 |
++ KAEW ไดอารี่ ++ วันนี้ .... 9 ปี กับ HIV วายร้ายเพื่อนรัก
|
|
สวัสดีค่ะ
วันนี้มารายงานตัวค่ะ วันนี้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งในชีวิตเรา ถือว่าเป็นวันเกิดอีกวันนึงก็ได้ วันนี้ครบรอบ 9 ปี ที่เราตรวจเลือดเจอเชื้อ HIV ค่ะ ก็เลยเป็นเหมือนวันเกิดในอีกโลกหนึ่ง โลกของคนที่เหมือนตายทั้งเป็น โลกของคนติดเชื้อเอชไอวี ที่ใครๆมักเรียกว่า โรคเอดส์
ย้อนกลับไป เมื่อ 9 ปีก่อน 18 มีนา 2544 เราเพิ่งเรียนจบปริญญาโท กำลังจะเข้าทำงานที่บริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง รอจะเริ่มงานในต้นเดือนเมษา เหลือเพียงอย่างเดียวที่ต้องทำคือไปตรวจสุขภาพ ตรวจเลือด ก่อนจะเข้าทำงาน เราไปตรวจในวันที่ 18 มีนา วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ตรวจในโรงพยาบาลเอกชน ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ไปตรวจตอนเช้า แล้วจะได้ผลตอนบ่าย
ผลที่ได้ ก็อย่างที่รู้ๆกัน เราตรวจเจอเชื้อ HIV โดยที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน เพราะเราก็มีแฟนเพียงแค่คนเดียว ไม่เคยมั่ว ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ติดยาเสพติด แฟนเราเขาก็เป็นคนดี และเราทั้งคู่ก็ไม่เคยมีอาการใดๆ ให้สงสัยตัวเองว่ามีเชื้อนี้
แต่พอผลเลือดมันออกมาแบบนี้ มันก็เหมือน ฟ้าผ่า มึน งง ทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่ร้องไห้ ไม่โวยวาย ไม่คร่ำครวญ แค่ งง กับชีวิต วิธีเผชิญปัญหาของเรา อาจจะกิ๊บเก๋เท่ห์กว่าคนอื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
เพราะเราเผชิญปัญหาการติดเชื้อ HIV ด้วยการเขียนไดอารี่ในอินเตอร์เนท เริ่มจากห้องสวนลุม pantip.com ตั้งแต่วันแรกเลย แล้วก็เขียนมาเรื่อยๆ จนปัจจุบัน
9 ปีก่อน ทุกอย่างยังยากลำบากกว่านี้มาก ข้อมูลเรื่องเอดส์ยังมีน้อย การยอมรับผู้ติดเชื้อก็น้อย การให้โอกาสไม่ต้องพูดถึงเพราะไม่มี ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเอดส์ และ HIV ก็ยังน้อยและยังผิดอยู่มาก ยาฟรีก็ไม่มีให้กิน สมัยนั้นใครรู้ว่าติดเชื้อ H ก็รอวันตายอย่างเดียว
แฟนเราเอง ก็ตายภายใน 3 เดือนหลังจากที่รู้ผลเลือด ส่วนเราก็คิดว่าคงตายภายในปีนั้น เพราะมีภูมิคุ้มกันไม่ถึง 100 ตัว งานที่ได้ในตอนแรกก็ต้องปฏิเสธไป เพราะไม่กล้าส่งผลตรวจเลือด แล้วเคยพยายามลองหางานทำอีก 2-3 ที่ แต่คนมันจะซวย มันก็ซวยให้ถึงที่สุด เพราะทุกที่ที่เราได้งาน บังคับตรวจ HIV ทั้งหมด
ก็เลยเลิกคิดหางานทำ บวกกับคิดว่าเราคงอยู่ได้อีกไม่เกิน 1 ปี ไม่ต้องทำงานก็ได้ เดี๋ยวก็ตายแล้ว หาอะไรที่มีประโยชน์กับคนอื่นทำดีกว่า ตระเวณไปทำบุญดีกว่า ก็เลยได้เว็บแก้วไดอารี่ ที่มีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆช่วยสร้างให้ เอาไว้เป็นแหล่งพบปะพูดคุย ช่วยเหลือ และ ให้กำลังใจระหว่างกัน ได้ช่วยงานบ้านแกร์ด้า ที่เป็นบ้านพักสำหรับเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อ HIV ,ได้เขียนหนังสือเอดส์ไดอารี่ ซึ่งตอนแรกก็คิดว่า มันคงมีแค่เล่มเดียวหล่ะ ขนาดโฆษณาของสำนักพิมพ์ เขายังบอกว่า "บันทึกเล่มสุดท้าย ของผู้หญิงคนหนึ่ง"
แต่.......................................
นับจนวันนี้ ก็ 9 ปี พอดีเป๊ะ เรายังไม่ตาย เว็บแก้วไดอารี่ ห้องสวนลุม pantip ก็ยังอยู่ ชีวิตก็ยังอยู่ ยังไม่ได้ทำงานประจำเหมือนเดิม ทำกิจกรรมโน่นนี่นั่นเหมือนเดิม และ หนังสือเอดส์ไดอารี่ จะออกเล่มที่ 7 ประมาณ ปลายเดือนนี้แล้ว
โอ้ แม่เจ้า ทำไมอยู่นานนักฟ่ะ....................
อยู่นานจนงงตัวเอง เพราะอยู่นาน อยู่ทน และ อยู่แบบแข็งแรงมากๆๆๆด้วย นับตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าติดเชื้อ ก็มีภูมิคุ้มกันเหลือแค่ 69 ซึ่งมันน้อยนิดจิ๊บจ๊อยมาก ยาต้านHIV ก็ไม่ได้กิน ผ่านไป 6 ปีเต็มจน 18 มีนา 2550 รอจนภูมิคุ้มกันเหลือแค่ 9 ตัว ก็ยอมเริ่มกินยา (เพราะมียาฟรี กินแล้วด้วย)
ตลอดเวลาก็ไม่เคยป่วยหนัก ไม่เคยนอนโรงพยาบาล เคยแต่นอนทำแผลในห้องฉุกเฉินเพราะหมากัด ไม่เคยมีอาการของเอดส์ และ ไม่เคยผอม
วันนี้ครบ 9 ปี ที่รู้ว่าติดเชื้อ แต่เดาว่าเจ้าเอชคงแอบมาอยู่ในตัวเราสัก 12 ปีได้ วันนี้ก็ครบ 3 ปีเต็มที่ยอมกินยาต้านด้วยหล่ะ
กินยามา 3 ปี ตอนนี้มีภูมิคุ้มกัน 220 ซึ่งถ้าเทียบกับคนอื่นก็ถือว่าขึ้นช้ามากๆๆๆๆๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะชีวิตมันไม่ได้เปลี่ยนเลย มีมาก มีน้อย ชีวิตก็ใกล้เคียงกัน
9 ปีในชีวิตผู้ติดเชื้อ HIV มันก็ทุกข์ ๆ สุขๆ ออกแนวทุกข์มากกว่าหน่อยนึง แต่พยายามทำเป็นเก่ง ทำเป็นเข้มแข็ง แต่ยิ่งอยู่นานขึ้นเท่าไหร่ "ยิ่งทรมาน" ถ้าเลือกได้ คงไม่ขออยู่นานขนาดนี้
เพราะอย่างไร ชีวิตเรามันก็ไม่เหมือนคนปกติ ไม่ได้มีชีวิตเหมือนคนธรรมดาๆ ไม่ได้มีความหวัง ความฝันเหมือนคนอื่น แล้วชีวิตก็ซ้ำซากจำเจมากๆ ยิ่งอยู่นาน ปัญหาก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ แม้ไม่เคยป่วยหนัก แต่ก็จะเป็นอะไรให้รำคาญตัวเองอยู่ตลอด
อย่างวันนี้ พิมพ์ไปก็หายใจทางปากไป เพราะแพ้อากาศ หายใจไม่ออก จมูกมี 2 รู ก็หายใจได้รูเดียว ออกซิเจนไม่พอ ต้องหายใจทางปากช่วย เอาน้ำเกลือล้างจมูกมากไปหน่อย ก็ปวดหูข้างซ้าย หูอื้ออีก วันก็ก็ผื่นคันขึ้น วันโน้นก็ภูมิแพ้ขึ้นตา
ชีวิตจะเป็นแบบนี้ตลอด มันก็น่าเบื่อ น่ารำคาญนะ แล้วชีวิตผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้ทำงานประจำอะไร บางวันมันก็เหงามากนะ มีเพื่อนมากมายในโลกอินเตอร์เนทก็จริง แต่มันก็ต้องยอมรับว่า แต่ละคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะถ้าเพื่อนไม่ติดเชื้อ พอถึงเวลาหนึ่งเขาก็ต้องมีฝัน มีครอบครัวของเขา จะอยู่เป็นเพื่อนกันตลอดก็ไม่ได้
สำหรับเพื่อนติดเชื้อ ถ้าเขามีงานทำ เขาก็โชคดี ที่มีโลกอีกใบ ให้หลบไปอยู่ให้ลืมคำว่า "เอดส์"ไปได้บ้าง และมีความมั่นคงในชีวิตพอสมควร มีงานทำ มีเงินเดือนใช้ ไม่ต้องกลัวว่า เดือนนี้ จะมีเงินพอใช้ พอซื้ออะไรกินมั้ยนะ ไม่ต้องกลัวว่า ถ้าอยู่นานจนแก่ จะกลายเป็นคนแก่อนาถา
เฮ้ออออออออออ ก็บ่นๆๆไปอย่างนั้นหล่ะคะ บ่นเสร็จก็ใช้ชีวิตต่อไป ในเมื่อเวลาในชีวิตของเรายังไม่หมอ ก็ต้องทนอยู่ต่อไป และ พยายามอยู่ให้ได้ดีที่สุด ใช้เวลาให้มีค่ามากที่สุด ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของคนอื่น
วันนี้ตอนแรกว่าจะตื่นเช้าไปใส่บาตรให้เจ้า HIV แต่หงุดหงิดหายใจลำบาก และ เบื่อการเมืองเลยไม่ได้ไป ใช้ตื่นเช้ามาสวดมนตร์ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้าเอชแทน เราก็ต้องอยู่ร่วมกันจนตายอยากกันไปข้างหนึ่ง ดังนั้นก็คิดต่างได้ แต่ไม่ตีกันอ่ะนะ
ส่วนพรุ่งนี้ไม่ต้องเข้าไปช่วยงานที่มูลนิธิ ก็จะให้ของขวัญกับตัวเอง และ เจ้าเอช ด้วยการไปเจาะเลือดที่คลีนิคนิรนาม ไม่ได้เอาไปเททิ้ง แต่จะเอาไป ตรวจภูมิคุ้มกันว่ามีเท่าไหร่แล้ว ตรวจนับไวรัสเอชไอวี ว่ามันเพิ่มรึเปล่า ถ้าเพิ่มเกิน กำหนด อาจจะแปลว่าดื้อยาต้องเปลี่ยนยาอีก แล้วก็จะตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจตับ ตรวจไตด้วย กินยาต้านมา 3 ปีแล้ว ไม่รู้ตับ ไต ยังอยู่ดีรึเปล่า
สู้ๆๆกันต่อไป แม้ไม่อยากอยู่ แต่ก็ต้องอยู่ค่ะ คิดซะว่า ชีวิตคงมีคนลิขิตให้มาอยู่ตรงจุดนี้ จุดที่ต้องอยู่เพื่อคนอื่น ก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อดทนกันต่อไป
ปีหน้า 18 มีนา 2554 จะครบ 10 ปี จัดฉลองกันดีมั้ยเนี่ย....
จากคุณ |
:
++MooKaew++
|
เขียนเมื่อ |
:
18 มี.ค. 53 08:03:42
|
|
|
|  |