ความคิดเห็นที่ 1   ตับ อย่าไปกินมาก มันเป็นที่กรองของเสียของสัตว์นะคะ ถ้าให้นึกภาพ ก็เหมือนเอาตะแกรงกรองขยะมาเคี้ยวค่ะ ตอนไปหาหมอ หมอจ่ายยาบำรุงเลือดมาให้หรือเปล่า โลหิตจางมีหลายระดับนะคะ อย่างเราเคยเป็น ตอนนั้้นก็เลยไปซื้อวิตามินบำรุงเลือดพวก Folic Acid ก็โอเคแล้ว จากคุณ : พริ้ง (noopin) เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 00:19:52

ความคิดเห็นที่ 2   โลหิตจาง ไม่ใช่โรค แต่เป็นผลที่เกิดจากโรค โรคที่เป็นแล้วโลหิตจางมีได้หลายอย่าง อาจเกิดจากการขาดธาตุเหล็ก หรือเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ถ้ารู้แค่ว่ามีโลหิตจาง แล้วไม่มีข้อมูลอื่นเลย ก็บอกไม่ได้ครับ ว่าอันตรายหรือไม่อันตราย จากคุณ : ปรายภพ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 00:50:12

ความคิดเห็นที่ 3   ธาลัซซีเมียอย่างเดียวกันป่าวคะ เราก็ไม่ทานเครื่องในสักอย่างเลยค่ะ ทานแล้วอ้วกทุกที มันยึ๋ยๆเหม็นๆ เราเครียดกว่าจขกทอีกค่ะ ตอนตรวจสุขภาพเมื่อหลายปีก่อน ก่อนแต่งงานด้วยซ้ำ หมอย้ำแล้วย้ำอีกว่าถ้าคิดจะมีลูกในอนาคนต้องตรวจเลือดอย่างละเอียดด้วยกับสามีเรา เพราะไม่งั้นเด็กมีสิทธิ์เป็นธาลัสซีเมียแน่ๆ เหมือนกับแกบอกว่าเราเป็นพาหะอะไรเนี่ยแหล่ะ เราเองก็จำไม่ได้นักแต่ประมาณนี้น่ะค่ะ เราว่ามันต้องพันธุกรรมแน่เลย ไอ้โรคเลือดๆพวกนี้น่ะค่ะ ดูจากญาติๆ แอบเซ็งจนไม่อยากมีลูกแล้วล่ะ ทุกวันนี้มีแต่โรคๆๆๆ จากคุณ : แฟนสาวฮัตโตริคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 02:16:05

ความคิดเห็นที่ 4   โลหิตจางมีหลายสาเหตุค่ะ  เช่น  พักผ่อนไม่เพียงพอ  / ขาดธาตุเหล็ก / ธาลัสซีเมีย / มะเร็งเม็ดเลือด / เป็นต้น ซึ่งต้องตรวจหาสาเหตุก่อนค่ะว่าจางเพราะอะไร  และจางเท่าไร่  หากกังวลแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ จากคุณ : karaket_s เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 10:18:44

ความคิดเห็นที่ 5   ตรวจสุขภาพประจำปีที่บริษัทหรือที่ ร.พ. ..โลหิตจางเกิดจากหลายสาเหตุมาก ภาวะภูมิคุ้มกัน ยา กรรมพันธุ์(ผนังเม็ดเลือด เซลล์ต้นกำเนิดฯลฯ) ขาดวิตามินบี 6 บี 12 ซี สารที่จำเป็นในการสร้าง DNA,RNA แต่ที่เบสิค คือ ขาดเหล็ก ธาลัสซีเมีย โฟลิค ต้องหาสาเหตุครับ ถ้ามีผลสเมียร์เลือดก็พอแยกได้คร่าวๆ ....ผลสเมียร์เลือดมันไม่เหมือนกัน เม็ดเลือดใหญ่มั๊ยหรือเล็ก มี aniso.(เม็ดเลือดต่างขนาด) poikilo.(ความผิดปกติของรูปร่างเม็ดเลือด) จากคุณ : ย้ง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 11:00:13 A:58.8.61.6 X: TicketID:236524

ความคิดเห็นที่ 6   ของเราก็ไม่เป็นอะไรนะ ไม่ได้เป็นมากด้วยมั้ง ถ้าไม่สบายใจก็ปรึกษาแพทย์ดีกว่า จากคุณ : ลูกหมูร้องจิ๊บ เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 53 18:44:13