ความคิดเห็นที่ 1 |
|
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่อง ดีท๊อกซ์ครับ
Detox ความหมายของ ดีท็อคซ์
การล้างพิษ คือกระบวนการกำจัดของเสียและสารพิษแปลกปลอมที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกายให้หมด ไป ระบบขับถ่าย (ล้างพิษ) จะเริ่มทำงานตั้งแต่ตอนที่เราเริ่มตื่นขึ้นมาเท่านั้น ซึ่งร่างกายของ เราจะพร้อมขับถ่ายภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ตื่นนอน และหากผ่านหนึ่งชั่วโมงไปแล้วร่างกายของเรายังไม่ได้ขับถ่ายของเสียออกไป ระบบขับถ่ายก็จะหยุดทำงานลงชั่วคราว
แต่ทั้งนี้การที่ร่างกายมีความคลาดเคลื่อนหรือผิดพลาดในระบบการล้างพิษไป บ้างสักวันสองวันนั้น (ไม่อาจขับถ่ายได้ตามปกติหลังจากที่ตื่นนอนตอนเช้า ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม) จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อระบบภายในร่างกายเท่าใดนัก และไม่ถึงกับทำให้ร่างกายล้มป่วยได้ทันที แต่เราก็ไม่ควรชะล่าใจ ซึ่งเมื่อผ่านช่วงเวลานั้นไปแล้ว เราควรรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้กลับเข้าสู่การล้างพิษตามระบบตามธรรมชาติ โดยทันที เพื่อที่ระบบการล้างพิษภายในร่างกายจะยังไม่ถึงกับเสียสมดุลไป เพราะหากปล่อยพฤติกรรมเช่นนี้ทิ้งไว้นานๆ ร่างกายจะเริ่มเสียสมดุลมากขึ้นเรื่อยๆ และนำไปสู่อาการเจ็บป่วยได้ในที่สุด
นอกจากนี้วิถีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมการกินการอยู่ของคนเราในแต่ละวัน ยังอาจส่งผลกระทบให้ระบบการล้างพิษภายในร่างกายทำงานผิดปกติไป จึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ปริมาณของเสียและสารพิษภายในร่างกายมีมากเกินกว่า ที่ระบบการล้างพิษตามธรรมชาติจะสามารถจัดการกับตัวของมันเองได้ (ร่างกายไม่สามารถล้างพิษได้เองตามธรรมชาติ) ซึ่งหากว่าร่างกายของเรามีของเสียและสารพิษเหล่านั้นสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ย่อมเป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ นานา ตั้งแต่โรคเรื้อรังทั้งหลายไปจนถึงโรคมะเร็ง อุจจาระ ปัสสาวะ น้ำมูก น้ำลาย ขี้ตา ขี้ฟัน อาเจียน เรอ ผายลม หาว ฯลฯ ล้วนเป็นผลของกระบวนการล้างพิษของร่างกายตามธรรมชาติทั้งสิ้น ดังนั้นหากเราเข้าใจถึงระบบการล้างพิษ (ขับพิษ) ภายในร่างกายของเราอย่างถ่องแท้แล้ว เราย่อมสามารถเอาชนะพิษร้ายทั้งหลายที่อยู่ภายในตัวของเราได้โดยไม่ยาก โดยปกติแล้วถ้าภายในร่างกายของเรามีของเสียและสารพิษสะสมในปริมาณที่เป็น อันตรายถึงขั้นที่จะสามารถก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บขึ้นได้ ร่างกายย่อมจะส่งสัญญาณเตือนออกมาให้เราได้รับทราบว่ามันกำลังต้องการความ ช่วยเหลือและความเอาใจใส่จากเรา เสมือนเป็นสัญญาณเพื่อบ่งบอกให้เราทราบล่วงหน้าว่าถึงเวลาที่เราจะต้องดูแล เอาใจใส่ตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการล้างพิษเพื่อขับของเสียและสารพิษให้ออกไปจากร่างกาย ซึ่งมีข้อสังเกตดังต่อไปนี้
ร่างกายอ่อนเพลียและเหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง เซื่องซึม หดหู่ใจ ไม่กระปรี้กระเปร่า
มีอาการของโรคภูมิแพ้ มักแพ้อะไรง่าย เช่น แพ้กลิ่นต่างๆ แพ้อากาศบ่อยๆ ฯลฯ
มีภูมิต้านทานโรคต่ำ ทำให้ไม่สบายหรือเป็นหวัดได้ง่าย
ปวดศีรษะ มึนงงบ่อยๆ หรืออาจปวดถึงขั้นเป็นไมเกรน
มีสิวและผดผื่นขึ้น
นอนหลับยาก หรือรู้สึกว่านอนไม่พอ
มีกลิ่นปาก หรือมีแผลในช่องปาก
จุกเสียด แน่นท้อง ปวดท้องเป็นประจำ เนื่องจากระบบการย่อยอาหารมีปัญหา มักเป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและลำไส้
ระบบขับถ่ายมีปัญหา ท้องผูกเป็นประจำ หรือท้องเสียง่าย เป็นริดสีดวงทวาร
เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
และ อารมณ์แปรปรวนง่าย ประสาทตึงเครียด
ผิวหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยง่าย ผิวแห้งและหยาบกร้าน ดูแก่กว่าวัย
มักปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อหรือข้อต่อต่างๆ
ขี้ลืม สมองไม่ปลอดโปร่ง คิดอะไรไม่ค่อยออก
ฯลฯ
วิธีการล้างพิษ
เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายไม่สามารถจัดการล้างพิษให้กับตัวเองตามระบบ ธรรมชาติได้ ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องเข้าไปช่วยสร้างกระบวนการล้างพิษให้กับร่างกาย ซึ่งในปัจจุบันได้มีวิธีการล้างพิษในหลายๆ รูปแบบด้วยกัน ดังต่อไปนี้
1. การทำดีท็อกซ์ (หรือการสวนทวาร) ซึ่งถือเป็นวิธีการล้างพิษที่ตกค้างอยู่ในระบบทางเดินอาหารได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ก็ควรจะต้องมีการศึกษาข้อมูลและขั้นตอนการปฏิบัติให้ละเอียดก่อน ที่จะลงมือปฏิบัติจริง
2. การล้างพิษด้วยน้ำ โดยการดื่มน้ำเปล่าในตอนเช้าหลังจากที่ตื่นนอน หรือการดื่มน้ำสมุนไพรอุ่นๆ* ทั้งวันแทนการดื่มเครื่องดื่มที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น น้ำอัดลม กาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ฯลฯ ซึ่งจะสามารถล้างพิษที่ตกค้างอยู่ในระบบของเหลวภายในร่างกาย (ระบบเลือด น้ำเหลือง ฯลฯ) ด้วยการขับสารพิษออกมาทางเหงื่อ และปัสสาวะ
จากคุณ |
:
ต่อเนื่องครับ (mrtrainer2008)
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ก.พ. 53 15:45:08
|
|
|
|