ความคิดเห็นที่ 1 ด้วยความที่ว่า รพ ที่เรารักษา เป็น รพเอกชน ที่มีชื่อเสียง ระดับ Inter เราจึงไว้ใจในตัวคุณหมอท่านนี้ ตลอดมา เราไม่เคยซื้อเครื่องมือวัดความดันมา วัดสำรวจความดันของตัวเองเลย อันนี้ถือได้ว่า เป็นความละเลยที่ไม่น่าให้อภัยเป็นอย่างยิ่ง ในการใช้ชีวิตแบบนี้ ที่เอาชีวิตเราไปฝากไว้กับคนอื่น  จนกระทั่งคุณหมอปรับยา เพิ่มขนาดขึ้นมาตลอด จนมีอยู่วันหนึ่ง ภรรยามาบอกผมว่า หลังจากที่กินยาที่คุณหมอบอกมา มีอาการเหมือนจะวูบ มึน  ผมเลยบอกภรรยาให้หยุดยา แล้วไปยืมเครื่องวัดความดันของน้องชายมาวัด ความดันตอนนั้น วัดได้ราวๆ 90/58   หลังจากนั้นก็เลยไปหาซื้อ เครื่องวัดความดันมาเป็นของตัวเอง 555 เพื่อจะได้เช็ค ความดันของตัวเองและภรรยาได้เป็นระยะๆ จากคุณ : Pita เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 52 11:16:57

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อเรามีเครื่องวัดความดันเป็นของตัวเอง(พูดเหมือนมันหายากราคาแพงเลย) ภรรยาก็ทำการวัด ความดัน และเก็บเป็น Record ไว้ ทุกวัน ๆละ 3 เวลา ลืมบอกไปว่า เครื่องวัดเป็นเครื่องวัดแบบที่รัดตรงแขนแบบที่คุณหมอใช้น่ะครับ  ผมเลยให้ภรรยาหยุดยา ก่อนไปหาคุณหมอ สัก 2 อาทิตย์ พบว่า ความดันที่ไม่ได้กินยาเลยสักเม็ดเดียว  ของภรรยา ไม่เคยเกิน 120/80 เลย จะป้วนเปี้ยนอยู่ราวๆ 110/70++ เท่านั้นเอง  เมื่อวันนัดพบคุรหมอมาถึง ผมและภรรยาได้ เอา Report การวัดความดันไปให้คุณหมอเพื่อวินิจฉัย ... คุณหมอดูแล้ว พูดออกมาว่า เครื่องวัดความดันคุณมันห่วย เชื่อถือไม่ได้ ตอนนี้ผมตรวจคุณอยู่ ความดันคุณ 160/100 แล้วจะให้ผมไม่ต้องจ่ายยาให้คุณหรอ เป็นไปไม่ได้   ซ้ำร้ายกว่านั้น คุณหมอยังปรับยา ควบคุมการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นมาเป็น 2 เท่าอีก เราสองคนมองหน้ากันด้วยความมึน... จากคุณ : Pita เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 52 11:23:13

ความคิดเห็นที่ 3 ก็เค้าเป็นหมอ เราเป็นคนไข้ หมอว่าไงว่าตามกัน..ถ้าไม่เชื่อหมอแล้วเราจะมาหาหมอทำไม จริงไหมครับ  ว่าแล้ว วันรุ่งขึ้นก็ กินยาตามที่หมอปรับยามาให้ใหม่...ภรรยากินไปตามที่หมอสั่ง ผลปรากฎว่า เกือบจะวูบอีกแล้ว ความดันอยู่ที่ ราวๆ90/60 ทั้งวันเลย ภรรยาถามผมว่า เอาไงดี ผมตอบว่า หยุดยาก่อน กินแค่ครึ่งเดียวที่หมอสั่งก่อนแล้วกัน แล้วดูว่าเป็นยังไงบ้าง    แล้วทำไมไม่โทรถามหมอ อันนี้เคยพูดคุยกับหมอแล้ว เรื่องวูบ หมอยังยืนยันว่า กินเหมือนเดิม แถมโดนดุกลับมาอีกด้วย ...เอากะเค้าดิ  วันรุ่งขึ้น ภรรยาบอกว่า กินครึ่งเดียวก็โอเค ไม่รู้สึกวูบแล้ว แต่ความกันที่วัดได้ ขึ้นมานิ๊ดดดดหน่อย ราวๆ 95/60 เป็นอย่างนี้ ตลอด 3 เดือนก่อนที่จะมาพบหมอในครั้งต่อไป..เฮ้อออออ จากคุณ : Pita เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 52 11:28:58

ความคิดเห็นที่ 4 3 เดือน ผ่านไปไวเหมือนโกหก ครั้งนี้ มีนัดตรวจ เส้นเลือดในไต ต้องไปทำ อุลตร้าซาวน์ดในไตด้วย เพราะหมอสงสัยว่า ทำไม ความดันไม่ลง ตรวจค่าไตด้วย ตรวจแทบจะทุกอย่างเลย   ผลออกมา ปกติทุกอย่าง ยกเว้น ความดันที่ยังสูงอยู่เท่านั้นเอง  ถามว่า เคยถามหมอเรื่อง White coat Hypertension กับคุณหมอไหม เคยครับ แต่เหมือนว่า คุณหมอท่านไม่ใส่ใจเอาซะเลย..ไม่สงสัยเลยสักนิ๊ดดดดดดดดดด   รอพบคุณหมอ เกือบ ชั่วโมงครึ่ง ได้คุยกับหมอไม่ถึง 5นาที หมอดูแต่ผลเลือด และผลความดันโลหิตที่วัดได้ขณะนั้น แล้วพูดอย่างเดียวว่า กินยาเหมือนเดิมน่ะ หรือบางครั้งก็ปรับยาแล้วแต่ หัวใจที่มันพาไป..เฮ้ออออ  จน 3 อาทิตย์ที่แล้ว คุณหมอท่านจะเพิ่มยามาให้อีก เพราะความดันมันไม่ลง ในขณะที่คุณหมอวัด  เราสองคนก็พยายามนั่งยัน-ยืนยัน-(ขาดแต่เอาขายัน)กับคุณหมอแล้ว  ว่า ความดันที่วัดได้ที่บ้านมันต่ำมากน่ะครับ เอา Report เอา Report ให้ท่านดู แต่ ท่านไม่สน ฉานนนนไม่แคร์  ยังคงจ่ายมาเบิ้ลขนาดให้มา ตามความคิดท่าน... จากคุณ : Pita เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 52 11:35:38

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ไหวแล้วววววว...สองคนมาปรึกษากัน ขืนกินต่อไป ไม่มีทางเลี้ยงลูกจนโต อย่างแน่นอน.. พอดีมีเพื่อนที่รู้จักที่เป็นคุณหมอท่านอื่น แนะนำให้ไปหาหมอ รพ เอกชนอีกที่หนึ่ง แถวสาธร..ที่เดิมอยู่แถว สุขุมวิท    คุณหมอท่านใหม่ ได้ฟังรายละเอียดที่ภรรยาผมเล่า อย่างตั้งใจ ดู Report ความดันที่ได้ทำการบันทึกไว้อย่างละเอียด ในส่วนหนึ่งของการสนทนา คุณหมอได้ให้ข้อมูลที่น่่าสนใจมากๆๆๆ ลองฟังดูน่ะครับ   90% ของคนที่มีภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ ส่วนมากหลังจาก คลอดแล้ว จะไม่มีภาวะความดันโลหิตสูงติดมาด้วย พูดง่ายๆคือ หายโลด  คนอายุ 50 ปี ขึ้นไป มีโอกาสถึง 90 % ที่จะเป็นความดันโลหิตสูง 555 เอาไว้ถึง 50 แล้วค่อยว่ากันเน้ออออออออ  คุณหมอท่านนี้ ได้บอก ภรรยาผม ให้ หยุดยาที่ทานทั้งหมด หลังจากที่คุรหมอได้ดูยาที่คุณหมอ คนเก่า จ่ายมาให้แล้ว  ใช่แล้วครับ หยุดยาทุกตัว ฟังไม่ผิดหรอกครับ พวกเราทีแรกนึกว่าเราฟังผิดไป ...แม่นแล้วววววว หยุดดดดดโลด  แล้วให้จดรายละเอียดอาการ และความดันมาให้คุณหมอดู อีก 3 อาทิตย์ จากคุณ : Pita เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 52 11:43:41

ความคิดเห็นที่ 6 คนเคยกินยาลดความดันมา 8 ปี เต็มๆๆ อยู่ดีๆ มีคุณหมออีกท่านมาให้หยุดยา.. ติ๊กต๊อกๆๆๆ..เอาไงดีหว่าาาาา แฟนหันมาถาม  คนเราลองเดินหน้าแล้ว ไม่มีทางถอยแล้ว ...ว่าแล้วก็หยุดยาตามที่คุณหมอท่านใหม่สั่งมา พร้อมกลับไปขอประวัติการรักษา ที่ผ่านมาทั้งหมด จาก รพ เดิม  วันแรกของการไม่กินยา แฟนบอกว่า รู้สึกสดชื่น ไม่มึนหัวเวลาตื่น ของเดิม เวลาตื่นจะมึน มองโลกใส ขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่วายหันมาถามผมว่า ไม่ต้องกินยาจริงๆหรอ  ผมบอกไปว่า ไม่ต้อง... ผ่านไปวันที่สองสาม และ สี่ตามลำดับ ความดันที่วัดได้เริ่มขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว เริ่ม ทำเบรค 100 ได้บ่อยขึ้น เริ่มทำ New high ใหม่ๆทุกๆวันเสมอๆๆ  คุณหมอบอกว่า มันจะมีฤิทธิ์ของยา สะสม อยู่ราวๆ 5 วัน หลังจากนั้น จะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติของร่างกาย  เหมือนซื้อหวย เลยวุ้ยยยย   ....จะขึ้นไหมเน้อออออ...  แว๊บแรกที่แฟนผมวัดความดัน หันหน้ามาด้วยความยิ้มแย้ม แล้วบอกกับผมว่า 115/80 ราวๆนี้ ผมก็ได้แต่ให้กำลังใจไป ว่า โอเคก็ดีแล้วนี่...  ผ่านไปไวเหมือนโกหกอีก วันที่ 6-7 -8 9 และ ในที่สุด 21วัน วันที่คุณหมอท่านใหม่ นัดมา ก็มาถึง  คุณหมอท่านดูรายงาน ความดันของแฟนผม ท่านบอกว่า ก็ปกติดีนิ ตามที่ควรจะเป็น ทำให้เราลิงโลด ..    หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า เครื่องมือที่ทำการวัดความดันที่ผมมีอยู่น่าเชื่อถือได้แค่ไหน พวกเราเองก็สงสัยเหมือนกัน เลยซื้อใหม่อีก เครื่องซะเลย ..โรคจิตใช่ม่าาาาา  ซื้อเครื่องวัดความดัน 2 เครื่อง 5555 จากคุณ : Pita เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 52 11:53:45

ความคิดเห็นที่ 7 เข้ามาอ่านเพราะเราเองก็เป็นความดันสูงเหมือนกัน รอผู้รู้มาตอบ จากคุณ : aboho1 เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 52 12:01:26

ความคิดเห็นที่ 8 เพื่อความถูกต้อง ความแน่นอน พวกเราได้เอาเครื่องวัดความดัน ดิจิตอลของเราไปเทียบกับทาง รพ ด้วย ผลออกมา ตรงกันเป๊ะ แสดงว่า เครื่องวัดความดันที่เรามีอยู่ น่าเชื่อถือได้ดีทีเดียว...  คุณหมอได้พูดถึงหลักของการวัดความดันไว้น่่าสนใจอย่างนี้ เครื่องมือวัดความดัน 24ชม ที่ติดตัวตลอดเวลา อันนี้ คุณหมอให้ความเชื่อถือได้ 100 % รองลงมา คือ เครื่องวัดความดันที่คนไข้ วัดตลอดเวลา ทำอย่างเป็นระบบ อันนี้ก็เชื่อถือได้รองลงมา  อันสุดท้ายสุดที่คุณหมอไม่ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ ค่าความดันที่วัดได้ที่ รพ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่จะเข้ามากระทบ ทั้งสภาวะความเครียด สิ่งแวดล้อมต่างๆๆนั่นเอง  คุณหมอท่านเล่าให้ฟังว่า มีคนไข้ของคุณหมอบางคน มาหาหมอ ความดัน 190/100   แต่อยู่บ้านไม่เคยเกิน 130/80 ก็มีอยู่หลายคน ทุกวันนี้ก็ไม่ต้องกินยา ทุกอย่างที่ตรวจก็ปกติ  คุณหมอได้ถามถึงประวัติการรักษาของภรรยาผม ว่า เคยตรวจสุขภาพประจำปีอะไรบ้าง เราบอกว่า คุณหมอท่านเดิม ไม่เห็นให้เราตรวจอะไรเลย คุณหมอท่านทำหน้า งงๆ แล้วบอกว่า อนาคตถ้าเวลาคุณมีปัญหา แล้วผมจะเอาอะไรมาเทียบได้หล่ะครับ ว่า ตอนปกติ มันเป็นยังไง  ตอนที่เริ่มมีปัญหามันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร.... จากคุณ : Pita เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 52 12:03:16

ความคิดเห็นที่ 9 สวัสดีครับ คุณ abohol1 ขอให้สุขภาพแข็งแรงครับ   วันที่ไปพบคุณหมอ ความดัน ภรรยาผมวัดได้ 170/100 โอ้ส์ Amazing มากๆๆ เจอหมอเป็นไม่ได้ สูงโลดดดดดดดด   บทสรุป คร่าวๆ คือ ภรรยาผมเป็น White coat Hypertension คือมีภาวะความดันสูงเวลาไปพบแพทย์(เฉพาะแพทย์ท่านนี้) แต่เวลาอยู่ที่บ้านก็ปกติ  เคยไปพบแพทย์คนอื่นก็ปกติดีน่ะครับบบบ แฟนบอกว่า เวลาเจอหน้าหมอ มันเหมือนถูกกดดันยังไงไม่รู้   มันยังมีเคสที่ เวลาไป พบแพทย์ความดันปกติ แต่เวลากลับมาบ้านความดันโลหิตสูงด้วยน่ะครับ ดังนั้น ควรหมั่นตรวจเช็คความดันตัวเองอยู่เสมอ..  สำหรับกระทู้นี้ ไม่ได้ต้องการตำหนิ แพทย์คนแรกที่ได้ทำการรักษา ภรรยาผม แต่ผมว่า ท่านมีเวลาให้พวกเราไม่พอจริงๆ อาจจะเนื่องด้วย คนไข้ท่านเยอะ งานรัดตัว ท่านจึงละเลยบางสิ่งบางอย่างไป  ...  ท้ายยที่สุด ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ครับ.. สุขภาพทุกคน ต้องรู้จักที่จะดูแลและหมั่นตรวจสอบ อย่าปล่อยให้เปนหน้าที่ของคุณหมอเพียงอย่างเดียว ถ้าอะไรไม่แน่ใจในคำวินิจฉัยของคุณหมอ ลองหา Second Opinion สักหน่อยก็ดีน่ะครับ  ทุกวันนี้หลังจากหยุดยามาจะ 1 เดือนแล้ว ภรรยาผมก็สุขภาพดี ไม่มีอาการมึน หรืออาการปวดหัวเลย สามารถเดินสายพานได้ 40-60 นาทีอย่างสบายๆ ความดันก็ปกติเหมือนคนปกติทุกอย่าง อยู่ราวๆ 110++/70++ เท่านั้นเอง  ไตก็ปกติ..อัตราการเต้นของหัวใจก็อยู่ที่ 65++ ของคนปกติที่ควรจะมี ขอให้ทุกคนมีสุขภาพดีน่ะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Pita เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 52 12:15:17

ความคิดเห็นที่ 10 ติดตามอ่านตึ้งแต่ต้นจนจบ   ขอบคุณมากๆเลยค่ะสำหรับข้อมูลที่มาเล่าสู่กันฟัง   ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงกันทุกๆคนนะคะ รวมทั้งตัวเราเองด้วยค่า จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 52 13:00:56

ความคิดเห็นที่ 11 น่าสนใจมากๆครับ ขอบคุณมาก จากคุณ : OreOแง่มๆ เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 52 13:01:52

ความคิดเห็นที่ 12 กรณีสามีของดิฉันก็ใกล้เคียงกันค่ะคือเริ่มเมื่อเขาต้องไปดูแลคุณพ่อที่ป่วยหลังจากเลิกงานทุกวัน กว่าจะกลับมาพักผ่อนก็ดึก ต้องตื่นเช้าไปทำงาน เขาบอกมึนหัวมาก ข้าวปลาก็ทานไม่ลง เราก็พาไปรพ.เอกชนใกล้บ้าน ปรากฎว่าเป็นความดันสูง อยู่รพ.มา1สัปดาห์ค่อยยังชั่วแต่กลับมาบ้านจะไม่มีความสุขเลย เขาบอกว่าจะตื้อๆ มึนๆอยู่ตลอด  ทนมาเกือบ2สัปดาห์ ทานยามื้อละเกือบ10เม็ด จนดิฉันทราบจากน้องที่ออฟฟิสคนหนึ่งว่าคุณพ่อเขาเป็นความดันและไปหาหมอที่เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือดท่านหนึ่งก็เลยลองพาสามีไปหาพร้อมเอายาไปให้ท่านดูด้วย ปรากฎว่าท่านบอกว่าอาการมึนที่เกิดขึ้นเพราะยาจะไปกดความดันเอาไว้ตลอด เมื่อท่านปรับยาให้เหลือเพียงครึ่งเม็ด สามีบอกว่ารู้สึกโล่งสบายอย่างบอกไม่ถูก  และเราก็เลยเปลี่ยนมาหาหมอท่านนี้เลยค่ะ จากคุณ : SEARCHLADY (Searchlady) เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 52 13:37:49

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณสำหรับข้อมูลและประสบการณ์นะคะ ได้เห็นเลยว่า Second Opinion นี่ี่ก็สำคัญมากเหมือนกันเนอะ ยังไงก็ขอให้แข็งแรง ๆ นะคะ จากคุณ : Julie_pikaju เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 52 13:52:14

ความคิดเห็นที่ 14   ขอยืนยันครับ.... ผมก็เป็นโรคตื่นหมอจริงๆ เวลาไป รพ.วัดนี่มันจะขึ้นสูงกว่าปกติ.... แต่พอวัดเองที่บ้าน ก็ได้ค่าสูงกว่าปกตินิดหน่อยที่ 135/80 มีครั้งหนึ่งเข้านอนที่ รพ.ตอนแรกๆวักความดันมันขึ้นสูงจริง... แต่เขาวัดทุก 2ชม. ปรากฏว่า หลังจากวัดครั้งที่ 2 ความดันเกือบเป็นปกติ ตลอด ถึงได้รู้ว่ามีอาการตื่นหมอนั่นเองควบคุมไม่ได้จริงๆครับ ลองพยายามหลายครั้งแล้วก็ไม่เป็นผล จากคุณ : อมมือ เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 52 16:47:37

ความคิดเห็นที่ 16   ความดันสูงตอนตั้งท้องน้องคนที่สอง พอคลอดความดันขึ้นๆลงๆ ไปหาหมอ หมอให้กินยาวันละ 1 เม็ดหนึ่งครั้ง ผ่านไปสามเดือนหมอเพิ่มยาอีกหนึ่งตัวทั้งๆที่ความดันคงที่ แต่เป็นเพราเราตื่นเต้นเวลาไปหาหมอ ความดันเลยขึ้นสูง 150/100 แต่พอกินยาเพิ่ม แล้วมึนๆ อ่อนเพลียและไม่สบายตัวเลย คิดอยู่เหมือนกันว่าจะไม่กินยาตัวที่หมอเพิ่มให้ดีกว่า กินยาตัวแรกตัวเดียวความดันก็ปกติแล้ว จากคุณ : แม่น้องมายด์กกะมีน เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 12:48:26 A:119.160.216.82 X: TicketID:220248