 |
บทสรุปของการทำเลสิค
|
|
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าการเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาไม่ได้มีเจตนาจะไปโฆษณาให้ใครหรือชี้นำใครนะครับ แต่ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาจากประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องของ 'เลสิค' และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีประโยชน์กับคนที่มีปัญหาเรื่องสายตาสั้นและอยากทำเลสิค
'เลสิค' คืออะไรทุกท่านคงทราบดีแล้ว คือตัวผมเองก็เป็นคนที่สายตาสั้นค่อนข้างมากคือตาซ้ายห้าร้อย ตาขวาเกือบเก้าร้อย ใส่แ่ว่นมาตั้งแต่เด็กจนอายุ 38 ผมศึกษาเรื่องทำเลสิคมานานแต่ปัญหาคลาสสิคของคนที่อยากทำเลสิคคือ 'ทำแล้วจะดีหรือไม่', 'จะทำที่ไหนดี' 'มีผลข้างเคียงหรือไม่'ถามสิบคนก็อาจจะได้สิบคำตอบ ด้วยเหตุผลความเชื่อแตกต่างกันไป
ขณะนี้ผมได้ผ่านการทำเลสิคมาเรียบร้อยแล้วครับที่ รพ. ไทยจักษุ เมื่อวันที่ 12 พย 52 ที่ผ่านมา และมีข้อสรุปส่วนตัวดังนี้ครับ
1) ทำเลสิคไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดครับ ใช้เวลาเร็วมาก พักฟื้นไม่นาน ไม่เจ็บปวด ตรงนี้ขอคอนเฟิร์มครับ ผมเองค่อนข้างเป็นคนขี้กลัวก็เลยกลัวซะเยอะ ตื่นเต้นซะมาก เอาเข้าจริงก็สามารถผ่านไปได้ ผมจึงเชื่อว่าถ้าคุณไม่ได้เป็นคนที่วิตกจริตจนเกินเหตุ เชื่อผมเถอะว่าคุณจะสามารถผ่านมันไปได้ เหมือนที่คนหลายล้านคนทั่วโลกทำได้ เอาเป็นว่าถอนฟันน่ากลัวกว่าก็แล้วกันครับ
2) ทำแล้วได้ผลดีหรือไม่ ตรงนี้คงไม่มีใครกล้าการันตี แต่เท่าที่ผมได้สัมผัสมาและศึกษา อยากจะบอกว่าถ้าตอนที่คุณไปพบแพทย์และทำการตรวจสภาพตาแล้วแพทย์บอกว่าทำได้นั้น ผมก็เชื่อว่าส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 90 น่าจะได้ผลดีนะครับ เอาเป็นว่าดีกว่าไม่ทำก็แล้วกันครับ แต่ก็ต้องเผื่อไว้นิดนึงนะครับ เพราะว่าการผ่าตัดทุกชนิดย่อมมีความเสี่ยง
3) ทำที่ไหนดี นี่เป็นสุดยอดคำถามคลาสคิคเพราะมีปัจจัยมากมายในการตัดสินใจ ตัวผมเองได้ตรวจกับแพทย์มาทั้งหมดสามที่คือ รพ กลาง Laser Vision และ Thai Eye Clinic ถ้าพูดเรื่องบริการละก็ขอให้คะแนนเีัีีัรียงจากมากไปน้อยอย่างนี้ครับ Laser Vision รพ กลาง และ Thai Eye CLinic แต่ถ้าถามเรื่องราคาละก็เรียงอย่างนี้ครับ Laser Vision Thai Eye Clinic และ รพ กลาง ทีนี้ถามว่าทำไมผมถึงเืลือกทำที่ Thai Eye คำตอบคือผลเลือกที่เครื่องครับ ที่นี่เครื่องใหม่สุด คุณหมอก็โอเค (หมอสวัสดิ์) แต่พอตัวเองได้นอนบนเตียงผ่าตัดจริงๆแล้ว พอทำเสร็จแล้วก็ได้บทสุปกับตัวเองว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็จะเลืือกทำที่รพ กลาง ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่า Thai Eye ไม่ดีนะครับ แต่ผมมีความรู้สึกว่าการทำเลสิคไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใดแล้ว จักษุแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์ก็น่าจะทำได้ทุกท่าน ดังนั้น เท่าที่ผมศึกษามาจักษุแพทย์ที่รพ กลาง ท่านก็ทำมาไม่น้อย เอาเป็นว่าหลักหลายๆพันคนละครับ ดังนั้น ผมจึงคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปจ่ายแพงครับ มีข้อมูลนิดนึงที่อยากจะเล่าให้ฟังว่าทำไมค่าทำเลสิคที่ รพกลางถึงถูกกว่าที่อื่น จนหลายคนที่พอจะมีฐานะหน่อยก็ไม่กล้าทำที่นี่เพราะคิดไปเองว่าถ้าถูกแล้วไม่น่าจะีดี ความจริงอยู่ตรงนี้ครับ เครื่องเลเซอร์ที่รพ.กลางซื้อมาโดยงบของกทม ครับ และเป็นเครื่องเลเซอร์ที่เดียวที่ใช้เงินหลวงซื้อร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ จึงทำให้คิดค่ารักษาได้ถูก ทีนี้ก็จะมีคำถามว่าอ้าวแ้ล้วเครื่องของรพ.รัฐอื่นๆทำไมถึงแพงกว่า คือเท่าที่ผมทราบนะครับ ที่รพ.รัฐอื่นๆนั้นเป็นการร่วมลงทุนกันระหว่างรพ.รัฐนั้นๆกับเอกชนครับ คือเอกชนลงทุนซื้อเครื่องให้ ส่วนรัฐมีสถานที่กับบุคคลากร ดังนั้น นี่คือคำตอบว่าทำไมค่าทำเลสิคที่รพ.รัฐที่อื่นถึงแพงกว่าที่รพ.กลางงัยครับ ดังนั้น ตอนนี้ผมให้คนที่บ้านผมที่อยากทำ (แต่ให้ผมเป็นหนูทดลองก่อน คือประมาณว่าอยู่กับผมทุกวันได้เห็นอาการและพัฒนาการหลังการทำเลสิคของผมอย่างใกล้ชิด) ไปทำที่รพ.กลางครับ เพราะผมคิดว่าคุ้มที่สุดแล้ว
4) การนำเรื่องเครื่องมาพิจารณาก็สำคัญครับ แต่อยากจะบอกว่าถ้อยคำที่เราเห็นตาม web site brochure หรืออะไรก็ตามแต่ที่บรรยายถึงความดีของเครื่องของแต่ละที่นั้น ส่วนนึงก็เป็นเรื่องของ marketing นะครับ เอาเป็นว่าสรุปกันง่ายๆอย่างนนี้ครับ เครื่องเลสิคทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นที่ใช้อยู่ในประเทศไทยล้วนผ่านการรับรองของ FDA ของอเมริกามาแล้วทั้งนั้นครับ เพราะฉะนั้น รับรองว่าเครื่องที่ไหนก็ไม่แตกต่างกันครับ หลายคนอาจจะเถียงว่าดูเสปคแล้วต่างกันนะ ผมยอมรับว่าใช่แต่เป็นความต่างที่ขออนุญาตใช้ภาษาอังกฤษว่าเป็นความต่างที่ non significant ครับ อย่างนี้พอเข้าใจนะครับ
ผมเขียนกระทู้นี้จากข้อมูลที่เพียรพยามศึกษามาหลายปีและจากประสบการณ์ส่วนตัวจนนำมาสู่ข้อสรุปเป็นการส่วนตัวอีกเช่นกัน ท่านที่ได้อ่านกระทู้นี้แล้วก็ต้องพิจารณากันเอาเองนะครับ แต่รับรองได้ว่าจุดมุ่งหมายในการเขียนกระทู้นี้ของผมก็เพื่อให้ข้อมูลกับคนที่เป็นอย่างผมในอดีต คือกลัวมาก ข้อมูลเยอะทั้งเรื่องเครื่อง เรื่องแพทย์ เรื่องราคาจนตัดสินใจไม่ได้ เผื่อจะได้นำข้อมูลนี้ไปช่วยในการตัดสินใจครับ แต่ที่ผมสรุปได้แน่ๆก็คือ ถ้าท่านมีปัญหาสายตาสั้นมากจนรบกวนการใช้ชีวิจประจำวันแล้วละก็ ทำเถอะครับ ทำก่อน คุ้มก่อน อย่างผมนี่เรียกว่าทำช้าไปหน่อยครับ น่าจะไม่เกินสามสิบครับ กำลังดี
ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ
| จากคุณ |
:
pontanpak 
|
| เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ย. 52 09:12:58
|
|
|
| |
