ความคิดเห็นที่ 1   ได้ยินว่านอนกลางคืน4ชมก็ยังดีกว่านอนกลางวัน8ชม.นะ ผมเองก็เคยทำงานกลางคืนที่โรงแรม พวกทำกลางคืนเขาถึงได้เงินมากกว่าค่าเสียสุขภาพ และสุขภาพจิตด้วย จากคุณ : star_tak2000 เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 17:50:55

ความคิดเห็นที่ 2 ถึงเวลานอนเท่ากัน แต่ นาฬิกาในร่างกายมันทำงานตามเวลานะค่ะ คือ ช่วงกลางคืน ที่เป็นเวลาพักผ่อนของเรา  ร่างกายจะสามารถทำการซ่อมแซม หรือ หลั่งฮอร์โมนต่างๆที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต  และช่วยให้ร่างกายพร้อมสำหรับวันใหม่  จะสังเกตุได้ว่าการนอนถ้านอนตอนกลางวันจะตื่นมาด้วยความอ่อนเพลีย แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนจะมีความสดชื่นมากกว่า ทำให้บางทีการเดินทางข้ามประเทศเกิดอาการ jet lag ได้ เมื่อก่อนเราก็นอนเวลานี้นะ เพราะติดเกมส์ แต่มันเห็นได้ชัดเลยว่า ร่างกายอ่อนเพลียมากขึ้นต้องการการนอนมากขึ้น จึงแนะนำให้ จขกท  นอนตามเวลาปกติดีกว่าค่ะ อย่าไปฝืนร่างกายตัวเองเลย ปล.ไม่มีอ้างอิง อาจดูไม่น่าเชื่อถือ แต่ยังไงลองหาอ่านดูได้นะ ในอากู๋มีเต็ม จากคุณ : gunapide เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 17:53:29

ความคิดเห็นที่ 3   คห.2 ถูกต้องครับ  ร่างกายมีนาฬิกาของมันอยู่ นอนกลางคืนให้คุณภาพที่ดีกว่าครับ จากคุณ : yukirin เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 18:10:46

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้านาฬิกาชีวิตถือว่าไม่ค่อยดีนะค่ะ การนอนผิดเวลาอ่ะค่ะ เวลาช่วง 4 ทุ่มถึง ตี1 ถือว่าเป็นเวลาที่ตับขับสารพิษร่างกายควรพักผ่อน ถ้าเราไม่พักผ่อนช่วงนี้ตับจะทำงานหนัก ทำให้ร่างกายมีสารพิษสะสม ก็มีผลต่อร่างกายเราในภายภาคหน้าได้ สมัยก่อนเป็นคนนอนดึกมากเหมือนกัน พอเป็นตับอักเสบเลยรู้เลยค่ะว่าต้องทำอย่างไร ดูแลตัวอย่างไร ..ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ...^^ จากคุณ : lhinpook เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 18:15:35

ความคิดเห็นที่ 5 นอนตี 5 - บ่ายโมง ได้ประสิทธิภาพไม่ถึงครึ่งของการนอน ตี1-ตี4 จากคุณ : Umiki เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 18:27:44

ความคิดเห็นที่ 6 มีการวิจัยมาครับว่า เวลาประมาณ เที่ยงคืน ถึง ตีสาม เป็นช่วงที่ร่างการหลั่ง growth factor โดยเฉพาะวัยเด้กค่อนข้างสำคัญเพราะ ช่วยในการเจริญเติบโต และ การซ่อมแซมของร่างกายทุกอวัยวะ และยังทำให้หน้าด้งขึ้นด้วย หากมีเวลานอน นอนให้ถูกเวลาเถอะครับ เพราะ บางทีผมอยากนอนยังไม่ค่อยได้นอน ตัวอย่างตนนอนผิดเวลา  (ดูหน้าผมได้ 55) หมีแพนด้า !! จากคุณ : nunumum เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 18:34:05

ความคิดเห็นที่ 7   หลังจากต้องทำงานกลางคืน 4 ทุ่ม ถึง ตี 5 มาได้สักพักทำให้รู้สึกอยากนอนหลับในเวลากลางคืนมากครับ ในเวลากลางคืนร่างกายควรจะพักผ่อนมากกว่าครับ ถ้าไม่จำเป็นนอนตามนาฬิกาชีวิตอย่างที่ข้างบนบอกเถอะครับ จากคุณ : วิชชุวาท เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 18:43:21

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อก่อนทำงานเป็นกะ ตอนนี้ลาออกมาแระ ถึงเข้ากะกลางคืนเงินจะเยอะกว่าก็ตาม เพราะไม่ไหวจริงๆ ร่างกายทรุดโทรมมาก ทั้งๆที่กลางวันนอนเต็มที่นะ จากคุณ : ฟองนม เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 19:39:27

ความคิดเห็นที่ 9 นอนกลางคืนดีกว่าครับ จากคุณ : 7sins เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 19:42:51

ความคิดเห็นที่ 10 จากประสบการณ์จริง นอนกลางคืนอิ่มกว่านอนกลางวันค่ะ ต่อให้ชั่วโมงเยอะกว่าก็ไม่มีคุณภาพเท่า จากคุณ : atihasita เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 20:11:11

ความคิดเห็นที่ 11 ติดละครตอนตีสอง เลยทำให้นอนเกือบๆ ตีห้าทุกวันเหมือนกันเลยค่ะ รู้สึกได้เลยว่า ตัวเองโทรม มากๆ ถ้าเป็นไปได้ นอนกลางคืน ชื่นใจที่สุดค่ะ จากคุณ : Donjee เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 21:10:12

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องพวกนี้ผมแย้งมาหลายปี และแทบทุกปีมาแล้ว ไม่ว่าจะนอนกลางวันหรือกลางคืน ถ้านอนพอ หลับสนิท ห้องมืด ไม่ต่างกันครับ ผมทำงานกะกลางคืน นอน ตี 4 ตี 5 ประจำ ทำแบบนี้มากว่า 20 ปีแล้ว ในระยะ 12 ปีที่ผ่านมานี้ ผมไม่เคยลาป่วยเลยครับ ป่วยเป็นหวัดก็แค่ 2-3 วัน อมน้ำเกลือก็หายแล้ว ไม่ต้องทานยาอะไร เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนอายุ 53 เคยทดสอบ Exercise stress test ก็สามารถวิ่งบนสายพานได้ถึง 20 นาที พวกคนหนุ่มๆ หลายสิบคนที่ไปทดสอบด้วยกันวิ่งได้แค่ 10 กว่านาทีก็จอดแล้ว อย่างนี้ถ้าผมโง่ ก็อ้างว่า เห็นไหม ผลดีของการนอนกลางวันแข็งแรงกว่าคนหนุ่มๆ ที่นอนกลางคืนเสียอีก นอนกลางวันดีกว่าแน่นอน 555 แต่ผมไม่โง่ระดับนั้นหรอกครับ ผมก็มนุษย์ทั่วไป ถ้านอนกลางวันมันมีผลร้าย ผมก็ควรต้องป่วยหนักมานานแล้ว เพราะทำงานดึกมากว่า 20 ปี แต่ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น ปล. ปัจจุบัน อายุ 58 ร่างกายแข็งแรงดีมากๆ สามารถปั่นจักรยานไปอยุธยาและกลับ 120 กว่า กม ได้สบายๆ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 53 23:00:17 จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 22:55:07

ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อสองปีก่อนโน้นก็สามารถปั่นจักรยานขึ้นดอยอินทนนท์ที่สูงที่สุดในประเทศไทยโดยไม่ต้องจูงระยะทางกว่า 40 กม ใช้เวลาแค่ 5 ชม เอง ทั้งที่หนุ่มๆ หลายสิบคนต้องลงจูง http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=227315&st=181 อย่างนี้มันจะอ้างว่านอนดึกแล้วร่างกายทรุดโทรมอ่อนแอได้อย่างไร? จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 53 23:37:06

ความคิดเห็นที่ 14 เคยอ่าน FWD Mail เกี่ยวนาฬิการ่างกาย เขาบอกว่า เวลาตี 1 - ตี 3 ตับเริ่มงานได้ ช่วงนี้จะเป็นเวลาที่ทำงานตับเริ่มทำงาน ในช่วงเวลานี้เองที่ตับจะหลั่งสาร มีราโทนิน ที่ทำให้หน้าอ่อนเยาว์ สาว ๆ ทราบแล้วจำไว้เวลานี้ ต้องเข้านอนได้แล้วนะคะ นอกจากนี้ในเวลานี้ยังไม่ควรทานอาหารใด ๆ เลย เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและอาจจะพังเร็วได้ เวลาตี 3 - ตี 5 เป็นเวลาของปอด ช่วงนี้คุณสามารถตื่นขึ้นมาเพื่อรับเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดได้ ว่ากันว่าถ้าตื่นนอนช่วงนี้เป็นประจำจะทำให้ผิวพรรณดีด้วยล่ะ เวลาตี 5 - 7 โมงเช้า ลำไส้ใหญ่เข้าประจำการ เวลานี้เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดที่คุณจะขับถ่าย และควรฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา จนติดเป็นนิสัยด้วยนะคะ เวลา 7 โมง - 9 โมง กระเพาะอาหารจะเริ่มทำงานแล้ว ตอนเช้า ๆ จึงควรรับประทานอาหารทุกเช้า เพื่อที่จะได้ไม่มีอาการ ขี้กังวลหรือหงุดหงิด ที่สำคัญหน้าไม่แก่ก่อนวัยด้วยค่ะ เวลา 9 โมง - 11 โมง ม้ามมาแล้ว ... ม้ามจะอยู่ตรงชายซี่โครงด้านซ้าย มีหน้าที่ในการควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน หลีกเลี่ยงการนอนในช่วงเวลานี้เพราะอาจจะทำให้ม้ามอ่อนแอได้ เวลา 11 โมง - บ่ายโมง เป็นเวลาของใจแล้ว พยายามอย่าปล่อยให้ตัวเองเครียด หากต้องคิดงาน ให้คุณควรพักผ่อนบ้าง อาจจะพักเบรคสักแป๊บนึง แล้วค่อยมาทำงานต่อนะคะ เวลา บ่ายโมง - บ่ายสามโมง ลำไส้เล็กจะเริ่มออกโรงแล้ว ควรที่จะงดทานอาหารทุกชนิดในช่วงเวลานี้ เพื่อให้ลำไส้เล็กทำงานได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเซล์ลสมอง หรือการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เวลาบ่ายสามโมง - เวลาบ่ายห้าโมงเย็น กระเพาะปัสสาวะจะเริ่มเข้างานแล้ว ช่วงเวลานี้เหมาะมากที่จะออกกำลังกายให้เหงื่อออก แต่ควรระวังอย่าหักโหมมาก และสำหรับผู้ที่มีเหงื่อออกมาก ๆ ควรระวังเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เนื่องจากว่า ในเหงื่อนั้นจะมีโซเดียมปนออกมาอาจจะทำให้ไตวายได้ ห้าโมงเย็น - หนึ่งทุ่มตรง เป็นเวลาที่ไตจะมารับช่วงต่อ ควรทำใจให้สดชื่น ไม่ง่วงหง่าวหาวนอนในเวลานี้ แต่หากใครเกิดง่วงในช่วงเวลานี้บ่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณว่าไตของคุณเริ่มมีปัญหาแล้ว เวลาหนึ่งทุ่ม - สามทุ่ม เป็นเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ ดังนั้นควรสวดมนต์ นั่งสมาธิ เพื่อให้ตัวคุณเองสงบก่อนนะคะ เหยื่อหุ้มหัวใจจะได้ทำงานสะดวก ๆ เวลาสามทุ่ม - ห้าทุ่ม เป็นเวลาที่คุณควรทำร่างกายให้อุ่น อย่าอาบน้ำเย็นในช่วงเวลานี้ และไม่ควรออกไปตากลมด้วย เวลาห้าทุ่ม - ตี 1 ถุงน้ำดีจะเริ่มงานในเวลานี้ ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำก่อนเข้านอน มิฉะนั้นคุณอาจจะมีอาการดังนี้ สายตาเสื่อม เหงือกบวม ปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก และอาจจะจามในตอนเช้า ๆ ได้ จากคุณ : Magpies เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 01:52:35

ความคิดเห็นที่ 15 เเล้วนาฬิกาเวลาไปย้ายรกรากไปusaมันจะทำไงอ่ะค่ะ 5555  ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หมอตามERที่รู้จักทีอเมริกา  สลับเวลานอนเป็นว่าเล่นเลยค่ะ  เพราะเข้าเวรเเต่ละเดือนไม่เหมือนกันอ่ะ จากคุณ : doong เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 02:06:24

ความคิดเห็นที่ 16 ตามหลักวิทยาศาสตร์ factor ใดที่มีผลร้ายต่อมนุษย์จริง มันต้องไม่มีข้อยกเว้น ผมก็คนหนึ่งที่แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่เป็นจริง แต่ก็ยังมีคนอีกมากมาย เช่น หมอ พยาบาล พนักงานโรงแรม คนทำงานกะดึกในโรงงาน พวกนี้ไม่เคยมีข่าวว่า ร่างกายอ่อนแอป่วยบ่อยๆ มากกว่าคนทั่วไป เพราะไม่เคยมีใครทำการศึกษา โดยการทำให้ lifestyle ทุกอย่างเหมือนกันหมด ยกเว้นนอนดึก กับนอนปกติ แล้วมาเปรียบเทียบกัน อย่างมากที่ศึกษามา ก็มีผลออกมาว่า นอนน้อย นอนไม่เต็มที่จะมีผลเสียหายต่อร่างกายเท่านั้น สงสัย อีก 12 ปีข้างหน้า อายุผม 70 ผมก็คงได้โอกาสมาแย้งความเห็นว่า นอนดึกเป็นภัยต่อสุขภาพ ร่างกายอ่อนแออีก ตอนนั้น ผมอาจแสดงรูปภาพว่า ผมยังปั่นขึ้นดอยอินทนน์ได้ในเวลา 6 ชม 555 ในขณะที่คนหนุ่มๆ นอนปกติ บางคนยังใช้เวลานานกว่า 6 ชม กว่าจะปั่นถึงยอดดอย คนบางคนอาจแย้งว่า ผมมีกรรมพันธ์ดี แข็งแรงกว่าคนธรรมดา แต่ผมจะบอกให้ ก่อนหน้า 12 ปีก่อน ผมมีสมยาว่า "ไอ้ขี้โรค" ในที่ทำงาน เพราะป่วยทุกเดือน ลาหยุดทุกเดือน เพราะเป็นภูมิแพ้ จนเขาจะไล่ออกแล้ว เพราะป่วยบ่อยมาก แต่ที่ผมกลับมาแข็งแรง เพราะเห็นเพื่อนร่วมงานตายน้ำลายฟูมปากที่โต้ะทำงานเพราะอ้วนและไม่ออกกำลังกาย ก็เลยกลัว หันมาออกกำลังกายประจำ ร่างกายก็ค่อยๆ แข็งแรงขึ้น แต่ก็ยังนอนดึกเป็นปกติ ทำแบบนี้เกือบ 30 ปีแล้ว จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 02:12:03

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามายืนยันอีกคนเป็นเพื่อน(รุ่นลูก)กับคุณ K. Senior อีกคนว่าไม่มีผลครับ ที่อ้างว่าร่างกายพักผ่อน ซ่อมแซม สร้างสาร Growth hormone ฯลฯ อันนี้เขาวัดจากคนปกติที่นอนกลางคืนครับ มันจึงนำไปสู่ข้อสรุปแบบนั้น ไม่ได้มีการเปรียบเทียบว่า ถ้านอนตอนกลางวันแล้วร่างกายจะไม่ทำสิ่งต่างๆเหล่านั้นแต่อย่างใด สิ่งเดียวที่แตกต่างคือเรื่องฮอร์โมน Melatonin เรื่องเดียว ที่คนนอนกลางคืนจะมีมากกว่า เพราะฮอร์โมนนี้หลั่งมากเมื่อสภาพแวดล้อมมืด ถ้าตื่นมาทำงานกลางคืน ในที่ที่มีแสงสว่าง ก็จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนนี้น้อยลงไปด้วย ส่วน FWMail เรื่องสารพิษอะไรนั่น เลิกอ่านได้แล้วครับ ไม่มีความจริงทางวิทยาศาสตร์ จากคุณ : Marquez เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 03:16:55

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่มีผล แต่ที่มีผล เห็นคนแก่เร็ว สุขภาพบานเผละต่างกัน คือ คนที่ไม่ออกกำลังกาย กับคนที่ออกกำลังกาย ต่างหาก หุ่น ผิวพรรณ ความฟิต เฟิร์ม ต่างกัน เราพูดในฐานะที่ วิ่ง ว่ายน้ำ มา 9 ปี ตั้งแต่ปี 2001 จน now สัปดาห์ละ 5 วัน ก่อนนี้ เคยเต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ 1999 -2001 จากคุณ : kuddle เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 05:24:50

ความคิดเห็นที่ 19 เราก็เป็นคนนึงที่ชอบนอนกลางวัน เพราะทำงานไม่เป็นเวลาแล้วแต่ไฟลท์ดังนั้น เราจะต้องปรับเวลานอนไปเรื่อยๆ และเราก็ไม่เชื่อเรื่องการนอนกลางคืนจะมีผลดีกว่ากลางวันด้วย เพราะเรารู้สึกว่า life style แต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น ไม่น่าจะเอามาเปรียบเทียบได้ค่ะ จึงอยากจะบอกว่า เห็นด้วยกับคุณ K. Senior ค่ะ จากคุณ : milky_lim เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 10:18:39

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้านอนกลางวันเป็นประจำ ก็ขอให้ปิดม่านกันแสงให้มืดสนิท เมื่อนาฬิกาในตัวเราปรับตัวได้ ก็จะเหมือนการนอนของคนปกติ แต่ต้องทำเช่นนี้เป็นประจำ ไม่ใช่เปลี่ยนไป เปลี่ยนมานะครับ สำหรับคนปกติ ร่างกายจะหลั่งสารเมลาโตนิน ออกมาให้เรารู้สึกง่วง และอยากพักผ่อน หลังจากที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ประมาณสี่ชั่วโมง หรือประมาณสี่ทุ่ม นั่นเอง ซึ่งหากคุณสามารถปิดม่านให้ร่างกายรับรู้ว่า เวลานี้คือเวลาค่ำแล้ว คุณก็สามารถหลอกร่างกายได้ครับ และผลของการนอน ก็จะได้รับเท่ากับคนที่นอนกลางคืนเช่นกัน จากคุณ : nanomax เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 15:25:13

ความคิดเห็นที่ 21 ตามความคิดผมนะ นอนตามเวลาที่คนปกติทั่วไป นอนน่าจะดีที่สุด แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างพี่ K.Senior  หรือ ตัวผมเอง ทำงานเป็นกะตั้งแต่เริ่มชีวิตการทำงาน ถ้าทำแต่งาน กิน นอน  ปัจจุบันมีเพื่อนหลายคนมีโรค ประจำตัวกันแล้ว ต้องพกยา กินยา   ทางที่ดีที่สุดก่อนที่โรคมาอยู่กับเรา ก็ต้องออกกำลังกาย พยายามหาเวลาไปออกกำลังกายครับ  จะออกมาก น้อย หนัก เบา ร่างกายเราจะเตือนอยู่แล้ว ส่วนตัวชอบวิ่ง ปีหนี่ง เฉพาะมาราธอนก็หลายสนาม เจ็บป่วยเล็กน้อย ก็มีบ้าง จากคุณ : ชาวนากรุงเก่า เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 16:33:45

ความคิดเห็นที่ 22 จากประสบการณ์  คิดว่าไม่เหมือนนอนกลางคืนนะ   เรื่องนาฬิกาชีวิต ส่วนหนึ่ง  แต่คิดๆ ดูคนเรานาฬิกาชีวิตก็ไม่ตรงกันซิ ตอนอยู่อเมริกา กับไทย เวลาก็กลับกันแล้ว  แสดงว่าจริงๆ แล้วนาฬิกาชีวิตมันก็ปรับตั้งใหม่ได้   แต่ที่เห็นชัดคือ สภาพแวดล้อมมันไม่เหมาะจะนอน เช่น อากาศ แสงสว่าง เสียงรบกวน ยกเว้นคุณจะควบคุมปัจจัยเหล่านี้ได้ ก็โอ.เค. อีกส่วนหนึ่งคือ  ช่วงเปลี่ยนเวลาจากนอนกลางคืน  มานอนกลางวัน  กว่าร่างกายจะปรับตัวได้  เพลียน่าดู จากคุณ : Makit เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 16:56:26

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้านอนกลางวัน 8 ชั่วโมง ได้ครึ่งนึงของนอนกลางคืน งั๊นผมต้องนอน 16 ชั่วโมง ใช่มั๊ยครับ ? อาา .. เข้าใจและ จากคุณ : lupercaliaz เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 53 19:58:01

ความคิดเห็นที่ 24 นอนตอนไหนก็ได้ขอให้ครบ 8ชั่วโมงก็พอจะมากรึเกินก็แล้วแต่ อย่าให้ต่ำกว่า8ชั่วโมงก็พอ จากคุณ : country road เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 01:18:51

ความคิดเห็นที่ 25 สำหรับผมรู้สึกได้แต่ว่า การได้เดินรับแสงแดดยามเช้า ทำให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่าครับ เกี่ยวกับเมลาโตนินอะไรนี่ล่ะครับ จากคุณ : อิฐมอญ เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 13:06:20