ความคิดเห็นที่ 1 ปัญหาฝังใจคาใจ อย่าคิดมากครับ ขอให้เค้าทำวันวันเวลาที่มีอยู่ ให้ดีที่สุดกับคุณ เดี๋ยวคุณก็ลืมมันไปเองและ จากคุณ : sega เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 16:04:29

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่รู้ แต่ผม ไม่เชื่อ...........   คือ อายุไม่น้อยแล้วไม่รู้จักควบคุม one night จะไม่ว่าเลย  ยังไม่แต่ง ดีแล้วเป็นผมผมเลิก ยอมเป็นโสดดีกว่า (อุ้ยเลือกเป็นโสดดีกว่า ) พอดีผมเป็นผู้ชายด้วยเป็นโสดไม่เห็นมีใครตายสักคน จากคุณ : แก้วคุง เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 16:13:57

ความคิดเห็นที่ 3 ผู้ชาย นอกใจ หลายใจ โลเล ทำไมต้องทน....? ทำไมต้องทน...? ทำไมต้องทน....? มีคำตอบมั้ยคะ ว่าทำไมต้องทน ทำไมต้องทำใจยอมรับกับคนไม่ซื่อสัตย์กับเรา และไม่ให้เกียรติเราขนาดนี้.... คุณว่า ในโลกนี้จะหาผู้ชายดีกว่านี้ไม่ได้แล้วหรอ ? จากคุณ : Absolute Pink เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 16:55:43

ความคิดเห็นที่ 4   เราคิดว่าถ้าเจ้าของกระทู้เองก็เจ็บเกินกว่าจะจับต้นชนปลายได้ถูก บางทีการรักษาระยะห่างสักนิด มีเวลาได้คิดทบทวนสักพัก อาจจะดีกว่าการตัดสินใจแบบสุดโต่ง มีทางเลือกแค่สองทางว่าจะคบต่อหรือเลิกก็ได้ค่ะ เรามองว่าเจ้าของกระทู้ัมีสิทธิ์ทุกประการที่จะ "ศึกษา" เขาใหม่ ตลอดจนสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันใหม่ด้วย เขาไม่ควรกดดันให้เจ้าของกระทู้ยอมรับในสิ่งที่เขากระทำได้ง่ายๆ หรือหว่านล้อมให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมอย่างที่เขาต้องการ ตัวเขาเป็นผู้ชาย เมื่อทำแล้วก็ควรจะกล้ารับในผลของการกระทำนั้นนะคะ ถ้าระหว่างที่ห่างกันนี้ เขาเตลิดไปเลย ไม่คิดจะประกอบความสัมพันธ์ที่แตกร้าวให้อยู่ในสภาพเดิม เจ้าของกระทู้ก็จะได้รู้ว่าธาตุแท้ของเขาเป็นคนอย่างไร แม้เจ้าของกระทู้จะว้าวุ่นใจ กลัวเสียของรัก หวาดระแวงต่างๆนานา แต่เราแนะนำว่าให้ "ปล่อย" เขาไปค่ะ เพราะถ้าเขาดีพอ สำนึกในสิ่งที่ทำจริงๆ เขาจะต้องเป็นเหมือนปลาที่ว่ายทวนกระแสขึ้นมา พยายามพิสูจน์ตัวเองเพื่อเจ้าของกระทู้ แต่ถ้าโดยนิสัยแล้วเขาคิดว่าเขาไม่ผิด การทำสิ่งนี้เป็นเรื่องปกติ ไม่ช้าไม่นานมันก็จะเกิดขึ้นอีก ดังนั้นลองปล่อยเขาไป อยากทำอะไรก็ช่างเขา เพื่อวัดใจว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนอย่างไรกันแน่ เราไม่อยากให้เจ้าของกระทู้ถูกกดดัน หรือถูกมัดมือชกให้ยอมรับว่าผู้ชายมีกิ๊ก ผู้ชายนอกใจและนอกกายนั้นเป็นเรื่องปกติ ถ้าผู้ชายส่วนมากหรือทั่วไปจะเป็นอย่างนั้นก็ช่างเขา แต่ผู้ชายที่เราเลือกมาเป็นคู่ของเราควรจะ "พิเศษ" พอที่จะไม่อ้างเหตุว่าใครๆก็ทำกันมาเป็นคำอธิบาย คนเราผิดพลาดกันได้ แต่การให้อภัยและความอดทนก็มีขอบเขตเช่นกัน ดังนั้นเจ้าของกระทู้ก็ลองประมวลความรู้สึกดูนะคะ ว่าจะทำอย่างไรต่อไป สำหรับบางกรณี ข้อดีร้อยข้อพันข้อก็ชดเชยกับความไว้วางใจที่เสียไปแล้วไม่ได้ สุดแท้แต่ใจคน อย่างไรก็ดี เราขอให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่เจ้าของกระทู้สบายใจขึ้น และขอให้คลายความกังวลได้ไวๆนะคะ จากคุณ : * เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 17:16:41 A:92.3.217.214 X: TicketID:152752

ความคิดเห็นที่ 5 คนทุกคนมีข้อดีและข้อเสียปนกันอยู่ทั้งนั้น การจะเลือกคบใครจึงควรดูที่ข้อเสียให้มากว่า ข้อเสียนั้นจะส่งผลกระทบกับตัวเรามากน้อยแค่ไหน เพราะข้อดีมันดีอยู่แล้วล่ะ หากเป็นข้อเสียเล็กๆ น้อยๆ แบบน่ารำคาญ เช่น ชอบขาก:-) ถ้าทนได้ก็ทน ทำใจได้ก็ทำใจ อภัยได้ก็อภัยไป แต่ในข้อเสียที่ค่อนข้างร้ายแรงอันอาจส่งผลกระทบทางร้ายกับคนใกล้ตัวได้ เช่น เป็นแฟนกับนักเล่นการพนัน วันร้ายคืนร้ายเราอาจจะไม่มีบ้านอยู่ก็ได้ เป็นต้น เรื่องแฟนนอกใจนั้น แสดงถึงความไม่รู้จักพอ มีหนึ่งไม่พอยังอยากได้อีก หากคิดดูว่าแฟนนิสัยแบบนี้ น่าจะนำความเดือดร้อนชนิดใดมาให้คุณได้บ้าง ก็น่าจะเป็นเรื่องโรคทางเพศสัมพันธ์ หรือแฟนของผู้หญิงตามมาเล่นงานเอารวมทั้งความร้อนใจอื่นๆ แต่ที่สำคัญคือ ความไม่ซื่อสัตย์นี่สิ คนเราลงไว้ใจกันไม่ได้แล้วนี่ ก็หมดแลย จากคุณ : good thinking เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 17:39:34

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้ารับไม่ได้ ไม่สบายใจ ไม่เชื่อใจ ไม่ไว้วางใจ ---> เลิกดีกว่าครับ ตรงที่คุณเขียน ป.ล.นั้น ขอค้านว่าเรื่องแบบนี้ "ไม่ใช่" เรื่องที่ผู้หญิงจะต้อง ทำใจยอมรับแล้วปล่อยวางนะ คนรอบตัวคุณ เช่นพี่ชายหรือเพื่อนเป็นแบบนี้ ซะมาก แล้วยังจะปล่อยให้แฟนคุณเป็นแบบนี้อีกเหรอไง คุณไม่เบื่อสังคม แบบนี้เหรอ นอกจากนี้ยังอาจมีความเสี่ยงในเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ตามมาอีก คุณพร้อมจะเสี่ยงเหรอครับ จากคุณ : กุ ก กิ ก กุ ก กั ก เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 18:42:24

ความคิดเห็นที่ 7 คือ เรารับเรื่องอย่างงี้ไม่ได้อ่ะค่ะ เรื่องแบบนี้ รู้เมื่อไหร่ เลิกทันที ไม่ให้โอกาสด้วยค่ะ รับไม่ได้ จากคุณ : San Makyos เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 20:09:36

ความคิดเห็นที่ 8 เราเลิกแน่นอนคะ ถ้าผู้หญิงคนไหนยอมให้นอนด้วยผู้ชายส่วนมากย่อมสนองตอบแน่นอน อาจติดพันบ้างไม่มากก็น้อย แต่นั้นก็ไม่สำคัญเท่าจิตใจเราที่จะบอบช้ำเองนะคะ จากคุณ : NanaTori เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 20:11:49

ความคิดเห็นที่ 9   ต้องขอบคุณสำหรับกำลังใจที่จขกท.ให้ในกระทู้เราก่อนนะคะ =) เราว่าคุณ สุดท้ายด้วยรัก จะทราบดีที่สุดค่ะว่ารู้สึกยังไงกับแฟนตอนนี้ บางคนไม่เครียดเรื่องนี้ แต่เครียดว่ารักกันจริงไหม บางคนไม่เครียดเรื่องแฟนเลย ไม่จริงจังอะไรมาก แต่เท่าที่เราอ่านแล้ว ก็ดูจะเป็นไปได้ดีทุกอย่าง และ จขกท.ก็น่าจะมีความสุขในเวลาที่ผ่านมา... มาติดที่เรื่องหญิงคนอื่น ถ้าตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปซ้ายดี หรือขวาดี ก็ใช้เวลาอีกสักนิดดีไหมคะ ? มันคงมีทางของมันแล้วล่ะ แต่ทางนั้นจขกท.ต้องเลือกเองนะคะ เรามาเป็นกำลังใจให้ จากคุณ : One for luck (One for luck .) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 20:47:51

ความคิดเห็นที่ 10 ก็ดีครับที่ได้รู้ก่อนแต่ง ว่าแต่เค้ารักคุณมากจริงเหรอ อ่านแล้วงง คนรักกันทำกันแบบนี้?? เอาล่ะ ในเมื่อเค้าขอโอกาสแก้ตัว คุณก็ตั้งกฏเลยครับว่าโทรไปต้องรับทุกครั้ง ถ้าหากมีเหตุให้คุณต้องหวาดระแวงอีก คุณจะเลิก โอเคป่ะ?? ถ้าเค้าตั้งใจจะแสดงให้คุณเห็นว่าเค้าไม่มีอะไรแล้วจริงๆ เค้าต้องทำได้ครับ ต้องรายงานตัวได้ทุกเวลา ว่าแต่เค้าจะยอมรึเปล่า (ก็ช่วยไม่ได้นี่ ทำตัวทุเรศเอง) แต่ก็ต้องถามใจตัวเองด้วย ว่าจะยอมอยู่กับความหวาดระแวงไปได้อีกนานแค่ไหน ซึ่งถ้าทนได้ก็ทนไป แต่ถ้าทนไม่ได้ก็ทิ้งมันไปเหอะ ต้นเหตุความอึดอัดทั้งหลายเนี่ย ชีวิตเรา เราเลือกเองได้ จากคุณ : DON'T CARE NEVER DIE เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:00:16

ความคิดเห็นที่ 11   เราเจอมาคล้าย ๆ คะ เรามารู้เอาทีหลังว่า... ที่ผ่านมาระหว่างเราคบกัน ก็มีใคร ๆ อีกมากกว่าหนึ่ง เสียใจจน เหมือนใจจะขาด... ให้เวลาส่วนตัว ให้พื้นที่ส่วนตัว เพราะคิดว่าคุณคงต้องการมันเพื่อจัดสรรชีวิตคุณ แต่แล้วก็... เอาเวลาเล็กน้อยที่ห่าง ไปทำอะไร อยู่กับใคร อยู่ที่ไหน ฉันเข้าใจ.. ไม่จู้จี่ ไม่โทรจิก ไม่โทรตาม ไร้สาระบ้าบอ ฉันไม่ทำเพราะ ฉันไว้ใจ เชื่อใจ มั่นใจ แต่แล้ว คุณเอาความไว้ใจ ของฉันไปปู้ยี่ปู้ยำ ทำให้มันเป็นโอกาส ทำได้ยังงัย ที่ทำทั้งหมดคิดแล้วเหรอ เสียใจที่สุด อธิบายออกมาไม่ถูกเลยคะ บอกตัวเองว่า... ผู้ชายคนนี้ไม่มีคุณสมบัติเป็นพ่อของลูกชั้นอีกต่อไป ไม่มีความยับยั้งชั่งใจ หากต้องห่างไกลกัน จะเอาอะไรมายึดเหนี่ยวใจ เอาอะไรมามั่นใจ... แต่งงานกันไป เกิดท้อง 9 เดือน จะมีเมียเพิ่มตามจำนวนลูกรึป่าว. แต่งงานกันไป เกิดทะเลาะกัน คุณจะหนีปัญหาโดยการไปพูดไปคุย สานต่อกับคนอื่นอีกรึป่าว เราถามเค้าว่าเราบกพร่องตรงไหน เราเข้ากันได้ทุกอย่าง เรารักกันไม่ใช่เหรอ ยังมีอะไรที่ฉันให้คุณไม่เต็ม คุณขาดอะไร เค้าบอกไม่มี... เราถามเค้าว่า คุณถามตัวคุณเองดูซิ คุณคิดว่าชีวิตคุณจะมีอะไรกับ ผญ คนเดียวไปตลอดชีวิตได้มั้ย เข้าใจในความต้องการ เต็มใจจัดให้ได้ทุกอย่าง แต่กับ ผญ เพียงคนเดียวจนแก่ตาย คุณคิดว่าคุณทำได้มั้ย... เค้าตอบว่า หากแต่งงานไป ก็คงต้องเป็นแบบนั้น "คง" -_-' "แต่งงาน" -__-' "แต่งงาน" แปลว่า ถ้ายังไม่แต่งทำงี้ไม่เสียหาย ทำได้เหรอ "คง" แปลว่า ไม่รู้เหมือนกัน คงทำได้มั้ง งั้นเหรอ สับสนคะ... แต่เมื่อรู้ทุกอย่าง เราก็ต้องมานั่งทบทวน ว่าเราจะอยู่เพราะความหวาดระแวงได้เหรอ ถามตัวเองซ้ำ ๆ ว่าอยู่ได้มั้ย เราอยู่ไม่ได้คะ... ภาพมันหลอนน่าดู ทบทวน ถามตัวเองดูนะคะ... หากเขาขอโอกาส ลองให้ดูก็ได้ แล้วลองสังเกตตัวเอง มากกว่าสังเกตจับตาเค้า ถ้าใจมันว้าวุ่นหวาด ระแวง จนไม่เป็นสุข ไม่มีคนรัก... อาจจะมีความสุขกว่า เพราะเรามีความเชื่อว่า แท้จริงแล้ว เจ้าชู้ ก็คือ คนที่มีรสนิยมเปลี่ยนคู่นอน จากคุณ : รักหรือที่เธอทำ.. เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 02:38:07 A:192.168.182.20 X:58.9.153.46 TicketID:265783

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องของคุณเจ้าของกระทู้คล้ายเรื่องของเรามากค่ะ เราก็เพิ่งจับได้ว่าแฟนเราไปมีอะไรกับคนอื่นอ่ะ นี่ผ่านมา 4 เดือนแล้ว เราร้องไห้แทบทุกวัน เมื่อวานวันเดียว 3 รอบ!!!..ขนาดนั่งเล่นเกมส์อยู่น้ำตาก็ไหล 4 เดือนผ่านมา ในความรู้สึกเราไม่ได้ดีขึ้นเลย ยังเหมือนเรื่องเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้ ตอนนี้เราก็ยังคบกับแฟนอยู่นะคะ แต่คบแบบไม่มีความสุขเท่าไหร่ เราพยายามเอาธรรมะเข้าช่วย ก็ช่วยได้แค่แป๊บๆ ไม่กี่ชั่วโมงเราก็กลับมาเครียดเหมือนเดิม เศร้าเหมือนเดิม เรากระแนะกระแหนเค้าตลอด (ซักวันเค้าอาจทนไม่ได้ แต่เราไม่แคร์ กรูเจ็บแล้วกรูต้องระบายบ้างสิวะ) วันก่อนเค้าก็พูดว่า.."ทำไมยังต้องมาคุยเรื่องนี้กันอีก เค้าเบื่อแล้ว" เราปรี๊ดเลย ตอบไปว่า "อ๋อ แค่นี้เบื่อเหรอ แล้วที่เธอทำเรื่องชั่วๆ มาเป็นเวลานานอ่ะ ไม่เบื่อบ้างล่ะ" เค้าเลยต้องทนให้เราด่าต่อ.. เหตุผลที่เรายังไม่เลิกเพราะเราคบมานานมาก 10 กว่าปี ความผูกพันมีเยอะ เค้าขอโอกาสเรา เราบอกว่าเราต้องการอย่างนี้ ทำไม่ได้ไม่ต้องคบ! 1. ขอหัวหน้าย้ายเค้าไปทำงานภาคอื่น 2. โทรรายงานเราทุกครั้งที่เปลี่ยนสถานที่ ทุกวันนี้เค้าโทรหาเราเวลาไปถึงจุดหมายปลายทาง ก่อนออกไปทานข้าวเที่ยงโทร ทานข้าวเที่ยงกลับเข้าที่ทำงานโทร เลิกงานโทร ออกไปทานข้าวเย็นโทร ไปถึงโรงแรมโทร ก่อนนอนโทร เราต้องรู้เบอร์ห้องและโรงแรมที่ไปพักทุกครั้ง สามารถโทรเช็คได้ 3. เราสามารถหยิบโทรศัพท์เค้ามาเช็คเมื่อไหร่ก็ได้ 4. ทุกเดือนต้องส่งรายงานการใช้โทรศัพท์ให้เรา (ที่ต้องขอจากผู้บริการเครือข่าย) ทุกวันนี้เค้าทำทั้ง 4 ข้อ และยังไม่ขาดตกบกพร่อง มีแต่ข้อแรกที่มันยังไม่สมบูรณ์ เค้าขอหัวหน้าย้ายเขตแล้ว (ขอต่อหน้าเรา) แต่ว่ายังไม่ได้ย้าย ทั้งหมดนี้..เราว่ามันก็สาหัสพอควร ในเมื่อเค้ายอม..บวกกับเราเองก็ยังไม่มีคนอื่น เราก็คบเค้าไปก่อน แต่ถ้าถามความรู้สึกเรานะ...อยากจะเลิกกับมันทุกวัน! ถามว่ารักเท่าเดิมมั๊ย...ไม่! ถามว่าห่วงเท่าเดิมรึเปล่า...เปล่า! ถามว่ามีความสุขมั๊ย...ก็มีบ้าง แต่ไม่เท่าที่ควร! ถามว่า...แล้วจะไปคบกับมันทำไม...ตอบได้ว่า..ก็กรูยังไม่มีใคร.. ตอนนี้เค้าก็อยู่ต่างจังหวัดค่ะ ตอนแรกเรากะว่าพรุ่งนี้เราจะบินไปหาเค้า แต่เค้าถามเราว่า..ที่เราจะมาเพราะเราเหงาเหรอ? เราบอกว่า..เปล่า ไม่ได้เหงา เราก็อยู่ของเราอย่างงี้มาตั้งนานแระ เค้าคงจับใจความได้ว่า..ที่เราจะไปหาเพราะเราไม่ไว้ใจ เค้าเลยบอกว่างั้นเค้าจะขับรถกลับมาหาเรา แล้ววันจันทร์ค่อยออกไปใหม่ ระยะทางเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าขากลับกรุงเทพฯ ขับรถ 4-5 ชั่วโมง ขาไป ขับรถ 5-6 ชั่วโมง (คนละจังหวัดกับขามา) ถ้าเป็นแต่ก่อนเราคงไม่ปล่อยให้เค้าลำบากอย่างงี้ แต่ตอนนี้...เราปล่อยให้เค้าทำ ทั้งนี้ทั้งนั้น..หลังจากผ่านมา 4 เดือนแล้วอาการเราไม่ดีขึ้นเลย เราเรียกค่าปรับ โทษฐานที่ทำให้เราเครียด ตกลงกันไว้ที่ 1 แสน เค้ายังไม่ได้ให้ซักบาทหรอกนะ และคงไม่ได้เป็นเงินก้อน แต่เราว่าเค้าไม่กล้าเบี้ยว แล้วเราเองก็ไม่ได้อยากได้ (หยั่งเชิงดู แต่เค้าดันยอม) และอย่างน้อย..มันก็ดีกว่าเราไม่ได้อะไรเลย เจ้าของกระทู้ไม่ต้องทำอย่างเราหรอกนะคะ เราก็รู้ตัวว่าที่สิ่งที่เราให้เค้าชดเชยมัน "เยอะ" แต่เราว่่่า..เราเจ็บไปไม่น้อย ถ้าจะวัดค่าเป็นตัวเงินมันวัดไม่ได้ แล้วถ้าจะวัดกันจริงๆ เราว่า 1 แสนยังน้อยไป แต่จะให้เราไปทำตัวเป็นผู้หญิงไม่ดี เพื่อประชดหรือแก้แค้น..เราไม่ทำอ่ะ และเราก็มั่นใจว่าเราเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง จะไม่ยอมลำบากเพื่อชดเชยความผิดที่เคยทำกับเราไว้ก็ได้นะ แค่เลิกกับเราไปซะ แต่เราว่า.."เราขายความดี"ได้อ่ะ จะทนลำบากหรือไม่ทนล่ะ ถ้าไม่ทนก็ไปคบกับพวกผู้หญิงปล่อยตัวใจง่ายก็แล้วกัน ถ้าคุณเลิกได้..เราแนะนำให้เลิกนะคะ แต่ถ้าเลิกไม่ได้ คุณต้องได้ข้อเสนอดีๆ มาค่ะ ปล. เราไม่ใช่นางเอกที่จะนั่งร้องไห้ เรียกร้องความสงสาร ความเห็นใจ แล้วจบๆ ไป วิธีของเราอาจจะดูร้ายๆ (ไม่อยากแนะนำให้ทำตามเท่าไหร่) แต่เรามั่นใจว่่าเราดีอ่ะ ชดเชยให้เราได้..เราก็คบได้ แต่จะให้จบไปเฉยๆ ง่ายๆ เราไม่ยอม เพิ่มเติมข้อความที่ตกหล่นค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 53 04:22:25 จากคุณ : ขนมชั้น...เธอห้ามกิน!!! เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 03:14:37

ความคิดเห็นที่ 13 เราไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้เลย แต่เรามองว่า ผู้หญิงที่ยังไม่เลิกกับเค้า ไม่ได้แปลว่าโง่ แต่เพราะยังทำใจเสียเค้าไปไม่ได้ ก็เลยยังต้องรั้งไว้ทั้งๆที่ก็เชื่อใจเค้าไม่ได้อีกต่อไป ความเข้มแข็งมันจะตามมาเองทีหลังคะ รอๆดูไปก่อน ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดเลยว่าต้องทำอย่างไร แต่ขอให้รู้ไว้ว่า โดยทั่วไปผู้ชายที่เคยนอกใจจะทำอีกแน่นอนค่ะ จากคุณ : น้องแฟรงค์ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 05:06:37

ความคิดเห็นที่ 14 ขออนุญาตคุณขนมชั้น...เธอห้ามกิน!! คคห.12 นะครับ ผมอ่านเรื่องราวของคุณแล้วเข้าใจความเจ็บปวดที่คุณได้รับเลยล่ะครับ แต่สิ่งที่คุณทำนั้น ผมมองว่ามันเหมือนการ "เอาคืน" หรืออาจพูดง่าย ๆ ว่า "แก้แค้น" ผมมีความเชื่อว่า "ความรักจะต้องทำให้คนสองคนมีความสุข" หากใครคนใดคนหนึ่งไม่มีความสุข หลังจากหาทางแก้ไขแล้วยังไม่หาย ก็ควรจะเลิกกัน แยกย้ายกันไปจะดีกว่า ถึงจะแต่งงานกันแล้ว หรือมีลูกแล้ว ผมก็มีความเห็นว่าควรเลิกกันดีกว่าทนอยู่แบบไม่มีความสุข ระยะเวลายาวนานนับสิบปีที่ผ่านมา มันต้องมีสิ่งดี ๆ ระหว่างกันมากมายแน่นอน แทนที่เราจะไปคิดว่า "เสียดายสิ่งดี ๆ เหล่านั้น" ก็ลองคิดใหม่ซิว่า "สิ่งดี ๆ มันก็ยัง คงอยู่ตลอดไป" เพียงแต่ว่า "มันอยู่ในความทรงจำ" เท่านั้นเอง ถ้ายังไม่ยอมเลิก และมาทำร้ายแบบที่คุณเล่ามา มันเหมือนเป็นการอาฆาตมาดร้าย จ้องจับผิด คอยแต่จะมองสิ่งแย่ ๆ ของอีกฝ่ายนึง คุณเองก็ไม่มีความสุข เขาเองก็ไม่มีความสุข ทำไมถึงไม่แยกย้ายกันไปตามทางของแต่ละคน ดำเนินชีวิตของแต่ละคนอย่าง "เย็นกายเย็นใจ" จริงอยู่ว่ามันอาจทำได้ยาก มันอาจทรมาน และมันอาจรู้สึกว่าเลิกกันแล้ว มัน "ทุกข์มากกว่าสุข" แต่นี่เปรียบเสมือนการ "ให้ยาแรง" น่ะครับ ยาแรงหน่อย อาจเจ็บปวดบ้าง ในช่วงแรก แต่ในที่สุดแล้วมันต้องหายแน่นอน อีกอย่างนึง ถ้าเลิกกันไป ก็ไม่ได้แปลว่ายังโกรธยังเกลียดกัน แต่หมายถึง การแยกกันแบบ "ให้อภัย" ที่แล้วก็แล้วไป แต่ต่อไปต่างคนต่างเดินดีกว่า พูดถึงเรื่องให้อภัย ผมแทรกตรงนี้ไว้นิดนึง บางคนอาจมองในอีกมุมนึงว่า ถ้าให้อภัยแล้ว ก็ต้องกลับมาดีกันหรือคบกันเหมือนเดิมซิ ถ้าบอกว่าให้อภัย แต่แยกกัน งั้นก็แสดงว่าไม่ได้ให้อภัยจริง..... ตรงนี้ผมว่าไม่เกี่ยวกัน ให้อภัยก็คือไม่จองเวรกันอีก แต่เราจะเลิกน่ะ เลิกแบบไม่จองเวรไง และมองในอีกมุมหนึ่ง บางทีอาจเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวคุณเองด้วย เขาคนนั้นอาจไม่ใช่คู่แท้ อาจเป็นเพียงคู่ที่ผ่านมาในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น คู่แท้ของคุณอาจกำลังเดินตามมาอีกไม่นาน ถ้าคู่แท้ของคุณมาพบคุณ ในขณะที่คุณยังมีเขา อาจเป็นการปิดโอกาสตัวคุณเองไปก็ได้ ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวของผมเอง ซึ่งอาจแตกต่างจากคุณขนมชั้น และผมขออภัยไว้ก่อน หากความเห็นของผมจะทำให้คุณไม่ชอบใจนะครับ จากคุณ : กุ ก กิ ก กุ ก กั ก เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 09:06:54

ความคิดเห็นที่ 15 นอกใจนอกกายนะคะ ทำไมยังจะมาทนด้วย แฟนไปมีอะไรกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าน่ะ สกปรกมากนะคุณ ไม่กลัวติดโรคเหรอคะ ลองถามตัวเองดีๆ ว่าเค้ามีค่ามากนักเหรอ ตัวคุณเองต่างหากที่มีค่ามากมายไม่เหมาะกับผู้ชายพรรค์นั้นหรอก จากคุณ : กระต่ายลงพุง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 10:05:38

ความคิดเห็นที่ 16 เข้าใจความรู้สึกนะคะ เพราะเคยเจอกรณีแนวๆนี้เหมือนกัน จะเลิก เค้าก็ไม่ยอม แต่ก็ไม่ได้ทำไรให้ดีขึ้น ตัวเราก็จะอยู่ในโหมดหลอน ระแวง เครียด ทางออกของแต่ละคน มันก็ไม่เหมือนกันนะคะ ข้าพเจ้าสำรวจใจตัวเองแล้ว พบว่ายังรักแฟนอยู่ และในเมื่อยังรักแฟนอยู่ ก็หมายถึงต้องการให้เค้ามีความสุข เพราะงั้น อะไรที่ทำให้เค้าได้ ก็ทำไป ส่วนความสุขในชีวิตเราเอง ถ้าแฟนทำให้ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร เราก็หาความสุขในชีวิตของเราเองได้ จุดนี้ ก็แล้วแต่คนนะคะ คุณต้องรู้จักตัวเอง แล้วจะพบทางออกที่เหมาะสมค่ะ :) ... จากคุณ : Spirited A's way เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 10:44:31

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีค่ะ คุณ  กุ ก กิ ก กุ ก กั ก ยินดีให้ร่วมแสดงความคิดเห็นนะคะ เรื่องที่คุณมองว่าสิ่งที่เราทำอยู่เหมือนการ"เอาคืน" หรือ "แก้แค้น" น่ะค่ะ เราเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างนั้นรึเปล่านะคะ ไม่รู้สึกตัวจริงๆ ค่ะ แต่ถ้ามันเป็นอย่างที่คุณว่าจริงๆ มันคงเป็นการเอาคืนที่ร้ายกาจมากเลย เราเองไม่ตั้งใจให้เป็นการเอาคืนหรือแก้แค้นนะคะ ก่อนมาถึงจุดนี้ ณ วันที่เรารู้เรื่อง เราฟ้อนเล็บเค้าไปเยอะ ด่าเค้าต่างๆ นานา และไม่มีน้ำตาซักหยด! เรายืนยันคำเดียวว่าจะเลิก เค้าขอโอกาสเรา.. ทุกวันนี้..เพื่อนเราบอกว่าเราไม่ได้ให้โอกาสเค้าหรอก เพราะเรายังกระแนะกระแหน ขุดมาด่าอยู่ทุกวัน หลายคนบอกว่า "มรึงเลือกแล้วว่าจะคบต่อ มรึงก็ควรจะหยุดพูดหยุดด่า" แต่เราก็ทำไม่ได้ ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนอื่นๆ เราคงแนะนำคำเดียวว่าเลิก เหมือนที่หลายๆ คนบอก แต่เหตุการณ์ของเรา..มันเกิดขึ้นตอนที่เราไปต่างจังหวัดกับเค้า 1 อาทิตย์ (ไปเที่ยวด้วย+ทำงานด้วย) เรามารู้ตอนวันที่ 4 ของการเดินทาง ตอนนั้นเราอยู่เขาค้อค่ะ ยังเหลืออีก 3 วััััน ซึ่งหมดวันเที่ยวแล้ว..เหลือแต่วันทำงาน และเราต้องไปงานแต่งงานกับเค้้าในวันสุดท้ายของการเดินทาง (เรารู้จักกับเจ้าบ่าว-เจ้าสาวแล้ว เจ้าบ่่าวเค้าบอกให้พาเราไปงานด้วย) เราขอที่จะกลับแล้ว แต่เค้าก็ขอร้องให้เราไปด้วยและบอกว่าพี่เค้าไม่เกี่ยว ความรู้สึกเราตอนนั้น..ไม่อยากอยู่กับเค้า แต่ก็ไม่อยากกลับบ้าน ไม่อยากให้แม่เห็นสภาพ เราก็เดินทางไปกับเค้าต่อ ระหว่างนั้นเราไม่คุยกับเค้าเป็นวัน แต่ก็ต้องคุยในงาน (ที่ทำงานเค้าจัดงาน) ให้เราไปนั่งบึ้งตึงก็น่าเกลียด เหมือนไม่ให้เกียรติเจ้าของงาน เราก็ทำตัวตามปกติ ไม่ให้เสียบรรยากาศ พอเป็นอย่างงี้แล้วจะให้กลับมาถึงกรุงเทพฯ แล้วค่อยเริ่มต้นโกรธต่อ..มันก็แปลกๆ อยู่นะ ส่วนถ้าจะบอกว่าก็ไม่ต้องโกรธสิ ก็คุยตามปกตินั่นแหละ แต่กรูจะเลิกน่ะ เราไม่เคยคบกับแฟนเป็นเพื่อนได้เลยค่ะ กับคนนี้เหมือนกัน..ถ้าวันนึงเราเลิกกับเค้า เราจะเลิกคุยไปเลย เราเป็นคนอย่างนี้นะ (จากแฟนคนก่อนๆ น่ะ แต่กับเค้า..เราก็ทำไม่ได้) ส่วนนึงเราก็เคยคิดเหมือนกันว่า..เรางี่เง่าไปรึเปล่า ทำไมจะเลิกแบบคบเป็นเพื่อนต่อไม่ได้ เราคิดๆ ดูแล้ว..และก็รู้สึกว่่่่าเราจะทำอย่างนี้ต่อไป คือ ถ้าเลิกก็เลิกไปเลย เพราะเราไม่อยากมีแฟนคนต่อไปแล้วเค้้าต้องมาไม่สบายใจที่เรายังติดต่อกับคนเก่าอยู่ (เรามองแบบผู้หญิงๆ อ่ะนะ ไม่รู้ผู้ชายเป็นกันมั๊ย)   ส่วนเรื่องเปิดโอกาสให้กับตัวเอง...เราอยากทำมากๆ ค่ะ แต่เราเลือกที่จะปิดโอกาสนั้นมาหลายปีแล้้ว เราอาจจะโง่ที่ไว้ใจ เราอาจจะตัดสินใจเร็วไป (10 ปีหลังจากที่คบกัน) แต่ในตอนนั้นเรารู้สึกว่า..ยังไงชีวิตนี้เราก็เลือกแล้วจะอยู่กับเค้า ทั้งใจ..เราให้เค้าไปหมดแล้ว เราก็ไม่รู้จะเปิดโอกาสให้คนอื่นเดินเข้ามาให้เกิดปัญหาทำไม พอถึงวันนี้...เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นแล้ว เราบอกตัวเองว่า..เราควรจะเปิดโอกาสให้ตัวเอง แต่ปัญหาคือ...เราทำไม่ได้ หลังจากที่พยายามแล้วค่ะ ก็หวังเหมือนกันว่า..ซักวันเราจะเปิดตามองคนอื่นๆ บ้าง อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ เราคบกับเค้ามา 13 ปีแล้วค่ะ เราเคยเลิกกับเค้าแบบจริงจัง (แต่ไม่ได้ขาดการติดต่อ) เรามีแฟนใหม่ ส่วนเค้า..เราไม่รู้และไม่ใส่ใจที่จะรู้ ระหว่างที่เรามีแฟนใหม่ เราก็บอกเค้า แต่เค้าก็ยังตามรับ-ส่งเรา พยายามทำดีกับเรา (แฟนใหม่เรารู้ เราไม่ได้ปิดบัง) สุดท้ายเราก็เลิกกับแฟนใหม่ด้วยเหตุผลอื่น ไม่เกี่ยวกับเค้า แล้วเรากับเค้าก็กลับมาคบกันเหมือนเดิม (เราว่าถ้าเราขาดการติดต่อไปเลยน่าจะดีกว่่่า และครั้งต่อไป..เราจะทำอย่างนั้น) เรารู้..สิ่งที่เราทำอาจจะดูงี่เง่าสำหรับหลายๆ คน ทำไมเราไม่เลิกๆ ไปซะ เราไม่อยากหาข้ออ้างให้ตัวเองดูดี แต่เราบอกได้เลยว่า 13 ปีที่ผ่านมา เราผ่านอะไรด้วยกันมาหลายอย่าง เค้าเป็นคนเดียวที่เราพูดได้ทุกเรื่อง เค้าเป็นคนเดียวที่เก็บความลับเราอยู่ เค้าเป็นคนเดียวที่เรากล้าทำอะไรทุเรศๆ ให้เห็น..แล้วเค้าก็รับได้ เค้าเป็นคนเดียวที่กล้ากำตดใส่มือแล้วไปแบให้เค้าดม (จะเล่าทำไมเนี่ย - -') เราเคยอยู่หอด้วยกัน แล้วเราไม่มีปัญหาในการอยู่ด้วยกันเลย ไม่เหมือนบางคู่ที่พอย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน พอเห็นข้อเสียแล้วก็เริ่มเซ็ง ถ้าให้สาธยายถึงชีวิตที่ผ่านมา 13 ปีกับเค้า คงเขียนเป็นนิยายได้หลายร้อยหน้า เอาเป็นว่า...ถือว่าเราให้คำมั่นไว้ในนี้เลยแล้วกันนะคะ เราจะให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้ามีครั้งต่อไป..เราเลิกแน่นอนค่ะ ขอบคุณ คุณ  กุ ก กิ ก กุ ก กั ก มากนะคะ เรายินดีมากๆ และดีใจที่คุณช่วยแสดงความคิดเห็นค่ะ ^^ *แก้ไข เพิ่มเติมค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 53 11:42:42 จากคุณ : ขนมชั้น...เธอห้ามกิน!!! เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 11:31:52

ความคิดเห็นที่ 18 เราเห็นด้วยกับคุณกุกกิกทุกประการค่ะ แต่เรายอมรับในการตัดสินใจของคุณขนมชั้น ว่าคุณรู้จักตัวเองดีที่สุด และได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองค่ะ จากคุณ : น้องแฟรงค์ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 12:23:34

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีครับ คุณขนมชั้น ลองมาทบทวนดู ผมพูดแรงไปที่บอกว่าคุณเหมือน "เอาคืน" หรือ "แก้แค้น" ความจริงคุณคงจะแค่มีโทสะ ก็เลยกระทำไปอย่างที่คุณได้เล่ามา ผมขอโทษครับ ผมเข้าใจสถานการณ์ของคุณมากขึ้นจาก คคห.17 โดยทั่วไปปัญหาแบบนี้ผมจะมีความเห็นว่าสมควรเลิก แต่ถ้าคุณจะให้โอกาสเขาอีกครั้งนึงเป็นครั้งสุดท้าย ผมก็เข้าใจ เพราะระยะเวลาถึง 13 ปีนี่มันถือได้ว่า ยาวนานมากพอสมควรในการคบกันมา มันยาวนานจนไม่อาจจะตัดสินใจเลิกได้ง่ายนัก ผมเอาใจช่วยนะครับ เรื่องการให้โอกาสอีกครั้งนึงนั้น หมายถึงถ้าแฟนคุณเค้าออกนอกลู่นอกทางอีก ก็แสดงว่าจบใช่ไหม จากที่คุณ เขียนมาใน คคห.12 ผมคิดว่าแฟนคุณคงไม่ออกนอกลู่นอกทางหรอก (ยกเว้นเค้าอยากเลิกกับคุณเอง) แต่ที่ผมสงสัยก็คือ คุณจะเข้มงวดกับแฟนคุณแบบนี้ไปได้ตลอดสักแค่ไหน ยกตัวอย่างนะครับ สมมติคุณเป็นคุณครูอยู่หน้าห้องเรียน ครูดุเด็ก ๆ ว่า "ห้ามคุยกัน" แล้วครูก็จ้องเขม็ง คอยดูเด็ก ๆ ไว้ตลอดเวลา ในช่วงนั้นอ่ะนะ เด็ก ๆ ไม่มีทางคุยกันหรอก เพราะกลัวครูดุ แต่ครูก็ไม่สามารถที่จะ เฝ้าเด็กได้ตลอดเวลา พอครูเผลอเมื่อไหร่ เด็กก็มีโอกาสมากที่จะคุยกันเหมือนเดิมแหละครับ มีอีกอย่างนึง เรื่อง "เปิดโอกาสให้ตัวเอง" ในความเห็นของผม การเปิดโอกาสให้กับตัวเอง ก็คือการที่เราว่าง เราไม่ได้คบใครเป็นแฟนหรือคนรัก แค่นี้เอง ไม่ได้หมายถึงการต้องไปมองหาคนอื่น ถ้าเรามีแฟนแล้ว นั่นคือปิดโอกาสไม่ให้คบใครเป็นแฟนได้อีก จะคบได้ก็แค่เพื่อนเท่านั้น (ไม่พูดถึงคำว่ากิ๊ก เพราะนั่นหมายถึงชู้) แต่ถ้าเราไม่มีแฟน เราก็ยังคงคบคนอื่นแบบเพื่อนได้ทั่วไป และหาก "คลิก" กัน มีการบ่มเพาะความสัมพันธ์ ความรู้สึกดี ๆ ต่อกันไปเรื่อย ๆ ก็สามารถที่จะแปรเปลี่ยนไปเป็นคนรักได้ โดยที่ เราไม่จำเป็นต้องไปมองหาใครเลยสักนิดเดียว พูดง่าย ๆ เราก็แค่ดำเนินชีวิตโสดไปตามปกติ มีเพื่อนไปตามปกติ ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องช่วยในการประสาน จังหวะชีวิตในการรู้จักคนอื่น และให้ความรู้สึกในใจของเรา (และอีกฝ่ายนึงด้วย) เป็นเครื่องช่วยตัดสินว่า เราและเขาควรจะไปกันในรูปแบบใด อ่านที่ผมเขียนแล้วอาจจะงง ๆ หรือเปล่าเนี่ย อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกยินดีที่ได้แบ่งปันประสบการณ์ชีวิต ได้แสดงความคิดความเห็นออกมาสู่กัน ขอบคุณมาก และขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดีนะครับ จากคุณ : กุ ก กิ ก กุ ก กั ก เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 13:58:44

ความคิดเห็นที่ 20 จขกท มาแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะสำหรับทุกความเห็น คุณ One for luck  ---- ดีใจจังเลยค่ะที่จำได้ คุณ ขนมชั้น...เธอห้ามกิน!!!   คุณ Spirited A's way เรื่องแบบนี้ไม่เจอกับตัวนี่ไม่รู้จริงๆนะคะ ขนาดเราเจอแล้วยังไม่รู้จะทำยังไงเลยค่ะ คุณ  DON'T CARE NEVER DIE   เรื่องรายงานตัวตลอดนี่ทำได้อยู่แล้วค่ะ คุณsega ขอบคุณมากค่ะ ขอให้เป็นแบบนั้นเหมือนกันค่ะ ขอเล่าเพิ่มนิดนึงนะคะ คือเค้ากับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้คบในลักษณะแฟนอ่ะค่ะ คือเจอกันบนเตียงกะที่เที่ยวอย่างเดียว ที่คิดแบบนี้เพราะว่าเราเจอกับแฟนทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ ซึ่งแฟนเราไม่ไปแน่ๆค่ะ ผู้หญิงคนนั้นเค้าก็มีกิ๊ก มีชู้ไปเรื่อยๆเหมือนกัน ณ ตอนนี้เราก็ยังคบกับเค้าเหมือนเดิม ทำทุกอย่างตามปกติค่ะ ในเมื่อเค้าขอโอกาส แล้วเราให้ไปแล้ว ก็อยู่ที่เค้าแล้วว่าจะทำยังให้มันดี ซึ่งเค้าก็รับปากกับเราแล้ว ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก เราก็จะคอยดูไปเรื่อยๆค่ะ ถ้ามันเกิดขึ้นอีกก็คงรับไม่ได้แล้วค่ะ เราคบกันมาก็นาน อาจะไม่ถึง 10 ปีแบบคุณขนมชั้นนะคะ แต่ก็ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน มีอะไรก็อยู่ข้างกันตลอด เค้าเป็นคนที่รับในทุกอย่างที่เราเป็นได้ ทั้งนิสัย และครอบครัว เราเป็นคนคิดมากค่ะ แล้วก็ชอบคิดนั่นคิดนี่ สุดท้ายก็คิดเองเจ็บเองค่ะ ตอนนี้ก็จะเลิกคิดถึงเรื่องเลวร้ายที่ผ่านมา ขอจำแต่เรื่องดีๆแล้วกันค่ะ ณ ตอนนี้ เค้าทำผิด แล้วยอมรับ และสัญญาว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก เราเลือกที่จะให้โอกาสและรอดู ก็คงต้องดูกันไปค่ะ ขอมีความสุขกับปัจจุบันดีกว่าค่ะ สุดท้ายขอให้ทุกๆคนมีความสุขกับความรักนะคะ สุดท้ายด้วยรักจริงๆค่ะ จากคุณ : สุดท้ายด้วยรัก เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:41:45

ความคิดเห็นที่ 21 อิอิ ทำงัยได้  คงได้แต่รอเวลานะครับ เวลาอะไรก็ไม่รู้  แต่คงต้องรอ อาจมีใครสักคนมาทำให้คุณเปลี่ยนใจจากเขา อาจมีใครสักคนมาทำให้เขาเปลี่ยนใจจากคุณ หรือบางที อาจไม่มีอะไรเลย หรือบางที อาจมีแต่ความผิดหวัง หรือบางที อาจมีความสุขก็ได้ บางครั้งเมื่อยังไม่ถึงเวลากับสิ่งที่เราไม่อยากเปลี่ยนแปลงมัน มันก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนไปได้  เพราะใจเรายังไม่พร้อม   เพราะเรายังเจ็บไม่หนักพอ  เรายังรับได้ และมีความหวังว่ามันจะดีขึ้น   ตราบใดที่เรายังมีความหวัง  และมีความกลัวในใจ เราก็ก้าวเดินต่อไปไม่ได้  ได้แต่ฝากอนาคตไว้กับ  "เวลา" หวังว่าเวลาคงตัดสินชีวิตเรา  สักที   แต่เมื่อนึกอีกทียามดีเขาก็ดีแสนดี  ก็คงทำให้มีความหวังที่จะต่อเวลาต่อไป   แม้จะเจ็บปวดก็หายเหนื่อยได้  ลืมได้  อยู่กับปัจจุบัน ดีกว่า  ปัจจุบัน คือความมั่นคง  อดีตคือความเจ็บปวด  อนาคตอาจมีหรือไม่มีความสุข คิดได้แค่นี้  ก็อยู่ต่อไปได้ครับ สร้างบุญกุศลเยอะๆ น่ะครับบุญรักษาเราได้ครับ ขอให้โชคดีเป็นของคุณ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 53 20:36:07 จากคุณ : sega เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 20:32:02

ความคิดเห็นที่ 22 แหะ เราเลิกไปแล้ว แต่ก่อนเลิกก็ทนมาเยอะเหมือนกัน ทนจนรู้สึกว่า ชักจะไม่เป็นคนแล้วเว้ย แต่กำลังเป็นควาย ทนแดดทนร้อนทนฝนดีจริงวุ้ย . . . แล้วก็เลิก ทั้งที่ยังไม่พร้อมนั่นแหละ คิดตลอดว่าต่อไปเราจะอยู่ยังไง รักเค้ามากเลย เราทนไม่ไหวแล้ว เราจะขาดเค้าได้ยังไงกัน แต่พอคิดลึกๆ ว่าต่อให้ทนไป ก็ต้องเสียใจอยู่ดีนี่นา อยู่คนเดียวมันมีทางหายนะ วันหนึ่งแผลคงหาย แต่ทนไปนี่ไม่รู้อนาคตเลย สุดท้ายก็กลั้นใจเลิก เสียใจเจียนตาย แต่ตอนนี้มีความสุขมากค่ะ มากจนรู้สึกว่า รู้งี้น่าจะเลิกตั้งนานแล้ว แหะๆๆ อ่อ มีคำโบราณคำหนึ่ง เราจำแน่ชัดไม่ได้นะคะ เค้าว่าลูกผู้หญิงก่อนแต่ง...ให้เปิดหูตากว้างๆ ไว้ แต่พอแต่งงานไปแล้ว...ก็ปิดตาปิดหูเสียข้างหนึ่ง ขอให้เจอทางเดินที่เหมาะสมนะคะ จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 23:20:10

ความคิดเห็นที่ 23 ในอนาคตถ้าได้แต่งงานกับผู้ชายแบบนี้ สักวันคุณจะเข้าใจค่ะว่าทำไมคนในนี้ถึงบอกให้คุณเลิก แต่จขกทก็เลือกทางของตัวเองแล้ว คือให้อภัย บางกรณีให้อภัยได้นะคะ แต่สำหรับเรื่องนอกใจแบบนี้ ครั้งเดียวก็เกินพอค่ะ ที่จะให้ผู้ชายเลวๆแบบนี้เห็นว่าเราโง่ เพราะผู้ชายแบบนี้มักคิดว่าผู้หญิงโง่ นอกใจครั้งสองครั้งก็ไม่มีวันรู้หรอก ถึงรู้แล้ว ตีหน้าเศร้าหน่อยก็ให้อภัย แล้วจขกทก็ทำแบบนั้นจริงๆ เรื่องบางเรื่องมันก็ไม่มีคำว่าให้อภัยได้ตลอดหรอกค่ะ คือ ถ้าคบกันไป ด้วยใจที่ไม่ซื่อสัตย์แล้วเนี่ย อย่าเอามาเป็นพ่อของลูกเลยค่ะ เห็นมาเยอะแล้ว ไม่วายก็มาตั้งกระทู้แบบนี้อยู่ดี จากคุณ : แฟนสาวฮัตโตริคุง เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 53 04:53:15

ความคิดเห็นที่ 24 ประสบการณ์ของเรา จับได้หนึ่งครั้ง ให้โอกาสและคำขาดค่ะ ครั้งที่สอง..ไม่ใช่ความผิดพลาดแล้ว sundanชัดๆ เลิกสนิท  เสียใจร้องไห้จะตายก็ต้องยอม ดีกว่าจมปลัก วนเวียนอยู่ในวัฏจักรหนอนแมลงวันแบบนั้น ทุกวันนี้มีความสุขมากๆ ที่ก้าวออกมา จากคุณ : อินทวา เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 53 15:36:10

ความคิดเห็นที่ 25 ประสบการณ์คล้ายๆ กันเลยค่ะ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อ 3 ปีก่อน เเต่เราเพิ่งรู้ ปวดเเสบบบบตับได้อีก เท่าที่คุณแฟนเล่า เเค่คุยกิ๊กกั๊กกันเเค่อาทิตย์เดียว เราจับได้ซะก่อน เเต่เจ็บค่ะ เราคบกันมา 6 ปี ไว้ใจเค้าตลอด เเต่พอมาเจอเรื่องเเบบนี้ ความไว้ใจเป็น 0 ทันที ณ ตอนนี้ เราเลือกที่จะเชื่อ ให้อภัย เเละให้โอกาสค่ะ เพราะเรารักเค้า อยากให้เค้าเป็นพ่อของลูกเรา เเต่จิตใจมันเเย่ๆ มากเลยค่ะ ต้องอยู่บนความหวาดระเเวง ถามนั่น ถามนี่ เค้าตลอดทั้งที่ไม่เคยถาม เเต่เราบอกเค้านะ ว่า มันเป็นเพราะเธอ เค้าก็เข้าใจ เราคิดว่ามันคงต้องใช้เวลา เดี๋ยวมันคงจะเลือนหายกลายเป็นอดีตไปค่ะ ยังไง เป็นกำลังใจให้คุณ จขกท ด้วยนะคะ จงรักอย่างมีสติ ให้น้ำหนักของสมอง กับหัวใจ เท่าๆกัน เเล้วจะพบคำตอบของชีวิตค่ะ โชคดีนะคะ จากคุณ : หลานยายเล็ก เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 13:35:26