ความคิดเห็นที่ 1 คือผมสงสัยว่า คนเราทำไมถึงจะรักใครได้มากมายขนาดนั้น แล้วอยู่กันถึง แก่เฒ่า จนตายไปจากกัน แสดงว่ามันต้องเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากๆ จนนึกไม่ออก ว่ามันจะต้องรู้สึกขนาดไหน.. ู^ ^ แล้วแต่คู่ แล้วแต่คนนะครับ หลายคู่อยู่ด้วยกัน เพราะรู้สึกอย่างที่คุณว่า คือ I can't live without you เพื่อนๆสวนลุมหลายท่านก็แต่งงานด้วยความรู้สึกนี้ครับ แต่หลายคู่แต่งงานเพราะ "ถึงเวลาต้องแต่ง" "คบกันมานานแล้ว ไม่แต่งผู้ใหญ่จะตำหนิเอา" "แต่งเพราะพลาดมีน้อง ต้องรับผิดชอบ" "แต่งเพราะเขาหรือเธอเป็นคนดี" ฯลฯ แต่โดยส่วนตัว...ผมเชื่อในรักแท้  และจะแต่งงานเมื่อรู้สึกแบบเดียวกับที่คุณบอกมา เพราะผมรู้ตัวดีว่า...ถ้าไม่รักมากขนาดนั้น ตัวเองคงทนอยู่กับความผูกมัดที่ยาวนานไม่ได้แน่ๆ ผมเคยรู้สึกแบบนี้กับคนๆเดียว  คือ "รักครั้งแรก"  แล้วก็ไม่เคยเจออีกเลย ตอนที่เคยหมั้นและจะแต่งงาน ก็เพราะ "เหตุผลล้วนๆ"  ซึ่งที่สุดก็ไม่รอด เลยอยากบอกคุณ kapuno ว่า..มันมีจริงๆครับความรู้สึกที่คุณสงสัย เวลาที่คุณเจอผู้หญิงที่ทำให้คุณรู้สึกได้แบบนี้  คุณจะรู้ได้เองครับ ว่า คำว่าชั่วนิรันดร์...มันดูไม่นานเกินไปเลย จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 00:27:39

ความคิดเห็นที่ 2 อย่าสงสัย หรือ ถามหาเหตุผลอะไรเลยค่ะ เรื่องแบบนี้ พอถึงเวลาและเจอคนนั้นจริงๆ มันจะมีคำตอบเกิดขึ้นทันทีเลยค่ะ อ่านแล้วรู้สึกว่า จขกท ดีจังแหะ ที่เข้าใจความรักแบบนั้นแล้วไม่พยายามทำสิ่งที่ไม่ใช่เป็นใช่ จากคุณ : ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 00:39:06

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นเพราะคุณยังไม่เจอคนถูกใจจริงๆ   คุณก็เลยยังไม่รู้สึกว่าอยากผูกพันด้วยมากมายขนาดต้องขอแต่งงาน ถ้าเมื่อไรคุณได้เห็นหน้าคนที่จะมาเป็นภรรยาคุณ แค่ได้เห็นหน้าวันแรก  คุณก็อาจจะรู้สึกว่า  อยากขอแต่งงานซะแล้ว ยิ่งได้ทำความรู้จักสนิทสนมมากขึ้น   ก็ยิ่งชื่นชมในความเป็นเธอ ชื่นชมทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอพูด   ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำ ประทับใจกับการกระทำของเธอ   ปลื้มกับน้ำใจไมตรีของเธอ ทึ่งในความคิดความอ่านของเธอ   เธอ .ผู้ไม่เหมือนใครเลยที่เราเคยเจอมาแล้ว ยามอยู่ใกล้ก็ใจเต้นโครมคราม   พิศวาสเสน่หาจนอยากจะมีลูกกับเธอ หึงและหวงทุกครั้งที่มีหนุ่มหน้าไหนมาเข้าใกล้เธอ น้อยใจทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากชื่นชมใครให้เราได้ยิน ยามอยู่ห่างแม้แต่วันเดียวก็คิดถึงโหยหา จนไม่เป็นอันทำอะไร อกใจเร่าร้อน  หงุดหงิดงุ่นง่าน  ยามที่ไม่ได้เจอหน้ากัน ยามนอนก็ฝันอยากมีเธออยู่บนเตียงด้วยกัน ยามตื่นก็อยากเจอหน้าเธอเป็นคนแรกทุกๆเช้า และ .ความรู้สึกอีกมากมายก่ายกอง ที่ไม่สามารถบรรยายหมดในหนึ่งหน้ากระดาษ ด้วยเหตุนี้...หลังจากได้เห็นหน้าและคุยกับเธอเพียงไม่กี่สัปดาห์ ผมจึงตัดสินใจขอเธอแต่งงาน.... และถูกเธอปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า จนครบหรือเกินร้อยครั้งก็จำไม่ได้แล้ว สุดท้าย เธอก็ตอบตกลง และปีนี้เป็นปีครบรอบแต่งงานปีที่ 17 แล้วละครับ ความรักยังหวานชื่น  และรู้สึกว่าเราสองคนเหมือนเป็น สองกายหัวใจเดียว ไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่า ถ้าใครคนใดคนหนึ่งต้องตายก่อน.... เราขอตายพร้อมกันดีกว่าครับ   ไม่อยากอยู่โดยที่ไม่มีกันและกัน  จริงๆนะ จากคุณ : ออนไลน์ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 03:48:39

ความคิดเห็นที่ 4   ต้องรู้สึกดีมากๆอย่างยาวนานจนแน่ใจว่าความรู้สึกนี้จะไม่ลดลงเมื่อเวลาผ่านไปน่ะค่ะ ถึงคิดตัดสินใจแต่งงาน จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 05:50:43 A:83.253.120.11 X: TicketID:077776

ความคิดเห็นที่ 5 รักมากขนาดไหนเหรอ... คงไม่ได้ใช้คำว่ารักมากสำหรับเรา... เพราะคบใครสักคนมันก็เพราะรักอยู่แล้วอ่ะ แต่เราแต่งงานเพราะ... อย่างแรก... เราคิดว่า ผช คนนี้คือคนที่ดีที่สุดในชีวิตเรา และเราพอใจเขาที่สุดในชีวิต ไม่ว่าจะไปเจอคนที่ดีกว่า หล่อกว่า รวยกว่า เก่งกว่า เราจะไม่เสียดายโอกาสอีกแล้ว เราพอใจ ผช คนนี้ที่สุดในชีวิต สองคือ เราอยากให้เขาเข้ามาในโลกของเรา อยากให้เขามาอยู่ข้างๆ ไม่มีเขาอาจจะไม่ตาย แต่การมีเขามันทำให้เราอยากมีชีวิตอยู่ อ่ะ และสุดท้ายคือ เขาทำให้เราอยากเป็นคนดี อยากทำอะไรดีๆ ให้เขา อยากดูแล อยากเป็นกำลังใจ อยากเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง และอยากทำให้เขามีความสุข และเป็น ผช ที่โชคดีที่สุดในโลก ซึ่งในส่วนนี้มันสำคัญมากแทบจะที่สุดเลย มากกว่าคำว่า รักในสายตาเราอีก เพราะความดี เอื้อเฟื้อ และความเอาใจใส่กันและกัน จะเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวและทำให้เรารักกันได้ตลอดไป ไม่รู้นะคะ เราคิดประมาณนี้คะ... จากคุณ : thangthai_ladypink เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 08:06:30

ความคิดเห็นที่ 6   การมีชีวิตคู่ที่จะอยู่ร่วมกันได้ จนไปถึงการแต่งงาน นั่นหมายถึง คุณจะต้องอยู่กับคนคนนี้ไปตลอดชีวิตแล้วนะ ถ้าสมมุติผู้ชายคนนั้นจะมีอยู่จริง สำหรับเรานะคะ เขาจะต้องทำให้เรารู้สึกว่า เขาคือส่วนหนึ่งของชีวิตเราค่ะ เราไม่สามารถอยู่ได้ถ้าไม่มีเขา ค่ะ บอกไม่ถูกค่ะ ยังไม่เคยมีใครทำให้รู้สึกได้ขนาดนั้นเลยจริงๆๆ นะ จากคุณ : หวานใจนายเอ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 08:21:54

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้คิดถึงขั้นแต่งงานนะค่ะ อายุยังน้อยด้วยล่ะ แต่เราก้ออยากแต่งงานนะ เมื่ออายุสมควรแล้ว เราเข้าใจค่ะ อารมณ์แบบคุณน่ะ เมื่อคบใครไปนานๆจะเกิดความเคยชิน มันก้อทั้ง 2 ฝ่ายนั้นแหละ แต่สิ่งที่ต่างกัน ผญ.อยากแต่ง เพราะไม่อยากอยู่คนเดียว อยากมีเพื่อนร่วมคิด อยากดูแล คล้ายๆว่าไม่ อยากเหงาน่ะ แต่คนที่แต่งด้วย ต้องเข้ากันได้นะ สำหรับผช.ที่อยากแต่งงาน อันนี้เราไม่รู้อ่ะค่ะ แต่สำหรับเราแล้วการที่จะอยู่กับใครสักคนตลอดชีวิต เค้าคนนั้นไม่ต้องหวานเหมือนตอนจีบ แค่ดูแลซึ่งกันและกันก้อพอค่ะ จากคุณ : moo_yid2 เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 09:07:57

ความคิดเห็นที่ 8   ความเข้าใจกัน สำคัญที่สุด แฟนคุณ อาจจะทำบางสิ่งบางอย่าง จนคุณเบื่อโดยไม่รู้ตัว รึปล่าว คุณก็น่าจะผ่านจุดแบบนี้ ของเธอมาแล้วบ้าง ไม่เช่นนั้นคุณก็คงไม่มีความคิดมาถามกันในนี้ คนที่เคยแต่งกันไปแล้วนั้น ใช่ว่าทุกคู่จะต้องมีความสุขกันทุกคู่ นะครับ มันมักเกิดมาจาก องค์ประกอบ มากกว่า เช่น อยากจะแต่งกับเธอ เพราะเห็นฐานะเธอดูดี แต่นิสัย ใจคอ ฝ่ายชายอาจจะไม่สนใจ เอาจุดตรงที่เธอมีนั้น เอาให้ได้ก่อน เดี่ยวหาใครแบบนี้ไม่ได้ กลับกัน หญิงเห็นฝ่ายชาย ทำงานดี เงินเดือนสูง สามารถเลี้ยงดูฉันได้ ก็เอาตรงนี้ไว้ก่อน ตัวอย่างคร่าวๆ แบบนี้...พอคนเราถึงจุดๆ หนึ่งในความคิด ว่าหลายอย่างๆ มันไม่สามารถเข้ากันได้ มันก็จะรู้สึกแบบไม่รู้ตัวอีก และอยากจะหนีออกมาให้ได้ จากคุณ : wat&pp เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 10:07:29

ความคิดเห็นที่ 9   สำหรับเรา...ต้องผูกพันถึงขั้นที่ว่าเค้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และเราต่างสามารถเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวของกัน โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้สึกอึดอัดอะไร จากคุณ : akokm เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 13:14:07

ความคิดเห็นที่ 10   แฟนเราเค้าบอกว่า อยากเห็นเราเป็นสุดท้าย เมื่อหลับตาลงในแต่ละคืน อยากให้เราอยู่ในอ้อมกอดของเค้าไปตลอดคืน อยากเห็นเราเป็นคนแรก เมื่อตื่นขึ้นมาในทุกๆเช้า ส่วนตัวเราก็ดูว่า เค้าคือ คนที่พร้อมจะร่วมทุกข์ ร่วมสุขไปด้วยกันจริงๆ (อารมณ์ว่า มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน ประมาณนั้นเลย) ก็เลยคิดว่า ถึงจุดที่เต็มใจจะอยู่ด้วยกันแล้ว อะค่ะ ปล. โดยรวม ก็คล้ายๆกับที่คุณ ออนไลน์ ว่ามาหน่ะค่ะ จากคุณ : Deep Blue Sea เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 16:40:33 A:60.230.232.148 X: TicketID:145371

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนนั้น รู้แค่ว่า คนนี้แหล่ะ เราจะฝากชีวิตไว้ได้ ดูแลเราได้แน่ อยากอยู่กับเขา ดูแลเขา ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน จากคุณ : แจ๋วบ้านนา เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 17:12:15

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบยากแฮะ การที่เราคบใครคนนึงจริงจังแบบที่ออกปากเรียกว่าแฟน แปลว่าเราคิดแล้วว่าคนนี้เราแต่งงานด้วยได้  ถ้าเลิกกันไปก็แปลว่าในระยะเวลาที่คบกัน เกิดไปเห็นอะไรที่คิดว่ายังไม่เหมาะเข้า มันเพิ่มมาทีละอย่างๆ จนทำให้เปลี่ยนใจได้ในที่สุด จะอธิบายยังไงดี คือเราเป็นคนที่รักใครเริ่มจากร้อยน่ะ เลยตัดสินใจคบ แต่ระยะเวลาที่คบกันเนี่ย มันจะเป็นตัวบอกเราเองว่า เราจะสามารถรักษาไอ่จำนวนร้อยนั้นให้คงอยู่ต่อไปกับคนๆนี้ได้ไม๊ ถ้าไม่ได้ก็ต้องจบกัน ซึ่งตัวแปรก็คือนิสัย ทัศนคติ ค่านิยมอะไรต่างๆนี่แหละ สุดท้ายถ้าจะตอบให้ตรงคำถามจริงๆ ว่าแต่งทำไม ก็คงเพราะเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันแบบเปิดเผยค่ะ ที่บ้านหัวโบราณ ถ้าที่บ้านไม่เป็นแบบนี้ เราคงไม่แคร์ที่จะแต่งหรอก อยู่กันไปเลยก็เหมือนกันน่ะแหละ จากคุณ : เทเลทับขี้ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 23:44:36

ความคิดเห็นที่ 13 อาเฮียที่เรานับถือคนหนึ่งเคยบอกว่า ไปทำงานถ่ายภาพหาเรื่องเขียนอะไรนี่แหละ ทุลักทุเลไป แล้วไปค้างที่ หมู่บ้านหมู่บ้านหนึ่ง ทำงานไปได้สองวัน ตื่นมาเช้าวันที่สามหมอกลง แดดทอแสงที่ทองระยิบระยับ แตะสายหมอก ที่พราวไปด้วยไอเย็น น้ำค้างจับปลายชายคาเป็นหยดสว่างใสแจ๋วเหมือนเพชร แล้วลูกสาวเจ้าของบ้านเดินออกมา ยืนท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติ อาเฮียก็มองดูความบริสุทธิ์ผ่านรอยยิ้มยามเช้าของลูกสาวเจ้าของบ้าน เรากำลังนั่งฟังลุ้นมาก อาเอียตบเข่าดังฉาด แล้วบอกว่า "แมร่งเอ้ย ตอนนั้นกุรู้เลยว่า กุอยากอยู่ที่นี่ ศรรักมันปักอก ทุกเช้า อยากตื่นขึ้นที่นี้ ทุกเช้า อยากเป็นคนแรกที่ได้หอมแก้มลูกสาวคนนั้น ทุกเช้า อยากเห็นรอยยิ้มนั้น ทุกเช้า อยาก..." ยาวจำได้ไม่หมด ว่าแล้วก็รีบทำงาน กลับ กทม ทำงานหาเงินมาสู่ขอ เราฟังก็เอ๋อ...อารายยยฟร่ะ ง่ายขนาดนี้เชียว อาเฮียเลยว่า...เออ แค่อยากอยู่กับเค้าไปทุกวันนี่แหละ พอแล้ว รักขนาดนั้นเลยเหรออาเฮีย ...ไม่รู้เว้ย ไม่รู้ว่ารักรึเปล่า รู้แต่อยากอยู่กับเค้าไปทุกวัน แค่นี้ก็พอแล้ว อ้าวถ้าวันไหนไม่อยากล่ะ ...ไอ้บ้า แบบนั้นเค้าไม่เรียกอยากอยู่กับเค้าไปทุกวันสิ อารายว้า เจอหน้าแวปเดียว อยากอยู่ไปทุกวัน โซลเมทชัดๆ . . . . เพื่อนเราแต่ละคนที่แต่งงาน ก็ไม่ได้บอกว่ารักแค่ไหนนะ แต่บอกว่าอยากเห็นอีกฝ่ายทุกเช้า เหมือนกันทุกคู่เลย แล้วจะต้องรักแค่ไหนล่ะ ถึงอยากอยู่เห็นหน้าทุกเช้า สงสัยต้องลองหามาเป็นของตัวเอง อิอิอิ จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 23:59:52

ความคิดเห็นที่ 14 ในมุมคนไม่มีประสบการณ์นะ่ค่ะ ^((แต่งงาน))^ เราว่าคนที่คบกัน เราเรียกมันว่า แชร์ค่ะ เคมีตรงกัน อีกอัน อย่าเรียกว่าอดทนค่ะ เราเรียกมันว่า ยอมได้ ^^ และที่สำคัญ อยากสร้างครอบครัวด้วยกัน ... เคยอ่านเจอสัมภาษ คุณเจ เจตรินนะค่ะ นานมากแล้ว นิตสารถามมาว่า ทำไมถึงแต่งงานกับคุณปิ่น พี่เจตอบว่า มีอยู่วันหนึ่ง ออกไปทานข้าวกัน และไปส่งคุณปิ่นที่บ้าน แล้วก็คุยกันประมาณว่า ไม่อยากเป็นแบบนี้แล้ว อยากกินข้าวด้วยกันทุกวัน อยากตื่นมาเจอกันตอนเช้า อยากอยู่ด้วยกันแล้ว ก็เลยสรุป เราแต่งงานกันเถอะ ^^ อย่างพี่ชายเรา อยู่ก่อนแต่งกับพี่สะใภ้ คบกันตั้งแต่เรียนมหา'ลัย พอเรียนจบทำงาน ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน ในห้องเช่าเล็กๆ  3-4 ปี ได้ พ่อเราหัวโบราณ เรียกพี่ชายมาคุย ว่าคนนี้ใช่แล้ว ก็ไปตกไปแต่งหรือจะหมั้น ก็เอาให้เป็นเรื่องเป็นราว อยู่แบบนี้ฝ่ายหญิงเค้าเสียหาย ... ก็เลยหมั้นกัน อีก 2 ปีก็แต่งงาน มันอาจจะเป็น ภาวะทางสังคมค่ะ ประกาศให้รู้ ว่าเราสองคนได้อยู่กินกันแล้ว คนรอบตัว แต่งงานเพราะท้อง ((เพื่อนร้องไห้บ่อยมาก)) อีกคนแต่งเพราะดูแลยามป่วยหนัก อีกคนแต่งเพราะหนีแฟนเก่า((งงมากๆ))     ... และที่สำคัญตกลงคุณอยากมีครอบครัวหรือเปล่า ประเด็นอยู่ตรงไหน คุณไม่ใช่ไม่อยากแต่งงานหรอกมั้งค่ะ คุณอาจจะยังไม่เจอ คนที่อยากจะสร้างครอบครัวด้วยหรือเปล่า ^^ อย่างที่เคยได้ยินในหนังฝรั่งบ่อยๆ เวลานางเอก-พระเอกแต่งงานกัน ในศาสนาคริสต์นะค่ะ การกล่าวคำมั่นสัญญา ซึ่งหมายถึงการทำพันธสัญญาต่อพระเจ้า ด้วยการกล่าวคำปฏิญาณต่อพระองค์ โดยมีแขกที่มาร่วมในพิธีเป็นพยานโดยมีคำพูดดังนี้ “ขอสัญญากับพระองค์ว่า จะขอรับ (ชื่อเจ้าสาวหรือเจ้าบ่าว)….. เป็นภรรยา (สามี) ของข้าพเจ้า ไม่ว่าจะมั่งมีหรือยากจน สุขหรือทุกข์ เจ็บป่วยหรือสุขสบาย จะขอสัตย์ซื่อต่อเธอผู้เป็นภรรยา (ต่อคุณผู้เป็นสามี) ตลอดไป จนกว่าความตายจะมาแยกเราออกจากกัน” แล้วก็ตอบว่า I do kaa ^^ ที่มา : http://women.kapook.com/wedding00006/ จากคุณ : ขนมชั้นสองสี เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 00:35:01

ความคิดเห็นที่ 15 การจะเจอคนๆนั้นมันยากนะคะ ใช่ว่าจะรู้สึกกับทุกครั้งของความรัก และพอเจอแล้วบางทีมันก็ยากมากที่อธิบายเหตุผลให้คนอื่นฟังหรือเข้าใจได้เพราะมันคือความรู้สึกจากหัวใจ ตอนที่ตกลงแต่งงานกับแฟนความรู้สึกตอนนั้นคือ "เค้าคือสิ่งดีๆที่สุดในชีวิตเรานอกจากครอบครัว" (แม้ว่างานแต่งเราจะมีขึ้นปีหน้าแต่ในทางกฎหมายเราสองคนก็เป็นสามีภรรยากันถูกต้องอย่างสมบูรณ์แล้ว) ณ วันนี้รู้สึกชีวิตมันอิ่มค่ะ อิ่มที่ ตอนเช้ามีคนๆนึงกระซิบข้างหูเพื่อปลุกให้ตื่น อิ่มที่ เวลาขี้เกียจตื่นแล้วมีคนๆนึงบีบจมูกแบบเอ็นดู อิ่มที่ ได้หลับในอ้อมกอดของใครคนนึงไปจนเช้า อิ่มที่ ก่อนอาบน้ำมีคนๆนึงเตรียมผ้าเช็ดตัวและน้ำอุ่นไว้ให้ อิ่มที่ หลังอาบน้าสระผมมีคนๆนึงเช็ดผมให้ อิ่มที่ เวลากินข้าวมีคนๆนึงตักกับข้าวให้แล้วบอกว่า กินเยอะๆนะ อิ่มที่ เวลาเดินมีคนๆนึงคอยกุมมือตลอดเวลา อิ่มที่ มีคนๆนึงให้หยอกล้อ แกล้ง ทำตัวเป็นเด็กๆได้ และสุดท้าย อิ่มที่ ได้ดูแลคนๆนี้ด้วยความสุข จากคุณ : KS_SK เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 13:29:10

ความคิดเห็นที่ 16 โอ...มันเป็นอย่างนี้เองเหรอ มานั่งยิ้มค่ะ ดีใจด้วยกับทุกคนที่มีความสุข จากคุณ : Mrs.Reda เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 16:09:24

ความคิดเห็นที่ 17 รู้สึกอยากตื่นนอนขึ้นมาแล้วเห็นหน้าผู้ชายคนนี้ทุกวันๆ จากคุณ : chucky-chucky เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 18:35:40

ความคิดเห็นที่ 18 เรารู้ตัวว่าอยากแต่งงานกับคุณสามีของเรา ก็ตอนที่รู้ทั้งรู้ว่าการที่เราสองคนจะอยู่ด้วยกัน มันต้องมีอุป่สรรคขนาดไหน เราต้องเสียใจมากเท่าไหร่ ต่างคนต่างต้องเสียสละขนาดไหน และทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่ามันมีทางเลือกที่ทำให้เราไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องฝ่าฟันอะไรขนาดนี้ แต่เราก็ยังเลือกที่จะตอบตกลงกับคำถามของเค้า เพียงเพราะเรารู้ว่า ถ้าเราไม่บอกว่า yes แล้ว เราคงจะต้องเสียใจมากกว่านี้ไปตลอดชีวิต ถึงเราจะต้องเจออุปสรรคมากขนาดไหน เราขอเจอมันโดยที่มีสามีของเรายืนอยู่ข้างๆ มากกว่าต้องมีชีวิตที่ไม่ต้องลำบากโดยที่ไม่มีเค้าอยู่ใกล้ๆอ่ะ แค่นั้นแหละ.. จากคุณ : คนรักแมวตี๋ เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 52 23:17:16

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่มีแบบนี้เลย แหะๆๆ จากคุณ : แดดอ่อนแสงส่องสะท้อนพื้นน้ำ เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 00:02:03

ความคิดเห็นที่ 20 โอว อ่านแต่ละอันแล้วน้ำตาปริ่มๆ แจกกิีฟ กันแทบจะหมดตัวเลยทีเดียว จากคุณ : dolphin_moo เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 11:02:16

ความคิดเห็นที่ 21 ตามคห. 5 กับ 15 ค่่ะ ไม่มีอะไรจะเพิ่มแล้ว จากคุณ : แมวน้อยสีน้ำตาล เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 13:32:20