ความคิดเห็นที่ 1   วันปรกติเราทำงานประจำ พอตอนเย็นเราต้องไปส่งของ ไปพบลูกค้า ไปคุยกับ supplier วันเสาร์อาทิตย์ ก็เช่นกัน เพราะธุรกิจนี้เพิ่งจะมาทำปีที่ผ่านมา เราเลยไม่มีเวลาไปนัดเจอเพื่อนเลย แย่มากจริงๆ สำนึกผิดแล้วค่ะ ทำไงดี จากคุณ : TRSC เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 13:17:08 A:175.1.2.133 X:203.144.225.157 TicketID:252110

ความคิดเห็นที่ 2 แน่ใจนะคะว่าเป็นเพื่อนสนิท ไม่ใช่แฟน ถ้าเป็นเพื่อนสนิทไม่น่าจะเป็นถึงขนาดนี้ แต่ถ้าเป็นแฟน ก็เข้าใจได้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่ละคนจัดลำดับความสำคัญไม่เหมือนกัน เพื่อนคนนี้ของ จขกท อาจจะจัดลำดับความสำคัญของ จขกท ในลำดับต้น ๆ ก็เป็นไปได้มากว่าเค้าจะโกรธมากที่ จขกท ไม่เห็นความสำคัญ ทำอะไรแต่ละอย่างให้มันพอดีดีกว่ามั้ยคะ บางครั้งการมองแต่มุมตัวเองมากเกินไป เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็ไม่เหลือใครแล้วค่ะ จากคุณ : ของว่างยามบ่าย เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 13:49:02

ความคิดเห็นที่ 3 ตามไปอ่านกระทู้เก่าแล้วก็งงนิดหน่อยครับ คือในเมื่อ จขกท. ก็บอกว่า โทรคุยกะเพื่อนทุกวัน แล้วทำไมไม่บอกเพื่อนไปล่ะ ว่าจะไปเมืองนอก ไม่น่าจะเกี่ยวกะว่างานยุ่งหรือไม่ยุ่ง ก็ในเมื่อคุยโทรกันทุกวันอยู่แล้ว คือผมว่า คนที่โทรศัพท์คุยกัน "ทุกวัน" มาเป็น "สิบปี" แต่กลับไม่ได้เจอกันเป็นปี ๆ แล้วเนี่ย มันแปลกมากนะ เพื่อนคงจะน้อยใจอยู่แล้ว พอมีเรื่องนี้เลยทำให้โกรธหนัก ลองคิดดู เมื่อวานยังโทรคุยกันอยู่ดี ๆ ไม่เห็นว่าอะไร พอวันนี้ ดันไปต่างประเทศ โดยไม่บอกกล่าวไม่อะไรซักคำ เป็นผม ผมก็มีเคือง แต่ที่เค้าโกรธมากน่าจะสะสมจากเรื่องอื่น ทางออก ถ้าเพื่อนไม่รับโทรศัพท์ ก็ลองเมสเสจไปอธิบาย รึไม่ก็ส่งอีเมลไปหาเค้าดู ขอโทษที่ไม่ได้บอก และเล่าความจำเป็น ไม่งั้น ถ้ารู้ที่อยู่ของเค้า ก็ลองไปหาไปพุดคุยกะเค้าให้รู้เรื่องเลยก็ได้ แต่ถ้าหมดหนทางจริง ๆ ก็อาจจะให้เวลาเพื่อนซักพัก อาทิตย์สองอาทิตย์ แล้วค่อยพยายามติดต่อกลับไปใหม่ครับ ของอย่างงี้บางทีต้องใช้เวลา ขึ้นอยู่กับว่า เพื่อนคุณเป็นคนแบบไหน มิตรภาพคบกันมา 10 ปี ผมว่ามันต้องดูแลรักษาให้ดีครับ กิจการบ้านคุณสำคัญ ผมเข้าใจ แต่ของแบบนี้มันไม่จำเป็นต้องแลก มันเป็นเรื่องที่เราน่าจะสามารถ "จัดการ" ให้เข้าที่เข้าที่เข้าทางได้ทั้ง 2 อย่าง บางทีแค่แวะไปเจอกัน กินอาหารเที่ยงกันสักมื้อ มันคงไม่ยุ่งยากมากมั้ง ในเมื่อปกติคุณก็ต้องกินข้าวอยุ่แล้ว อาจจะนัดที่ที่คุณสะดวกก็ได้นี่ การได้เจอเพื่อน ได้พูดคุยปรึกษา อาจจะทำให้ จขกท. สบายใจขึ้นด้วยซ้ำ เอาใจช่วยให้ จขกท. สามารถคืนดีกับเพื่อนได้สำเร็จครับ อิอิ จากคุณ : HeteroscedasticitY เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 16:16:19

ความคิดเห็นที่ 4   เลิกคบไปเลยครับ ตอนนี้เขายังโกรธอยู่ เลยไม่อยากคุยกับคุณ เอาไว้ถ้าเขาคิดถึงคุณจนทนไม่ไหว เดี๋ยวเขาก็ติดต่อมาเองแหล่ะ แต่ถ้าเขาไม่ติดต่อมา ก็อย่าไปสนใจเลยครับ จากคุณ : lastman เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 17:12:20 A:58.9.22.252 X: TicketID:197895

ความคิดเห็นที่ 5   ใช่ครับ ! แคร์ทำไมละครับ กับเพื่อนที่มีความคิดแบบนี้ ตกลง น้องจะกลุ้มเรื่องเพื่อน หรือว่าจะกลุ้มเรื่องงานดี กระทู้เก่า ผมก็พอจำได้  ทำไมเวลาเพื่อนมีชีวิตส่วนตัวกับแฟน น้องเองก็ยังเข้าใจ แล้วน้องก็เป็นแค่เพื่อน เค้าก็น่าจะเข้าใจในมุมมองบางอย่างได้บ้าง ว่าที่นอกไปธุระถึงเมืองนอก ที่ไม่ได้บอกเพื่อน ,แค่เนี้ย เพื่อนจะเป็นจะตายกันเชียวหรอ อีกหน่อย เค้าก็โทรหาน้องเองละครับ เพราะว่า..เดี่ยวแฟนเค้าก็คงทนนิสัยของเพื่อนน้องไม่ได้ จากคุณ : wat&pp เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 17:34:37

ความคิดเห็นที่ 6   เพื่อนเจ้าของกระทู้คงจะโกรธและน้อยใจ แต่เรามองว่าโตๆกันขนาดนี้แล้วควรจะมีความเข้าใจให้กันบ้าง ดังนั้นถ้าเจ้าของกระทู้พยายามหาทางสื่อสารกับเพื่อนอย่างดีที่สุดแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ต้องการ เจ้าของกระทู้ก็อาจต้องวางเฉยบ้าง เพราะเจ้าของกระทู้เองก็มีหน้าที่ต้องทำหลายอย่างและเครียดกับเรื่องงานมากพออยู่แล้ว เพื่อนน่าจะพิเศษกว่าแฟนก็ตรงที่เพื่อนเข้าใจเรา ยอมรับเราอย่างที่เป็น ไม่น้อยอกน้อยใจต่อกันในเรื่องยิบย่อย ที่สำคัญต้องให้อภัยกันได้ แม้เจ้าของกระทู้จะไม่ได้เจอเพื่อนมานาน แต่การที่โทรศัพท์คุยกันทุกวันก็น่าจะแสดงได้ถึงความใส่ใจที่เจ้าของกระทู้มีต่อมิตรภาพนี้ เพราะหากว่าไม่อยากติดต่อหรือละเลยเพื่อนจริงๆ เจ้าของกระทู้ย่อมเลือกที่จะไม่โทรศัพท์บ้างก็ได้ เพราะไม่เห็นว่ามีความจำเป็นใดที่จะต้องคุยกันทุกวัน อันที่จริงคนที่โตและอยู่ในวัยทำงานแล้ว ควรจะต้องมีชีวิตส่วนตัวบ้าง ไม่จำเป็นต้องตีแผ่ทุกรายละเอียด รายงานความคืบหน้ากันอยู่ตลอดเวลา ยิ่งสนิท ยิ่งรักกัน ควรจะยิ่งให้อิสระและความเข้าใจกันมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ไม่ใช่สนิทแล้วยิ่งยื้อ ยิ่งหวงว่าเป็นของฉัน เคยเป็นอย่างไรเมื่อสมัยเรียนก็จะต้องเป็นอย่างนั้นไปตลอด เพราะในความเป็นจริงแล้วไม่มีอะไรที่คงอยู่นิรันดร์ ชีวิตแต่ละคนย่อมเปลี่ยนไป ถ้าเพื่อนเจ้าของกระทู้ไม่เข้าใจตรงนี้ ยังคงคาดหวังโดยไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงหรือประนีประนอมกับวิถีชีวิตใหม่ของเจ้าของกระทู้ แม้เพื่อนจะกลับมาคุยด้วย เจ้าของกระทู้ก็อาจยังต้องระมัดระวังกับมิตรภาพนี้มากๆ ด้วยกลัวว่าเดี๋ยวเพื่อนจะน้อยใจอีก ดังนั้นเจ้าของกระทู้อาจต้องทบทวนว่าหากคืนดีกับเพื่อนได้แล้ว จะสามารถปรับความเข้าใจกัน มาพบกันครึ่งทางได้ไหม หรือการคืนดีนี้จะนำไปสู่เหตุการณ์เดิมๆ ที่จะทำให้เจ้าของกระทู้ต้องกังวลว่าเพื่อนอาจน้อยใจอีกบ่อยๆ ถ้าเป็นกรณีหลัง บางทีนั่นอาจหมายความว่าเพื่อนสนิทคนนี้เคยเหมาะกับเราในเวลาหนึ่งเท่านั้น และถึงเวลาที่เราต้องยอมรับว่าเราไม่อาจรักษาทุกมิตรภาพไว้ในชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม หากเมื่อทบทวนแล้วเจ้าของกระทู้รู้สึกว่าเพื่อนสนิทคนนี้ควรค่าที่จะรักษาไว้ และอยากปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง ก็ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนสนิทรับโทรศัพท์หรือติดต่อเจ้าของกระทู้มาในที่สุดนะคะ หรือไม่ลองให้เพื่อนคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยถ้าเป็นไปได้ หรือจะส่งขนมพร้อมการ์ดเขียนความในใจ ทำอะไรเล็กๆน้อยๆที่แสดงให้เห็นว่าเขามีความหมายต่อเจ้าของกระทู้ และเจ้าของกระทู้ไม่อยากเสียเขาไป ก็ลองดูค่ะ อย่างน้อยถ้าทำดีที่สุดแล้ว เขายังไม่ตอบรับมิตรภาพจากเรา เราก็จะได้ยอมรับ เดินหน้าต่อไป แล้วเริ่มต้นใหม่ โดยไม่ต้องละล้าละลังอยู่อย่างนี้ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ จากคุณ : * เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 18:11:32 A:92.3.250.133 X: TicketID:152752

ความคิดเห็นที่ 7 ช่างเขาเถอะ เอาเวลาไปทำอะไรที่สร้างสรรค์ก่อน ดูแลกิจการ การงานตอนนี้สำคัญกว่า เพื่อนคุณคงไม่มาหาเลี้ยงครอบครัวคุณหรอกนะ เพื่อนกัน ถ้าตัดไม่ขาด เดี๋ยวเลิกงี่เง่าก็ติดต่อมาเอง จากคุณ : Lazy Genius เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 16:49:31

ความคิดเห็นที่ 8 คห.6----> เราเห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ถ้าต้องเสียงาน เพราะกลัวเสียเพื่อน คงต้องทบทวนใหม่แล้วค่ะ จริงอยู่ คนเราต้องทำให้ชีวิตสมดุลกันทุกๆด้าน ทั้งงานและเรื่องส่วนตัว แต่มันก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริง อะไรสำคัญ อะไรควรมาก่อน มาหลัง กับบางคน มิตรแท้นั้น จะคอยสนับสนุน และให้กำลังใจยามเรามีปัญหา...รับฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน มีความจริงใจต่อกัน...เพราะฉะนั้น เดินหน้าทำงานของคุณให้สำเร็จเถอะค่ะ อนาคตคุณและของครอบครัวคุณสำคัญกว่านะคะ จากคุณ : Absolute Pink เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 16:59:26

ความคิดเห็นที่ 9 ช่างเค้าครับ จากคุณ : crccsgt เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 01:11:37

ความคิดเห็นที่ 10 เพื่อนที่ดี หรือเพื่อนสนิทกันจริงๆ ไม่มาโกรธกันไร้สาระแบบนี้หรอกค่ะ ขนาดสามีภรรยาตัวยังไม่ได้ติดกันยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย นี่แค่เพื่อนกัน จะบอกเมื่อไหร่ก็มีค่าเท่ากันค่ะ ไม่รู้นะเราจัดความสำคัญให้ครอบครัว ก่อนเพื่อนค่ะ ถึงแม้จะเพื่อนสนิทก็ตาม สนิทมากแต่ก็ยังมีช่องห่างให้กัน ไม่ให้มากเกินไป ไม่ดีค่ะ ส่วนเรื่องงานจขกทก็ทำถูกแล้วนะ ลูกที่ดีก็ต้องดูแลกิจการทางบ้านก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันค่ะ จากคุณ : แฟนสาวฮัตโตริคุง เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 01:12:57