 |
ประสบการณ์ ......... ทำหมันชาย (ใครบอกทำหมันไม่เจ็บ) เล่าจากความรู้สึกของผมนะครับ
|
|
หลังจากตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะทำหมัน เพราะไม่ต้องการมีบุตร ประกอบกับการคุมกำเนิดวิธีอื่น
ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากแฟนจะเป็นคนที่แพ้ง่าย จึงได้เริ่มหาข้อมูล แต่..........
ไม่สามารถทำได้ถ้าไม่เคยมีบุตรมาก่อน หลังจากสอบถามไปหลายที่ทั้งโรงพยาบาล และคลีนิคต่างๆ
จนได้พบกับคลีนิคที่รับทำหมันได้แห่งหนึ่งที่รับทำให้ แต่เนื่องจากเป็นคลีนิคสูติฯ
ส่วนใหญ่จึงมีแต่หญิงมาฝากครรภ์ และตรวจโรคของหญิงเป็นส่วนใหญ่ การทำหมันชายจึงไม่บ่อยนัก
วันนั้น 12 ธันวาคม จึงได้เดินทางไปคลีนิคแห่งนั้นแต่เช้า โดยไปกับแฟน
สังเกตภายในคลีนิคมีแต่หญิงและเด็กๆ มีผมเป็นผู้ชายคนเดียว
จากนั้นก็ไปติดต่อแจ้งเรื่องว่าจะมาทำหมันที่เคาน์เตอร์รับเรื่อง โดยมีเอกสารการยินยอมให้เซ็นต์
ในรายละเอียดก็จะบอกประมาณว่า แพทย์ได้แนะนำวิธีคุมกำเนิดแบบอื่นๆแล้วแต่ยืนยันว่าจะทำหมัน
โดยการทำหมันอาจมีผลกระทบอื่นๆกับร่างกายได้ ซึ่งจะไม่ติดใจเอาความกับแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด
และให้แฟนเซ็นต์เป็นพยานให้ จากนั้นรออีกประมาณ 15 นาทีได้
แพทย์ก็เรียกเข้าห้องไปซักถามนิดหน่อยถึงสาเหตุที่ต้องการทำหมัน พอเรายืนยันแพทย์ก็ให้ไปนอนรอในอีกห้อง
อีกห้องเป็นห้องกั้นไว้ตรวจภายในบนเตียงมีขาหยั่ง แล้วด้านล่างตรงบริเวณก้นมีช่องถาดไว้รองรับอะไรสักอย่าง.........
จากนั้นผู้ช่วยก้อได้นำผ้าโสร่งมาให้เปลี่ยน และบอกให้นอนรอบนเตียงขาหยั่งแต่ให้นอนปกติ
ผู้ช่วยบอกให้ถลกโสร่งบริเวณก้นแล้วนำ " กระดาษหนังสือพิมพ์ " มารองบริเวณก้น ??????
จากนั้นก็นอนรอแพทย์ ระหว่างนั้นแพทย์ก็เรียกคนไข้รายอื่นมาตรวจตามปกติ มีการตรวจภายในหญิงด้วย
แต่แพทย์บอกว่าให้ตรวจบริเวณห้องตรวจด้านนอกเนื่องจากมีคนมาทำหมัน พอรอสักพักแพทย์ก็เข้ามาบอกให้ผู้ช่วยเตรียมตัว
ทำความสะอาดโดย............ นำน้ำยาทำความสะอาดต่างๆพวกแอลกอฮอล์ , เบตาดีน (สังเกตจากสีเหลือง) ฯลฯ
มาทำความสะอาดบริเวณที่จะผ่าตัด ซึ่งก็เป็นบริเวณอวัยวะเพศทั้งหมดรวมถึงก้น ง่ามขา และบางส่วนของต้นขา
จากนั้นก็นำผ้าผ่าตัดมาคลุม ส่วนที่ฆ่าเชื้อแล้วและบอกว่าห้ามนำมือลงมา โดนบริเวณที่ฆ่าเชื้อแล้ว
ซึ่งผ้าจะมีช่องสี่เหลี่ยมเปิดบริเวณที่จะผ่าตัด (อวัยวะเพศ) จากนั้นก็รอแพทย์ซึ่งก็ยังทำการตรวจรักษาคนไข้อื่นๆอยู่
ผมต้องนอนอย่างนั้นซึ่งในบริเวณห้องก็จะมีผู้ช่วยเดินเข้าออก เกือบตลอดเวลา ซึ่งผมไม่อายเลย
รอสักพักพอคนไข้เริ่มซาลง แพทย์ก็เดินเข้ามาบอกผมว่าจะฉีดยาชา ซึ่งผมก็ไม่ได้อะไรนึกว่าฉีดที่แถวๆใต้อัณฑะ
แต่ผิดคาด........... แพทย์แทงเข็มฉีดยาเข้าไปในถุงอัณฑะซึ่งผมไม่เจ็บเลย.... ฉีดทางซ้ายก่อนเสร็จแล้วก็บิดเข็มฉีดทางขวา
จากนั้นแพทย์บอกให้รอให้ยาชาออกฤทธิ์ จากนั้นก็ไปรักษาคนไข้รายอื่นต่อ............
พอรอสักพักก็มาถามผมว่ารู้สึกชาหรือยัง ผมตอบว่า " รู้สึกเฉยๆ " เพราะไม่รู้สึกว่าชาหรืออะไรมือก็จับไม่ได้
จากนั้นแพทย์ก็บอกว่าจะเริ่มทำแล้วผมก็ใจระทึก พอมีดลงทีแรกผมรู้สึกเจ็บก็บอกหมอเจ็บครับ แพทย์ผ่าที่ถุงอัณฑะด้านซ้าย
แพทย์ก็ฉีดยาชาให้อีกแล้วบอกผมว่าถ้าเจ็บก็ให้บอก จะได้ฉีดยาชาเพิ่ม ???? ผมสงสัยว่าทำไมไม่ฉีดให้พอแต่ทีแรก
จากนั้นแพทย์ก็ใช้เหมือนยางหรืออะไรสักอย่างมัดลูกอัณฑะแล้วยกขึ้น ประมาณว่าจะหาท่อน้ำเชื้อ
แล้วแพทย์ก็บอกผมว่าเดี๋ยวจะรู้สึกจุกด้านขวานะครับ ผมก็รับทราบแล้วก็ไม่แน่ในว่าจุกอย่างไร
แพทย์บอกว่าของผมหาเส้นยากเหมือนกันนะ พอสักพักน่าจะหาเจอแล้วแพทย์ก็เริ่มดึงเส้นที่ว่า.......
คุณผู้ชายเคยโดนเตะผ่าหมากหรือเปล่าครับ จุกประมาณนั้นยิ่งดึงก็ยิ่งจุก พอจากจุกเริ่มเป็นเจ็บก็บอกแพทย์
" คุณหมอครับ ทั้งจุกทั้งเจ็บครับ " แพทย์บอกว่าเส้นของคุณเหนียวมากดึงออกมายาก ทีนี้กรรมจริงๆ
จุกอีกสักพักก็ดึงออกมาได้แล้วผมก็ได้ยินเสียงตัด ทีนี้ผมนึกว่าเสร็จแล้ว แต่.............
มันยังมีด้านซ้ายอีก แต่พอด้านซ้ายมีการใช้มีผ่าแผลเพิ่มอีกเจ็บจริง เหมือนเวลาเอามีดมาผ่าเนื้อเรา
คาดว่ายาชาคงเริ่มหมดฤทธิ์ เลยต้องบอกแพทย์อีกว่าเจ็บ เช่นเคย หมอฉีดยาชาเพิ่มอีก
ทีนี้เวลาดึงเส้นด้านซ้ายก็ไม่เจ็บมากเนื่องจากผ่าบริเวณ ถุงอัณฑะด้านซ้าย หลังจากผ่าตัดเสร็จก็เริ่มเย็บแผล
ทีนี้คาดว่ายาชาเริ่มหมดฤทธิ์อีกแล้ว สองเข็มแรกที่เย็บเหมือนคนเอาเข็มแทงทะลุเนื้อ พอเข็มที่สามกับที่สี่ไม่ค่อยรู้สึกเพราะชาอยู่
พอเสร็จแล้วก็ให้ผู้ช่วยติดผ้าก๊อตที่แผล แล้วก็บอกให้ไปเปลี่ยนกางเกงได้ พอเข้าห้องน้ำได้ผมก็ปัสสาวะทันทีหลังจากกลั้นมานาน
อาการยังปกติไม่ได้รู้สึกเจ็บแผลอะไร แพทย์ก็ให้ยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวดมากิน บอกว่าอย่าให้แผลถูกน้ำ
พรุ่งนี้มาดูแผล อีกอาทิตย์มาตัดไหม ซึ่งทั้งสองอย่างผมไม่ได้ไปพบแพทย์เนื่องจากไม่มีเวลา
แต่อาการโดยทั่วไปไม่ได้เจ็บปวดอะไรภายใน แต่จะแสบบริเวณปากแผลมากกว่า ตอนนี้ผ่านมาอาทิตย์กว่าๆแล้วยังทำงานได้ปกติ
อีกอย่างจะรู้สึกหน่วงๆบริเวณถุงอัณฑะอยู่ตลอดนะครับไม่ทราบว่า คนอื่นที่เคยทำมาจะเหมือนผมหรือเปล่า
ทั้งหมดนี้จากที่ผมได้ทำนะครับ ที่อื่นอาจทำได้ดีกว่านี้อาจไม่เจ็บเลยหรือเจ็บน้อยกว่าผมก็ได้ครับ อันนี้จากประสบการณ์
สรุปได้ว่า การทำหมันเจ็บเหมือนกันครับ แต่คงไม่ยากเกินที่เราจะอดทนได้
มันอยู่ที่ว่าคุณจะยอมเจ็บเพื่อคนที่คุณรัก หรือคุณจะยอมให้คนที่คุณรักต้องเจ็บ
แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 15:45:31
จากคุณ |
:
แม่โม
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ธ.ค. 52 14:49:38
|
|
|
|  |