได้   5. คลำก้อนได้ที่บริเวณท้องและมีการอุดตันของ ลำไส้ใหญ่   ---------------------------------------------------------------------------- การรักษา   1.การผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่ใช้วีธีการตัดออก และ ต่อกันได้ มะเร็งทวารหนักที่อยู่ใกล้ทวารหนัก อาจพิจารณาปิดทวารหนักเดิม และทำทวารเทียม ให้บริเวณหน้าท้องผู้ป่วย ผู้ป่วยจะถ่ายอุจจาระ ทางหน้าท้อง และสามารถใช้ชีวิตได้ปกติกับ ทวารใหม่นี้   2. การบำบัดด้วยรังสี ใช้ในมะเร็งทวารหนัก   3.เคมีบำบัดใช้บรรเทาอาการหรือร่วมกับการผ่าตัด   การรักษาอาจใช้วิธีเดียวหรือร่วมกันหลายวิธีก็ได้   --------------------------------------------------------------------------- การตรวจวินิจฉัย 1. การตรวจลำไส้ใหญ่ด้วย X-ray โดยการ สวนล้างแบเรียม เข้าทางทวารหนักแล้ว ถ่าย X-ray   2. การตรวจด้วยกล้องส่องตรวจลำไส้ใหญ่ สามารถดูรอยโรคโดยตรงและตัดชิ้นเนื้อไปวิเคราะห์ได้ด้วย   3. การตรวจเลือดหาสาร CEA ซึ่งใช้ในการติดตามผลการรักษา จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:20:14

ความคิดเห็นที่ 7 มะเร็งกระดูก เป็นมะเร็งที่พบได้น้อย ประมาณร้อยละ 5 ของมะเร็งทั้งหมด มักพบในผู้ที่มีอายุมาก กว่า 40 ปี และพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง   อาการ จะพบว่ามีก้อนแข็งหรือปุ่มยื่นออกมาจากกระดูก ก้อนจะโตเร็ว ต่อมาจะมีอาการปวดร่วมด้วย บางรายมาด้วยอาการกระดูกหักแตกได้ง่ายจากการกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อย   การวินิจฉัย แพทย์จะตรวจร่างกายอย่างละเอียด มักต้องอาศัยเอ็กซเรย์ร่วมด้วย บางรายแพทย์อาจตัดชิ้นเนื้อไปตรวจดูทางพยาธิวิทยา เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องแม่นยำ และวางแผนการรักษา ต่อไป   การรักษา โดยทั่วไปอาศัยการผ่าตัดเป็นหลักอาจใช้การฉายแสงหรือยาเคมีบำบัดร่วมด้วยในบางกรณี   ข้อพึงปฏิบัติ มะเร็งของกระดูก แม้พบได้น้อย แต่เมื่อเป็นแล้วจะมีความรุนแรงมาก ผู้ป่วยจะทรุดลง อย่างรวดเร็ว ดังนั้น หากพบความผิดปกติดังกล่าวข้างต้นควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะการ วินิจฉัยได้เร็วและให้การรักษาโดยฉับพลันเป็นหัวใจของความอยู่รอดของผู้ป่วยต่อไป จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:21:52

ความคิดเห็นที่ 8 ขอยกมาเท่านี้ละกันครับผม ในเว็บเค้ามีบอกไว้ดังนี้อ่ะครับ ใครสนใจเข้าไปดูได้เน้อ ลิ้งค์มีไว้ด้านบนแล้ว มะเร็งปากมดลูก มะเร็งมดลูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ   มะเร็งปอด   มะเร็งตับอ่อน มะเร็งกระดูก มะเร็งผิวหนัง มะเร็งโพรงหลังจมูก มะเร็งช่องปาก   มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกล่องเสียง   มะเร็งต่อมธัยรอยด์ มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งถุงน้ำดี และท่อน้ำดี   มะเร็งและเนื้องอกในระบบประสาท มะเร็งระบบทางเดินอาหาร ปัสสาวะ และอวัยวะสืบพันธุ์ชาย ------------------------------------------------------------------- ราตรีสวัสดิ์ครับ จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:27:01

ความคิดเห็นที่ 9 เยี่ยมเลยครับ ได้อ่านกันมีความรู้เพิ่มเติมเยี่ยม! จากคุณ : หล่อเกินระบบจะรองรับ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 23:20:47

ความคิดเห็นที่ 10 งี้ดิ่ ค่อยน่าเป็นกระทู้แนะนำหน่อย  เนาะ........ จากคุณ : aftertime เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:42:21

ความคิดเห็นที่ 11 คนผ่านมาไม่อยากโหวตก็ไม่เป็นไร ช่วยคลิกเก็บเข้าคลังนิดนึงก็ดีครับ จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 00:48:58

ความคิดเห็นที่ 12   สถิติดีๆ ผู้่ป่วยเยอะเจงๆ http://www.chulacancer.net/statistic/new_patient.html http://www.chulacancer.net/statistic/patient_radiotherapy.html http://www.chulacancer.net/statistic/patient_radiotherapy_technic.html http://www.chulacancer.net/patient/page024.htm http://www.chulacancer.net/p0000554.html จากคุณ : wisut (wisutiyano) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 07:41:58

ความคิดเห็นที่ 13 จัดไป 1 จึ๊ก จากคุณ : งามครอบคลุมจักรวาล เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 09:27:46

ความคิดเห็นที่ 14   โหวตไม่ได้ .. แต่จะเก็บเข้าคลัง (ยังไม่เคยเลย..จะลองหาดู) ขอบคุณหลายเด้อ.. จากคุณ : maz69 เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:11:19

ความคิดเห็นที่ 15 คห.12  สถิติผู้ป่วย  ก็เพิ่มขึ้นทุกปีแหละครับ  (ผมว่านะ เฮ้อ) ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพราะวัฒนธรรมการกิน การทำงาน  การใช้งานร่างกายแบบผิดปกติที่ธรรมชาติให้มาอ่ะป่าว คห.13  ขอบคุณครับพี่งาม คห.14 กดเก็บเข้าคลัง อยู่ตรงข้างล่างอ่ะครับ ไม่รู้ว่าสมาชิกมือถือกดเก็บได้ป่าวอ่ะ แต่ยังไงก็ขอบคุณครับ จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:03:23

ความคิดเห็นที่ 16 สำหรับเราไม่ต้องมองที่ไกลเลยค่ะ แม่กับยายเราก็เป็นค่ะ แม่เป็นมะเร็งเต้านม เป็นตอน5-6ปีที่แล้ว ระยะที่2 ตอนนี้หมอบอกว่าหายแล้ว แต่ก็ยังต้องตรวจเรื่อยๆค่ะ ส่วนยายเป็นมะเร็งลำไส้ เป็นตอน10ปีที่แล้ว รู้สึกจะระยะที่2 ตอนนี้ก็สบายดีค่ะ มีโรคคนแก่ถามหาเป็นระยะๆ แล้วเรานี่สิ จะเป็นกะเค้าไม๊เนี่ย กลัวมากๆๆๆ จากคุณ : หมาเก้อ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:14:43

ความคิดเห็นที่ 17 คห.16  เราก็ งงๆอยู่ว่า ตกลงมะเร็ง มันเป็นโรคทางพันธุกรรมรึเปล่า แต่ที่เคยได้ยินมา เค้าบอกว่า ที่คนในครอบครัวเป็นมะเร็งเหมือนกัน เพราะใช้ชีวิตคล้ายๆกัน  ทานอาหารคล้ายๆกัน ปัจจัยที่ก็ให้เกิดมะเร็งเลยคล้ายๆกันครับ อันนี้ไม่รู้แหะ รอผู้รู้มาบอกอีกทีจ้า จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:42:15

ความคิดเห็นที่ 18 พันธุกรรมก็เกี่ยวครับ แต่ส่วนมากแล้ว ตามความเห็น 17 ครับ พฤติกรรม อาหาร ความเครียด น่าจะเป็นสาเหตุหลักๆเลยครับ เคยมีการวิจัยว่า เชื้อชาติที่อพยพไปอยู่ที่อื่น จะมีอัตราการเกิดมะเร็ง ไม่เหมือนกับ เชื้อชาตินั้นในบ้านเกิดตัวเอง มะเร็งเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวแล้วครับ จากคุณ : wanchale เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:52:49

ความคิดเห็นที่ 19 ผมก็คิดเหมือนคุณเจ้าของกระทู้ครับ มะเร็งเนี่ยใกล้ตัวผมเหลือเกิน แม่ผม(แม่ที่เป็นคนเลี้ยงผม ไม่ใช่แม่ที่ให้กำเนิดผม) ก็เสียชีวิตแล้วด้วยมะเร็ง มะเร็งที่ขั้วปอด ได้เป็นเคสศึกษาของหมอด้วยครับ ท่านเพิ่งเสียเมื่อต้นปีนี้เอง จนมาเมื่อสองเดือนก่อน หมาที่บ้านผมก็เป็นมะเร็งครับ ตอนนี้มันกำลังนอนทรมาน มีแผลกดทับที่ต้องดูแล เพราะมะเร็งเต้านมที่ขาหลัง ไปกดทับทำให้น้ำเหลืองที่ขาหลังไหลไม่สะดวกจนขาบวมเดินไม่ได้ ผมกำลังคิดว่า จะต้องมีบุคคลหรือใครที่ผมรัก ต้องเสียชีวิตเพราะมะเร็งอีกกี่คนกัน ถ้าเลือกได้ผมอยากเลือกขอป่วยคนเดียวแล้วก็ตายคนเดียวแทนคนที่ผมรักทุกๆคน ... ฝันน่ะครับ ได้แค่ฝัน จากคุณ : ยังไ่ม่อยากตื่นจากฝัน (อย่าให้ต้องพูดซ้ำอีกนะ) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:15:25

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับ คห.18   ว่าแล้วก็ไปดูแลตัวเองให้ห่างจากมะเร็งดีกว่าครับ ด้วยการไปกินไก่ย่าง ส้มตำเค็ม เปรี้ยว เผ็ด (อันนี้เค้าล้อเล่นจ้า  เหอๆ) จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:17:56

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ คห.19  แล้วคนที่รักคุณล่ะครับ ไม่คิดบ้างหรอ ว่าถ้าคุณเป็น แล้วคนที่รักคุณ เค้าจะไม่คิดแบบคุณ เหอๆ อยู่แบบไม่มีโรคภัยน่ะดีแล้วครับ จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:20:38

ความคิดเห็นที่ 22 อยากให้คนไทยสุขภาพดี ไม่อยากเห็นใครต้องเจ็บป่วยเลย การมีสุขภาพดีนั้นมันสำคัญที่สุดเลย จากคุณ : Wa-Oo เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:33:54

ความคิดเห็นที่ 23 ตามประวัติของครอบครัว ทุเรียนฯ คุณตา เป็น มะเร็งตับ คุณยาย (น้องสาวคุณตา)เป็นมะเร็งปากมดลูก คุณลุง (พี่ชายแม่) เป็น มะเร็ง กระเพาะปัสสาวะ คุณน้า (เป็นมะเร็งผิวหนัง) และ ตัวแม่ ของ ทุเรียน เป็น มะเร็งรังไข่ ลำไส้ ตับ ปอด(มันกินไปทีละอย่าง ค่ะ) เมือหลายวันก่อน มี จนท พยาบาล จาก สาธาฯ มาตรวจพื้นที่ เช็คประวัติ เขา แนะ นำ ให้ ทุเรียนฯ รีบ ไปทำการเช็คร่างกาย และ ดูแลตัวเอง แต่เนิ่นๆ  เพราะ ดูแล้ว น่าจะเป็นกรรมพันธุ์   เพราะ โอกาส ที่จะ เป็น สูง มากๆๆ ทำเอา กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เลย นะ   กะว่า ว่าง เมื่อไหร่ จะ รีบไปตรวจ ทันที ค่ะ จากคุณ : ทุเรียนสีชมพู เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 13:57:31

ความคิดเห็นที่ 24 คุณตาเป็นมะเร็งตับ(เสียชีวิตปี 2506) น้องของคุณยาย(เราก็เรียกคุณยายเหมือนกัน แต่คุณแม่เรียกน้า)เป็นมะเร็งผิวหนัง (กำลังรักษา) คุณลุงกับคุณพ่อเป็นมะเร็งลำไส้(หายแล้ว) น้าเป็นมะเร็งปากมดลูก ระยะที่ 1 (ตัดออกไปเลย -- หายแล้ว) เพื่อน 4 คนเป็นมะเร็งตั้งแต่อายุ 17 19 20 22 ลำไส้x2 กระดูก แล้วก็ผิวหนัง คุณแม่เคยเป็นมะเร็งมดลูก ระยะที่ 0 ตอน ธค. 39 (น่าจะตัดออกไปนะ ไม่รู้เรื่องเรายังเด็กอยู่) หลังจากรักษาก็ไปตรวจทุกปี ตั้งแต่คอลงมา ดันแจ๊คพอต หมอไม่ได้ฆ่าเชื้อมะเร็งให้(สมัยนั้นยังไม่มี) ขึ้นไปสมองเลย หมองงมาก บอกน่าจะไปที่ตับ หรือต่อมน้ำเหลืองก่อน คุณแม่เสียชีวิตตอนเดือน พค นี่เองค่ะ จากคุณ : เดินโซเซ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:14:09

ความคิดเห็นที่ 25 ของแบบนี้ไม่เข้าใครออกใครนะครับ แนะนำให้รีบ ๆตรวจ รีบ ๆเจอ รีบๆ รักษาครับ ก่อนจะสายเกินไป อย่างกรณีของผม ปู่ เป็นมะเร็งตับ พี่ชายพ่อ ก็เป็นมะเร็งเช่นกัน แต่ผมจำไม่ได้ว่ามะเร็งอะไร.. พ่อผมที่พึ่งจะเสียไป จึง..เป็นมะเร็งหลายๆอย่างพร้อมกันครับ... 55 เรื่องมันเริ่มจากไวรัสตับ C ที่ได้รับจากการให้เลือด ตอนที่พ่อเป็นโรคไข้เลือดออก เมื่อ 20 กว่าปีก่อน (เข้าใจว่าสมัยก่อน ไม่มีการ filter เรื่องโรคที่ติดมากับเลือดบริจาค) สูบบุหรี่มาแล้ว 20 กว่าปีเช่นกัน สูบแต่เด็กๆเลย จนมาวันนึง ไม่ได้ตรวจสุขภาพมาเป็นสิบๆปี เลยไปตรวจสุขภาพกัน ลุ้นว่าจะเป็นอะไรเกี่ยวกับ ปอดมั๊ย? ปรากฏปอดไม่เป็นอะไร... แต่ได้ไวรัสตับ C มาแทน เลยเริ่มรักษากัน.. (เหมือนตั๊กมะยุรามั๊ง) ค่ายาแพงมากมาย..... เพื่อรักษษไวรัสตับ C เนี้ย  ก็กำลังอยู่ในช่วงระหว่างเตรียมร่างกายให้พร้อม เพืีอที่จะรักษาไวรัสตับ ... ก็ไปหาเงินมาว่างั้นครับ... หมอให้รักษาโรคอื่นๆที่ติดๆ มา ก่อนอยู่แล้วก่อน เช่น  หลอดเลือดหัวใจตีบ, ไทรอย เบาหวาน  ยิงเลเซ่อตา    .. ก็ทะยอยๆรักษาจนครบ จนร่างกายเหมือนจะโอเคแล้ว (ตามประสา คนทำงานอย่างเดียว ไม่ีรัึกษาตัว..พอจะรักษาที โรคเลยบานเป็นทุ่ง) ปรากฏช่วง 3-4 วันมา พ่อถ่ายไม่ค่อยออก.. เลยไปหาหมอ.. หมอบอกจับตรวจลำไส้... เจอของดีครับ   ได้มะเร็งลำไส้ ระยะสุดท้ายมา! หมอจับผ่าตัดในสัปดาห์นั้นเลยครับ ผ่าตัดเหมือนการตัดบางส่วนออกไป.... หมอเลยทำการตัดชิ้นเนื้อตับบางส่วน เพืื่่อมาตรวจดูว่าตับเป็นอย่างไรบาง step ตรงนี้ผมเองก็ยัง งงๆ อยู่ รู้แต่ว่า  ได้เผาตับบางส่วนที่เป็นมะเีร็ง เหมือน block เอาไว้... จากนั้นตัดบางส่วนมาตรวจวิเคราะห์ (ผ่าครั้งนั้นยิงปืนนัดเดียว ได้นกเพียบ) การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี.. พ่อแข็งแีรงครับ.. แต่ผลตรวจก้อนเนิ้อตับคือ เป็นระยะสุดท้ายเช่นกัน! เอาไงดีหล่ะ..... รอพ่อหายดี เดินหน้ารักษษมะเร็งด้วยยาคีโม แสนแพงครับ จำได้คร่าวๆว่า พ่อต้องไปให้ คีโม ที่ รพ แล้วนอน 2-3 วัน เดือนละ 2 หน โดยค่ายาคีย์โม เนี้ย คุณหมอให้ผมสั่งยาจาก retail ขายยาที่เป็น ญ ที่ชอบมาอยู่ตาม รพ หน่ะครับ  พวกนีเค้าจะขายยาถูกกว่าสั่ีงจาก รพ เอง.. จำได้ราวๆว่า ครั้งล่ะ 2-4 หมื่น.. (ขออภัยจำยอดไม่ได้จริงๆ ทั้งๆที่โอนเองกะมือ).. (แรก ๆสั่งยาเป็นของอเมริกา... แพงมาก... น่าจะ37K   หลังๆ อาจารย์หมอให้สั่งของไต่หวั่นแทนครับ ราคาเหลือ 2XK) ทำแบบนั้นไปได้ จนครบคอสครับ ครึ่งปีได้... ที่บ้านดีใจกันมาก.. รอวันที่จะตรวจผล และรู้ว่าดีขึุ้นแค่ใหน พ่อสดใสมาก ที่บ้านสดใสกันทุกคน เกือบจะถึงวันนัดตรวจ พ่ออาการทรุดอย่างรวดเร็ว ท้องเริ่มบวม... นอนเยอะขึุ้น.... จนหลังๆ พ่อไม่ไหวแล้ว ต้องพาไปหาหมอด่วน (หนนี้ย้าย รพ ครับ ไปสถาบันมะเร็งแห่งหนึ่ง) ไปถึงคืออาการไม่ดีแล้ว ไปตรวจ และอยู่ในความดูแลของ รพ แห่งนั้นได้ 1 สัปดาห์ ได้ของดีมาเพิ่มครับ นอกจากมะเร็งตับ ยังมีมะเร็งน้ำเหลืองอะไรนี่อีก ผลทำให้ร่างกายรวนไปหมดครับ คุณหมอเริ่มมาบอกเป็นนัยๆว่า  ต้องดูอาการทุกๆวัน ต้องเฝ้าระวังเลย โอกาาสรอดน้อยมาก แต่ทางเราจะพยายามอย่างเต็มที่ คุณหมอ หรือพยาบาลที่นั้นน่ารักมากครับ ดูแลเหมือนญาติเลยทีเดียว เค้าเปิดห้องประชุม กับญาติๆ ลูก เมีย แ้ล้วสรุปอาการให้ฟัง ... ช่วงนั้นก็มีการเจาะช่องท้องพ่อ เพื่อเอาเลือดที่ขลั่งๆอยู่ ออกมา.ผมไม่แน่ใจว่าไอ้ัที่ไหลออกมาคืออะไร แต่มีสีเลือดหล่ะแน่ๆ  ... ตัวเริ่มยุบๆ จิ้มๆไปก็ไม่ค่อยคืนรอยเท่่าไหร่ เท้าเริ่มบวม ใส่ถุงเท้าให้ ถุงเท้าก็เหมือนจะรัดจนเนิ้อบุ๋มไปครับ จนคุณหมอเริ่มออกมาบอกแล้วว่า อยู่ได้อีกไม่เกิ้นวันนี้พรุ่งนี้แน่ๆ ช่วงนั้นที่บ้าน มาค้าง รพ ทุกวัน อยู่กะพ่อตลอด เมีย ลูก อีก 4 คน (ต้องขอขอบคุณทาง รพ มากๆครับ ปกติเค้าไม่ให้ทำแบบนี้แน่ๆ) ได้ใช้เวลาในช่วงสุดท้ายแห่งชีวิต ด้วยความอบอุ่นครับ : ) แล้วพ่อก็จากไปอย่างหลับปุ๋ย.. ตอนเที่ยงๆครับ เหมือนในหนังทีวี... ค่อยๆ ตุ๊ด  ตุ๊ดด   ตุ๊ดดดดดดดดดดดดดด......ด.. ทุกวันนี้ ผมกับน้องๆ ได้คติใหม่มาแล้วคือ รีบๆตรวจ รีบ ๆเจอ รีบ ๆรักษาดีกว่า แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 15:05:05 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 14:39:32 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 14:32:13 จากคุณ : สถานีต่อไปโคชิเอ็ง เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:28:02

ความคิดเห็นที่ 26 คห.25   เศร้าจังครับ เฮ้อ จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 14:58:13

ความคิดเห็นที่ 27 เรายังกลัวเป็นมะเร็งเลยค่ะ เพราะเราไม่ค่อยถ่ายด้วย จากคุณ : เด็กอ้วนน่ารัก เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 15:35:35

ความคิดเห็นที่ 28 น่ากลัวมากค่ะ ส่วนตัวคิดว่าอาหารการกินรวมทั้งของใช้ทั้งหลายน่าจะมีส่วน ไม่มากก็น้อยต่อการเกิดเป็นมะเร็ง ก็เลยดูแลตัวเองเท่าที่ทำได้ค่ะ งดทานเนื้อสัตว์อื่น ๆ มา 5 ปีแล้วค่ะ ตอนนี้ทานผักและปลา ระบบขับถ่ายไม่เคยมีปัญหา ร่างกายแข็งแรงดีค่ะ พยามกินและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Organic ค่ะ อย่างน้อยก็ลดการสะสมสารเคมีในตัวเรา ซึ่งอาจมีส่วนในการก่อเกิดโรคร้ายเหล่านี้ค่ะ จะได้ไม่เสียใจภายหลังว่าเราละเลยไม่ดูแลตัวเอง จากคุณ : ##ขออภัยป้ายหน้าไม่จอด## เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:05:30

ความคิดเห็นที่ 29 เพิ่งกลับจากเยี่ยมเพื่อนแฟนค่ะ เมื่อวานเค้าก็ไปตรวจร่างกายประจำปี แต่ผลเลือดออกมาว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดแบบเฉียบพลัน ** เศร้าจัง เมื่อต้นสัปดาห์เพิ่งกินข้าวด้วยกันอยู่เลย ** จากคุณ : NATTZIKA เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 16:06:40

ความคิดเห็นที่ 30 ก่อนหน้านี้รู้ว่าเพื่อนเป็นมะเร็งเต้านม ยังปลอบใจเพื่อน ว่าต้องสู้ มันหนีการให้คีโมไป 3 ปี กลับมาอีกทีเป็นระยะ 3 แล้ว ก็ต้องรักษากันต่อไปจนถึงที่สุด ถัดมาอีกสองเดือน.... เราเป็นมะเร็งชนิด Sarcoma ที่แขนซ้าย 2 ก้อน มันเป็นก้อนเนื้อที่ไม่ได้งอกมาจากกระดูก แต่งอกในเส้นเอ็น อยู่ในระหว่างการรักษา ผ่าเอาออกไปแล้ว 1 ก้อน (เพราะตอนแรกตรวจไม่พบมะเร็ง ทราบมาว่าถ้าเป็นมะเร็งจะยังไม่ผ่า ให้คีโมแล้วถึงผ่า) พอจะผ่าก้อน 2 ที่ใหญ่กว่า หมอกลับไม่ผ่าเอาออก เพราะไม่แน่ใจในลักษณะก้อนเนื้อ   เปิดแผล แล้วเย็บกลับคืน ส่งผลเนื้อตรวจใหม่ หมอบอกว่าตรวจชิ้นเนื้อเป็นแค่การสุ่มตรวจ ก้อนเนื้อที่เราเป็น มันไม่ได้เป็นมะเร็งทั้งก้อน เปรียบเหมือนไข่ดาว ที่สุ่มเจอไข่ขาว แต่พอเปิดแผล ถึงรู้ว่ามีไข่แดงอยู่ ตอนนี้มีแผลเป็น ความยาวกว่า 4 นิ้ว ก้อนเล็กอีก 3 นิ้ว ถ้าตรวจพบตอนแรก คงไม่ต้องเจ็บตัวหลายรอบ แผนการรักษาคร่าวๆ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการรอให้คีโมเข็มแรก 1.ให้คีโม (ซึ่งหมอบอกว่าคีโมจะแรงกว่าคีโมของมะเร็งเต้านมอีก...เศร้า ไม่รู้จะทนคีโมได้ดีแค่ไหน) 2. ดูเซลล์มะเร็งหลังให้คีโม 3. ผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออก พร้อมกับเส้นเอ็น (ซึ่งมือซ้ายอาจใช้การไม่ได้) 4. ฉายรังสี 5. ตัดต่อเส้นเอ็นใหม่ (แต่การกลับมาของมือซ้ายไม่ 100%) โชคดีที่เป็นระยะเริ่มต้น (แต่มันก็อยู่กับเรามากว่า 4 ปี) มากลายพันธุ์ตอนไหนไม่รู้ เท่ากับว่าเราต้องผ่าตัดถึง 3 รอบ คาดว่าจะมีแผลประมาณ 5 จุด ใหญ่ๆ ทั้งนั้น... ถ้าโชคดี คงไม่ต้องถึงกับตัดแขน เหมือนคนไข้บางคนเป็นมะเร็งที่ขา ต้องตัดขา เพื่อรักษาชีวิตไว้ เรายังคิดเลยว่า ถ้าถึงกับต้องตัดแขน เพื่อรักษาชีวิตเราไว้ เราก็ไม่ตัดหรอก ยอมตายดีกว่า ญาติเราไม่มีใครเป็นมะเร็งสักคน แต่เรียกว่าโชคร้ายของเรามากกกว่า เพราะฉะนั้น "มะเร็ง" อยู่ในตัวเราทุกคน หากเกิดอาการผิดปกติในร่างกายรีบไปตรวจ เราทิ้งไว้นาน จนมันเกิดอีกก้อนถึงค่อยไปตรวจ ผลการรักษาไม่คุ้มเลยค่ะ ที่ต้องใช้มือซ้าย ไม่ได้เหมือนเดิม ตอนนี้เราก็โด๊ปๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ออกกำลังกาย เพื่อต่อสู้กับคีโมเข็มแรก ที่จะมาถึงเร็วๆ นี้ ไงจะมา Update การรักษาเป็นระยะๆ ถ้าไม่หายสาบสูญไปซะก่อน อิอิ จำชื่อ Login นี้ไว้ล่ะกันนะคะ แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 52 02:51:03 จากคุณ : ผู้หญิงราศีพิจิก เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 02:50:27

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณมากๆ สำหรับบทความและเรื่องราวที่มีประโยชน์นะคะ จขกท. คห. 25 เหตุการณ์คล้ายกับที่เราเจอมาเมื่อปีที่แล้วมากๆ เลยค่ะ เสียใจกับเรื่องคุณพ่อด้วยนะคะ ท่านไปดีแล้วค่ะ...คุณพ่อของสามีเราตรวจเจอมะเร็งตับอ่อนเดือนมกรา 2008 แล้วก็ทรุดขึ้นๆ ลงๆ จนเดือน พย. 2008 ท่านสู้จนลมหายใจสุดท้าย เราไปเฝ้าท่านจนเครื่องวัดระดับการเต้นของหัวใจเป็นศูนย์เลยค่ะ :( มะเร็งตับอ่อนเป็นหนึ่งในมะเร็งที่ร้ายกาจที่สุด เพราะคนไข้ส่วนใหญ่จะตรวจเจอก็ตอนที่อยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว ไม่มีโอกาสรักษาค่ะ มักจะเสียหลังจากที่ตรวจเจอไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน อยู่ได้ไม่นานเลยซักคนเท่าที่เราได้เจอและตามข่าวมา ... เดี๋ยววันที่ 25 ตุลานี้เราจะไปวิ่ง 10K เพื่อหาเงินสมทบทุนการกุศลช่วยเหลืองานวิจัยมะเร็งตับอ่อนที่เมืองแอลเอที่เราอยู่นี่แหละค่ะ เพื่อนๆ มีโอกาสก็ช่วยเหลือพวกองค์กรวิจัยพวกนี้บ้างนะคะ จะได้มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยเหลือคนป่วย และป้องกันคนที่ไม่เป็น หรือจะเป็นโรคมะเร็งให้รักษาได้หายขาดเหมือนอย่างมะเร็งบางตัวที่ตอนนี้มีการรักษาให้หายขาดได้นะคะ ส่งกำลังใจให้ทุกท่านที่มีคนรักที่ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งทุกชนิดเลยค่ะ :) จากคุณ : ToY (tiny) เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 06:26:48

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณมากค่ะ อ่านแล้วก้กังวล เราเองคนรอบๆตัวก้เป็นมะเร็งหลายคนแล้ว เครียดเลยค่ะ ได้แต่หวังว่าในอนาคตโรคนี้จะเป็นโรคที่รักษาให้หายได้ 100เปอร์เซนต์ ตอนนี้ก้ต้องดูแลตัวเอง ทานอาหารที่ถูกต้อง ออกกำลังกาย ปล. ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านและคนที่เรารักต่อสู้กับโรคภัยต่างๆนะคะ จากคุณ : Kinder's~RuleS เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 14:55:09

ความคิดเห็นที่ 33 อ่านแล้วน้ำตาจะไหล มะเร็งน่ากลัวจริงๆ ใกล้ตัวซะจนหลอน เพราะน้องชายก็จากไปด้วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ความรู้สึกเหมือนคห.25 ชีพจรน้องค่อยๆ ติ๊ด ติ๊ด ติดดดดดด แล้วก็จากไปอย่างสงบ อ่านแล้วคิดถึงน้องชายจังเลย ปล.เป็นกำลังใจให้คุณผู้หญิงราศีพิจิก สู้ สู้ค่ะ จากคุณ : ปลากัดสีทอง เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 15:29:51

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านแล้วก็พลอย ทำให้คิดถึงคุณแม่ T_T แม่เสียไปเนื่องจากมะเร็งปอด กว่าจะรู้ตัวก็ ปาเข้าไปขั้นที่ 4 แล้ว (1ปีผ่านมาแล้วซินะ   ไว้ชาติหน้ามีจริง อยากเกิดเป็นลูกแม่ อีกนะครับ ..... เศร้า) จากคุณ : อยากอยู่เหงาๆ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 19:51:39

ความคิดเห็นที่ 35 ดีใจจังมีกระทู้ดีๆ ให้เข้ามาอ่าน เพราะอนนี้เป็นกังวลมากเรื่องมะเร็ง กลัวว่าตัวเองจะเป็นมะเร็งลำไส้ เพราะพบว่าตัวเองมีก้อนแข็งๆอยู่ในท้อง.. คุณหมอให้ตรวจเลือด ผลออกมาไม่พบสารก่อมะเร็ง แต่ไอ้ที่อยู่ในท้องมันคืออะไร ..แล้วตอนนี้เริ่มมีอาการเจ็บแผ่วๆอยู่ที่ด้านขวาของท้องอีกด้วย.. อย่างนึงที่อยากจะถามคือ ถ้าตรวจจากเลือดไม่พบสารก่อมะเร็งก็จริง แต่จะเป็นไปได้ไหมว่า ไม่พบก็ไม่ได้แปลว่าไม่เป็น กลัวมากว่าจะเป็นแบบนี้จึงยังไม่วางใจกับผลเลือดค่ะ อ้อ..อายุ 50 ปีพอดี.. คุณหมอก็ไม่ยอมส่งตรวจต่อ บอกแต่ว่าผลเลือดไม่มี เฮ้อ..ทำไงดี ถ้าจะไปขอตรวจแบบส่องกล้องจะไปที่ไหนดี ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ ขอเป็นที่ไม่แพงค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า จากคุณ : ป้าชื่อเห็ดโคน เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 20:12:03

ความคิดเห็นที่ 36 ตกใจ เห็น คห 34 นึกอยู่ว่าใครเอาชีวิตชั้นมาโพสท์ แม่เสียเพราะมะเร็งปอดเหมือนกันค่ะ ส่วนเรา ไม่รู้ดิ คงสักมะเร็งอ่ะ จากคุณ : Mrs.Reda เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 00:30:13

ความคิดเห็นที่ 37   เรื่องที่คนเป็นมะเร็งมากขึ้นเรื่อยๆเนี่ย มองอีกแบบนึงว่าเพราะเทคโนโลยีทำให้เจอง่ายขึ้นก็ได้นะ ถ้าเป็นสมัยก่อน ถ้าไม่เป็นมะเร็งชนิดที่เห็นได้ชัด ก็คงรักษาไม่ได้และก็สรุปเอาว่าเสียชีวิตด้วยหัวใจล้มเหลวเป็นต้น ตัวเลขคนเป็นมะเร็งเลยน้อย... รึเปล่า? ก็นะ... รักษาได้แต่เนิ่นๆย่อมดีที่สุด จากคุณ : abstract เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 00:54:38 A:124.120.152.8 X: TicketID:071021

ความคิดเห็นที่ 38 รุ่นเราอายุ 31 เพิ่งเป็นลูคีเมียตายไป จากคุณ : kuddle เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 05:42:51

ความคิดเห็นที่ 39 ขอแชร์นะคะ เมื่อ 2 ปี ก่อน คุณป๋าตัดลำไล้ใหญ่ทิ้งไปเกือบ 15 cm. เพราะเจ้ามะเร็ง ปัจจุบันคุณหมอพบว่า เชื้อมันลามไปหลายที่แล้ว  ( จากการทำ CT Scan ) กระดูก ( จากผล  Bone scan) พบว่ามันกระจายไปทั่วแล้ว วันพุธนี้คุณหมอนัดฟังผลปอด ( เก็บเนื้อเยื่อ + น้ำในปอด ไปตรวจ ) ตอนนี้รอผล  MRI เพื่อให้คุณหมอคีโม กับรังสี วินิจฉัยและทำการรักษาอยู่ คุณป๋าเริ่มดื้อที่จะไม่ยากรักษา  คุณแม่เริ่มทุกข์  คุณลูก(คนดูแล)เริ่มท้อ   สู้ สู้ สู้   ปัจจุบัน บอกตัวเองได้แค่นี้จริงๆ . จากคุณ : suttimon เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 08:26:16

ความคิดเห็นที่ 40   ตรวจที่พญาไท1 นะคะถ้าอยากจะส่องกล้อง ต้องตรวจกับ พญ.ชุติมา ด้วยนะคะ คนนี้ขอบอกว่าเก่งมาก จากคุณ : สู้ๆ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 19:17:05 A:125.25.47.26 X: TicketID:139503

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณมากค่ะ จะลองศึกษาดู จากคุณ : ป้าชื่อเห็ดโคน เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 19:19:18

ความคิดเห็นที่ 42 มะเร็งบางชนิดก็เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมค่ะ เลยทำให้คนบางคนเป็นมะเร็งตั้งแต่อายุยังน้อย ในขณะที่บางคนอาจจะเกิดตอนอายุมากๆ เดี๋ยวนี้มะเร็งน่ากลัวจริงๆค่ะ จากคุณ : sprite_galz เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 23:59:10

ความคิดเห็นที่ 43   You are what you eat. Thai people nowadays eat lots of chemical products in their food. จากคุณ : tan เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 52 16:24:27 A:78.20.210.53 X: TicketID:019698

ความคิดเห็นที่ 44   ตอบคุณป้าชื่อเห็ดโคน ครับ อยากให้ตรวจเพิ่มเติมครับ เพราะว่าผลเลือดไม่ได้เป็นตัวที่ใช้ตัดสินทางการแพทย์ว่าเป็นหรือไม่เป็นโรคมะเร็งนะครับ ส่วนก้อนที่ท้องเป็นได้ทั้งเนื้อร้าย และ เนื้อไม่ร้าย และ อาจเกิดได้หลายระบบ เช่น ผิวหนัง : ก้อนซิสต์ ที่ผิวหนัง ทางเดินอาหาร : มะเร็งลำไส้ใหญ่ นรีเวช : เนื้องอกรังไข่,เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก ทางเดินปัสสาวะ : กระเพาะปัสสาวะ และอื่นๆ อีกมาก ควรจะตรวจเพิ่มเติมจนได้รับการยืนยันทางการแพทย์ว่าไม่ใช่เนื้อร้าย เช่น การตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ,อัลตร้าชาวน์,ส่องกล้อง หรือ เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ ขึ้นกับอวัยวะที่สงสัย และควรตรวจระบบอื่นเพิ่มเติม เช่น นรีเวช ทางเดินปัสสาวะ ไม่ควรรีรอครับเพราะโรคมะเร็งยิ่งตรวจเจอเร็วยิ่งดี สถานที่ตรวจ รัฐบาล : สถาบันโรคมะเร็ง และ โรงเรียนแพทย์ เอกชน : ส่วนมากจะมี แนะนำให้โทรเช็คก่อนรวมถึงเช็คราคาด้วยเพราะราคาจะต่างกันมากแม้ว่าจะเป็นวิธีเดียวกันตรวจโดยแพทย์ท่านเดียวกัน ส่วนคุณkuddle เรื่องลูคีเมีย ให้สังเกตว่ามีการสัมผัสสาร benzene หรือไม่เพราะ benzene (C6H6) ทำให้เป็น leukemia ได้ครับ(ไม่ใช่นำมันเบนซินนะครับ) จากคุณ : paulsmith เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 52 00:46:34 A:125.25.4.223 X: TicketID:236443

ความคิดเห็นที่ 45   ในปัจจุบันมีการค้นพบสาเหตุของมะเร็งมากขึ้นครับ สมอง : การใช้มือถือ อันนี้กำกึ่งครับแต่ช่วงหลังเริ่มมีรายงานมากขึ้น ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้ใช้ small talk ครับ (ไม่แนะนำ blue toothเพราะมีการส่งกคลื่นไปยังตัวรับตลอดเวลา) โพรงจมูก : การติดเชื้อ EBV เป็นไวรัสชนิดหนึ่งมักเจอในสถานเลี้ยงเด็ก หรือ คนที่ติดเชื้อทางเดินหายใจบ่อยๆ เต้านม : การกระต้นจากฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไป ปอด : การสูบบุหรี่ การสัมผัสแร่ใยหิน (asbestos) ถุงน้ำดี : พายาธิ opistorchis viverrini มักเจอในของดิบ ก้อยปลานำจืด ตับ : เหล้า,ไวรัสตับอักเสบ b,c ปากมดลูก : เชื้อ HPV เป็นเชื้อที่ติดทางเพศสัมพันธ์ ตัวนี้ร้ายมากเพราะในผู้ชายจะไม่มีอาการ และถุงยางจะกันไม่ได้ 100 เปอร์เซ็น ติดทางผิวหนังที่กระดูกหัวเหน่าได้ กระเพาะปัสสาวะ : ดินประสิว สีย้อม มะเร็งลำไส้ใหญ่ : การทานอาหารไหม้ ๆ ( สารประกอบคาร์บอน) อย่างไรก็ตามการตรวจป้องกันแต่เนิ่นๆ ดีทีสุดครับ จากคุณ : paulsmith เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 52 01:11:27 A:125.25.4.223 X: TicketID:236443

ความคิดเห็นที่ 46 บุญรักษาทุกๆ ท่านครับ จากคุณ : TRS เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 52 08:38:32

ความคิดเห็นที่ 47 น่ากลัวอ่ะ จากคุณ : สลัดผักรวม เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 00:40:12

ความคิดเห็นที่ 48   จากประสบการณ์ตัวเอง ดิฉันเพิ่งไปตรวจและเจอว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่1 ที่รพ.เอกชนชื่อดังแถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โดยการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจซึ่งขอบอกว่าเจ็บมากกก ไม่ได้เจ็บนิดหน่อยเหมือนกับที่ทางหมอบอกเลย ซึ่งดิฉันก็ได้นัดผ่าตัดแล้ว แต่เพื่อนที่น่ารักบอกว่าน่าจะรีเช๊คอีกรพ.นะ ซึ่งดิฉัน ก็ตกลงเพื่อนติดต่อหาคุณหมอชื่อดังอีกท่านทำการตรวจรีเช๊ค พอคุณหมอท่านใหม่เห็นแผลที่เต้านมดิฉันท่านก็ตกใจว่าแผลช้ำมาก คุณหมอบอกว่าท่านไม่ทำการตัดชิ้นเนื่อด้วยวิธีนี้มาเป็นสิบปีแล้ว ดิฉันอยากจะบอกกับทุกๆท่านที่มีปัญหาว่าก่อนจะหาหมอควรหาข้อมูลวิธีรักษาของแต่ละท่านก่อนค่ะ สรุปว่าดิฉันจะรักษากับคุณหมอคนหลังค่ะ มีคนฝากบอกให้ดิฉันช่วยโพสบอกหมอที่รักษาแบบตัดชิ้นเนื้อไปตรวจว่ามันเป็นวิธีที่ทำให้คนป่วยยิ่งป่วยมากขึ้นเพราะบาดเจ็บเต้านมที่หมอเพิ่มเข้ามา ดิฉันทำมาครบ1 อาทิตย์พอดีหน้าอกยังเขียวช้ำอยู่เลยค่ะ จากคุณ : มน เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 16:33:48 A:58.11.69.179 X: TicketID:236862