ความคิดเห็นที่ 1   5000 ดีไหมค่ะ อาจจะดูน้อยไป แต่อย่างน้อยเค้าก็มีน้ำใจมาเยี่ยมบ้าง แล้วรายได้ของเค้าก็ถือว่าน้อยอยู่แล้ว เลยไม่อยากให้เรียกเยอะอ่ะค่ะ " ใจเค้า ใจเรา " แต่ที่สุดท้าย ก็อยู่ที่คุณแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : wakump (wakump) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 16:02:23

ความคิดเห็นที่ 2 คิดเหมือนความเห็นที่หนึ่งนะคะ ไม่อยากให้เรียกเยอะนะคะ เพราะเค้าก็คงไม่ได้มีรายได้มากมายอะไร ใจจริงแล้วเค้าคงไม่รู้จะทำอย่างไรในสถาณการณ์ตอนนั้น ก็เลยหนีไปทำใจก่อนมั้งคะ แล้วอีกอย่างเค้าก็มีน้ำใจมาเยี่ยม ถึงแม้ว่าตำรวจจะเป็นคนบอกให้มาเยี่ยม แต่เราว่าเค้าก็ยังมีจิตสำนึกนะคะ ก็ลองคิดดูอีกครั้งนะคะ ไม่แน่นะคะ เราอาจจะได้ญาติเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งนะคะ จากคุณ : ดินร่วน เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 16:28:20

ความคิดเห็นที่ 3 คห ส่วนบุคคล.. ถ้าเป็นผมจะเรียกให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะว่าเขาแล้งน้ำใจและขาดความรับผิดชอบมากๆ ที่ชนแล้วหนีในตอนแรก เพราะถ้าเกิดเราเป็นอะไรมากแล้วแถวนั้นไม่มีคนมาช่วยเราก็แย่ เขาคงคิดว่าอาจจะรอดที่หนีไป แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 53 16:40:23 จากคุณ : MaMa,PaPi เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 16:37:59

ความคิดเห็นที่ 4 เอาตามที่เราเสียหายจริงอ่ะค่ะ เพราะเค้าก็คงไม่ได้เงินถุงเงินถัง เป็นแค่คนขับรถสองแถวเอง - มีค่ารักษาพยาบาล - ค่าแรงเราต่อวัน - คูณด้วยวันที่ต้องหยุดงาน ตามใบรับรองแพทย์อ่ะค่ะ หายไวไวนะค๊ะ จากคุณ : bongkot_kot (bongkot_kot) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 17:51:52

ความคิดเห็นที่ 5 เรียกให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะเรียกได้ครับ เพื่อดัดสันดาน และลดความประมาทของเขา แต่ถ้าไม่มีค่อนให้ผ่อนจ่ายรายเดือนมา โดยทำสัญญา และถ้าดูเขาสม่ำเสมอ เราก็ยกหนี้ให้เขาในเวลาต่อมาได้ จะไม่ทำให้เสียใจ ซ้ำใจครับ จากคุณ : ต้น (man mana) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 18:13:12

ความคิดเห็นที่ 6 ดูสภาพครอบครัวเขาด้วยครับถ้าดูได้และพอรับฟังได้ เหตุกราณ์มันผ่านไปแล้ว และเขาคงสำนึกบ้างแล้ว ถ้าเขามีลูกๆต้องรับผิดชอบและไม่ค่อยมีเงินมันจะกระทบเป็นวงกว้างครับ เขาทำผิดจริง ถ้าเขามาเยี่ยมคุณบ่อยๆแสดงว่าเขาสำนึก คุณใช้คำพูดกับเขาน่าจะดี ผมเคยขับมอไซค์แล้วถูกผู้หญิงตัดหน้า เฉี่ยวกันผมล้มเขาไม่ล้ม ผมหัวฟาดถนนแต่ดีที่ใส่หมวกกันน๊อค รถเสียหายซ่อมไป 2 พันกว่าบาท ผมไม่ใข่คนรวยทำงานบริษัทธรรมดา มีลูกเมีย คนรอบๆที่เห็นเหตุกราณ์บอกว่าเขาผิดเต็มๆให้เอาเรื่องและเรียกค่าเสียหาย ผมก็คุยกับเขา เขาขอโทษเขาบอกว่าไม่เห็นจริงๆ ผมบอกว่าผมไม่แจ้งความเอาเรื่อง แต่ให้ซ่อมรถให้ผม เขาบอกว่าไม่มีเงิน ตกงานพึ่งไปหางานทำไปสมัครงานกลับมาก็มาเกิดเรื่องกับผม ดูการแต่งตัวก็คิดว่าเขาคงไม่มีเงิน แต่ถ้าเขาโกหกผมก็นึกเสียว่าเขาร้ายกาจมาก แต่ผมก็เห็นใจเขา และคิดว่ามันคงเป็นโชดไม่ดีของผม ต่อไปผมจะจำเป็นบทเรียนตัวเอง ผมก็ไม่เอาเรื่องเขา ซ่อมรถเอง ให้เขาไป เขาก็ไหว้ขอบคุณ แล้วแต่การตัดสินใจของคุณครับ อย่าให้คนอื่นมาตัดสินแทนคุณๆและครอบครัวพิจารณาดูความเหมาะสม คนเราน้ำใจ มีค่ามากกว่าเงินทอง และนับวันจะหาไม่ได้ จากคุณ : soonchai เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 19:22:11

ความคิดเห็นที่ 7 เรียกเต็มที่ พอเขาให้ เขาคงให้ไม่มาก งวดแรกคงให้ งวดที่สองคงเบี้ยว ก้อเอางวดแรก คงพอทำเนา จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 19:30:52

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเป็นเรา ไม่เรียกว่า ค่าทำขวัญ หรอก แต่จะเรียกว่า ค่าชดเชยความเสียหายเนื่องจากการบาดเจ็บ คำนวณจากรายได้ที่สูญเสียไป เพราะคุณทำงานไม่ได้ไปสองเดือน (เงินเดือนคูณสอง) บวกค่าทุพพลภาพชั่วคราวอีกประมาณสองเดือน เนื่องจากแม้ไปทำงานได้ แต่ก็ไม่เต็มร้อย เพราะยังเจ็บอยู่ คิดเป็น 50% ของรายได้สองเดือน (เงินเดือนหนึ่งเดือน) รวมแล้วได้เท่าไร ก็บอกเขา นี่น่าจะเป็นค่าเสียหายต่ำสุดที่คำนวณได้ ไม่รวมค่ารักษาพยาบาล เพราะคุณเบิกได้ แล้วคุณจะลดหย่อนให้เขาอย่างไร เท่าไร ให้ผ่อนอย่างไร ก็ดูรายได้ของเขา และสถานการณ์ครอบครัวของเขาประกอบด้วย แล้วแต่น้ำใจของคุณ และของเขา ประกอบกัน แต่อย่างน้อย เขาก็ควรจะรับทราบความเสียหายที่เกิดขึ้นละนะ แม้ว่า จะไม่ต้องจ่ายครบทั้งหมดก็ตาม จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 20:00:27

ความคิดเห็นที่ 9 แม่กับพ่อเคยขับมอไซค์แล้วมีรถกระบะแซงแล้วเลี้ยวซ้ายปาดหน้าเลย พอเบรคไม่ทันเลยชนเข้าช่วงล้อหน้า พอฟกช้ำนิดหน่อย แต่แม่แขนหักต้องหยุดงาน 2 เดือน เรียกค่าเสียหายไปคือค่าซ่อมรถ กับเงินเดือน 2 เดือนที่ต้องหยุดไป ค่ารักษาพยาบาลไม่ได้เรียกเพระใช้ประกันสังคม ไม่อยากเรียกมากเพราะคู่กรณีเป็นช่างทำป้าย  แล้วเค้าก็ไม่ได้หนี หลังตกลงเสร็จตำรวจบอกว่าเรียกน้อยไป เคสของคุณ เป็นเรานอกจากค่าซ่อมรถจะเรียก เงินเดือน x2 เดือนที่ต้องหยุดงาน ถ้าไม่มีก็ให้ผ่อนจ่ายเอา แต่ไม่ลดให้ก่อนเพราะหนี แต่ถ้าหลังจากนั้นเค้าผ่อนจ่ายสม่ำเสมอ ก็อาจจะลดให้ภายหลัง จากคุณ : โลกด้านที่หันหลังให้ดวงอาทิตย์ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 21:47:19

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าเป็นครอบครัวเราจะไม่เรียกค่าเสียหาย เพราะคิดว่าถ้ารถสองแถวคันนี้ไม่ชนเราเสียก่อน อาจมีอุบัติเหตุที่รุนแรงกว่าอยู่ข้างหน้า ตลอดจนสามารถเบิกค่ารักษาได้ด้วยตัวเอง ถือว่าฟาดเคราะห์ไปนะคะ ประกอบกับผู้ชนก้อมีฐานะไม่ค่อยจะดีนัก แต่ว่าจะต้องอบรมให้เขารู้สึกว่าเขาจะต้องเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากกว่านี้ และเขาควรระมัดระวังในการใช้ถนนให้มากกว่านี้ (กรณีที่เขาผิดเต็ม ๆ) ซื้อใจกันไปเลย สะใจดีค่ะ จากคุณ : ซาไปรส์ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 21:58:41

ความคิดเห็นที่ 11   เรียกค่าเสียหายครับ แล้วเอาเงินที่ได้ ให้เป็นรางวัลพลเมืองดีที่ช่วยคุณ จากคุณ : igkiryu เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 22:45:05

ความคิดเห็นที่ 12 อาจจะเรียกไว้เยอะๆก่อนให้เขาผ่อนจ่ายเป็นเดือนๆ ตั้งเป้าไว้เลยว่าเขาผ่อนถึงเท่าไหร่...พอเขาจ่ายตามเป้าก็ยกหนี้ให้ วิธีนี้เอาไว้ดัดนิสัยคนค่ะ อย่างสมมติเรียกซัก1หมื่น ให้เค้าจ่ายเดือนละพันหรือกี่บาทก็ว่ากันไป ถ้าเขามีความรับผิดชอบ จ่ายเราทุกเดือน พอเขาจ่ายครบซัก2-5พัน หากเขาดูสำนึกผิด หรือมีความรับผิดชิบพอก็ยกหนี้ให้เขาไปซะ....แต่ถ้าดูแล้วไม่สำนึกผิด มาขอเลื่อนวันด้วยเหตุผล108ที่ฟังไม่ขึ้น อย่างนี้คิดเต็มจำนวนไปเลยค่ะ จากคุณ : Pon Pon Pata Pon! เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 23:37:57

ความคิดเห็นที่ 13 เกิดอุบัตเหตุแล้วหนี  จะมาอ้างว่ากลัวตกใจ คำอ้างเล่านี้อ้างไม่ขึ้นหรอก คุณ จขกท ได้เงินเดือนเท่าไหร่ แล้วคุณต้องหยุดงาน 2 เดือนใช่ไหม งั้นเรียกไปเลย 2 เดือน อันนี้ปราณีที่สุดแล้วนะ สำหรับพวกชนแล้วหนี แล้วคุณ จขกท ตกลงกันได้อย่างไรต้อง เขียนเป็นตัวหนังสือ แล้วให้ตำรวจเซ็นต์เป็นพยานด้วย วันที่คุณ จขกท ต้องไปตกลงค่าเสียหาย (ค่าทำขวัญ) ส่วนมากจะนัดไปคุยกันที่โรงพัก ให้คุณเอาทนายไปด้วย ถ้าไม่มีก็ไปจ้างมาเลย เป็นร้อยเป็นพันก็แล้วแต่นะครับ ผมไม่เห็นใจพวกชนแล้วหนี จากคุณ : Sweety Peacock เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 17:30:32

ความคิดเห็นที่ 14   เชื่อผมนะ คุณเรียกเยอะๆ เค้าไม่มี จ่ายต้องไป ฟ้องร้อง เป็นคดีแพ่ง อีก คุณต้องเสียค่าทนาย แล้วใช้เวลาอีกกี่ปีที่จะได้เงิน เอาแบบพอสมควร ที่เค้าจะจ่ายให้คุณได้ ถ้าคุณคิดว่าจะเรียกเยอะผมว่า เหนื่อยเปล่าครับ คนชนแค่ คนขับรถสองแถว คุณจะได้ซักเท่าไร จากคุณ : สามีคุณเจน (Mr_Incredible) เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 22:59:30