Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มาถนอมดวงตาของคุณด้วยการสวมแว่นกันแดดในชีวิตประจำวัน กันเถอะค่ะ  

ก่อนอื่นขอถามทุกท่านว่ามีใครบ้างไหมคะ ที่ใส่แว่นกันแดดอยู่เป็นประจำก่อนออกจากบ้าน ????   คำตอบดิฉันคิดว่าน้อยมาก เพราะเท่าที่ดิฉันพบเจอนั้น 100ละ 5 คนเท่านั้นกระมั้งที่สวมแว่นกันแดด  หรือท่านใดจะค้านก็ได้นะคะ   แต่ดิฉันเดินย่ำอยู่ทั่วกรุงเทพนี่ก็ไม่เคยเห็นจะมากไปกว่านี้ที่เค้าใส่กัน  ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น???

ดิฉันไม่แน่ใจว่าอะไรคือค่านิยมที่ทำให้คนไทยไม่ค่อยใส่แว่นกันแดดกัน  ทั้งๆที่ประเทศไทยตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่มีแสงแดดร้อนระอุมากที่สุดประเทศหนึ่งก็ว่าได้  แต่ว่าพวกเราไม่ค่อยใส่แว่นตากันแดดเพื่อปกป้องและถนอมสายตาของเรา   ดิฉันเห็นสาวๆ ซึ่งดิฉันก็เป็นสาวๆคนนึงเช่นกัน ก่อนนี้ดิฉันไม่เคยใส่แว่นเลยตั้งแต่เกิดมาจนเพิ่งมาใส่จริงๆจังๆก็เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่เอง  ถือว่าช้ามาก ชีวิตเราอยู่ท่ามกลางเปลวแดดอันร้อนจ้ามายาวนานยี่สิบกว่าปีเห้นจะได้โดยที่ดวงตาของเราไม่ได้รับการปกป้องแม้แต่น้อย   ซึ่งก็มัวแต่ปกป้องผิวหนังของเราด้วยการกางร่มให้มัน เราไปไหนเราก็มักจะเดินกางร่มไปเพื่อไม่ให้ผิวเราโดนแดดเผา  เนื่องด้วยกลัวดำหรือกลัวเป็นมะเร็งผิวหนังอะไรก็ตามแต่ แล้วดวงตาล่ะมันไม่สำมะคัญหรอกหรือ  

ส่วนใหญ่เรามักใส่แว่นก็ตอนขับรถ และไปเที่ยวต่างจังหวัดถึงจะใส่กันไช่ไหม แต่เวลาเราออกจากบ้านในชีวิตประจำวันของเราไม่เห็นมีใครคิดที่จะใส่แว่นตากันแดดออกจากบ้านเลย  ในความคิดของใครหลายคนมักจะพูดว่า “เออ ซื้อแว่นตาเอาไว้ใส่ขับรถ” ได้ยินประจำจากเพื่อนๆ คิดว่าหลายๆท่านก็คงเคยได้ยินแบบนี้เช่นกัน หรือ “จะหาซื้อแว่นเอาไว้ไปทะเลวันหยุดยาวนี้”  ดีใจนะคะที่อย่างน้อยก็ยังปกป้องดวงตาของตัวเองบ้างแม้ว่าจะเป็นช่วงๆ ก็ตาม แต่ถามว่า พระอาทิตย์ดวงนี้ที่ส่องจ้าอยู่นี้มันฉายแสงแค่เพียงตอนขับรถ  และตอนไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือที่ทะเลเท่านั้นหรอ เราถึงได้สวมแว่นกันแค่ตอนนั้นๆ  


ที่ดิฉันได้เขียนกระทู้นี้ขึ้นมา เนื่องมาจากว่าที่บ้านของดิฉัน มีญาติคนหนึ่ง และแม่ของดิฉันเองนี่แหละ  ซึ่งแม่ตอนนี้ก็อายุมากแล้ว  เมื่อเดือนที่ผ่านมาหมอตรวจสุขภาพแล้วได้บอกว่าแม่เป็นต้อกระจกนะ แต่ว่ายังไม่สามารถลอกได้
เพราะเพิ่งเริ่มๆ เป็นต้องรอให้ชั้นมันหนาขึ้นอีกนิดจึงจะสามารถทำการลอกตาได้   โอเคอาจจะเป็นเพราะว่าแม่แก่แล้วดวงตาก็เกิดอาการฝ้าฟางและเป็นต้อกันได้เป็นปกติธรรมดา  ส่วนญาติอีกคนเป็นพี่สะไภ้ซึ่งเธอก็ไปลอกตามาเรียบร้อยแล้วเพราะว่าเธอก็เป็นต้อกระจกเช่นกัน แต่ว่ายังมีอาการปวดตาอยู่เสมอ และเป็นสิ่งที่ทรมาณมากๆ
ผลมาจากการที่ดวงตาไม่เคยได้รับการปกป้องเลย จึงส่งผลมาจนวันนี้  และมีอีกมากมายในประเทศเราที่เป็นต้อกระจกกันมาก

เลยอยากจะบอกกับทุกๆ ท่านว่าสิ่งที่เราป้องกันในวันนี้นั้นมันไม่ได้เห็นผลในระยะปีหรือสองสามปีที่จะมาถึงนี้หรอกค่ะ แต่มันช่วยให้เรายืดอายุดวงตาเราให้อยู่กับเราอย่างสมบุรณ์ได้นานขึ้น  ถ้ามองย้อนกลับไปว่าแม่และพี่สะไภ้ดิฉันได้สวมแว่นตาปกป้องดวงตามาก่อน มาวันนี้ก็คงไม่เป็นต้อกระจกรวดเร็วแบบนี้เป็นแน่ค่ะ
ฉะนั้นอย่าละเลยที่จะดูแลและถนอมดวงตาด้วยการสวมแว่นกันแดดเมื่ออยู่ท่ามกลางแสงแดดกันนะคะ  และส่วนที่ได้จากการใส่แว่นก็จะทำให้บุคคลิกเราดูดีและมั่นใจมากขึ้นอีกด้วย

จากคุณ : แฟนหึงขั้นเทพ
เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 52 14:52:26




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com