ความคิดเห็นที่ 1 เวลา 02.00 น.                ทางโรงพยาบาลบอกว่า เคสที่จะทำการรักษาแขนที่โดนตัดเกือบขาดนั้น ต้องอาศัยแพทย์ศัลยกรรมที่มีความเชี่ยวชาญสูง เนื่องจาก การผ่าตัดต่ออวัยวะนั้น จะเป็นที่จะต้องต่อทั้ง เส้นเลือด เส้นประสาท เส้นเอ็น กระดูก กล้ามเนื้อ และอื่นๆ เพื่อให้อวัยวะนั้นสามารถกลับมาใช้ได้อีกครั้ง ซึ่งทางโรงพยาบาลเองก็ไม่มีความพร้อม ในด้านนั้น จึงต้องทำการ refer ผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อม                ผมก็หวังว่า การ refer จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พยายามใจเย็นและตั้งหน้าตั้งตารอ                ซักพัก คุณพ่อของน้องมาถึง เมื่อพ่อลูกได้เจอกัน คำแรกที่พูดลูกพูดกับพ่อคือ....                                ป๋า....(ชื่อตัวเอง)ขอโทษ...                การสูญเสียคงจะนำความเสียใจมาสู่คนในครอบครัวอย่างแน่นอน (น้องผมสบถออกมาก่อนหน้านี้ว่า ไม่น่าเลยซวยที่ต้องไปรับเคราะห์ ให้เค้าตายไปดีกว่าที่จะต้อง มาอยู่อย่างคนพิการอย่างนี้ คงคิดว่าตัวเองจะต้องพิการแล้วอย่างแน่นอน)                น้ำตาคลอเบ้าทั้ง 2 คนพ่อลูก ผมเอง ก็ถอยฉากออกมา เพื่อให้พ่อลูกได้ คุยกันเป็นส่วนตัว..... เวลา 02.30 น.                เข้าไปตามเรื่องการ refer คนไข้ ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ได้พยายามโทรเข้าไปติดต่อตามโรงพยาบาลใหญ่ๆ เกือบหมดแล้ว ทั้ง ศิริราช เลิศสิน พระมงกุฎ รามา จุฬา ฯลฯ ซึ่งได้รับการปฏิเสธทั้งหมด ไม่มีโรงพยาบาลไหนยอมรับคนเจ็บเลย แม้แต่รายเดียว...                ความหวังเริ่มริบหรี่ เพราะเราเองก็รู้มาว่า อวัยวะที่โดนตัด นั้นจะอยู่ได้แค่เพียงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ที่จะยังสามารถทำการผ่าตัดต่อกลับมาสามารถใช้การได้เหมือนเดิม ซึ่ง เท่าที่นับๆ ดู ก็เป็นเวลาที่ล่วงมา ประมาณ 3 ชั่วโมง คาดว่าเวลาเกิดเหตุคือ ก่อนเที่ยงคืน(ได้ยินเสียงรถฉุกเฉินวิ่งไม่คิดว่าจะเป็นน้องชายตัวเอง) ถามพยาบาลว่า โดยปกติแล้วการผ่าตัดต่ออวัยวะควรจะทำก่อนกี่ชั่วโมง ได้รับคำตอบว่า โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 6-8 ชั่วโมง ถ้าหลังจากนี้ก็ไม่สามารถต่อกลับมาได้แล้ว คนต้องตัดทิ้ง                ตอนนี้เหลือเวลาอีก มากสุดคือ 5 ชั่วโมง                คิดอะไรไม่ออกแล้ว เพราะมืดแปดด้านมากๆ ดึกดื่นขนาดนี้จะหาใครมาช่วย ก็เลยนึกถึงอาอีกคนที่ เคยช่วยให้คุณย่าเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชได้ เลยโทรไปหาเค้าแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง คุณอาก็ทำการโทรไปหาคนที่รู้จัก ทุกๆ คนที่จะหาได้ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยรู้จัก เพื่อให้ช่วยเหลือให้น้องชายได้รับการรักษา อย่างทันท่วงที....... จากคุณ : cardman (cardman) เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 15:07:52

ความคิดเห็นที่ 2 เวลา 03.30 น. เหลือเวลาอีก 4 ชั่วโมง                ความพยายามยังไม่ประสบความสำเร็จ ยังคงไม่มีโรงพยาบาลไหนรับน้องชายของผม เวลาการโทรประสานงานยังเกิดขึ้นตลอดเวลา เริ่มเข้าไปถามพยาบาล ที่ทำหน้าที่ refer น้องชาย บ่อยขึ้นๆ ว่ามีโรงพยาบาลไหนอีกบ้างที่ตอบกลับมา                ตอนนี้ทางโรงพยาบาลเริ่มติดต่อ ไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ไกลขึ้น เพื่อให้เค้ารับ refer ไปรักษาต่อ แต่ก็ยังคงไม่มีโรงพยาบาลไหนตอบรับ                ผมเริ่มถามว่า ถ้าไม่ได้แล้วโรงพยาบาลจะทำอย่างไรต่อ จะรักษาอย่างไร จะปล่อยให้คนเจ็บนอนเลือดไหลอยู่อย่างนี้หรอ ถามเค้าว่า แผลอื่นๆ ที่ไม่ฉกรรจ์ล่ะ ไม่รักษาก่อนหรอ คำตอบที่ได้รับ คือ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะเค้าจะรอให้โรงพยาบาลที่รับ refer ไปรักษาทีเดียวเลย !!!            อึ้งครับ เจอคำตอบอย่างนี้ ไปต่อไม่เป็นเลยครับ.......... ไม่คิดว่า โรงพยาบาลจะไม่ได้รักษาอาการอะไรเบื้องต้นในส่วนที่ทำก่อนได้เลย ปล่อยคนไข้รอความตาย ไปเรื่อยๆ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ความหวังของคนไข้ที่จะสามารถต่ออวัยวะที่ขาดไปให้กลับมาใช้ได้อีกครั้งก็น้อยลงเรื่อยๆ                พยาบาลก็พยายามกล่อมให้เราทำใจ เพราะว่าทางเกษมราษฎร์นั้นไม่สามารถช่วยได้ เพราะว่าเคสนี้มันยากจริงๆ วิธีการรักษาก็คงต้องตัดมือทิ้งเพื่อรักษาชีวิต เท่านั้น ไม่มีหนทางอื่น (ที่ผมติดใจคือ แล้วแผลอื่นๆ ล่ะ ไม่คิดว่าจะรักษาเบื้องต้น ก่อนเลยหรอไม่รู้ว่า ต้องรออีกเมื่อไหร่ถึงจะยอมรักษา) เวลา 04.30 น. เหลือเวลาอีก 3 ชั่วโมง                หลังจากผิดหวังกับคำตอบของพยาบาล ตอนนั้นไม่มีกระใจที่จะไปต่อว่าอะไรพยาบาลที่เกษมราษฎร์เลย คิดๆๆ อย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรดีกับเวลาที่เหลือน้อยลง อาการน้องผมแย่ลงเรื่อยๆ ความดันเลือดเริ่มลดต่ำลง อีกเรื่องที่เข้ามากดดัน คือ วันนี้ต้องไปเช้งเม้งกับครอบครัวด้วย (ตอนนี้ ยังไม่มีใครในครอบครัวคนอื่นรู้เรื่อง) ระหว่างหาทางให้น้องได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ในใจก็คิดว่า ถ้าโรงพยาบาล refer ไม่ได้ เพราะปลายทางมีสิทธิ์ปฏิเสธได้เนื่องจากอยู่กับหมอแล้ว แต่ถ้าหน่วยกู้ชีพเอาไปส่ง โรงพยาบาลน่าจะไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ก็เลย ประสานไปทางพี่ชาญณรงค์ หน่วยกู้ชีพผู้มีพระคุณ อีกครั้งให้เค้ามารับน้องชายผมไปส่งให้ที่ศิริราช (ทั้งๆ ที่รู้ว่าเหตุผลมันฟังไม่ขึ้น เพราะโดนฟันมาตั้งแต่ตีหนึ่ง ทำไมถึงเอาไปส่งตอนนี้) ที่ให้ส่งไปที่ศิริราชเพราะคิดว่า ศิริราชเป็นความหวังของคนที่หมดหนทาง ศิริราชมีแพทย์ที่เก่งมากมาย เค้าคงช่วยน้องเราได้ (แต่ตอนนั้นก็บอกน้องแล้วล่ะว่าให้ทำใจถ้าจะต้องโดนตัดมือไปอย่างถาวร)                จากนั้นผมต้องไปเช้งเม้งกับที่บ้าน เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น (ใจร้ายมั้ยผม แต่ผมรู้ว่าถ้าผมบอกไป อาม่า ผมจะตกใจแค่ไหน การไปเช้งเม้งอาจจะต้องยกเลิก ถึงไม่ยกเลิก ก็จะไปไหว้ด้วยความไม่สบายใจ)  อีกทั้งตอนนี้ คุณอาที่ช่วยติดต่อให้ก็ประสานขอความช่วยเหลือทุกทางให้อยู่                ผมกลับบ้านไปทุกคนเตรียมของไหว้ นั่งรอกันอยู่หน้าบ้าน ผมกลับไปพร้อมทั้งคำถาม ที่ระดมเข้ามามากมาย ว่าไปไหนมา ไปทำอะไร ทำไมต้องไป ทั้งหมดทั้งหลายนี้ ผมตอบเลี่ยงๆ ไปแบบน้ำขุ่นๆ แล้วก็รีบไปล้างหน้าล้างตา ก่อนลงมา ก็นั่งลงหน้าหิ้งพระ กราบพระ แล้วขอให้พระคุ้มครอง ขอให้มีคนมาช่วยรักษาน้องชายให้ทันท่วงที ให้มือกลับมาใช้ได้ ให้ปลอดภัย....                หลังจากลงมาข้างล่างก็ออกเดินทางตอนตี 5.00 จากคุณ : cardman (cardman) เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 15:09:09

ความคิดเห็นที่ 3 เวลา 06.30 น. เหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมง            ถึงสุสานแรก ลงจากรถโทรถามข่าว แฟนน้องบอกว่าทางศิริราชไม่ยอมรับ ยังไงก็จะให้กลับไปไม่ยอมแม้แต่จะเข้ามาดูแลเบื้องต้น (เราก็เข้าใจนะว่า ศิริราชเองงานก็คง เยอะ ต้องช่วยคนมากมายอาจจะไม่ว่างก็ได้  และก็คงรู้ว่าเอาคนเจ็บมาจากที่ไหน เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีการขอ refer คนไข้มาแล้ว) ศิริราชยังคงปล่อยให้คนไข้นอนรออยู่ตรงนั้น แฟนน้องถามว่าเอาไงดี เอากลับดีมั้ย แล้วก็บอกอีกว่าทาง เกษมราษฎร์ ก็บอกว่ารักษาไม่ได้ ไม่รู้จะเอาไงมืดแปดด้าน            โทรกลับไปปรึกษาอาคนแรก อาบอกว่า ให้อยู่ที่นั่นแหละ ถ้าน้องมันจะตายก็ให้มันตายตรงหน้าหมอ จะได้รู้กันว่า ศิริราชนั้นใจร้ายใจดำถึงขนาดที่คนเจ็บเจียนตาย มาหาอ้อนวอนตรงหน้า ก็ไม่สนใจ ไม่ดูแล ปล่อยให้คนเจ็บตายไปต่อหน้าต่อตา อาบอกว่ากำลังประสานงานให้อยู่.....                โทรกลับไปบอกแฟนน้องตามที่อาแนะนำ.... เวลา 07.30 น. เหลือเวลาใกล้หมดแล้ว อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง                โทรหาอาเพื่อนัดเจอกันที่สุสานที่ 2 พร้อมทั้ง ถามอาการอาบอกว่า ศิริราชยอมที่จะเข้ามารักษาอาการเบื้องต้นแล้ว จะได้การช่วยเหลือของใครก็ตาม เราก็ใจชื้นขึ้นหน่อยว่า เอาล่ะมีความหวังล่ะ แม้ว่าจะช้าเกินที่จะที่จะต่อมือที่ขาดไป แต่ก็คงรักษาชีวิตน้องของผมไว้ได้            แฟนน้องผมโทรมาบอกว่า น้องผมตัวซีดมาก (คงเป็นเพราะเสียเลือดมากนั่นเอง) ก่อนที่ทาง ศิริราชจะยอมเข้ามารักษาให้ ระหว่างที่ศิริราชปฏิเสธที่จะรับรักษาอยู่นั้น พี่หน่วยกู้ชีพก็อยู่ด้วยตลอดเวลาโดยไม่ได้กลับไป เวลา 08.30 น. หมดเวลาไปแล้ว.....                ระหว่างไหว้บรรพบุรุษ ที่สุสานที่ 2 อยู่                น้องโทรกลับมาบอกว่า ศิริราชจะให้ส่งกลับไปที่ เกษมราษฎร์ อีก โดยไม่ยอมรับรักษาต่อ เลยส่งโทรศัพท์ให้คุณอาอีกครั้ง                การประสานงานเริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง..... จากคุณ : cardman (cardman) เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 15:11:31

ความคิดเห็นที่ 4 อนาถจิตดีแท้ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร (ศิษย์วัดเขาฯ) เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 15:25:33

ความคิดเห็นที่ 5 มาเล่าต่อค่ะ ทำไมโรงพยาบาลแต่ละแห่งไม่มีจรรยาบรรณเลยหละค่ะ คนเจ็บอยู่ตรงหน้าแต่ไม่ทำการรักษาให้ สมควรโดนประนามค่ะ จากคุณ : ~sTar_aDoRaBLe!!!~ เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 15:40:11

ความคิดเห็นที่ 6 ทำใมทำกับชีวิตคนได้นะ มารอที่จะอ่านต่อค่ะ.. จากคุณ : ยายภูธร เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 15:46:57

ความคิดเห็นที่ 7 ทำไมโรงพยาบาลถึงไม่รับล่ะ เกิดจากอะไรกันนะ จากคุณ : เหนียวหน้าฉีด เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 15:55:51

ความคิดเห็นที่ 8 เวลา 10.00 น.                อาโทรมาบอกว่า ศิริราชยอมรักษาแล้ว เหมือนยกภูเขาออกจากอก                 เวลา 11.30 น.                โทรถามอาการ บอกว่า ตอนนี้น้องผมอยู่ในห้องผ่าตัด คาดว่าจะประมาณ 3-4 ชั่วโมง เวลา 15.00 น.                กลับมาถึงบ้าน ผมตัดสินใจเล่าให้ทุกคนฟังถึงเหตุผลที่ผมออกไปจากบ้านเมื่อคืนนี้ และกลับมาตอนก่อนออกเดินทาง เล่าให้ฟังทุกอย่างที่ทำ อาการของน้องชาย สถานการณ์ตอนนี้                โทรเช็ค น้องผมยังอยู่ในห้องผ่าตัด จริงๆ น่าจะออกมาแล้ว เวลา 19.00 น.                 น้องผมยังไม่ออกมาจากห้องผ่าตัด เวลา 21.30 น.            คุณพ่อของผมไปเยี่ยม แต่น้องผมก็ยังไม่ออกมาจากห้องผ่าตัด วันที่ 29 มีนาคม 2553 เวลา 11.00 น.                  โทรถามอาการน้อง เห็นว่าออกจากห้องผ่าตัดแล้ว ผลการผ่าตัดออกมาได้ด้วยดี สรุปว่าคุณหมอตัดสินใจที่จะต่อแขนให้ แต่ไม่รับประกันว่าจะใช้ได้หรือไม่ เนื่องจากเวลานานมากกว่าจะได้เริ่มผ่าตัด ถ้าผ่าตัดออกมาแล้วเลือดไม่ไปเลี้ยงอวัยวะ ก็จะต้องตัดออกอยู่ดี เวลา 17.30 น.                อาจารย์หมอเข้ามาดูอาการ เห็นว่าผลการต่อเส้นเอ็น นิ้วสามารถขยับได้ แต่มีปัญหาที่เหมือนว่าเลือดจะไปเลี้ยงไม่ทั่วถึง อาจจจะมีเส้นเลือดบางเส้นตัน ต้องทำการผ่าตัดอีกครั้งโดนรื้อเส้นเลือดออกมาตรวจดูว่าปกติหรือไม่ ถ้าอุดตันต้องผ่าตัดเอาเส้นเลือดจากน่องมาตัดต่อเปลี่ยนลงไปใหม่ซึ่งกำหนดผ่าตัดจะเป็นค่ำวันนี้ ประมาณ 20.00 น. เวลา 19.00 น.                ผมไปเยี่ยมดูอาการน้อง และเช็นต์เป็นพยานยินยอมให้ผ่าตัด น้องผมรู้สึกตัวสามารถพูดคุยได้ตามปกติ แต่ดูเหนื่อยและเพลียมาก นอนหลับตาตลอดเวลา (ในใจนึกขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยให้น้องผมปลอดภัย ขอบคุณหน่วยกู้ชีพที่อุตสาห์พามาส่ง และรอจนเรียบร้อย ขอบคุณคุณอาที่ช่วยประสานงานตลอดทั้งคืน ขอบคุณมากๆ)                    ตอนนี้ก็แค่รอผลผ่าตัดอีกครั้งในวันนี้ และขอให้จบลงด้วยดี......                ข้อเตือนใจสำหรับทุกๆ คนที่ประสบเหตุฉุกเฉิน อันตรายร้ายแรง ถึงชีวิต ควรจะส่งผู้เจ็บเข้าโรงพยาบาลใหญ่ๆ เท่านั้น อย่าส่งให้กับโรงพยาบาลเล็กๆ เพราะถ้าเกิดไม่ตัดสินใจเอาน้องไปอ้อนวอนที่ศิริราช เรื่องนี้คงจบลงที่น้องผมคงต้องต้องโดนตัดมือกลายเป็นคนพิการ หรือไม่ก็เสียเลือดจนทนไม่ไหว เพราะ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ เองก็ไม่ได้ทำการรักษาเบื้องต้น อย่างที่สมควรจะทำ สิ่งที่เกษมราษฎร์ทำคือ ห้ามเลือด เอาผ้าพันไว้เท่านั้น ไม่ได้ทำความสะอาดแผล หรือทำการอันใดเลยที่จะทำให้มั่นใจได้ว่า ถ้า refer ไม่ได้จะสามารถรักษาได้ทันท่วงที แต่ผมก็ยังขอบคุณในน้ำใจที่ทางโรงพยาบาลพยายาม refer แล้ว            ขอขอบคุณสังคมที่ยังมีหมอดีๆ ที่มี จรรยาบรรณดีๆ อยู่แม้จะไม่ใช่ทุกคน ผมเสียใจที่บุคลากรบางคนของศิริราชนั้นใจร้ายมากๆ ที่พูดแม้กระทั่งว่า “ถ้าไม่เอาคนเจ็บกลับไปก็ปล่อยให้ตายอยู่ตรงนี้แหละ” ขอบคุณคุณหมอที่ช่วยเหลือ ช่วยผ่าตัดรักษาให้กับน้องชายผม ถึงแม้ว่าผลการผ่าตัดจะทำให้ไม่สามารถ นำเอามือกลับมาได้ก็ตาม (หวังว่าคงไม่เป็นเช่นนั้น) ขอบคุณจริงๆ ครับ จากคุณ : cardman (cardman) เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 16:05:41

ความคิดเห็นที่ 9 มาให้กำลังใจครับ ขอให้หายไวๆและ ร่างการสมบูรณ์ จากคุณ : จัดไป เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 16:14:08

ความคิดเห็นที่ 10 ขอให้น้องคุณ สามาถใช้แขนได้เหมือนเดิมค่ะ และขอให้หายไวๆนะคะ จากคุณ : ยายภูธร เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 16:19:00

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณค่ะเป็นอุทาหรณ์ ที่ดีเลยทีเดียว จากคุณ : tikhot เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 16:19:58

ความคิดเห็นที่ 12 บุคลากรที่พูดประโยคนี้ “ถ้าไม่เอาคนเจ็บกลับไปก็ปล่อยให้ตายอยู่ตรงนี้แหละ” สมควรไล่ออกไปซะค่ะ คนไม่มีจรรยาบรรณ  ไม่คิดช่วยเหลือคนไข้ที่นอนบาดเจ็บเจียนตายอยู่ตรงหน้าตนเอง  ก็ไม่สมควรทำงานด้านนี้ค่ะ จากคุณ : ~sTar_aDoRaBLe!!!~ เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 16:29:02

ความคิดเห็นที่ 13 ขอให้เรื่องจบลงด้วยดี นะครับ ... ปัญหา ระบบการส่งต่อผู้ป่วยใน กทม. มีมานานแล้วครับ ก็มีความพยายามแก้ไข มาเรื่อย ๆ เริ่มตั้งแต่ ศูนย์นเรนทร  จนมี สถาบันการแพทย์ฉุนเฉิน  และ เบอร์โทร 1669 ตอนนี้ผมคิดว่า น่าจะลองติดต่อ กับ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้ข้อมูล นะครับ เผื่อหน่วยงานนี้ อาจมีแนวทางแก้ไข ปัญหาให้น้อยลงไป ... http://www.niems.go.th/index.php?page=7 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ที่ตั้ง : ชั้น 2 อาคารกองวิศวกรรมการแพทย์ สาธารณสุขซอย 8 กระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 โทรศัพท์ : 0-2590-2800-1 โทรสาร : 0-2590-2802 บรรณาธิการ นายแพทย์ ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย นางสาวสุดารัตน์ นิราพาธ e-Mail : pr@niems.go.th ผมลองค้นหาบทความเกี่ยวกับ การผ่าตัด ต่ออวัยวะ มาฝาก เป็นความรู้เบื้องต้นนะครับ .. เวบลิงค์ ที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ การผ่าตัด เพื่อต่ออวัยวะ .. http://kanchanapisek.or.th/kp4/book143/help.htm http://www.mahachaihospital.com/services/menu.php?pax_title_id=3&pax_id=2 http://www.srivichaihospital.com/srivichai3/microsurgicalcenter.html http://www.clinicdek.com/index.php?option=com_content&task=view&id=356&Itemid=35 แถม .. ตัวอย่าง รายชื่อผู้เชี่ยวชาญ ปัญหาที่เกิดบริเวณ มือ การต่อเส้นเลือดเส้นประสาท http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=15-08-2009&group=14&gblog=6 ช่องทางร้องเรียน เกี่ยวกับ เรื่อง ...ยา ....หมอ ....คลินิก .....โรงพยาบาล ... http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=23-02-2009&group=7&gblog=18 จากคุณ : หมอหมู เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 16:39:51

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ จะได้เก็บไว้เพื่อเป็นประสบการณ์  ขอให้หายเร็วๆนะค่ะ จากคุณ : ผักบุ้งกะกุ้งนาง เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 16:43:22

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ จากคุณ : ผักบุ้งกะกุ้งนาง เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 16:47:41

ความคิดเห็นที่ 16 เป้นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้หายไวๆ ขอบคุณสำหรับอุทาหรณ์ค่ะ อ่านแล้วเศร้า จากคุณ : KopFee เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 16:54:11

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณ คุณหมอหมูมากๆ ครับ สำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มากๆ ทั้งต่อตัวผมเอง และสำหรับผู้อื่นในอนาคตครับ ขอเล่าต่อจากนั้นเล็กน้อยครับ วันจันทร์ 29 มีนาคม 2553        น้องผมออกจากห้องผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืน ช่วงเย็นอาจารย์หมอมาดูอาการ เห็นว่าเลือดยังไปเลี้ยงบางส่วนของมือได้ไม่ดี มีโอกาสที่เลือดจะไม่ไปเลี้ยงอย่างเพียงพอทำให้เนื้อตายได้ ถ้าเนื้อตายก็คงจะเน่าและต้องตัดทิ้งในที่สุด คุณหมอจึงตัดสินใจที่จะทำการผ่าตัดในค่ำวันนั้นอีกครั้ง เพื่อรื้อดูว่าเส้นเลือดเส้นไหนที่มีปัญหาจะได้ผ่าตัดเปลี่ยนเส้นเลือด โดยเอาเส้นเลือดตรงส่วนน่องมาเปลี่ยนให้แทน         เข้าห้องผ่าตัดอีกครั้ง........ วันอังคาร 30 มีนาคม 2553         ผมไม่ได้ไปเยี่ยมเอง แต่คุณพ่อผมไปเยี่ยม ถามอาการแล้ว เห็นว่ายังมีอีก 2 นิ้วที่มีปัญหา หมอจึงทำการถอดเล็บออก เพื่อที่จะให้เลือดไหลเวียนออกมา ปฏิกิริยาตอบสนองของน้องผมยังมี จึงสบายใจได้ว่าระบบประสาทยังคงทำงานอยู่ คาดว่าการรักษาคงจะเสร็จสิ้นลงแล้ว ที่เหลือก็คือเฝ้่าดูแล และรักษาอาการ ล้างแผล เท่าันั้น        ต้องขอบคุณพี่ๆ ในบอร์ดทุกคนมากๆ ครับที่เป็นกำลังใจให้ ตอนแรกที่เขียนมาเล่านี้ นอกจากจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นๆแล้ว อยากจะขอรับบริจาคเลือดเพื่อไปทดแทนเลือดที่ใช้ไปด้วย แต่ตอนนี้มีเพื่อนๆ ของน้องเค้าไปบริจาคกันแล้วครับ แต่ถ้าพี่ๆ คนไหนอยากจะทำกุศล โดยการบริจาคเลือดก็ขอเชิญนะครับ ถึงน้องผมจะไม่ได้ใช้แ้ล้วแต่ก็ยังสำรองเอาไว้ให้กับผู้ที่ต้องการต่อไปได้ครับ จากคุณ : cardman (cardman) เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 17:07:30

ความคิดเห็นที่ 18 ใครช่วยอธิบายหน่อยค่ะ ว่าทำไม รพ ไม่รับผู้ป่วยคะ จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 17:38:52

ความคิดเห็นที่ 19 ขอให้น้องคุณหายดีนะคะ ให้แขนกลับมาใช้ได้ดีดังเดิม เฮ้อ...อ่านแล้วสลดใจกับโรงพยาบาลค่ะ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 18:40:33

ความคิดเห็นที่ 20 อนาถ... ไม่นึกว่า จะเป็นได้ถึงเพียงนี้ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 18:57:26

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้ามีประกันบริษัท ใหญ่ๆ ละ แบบเบิกได้หลักแสน ผลจะต่างกันไหม อยากรู้ จากคุณ : sammie เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 19:19:19

ความคิดเห็นที่ 22 เหมือนกันเลยค่ะ เคยเจอมาเหมือนกัน มีเพื่อน ขับรถชนทำให้กระดูกนิ้วเท้าแตก เส้นเอ็นขาด 4 เส้น กู้ภัยที่พบ พาไปส่งรพ.เอกชน ซึ่งก่อนที่จะรักษาเค้าแจ้งค่าใช้จ่ายเบื้องต้น สูงมาก จึงขอย้ายไปที่รพ.รัฐใกล้เคียง แต่วิธีไปคือ ขึ้นtexi ไป เอาประวัติการรักษา-ฟิมล์ไปด้วย ที่ต้องทำแบบนี้เพราะ ถ้ากู้ภัยไปส่ง ในสภาพที่มีการรักษาเบื้องต้นมาแล้ว แสดงว่า มีสถานพยาบาลรับรักษาแล้ว ก็ไม่ควรส่งต่อ ดังนั้น ก็เลยนั่งรถอื่นไป โชคดีที่รพ.รัฐรับรักษา แต่กว่าจะไ้ด้ผ่า ก็ปาเข้าไปสิบโมงเช้า จากคุณ : รถถังหน้าบี้ เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 19:51:14

ความคิดเห็นที่ 23 อ่านไปด้วยใจระทึก ขอให้คุณพระคุ้มครองให้น้องปลอดภัย และหายไวๆค่ะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ ที่นำมาเล่าให้ฟังด้วยค่ะ จากคุณ : แม่โค เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 21:14:49

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมถึงไร้มนุษย์ธรรมกันถึงขนาดนี้...คนเจ็บเจียนตาย ยังปล่อยให้รอความตายโดยไม่ไห้ความสนใจ... เพื่อนผมเคยโดนแทงที่ท้อง...ไส้ไหลออกมา พาส่ง รพ. พี่แกปล่อยให้นอนเฉยๆอยู่ตั้งหลายชั่วโมง... พอถามว่าทำไมไม่รีบรักษา ตอบกลับมาว่า "สังเกตอาการ".. สลดครับ หลังจากผ่าตัดแล้ว ผลเป็นอย่างไรแจ้งในกระทู้ด้วยนะครับ เป็นห่วง... Bookmark ไว้แล้ว... จากคุณ : S.G.BUU เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 22:07:30

ความคิดเห็นที่ 25 แล้วจะเรียนมาทำไม จรรยาบรรณอะมีไหม ถ้าคิดจะเปนหมอแล้วจะหาเงินเข้าตัว  ก็ไปเปนโจรเถอะไม่ต้องเสียเวลาเรียนด้วย จากคุณ : bamboo_bridge เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 22:08:41

ความคิดเห็นที่ 26 อ่อนใจด้วยครับ    ทางเกษมราษฎร์ ก็คงวุ่นไม่น้อยกับการ referครับ ยากมากๆเลยครับ ทั้งอ้อนวอน ข้อร้อง เพื่อช่วยให้ รพ.รัฐ รับรักษาต่อครับ คนไม่อยู่ในวงการไม่ทราบหรอกครับ   ถ้ามีเงินก็รักษารพ.เอกชน ก็คงไม่ต้องลุ้นแบบนี้  แต่อย่างว่าครับ ค่าใช้จ่ายคงหลักหลายแสนครับ  บางครั้งมีประกัน ก็จะช่วยได้ไม่น้อยครับ จากคุณ : พี่ไก่ (kai golf) เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 22:08:50

ความคิดเห็นที่ 27 อยากรู้คำตอบเหมือนกันค่ะ ว่ามีเหตุผลอะไรไม่รับผู้ป่วย และมีเหตุผละไรไม่รักษาเบื้องต้น อาจจะเป็นเหตุผลทางการแพทย์ โหวตค่ะ จากคุณ : โกโก้ชุ่มนม เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 22:12:40

ความคิดเห็นที่ 28   โรงพยาบาลเกษมราษฎร์   โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์   โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์   โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์   โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์   โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ... จากคุณ : hi_thanyarat เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 22:28:00

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณที่นำมาโพสเล่าให้รับทราบ ดีใจกับน้องชายตลอดจนญาติๆด้วยครับ  ที่ผ่านเหตุการณ์ความเป็นความตายมาได้ หลายๆคน  พิการ และเสียชีวิตทั้งๆที่ไม่น่า   เพราะอะไรก็รู้ๆกันอยู่ หลายปีมาแล้ว  หลานชายไปเที่ยวกลางคืนสักตี 2-3 รถแซง เฉี่ยวกัน รถเสียหลักหมุนหลายตลบ  เหวี่ยงคนในรถกระเด็นออกรถหมดทั้ง   5  คน   (กระจกแตก)     4  คนถูกนำส่ง รพ.  หลานนอนข้างถนนคนเดียว   รอ จนท.มาตรวจศพว่างั้นเถอะ   มี จนท.กู้ภัยคนหนึ่งเข้ามาดู   ยังไม่ตาย  รีบนำส่ง  รพ.เอกชนที่ใกล้    รพ.ประสานผู้ปกครองได้  เลือดคั่งในสมองต้องผ่าตัด  ขอวางเงินก่อนรักษา 200,000   บาท     ต้องรูดบัตรกันจ้าละหวั่นในนาทีนั้น    ประสาน ฝากฝังหมอที่รู้จัก  ขอความช่วยเหลือในด้านการผ่าตัดไปหลายทาง ผมมารู้เมื่อผ่านไปแล้ว  2  วัน   ไปเยี่ยมเห็นสายหนึ่งให้เลือด  อีกสายหนึ่งระบายเลือดเสียออก   อยู่สักlสองสัปดาหก็กลับ   ตอนนี้สบายดีตามปกติ มาคิดดู  ไม่มีเงินก็ตายไปแล้ว จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 22:55:36

ความคิดเห็นที่ 30 เอาใจช่วยครับ ใจร้ายกันจริงเลย จากคุณ : ลูกหมูร้องจิ๊บ เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 23:20:29

ความคิดเห็นที่ 31 ครับ การ refer มีปัญหาจริงๆครับ แต่บางครั้งกรณีรพ.ใหญ่ๆ  อาจจะมีกรณีที่คล้ายกันอยู่ เข้ามารักษาก่อน  ทำให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รักษาไม่ทันครับ(การต่ออวัยวะ  ใช้แพทย์ 3-5 คน  เวลาที่ใช้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรง   ตั้งแต่ 3-24 ชม.) ทางแพทย์เองก็ต้องการรักษาครับ  ไม่สามารถปล่อยให้คนไข้ ตรงหน้าเป็นอันตรายครับ ยังไงก็ขอให้น้องชายมีอาการที่ดีขึ้นในเร็ววันนะครับ แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 53 23:22:44 จากคุณ : ให้กำลังใจครับ (happy 1st) เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 23:20:34

ความคิดเห็นที่ 32 คุณน้องกับคุณจขกท.สู้ๆนะคะ >>> เข้าไปตามเรื่องการ refer คนไข้ ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ได้พยายามโทรเข้าไปติดต่อตามโรงพยาบาลใหญ่ๆ เกือบหมดแล้ว ทั้ง ศิริราช เลิศสิน พระมงกุฎ รามา จุฬา ฯลฯ ซึ่งได้รับการปฏิเสธทั้งหมด ไม่มีโรงพยาบาลไหนยอมรับคนเจ็บเลย แม้แต่รายเดียว...<<< ช็อกอ่ะ บอกเลยว่าอ่านเจอแล้วช็อกมากๆ คิดว่าถ้าวันหน้าวันหนึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใกล้ตัวเรา เราจะทำยังไงดี จากคุณ : The Field Where I Died เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 23:28:30

ความคิดเห็นที่ 33 เดี๋ยวนี้อะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด... ถ้ามีเหตุฉุกเฉินหรือจำเป็นจริงๆต้องเข้าไปโรงพยาบาลตอนดึกๆ ถ้าคนไหนเส้นไม่ใหญ่ เงินไม่ถึง โน้น...นอนรอหมอใหญ่มาเข้าเวรตอน 7-8 โมงเช้าแล้วกัน ค่อยว่ากันอีกที... เล่าบ้าง... เที่ยงคืนของเมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อน ลูกพี่ลูกน้องโทรมาบอกว่าให้มาหาหน่อยบอกว่าอยู่ที่โรงพยาบาล... ก็ถามไปว่าเป็นอะไร เค้าบอกว่าโดนฟันตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล ช่วยไปเอามอเตอร์ไซค์ให้หน่อยกลัวอะไหล่และรถหาย... ก็เลยออกไปเอารถมาเก็บให้ แล้วก็ตามไปดูอาการที่โรงพยาบาล... อาการคือโดนฟันด้านหลังแขนขวา เส้นประสาทขาด แขนขวาไม่รู้สึกอะไรเลย... มีเรื่องตอนประมาณ 23.00 น. นอนรอในห้องฉุกเฉิน ทำแผล ห้ามเลือดไป รอจนกว่าหมอจะมาในตอนเช้าเพื่อดูอาการว่าจะทำอย่างไรบ้าง... ประมาณ 9 โมงถึงได้เข้าห้องผ่าตัด ออกมาก็ประมาณบ่ายโมง... สรุปเส้นประสาทขาด ต่อแล้ว แต่ต้องรอให้มันขึ้นใหม่จนเต็ม ถึงจะใช้งานได้เต็มที่... สาเหตุ เพราะเรื่องผู้หญิงทะเลาะกันเอง แล้วตรงข้ามพาพวกผู้ชายด้วย ก็เลยโดนฟัน ถ้าวิ่งหนีไม่ทันป่านนี้ก็คงเผาไปเรียบร้อยแล้ว... ตอนนี้แขนของน้องที่โดนฟันก็กลับมาใช้ได้ 80%+ แล้ว... ส่วนเรื่องคดีความนะเหรอ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น(โดนฟันฟรีเป็นครั้งที่2) ไปตามหาชื่อที่อยู่ มาให้ตำรวจเอง แล้วตำรวจจะตามไปจับให้... สน.ยานนาฮา ฮาไปหมดซะทุกเรื่อง... สรุปใจความได้ว่า มีเงินก็มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ไม่มีเงินก็วัดกันเองก็แล้วกันว่าจะทนรอหมอได้นานซะแค่ไหน... จากคุณ : เจ่เจ๊ เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 23:41:37

ความคิดเห็นที่ 34 คนงานผมโดนงูเห่ากัด ไปโรงบาลเอกชน โรงบาลขอค่าเซรุ่ม 2 หมื่น ถ้าไม่จ่ายก่อนก็ไม่ฉีดให้ โดยให้เหตผลว่า เคยฉีดให้หลายคนแล้วไม่มีเงินจ่าย สรุปวันนั้นแฟนคนงานต้องไปหายืมเงินมาให้ได้ 2หมื่น ไม่งั้น ผัวเค้าคงตายไปแล้ว เดี๋ยวนี้ โรงบาลคืออะไร หมอทั้งหลายช่วยตอบผมที จากคุณ : zasd เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 01:00:59

ความคิดเห็นที่ 35   เอ้อเห็นเงินมาก่อนคนไข้รึยังไงครับ คุณหมอช่วยอธิบายหน่อยครับ จากคุณ : BoyZzZyoH เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 01:56:45

ความคิดเห็นที่ 36   ขอบคุณ หมอ และ พยาบาล ตลอด จน บุคคลากร ทางการแพทย์ ร่วมถึง จนท.กู้ภัย....... จากคุณ : เด็กผี เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 02:00:44 A:12.72.23.99 X: TicketID:230902

ความคิดเห็นที่ 37 ได้ยินเรื่องโรงพยาบาลไม่รับรักษาบ่อย ๆ อ่านแล้วหดหู่ครับ จากคุณ : Pingevo เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 02:10:02

ความคิดเห็นที่ 38 ขอให้น้องของคุณ จขกท. ปลอดภัย และหายโดยไวนะคะ จากคุณ : @nastasi@ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 02:24:01

ความคิดเห็นที่ 39 อ่านกระทู้นี้แล้วหดหู่จัง มันสลดใจยังไงบอกไม่ถูกจริงๆค่ะ เราก็คนหาเช้ากินค่ำ ไม่ได้ร่ำรวยหรือมีเส้นสายใหญ่โตอะไรเลย แถมยังไม่มีการ์ดให้รูดเงินล่วงหน้าสักใบกะเค้า เป็นเราเป็นน้องเราจะทำยังไงหว่า จากคุณ : lovenannan เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 02:31:26

ความคิดเห็นที่ 40 ขอให้น้องชายหายไวๆนะคะ จากคุณ : armearn เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 08:22:15

ความคิดเห็นที่ 41 หดหู่จริงๆค่ะ ขอให้น้องชาย จขกท หายดีไวๆ นะคะ จากคุณ : 9line เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 08:51:57

ความคิดเห็นที่ 42 รู้สึกเหมือน คห. 32  เป๊ะๆเลยค่ะ T^T ขอใ้หน้องชาย จขกท. หายไวๆนะคะ จากคุณ : MOnKEy_PrAi เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 08:58:20

ความคิดเห็นที่ 43 มีนน่าฟ้องให้หมดโรงบาล มีอย่าง คนจะตายตรงหน้าปฏิเสธ แล้วยังมีหน้ามาบอกไม่รับประกันเพราะทิ้งช่วงเวลานานเกิน  ไอ้เฮี่ย ถ้ารับแต่แรกก็จบไปละ ผมไมไ่ด้ว่าหมอดีๆนะครับ แต่ผมว่าโรงบลาลใหญ่ๆ มันก็เหมือนสภา มีแต่แย่งอำนาจ แข่งกันทำผลงาน จากคุณ : ผืนแผ่นดิน เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 09:07:35

ความคิดเห็นที่ 44 ถ้าคุณคิดว่าหมอเป็นคนดี  คุณกำลังคิดผิดแล้วเพราะจริงๆหมอหน่ะไม่ได้เป็นคนมาตั้งแต่เรียนจบแล้ว  พอเรียนจบมาไอ้พวกนี้จะแปลงร่างเป็นสัตว์ดูดเงิน  สัตว์พวกนี้มีชีวิตอยู่ได้จากการดูดเงินคนจน ถ้าจะมีคนมาเถียงคุณว่าอย่าเหมารสมซิ  งั้นถามหน่อยแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าตัวไหนเป็นคนตัวไหนเป็นสัตว์ งั้นขอผมยกตัวอย่างของผมบ้างนะ  เคยรู้จักหมอคนหนึ่ง เขากำลังเรียนจบ ผมจะถามวิธีการรักษาแม่ผมกับเขาทางเมล์  เขาเล่าให้ฟังว่าตอนเป็นแพทย์ฝึกหัด ได้เห็นคนตายจากการรักษาของเขา  เขาเสียใจมาก  แต่มีอาจารย์หมอที่เป็นสัตว์ประเสริฐมากมาปลอบว่า  "เวลาที่เห็นมนุษย์คนหนึ่งตายเพราะเรา  ห้ามเสียใจ  เพราะถ้าเสียใจหมอจะเป็นโรคซึมเศร้า" ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่ติดต่อเขาเลย สัตว์พวกนี้เขาไม่เห็นค่าชีวิตพ่อแม่คุณหรือตัวคุณเองหรอกนะ เพราะมันเสพแต่เงิน  กินเป็นแต่เงิน จากคุณ : batistuta_nuie เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 10:47:17

ความคิดเห็นที่ 45 อ่านจากหลาย ๆ ความคิดเห็นแล้วเหมือนกับที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ไม่ยอมรักษาเบื้องต้นนั้น เป็นเพราะกลัว refer ไป รพ.รัฐ ไม่ได้นะครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ถือว่าตัดสินใจถูกต้องแล้ว แต่จากที่ข้อความที่หมอหมูพูดไว้ ก็คงต้องเชื่อว่าจริง ๆ แล้วมันคงผิดพลาดที่ระบบของมันที่คงมีอะไรห่วย ๆ อยู่เยอะ และคงมีปัญหาการเมืองภายในด้วยล่ะมั้ง จากคุณ : แตงโมสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 11:31:03

ความคิดเห็นที่ 46 บุคลากรทางการแพทย์ พูดเหวงๆ อย่างนี้ แย่ค่ะ ของเรา เคยไปเยี่ยมป้า  โดนมอเตอร์ไซด์ชน  แถวโชคชัยสี่  ก็มีคนเอาไปส่งโรงพยาบาลแถวนั้น  ส่วนมอเตอร์ไซด์ ก็หนีตามระเบียบ เราเคยได้ยินว่าคดีชนแล้วหนีสามารถเบิกจาก พรบ.ประกันบุคคลที่สาม ซึ่งรถทุกคันต้องจ่ายอยู่แล้ว  แต่ไม่ทราบรายละเอียด  ก็เลยไปถามรายละเอียดที่ห้องชั้นล่าง เป็นห้องติดต่อเกี่ยวกับการเบิกประกัน ตอนนั้นเจ๊คนที่อยู่ในห้องเป็นผู้หญิงท้องค่ะ  กะลังคุยฮิฮะกับพนักงานประกันภัยเจ้าหนึ่ง (เห็นจาก Logo เสื้อ )  เราก็ถามรายละเอียดว่าต้องทำไงบ้าง  เบิกได้เท่าไหร่  เค้าก็ตอบว่า....... ชนแล้วหนีหรอ...... เจ็บก็เจ็บฟรี....ตายก็ตายฟรี....ช่วยไม่ได้ อยากปล่อยให้คนชนหนีไปเองนี่ (ป้าตรูแก่ & เจ็บอยู่  จะเอาปัญญาไหนไปจับคนชนที่ขับมอไซด์ฟะ) (ว่าแล้วมันก็หันไปหัวร่อต่อกระซิกกับพนักงานประกัน) ป้าตรูเจ็บยังมีหน้าหัวเราะอีกหรอฟะ   สาธุ  ขอให้เกิดกับครอบครัวแกมั่งนะ แล้วขอโทษ  ชนแล้วหนีน่ะเบิกได้เฟ้ย...ถึงจะได้ไม่เต็มแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย  ไม่ใช่เจ็บฟรีตายฟรีเฟ้ย  ต้องไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน  ถ่ายสำเนา  แล้วก็เอาใบเสร็จโรงพยาบาลไปทำเรื่องเบิกค่ะ ไม่เข้าใจทำไมโรงพยาบาลปล่อยให้มีคนโง่ๆ ไม่มีจิตใจช่วยเหลือคนมาทำงาน  แล้วมาบอกว่ามีมาตรฐาน จากคุณ : แม่นาล่าจัง เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 11:35:55

ความคิดเห็นที่ 47 จากใจด้วยความเคารพครับ และมุมองผมเลยครับ ทุกวันนี้ กัดฟันส่งประกันตัว top อยู่ครับ เพราะเห็นว่า สุขภาพของคนที่รักต้องมาก่อน ผมไม่อยากโทษหรือกล่าวว่าใดๆครับ เพราะเคยเจ็บสุดๆมาแล้ว ภรรยาผมไปคลอดลูกครับที่เกษมราษฎร์ เพชรเกษมนี่แหละครับ ตอนแรกทิฐิครับ (มีปัญหากับทางบ้านเลยออกจากบ้านมา) ไปหาที่นี่ ใช้ 30 บาท ขอบอกเลยครับ บริการ + ทุกอย่างๆ เลว เลยครับ คลอดเสร็จปัญหาเพียบ ตกเลือด + อื่นๆ แฟนนอนกองรวมอยู่ในห้องรวมครับ + บริการแย่มาก พยาบาลพูดจาแย่มาก พอบอกให้ผ่าตัดแก้ไข มันบอกว่า หมอไม่มี หมอไม่ว่าง ผมเลยตัดสินใจโทรไปง้อที่บ้านครับ ที่บ้านมา รูดบัตรล่วงหน้า ค้าประกันเงินให้ มันแทบอุ้มภรรยาผมไปเลยครับ ย้ายเข้าห้องเดี่ยวตึกข้างๆ พักไม่ทันไร มันแทบจะกราบเข้าห้องผ่าตัดไป ผ่าซ้ำ แก้ไขให้ใน เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง (ไหนบอกหมอไม่ว่างไง) สุดท้ายผ่าเสร็จ ผมทำเรื่องย้ายมาที่ โรงพยาบาลเจ้าพระยา ปิ่นเกล้าครับ มาผ่าตัด ซ่อมตรง ... อีกหลายครั้งครับ และเจ้าพระยาก็ดูแลอย่างดี บริการยอดเยี่ยมครับ (แต่แพงมากกก) สรุปรวมแทนที่จะเสียแต่ 30 บาท แต่ผมหมดรวมบานไปเกือบ 3แสนครับ ทุกวันนี้เลยตัดสินใจใหม่ครับ ******************** อยากให้อ่านครับ ผมไม่รู้ว่าทุกคนคิดเหมือนผมไหม แต่ผมเลือก ที่สุขภาพ และความปลอดภัยมาก่อน ทุกวันนี้ ผมจ่ายค่าประกันของผม และ ภรรยากับ ลูกสาวสูงมาก แต่ผมเลือกที่จะจ่าย โดยผมตัดความสะดวกของตัวเองออกไป ทุกวันนี้ ยังไม่มีรถ นั่งรถเมลย์ รถไฟฟ้า ทั้งๆที่เงินส่วนที่จ่ายประกันมาผ่อนรถ ได้แบบสบายๆ แต่ ** ผมเลือกแบบนี้ เลือกที่จะให้ความอ่นใจ มากกว่าความสบาย ของตนเองครับ ผมทำใจกับระบบรักษาของบ้านเราว่ามันห่วย และ แก้ไม่ได้ ดังนั้น ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนครับ อยากให้มองกว้างๆ แล้วยอมรับ ความเป็นจริงและเลิกรังเกียจประกันซักทีครับ จากคุณ : hotnot เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 12:47:43

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านแล้วอึ้งกับความคิดเห็นของบางท่าน ..   ( ถ้านั่นเรียกว่า " ความคิด " นะ ) .. สำหรับเรื่อง ระบบการส่งต่อ อยู่ใน กรุงเทพ จะมีปัญหามากกว่าจังหวัดอื่น เพราะ มี รพ. เยอะมาก ทำให้ไม่มีการแบ่งเขตความรับผิดชอบกันชัดเจน   ถ้าเป็นต่างจังหวัด ใกล้ๆ ก็มี รพ.รัฐ อยู่แห่งเดียว ส่งไป รพ.ก็ต้องรับ เลือกไม่ได้ ... เคยได้ยินข่าวว่า ทาง กทม. มีการประชุมแก้ไขปัญหาแบบนี้ แต่ก็ไม่ทราบว่าเรื่องราวไปถึงไหนแล้ว .... สำหรับปัญหาทำนองนี้ ผมคิดว่า เวลาเกิดปัญหา ก็ต้องเรียก ๑๖๖๙ ให้ช่วยประสานงานให้จะดีกว่า นะครับ ... ฝากช่วยกันโทรไปแจ้งเรื่องกับ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ด้วยนะครับ เผื่อจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง  ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ .. http://www.niems.go.th/index.php?page=7 สถาบัน การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ที่ตั้ง : ชั้น 2 อาคารกองวิศวกรรมการแพทย์ สาธารณสุขซอย 8 กระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัด นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ : 0-2590-2800-1 โทรสาร : 0-2590-2802 บรรณาธิการ นาย แพทย์ ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย นางสาวสุดารัตน์ นิราพาธ e-Mail : pr@niems.go.th จากคุณ : หมอหมู เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 12:58:51

ความคิดเห็นที่ 49 อย่ามาเหมารวม หมอที่ เสียสละมีเยอะ เค้าฟังแล้วจะ หมดกำลังใจเอา เห็นด้วยที่ว่า ทำไม ศิริราช ถึงไม่รับ เค้าคงีเหตุผล แต่จะฟังขึ้นหรือไม่ขึ้นก็แล้วแต่ พวกที่มีอคติ หรือ พูดจา จ้องจะเหน็บแนม หรือ ด่า พอซะที ครับ จะพูดด่า ว่าใคร เจาะเป็นคนๆไป ดีกว่า จากคุณ : ARZT_AUGEN เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 13:02:38

ความคิดเห็นที่ 50 เราจะส่งคนไข้ เราจะโทรคุยกับอาจารย์ก่อน แล้วโทรไป ถ้าไม่รับจะบอกว่าโทรคุยกับอาจารย์ .... แล้ว อาจารย์รับ เท่านี้ก็ไม่มีใครเถียงได้ แต่ระบบ refer มีปัญหามานานแล้ว บางทีหมอคนส่งก็โมโห จากคุณ : ม่ามี้ไอติม เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 13:06:50

ความคิดเห็นที่ 51 คห 44 คุณเข้าใจผิด หมอเสียใจได้ แต่เก็บความเสียใจนั้นไว้ไม่ได้ ไม่งั้นหมอก็ทำงานต่อไม่ได้ หมอจะเอาสิ่งที่เรียนรู้ มาช่วยคนอื่นๆต่อๆไป จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 13:39:16

ความคิดเห็นที่ 52 อ่านกระทู้นี้แล้วได้รู้เรื่องที่ผมไม่คิดว่าจะมีจริง ในหลาย ๆ เรื่อง น่ากลัวมากครับ ขอให้น้องชาย ของคุณ จขกท อาการดีขึ้น ๆ นะครับ จากคุณ : Sweety Peacock เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 14:23:21

ความคิดเห็นที่ 53 แล้ว เรื่อง คดี ความล่ะครับ อย่าปล่อยให้ คนชั่วลอย นวลครับ ค่ารักษา พยาบาล ให้พวกมันออกครับ เอาค่าทำขวัญ ด้วยน่ะครับ คน น่ะครับไม่ใช่ผักปลา จะมาฟัน มา แทง กันแบบนี้ จากคุณ : manmomin เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 14:38:25

ความคิดเห็นที่ 54 สมัยนี้ต้องยอมรับว่า "เงิน" เท่านั้นครับที่จะยืดชีวิตเราๆ ท่านๆ ได้ครับ มีเงิน อย่างเดียวบางครั้งไม่พอ ... ต้องมีเส้นด้วยครับ ณ ห้องฉุกเฉิน รพ. ดัง เตียงเรียงรายมากมาย คนเจ็บนอนร้องโอดโอย บ้างก็นอนหมดสติ แพทย์ พยาบาล เดินกันวุ่น แม้เวลา 5 ทุ่มกว่าแล้วก็ตาม ญาติผู้ป่วย เดินหาพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยของตน ได้ห้องพักที่ดีกว่านี้ ไม่ต้องนอนมองคนไข้หนัก เข็นเตียงเข้า-ออก เป็นว่าเล่น ท่ามกลางความโกลาหล เตียงนึง มีผู้ป่วย นั่งคุยกับหมออยู่ คนไข้ ไม่ได้สวมชุดคนไข้ แต่คนไข้สวมชุดนางพยาบาล เดียวกับ พยาบาลที่เดินว่อนห้องนั้น.. เค้ามีวลีสนทนากันดังนี้ คนไข้ กำลังหาห้องค่ะ วอดดิชั้นไม่ว่าง เดี๋ยวขอติดต่อวอดเด็กอ่อนก่อนค่ะ หมอ   ได้ครับ ให้ทางโน้น ตกลงมาก่อน แล้วเดี๋ยวหมอจะส่งไปพักฟื้น ไม่ต้องอยู่ห้องนี้นะ ซักพัก คนไข้คุยโทรศัพท์ เสร็จ บอกหมอว่า โอเคค่ะหมอ วอดนั้นยอมรับค่ะ หมอ  ได้ครับ เดี๋ยวหมอแทงเรื่องให้ครับ ไม่ต้องเป็นห่วง....... แล้วคนไข้คนอื่นที่ไม่รู้จักวอดต่างๆใน รพ ล่ะ จะทำยังไง ???? จากคุณ : panda_bs เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 15:23:59

ความคิดเห็นที่ 55 เป็นกำลังใจให้น้องชายหายเป็นปกตินะคะ ทั้งสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ รวมไปถึงครอบครัว ญาติๆ และเพื่อนๆ ด้วยนะคะ ต้องเข้มแข็งด้วย เพื่อจะได้สร้างกำลังใจให้กับน้องเค้าได้มากๆ ค่ะ เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : Pizzanova เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 15:46:28

ความคิดเห็นที่ 56 เราก็เคยเจอ case คล้ายๆกันนี้ค่ะ คุณย่าเราขาหัก คุณอาเอาไปไว้ที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ต่อมาคุณอาโทรมาบอกว่า ให้มาช่วยรับคุณย่าไปหน่อยได้ไหม เพราะรถที่เราขับมันยาว เขาจะให้คุณย่านอนไป เรากับซะมีเลยรีบขับรถไปดู พอไปดูจริงๆก็สรุปกันว่า อาการแบบนี้ต้องนอนราบไป จะนั่งยืดขาไปเฉยๆไม่ได้ เลยตัดสินใจให้รถพยาบาลของรพ.นั้นไปส่งที่ศิริราช เพราะคุณย่ารักษาที่นั่นประจำ และมีโรคประจำตัวหลายโรค เลยอยากพาไปที่ที่มีประวัติอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องไปตรวจอะไรๆใหม่ รพ.นี้เขาไม่ยอมทำ refer นะคะ เขาบอกเลยว่าถ้า refer ไปหรือใช้รถพยาบาลของเขาไป ทางศิริราชจะไม่รับคนไข้ไว้ ถ้าจะให้ refer ไป ต้องไปที่รามาเพราะคุณหมอเจ้าของไข้ เขาคุยกับหมอที่นั่นได้ ท้ายสุดเราก็เรียกรถพยาบาลรับจ้างไปค่ะ ไปถึงทางศิริราชก็รับตรวจโดยดี (ทั้งๆเขาก็รู้ว่าไม่ได้เข้ามารักษาที่เขาเป็นที่แรก) ก็ทำให้โล่งใจเป็นอย่างมากค่ะ บางครั้งการได้ยินใครบอกข้อมูลแบบนี้กับเรา ประเภทว่ารพ.ไม่รับ refer หรือปฏิเสธคนไข้ เราจะรู้สึกไม่ดีทุกครั้ง แต่พอมานึกถึง workload ที่รพ.ใหญ่ๆอย่างศิริราชเจอแล้ว ก็เข้าใจได้ว่าทำไม เคยมีหมอบางคนบอกเราว่า ถ้ารับคนไข้มามากเกินไป รพ.ไม่สามารถให้บริการได้ทั่วถึง อาจส่งผลไม่ดีแก่คนไข้ได้ พอคิดอย่างนี้แล้ว ก็พอทำใจได้ว่า มันเป็นความจริงที่เราต้องยอมรับค่ะ จากคุณ : yhumo เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 15:57:22

ความคิดเห็นที่ 57 @manmomin สำหรับเรื่องคดีความก็คงต้องปล่อยให้ทางตำรวจเป็นคนดำเนินการไปตามกฏหมายครับ ไม่อยากไปกดดันอะไรมาก เดี๋ยวทางตำรวจจะทำงานไม่สะดวกครับ ไว้จะมาเล่าให้ฟังอีกครั้งในเรื่องการดำเนินคดี ปล. อยากบอกว่าในกรณีแบบนี้ ผู้เสียหาย ถ้าไม่มีหลักฐานพยานชัดเจนจริงๆ แทบจะไม่สามารถเอาผิด คนร้ายได้เลยครับ เดี๋ยวขอเวลาเก็บข้อมูลได้ซักหน่อยแล้วจะเอามาเล่าให้ฟังครับ จากคุณ : cardman (cardman) เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 16:54:46

ความคิดเห็นที่ 58   ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟังเป็นอุทาหรณ์ค่ะ refer คนไข้? หมายถึง transfer คนไข้ รึเปล่าคะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : firefliesandcows เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 18:36:10 A:203.131.220.220 X: TicketID:156597

ความคิดเห็นที่ 59   มันช่างไร้ความรับผิดชอบอะไรเช่นนี้ ประเทศไทย จากคุณ : ไม่มีการศึกษา เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 19:48:39

ความคิดเห็นที่ 60 อันนี้เราขอลองมองอีกมุมนะคะ ว่าอย่าง ศิริราช อาจจะอยากรับ แต่ว่ามันเต็มจนล้นหรือว่ารับไม่ได้แล้ว แล้วการโดนฟันเนีย อาจจะต้องใช้หมอใหญ่หลายคน ที่ไม่ค่อยได้อยู่เวรนัก เพราะส่วนมากคนอยู่เวรก็พวก extern หรือ resident อาจจะมีความรู้ไม่พอที่รับไว้ก็ได้นะคะ เพราะถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้นมา มันก้ยากที่จะรับผิดชอบอ่ะค่ะ ปล.อันนี้ความเห็นส่วนตัวค่ะ ขอให้กำลังใจ จขกท.นะคะ ขอให้น้องหายเร็วๆ ค่ะ จากคุณ : smile_yimchan เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 20:04:18

ความคิดเห็นที่ 61 ^ ^ อยากรู้จริงๆว่าถ้าเป็นญาติพี่น้องของคุณ คุณจะพูดแบบนี้ไหม ********** การรักษา แม้ว่าจะรักษาไม่ได้ คนไข้อาจจะพิการ หรือตาย เพราะบาดแผล แต่มันก็ควรจะเป็น หลัง จากที่ได้มีความพยายามที่จะช่วย ตามกำลัง ตามความสามารถที่มีอยู่ในขณะนั้น ไม่มีความช่วยเหลืออะไรเลย ไม่มีแพทย์เวร ไม่มีพยาบาล ไม่มียา มีแต่คำที่ผลักใสให้ผู้ป่วยออกไปให้พ้นเสียจาก รพ. ถ้าผู้บาดเจ็บต้องเสียมือไป หรือตาย เพราะมันเป็นนอกเวลา หรือ คิวผ่าตัดไม่ว่าง แทรกไม่ได้ แต่ก็ได้รับการดูแลเบื้องต้นไปก่อนตามที่พอทำได้ ญาติยังจะรับได้และหดหู่น้อยกว่านี้ คำพูดที่ว่า “ถ้าไม่เอาคนเจ็บกลับไปก็ปล่อยให้ตายอยู่ตรงนี้แหละ” ทั้งๆที่รู้ว่า ถ้าเอาไปก็ตายกลางทาง(มั๊ง) เพราะเขากำลังจะตายอยู่ต่อหน้าต่อตาคุณอยู่แล้ว มันเสียดแทงใจญาติที่ต้องนั่งดูน้องตายไปต่อหน้าต่อตา โดยที่ไม่มีความพยายามในการช่วยเหลืออะไรเลย เขาคงจะเห็นการตายจนชินชา จนเป็นเรื่องปรกติ และ...เป็นเรื่องที่ไม่ใช่ตัวเขา ครอบครัวเขา ****** อ่านเรื่องนี้ ด้วยใจหดหู่และเศร้าจริงๆ ไม่อยากโทษระบบ ไม่อยากโทษ รพ แต่...จิตใจเกื้อการุณย์ต่อผู้ที่กำลังจะตายอยู่ตรงหน้า....มันหายไปเสียที่ไหน... จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 21:49:07

ความคิดเห็นที่ 62 รพ.ใหญ่ๆที่เป็นสถาบันการศึกษา ส่วนใหญ่จะเลือกรับเคสที่น่าสนใจเอาไว้ครับ เพราะเป็นหน้าที่หลักในการให้การศึกษา (การบริการเป็นเรื่องรอง) ดังนั้นถ้าผู้ป่วยมาด้วยอาการโหลๆ ที่พบได้ทั่วไป (โดนฟันนี่นับว่าโหล) ก็อาจได้รับการปฏิเสธครับ เรื่องนี้รู้กันภายใน แต่เป็นสิ่งที่โรงพยาบาลควรจะต้องให้การศึกษากับประชาชนด้วยครับ เป็นต้นว่า.... รพ.ศิริราช ไม่รับคนไข้ฉุกเฉิน ตั้งแต่เวลา...... ถึงเวลา....... อะไรแบบนี้ ซึ่งต้องไปแก้กฎหมายสถานพยาบาลใหม่ด้วยเพราะตามกฎหมายทุก รพ.ต้องมี ER ทีเปิดตลอด รพ.ศิริราช ถ้าเป็นคนไข้แปลกๆ ประหลาดๆ หายาก ให้รีบมาโดยด่วน มาถึงรับโปรโมชั่นฟรีสปาแพ็กเกจ หรือมาก่อนรับฟีโน่ 1 คัน มาช้าอด อะไรแบบนี้ จากคุณ : Medic1669 เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 53 23:30:09

ความคิดเห็นที่ 63 อ่านเจอ คห. 44 ถึงกับอึ้ง จะทำบุญกรวดน้ำให้เยอะๆ นะครับ เผื่อจะมีความสุขในภพชาตินี้บ้าง และหวังว่าชาตินี้ไม่ต้องพบกันนะครับ เพราะผมรับรักษาคน "ไม่รับรักษาสัตว์" จากคุณ : ผู้ปิดปากเงียบ เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 00:01:05

ความคิดเห็นที่ 64 ขอแชร์เรื่องการส่งตัวคนไข้ค่ะ เท่าที่เคยเจอมาคือ อยู่ที่ รพ.เอกชน (แอดมิตตอนกลางคืน) พอเช้าจะให้รถพยาบาลไปส่งที่ รพ.รัฐ ที่รักษาประจำอยู่ สิ่งที่ต้องทำก็คือ รพ.เอกชน ต้องติดต่อไปที่ รพ.รัฐ ให้ รพ.รัฐ รับรักษาต่อ พร้อมมีห้องให้แอดมิตต่อด้วย เหมือนมันเป็นระเบียบของเค้าอ่ะค่ะ ว่าไม่ใช่ไปส่งคนไข้เฉยๆ แล้วให้คนไข้ไปนอนรอต่อคิวรักษาเอง ถ้าทาง รพ.รัฐ ไม่รับ เช่น วันนั้นหมอไม่เข้า รพ.เอกชน ไม่สามารถส่งคนไข้ ขึ้นรถพยาบาลของ รพ.ไปได้ ถ้าจะไป ต้องออกจาก รพ.เอกชน แล้วเดินทางไปรักษาต่อเอง แบบไปรักษาตามปกติ ไม่ใช่การส่งตัว จากคุณ : Murai เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 01:23:44

ความคิดเห็นที่ 65 ปัญหาพวกนี้ก็มีมาตั้งแต่จำความใด้แล้ว เพิ่งมาตกใจกัน รูปแบบเดิมๆ ฟังเรื่องราว " ด้านเดียว " แล้วก็มาสาดเสียเทเสียกันไปต่างๆนาๆ พวกที่ไม่รู้อะไรเลย ก็ออกมารู้โน่นนี่กันมากมาย . . . so pathetic ครับ สงสัยมากเลย ที่ออกมาโพสท์แรงๆกันเนี่ย มีใครทำอะไรเพื่อคนอื่นจริงๆแบบฟรีๆบ้าง . . . มองด้านอื่นบ้าง จะใด้ไม่โลกแคบ อุบัติเหตุส่วนมาก จริงแล้วสามารถป้องกันใด้โดยไม่ประมารถหรือเอาตัวไปอยู่ในสถานะที่เสี่ยง(คงเข้าใจน่ะครับ) จบดีกว่า จากคุณ : no preservation เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 01:48:11

ความคิดเห็นที่ 66 วันที่ 1 เมษายน 2553          น้องผมได้ สูญเสียแขนไปแล้วครับ           เมื่อคืนวันที่ 31 มีนาคม 2553 ประมาณตี 2 น้องผมรู้สึกปวดแขนเพิ่มมากขึ้นรู้สึกว่าเลือดมันไหลออกมาเรื่อยๆ จากแผลที่หมอเปิดไว้เพื่อให้เลือดไหลออกมา (เข้าใจว่าทำเพื่อถ่ายเลือดเสียออก โดยให้เลือดดีผลักออกมา) หมอมาดูแล้ว บอกว่า มีอาการติดเชื้อที่แผล และเลือดไม่ไปเลี้ยงดีพอทำให้ให้เชื้อโรคเข้าไำปได้ จึงจำเป็นต้องตัดแขนออก เพราะถ้าปล่อยไว้อาจจะทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดและทำให้การรักษายากขึ้นไปอีก         คุณแม่ของน้อง ลงมาจากจังหวัดเชียงราย หลังจากได้รู้ข่าว ไปถึงโรงพยาบาลศิริราชในตอนเช้าของวันนี้(1 เมษายน 2553) ขณะที่น้องชายอยู่ในห้องผ่าตัดรอที่จะให้ญาติมาเซ็นต์ รับทราบเป็นพยานให้ผ่าตัด        แม่ลูกได้เจอกัน....... และก็เป็นคุณแม่น้องเค้าเองครับที่เป็นคนเซ็นเพื่อให้ลูกชายได้รับการผ่าตัดแขนออกไป        สรุปก็คือ น้องผมต้องสูญเสียแขนไปครับ ต้องขอบคุณ คุณหมอมากครับที่พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แม้ว่าผลการผ่าตัดจะประสบความสำเร็จด้วยดี น้องเล่าให้ฟังว่าสามารถขยับนิ้วได้หมดทุกนิ้ว ไม่คิดว่าจะมีอาการติดเชื้อแทรกเข้ามา ก็คงหวังว่านี่คงเป็นการสูญเสียครั้งสุดท้ายของน้องเค้าแล้วนะครับ                จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้จะว่ากล่าวหมอทั้ง ทั้งพยาบาล หรือโรงพยาบาลไหนๆ เพราะก็เข้าใจในระบบ ระเบียบ และความจำเป็นที่จะต้องรักษาคนไข้ให้ทั่วถึง ได้รับการรักษาที่ดีที่สุด แต่สิ่งที่อยากจะสื่อคือประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และเป็นกรณีตัวอย่างให้กับคนทั่วๆไปให้เตรียมพร้อมและรับมือ ถ้ามีเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงนี้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะกับตนเองหรือคนใกล้ชิดรอบตัว จากคุณ : cardman (cardman) เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 07:40:56

ความคิดเห็นที่ 67 ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งคุณน้อง และครอบครัวนะคะ เมื่อ 4-5 ปีได้เข้าไปมีส่วนในการวางระบบของโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ของ สปสช. ซึ่งจะต้องศึกษาระบบงานในส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการรักษาของโรงพยาบาลต่างๆ  การ refer ผู้ป่วย เป็นปัญหามาช้านาน  แก้ไขยากมาก เจ้าหน้าที่บางท่านยังบอกดิฉันว่า  ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินถ้าเป็นไปได้ให้ส่งโรงพยาบาลใหญ่ๆเลย  หรือถ้าแจ้ง refer แล้วมีการปธิเสธคนไข้แบบ  เจ้าหน้าที่ท่านนี้ ท่านใช้วิธีนำคนไข้เข้าไปโรงพยาบาลนั้นๆเลย  ยังไงโรงพยาบาลก็ต้องรักษา   แต่ก็นะ ก็อาจจะเจออย่าง จขกท.เจอนั่นแหละค่ะ จากคุณ : sukie_moo เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 10:18:31

ความคิดเห็นที่ 68 คห.44 "เวลาที่เห็นมนุษย์คนหนึ่งตายเพราะเรา  ห้ามเสียใจ  เพราะถ้าเสียใจหมอจะเป็นโรคซึมเศร้า" เราเข้าใจว่าประโยคนั้นหมายถึง ถ้ารักษาพลาด1คน การที่หมอเสียใจเป็นโรคซึมเศร้า ไม่มีสมาธิ มันจะส่งผลไปยังการรักษาคนไข้คนอื่นๆด้วยนะคะ.... ไม่งั้นเดี๋ยวได้มีการตั้งกระทู้ถามกันอีก"หมอโรงบาลxxxไม่รู้ไปกินรังแตนที่ไหน ทำหน้าบอกบุญไม่รับ ผมจะถามอะไรก็ตอบแบบสั้นๆขอไปที วินิจฉัยโรคผมก็ผิด บลาๆๆ" ไม่ได้หมายถึงว่าตายไป1คนก็อย่าเสียใจคิดมากเลยแบบที่คุณเข้าใจ จากคุณ : Pon Pon Pata Pon! เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 10:31:38

ความคิดเห็นที่ 69 แสดงความเสียใจด้วยค่ะ แต่ขอให้ดีขึ้น ๆ และหายในเร็ววันนะคะ *** ส่วนเรื่องหมอ ไม่ขออกความเห็นค่ะ เพราะเราเองเคยเจอกับตัวมาแล้ว ทั้งคุณหมอที่ยินดีให้การรักษา ให้ความช่วยเหลือ และคุณหมอที่มองเห็นความตายของคนไข้ เป็นเพียงเรื่องธรรมดา *** แต่ก็อยากให้ทุกโรงพยาบาลคิดถึงคำว่ามนุษยธรรมก่อนเงินค่ะ จากคุณ : am molly เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 10:39:21

ความคิดเห็นที่ 70 เป็นกำลังใจให้นะครับ ผมว่าที่ไม่รับคนไข้ไว้ ก็คงเพราะหมอไม่พอมั้งครับ ในความเป็นจริงนะครับ หมอมีจำกัดนะ  ยิ่งต่ออวัยวะด้วยแล้ว ผมว่าคงต้องเป็นหมอที่เก่งในระดับนึงเลยทีเดียว จากคุณ : OreOแง่มๆ เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 10:40:37

ความคิดเห็นที่ 71 อ่านโพสท์แรกๆแทบจะน้ำตาไหล พอมาเห็นโพสท์ที่ 66 นี่ยิ่งเศร้าหนักใหญ่เลย เฮ้อออ ไม่รู้จะคอมเม้นท์ว่าอย่างไรดี เอาเป็นว่าขอแสดงความเสียใจ และขอเป็นกำลังใจให้น้องคุณ จขกท คุณ จขกท และครอบครัวนะคะ จากคุณ : Brunette เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 13:07:13

ความคิดเห็นที่ 72 บังเอิญคนใกล้ชิดเป็นหมอ... ส่งข้อความถึง คุณๆ ที่ต่อว่า หมอ กรณีไม่รับคนไข้ เหตุที่รับคนไข้ไม่ได้ ในบางแง่มุม 1. รักษาไม่ได้ ส่งมาก็ตายเปล่า 2. คนไข้ที่มีอยู่ ก็สาหัสไม่แพ้กัน คุณไม่ใช่คนเดียว 3. หมอ ก็เป็นคน เหนื่อยได้ เพลียก็เป็น ถ้าหมอไม่พร้อม คุณยังดันทุรังให้รักษา ถามว่า เกิดผิดพลาดขึ้นมา ยอมรับไหม เห็นมีแต่ฟ้องร้องอย่างเดียว ส่วนเรื่อง หมอไร้จรรยาบรรณ โรงพยาบาลเห็นแก่เงิน ฯลฯ มันก็มี แต่ไม่ใช่ทั้งหมด จากคุณ : sommass เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 13:08:03

ความคิดเห็นที่ 73 งั้นก็พยายามไม่เจ็บไม่ป่วยทำตัวดีๆไม่ต้องมีเหตุให้ไปรักษษถึงจะดีที่สุดใช่ไหมฮ่ะ แต่เราจะควบคุมเรื่องป่วยๆเจ็บๆได้หรอครับ .... ปล.ขอให้น้องคุณหายไว้ๆนะครับ จากคุณ : moshita เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 13:48:01

ความคิดเห็นที่ 74 ไม่แปลกใจที่ศิริราชไม่รับในตอนแรก เพราะเราเคยพยายามอ้อนวอนส่งคนงาน ไปศิริราช   แต่ศิริราชไม่รับ ด้วยเหตุผลคลาสสิค คือ เตียงเต็ม คนไข้จึงต้องนอนรอความตายอยู่ รพ.ตามบัตรรับรองสิทธิ์ สุดท้ายคนไข้เสียชีวิตที่ เกษมราษฎร์ ประชาชื่น เราไม่ได้โทษเกษมราษฎร์ หรือ ศิริราชหรอกนะ  เพราะเค้าอาการหนักมาก ถึงย้าย รพ. ก็ไม่ได้การันตีว่าจะรอด  แต่ญาติคนไข้เค้าก็หวังว่าศิริราช เป็น รพ.ใหญ่ มีหมอเก่งๆ มากมายทุกสาขา  แค่หวังว่าจะรักษาให้ดีที่สุด แต่ที่สงสัยไปกว่านั้นคือ  กรณีของน้องคุณ  จริงๆแล้ว เกษมราษฎร์เป็น รพ.ใหญ่และได้ ISO ไม่ใช่เหรอ  เค้ารักษาไม่ได้หรือไม่อยากรักษา หลานชายเรา โดนเครื่องจักรตัดกลางหลังมือขาด  เมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว รพ.บางโพ  เล็กกว่าเกษมราษฎร์ไม่รู้กี่สิบเท่า  ยังระดมหมอมารักษาได้ จนหลานเรามือใช้การได้ปกติเลย แต่หลานเราใช้แบงค์รับรองสิทธิ์จากบิดา มารดานะคะ แม้ไม่ชอบใจระบบ  และเคยเจอหมอหน้าเงินมาเยอะ  แต่เราค้าน คห.44 ค่ะ ที่อาจารย์เค้าสอนมาอย่างนั้น  เพราะหมอต้องทำงานใกล้ชิดความตายทุกวัน ถ้าจิตใจหวั่นไหวไปกับความตายทุกๆ วัน  ไม่นานคงเป็นบ้า เรายังศรัทธาในความเป็นมนุษย์ที่อยู่ในตัวหมอ แต่แน่นอน  ความเป็นมนุษย์ในแต่ละคนย่อมมีไม่เท่ากัน  ไม่เฉพาะหมอ ทุกอาชีพนั่นแหละ แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 53 16:38:34 จากคุณ : Makit เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 15:43:25

ความคิดเห็นที่ 75 ขอเล่าบ้างนะค่ะ... น้องเราโดนยิงที่หัวแล้วเพื่อนน้องนำส่งรพ.พระนั่งเกล้า ตั้งแต่ 5 ทุ่มกว่า จนเรารู้เรื่องแล้วถึงรพ.ก็เที่ยงคืนกว่าแล้วหมอได้แค่ X-RAY แล้วทำแผลให้(เน้นว่าทำแผล)เพราะเอาน้ำเกลือเช็ดแล้วก็ปิดแผลบอกเรากับแม่ให้พาน้องกลับบ้าน (เราก็คิดนะว่าทำไมหมอไม่ผ่ากระสุนออก และน้องเราสูง 180 เราสูง 160 ถ้าน้องเราเกิดชักที่บ้านจะแบกมารพ.ไง) ตอนนั้นเรามึน...งง...กับเหตุการณ์ที่เกิดขั้นมากแฟนเราก็ให้พาน้องไป รพ.นนทเวช เราก็กลัวแพงเลยไปอ้อนวอนหมอให้ช่วยรับน้องเรานอนดูอาการที่ รพ.ก็ยังดี หมดก็บอกว่าไม่มีกระสุนอยู่ในหัวแล้วให้กลับไปดูอาการที่บ้าน เราเลยตัดสินใจพาน้องขึ้น TAXI ไป นนทเวชไปถึงก็ตี1กว่าๆแล้ว ที่นั่นรับตัวน้องทำ TC SCAN (เรียกงี้ป่าวไม่รู้นะ)พร้อมทั้งแจ้งค่าผ่าตัดแสนกว่า(จำตัวเลขไม่ได้) เราก็โทรหาพ่อว่าจะทำยังไง พ่อก็ตกลงให้ผ่าตัดซึ่งค่าผ่าตัดเอากระสุนออก (ไหนพระนั่งเกล้าบอกไม่มีกระสุนฝังไง) ค่าผ่าตัดต้องจ่ายเลยหรือไม่ก็จ่ายตอนที่ผ่าเสร็จ สรุปเลยนะว่า คุณหมอบอกว่าถ้าน้องเรามาช้ากว่านี้น้องเราอาจตาย หรือพิการได้ และน้องเราอยู่โรงพยาบาลประมาณ 2 อาทิตย์ก็กลับบ้านได้ หมดค่ารักษาไปเกือบ 4 แสนค่ะ ก็ขอขอบคุณคุณหมอที่ รพ.นนทเวชนะคะที่ช่วยเหลือน้อง ถ้าไม่ได้คุณหมอที่รีบมาผ่าตัดกลางดึกให้น้อง น้องหนูอาจพิการหรือตายได้ จากคุณ : พี่สาว (PREECHAYA K.) เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 16:18:52

ความคิดเห็นที่ 76 ถึงคห.ที่ 61 ค่ะ ที่คุณพูดว่า   อยากรู้จริงๆว่าถ้าเป็นญาติพี่น้องของคุณ   คุณ จะพูดแบบนี้ไหม เราอยากจะบอกว่าให้ลองมองอีกด้านค่ะ ถ้าเป็นญาติเรา เราก็คงเสียใจเหมือนกันค่ะ แต่เืรื่่องบางอย่างมันทำอะไรไม่ได้ค่ะ ถ้าเราเส้นไม่ใหญ่พอเราก็ต้องทำใจค่ะ การที่ตัดแขนไม่ได้หมายความว่าเป็นคนพิการแล้วจะทำอะไรไม่ได้เลย ชีวิตยังอีกไกลค่ะ เคยเห็นมั้ยคะ คนที่ไม่มีแขนมีขา แต่เขาประสบความสำเร็จ การตัดแขนไปมันก็พอที่จะฟื้นฟูได้ค่ะ ทำกายภาพบำับัด แล้วไปฝึกอาชีพ ที่เขาพอจะทำได้แล้วหาสถานที่ที่จะรับเขาเข้าไปทำงานค่ะ มันยังมีอะไรอีกเยอะค่ะ ปล.ตอบคุณ จขกท.นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้น้อง จขกท. หายไวๆนะคะ ชีวิตยังอีกไกลค่ะ สู้ๆค่ะ หลังทำการฟื้นฟูแล้วจะดีขึ้นเองค่ะ จากคุณ : smile_yimchan เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 19:48:05

ความคิดเห็นที่ 77 อืม ... เรามองว่าปัญหาเกิดจากแพทย์ที่ขาดศีลธรรม (เกือบทุกอาชีพ) จริงๆ แล้ว เพราะสังคมเราคิดถึงสิทธิมากกว่าหน้าที่ ชั้นต้งอได้อย่างนั้น ต้องได้อย่างนี้ แต่กลับไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร ทางรพ. (โดยเฉพาะ 30บาท) ว่ากันตามสิทธิ ก็รักษาคนไข้ในเขตของตัวเอง ถ้าต้องส่งต่อ อย่างไรเสียอีกรพ. ก็ต้องทำอยู่แล้ว รักษาสิทธิ ให้เค้าทำไปเลย ลืมหน้าที่ตนเองว่าต้องทำอย่างไร ลืมไปว่าตัวเองเป็นใครมีหน้าที่อะไร คนที่เรียนแพทย์ คิดแต่ว่า แพทย์ได้เงินค่าตอบแทนสูง (จริงๆแล้วถ้าเทียบกับหน้าที่ความรับผิดชอบถือว่าต่ำมาก) ทำงานตามแต่ที่ต้องทำ เน้น ... ถ้าต้องทำ แพทย์ที่ทำหน้าที่่ของตนเองนั้น(มีจรรยาบรรณ) ลดน้อยลงทุกวัน จนบางครั้ง เราแยกก็แยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าผิดหรือไม่ แพทย์ที่รับเวรต่อมานั้น อาจคิดว่าเค้าต้องมารับผิดชอบในคนไข้ที่ได้รับการรักษาที่แย่ ถ้ารักษาสถิติที่เสียอาจเสียที่เค้า หรืออาจโมโหว่าทำไมคนอื่นไม่ทำได้แล้วทำไมตนเองต้องทำด้วย รักษาสิทธิ แต่ ไม่รักษา หน้าที่ สงสารคนไข้ที่ต้องมารับกรรม ... ที่ตนเองก็ร่วมก่อขึ้น !!! เพราะคนเองก็คาดหวังในสิทธิของคุณ คาดหวังว่าหมอต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อไม่ได้อย่างใจ ก็ฟ้องร้อง จนหมอดีดีท้อใจ หดหายไปเรื่อยๆ เหลือแต่หมอพาณิชย์ พวกเราเคยถามตนเองบ้างหรือยังว่า วันนี้คุณมองคนเป็นหมออย่างไร เคยนึกถึงจิตใจของพวกเค้าบางหรือไม่ หรือคาดหวังเพียงแค่หมอ มีหน้าที่ ต้องรักษา แล้วคุณต้องรักษาสิทธิ (ชักเวิ่นเว้อ) สุดท้ายของแสดงความเสียใจ ที่เจอหมอแย่ๆ และขอแสดงความยินดี ที่ยังมีหมอดีดี ช่วยเหลือ อย่าเพิ่งหมดหวัง อย่าเพิ่งท้อแท้ อย่าได้โทษหมอหรือสถาบัน เพราะพวกคุณอาจทำให้หมอดีดีหมดกำลังใจ ช่วยกันสร้างสรรค์สังคมไทย มีคุณธรรม รักษาหน้าที่ รู้จักสิทธิของตัวเองและเคารพสิทธิของผู้อื่น ขอบคุณค่ะ จากคุณ : แอนด้า เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 20:12:25

ความคิดเห็นที่ 78 ความผิดมันอยู่ที่ระบบครับ ระบบการส่งตัวผู้ป่วยมันห่วยแตกจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับในกรุงเทพ หมอที่เกษมราษฏร์ จะทำยังไงดีล่ะครับ คนไข้แขนขาด หมอก็รู้ว่าต้องผ่าตัด แต่จะให้ทำยังไง ภายในเมื่อ "กุผ่าไม่เป็น" ให้กุผ่าส่งเดชมั่วๆไปมั้ย เผื่อฟลุ๊กแขนติด อย่างนั้นเหรอ จะให้หมอที่เกษมราษฏร์ส่งไปให้ที่ศิริราช โดยไม่โทรบอกกันก่อนเหรอ มีหวังโดนโทรกลับมาด่าตายห่า และศิริราชก็คงส่งต่อไปที่อื่น เพราะศิริราช เขาก็มีระเบียบของเขา ระเบียบในการควบคุมคุณภาพของโรงเรียนแพทย์ ซึ่งคนที่ตั้งระเบียบนี้เป็นใคร ผมก็ไม่รู้หรอก แต่กฏมันออกมาอย่างนี้ แพทย์ที่ทำงานในศิริราชก็ทำได้แค่ทำตามกฏ ซึ่งคุณจะให้ศิริราชเลิกเป็นโรงเรียนแพทย์ เพื่อรักษาคนคนเดียวอย่างนั้นเหรอ มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ จะว่าหมอเห็นแก่ตัว ทำไมไม่เรียกร้องให้เปลี่ยนกฏ ก็คงเป็นไปไม่ได้หรอกครับ เพราะคำว่า โรงเรียนแพทย์ เขาต้องมีการควบคุมมาตรฐานของเค้าอยู่แล้ว คุณจะบอกว่าแพทย์ขาดศีลธรรมนั้น คุณก็คงเป็นการมองโลกฝ่ายเดียว แพทย์ต้องรักษาคนมันคือความจริง แต่จะให้แพทย์ ไปทำตัวแหกกฏเกณฑ์เพื่อการรักษาคนไข้ คุณไปหาแพทย์อย่างนั้นใน Doctor K หรือ หัตถุ์เทวดา เทรุ เอาเหอะครับ คุณจะให้แพทย์เสี่ยงไปปะทะกับผู้บริหาร เสี่ยงให้ตัวเองต้องโดนไล่ออกจากงาน ต้องโดนย้ายออกจากงาน หรือโดนลดตำแหน่งเหรอ ถามตัวเองก่อนเหอะครับว่าเป็นคุณ คุณจะยอมมั้ย ยอมโดนไล่ออกจากงาน เพราะช่วยเหลือคน 1 คน อยากให้คุณภาพชีวิตคนไทยดีขึ้น ไปด่าพวกผู้บริหารกระทรวงสาธารณะสุขเหอะครับ ไอ้พวกคนทำระบบสุขภาพของประเทศไทยเสียหาย อย่ามาลงที่หมอตัวเล็กๆเลยครับ งานของเค้า หนักพอแล้วครับ จากคุณ : Umiki เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 20:39:18

ความคิดเห็นที่ 79 วชิระอีกที่ เวลาเข้าไปอย่าใส่เสื้อแดงนะ หมอมันเหลืองทั้งโรงบาล มันปล่อยให้นอนอยู่งั้นอ่ะ จากคุณ : กุล่ะเชื่อเลย (เซียวบ๊ะจ่าง) เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 21:34:09

ความคิดเห็นที่ 81 คนที่พูดออกมาว่าให้เอากลับ ไม่งั้นก็ปล่อยให้ตายเนี่ย ไม่ใช่ญาติหรือตัวเค้าเองไม่รู้สึกหรอกค่ะ คนที่จิตใจคับแคบ ซักวันกรรมก็จะตามสนอง ไม่ช้าก็เร็ว ขอให้น้องคุณ จขกท. หายไวๆ นะคะ จากคุณ : Jemie_A เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 22:50:41

ความคิดเห็นที่ 82 อ่านแล้วแอบท้ออ่ะ ไม่รู้จะคอมเม้นยังไงดี ปล สำหรับเรื่องนี้ เราว่ามันเป็นเรื่องของระบบที่มันแย่มาก ไม่น่าจะเกี่ยวกับหมอนะครับ จากคุณ : [C]haruru เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 08:01:28

ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อนานมาแล้ว เราเคยเจอกรณีคล้ายๆกันแบบนี้ แต่ต่างกันนิดหน่อย.. ต่างกันตรงที่ไม่มีใครรับพี่ชายเราอยู่นาน พี่ๆหน่วยกู้ภัยขับรถวนไปวนมาหาโรงพยาบาลให้รับตัวไปก็ไม่มีใครรับ (ไม่ขอเล่ารายละเอียดมากไปกว่านี้นะคะ ว่าโรงพยาบาลไหนบ้าง) แต่มาหยุดอยู่ที่นพรัตน์ยอมรับไปรักษาให้ แต่สุดท้ายพี่เรานอนอยู่สองวันก็จากไป เราเองก็ไม่รู้หรอกว่าถ้าโรงพยาบาลแรกสุดรับพี่ชายเราไปรักษาเค้าจะรอดมั๊ย อาจจะรอด หรือไม่รอด อันนี้ก็ไม่รู้ แต่เหตุการณ์นี้มันเป็นอุทาหรณ์สอนให้เรารู้สองเรื่อง.. เรื่องนึงก็คือ.. คนที่จะรักษาชีวิตเราได้ดีที่สุดคือตัวเราเอง เราต้องระวังอย่าให้เหตุเกิดขึ้นกับเรา กลางคืนจะเป็นช่วงที่อันตรายเยอะ ไม่จำเป็นก็อย่าออกไปไหน ถ้ามีเหตุเกิดขึ้นจริงๆ เพราะอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็ต้องทำใจ โรงพยาบาลไม่ใช่สถานสงเคราะห์แต่เป็นหน่วยงานทางธุรกิจ (ไม่ได้ว่าแพทย์นะคะ แต่พูดถึงวิถีทางของโรงพยาบาลจากที่ประสบมา) เมื่อคนไข้(ลูกค้า)มา แต่โรงพยาบาลวิเคราะห์แล้วว่าไม่คุ้ม เลือกที่จะปฏิเสธ (อาจจะเพราะกลัวปัญหาอะไรต่างๆนานา) ก็จะพยายามเข้าใจค่ะ ทุกคนย่อมมีเหตุผลของตัวเอง เรื่องที่สอง.. เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง อย่างน้อยที่สุด เงินซื้อชีวิตไม่ได้ แม้แต่จะยื้อชีวิตอีกนิด ถึงมีเงินอยู่มากแค่ไหน แต่นาทีฉุกเฉินโรงพยาบาลเค้าไม่รู้ว่าคุณจะมีค่ารักษาจ่ายเค้ามั๊ย เค้าก็ไม่กล้ารับอยู่ดี .. รณรงค์ให้ทุกคนพกบุ๊คแบงค์ติดตัวไว้เผื่อนาทีฉุกเฉินค่ะ .. (อันนี้ล้อเล่นนะ ฮ่าๆ จริงๆเดี๋ยวนี้เราพกบัตรประกันชีวิตน่ะเพราะทำประกันสุขภาพไว้ เผื่อวันไหนพี่ชายคิดถึงจะเรียกไปหา โรงพยาบาลเค้าจะได้มั่นใจหน่อยว่า อย่างน้อยๆก็เคลมกับบริษัทประกันได้ เค้าจะได้ช่วยห้ามๆหน่อย อย่าเพิ่งไปๆ) ป.ล. เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองยังแอบรู้สึกดาร์คๆหม่นๆเทาๆกับโรงพยาบาลอยู่แฮะ เรื่องผ่านมาตั้งนานแล้วนะเนี่ย แย่จริง = =" edit : เอ๋อ มัวแต่บ่นเรื่องไรอยู่นาน จนลืมวัตถุประสงค์แรกไปเลย - -* ขอให้น้อง คุณจขกท.หายเร็วๆ แล้วขอให้มือกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมเลยนะคะ แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 53 12:40:44 จากคุณ : >> Sebastian << เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 12:37:47

ความคิดเห็นที่ 84 เข้าใจเรื่องการสูญเสียครับ แต่เรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ การต่อมือเนี่ย ต้องเป็นแพทย์ที่เชียวชาญเฉพาะจริงๆครับ ซึ่งแม้แต่ใน รร แพทย์เอง ก็มีอยู๋ 2-3ท่านเท่านั้นเอง ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ต้องพูดถึงโรงพยาบาลรอบนอกเลย ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้น ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่า การรักษาชีวิตผู้ป่วย ถ้าเสียเลือดมาก ->ให้ น้ำเกลือ/เลือด ยา เพิ่มความดัน และ พันแผลโดย เพื่อเพียงแค่ให้ผู้ป่วยไม่เสียวิตจากการเสียเลือดก่อนที่จะไปถึงมือแพทย์ที่ทำการรักษาครับ ps.1 ขอให้น้องหายเร็วๆนะครับ ps.2 อยากให้ร้องเรียนตามช่องทางที่ พี่หมอหมูให้ไว้ จะได้แก้ไขไอ้ระบบห่วยๆนี่ซะที แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 53 15:42:50 จากคุณ : Elixir The High Priest เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 15:37:48

ความคิดเห็นที่ 85   น่ากลัวมากๆค่ะ ดีใจด้วยนะคะที่น้องคุณปลอดภัย จากคุณ : โลมาหน้ากลม เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 16:59:41

ความคิดเห็นที่ 86 หมอไม่รับ  หมอเลว หมอรับแล้วคนไข้ตาย   ก็เลว...เหตุเพราะไม่ส่งไปในที่ที่พร้อม หมอเลวเพราะจ้องเอาเงินก็มี แต่หมอที่โดนหว่าเลวเพราะงานมันล้นมือล่ะ ด่ากันมันส์ จากคุณ : doctormankung (doctormankung) เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 53 20:49:18

ความคิดเห็นที่ 87 ไหลตามน้ำหมดอีกแล้ว ประเด็นแบบนี้ ยังไงหมอมันก็ผิดหมดแหละ ไม่เคยถูกหรอก ที่เห็นๆทุกวันนี้ทั่วประเทศมาจากระบบที่ห่วยแตก กระทรวง/รัฐบาลไม่สนใจที่จะแก้ไข สนแต่นโยบายหว่านสั่วๆ แต่ไม่พร้อมสักอย่าง จิตสำนึกยอมรับว่าเป็นส่วนนึง แต่เชื่อว่าไม่ใช่แน่ๆที่หมอหรือบุคคลากรจะคิดแบบนั้นแน่ๆ จากคุณ : vkp_nirvana เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 10:28:47

ความคิดเห็นที่ 88 เห็นด้วยกับที่ หลาย  คห . ที่ว่ายุคสมัยนี้ ต้องทำประกัน เผื่อไว้ในอนาคต ข้างหน้า มันไม่มีอะไรแน่นอน เราทำ ทั้ง 3 คน พ่อ +แม่+ลูก เพราะว่าเรา เคยผ่าน อะไรที่เลวร้ายมาแล้ว น้องชายเกิดอุบัติเหตุ อย่างหนึ่ง ตรงเท้าติดกับขาเกือบขาด เกือบขาดจริงๆ ห้อย ต่องแต่งเลย ติดอยู่แต่เนื้อนิดเดียว น้าชายเรา เค้าเป็นคนมีต้งค์ เขาเป็นคนดีมากๆ ช่วยเหลือน้องเรา ที่รพ เล็กๆ จำชื้อ รพ. ไม่ค่อยได้ มันนาน 10 กว่าปีแล้ว ร.พ  บางประกอกมั้ง  แถวๆ บางบอน แต่จำได้ว่า รพไม่ใหญ่โตเท่าไหร่ พอไปถึง น้าเราบอกว่า ต่อให้ติด เสียเงินเท่าไหร่ ไม่ว่าขออย่างเดียว ขอให้ ติด ให้เดินได้ จำได้ว่าทางโทรพยาบาล ตามอาจารย์หมอ มาจากอีกที่หนึ่ง ต่อติด ตอนนี้เดินได้แล้ว แต่ก็ ไม่เหมือนคนปรกติ ทั่วไป ยังมาคุยกันทุกวันนี้ว่า ถ้าไม่มีน้าเราช่วยเหลือ เรื่องเงินทอง ป่านนี้น้องเราคงไม่มีเท้าเดินแล้ว หมดไปหลายแสนบาท เรายอมทำประกันชีวิต เพราะว่าสมัยนี้ ทำอะไรต้องใช้เงินไปเสียทุกอย่าง ไม่มีเงินเขาก็ไม่ยอมรักษาให้ รพ. ก็เป็นธุรกิจ อีกอย่างนั่นเอง ปล. อย่าไปโทษหมอเลยคะ ให้กำลังใจ จขกท. นะคะ   แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 53 13:50:54 จากคุณ : พาไล เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 13:43:01

ความคิดเห็นที่ 89 เป็นไปได้มั้ย ว่าจะมีความเข้าใจผิดระหว่างญาติ และรพ. เพราะอย่างกรณีต่อมือหรือแขนเนี่ย ต้องใช้้อาจารย์แพทย์ที่เฉพาะทางมากๆ ซึ่งอาจไม่ได้อยู่เวรในวันดัีงกล่าว  และไม่สามารถตามตัวได้ง่ายๆ ทางรพ.จึงไม่กล้ารับ refer ... ส่วนรพ.ที่จะส่งก็ยังไม่กล้ารักษาใดใด เพราะการไปยุ่งกับส่วนที่ถูกตัด อาจจะทำให้ส่วนนั้นไม่สามารถทำการต่อกลับไปได้เหมือนเดิม... แต่มีหลายๆครั้ง ที่ผู้ป่วยมาเอง แล้วอาจารย์ไม่อยู่ แต่แพทย์ห้องฉุกเฉินทนไม่ไหว ต้องโทรไปอ้อนวอนให้อ.มาทำการรักษาแม้ไม่ได้อยู่เวร ... จากคุณ : (แค่เดาเอาน่ะ) (Drjingjo) เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 17:40:07

ความคิดเห็นที่ 90 ระบบ refer มันมีปัญหามานานแสนนานแล้วล่ะค่ะ แค่ รพ.ศูนย์ ตามต่างจังหวัด ก็วุ่นวายพอแล้ว ไม่ต้องพูดถึงกรุงเทพฯเลย  คงวุ่นวายกว่าเยอะ โรงพยาบาลหลายๆๆแห่ง ไม่ได้มีหมอเฉพาะทางทุกด้าน  เพราะงั้นก็คงไม่สามารถรักษาได้ทุกโรค คนไข้ก็มีเยอะ  หนักบ้างเบาบ้าง หมอตาม รพ.ใหญ่ๆก็คง workload มากมาย ที่เห็นงานยุ่งมาก..ยุ่งตลอดจริงๆ ก็คงเป็น Neuro Surgery แหละค่ะ (หมอศัลยกรรมประสาท  ผ่าสมอง  คนไข้รถชนหัวฟาดพื้น เลือดออกในสมอง เยอะเหลือเกิน  ขอเถอะค่ะ  ขี่มอเตอร์ไซค์ใส่หมวกกันน็อค ช่วยชีวิตคุณได้จริงๆนะคะ)  หมอก็น้อย งานก็เยอะ   บางทีจะ refer คนไข้พวกนี้ ก็ลำบากมากๆๆ เห็นใจทั้งคนไข้  โรงพยาบาลที่จะ refer คนไข้ , โรงพยาบาลรับ refer (ที่มักจะเตียงเต็มตลอดเวลา)  จริงๆค่ะ จากคุณ : Winki เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 17:50:26

ความคิดเห็นที่ 91 ปล. โดยทั่วไป ต่อแขน ใช้ หมอกระดูก (Orthopedist)  หมอพลาสติก (Plastic surgery) และหมอศัลยกรรมทั่วไป  ร่วมกันทำน่ะค่ะ แต่ก็แล้วแต่ความยากง่ายนะคะ  บางทีใช้หมอแผนกเดียว บางทีก็ตามกันหลายแผนกหน่อย จากคุณ : Winki เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 17:52:52

ความคิดเห็นที่ 92 แชร์ประสบการณ์กับศิริราชนิดนึงนะคะ จากประสบการณ์ส่วนตัวคิดว่าพยาบาลส่วนมากนั่นแหละค่ะทีทำตัวมีปัญหามากที่สุด (แต่ก็ไม่ใช้ว่าหมอไม่มีนะคะ แต่เราเจอทั้งหมอที่ดีมากๆๆๆๆ กับพวกที่ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิงมาแล้วค่ะ) คืนนึงน้องชายเราชัก พาส่งศิริราชทันที (10 นาทีจากบ้านค่ะ) ไปถึงส่งน้องขึ้นเตียง คุณพยายม เอ้ย พยาบาลก็ลุกมาจากวงสนทนา ชะโงกหน้าดู ปากก็ถามหาประวัติ เราก็บอกว่าแม่ไปยื่นแล้วค่ะ ประวัติมา ถามหาทะเบียนบ้าน (ไม่รู้หรอกค่ะว่าสำคัญแค่ไหนกับตัวคุณพยาบาล) เรากับแม่ก็เหว๋อไป บอกว่าไม่ได้เอามา (ก็จะพกทะเบียนบ้านมาโรงพยาบาลทำไมคะ) เค้าไล่ให้เรากลับไปเอา แล้วก็ให้รอจนกว่าทะเบียนบ้านจะมาถึง (ในตอนนั้นน้องเราชักตา-กลับไปแล้วค่ะ) เราก็เลยให้แม่กลับไปเอา แล้วถามว่ามีผู้ปกครองอยู่ด้วยคนนึง พอจะเรียกหมอได้มั้ยคะ คุณพยาบาลคนนั้นก็เดินไปโทรศัพท์เรียกหมอ หมอก็มาค่ะ (โชคดีที่เจอหมอดีนะคะ) พอหมอเห็นก็สั่งให้ยาเลย (เป็นยาที่ฉีดเข้าทางก้นค่ะ) เพราะหมอต้องไปดูเตียงอื่นต่อ พยาบาลคนนั้นก็ยืนพยายามใส่ถุงมือให้ได้อย่างสวยงาม (ใส่เข้า ใส่ออก) หมอหันมาเห็นก็เลยเบียดเธอออกไปเลยค่ะ แล้วจัดการทำเองทุกอย่าง (ต้องกลับมาให้ยาอีกรอบเพราะรอบแรก น้องเราไม่ดีขึ้นเลยค่ะ ~~ หมอถามด้วยว่าทำอะไรกันอยู่ เราก็เลยบอกว่า "เค้า" บอกให้รอทะเบียนบ้านค่ะ) จากคุณ : ธัญลดา เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 22:30:56

ความคิดเห็นที่ 93 เราเอาเรื่องที่อ่านไปถามแฟน...ว่ามีด้วยหรอที่ร.พ.จะไม่รับคนไข้โดยเฉพาะโรงพยาบาลใหญ่ๆ แน่ใจนะว่าเค้าติดต่อให้ทุกโรงพยาบาลแล้ว...แฟนเราบอกว่า...ความจริงแล้ว ศิริราช รามา พระมงกุฏเป็นไปไม่ได้หรอกที่โรงพยาบาลสำหรับการเรียนการสอนแพทย์จะไม่รับ เพราะพวกเค้าปฏิเสธไม่ได้ แต่บางทีก็ต้องยอมรับว่าเตียงเต็มจริงๆแต่ถ้าคนไข้อาการหนักจริงๆ ก็ต้องหาเตียงให้ได้ก่อนทำการผ่าตัดเช่น ICU อะไรทำนองนี้ เพราะวันที่ 3 เม.ย. มี case เด็ก 2 ขวบโดนยิงจากคอทะลุท้ายทอย refer มาจากโรงพยาบาลเอกชนกลางดึก ร.พ.รามายังรับเลยเข้าผ่าตัด4 ทุ่มผ่าตัดเสร็จตั้งตี 5(พอดีแฟนอยู่เวรอ่ะ) สองเดือนก่อนก็มีโดนฟันนิ้วมทำผ่าตัดกันเป็นวันเป็นคืน และ case ของน้องคุณ cardman จริงแล้วถ้าโรงพยาบาลใหญ่ๆรับมันจะต้องผ่าตัดรวดเดียวเลยถึงจะดีจริงๆนั่นแหละ แต่จะต้องใช้แพทย์หลายสาขา และให้เวลานานเป็นวัน แต่ก็นั่นแหละร.พ.แรกรับก็น่าจะทำแผลเบื้องต้นก่อน เช่นเย็บแผล ห้ามเลือดอะไรทำนองนั้น เพราะมันก็ดีกว่าปล่อยให้คนไข้อาการแย่... แต่ถ้าร.พ.แรกติดต่อให้แล้ว แล้วร.พ.ดังกล่าวไม่รับก็อาจจะเป็นว่า ถ้าวัรุ่งขึนเป็นวันธรรมดา มันจะมี case ผ่าตัด ที่ถูก set ไว้แล้วถ้า case ของน้องคุณเข้าไปแทรกก็จะทำให้ case ต่างที่จะต้องทำวันนี้ต้องเลื่อนไปทำวันอื่นอีกหลายวัน ซึ่งคนไข้ที่ถูก set วันนั้นอาจจะไม่ใช่คนใน กทม.แต่มาจากต่างจังหวัดต้องเดินทางไกล แลรอคิวสำหรับการผ่าตัดมาเป็นเดือนๆ ต้องถูกเลื่อนออกไปอีก นี่ก็อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาไม่รบับอ่ะครับ พอดีแฟนทำงานอยู่กับห้องผ่าตัดเค้าอธิบายมาอย่างนี้อ่ะครับ จากคุณ : หมงเม้ง (หม่งเม้ง) เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 23:11:09

ความคิดเห็นที่ 94 เป็นกำลังใจให้น้องชาย จขกท ค่ะ สามปีก่อนเราประสบอุบัติเหตุที่อเมริกา แขนซ้ายบาดเจ็บรุนแรง เราบอกไปในรถพยาบาลตลอดว่าอย่าตัดแขนเรา ไปถึงที่รพ. คุณหมอก็มาจับที่มือถามว่ารู้สึกมั๊ย ตอนนั้นเราไม่รู้สึก ตอนนั้นเสียเลือดมาก เบลอๆด้วย บอกไปว่าไม่รู้สึก ตื่นขึ้นมาพยาบาลบอกว่าต้องตัดแขนออก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับ แต่เวลาจะช่วยให้เราปรับตัวได้ ถึงแม้ตอนนี้เราจะไม่ได้ยอมรับได้เต็มร้อยกับการที่ต้องมาเป็นแบบนี้จากการเป็นคนปกติทั่วไป แต่ก็ดีขึ้นจากช่วงปีแรกมาก เราไม่ขอพูดถึงเรื่องระบบนะคะ แต่อยากบอกว่าอย่างน้อยน้องคุณก็ยังมีโอกาสกว่าเรา ที่อย่างน้อยหมอได้พยายามต่อแล้ว ถึงแม้จะไม่สำเร็จ เพราะตอนนี้บางครั้งเรายังเสียใจที่ทำไมหมอไม่ลองพยายามต่อดูก่อน หรือทำไมตอนนั้นเราไม่บอกหมอว่าแขนเรายังรู้สึก แต่เจ้าหน้าที่เค้าก็บอกว่าถ้าไม่จำเป็นจริงๆเค้าไม่ตัด แต่เราก็ยังตัดความรู้สึกค้างคานี้ไม่ได้ซะที มีหมอเคยบอกว่าแผลโดนฟันมีโอกาสต่อได้มากกว่าเคสเรา ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้น้องชายคุณจขกทค่ะ จากคุณ : เกาเหลาเลือดหมู ไม่ใส่เลือด เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 12:26:58

ความคิดเห็นที่ 95 ลองแยกเป็นประเด็นแล้วมาถกกันอย่างมีเหตุผลไหมครับ 1. ระบบการส่งต่อผู้ป่วย(Refer) บางครั้งเป็นเพราะติดขัดตรงนี้ำทำให้การรักษาช้าและไม่อยู่ในช่วงเวลาที่พอจะทำอะไรได้ 2. การบาดเจ็บรุนแรงของอวัยวะ เช่น แขน หรือ ขา ซึ่งไม่ได้หมายความจะต้องต่อได้ทุกรายแม้จะรักษาภายใน 6-8 ชั่วโมง ส่วนเรื่องประเด็นจาก จขกท เรื่องติดต่อ refer ไปหลายๆที่ไม่มีใครรับ อยากให้ลองลำดับเหตุการณ์ดูนิดนึง + เวลาที่เกิดเหตุด้วยนะครับ จากคุณ : nightdoc เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 00:05:37

ความคิดเห็นที่ 96 เป็นกำลังใจให้น้องของจขกท.นะครับ ยังโชคดีที่เจอจนท.กู้ภัยที่ดี การที่เค้าเอาไปส่งที่ที่ใกล้ที่สุดก็คงจะถูกแล้ว เพราะจากสายตา อาการคงหนักไม่น้อย เคยได้ยินเรื่องรถกู้ภัยที่ตั้งหน้าตั้งตาจะเอาไปส่งแต่รพ.ที่ได้คอนแทคไว้ (เหมือนได้ค่าคอม) คนไข้จะตายอยู่รอมร่อก็ยังจะดั้นด้นไปซะไกล อันนี้แย่อ่ะ ส่วนเรื่องเส้นในรพ.รัฐนี่ เป็นเรื่องปกติมาก ถ้าคุณไม่มีเส้น คุณอาจได้นอนห้องรวมจนหายก่อนจะได้ห้องพิเศษอีก ขนาดว่ามีเส้นยังต้องรอคิวเลย ไม่ใช่จะได้ทันที จากคุณ : supertarokung เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 18:24:47

ความคิดเห็นที่ 97 ศิริราช เตียงเต็มจริงๆ คนไข้นอนตามทางเดินเยอะแยะ ไม่เชื่อไปดูได้ หมอก็ผ่าตัดทั้งวัน ทั้งคืน ไม่ได้หยุด เห็นหมอนั่งกินข้าว ไม่ถึง 5 นาที เสร็จแล้วก็รีบเดินไปผ่าตัดต่อ คิดว่าหมอกินข้างเสร็จแล้ว เราจะเข้าไปยกมือไหว้ยังไม่ทันหมอเลย เราเคยมี ปสก พาอาม่าไปหาหมอด้วยอาการน้ำท่วมปอด เนื่องจากลิ้นหัวใจรั่ว ต้องผ่าตัดหัวใจ ไปโรงพยาบาลทรวงอกเค้าก็ไม่กล้าผ่า เลยพาไปศิริราช ไปนอนรออยู่หลายวันไม่ได้เจอหมอใหญ่ เจอแต่หมอ resident ก็ให้แต่ยาขับปัสสาวะ ดูอาการ อยู่ตั้งหลายวัน อาการก็ไม่ดีขึ้น เลยตัดสินใจโทรปรึกษาเพื่อนที่เป็นนักเรียนแพทย์ศิริราช เพื่อนบอกให้ไป รพ. เอกชน ที่มีหมอศิริราชอยู่ เจอตัวหมอก่อนแล้วค่อยว่ากันว่าจะย้ายมาผ่าที่ศิริราชได้ไหม ก็เลยทำตามที่เพื่อนบอก ก็เสียค่ารักษาที่ รพ เอกชน ไปพอสมควร แต่ อจ. หมอ ก็ดีมากบอกว่าให้มาผ่าที่ศิริราชได้ เลยได้ผ่าที่ศิริราช ตอนนี้หายดีแล้วค่ะ ทั้งนี้ เราว่าขึ้นอยู่กับบุญวาสนาด้วย เราว่าอาม่าเราโชคดีมากที่ได้ผ่าที่ศิริราช และได้ผ่าทันเวลา เพราะห้องผ่าตัดก็เต็มตลอด จนอาม่าเราอาการแย่มากๆแล้ว หมอเลยต้องลัดคิวห้องผ่าตัดให้ ---------- Tips การเข้ารักษาที่ศิริราช คือ ต้องเจอ อจ. หมอให้ได้ แล้วให้ อจ. ท่านรับเป็นคนไข้ ส่วนวิธีการที่จะได้เจอ อจ. หมอนั่น ก็ต้องแล้วแต่บุญวาสนา และ connection หากหา อจ. หมอ ให้รับเป็นคนไข้ไม่ได้ คนไข้ก็ได้แต่นอนรอเตียง หรืออยู่บนเตียงก็เจอแต่หมอ resident ที่ไม่สามารตัดสินใจอะไรเด็ดขาดได้ จนกว่าอาการจะแย่มากๆแล้ว เค้าถึงจะไปตาม อจ. มา จากคุณ : Nk (~Nk~) เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 22:06:43

ความคิดเห็นที่ 98 อ่านถึงตรงนี้ ผมสงสัยว่า... ถ้าเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น เราจะสามารถอัดวีดีโอการวินิจฉัยของหมอ เผื่อเป็นหลักฐาน ในกรณีที่หมอวินิจฉัยผิดพลาดได้หรือไม่? ถ้าหมอวินิฉัยผิดจริง ส่วนไหนจะรับผิดชอบตรงนั้น? การปฎิเสธรับรักษาของทาง รพ. มีโทษทางกฎหมายหรือไม่? ...................................................................... ถ้าอายุเกิน 30 เมื่อไร ผมจะทำประกันสุขภาพที่เข้า รพ. เอกชนดีๆแพงๆได้ เพราะผมไม่เชื่อในประกันสังคม และ 30 บาท.. มันพรากคนหลายคนไปจากผม จากคุณ : น้องหนูเอวตัน เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 53 01:09:37

ความคิดเห็นที่ 99 มีคนเคยพูดไว้ว่าเดี๋ยวนี้พวกหน่อยกู้ภัยรับเงินจาก รพ เอกชน เวลามีอุบัติเหตุ พวกเค้าเลยส่งตัวคนไข้ไปที่รพ.เอกชนที่ให้ตังก่อน ซึ่งบางครั้งก็ไม่ได้ใกล้ที่สุด จากคุณ : ยัยลีลี เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 53 17:10:41

ความคิดเห็นที่ 100 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 53 20:59:00