Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ทำไมต้องเป็นเราที่มีปัญหาจากการทำเลสิก  

เรื่องอาจจะยาวหน่อยนะคะ แต่อยากเขียนเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่คิดจะทำเลสิก

ทุกอย่างมันเริ่มที่เราอยากมองเห็นโลกสดใสด้วยตาเราเองโดยไม่ต้องผ่านแว่นและคอนแทคเลนส์ เดิมเราใส่แว่นตา ซ้าย 5.25 เอียง 75 ตาขวา 525 เอียง 50 เมื่อเรามีโอกาสก้อเลยตัดสินใจไปทำเลสิกในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2552

แต่ว่าผลการทำออกมาไม่น่าพอใจเท่าไหร่ เพราะว่า ตาซ้ายยังมีสายตาเหลือ เอียง 100 แล้วก้อสายตายาว 25
ส่วนตาขวายังเหลือสายตาสั้นประมาณ 50

สองสามวันแรก ยังมองไม่ค่อยชัดคือมีตาขวาที่รู้สึกค่อนข้างชัด แต่ตาซ้ายรู้สึกแย่มากไม่ชัดแล้วก้อเบลอมาก อ่านตัวหนังสือเล็ก ๆ ข้างขวดยาไม่ออกเลย

คุณหมอบอกว่าช่วงแรกสายตาจะไม่คงที่ ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง แต่คุณหมอบอกว่าธรรมดาให้อดทนรอไปก่อน เราก้อพยายามอดทนรอ แต่ว่าตอนนี้ผ่านไป 2 อาทิตย์กว่าแล้ว ตาก้อยังไม่ชัดขึ้นซะที ช่วงอาทิตย์แรกคุณหมอให้หยอดยา Pred Forte (Prednisolone acetate 1%) กับ ยาฆ่าเชื้อ ชื่อ Cravit (Levofloxacin 0.5%) ส่วนอาทิตย์ที่สองคุณหมอเปลี่ยนให้หยอดยา Flarex (Fluorometholone acetate 0.1%) ตัวเดียว

วันพุทธที่ 2 ธันวาคม 2552 ตื่นเช้ามาเริ่มรู้สึกมีอาการปวดตา แล้วตอนกลางคืนก้อปวดมาก แถมวันนี้ไปวัดค่าสายตา ก้อพบว่าการมองเห็นของตาซ้ายแย่ลงกว่าช่วงแรกอีก คือ ตอนวัดตาขวาเจ้าหน้าที่ลองให้ใส่เลนส์ปรากฏว่าตาสั้นเพิ่มจาก 50 เป็น 75 แต่ก้อ เห็นภาพคมชัดดี ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอลองวัดตาซ้ายดูปรากฏว่าพอใส่เลนส์ตาเอียงกับตายาวแล้วทำให้มองเห็นบอร์ดที่วัดตาเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเหลืองนวล แล้วตัวหนังสือถึงอ่านออกแต่ภาพดูนวล คล้าย ๆ มีพระจันทร์ทรงกลดน้อย ๆ นะคะ คือเหมือนมีออร่าบาง ๆ รอบตัวหนังสือ คือมันไม่คมชัดเหมือนตาขวา แต่ชัดที่สุดเท่าที่เค้าจะลองใช่เลนส์วัดแว่นตาใส่ให้แล้วนะ เลยรีบไปพบคุณหมอปรากฏว่าความดันลูกตาขึ้นสูงเนื่องจากยาสเตียรอยที่ยอด คุณหมอเลยให้หยอดยาลดความดันตา หยอดอยู่สัก 3 วัน ก้อดีขึ้นทำให้ตามองภาพไม่เหลืองแล้ว คุณหมอเลยบอกให้หยอดทั้งยาลดความดันและสเตียรอย

หนึ่งเดือนผ่านไป 23 ธันวาคม 2552 กับการรอคอยที่ยาวนาน ไปตรวจตากับคุณหมอพบว่า ตาขวายังเหลือสายตาสั้นเพิ่มขึ้น จาก 75 เป็น 100 ส่วนตาซ้ายยังมีสายตาเหลือ เอียง 100 แล้วก้อสายตายาว 25 เท่าเดิม แล้วการมองเห็นก้อยังมัวอยู่ เจ้าหน้าที่บอกว่าตาซ้ายมีปัญหาเพราะว่าความสามารถในการมองภาพ (ค่า VA) แย่ลงหลังทำเลสิก ซึ่งคิดว่าคงไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ อาจเกิดจากกระจกตาไม่เรียบ มีการย่น หรือการยิงเลเซอร์ผิดพลาด

ตอนนี้กลุ้มใจมาก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไปถามคุณหมอคุณหมอก้อบอกแค่ให้รอ รอไปเรื่อย ๆ ครบ 3 เดือนตาจะดีขึ้นเอง แต่ทำไมไม่หาสาเหตุว่าทำไมค่า VA ตาซ้ายของเราแย่ลง

ยิ่งอ่านแล้วเห็นมีแต่คนที่ทำเลสิกแล้วรู้สึกดี ๆ มีความสุขขึ้น แต่ทำไมตัวเองทำมาแล้วดูเหมือนว่าสายตาแย่ลงกว่าเดิมมาก แถมมีการมองเห็นแย่ลงกว่าเดิม เพราะแต่ก่อนถ้าเราใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์เราก้อเห็นทุกอย่างชัดเจน

นอกจากปัญหาตามัว ๆ ไม่ชัด ประมาณวันที่ 28 ธันวาคม 2552 บ้างครั้งเราก้อเริ่มเห็นอะไรไม่รู้ลอยไปลอยมาในตาด้านซ้าย หน้าตาเหมือนอะมีบาเลย เป็นกลม ๆ ใส หรือไม่ก้อเป็นเส้น ๆ สั้น ๆ ใส ๆ ลอยผ่านไปมาในตาด้านซ้าย ตอนแรกคิดว่าเป็นวุ้นลูกตาเสื่อมรึเปล่า แต่ว่าก่อนทำเลสิกเราไม่เคยมีปัญหาเห็นอะไรลอยไปมาเลย ช่วงแรก ๆ ที่ผ่าออำมาก้อไม่เคยเห็น อยู่ ๆ ก้อเห็นงงมากกกกก เฮ้อ กลุ้มใจจริง ๆ ไม่รู้ว่ามันเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรหนักหนา

เราลองพยายามไปปรึกษาหมอคนอื่น แต่ดูเหมือนไม่มีใครอยากจะช่วยแก้ปัญหาให้เพราะอย่างแรกหมอคนอื่นไม่รู้ว่าหมอคนแรกทำอะไรผิดพลาดบ้าง หรือว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วการแก้ไขข้อผิดพลาดของคนอื่นมักจะลำบากกว่าการทำครั้งแรก ส่วนใหญ่จะแนะนำให้รอจนครบ 3 เดือนก่อน แต่เรารู้สึกว่าตาเราต้องผิดปกติอะไรซักอย่าง มันไม่ใช่เคสปกติ ตอนนี้เราก้อไม่รู้จะทำไงดี

ยังไงก้อตามเราไม่อยากให้ใครต้องเจอปัญหาเหมือนเรา ก้อเลยเอาประสบการณ์ที่เจอมาแชร์ให้ทุกคนเผื่อจะได้คิดให้รอบคอบก่อนทำเลสิก เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครเล่าข้อเสีย หรือปัญหาที่เกิดจากการทำเลสิกเท่าไหร่ ซึ่งจากประสบการณ์ตรงของเราสรุปได้ดังนี้

1. การพิจารณาวิธีการรักษา ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาคือการเปิดกระจกตาด้วยเลเซอร์ แทนการใช้ใบมีด ซึ่งมีข้อดีข้อเสียต่างกัน
ใบมีด (ต้องหยอดยาขยายม่านตาก่อนผ่า)
ข้อดี การอักเสบของกระจกตาหลังผ่าน้อยกว่าเลเซอร์ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาพวกสเตียรอย ใช้แค่ยาปฏชีวนะก้อพอ ยกเว้นในบางเคสที่เกิดฝ้าบนกระจกตา
ข้อเสีย ไม่เหมาะกับคนที่มีกระจกตาบาง ถ้าหมอไม่ชำนาญพออาจมีการผิดพลาดคือไม่สามารถเปิดกระจกตาได้

เลเซอร์ (ไม่ต้องหยอดยาขยายม่านตา)
ข้อดี เหมาะกับคนที่มีกระจกตาบางเพราะกระจกตาที่ถูกตัดเพื่อเปิดจะบางกว่าการใช้ใบมีด มีความแม่นยำสูงลดความผิดพลาดของการใช้ใบมีด
ข้อเสีย การอักเสบของกระจกตาหลังผ่ามากกว่าใบ จำเป็นต้องใช้ยาพวกสเตียรอย ประมาณ 1 เดือน เนื่องจากจะมีฝ้าบนกระจกตา แล้วแต่เคสบางคนก้อ 3 สัปดาห์ (เราเป็นคนแพ้สเตียรอย เราได้บอกหมอก่อนทำแล้ว แต่คุณหมอบอกว่าไม่มีปัญหา ซึ่งเรามารู้ตอนหลังผ่าแล้วว่าต้องใช้ยาตัวที่เราแพ้ยอดตาหลังผ่าเป็นเดือนเลยเป็นสาเหตุให้ความดันตาเราขึ้นสูงมาก ถ้าจะให้ดีเราความผ่าแบบใบมีดมากกว่าแต่ก้อมารู้เมื่อสายไป)

2. ความชำนาญของแพทย์ อย่าเห็นแก่ของถูก เรารู้สึกเสียใจมาก ตอนแรกเราตั้งใจจะไปผ่าที่ TRSC กับคุณหมอเอกเทศ แต่พอดีที่ที่เราผ่ามีโปรโมชั่น เพื่อนก้อเลยชวนมาทำที่นี่ แต่เราชะล่าใจไปเพราะคิดว่าเป็นการผ่าตัดเล็ก ๆ ไม่น่ากลัว แต่ปรากฏว่าเราเพิ่งมารู้ที่หลังว่าที่นี่ไม่ค่อยมีเคสทำเลสิก คุณหมอก้อเลยขาดประสบการณ์และความชำนาญ ถ้าเทียบกับที่อื่นที่เคยผ่ากันมาเป็นหมื่น ๆ ตา ดูเราเป็นตัวอย่างสิพอมีปัญหาขึ้นมาคุณหมอก้อไม่รู้จะทำไงดี ไม่สามารถอธิบายหรือให้คำแนะนำเราได้ บอกได้แต่ให้รอไปก่อน ซึ่งไม่ได้ช่วยให้คนไข้มีความรู้สึกดีขึ้นเลย เพราะฉะนั้นจะเลือกผ่าตัดกับใครลองหาข้อมูลก่อนว่าหมอคนนั้นมีประสบการณ์ผ่ามากี่คน หรือทำงานด้านนี้มานานแค่ไหน เพราะเลเซอร์จะยิงตามค่าที่คุณหมอคำนวณ ถ้าคำนวณไม่ดีก้อจะเหมือนเรา คือมค่าสายตาเหลืออยู่ แต่ในเคสเรารู้สึกว่าที่ตาซ้ายเรามีปัญหามากเพราะคุณหมอน่าจะยิงเลเซอร์ผิดเซนเตอร์ไป เพราะในห้องผ่าตัดเรา ได้ยินคุณหมอบอกว่าหัวเราไม่ตรงเซนเตอร์ ซึ่งเทคนิเชี่ยน ควรจะจัดหัวเรา ใหม่ให้ตรง แต่ปรากฏว่าเค้าใช้วิธีเลื่อนกล้องแทนซึ่งเราไม่รู้ว่าเลเซอร์มันจะเลื่อนตามกล้องไม๊หรือว่า มันไม่เลื่อน เพราะถ้าเลเซอร์ไม่เลื่อนตามก้อเท่ากับว่าคุณหมอยิงเลเซอร์เบี้ยว เพื่อนเราทำไมมีปัญหาเพราะเพื่อนเราตาสั้นอย่างเดียว แต่เราก้อเพิ่งรู้ว่าการยิงเลเซอร์ตาเอียงยากกว่าตาสั้นธรรมดาเพราะมันต้องคำนวณองศาให้ถูกไม่งั้นยิงออกมาก้อไม่หาย ถ้าเป็นคุณหมอที่ชำนาญเอียงแค่ 75 อย่างเราไม่มีปัญหาหรอก


ยิ่งไปกว่านั้นก่อนผ่าตัดเราก้อบอกคุณหมอแล้วว่าเราแพ้เพ็ตนิโซโลน (สเตียรอยชนิดหนึ่ง) แล้วถามย้ำแล้วว่าสามารถผ่าได้ไม๊ ปรากฏว่าคุณหมอก้อบอกว่าไม่เป็นไร แต่ไม่เคยบอกเราเลยว่าหลังผ่าตัดเราต้องหยอดยาตัวนี้เป็นเดือนเลย ทำให้เราเกิดปัญหาแทรกซ้อนเพิ่มเติม


3. เครื่องมือที่ใช้ในการยิ่ง เราโง่เองเพราะตอนแรกหาข้อมูลได้ไม่ดีพอ เลยเพิ่งมารู้ที่หลังว่ามีเครื่องเลเซอร์ของบางที่ที่ใช้เนื้อกระจกตาน้อยกว่า (Tissue saving) เช่น สมมุติว่าเราสายตาสั้น 100 ต้องการยิงเลเซอร์เพื่อให้เหลือ ค่าสายตาเป็น 0 เครื่องโดยทั่วไปต้องตัดเนื้อกระจกตาออก 32 ไมครอน แต่บางเครื่องตัดแค่ 12 ไมครอนเท่านั้น ซึ่งถ้าคนที่มีกระจกตาบาง หรือตาสั้นเยอะ ๆ เป็น 1000 ก้อจะมีโอกาสทำเลสิกได้มากขึ้น แต่อย่างเราถ้ารู้ก่อนก้ออยากเลือกที่ใช้เนื้อกระจกตาน้อย ๆ เพราะเราไม่รู้ว่าถ้ามีอะรผิดพลาด หรือในอนาคตเกิดตาสั้นขึ้นอีกจะได้มีกระจกตาพอให้แก้ไขได้หลายครั้ง

4. ความรู้ความชำนาญของเจ้าหน้าที่ในการดูแลหลังผ่าตัด ผลตอบสนองในการทำเลสิกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นบ้างครั้งเมื่อเรามีปัญหาหลังผ่าตัดควรมีการให้บริการดูแลผลหลังผ่าอย่างใกล้ชิดเผื่อให้สามารถแก้ไขได้ทันที ในเคสเราทั้งเจ้าหน้าและคุณหมอที่ไม่มีความรู้เพียงพอไม่สามารถให้คำแนะนำเราได้ ทำให้เรารู้สึกโดเดี่ยวมากไม่รู้จะทำยังไงต่อไป กลุ้มใจมาก ร้องไห้เกือบทุกวันเลยในเดือนแรกที่ผ่าตัดมา แล้วก้อนึกเสียใจว่าไม่น่าไปทำที่นี่เลย โทษตัวเองตลอดเวลาว่า ทำไมตอนนั้นจะผ่ากับหมอเอกเทศก้อดีอยู่แล้วไม่น่าเห็นแก่ของถูกแล้วต้องมาเสียใจที่หลัง แล้วเราก้อมีตาคู่เดียวตอนนี้ซึ้งเลยกับคำว่า “เสียใจไปตลอดชีวิต” มันเป็นยังไง เลยอยากฝากเรื่องราวของเราไว้เป็นอุทาหรณืให้คนอื่น ๆ เราไม่อยากให้ใครต้องเสียใจเหมือนเราอีกแล้ว

จากคุณ : หนึ่งในคนโชคร้าย
เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 14:42:16 A:10.7.51.253 X:202.28.181.220 TicketID:233982




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com