Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
++ KAEW ไดอารี่ ++ วันนี้ไป ร.พศรีธัญญา ได้มาอีก 1 โรค แล้วจ้า  

สวัสดีจ้าพี่น้อง

วันนี้วันเอดส์โลก  วันของชาวเราอีกแล้ว ช่วงวันเอดส์โลกทีไร พวกผู้ติดเชื้ออย่างเราๆจะได้รับความสนใจขึ้นมา 1 วันค่ะ  จะมีคนติดต่อขอสัมภาษณ์ เชิญไปออกรายการวันเอดส์โลกหลายช่อง  ปีนี้ปฏิเสธหมดอ่ะคะ  ไม่พร้อม และ ไม่อยากเสี่ยงแล้ว เพราะต้องยอมรับว่าสื่อทางโทรทัศน์ไว้ใจค่อนข้างยาก  เคยไปออกรายการแล้วเขาสัญญาจะทำเบลอให้ ปรากฎเบลอแบบต่ำสุดเหมือนไม่ได้ทำอะไรเลยอ่ะคะ  ก็ตายไปเลย มีเพื่อนเห็น แล้วโทรมาถามเลย โชคดีเป็นเพื่อนสนิท ที่นิสัยดี ก็เลยรอดไป

ต่อจากนั้นมาก็เลยไม่ค่อยไว้ใจสื่ออ่ะคะ  ปีนี้ก็เลยปฏิเสธหมด วันนี้มีรายการหนึ่งก็ส่งเพื่อนในเว็บไปให้สัมภาษณ์แทน เพื่อนไม่ได้ติดเชื้อเลยให้ไปได้ เพราะหัวข้อคือ "จิตอาสา"  คุยกันว่าทำไมมาเป็นเพื่อนกับคนติดเชื้อ มาทำงานช่วยคนติดเชื้ออะไรทำนองนี้อ่ะคะ

ส่วนเราเลือกไปพวกบรรยายเรื่องเอดส์ตามโรงเรียนและมหาวิทยาลัยอ่ะคะ  ไปบรรยายมีคนเห็นเราเยอะก็จริง แต่มันไม่ได้ออกสื่อ ไม่ถ่ายรูป  แล้วเราก็คิดว่าเราเอาชีวิตตัวเองไปเป็นบทเรียนให้คนอื่น ไปเป็นวิทยาทาน มันคงเกิดประโยชน์ดีกว่า   เมื่อวันเสาร์ไปมาโรงเรียนหนึ่งแล้ว วันพฤหัสนี้ มีบรรยายที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เป็นโอกาสดีที่จะได้ไปเดินรำลึกความหลังสมัยเป็นนักศึกษา  แล้ววันที่ 15 ก็บรรยายธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อันนี้ย้อนอดีตกันไกลสมัยเรียนปี 1

วันนี้ตอนแรกว่าจะไปให้กำลังใจเพื่อนๆที่สถานีโทรทัศน์ แต่แล้วเปลี่ยนใจ บอกเพื่อนว่าขอเราไปหาหมอดีกว่า ทนตัวเองไม่ได้ อาการไม่ค่อยดีมาพักใหญ่ๆแล้ว

อาการที่ว่าไม่ใช่ป่วยกายอ่ะคะ (จริงๆกายป่วย แต่ก็นิดๆหน่อยๆ ไม่มากมาย)  ที่ป่วยมากอ่ะ "ใจ"  พักหลังๆอาการกำเริบเยอะค่ะ รู้สึก ใจอ่อนแอ ทุกข์ง่าย ท้อง่าย หงอยเหงา เศร้าซึม ร้องห่มร้องไห้ง่ายดายมาก น้อยใจในชีวิต เบื่อชีวิต อยากตาย อยากอยู่คนเดียว และความอดทนน้อยลง ทนอะไรไม่ค่อยได้ จะโกรธง่าย เบื่อง่าย  ขี้หงุดหงิด

เลยคิดว่าสงสัย "ใจ จะ ป่วยหนัก"  ก็พยายามเยียวยารักษาตัวเองนะคะ ไหว้พระ สวดมนตร์ ไปเที่ยว ไปชอบปิ้ง หาอะไรอร่อยๆกิน  มันก็ดีขึ้นเป็นพักๆ มันแก้ที่ปลายเหตุอ่ะนะ  ก็เลยรู้สึกทนไม่ได้กับปัญหา จึงตัดสินใจว่า จะไปโรงพยาบาล

แต่จะไปโรงพยาบาลที่มีประกันสังคม และ เรารักษา HIV อยู่ก็ไม่ได้ ไม่มีแผนกจิตเวช และ คุณหมอประจำตัวเราก็มองโลกในแง่ดีมากเกินไปนิดนึง เราเคยปรึกษาปัญหาอาการแบบนี้แล้ว แต่คุณหมอบอกว่า เราคิดมากไปเอง ไปหาอะไรที่ชอบกินซะ แล้ว นอนหลับ เดี๋ยวก็หาย  ซึ่งมันก็อาจจะหายถ้าใจไม่ป่วยมาก

แต่ตอนนี้รู้สึกใจจะป่วยมากแล้ว และ ไม่อยากให้อาการหนักไปกว่านี้อ่ะคะ รอไม่ไหวแล้ว  วันนี้เลยพาตัวเองไป โรงพยาบาลศรีธัญญา เลย

อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่คนไทยมักเข้าใจอะไรผิด จริงๆแล้วคนไปศรีธัญญา ไม่ได้แปลว่า เขาเป็นบ้า นะคะ  คนมีปัญหาสุขภาพจิต(แบบเรา) ก็รักษาที่นี่ได้ และการมีปัญหาสุขภาพจิต ไม่ได้แปลว่า บ้า อ่ะ การไปหาหมอจิตเวช ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดนะ

วันนี้ก็เลยไปเองคนเดียว ไปแต่เช้า ทำบัตรคนไข้ ก็ฮาๆดี เพราะทุกโต๊ะที่ไปติดต่อเขาจะถามว่า พาญาติมารักษาเหรอค่ะ  ถามบ่อยจนระแวงว่าเขามองเห็นใครที่เรามองไม่เห็นมากับเราด้วยเหรอ

ก็ตอบไปว่า เปล่าค่ะ มาคนเดียว มารักษาเองค่ะ.....

เสร็จขั้นตอนการทำประวัติต่างๆ ก็ได้บัตรคนไข้มาไว้พกพาเล่น  เอาเก็บใส่กระเป่าสตางค์ แล้วก็ขำๆตัวเองอ่ะ ใครเก็บกระเป๋าเราได้ เขาต้องสงสารแล้วรีบเอามาคืนแน่ๆ เพราะมีทั้งบัตรคนไข้คลีนิคนิรนาม บัตรโรงพยาบาลบำราษฎร์นราดูร นี่มีบัตรศรีธัญญาเพิ่มมาด้วย

ต่อไปก็ไปคุยกับนักจิตวิทยา  คุยสบายๆ ถามประวัติ ให้เล่าเรื่องตัวเอง  ชวนคุยกันเรื่องโน้นนี้นั้น แล้วก็วกมาว่า มาหาหมอเพราะอะไร  คิดว่าอะไรทำให้เครียด อะไรทำให้ทุกข์  คือเขาก็จะพยายามให้เราคิดเอง แล้วเขาช่วยแนะนำ  ก็คุยกันไป ชั่วโมงกว่าๆ  (สงสัยประเด็นเราเยอะ)

ต่อมาก็เข้าไปคุยกับคุณหมอ อีกเกือบชั่วโมง  สรุปคร่าวๆ คุณหมอบอกว่า เรามีอาการของ "โรคซึมเศร้า" ซึ่งคนเดี๋ยวนี้เป็นกันเยอะ และในหมู่คนป่วยด้วยโรคเรื้อรังอย่างเราก็เป็นเยอะ เพราะมันมีแรงกดดันจากปัญหาต่างๆมากมาย

ของเราคุณหมอบอกว่า มันมีปมเรื่องครอบครัวด้วย เรื่องโรคที่เป็นด้วย  เรื่องงานที่ทำด้วย เพราะงานช่วยคนอื่นนี่มันเครียดและน่าเบื่อ  รวมๆหลายเรื่องเข้าด้วยกันก็เลยมีปัญหา ซึมเศร้า เหงา ทุกข์ น้อยใจในชีวิต เบื่อโลก

คุณหมอชมว่า เก่งนะ  ที่สังเกตุอาการเบื้องต้นเองได้ และ พาตัวเองมาหาหมอเอง อาการมันยังเป็นไม่เยอะ  หมอบอกว่าคนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับว่าตัวเองมีปัญหา ไม่ยอมรับตัวเองถ้าจะต้องมาหาหมอจิตเวช  ก็เลยบ่อยให้ตัวเองอาการหนัก  กว่าจะได้หาหมอก็อาการเพียบแล้ว หรือมีอาการทางจิต จริงๆแล้วอ่ะ

แต่เราอ่ะไปหาหมอเร็ว อาการเพิ่งเริ่ม  คุณหมอก็นัดมาคุยทุกเดือน และ ให้กินยาสำหรับอาการซึมเศร้า และ ยาคลายเครียด

นอกจากนี้ก็แนะนำให้ปล่อยวางงานต่างๆบ้าง ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ(หมายถึงงานที่ต้องนั่งฟังคนระบาบเรื่องราวต่างๆอ่ะนะ) หมอให้หาอะไรที่สนใจที่ชอบทำ หมอมีการช่วยคิดด้วยว่าตอนนี้ชอบทำอะไร ก็ตอบว่าชอบไปออกกำลังกายใน Fitness  หมอว่าดีมาก จะได้แข็งแรงด้วย  ชอบก็ทำไปเลย

ไปหาหมอแล้วก็รู้สึกดีขึ้นนะคะ  ดีเพราะอุ่นใจว่าเราไม่ได้ปล่อยปล่ะละเลยตัวเองนะ เราดูแลตัวเองดีทั้งกาย และ ใจ เรื่องกายเราก็หาหมอด้าน HIV ทุกเดือน กินยาทุกวัน พอใจป่วยเราก็พาใจไปหาหมอทันที   อีกอย่างที่รู้สึกดีขึ้น เพราะหมอบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกที่เป็นแบบนี้   คือตอนแรกก็แอบกลัวๆ ว่าเราเป็นอะไรมากรึเปล่านะ

สรุปว่าตอนนี้มีโรคประจำตัว 3 โรคแล้วนะ  AIDS / โลหิตจาง  / โรคซึมเศร้า    สะสมแต้มไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะได้โรคอะไรมาอีก

วันนี้อยู่ศรีธัญญามาครึ่งวันก็นั่งมองคนอื่นไปเรื่อยๆ คนป่วยเยอะมากค่ะ  ส่วนใหญ่ญาติต้องพามาหา แล้วก็มีอาการเยอะแล้ว น่าสงสารทั้งคนป่วย และ ญาติ เลยอ่ะ  เราว่าถ้าใครรู้ว่า จิตใจเริ่มไม่ปกติ เริ่มมีอาการแปลกๆ ไม่ค่อยสมดุล  ไปหาหมอเองเลยดีกว่าค่ะ ไปหาตั้งแต่แรกๆ ไม่น่ากลัวอะไร ถ้าปล่อยไว้จนถึงขั้นต้องมีใครพาไปหาหมอนี่ อาการมันหนักแล้วนะ

เดี๋ยวเย็นนี้เราเริ่มทานยาโรคซึมเศร้า มื้อแรกแล้วค่ะ ยากิน เช้าเย็น และ ก่อนนอน  คุณหมอบอกว่ายามันออกฤทธิ์ช้า  ไม่เหมือนยาแก้ไข้นะ ที่กินแล้วหายเลย อันนี้ต้องกินต่อเนื่องไปสักระยะ

แอบสงสัยนิดนึง แต่ไม่กล้าถามหมอ  ยาแก้ซึมเศร้า ถ้าแก้หายแล้วนี่จะ "คึก" มั้ยค่ะ  เพราะไม่ซึมแล้วนี่ ....

จากคุณ : ++MooKaew++
เขียนเมื่อ : วันเอดส์โลก 52 16:45:24




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com