 |
ถ้าหยุด Fast-5 แล้วจะ yo yo ไหม
|
|
ขอขุดเรื่องนี้ออกมาแบ่งปันสำหรับ ผู้ที่สนใจ Fast-5 โดยเฉพาะ!! เห็นคนที่ไม่มีความรู้เรื่อง Fast-5 แถมยังมีอคติแต่มาตอบคำถามเกี่ยวกับ Fast-5 มันค่อนข้างจะมั่วไงไม่รู้น่ะค่ะ เลยอดไม่ได้ที่จะต้องมาตั้งกระทู้เกี่ยวกับข้อสงสัยต่างๆ ถ้าใครสนใจ Fast-5 จริงๆ สามารถดาวน์โหลดอ่านต้นฉบับ ของคุณหมอเบิร์ต ได้ที่นี่ค่ะ http://www.fast-5.com/
มาต่อที่หัวข้อกระทู้กันนะคะ
ถ้าหยุด Fast-5 แล้วจะ yo yo ไหม!!
จขกท : เราสงสัยอ่ะค่ะว่าถ้าเราทำ fast5 จนน้ำหนักลดเปนที่พอใจแล้วเรากลับมากิน 3 มื้อเหมือนเดิมได้มั้ยคะ จะทำให้เกิดโยโย่มั้ยคะ
คุณ Xoop : ทุกวิธีถ้าคุณหยุด แล้วกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆ เหมือนตอนที่อ้วน มันก็มีโอกาสเจอโยโย่เหมือนกันหมดอ่ะ ไม่ใช่เฉพาะ Fast-5 หรอก แต่ Fast-5 เค้ามีช่วง Maintenance ที่สามารถดัดแปลงให้เข้าวิถีชีวิตในช่วงต่างๆ ได้เยอะแยะ คุณไม่จำเป็นต้องทานอาหารตอน 17.00-22.00 ไปตลอดชีวิตหรอก ถ้าคิดจะอยู่กับ Fast-5 อ่ะ การดัดแปลงก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของคุณ อยู่ที่หัวคิดสร้างสรรค์ ว่าจะดัดแปลงยังไง
ถ้าสนใจหรือคิดจะใช้ Fast-5 ก็ต้องอ่านหนังสือ The Fast-5 Diet and The Fast-5 Lifestyle ให้จบก่อน อ่านให้เข้าใจ อ่านมากๆ ด้วยนะ ไม่งั้นท่าจะแย่อ่ะ เรื่องโยโย่นี่เค้าก็มีบอกไว้อย่างชัดเจนแล้วที่หน้า 3 กะั 27
คุณ Jackson5 : โยโย่ effect โดยหลัก ๆ เกิดจากการที่ระบบ Metabolism ลดต่ำลง เนื่องจาก การลดน้ำหนักที่ผิด ๆ
ดังนั้น จากคำถามที่คุณถามมา ขอตอบว่า
1. หากคุณ ทานน้อยไป ในช่วงที่อนุญาตให้ทาน (Eating Window) จนน้ำหนักลดลงจนถึงจุดที่คุณพอใจ ดังนั้น หากคุณไปทานตามปกติเหมือนเดิม หรือ แม้กระทั่งทานมากกว่าเดิมในช่วง Eating Window ก็เกิด โยโย่ ได้ครับ (เนื่องจาการอดอาหารทำให้ร่างกายคุณปรับ Metabolism ให้ต่ำลง)
2. ในทางตรงกันข้าม หากคุณทาน ไม่มากจนเกินไป และ ไม่น้อยจนเกินไป จนน้ำหนักคุณลดลง ในวิธีนี้ระบบ Metabolism ก็จะไม่พัง หากคุณจะเลิก ผมรับประกันว่าไม่เกิด โยโย่ ครับ (แต่หากคุณอ้วนอีกครั้งก็เพราะคุณทานมากขึ้นเอง)
อย่างไรก็ตาม ผมตั้งข้อสังเกตุว่า หากคุณสามารถอยู่กับ F-5 จนน้ำหนักลดได้ คุณก็จะไม่อยากเลิก F-5 เพราะมันไม่กดดัน เวลากินคุณกินเต็มที่ ไม่ต้องกังวลอะไร แต่เวลางดคุณงดอย่างเด็ดขาด ที่สำคัญที่สุด F-5 ทำให้คุณรู้ความต้องการที่แท้จริงของร่างกาย วันไหนคุณทานน้อยไปหรือมากไป วันถัดไปคุณก็จะจับความรู้สึกนี้ได้ ตรงนี้เองสามารถทำให้คุณปรับการทานของคุณได้ ( ประเด็นสุดท้ายนี้ผมมองว่า เป็นความสามารถพิเศษของผู้ทำ F-5 นะครับ ซึ่งวิธีอื่น ๆ ไม่สามารถทำได้)
อย่าลืมนะครับว่า F-5 ไม่ใช่สูตร 3 วัน 7 วัน กว่าน้ำหนักจะลดได้ต้องใช้เวลาครับ ถึงวันนั้น F-5 ก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณแล้ว กล่าว คือ ใน 19 ชม.ทีงดอาหารคุณจะไม่อาการหิวแม้แต่นิดเดียว ไม่มีอาการท้องร้อง แม้แต่ครั้งเดียว (แล้วจะหันกลับไปให้ร่างกายหิวโหยอีกทำไมครับ หิววันละ 1 ครั้งก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ)
ตอบตามประสบการณ์ 10 เดือนที่ทำ F-5 มานะครับ
คุณ a : ตอบได้โดนจริงๆ เลยคุณแจ๊ค
กว่าผมจะรู้สึกว่า ตัวเองกินน้อยลงจนสังเกตได้ กว่าจะจับความรู้สึกเกี่ยวกับความต้องการอาหารที่แท้จริงของร่างกายในแต่ละวันได้ ผมต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนเลยทีเดียว และตอนนี้ Fast-5 มันกลายเป็นวิถีชีวิต มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมอย่างแนบเนียนไปแล้ว ผมลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังใช้ Fast-5 อยู่ และผมก็แทบจะลืมไปแล้วว่า ครั้งหนึ่งผมเคยกินสิ่งที่เรียกว่าอาหารเช้า เคยกินสิ่งที่เรียกว่าอาหารกลางวัน
Fast-5 ทำให้ผมหลุดพ้นออกจากวงจรแห่งความหิวโหยวันละหลายๆ ครั้ง ทำให้ผมหลุดพ้นออกจากวงจรการกินจุบกินจิบทั้งวันเพียงเพื่อสนองตัณหาตัวเองโดยที่ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรกับร่างกายเลย ทำให้ผมมีอิสระจากอาหารถึง 19 ชั่วโมงต่อวัน พอถึงเวลากิน ผมก็มีอิสระอีกที่จะกินได้อย่างเต็มที่ ไร้ความกังวล (มีแต่กังวลว่า จะหาอาหารดีๆ ที่มีประโยชน์มากินไม่ค่อยได้) ไร้ความกดดัน ได้กินจนหายอยาก ได้กินจนถึงจุดแห่งความพึงพอใจอย่างเต็มที่ ซึ่งอันนี้ในความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่าความรู้สึกอิสระเรื่องอาหารมีความสำคัญมากนะ เพราะมันมาช่วยเติมให้ชีวิตเป็นชีวิตที่มีชีวา มีสีสัน ไม่ได้แห้งแล้งซังกะตายเพราะคำพูดที่ว่า "อย่ากินมาก ให้กินแบบพอดีๆ" ที่ผมโดนกรอกหูกันมาตั้งแต่เด็กๆ ผมว่า ไหนๆ ก็ได้เกิดเป็นมนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตแล้ว ถึงแม้ว่าในโลกแห่งความเป็นจริงจะไม่ค่อยได้มีความอิสระที่แท้จริงในทุกเรื่อง แต่อย่างน้อยที่สุด ผมก็มีความอิสระเรื่องอาหารล่ะน๊า
ความพึงพอใจที่ได้จากการกินอาหาร การที่ได้กินจนหายอยาก ได้กินจนถึงจุดแห่งความพึงพอใจอย่างเต็มที่ มันก็เหมือนกับการมีเพศสัมพันธ์ล่ะครับ คือตอนแรกคุณอยาก คุณกระหายมันเต็มที่ แต่คุณถึงแล้ว คุณจะรู้สึกพอใจอย่างเต็มที่จนหายอยาก (อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาหนึ่ง) อันนี้ไม่ได้ทะลึ่งนะครับ แต่เป็นการเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพแบบชัดๆ
ถ้าไม่มีความจำเป็นถึงขั้นคอขาดบาดตาย ก็ไม่มีทางที่ผมจะหันหลังกับไปกินอาหารวันละ 3 มือแบบเดิมๆ อีก ไม่มีทางเลยจริงๆ และก็อย่างที่บอกมาหลายครั้งแล้วว่า Fast-5 เป็น big changes ในชีิวิตผมจริงๆ ครับ
ในฐานนะคนที่อยู่กับ Fast-5 มา 7 เดือน ผมอยากฝากคนที่สนใจ Fast-5 หรือกำลังเริ่มใช้ Fast-5 ว่า ในทางปฏิบัติแล้ว คุณอย่าพยายามทำ Fast-5 ให้มันยากให้มันซับซ้อนเกินจนไป จงปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ถ้ารักจะใช้ Fast-5 แล้ว คุณต้องใจเย็น คุณต้องให้เวลากับตัวเองครับมันจะใช้เวลากี่เดือนจนกว่าจะเริ่มเห็นผลก็ตามแต่ ยังไงๆ คุณก็ต้องอดทนรอ เพราะถ้าใจร้อนแล้ว ทุกอย่างก็อาจจะพังอย่างน่าเศร้าครับ Fast-5 เป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย ขอเพียงแค่คุณทำตามกฎ 19 ชั่วโมงอย่างเคร่งครัด ส่วนใน EW 5 ชั่วโมงก็ดูแลคุณภาพของอาหารให้ดี กินให้อิ่มตามที่ร่างกายมันต้องการ และออกกำลังกายตามความชอบ ตามกำลังความสามารถ Fast-5 มันก็มีเท่านี้เองครับ that's all there is to it สิ่งที่เหลือก็คือ "เวลา" ครับ เวลาเท่านั้นที่จะช่วยคุณได้ ถ้าคุณให้เวลากับมัน Fast-5 มันจะสอนคุณเองว่า Fast-5 ในแบบของคุณนั้นควรจะเป็นอย่างไร คุณควรจะกินอะไรและกินแค่ไหน เพราะเราทุกคนต่างกัน Fast-5 ในแบบของผมอาจจะไม่ได้ผลกับคุณก็ได้
ดังนั้น ก็ขอย้ำกันอีกทีว่า ถ้ารักจะใช้ Fast-5 แล้ว คุณต้องใจเย็น คุณต้องให้เวลากับตัวเองครับ
ที่มา : http://www.myfast-5.com/forums/index.php/topic,245.0.html
ขอย้ำชัดๆ อีกรอบนะคะ ว่า Fast-5 ไม่ใช่สูตรลดความอ้วน แต่เป็นวิถีชีวิตที่สามารถนำมาใช้ลดความอ้วนได้เท่านั้นเองค่ะ เราไม่สนับสนุนคนที่เอา Fast-5 ไปใช้แบบผิดๆ เพราะถ้าศึกษาให้ดีแล้ว เขามีคำแนะนำและคำเตือนทุกอย่าง ในคลับลดความอ้วนแห่งนี้ก็เคยมีการพูดคุยกันแล้ว
สำหรับผู้ที่มีอคติกับ Fast-5 ถ้าสนใจ ลองอ่านกระทู้ที่เขาพูดคุยกัน มีทั้งคนต่อต้าน และผุ้ที่เข้าใจในวิถีแห่ง Fast-5 เขามาคุยกันไว้แล้ว ลองอ่านให้ละเอียดเปิดใจอ่านดูค่ะ http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2007/11/L6011445/L6011445.html
แต่ถ้าไม่อ่านหรือยังมีอคติเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ เวลามีคนมาถามเกี่ยวกับ Fast-5 ซึ่งคุณไม่ได้ศึกษาในเรื่องนี้อย่างเข้าใจ ขอให้คุณปล่อยมันผ่านตาไปหรือแนะนำอย่างอื่นแทนที่จะมาตอบว่า Fast-5 มันไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ เพราะมันจะเป็นคำตอบที่ออกจะเป็นการคิดเอาเองทั้งนั้นน่ะค่ะ คนที่เขามีความรู้เรื่องนี้ก็ไม่ไหวจะมาตามเคลียร์หรอกค่ะ เพราะมันไม่ใช่ปัญหาของเขา หลังจากที่เรามาตั้งกระทู้นี้ เราก็จะไม่มาตอบโต้อะไรทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างมีคำตอบอยู่แล้วหากคุณศึกษามัน และถ้าอยากจะถามจริงๆ เชิญได้ที่เวบนี้ค่ะ http://www.myfast-5.com/forums/
ปล.ไม่ได้มาตั้งกระทู้ห้องนี้นานแล้ว กะว่าจะเอาความสำเร็จมาให้เพือ่นๆ ดูกันทีเดียว แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ หากข้อความในกระทู้นี้ทำให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ขุ่นข้องหมองใจ เราก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ^^
จากคุณ |
:
เพื่อนคนใหม่
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ก.พ. 53 10:09:26
|
|
|
|  |