ความคิดเห็นที่ 1   ท่ากระโดดเชือกที่ถูกต้องและช่วยลดแรงกระแทกต่อข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกาย ก่อนอื่นเลย ต้องปรับความยาวของเชือกให้เข้ากับความสูงของตัวเราก่อน วิธีวัดความยาวเชือก ก็ง่าย ๆ -ยืนเหยียบตรงกึ่งกลางของเชือก -ดึงปลายด้ามจับขึ้นมาให้เชือกตึง -ความยาวที่พอเหมาะคือ ปลายด้ามจับต้องเสมอรักแร้หรือร่องไหล่พอดี ถ้าเชือกยาวเกินไป ก็ทำให้เชือกสั้นลงด้วยการ (ถ้าเชือกสั้นไป มีทางเดียวคือซื้อเชือกใหม่ครับ ดังนั้นเวลาซื้อเชือก ต้องวัดดูให้ยาวไว้ก่อน) -หากเชือกสามารถปรับให้สั้นลงได้ ก็ทำการปรับและตัดให้สั้นลง -หากปรับความยาวเชือกไม่ได้ ก็ให้ผูกปมที่เชือกทั้งสองข้าง โดยให้ตำแหน่งปมอยู่ห่างจากด้ามจับประมาณ 20 ซม. โดยให้ผูกทีละข้าง จนเชือกสั้นพอดีกับความสูงของเรา เมื่อได้ความยาวเชือกที่พอดีแล้ว ท่ากระโดดที่ถูกต้อง เริ่มต้นด้วย -ยืนตัวตรง ศีรษะตรง มองตรงไปข้างหน้า -เข่างอเล็กน้อย เพื่อเป็นจุดรองรับแรงกระแทกจากการกระโดด -เขย่งเท้า โดยการเปิดส้นเท้าเพียงเล็กน้อย เพราะต้องใช้ส่วนที่เป็นจมูกเท้า(ส่วนที่ถัดมาจากหัวแม่เท้า) เป็นจุดแตะพื้น -ข้อศอกต้องแนบกับลำตัวตลอดเวลา อย่ากางแขนออกกว้าง ๆ -ตำแหน่งของข้อมือจะอยู่ล้ำมาทางด้านหน้า สูงประมาณระดับ สะโพก-สะดือ -แกว่งหมุนเชือกด้วยข้อมือเป็นหลัก ใช้ท่อนแขนส่วนล่างช่วยบ้างเล็กน้อย -กระโดดเท้าคู่ให้ต่ำที่สุด เพียงเพื่อให้เชือกลอดผ่านไปได้ "อย่ากระโดดสูงเกินไปโดยเด็ดขาด" จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 03:57:33 A:111.84.100.158 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 2   -เริ่มฝึกกระโดดจากน้อยครั้งก่อน แล้วค่อยเพิ่มจำนวนขึ้น -ถ้าเชือกติดบ่อยอย่าท้อ เป็นกันทุกคนแม้แต่ผมเอง เพราะแรก ๆ อาจจะยังจับจังหวะการกระโดดกับการแกว่งเชือกไม่ได้ อดทนฝึกโดดไปเรื่อย ๆ จะค่อย ๆ คล่องไปเองโดยอัตโนมัติ -เปิดเพลงเร็ว ๆ จังหวะเพลงที่ใช้เต้นแอโรบิคไปด้วย (ประมาณ บีท 120/นาที ขึ้นไป) จะช่วยให้ไม่เบื่อ และโดดเข้าจังหวะได้ง่ายขึ้น -และเมื่อกระโดดสองเท้าคู่ได้คล่องโดยเชือกติดน้อยลงแล้ว ให้ฝึกกระโดดแบบสลับเท้า ซ้าย-ขวา แบบที่นักมวยกระโดดกัน มันจะช่วยลดความล้าและแรงกระแทกลงได้อีกหน่อย -เวลากระโดดจริง ๆ ให้กระโดดสลับไปมา สองเท้าคู่บ้าง สลับเท้าบ้าง เป็นการเปลี่ยนการใช้งานของกล้ามเนื้อและข้อ ไม่ให้ล้าเกินไป -เมื่อกระโดดชำนาญมากขึ้น เชือกติดน้อยลงให้เพิ่มความเร็วในการกระโดดให้มากขึ้น ความเร็วที่พอเหมาะคือ ประมาณ 120-150 รอบต่อนาที จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 04:02:24 A:111.84.100.158 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 3   แต่อย่างไรก็ดี ข้อทีควรระลึกถึงเสมอก็คือกระโดดให้ต่ำที่สุดที่พอให้เชือกลอดผ่านเท้าไปได้ครับ อย่ากระโดดสูงเกินไป ระยะที่เหมาะสมคือ ไม่ควรกระโดดสูงเกิน 2 นิ้ว หรือ 5 ซม. นะครับ จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 04:08:06 A:111.84.100.158 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 4   เริ่มต้นออกกำลังกายด้วยการกระโดดเชือกอย่างจริงจัง -การฝึกควรใช้การจับเวลาดีกว่าการนับครั้งการกระโดด -เริ่มต้นควรโดด 1 นาที แล้วพัก โดยการเหวี่ยงเชือกไปด้านข้าง ซ้าย-ขวา สลับกันเป็นรูปเลขแปดตะแคง อาจยืนกับที่หรือ ขยับขาให้เข้าจังหวะเบา ๆ ไปด้วย หรืออาจใช้การย่ำเท้าอยู่กับที่ไปด้วยก็ได้พอหายล้าหรือเหนื่อย ให้กระโดดต่ออีก 1 นาที ทำสลับพัก รวมเวลาที่กระโดดให้ได้ 3-5 นาที(หรือทำสามถึงห้ารอบนั่นเอง) -ให้กระโดดสัปดาห์ละ 5-6 วัน แล้วค่อย ๆ ลดเวลาพักลง จนสามารถกระโดดติดต่อกันได้โดยไม่ต้องพัก -จากนั้นให้กระโดดที่ 5 นาทีต่อเนื่อง 1 สัปดาห์ (5-6 วัน ต้องมีวันที่พักด้วยเสมอ) -แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลา 2 วันต่อครึ่งนาที จนได้ทำได้ 10 นาทีต่อเนื่อง ก็ให้โดดที่ 10 นาทีต่อไปอีก 1 สัปดาห์ -จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มเวลาอีกเหมือนเดิม คือ 2 วันต่อครึ่งนาที จนได้ 15 นาที ก็โดด 15 นาทีต่อเนื่อง ไปอีก 1 สัปดาห์ -จากนั้นก็ค่อย เพิ่มเวลาไปเรื่อย ๆ จนได้ 20-30 นาทีต่อเนื่อง ก็เป็นเวลาที่พอเหมาะพอดีต่อสภาวะแอโรบิค ที่จะทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 04:14:09 A:111.84.100.158 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 5   อุปกรณ์และสถานที่สำหรับการกระโดดเชือก อย่างแรกเลยคือเชือกกระโดด ถ้าไม่มีก็คงโดดกันไม่ได้ อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันคือรองเท้ากีฬา "ห้ามกระโดดด้วยเท้าเปล่าหรือรองเท้าแตะเป็นอันขาด" อย่างที่ทราบกันอยู่ การกระโดดก่อให้เกิดแรงกระแทกสูง รองเท้ากีฬาจะช่วยลดอันตรายต่อข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกายท่านลงได้ สำหรับเสื้อผ้า ก็ตามแต่จะสะดวก แต่หลัก ๆ คือต้องให้เคลื่อนไหวและกระโดดได้สะดวก ระบายเหงื่อและความร้อนได้ดี ก็พอแล้ว (ผมโดดอยู่ในบ้าน ก็ถอดเสื้อ ใส่แค่กางเกงกีฬาขาสั้นตัวเดียว) สำหรับสถานที่ในการกระโดด ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือพื้น พื้นที่เหมาะสมจะต้องรองรับแรงกระแทกได้ดี เช่น พื้นไม้(อย่างปาเก้ในยิม) พื้นพลาสติก พื้นที่เป็นยาง (เช่นคอร์ทแบด) พื้นผิวที่ควรหลีกเลี่ยงคือคอนกรีต แต่ทำไงได้ในเมื่อทางเลือกมันมีน้อย ที่ผมโดดอยู่ก็พื้นบ้านคอนกรีตปูกระเบื้องนี่แหละ อาศัยหารองเท้าดี ๆ และกระโดดให้ถูกท่า เพื่อลดแรงกระแทก ก็พอได้อยู่ เรื่องสำคัญอีกอย่างสำหรับสถานที่คือ พื้นที่ว่าง ผนังซ้าย-ขวา สิ่งของเกะกะ ความสูงของเพดาน ต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการกระโดดเชือก สุดท้ายคือห้องต้องถ่ายเทอากาศได้ดี ไม่อับทึบจนหายใจไม่ออก จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 04:18:24 A:111.84.100.158 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 6   เชือกกระโดดที่ดี เนื่องจากในบ้านเรา แม้จะเป็นแผนกกีฬาในห้างดัง ๆ เชือกสำหรับกระโดด ก็ยังมีให้เลือกไม่มากนัก และคุณภาพก็เป็นรองเชือกที่ขายตามเว็บไซต์กระโดดเชือกของต่างประเทศอยู่พอควร แต่ก็พอกล้อมแกล้มโดดได้พอใช้อยู่ แบ่งประเภทหลัก ๆ เชือกกระโดดที่ขายในบ้านเราก็มีดังนี้ -เชือกกระโดดที่มีด้ามจับเป็นไม้ ตัวเชือก อาจเป็น เชือกผ้าหรือไนล่อนถัก , เชือกพลาสติกหรือคล้าย ๆ ยางที่เป็นสีสันต่าง ๆ , เชือกที่เป็นท่อยางหนา ๆ หนัก ๆ (ซึ่งมักจะเขียนไว้ว่า เชือกกระโดดนักมวย) ราคาเชือกแบบนี้ ค่อนข้างประหยัด แค่เกือบ ๆ ร้อยถึงร้อยกว่าบาท ข้อเสียที่เด่นชัดคือ มันปรับความยาวเชือกให้เหมาะความสูงของแต่ละคนได้ยาก ต้องผูกปม ลดความยาวเอาอย่างเดียว อีกอย่างคือจุดที่ยึดเชือกกับด้ามจับไม่ค่อยแข็งแรง โดด ๆ ไปบางทีหลุดไปเลยก็มี ถ้าจะซื้อมาลองโดดดู ให้เลือกแบบที่เชือกเป็นพลาสติกหรือคล้าย ๆ ยาง (เส้นเล็ก ๆ ไม่ใช่แบบที่เป็นท่อสายยาง) ดูความยาวให้เหมาะกับความสูงของตัวเอง (ยืนเหยียบกึ่งกลางเชือก ปลายด้ามจับต้องเลยรักแร้) -เชือกที่ด้ามจับเป็นพลาสติกหรือฟองน้ำ เชือกแบบนี้ส่วนใหญ่จะปรับความยาวเชือกได้ โดยเลื่อนตัวกันเชือกภายในด้ามจับ จนได้ความยาวที่เหมาะสมและตัดเชือกส่วนเกินทิ้ง เช่นกันตัวเชือกก็จะมี ทั้งแบบที่เป็นผ้าถัก เป็นพลาสติก และท่อยางหนา ๆ เชือกกระโดดที่เหมาะที่จะนำมาออกกำลังกายคือแบบที่เป็นพลาสติกเส้นเล็ก ๆ (หรือ Speed rope ที่ฝรั่งเรียกกัน) เชือกที่เป็นผ้า เบาเกินไปและต้านอากาศ หมุนหรือเหวี่ยงเชือกไม่ค่อยไป หรือไปช้า ต้องออกแรงหมุนข้อมือมาก ทำให้เสียจังหวะในการกระโดด เชือกที่เป็นท่อสายยาง ที่หนัก ๆ และหนา ๆ หนักเกินไป ต้องใช้แรงแขนมาก ทำให้เกิดความล้า น่าจะเหมาะกับนักมวยหรือนักกีฬาที่ต้องการฝึกหนัก ๆมากกว่า (อีกอย่างคือมันไม่ทน ขาดง่าย เพราะตัว เชือกที่หนักทำให้แรงเสียดสีกับด้ามจับสูง กินเนื้อของสายยางเร็ว) นอกจากนี้ ยังมีเชือกกระโดดแบบที่ด้ามจับถ่วงน้ำหนัก คือด้ามมันจะหนักกว่าเชือกแบบทั่ว ๆ ไป เพื่อให้ใช้กำลังแขนมากขึ้น เชือกแบบนี้ก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะมันเป็นอุปสรรคต่อการเริ่มต้นฝึก และส่วนใหญ่เป็นของนอก ราคาค่อนข้างสูง มีบางคนบอกไว้ว่า ถ้าอยากได้กล้ามแขนโต ๆ คุณเบิร์นด้วยการกระโดดเชือก(ด้วยเชือกธรรมดา) แล้วไปยกเวทจะเห็นผลกว่าซื้อเชือกแบบนี้มากระโดดซะอีก จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 04:27:03 A:111.84.100.158 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 7   รองเท้าที่เหมาะสม เนื่องจากการกระโดดเชือกที่ถูกต้อง จุดสัมผัสพื้นคือส่วนของเท้าด้านหน้า ตรงจมูกเท้า ดังนั้นรองเท้าที่ดีควรจะรองรับแรงกระแทกส่วนของเท้าด้านหน้าได้ดี รองเท้าที่เหมาะสมที่สุดคือ รองเท้าประเภท cross training รอง ๆ ลงมาก็คงพวกรองเท้า indoor ทั้งหลาย เช่น รองเท้าแบดฯ วอลเลย์ฯ ฯลฯ หรือ หรือเท้าวิ่งก็ใช้ได้ (ผมใส่รองเท้าวิ่ง D-Maq กระโดด มาเป็นปีแล้ว) จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 04:33:32 A:111.84.100.158 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 8   ท่ากระโดดที่ถูกต้อง (กระโดดสูงแค่พอให้เชือกลอดผ่านเท้า) และรองเท้าที่ดี-พื้นผิวที่เหมาะสม ก่อให้เกิดแรงกระแทกน้อยกว่าการวิ่งจ๊อกกิ้งอีกนะครับ ดังนั้น ควรล้มล้างความคิดที่ว่าการกระโดดเชือกจะทำให้ข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกายมีปัญหาไปได้แล้วนะ จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 04:55:37 A:111.84.77.168 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 9 เยี่ยม เป็นประโยชน์มาก  แต่กระโดดเชือก 30 นาที/วันนี้ เป็นอะไรที่โหดพอดูเหมือนกันนะเนี่ย   มันจะเผาผลาญเทียบเท่าการวิ่งรึเปล่าครับ จากคุณ : teamasso เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 13:19:48

ความคิดเห็นที่ 10   รู้สึกเหมือนกันว่าไปวิ่งแล้วปวดข้อ แต่โดดเชือกไม่ปวด คคห 9 เราว่าเบิร์นดีกว่าวิ่ง เพราะโดดแป๊บเดียวหัวใจเต้นเร็วมากและเหงื่อจะท่วมเร็วมากๆ จากคุณ : โดดอยู่เหมือนกัน เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 13:52:41 A:125.27.89.59 X: TicketID:222046

ความคิดเห็นที่ 11 เข้ามาอ่านค่ะ จากคุณ : Pim~Dow เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 18:06:16

ความคิดเห็นที่ 12   ข้อมูลการ burn ด้วยการกระโดดเชือกนะครับ จากการวิจัยพบว่ากระโดดเชือก 10 นาที ที่ความเร็ว 120 รอบต่อนาที เป็นการออกกำลังกายเทียบเท่าได้กับ -จ๊อกกิ้งเบา ๆ 30 นาที -ตีเทนนิส 2 เซ็ท -ตีกอล์ฟ 18 หลุม -ปั่นจักรยานระยะทาง 2 ไมล์ (3.2 กิโล) -เล่นแฮนด์บอล 20 นาที -การกระโดดเชือกเผาผลาญพลังงาน 13 กิโลแคลอรี่ต่อนาที ที่ความเร็ว 120 รอบต่อนาที(สำหรับผู้มีน้ำหนักตัว 150 ปอนด์หรือประมาณ 68 กิโลกรัม) อัตราการเผาผลาญพลังงานของการกระโดดเชือก (ของฝรั่งนะครับ คนไทยน่าจะลดลงอีกนิดหน่อย) -กระโดดช้า ๆ 60-80 รอบต่อนาที เป็นเวลา 10 นาที ผู้หญิง burn ได้ 70 kcal ผู้ชาย 100 kcal -กระโดดเร็ว 80-120 รอบต่อนาที ภายใน 10 นาที ผู้หญิง burn ได้ 110 kcal ผู้ชาย 150 kcal -การกระโดดที่ความเร็วรอบ 120 รอบต่อนาที จะได้ความหนักของการออกกำลัง เทียบเท่ากับการวิ่งด้วยความเร็ว 6 ไมล์ (9.6 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง (หรือประมาณ 6 นาทีต่อ 1 กิโลเมตร) อีกข้อมูลนึง กระโดดเชือกที่ความเร็ว 130 รอบต่อนาที เท่ากับวิ่งด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือปั่นจักรยานด้วยความเร็ว 19 กิโลเมตร/ชั่วโมง ดังนั้นกระโดดเชือกเพียง 10 นาที จึงเท่ากับการวิ่งเป็นระยะทาง 1.5 กิโลเมตร จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 18:49:59 A:115.67.12.53 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 13   ประโยชน์ของการออกกำลังกายด้วยการกระโดดเชือก นอกจากกระโดดเชือก จะเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิต หัวใจ ปอด และระบบหายใจ แข็งแรงขึ้น ทำให้ร่างกายฟิตขึ้น ทนทานต่อความเหนื่อยได้ดีมากขึ้น และยังช่วยให้ร่างกายห่างไกลจากโรคภัยต่าง ๆ หลายโรค เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น การกระโดดเชือกยัง ช่วยในการฝึกระบบสมอง เพราะต้องอาศัยการควบคุมร่างกาย ให้มือที่แกว่งเชือก กับจังหวะกระโดดสัมพันธ์กันนั่นเอง การกระโดดเชือกยังทำให้ร่างกายแคล่วคล่องว่องไวขึ้น ช่วยในเรื่องของฟุตเวิร์คของขา และเป็นการออกกำลังกายด้วยกล้ามเนื้อ ทั้งบนและล่างของร่างกายพร้อม ๆ กัน ทำให้ร่างกายได้ออกกำลังพร้อมกันหลาย ๆ ส่วนในเวลาเดียวกัน การกระโดดเชือก ยังช่วยให้กระดูกแข็งแรงขึ้นมีมวลหนาแน่นขึ้น เนื่องจากแรงกระแทกช่วยกระตุ้นการสร้างเซลกระดูก ลดอัตราเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนลงได้ จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 20:15:04 A:111.84.104.76 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 14   รู้สึกจะเขียนตกไปเรื่องนึง คือการ วอร์มอัพ และ คูลดาวน์ ก่อนจะเริ่มกระโดดเชือก และหลังกระโดดเสร็จทุกครั้ง ต้องทำการวอร์มอัพ คูลดาวน์ ด้วยทุกครั้ง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและลดอาการเมื่อยล้าของแขน-ขาลงได้ โดยการออกกำลังกายเบา ๆ เช่น กระโดดเชือกเบา ๆ ช้า ๆ หรือ วิ่งเหยาะกับที่ ร่วมกับการ ยืด-เหยียดกล้ามเนื้อ ในท่าต่าง ๆ(Stretching) จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 20:21:04 A:111.84.104.76 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 15 สุดยอดเลย จากคุณ : Typhoon No.29 เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 22:39:41

ความคิดเห็นที่ 16   เนืองจากพิมพ์มายาวมาก จึงขอสรุปเนื้อหาที่ตรงกับหัวข้อกระทู้ให้ครับ การกระโดดเชือกที่ถูกวิธี -เชือกที่ใช้กระโดดควรเป็นเชือกที่ตัวเชือกเป็นพลาสติกเส้นเล็ก ๆ (speed rope) และด้ามจับเป็นพลาสติกที่สามารถปรับความยาวของเชือกได้ -ต้องใส่รองเท้ากีฬาเวลากระโดดเชือกเสมอ เพื่อช่วยซับแรงกระแทก รองเท้าที่ดีควรรองรับแรงกระแทกตำแหน่งเท้าส่วนหน้าได้ดี เช่น รองเท้าครอสเทรนนิ่ง รองเท้าสำหรับกีฬา indoor รวมถึงรองเท้าวิ่ง -ปรับความยาวเชือกให้เข้ากับความสูงตัวเอง โดยวัดด้วยการเหยียบตรงกึ่งกลางของเชือกไว้ ดึงเชือกให้ตึง ปลายของด้ามจับต้องอยู่ตรงกับรักแร้พอดี -ท่ากระโดดที่ถูกต้อง ต้องยืนตัวตรง งอเข่าเล็กน้อย ข้อศอกแนบชิดลำตัว ใช้ข้อมือในการหมุนเชือก ยืนเปิดส้นเท้า-เขย่งเท้าเล็กน้อย ให้จมูกเท้าเป็นส่วนรับน้ำหนักและสัมผัสพื้น กระโดดให้สูงน้อยที่สุด เพียงแค่ให้เชือกลอดผ่านไปได้ (กระโดดสูงไม่เกิน 2 นิ้วจากพื้น) -เริ่มกระโดดจากน้อยครั้งก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อย ถ้าเชือกติดบ่อยก็อย่าเพิ่งท้อ ให้อดทนฝึกไปเรื่อย ๆ แล้วจะคล่องไปเองโดยอัตโนมัติ -พยายามฝึก จนกระโดดได้ต่อเนื่อง 20-30 นาที และทำให้ได้สม่ำเสมอ 5-6 วัน/สัปดาห์ จึงจะเห็นผลชัดเจน ทั้งการลดน้ำหนักและร่างกายแข็งแรงขึ้น จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 02:15:43 A:111.84.19.24 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับ ขอบคุณ นี่แหละครับ skipper ตัวจริงเสียงจริงมาเองเลยข้อมูลแน่นบึก คุยกันกระทู้ที่แล้วมาวันนี้พึ่งรู้ตัวว่าเอามะพร้าวมาขายสวนซะแล้ว!!!... นี่ครับ ต้นแบบของผม เรื่องลีล่า ท่าต่างๆผมได้หมดแล้ว ยังเหลือแต่ความเนียนในจังหวะเปลียนไปเต้นท่าต่างๆเท่านั้น...นี่ครับ http://www.youtube.com/watch?v=2B2Vrg1Y25c&NR=1 และนี่ http://www.youtube.com/watch?v=nJch_gpLNMw&feature=PlayList&p=CE388097F2620C86&index=147 และนายคนนี้ดูๆแล้วจังหวะไม่ต่างผมมากนัก http://www.youtube.com/watch?v=1-h3u7YwyoQ&feature=PlayList&p=CE388097F2620C86&index=111 จากคุณ : ASN เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 53 08:41:42

ความคิดเห็นที่ 18   ขอบคุณสำหรับทุก ๆ ความเห็น และทุกท่านที่เข้ามาอ่านด้วยครับ หวังว่ากระทู้นี้คงเป็นประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ พอดีเห็นว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการกระโดดเชือกที่เป็นภาษาไทยมันมีน้อยและไม่ค่อยละเอียดน่ะครับ เลยโพสต์เองซะเลย อิอิ จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 01:51:45 A:115.67.241.113 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 19   ยินดีอย่างยิ่งเลยครับ ที่ได้เจอกันอีกสำหรับคุณ ASN นักวิ่งและนักกระโดดเชือก ผู้อยู่แดนไกล และขอบคุณอย่างยิ่ง สำหรับ link วิดีโอคลิปการกระโดดเชือก ซึ่งทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นกว่าคำพูดและตัวอักษรอีกมากมาย ผมก็ไม่ใช่นักกระโดดเชือกตัวจริงเสียงจริงอะไรหรอกครับ แค่พยายามฝึกกระโดดและหาข้อมูลเกี่ยวกับการกระโดดเชือกให้ถูกทางก็เท่านั้น พอเริ่มเข้าใจอะไร ๆ บ้าง ก็แค่อยากถ่ายทอดให้อื่นรับรู้บ้างอ่ะครับ ผมว่า เมย์เวทเทอร์จูเนียร์ นี่ ท่าโดดเชือกของเค้า ดูเพลิดเพลินเร้าใจดี มีโดดพลิกแพลงท่าต่าง ๆ มากมาย ไม่เหมือนกับที่นักมวยทั่ว ๆ ไปโดดกัน (แม้แต่ คู่กัดที่มีแนวโน้ม (หรืออาจไม่) จะต่อยกันอย่าง แพ็คแม่น แมนนี ปาเกียว ก็ยังโดดแบบเพลน ๆ พื้น ๆ เลย) ผมเคยได้ดูคลิปเหล่านั้นมาแล้ว รู้เลยว่ามันไม่ใช่จะทำตามได้ง่าย ๆ แสดงว่าทักษะการกระโดดเชือกของคุณ ASN เนี่ย อยู่ในระดับก้าวหน้าเลยทีเดียว รูทีนของ เมย์เวทเทอร์ ประกอบด้วยทักษะท่ากระโดดดังนี้ - กระโดด side swing (เหวี่ยงเชือกด้านข้างสลับซ้าย-ขวา) แล้วกางเชือกกระโดดปกติ - กระโดด criss cross (กระโดดขณะแขนไขว้กัน) - กระโดด double unders (กระโดดเบิ้ลโดยเหวี่ยงเชือกให้ผ่านตัวสองรอบ ต่อการกระโดดเพียงหนึ่งครั้ง ) - กระโดด double unders ผสมกับ criss cross (ท่านี้ยากใช้ได้ทีเดียว) อีกอย่าง ตาเมย์เวทเทอร์เนี่ย สปีดเชือกแกสุด ๆ จริง ๆ ไวมาก ๆ ลองจับดูแล้วเฉลี่ย น่าจะเกิน 150 RPM (รอบต่อนาที - round per minute) ผมก็แค่ฝึกจนพอทำท่าดังกล่าวได้คล่องพอประมาณ แต่สปีดเชือกไม่ไวระดับเขาหรอกครับ และรู้เลยว่ามันเหนื่อย โคด ๆ หากโดดแบบยาว ๆ โดยไม่พัก (ได้ห้าร้อยทีก็ลิ้นห้อยแล้ว อิอิ) ใครฝึกโดดเบสิคจนคล่องแล้ว ลองเลียนแบบฝึกโดดตามคลิปของเมย์เวทเทอร์ ที่คุณ ASN กรุณาลิงค์ให้ ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยครับ ท่าทำได้คล่องแบบนั้นคงดูเท่ห์และเป็นจุดสนใจของคนที่เห็นทีเดียวเลย จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 02:07:45 A:115.67.112.249 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 20   แต่สำหรับท่านที่เริ่มฝึกกระโดดแบบเบสิค ลองดูคลิปนี้นะครับ ทำตามได้แบบง่าย ๆ เลย สังเกตว่า ต้องกระโดดโดยข้อศอกแนบกับลำตัวและกระโดดต่ำที่สุดเพียงแค่ให้เชือกพอลอดผ่านเท้าไปได้เท่านั้นครับ (ขออภัยที่ทำ link ให้ไม่ได้นะครับ รบกวน copy แล้ว paste เอาเอง) http://www.skipfitvideos.com/play.php?vid=176 จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 53 03:35:44 A:115.67.60.176 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 21   เลิกโดดไปแล้วอ่ะค่ะ เจ็บข้อเท้าข้างเดียวมา 2 อาทิตย์ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นกระโดดตบแทน จากคุณ : แพตตะรี่ เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 53 13:37:13 A:125.27.60.8 X: TicketID:220643

ความคิดเห็นที่ 22   เริ่มโดดแรก ๆ ผมก็เจ็บเหมือน ๆ กับ คุณ แพตตะรี่ ทั้งข้อเท้า หน้าแข้ง ฝ่าเท้า สาเหตุที่วิเคราะห์ได้คือ เริ่มกระโดดที่จำนวนมากเกินไป กับอีกอย่างคือ สเต็ปกระโดดไม่ถูกต้องเพราะเชือกยาวไป และกระโดดสูงจากพื้นมากไปครับ ภายหลังที่ปรับท่ากระโดดให้ถูก และเริ่มต้นทำจากน้อยครั้งและเพิ่มขึ้นทีละน้อยให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับสภาพ มาจนตอนนี้นับปีแล้วที่ไม่เจ็บข้อเท้าอีกเลย อาจมีล้า ๆ บ้าง หากวันไหนเกิดฟิตจัดกระโดดติดต่อกันนานเกิน 40 นาที (แต่ก็พอลดการเมื่อยล้าได้จากการยืดเหยียดกล้ามเนื้อครับ) จริง ๆ มันมีท่ากระโดดเชือกท่านึง ชื่อว่า side straddle เป็นท่าที่กระโดดเชือกโดยกระโดดแบบ แยก-หุบ ขา เหมือนการกระโดดตบ ไปด้วย (ชื่อไทยเรียกง่าย ๆ ว่า โดดเชือกท่ากระโดดตบ) อย่างน้อยการหมุนเชือกไปด้วยเป็นการออกกำลังแขนที่มากกว่าการแค่ตบมือ และการที่ต้องคอยกะจังหวะให้ข้ามเชือกได้โดยไม่ติด ก็เป็นการฝึกระบบสมองเพื่อควบคุมความสัมพันธ์ของจังหวะให้ดีขึ้นด้วย จากคุณ : skipper เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 12:32:37 A:115.67.30.240 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 23 เรียนถามจขกท. ตอนนี้ผมเป็นรองช้ำที่เท้าซ้าย จะกระโดดเชื่อกได้ไหมครับ เป็นอันตรายไหมครับ จากคุณ : GiantDon (GiantDon) เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 53 10:36:10

ความคิดเห็นที่ 24   โดดได้ครับ แต่โดดไปก็จะปวดและทรมานไปเปล่า ๆ ทางที่ดี ลองไปยืดเหยียดเท้าให้อาการรองช้ำทุเลาลงก่อน แล้วค่อย ๆ มาเริ่มกระโดดแต่น้อย ร่วมกับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อเท้าและขา ไปด้วย น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ เคยโหมวิ่งหนัก เจ็บฝ่าเท้าจนแทบเดินไม่ไหว (คงอาการเดียวกับรองช้ำ) เลยหยุดวิ่ง มายืดเหยียดกล้ามเนี้อเท้ากระทั่งหายปวด ก็กลับมาวิ่งใหม่ อย่างค่อยเป็นค่อยไปไม่หักโหม จากนั้นมาก็ไม่เคยเป็นอีกเลย จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 53 19:19:55 A:115.67.202.157 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 25   ตกลงโดดเชือกละมัน จะไม่สูงหรอคับ งงงง  ตกลงถ้าวัย14ยังไม่ยืด โดดละจะหยุดสูงปะคับ จากคุณ : kjimtee (kimteechill) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 13:31:48

ความคิดเห็นที่ 26   ในกระทู้นี้ ไม่มีตรงไหนเลยนะที่บอกว่ากระโดดเชือกแล้วจะทำให้หยุดสูง ไม่รู้ว่าน้องอ่านจากไหนมา มีแต่อธิบายว่า การกระโดดเชือกเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้เกิดแรงกระแทกแล้วจะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์กระดูกเพิ่มขึ้น ซึ่งสำหรับวัยเจริญเติบโตมันก็ยิ่งจะช่วยเพิ่มความสูงขึ้นด้วยด้วย แต่สำหรับคนอายุมาก ๆ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนอ่ะคับ กระโดดเชือกมันก็ไม่ต่างกับเล่นบาสหรอก กระโดดเพื่อกระแทก กระตุ้นกระดูกให้แบ่งเซลล์ได้ดีขึ้น เคยมีใครบอกเหรอว่าเล่นบาสแล้วทำให้หยุดสูง แล้วกระโดดเชือกต่างกันตรงไหน ไม่รู้ว่าจุดไหนของกระทู้นี้ทำให้น้องไข้วเขว เป้าหมายหลัก ๆ ที่ตั้งกระทู้นี้ คืออยากให้กระโดดกันอย่างถูกต้อง จะได้ไม่เกิดอาการบาดเจ็บและข้อเข่าเสื่อม โดยเฉพาะกับผู้ที่อายุมากหน่อยอ่ะ ถ้ายังอยู่ในวัยเจริญเติบโตแล้วอยากสูงให้ทำตามนี้เลย (ทำอย่างมีวินัย ให้เป็นกิจวัตร อย่าขี้เกียจ อย่าเบื่อง่าย ๆ ) -รับประทานอาหารที่มีโปรตีนและแคลเซียมสูง ๆ เช่น นม เนื้อสัตว์ เมล็ดพืช ปลาเล็กปลาน้อยที่กินได้ทั้งตัว -พักผ่อนให้มาก ๆ เพื่อให้ growth hormon หลั่งมาก ๆ นอนแต่หัวค่ำ ตื่นแต่หัวรุ่ง อย่านอนดึกตื่นสาย -ออกกำลังกายให้เพียงพอ เล่นบาส กระโดดเชือก วอลเลย์ วิ่ง สร้างแรงกระแทก ให้มาก ๆ กระตุ้นกระดูก โหนบาร์ยืดแขนยืดลำตัว วิดพื้น ซิทอัพ สร้างกล้ามเนื้อ -แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พันธุกรรมก็ยังเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลสำคัญต่อความสูงอยู่ดี ถ้าพ่อแม่ลุงป้าน้าอาปู่ย่าตายาย ไม่มีใครสูงเลย ผลค่าเฉลี่ย (ถ้าทำต่อเนื่องได้อย่างอดทนและมีวินัย) ก็คงสูงขึ้นกว่าสายกรรมพันธุ์ แต่อาจจะไม่มากแบบเห็นข้อแตกต่างจนเกินเหตุ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 53 03:32:19 A:115.67.68.227 X: TicketID:248103

ความคิดเห็นที่ 27   โดยปกติเด็กผู้ชาย จะมีช่วงที่ความสูงเพิ่มขึ้นไม่เท่ากันอ่ะ ตั้งแต่อายุ 13-20 ปี บางคนสูงเร็วช่วงต้นแล้วก็หยุดสูงเร็ว บางคนก็มาสูงเอาช่วงกลาง ๆ (14-17) บางคนก็มาสูงเอาช่วงปลาย ๆ (16-19) ไม่แน่นอน อย่างพี่นี่ ก็สูงมาพร้อม ๆ กับเพื่อนตอน 16-18 บางคนก็หยุดสูงพอ ๆ กันคือ ประมาณ 170 แต่บางคนก็ยังสูงต่อ ไป เกือบ ๆ 180 มันไม่แน่ไม่นอน ขึ้นกับแต่ละคนและพันธุกรรม แต่ที่แน่ ๆ ที่ช่วยทำให้สูงคือ อาหาร (เนื้อ นม ไข่ แคลเซี่ยม) การนอนให้เพียงพอ และ การออกกำลังกาย (สร้างแรงกระแทกและยืดตัว) จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 53 03:59:50 A:115.67.68.227 X: TicketID:248103