ความคิดเห็นที่ 1 ฟ้องเลยค่ะ รับไม่ได้ หมอ BB จากคุณ : nanako_ozone เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 19:55:42

ความคิดเห็นที่ 2   เป็นกำลังใจให้คุณแม่หายป่วยไวๆนะค่ะ จากคุณ : Sea and Sand (Sea and Sand) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:29:47

ความคิดเห็นที่ 3 เจอยังงี้ ถ้าเป็นผม หมอคนนี้โดนเตะ จากคุณ : ปืนโตมหาชัย เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:31:45

ความคิดเห็นที่ 4 กดf5รอคห.ต่อไปครับ จากคุณ : Gulp (CH3-CH2-OH) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:33:24

ความคิดเห็นที่ 5 แบบนี้ใช่ไหมคะ ที่เค๊าเรียกกันว่า ------------------หมอเวร---------------!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : momyoungster เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:34:42

ความคิดเห็นที่ 6 จำเอาไว้หมอไม่ได้ใจดีอย่างที่เราเชื่อฝังหัวตั้งแต่เด้กๆ ร้องเรียนได้เลย ยังไงเขาก็ลุกจ้างเหมือนกัน กินเงินเดือนของเราเหมือนกัน ถ้าไม่มีเหตุผลอย่ายอม สงสารหมอดีๆมีเพื่อนร่วมอาชีพแย่ๆ จากคุณ : ลึกลับซับ_tui เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:35:07

ความคิดเห็นที่ 7 จรรยาบรรณอยู่ไหนเนี่ย ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะรู้นี่หว่า แถมยังมีหน้ามานั่งเล่น BB อีก แพทย์หน่ะมีเพียบคะ แต่หมอจริงๆมีไม่มากนัก อาจารย์หมอเคยพูดเอาไว้ จากคุณ : โบโบโร่ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:38:42

ความคิดเห็นที่ 8 ลองพูดแบบนี้กับผมหมอเจอถีบแน่ๆ จากคุณ : ~จอมโจรโร๊ก~ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:39:38

ความคิดเห็นที่ 9   ขอบคุณนะคะ แต่มีอีกนิด ต้องขอโทษด้วย พิมพ์ชื่อหมอผิดค่ะ เค้าชื่อ -----------ค่ะ รีบมาแก้ เพราะกลัวคนที่-------เดือดร้อนคะ ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้แม่นะคะ จากคุณ : Little Monkey เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:42:20 A:125.24.148.185 X: TicketID:266371

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่มีจรรยาบรรเเพทย์เลยนะคะ เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆกันค่ะ ขนาดเป็นโรงพยาบาลเอกชนด้วยนะคะ ถามนู่นถามนี่มากเกินไป ทำท่าไม่พอใจ ....ท่าให้เดา หมอคนนี้แอบแรง เป็นกระเทย เกย์ ตุ๊ดรึป่าวคะ จะว่าไปขนาดเรียนมหาลัยเดียวกัน นักศึกษาแพทย์ที่เป็นผู้ชายยังเป็นเกย์กันเกือบหมด เฮ่อว คนสมัยนี้ จากคุณ : juledy เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:42:22

ความคิดเห็นที่ 11 คนแบบนี้เรียกหมอไม่ได้หรอกครับ เค้าไม่ได้มีใจเป็นหมอ แต่ทำอาชีพเท่านั้นเอง จากคุณ : ปัญญาสาร เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:44:56

ความคิดเห็นที่ 12   ท่าทางเป็นแบบนั้นค่ะ แอบแรงมากๆ จากคุณ : joyce6d@yahoo.com เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:49:55 A:125.24.148.185 X: TicketID:266371

ความคิดเห็นที่ 13 ขนาดหมอยังหวังพึ่งไม่ได้ แล้วจะให้คนไข้ไปพึ่งหมาที่ไหน ไม่ใช่พ่อแม่มันนี่ มันเลยไม่ใส่ใจ เป็นพ่อเป็นแม่มันเมื่อไหร่ มันจะรู้สึก นี่เหรอคนที่หวังฝากชีวิตเอาไว้ยามป่วยไข้ ไม่น่าจะได้ปริญญาแพทย์มาเลยนะ ขนาดเพศตัวเองยังสับสน นับประสาอะไรจะไปรักษาคนอื่น ไปรักษาโรคจิตวิปริตของตัวเองให้ได้ก่อนเหอะ จากคุณ : คนผ่านมา (jatchara) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 20:50:22

ความคิดเห็นที่ 14 IQ สูง แต่ EQ ต่ำ กลับไปรักษาตัวเองก่อนดีม่ะ ยัยหมอ BB จากคุณ : nanako_ozone เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:02:00

ความคิดเห็นที่ 15 กรณีนี้ฟ้องแพทยสภาได้มั้ยคะ จากคุณ : meyamotim เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:34:20

ความคิดเห็นที่ 16 หมอนิสัยไม่ดีแบบนี้คงจะไม่เจริญหรอกครับ โรงพยาบาลที่คุณไปผมรู้จักละ ง่ายมากเลยสำหรับคนอยู่ในย่านๆ นั้น สงสารก็แต่คนไข้คนอื่นๆ ที่จะต้องมาเจอกับหมอไร้จรรยาบรรณแบบนี้ จากคุณ : ปู่ก้า เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:52:02

ความคิดเห็นที่ 17 นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์   ก็ทำเป็นตัวอย่างให้ดูแล้ว ทำไมไม่เดินตามรอยมั่งนะ  เอาแค่  20% ก็ยังดี รู้มั้ย  พ่อแม่ทั้งผลักทั้งดันส่งเสียให้ลูกเรียนหมอเพราะอะไร เพื่อมีรายได้สูงๆชืวิตจะได้ไม่ลำบาก หลานผมล่ะคนหนึ่ง ขอให้คุณแม่หายไวๆนะเครับ จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:09:54

ความคิดเห็นที่ 18 ดิฉันทำงานใน รพ. ได้พบเห็นเรื่องพวกนี้มาเยอะ  ขอแสดงความเห็นในอีกแง่มุมหนึ่งในฐานะคนทำงานนะคะ  อย่าคิดว่าแก้ตัวเลย  แค่แชร์ข้อมูลนะคะ " แต่สิ่งที่ได้เจอกลับเป็นว่า แม่นอนในห้องฉุกเฉินโดยไม่มีใครสนใจเลย" ตอบ..... หลังจากแพทย์ตรวจแล้วพบว่าไม่น่าจะเกิดจากสาเหตุรุนแรง  ให้ฉีดยาแก้วิงเวียนแล้ว   เราก็ปล่อยให้ผู้ป่วยพักผ่อนให้เต็มที่ค่ะ   สังเกตุอาการ  หรือสัญญาณชีพเป็นระยะ  คนไข้นอนตื่นมาจะได้หายวิงเวียน  ญาติที่มาเห็นจังหวะที่คนไข้นอนอยู่เฉยๆนี้มักจะบอกว่า "ทำไมไม่เห็นทำอะไรเลย  หมอไปไหนเนี่ย"  บางครั้งดิฉันก็อยากทราบว่าญาติคาดหวังว่าจะเห็นภาพอะไรเมื่อมาเยี่ยมผู้ป่วย   พยาบาล 10 คนรุมนวด  แพทย์ร้องเพลงโอเปร่าให้ฟังเพื่อความผ่อนคลายหรือไร การเริ่มบทสนทนาที่ว่า "ทำไมไม่ทำอะไรเลยเนี่ย"  สร้างอารมณ์ ปิ๊ดให้จนท.ได้เหมือนกัน  เพราะเหมือนดูถูกการทำงาน และจรรยาบรรณของ จนท. ทุกท่าน ณ ที่นั้น "เพื่อนๆ ค่ะห้องฉุกเฉินนะคะนอนเกือบสองชั่วโมงครึ่ง ทำไมเพิ่งคิดได้ว่าต้องตรวจเลือด (ไม่รอพรุ่งนี้เลยละคะ)" เมื่อดูจากประวัติแล้วไม่ได้เกิดความผิดปกติอะไร   การตรวจครั้งที่แล้วก็ไม่พบความผิดปกติ  จึงไม่คิดจะเจาะเลือดหรือตรวจเพิ่มเติม   แต่เมื่อญาติดูท่าทางกังวลมาก  จึงจัดให้ซักดอก  เพื่อความสบายใจของทุกท่าน  เป็นที่มาของคำว่า  "เพิ่งคิดได้เหรอ"  ซึ่งถ้าหมอยืนยันว่าจะไม่ตรวจเพิ่ม  ไม่ทราบว่าจะยิ่งไม่พอใจรึเปล่านะคะ เรื่องประเด็นการพูดจาดูถูกผู้รับบริการ  อันนี้ไม่สมควรอย่างยิ่ง  ไม่ว่าอาชีพใด  ไม่ว่าลูกค้าจะแสดงอาการอย่างไร  อ่านแล้วก็เคืองแทน  แย่ชะมัด  เห็นด้วยที่ต้องเอามาด่า ณ กระทู้นี้ "แต่ที่พบค่ะ คุณหมอไม่ได้ไปเรียกแฟ้มประวัติมาดูเลยค่ะ พอดิฉันถามค่อยเดินมาดู " คนไข้มาแบบฉุกเฉิน  บางทีต้องใช้เวลารื้อค้นประวัติสักพัก  แล้วฝ่ายเวชระเบียนค่อยส่งมาให้ตามหลัง  แต่แพทย์ไม่น่าพลาดนะคะเรื่องการ check ประวัติเก่า (เห็นว่านอนมา 2 ชม. แล้วนิ)  บางทีอาจดูเรียบร้อยแล้วแหละ  แต่ว่าพอคุณมาถามก็เลยเชคดูอีกทีเพื่อความมั่นใจ จะได้ไม่ตอบอาการผิดคน "กลับเข้ามาเห็นอะไรรู้ม่ะคะ คุณหมอนั่งเม้าท์โทรศัพท์ ออกรสออกชาติมาก แถมนั่งเล่น BB อีก" + "เห็นพยาบาลนั่งคุย ไม่เห็นหมอเวร" เมื่อสั่งการรักษาเสร็จ  ก็เป็นหน้าที่พยาบาลฉีดยา  อาการของผู้ป่วยหลายๆท่านต้องคอยสังเกตอาการ + รอจ่ายตังค์ ฯลฯ ระหว่างนั้น 2-3 ชม. จะให้หมอ+ พยาบาลนั่งทำอะไรดีคะ  อุตส่าห์นั่งอยู่ใกล้ๆ  เผื่อคนไข้จะขอความช่วยเหลืออะไร  อาจมีเขียนสรุปอาการ เม๊าท์กันบ้าง ประสาหญิง นั่งแลกเวร  เป็นปกติค่ะ  ส่วนหมอเวรก็คงหาอะไรทำไปเรื่อยเปื่อย   ถ้ามาห้องฉุกเฉินแล้วไม่พบแพทย์นั่งอยู่คุณก็ไม่พอใจ  เจอนั่งประจำอยู่แต่เล่น BB ฆ่าเวลาก็ยังไม่พอใจอีกอยู่ดี แพทย์ - พยาบาลสมัยนี้มีการตั้งคำถามกันมากเรื่องจรรยาบรรณ  ส่วนหนึ่งก็เป็นความจริง  แต่ว่าจากสื่อหรือการพูดปากต่อปากโดยขาดความเข้าใจ  ทำให้ภาพลักษณ์ที่ปรากฎดูเสื่อมทรามมากกว่าที่เป็นจริงเยอะ อยากให้ฟังความเห็นทั้ง 2 ด้านดูแล้วกันนะคะ  หากความเห็นนี้ทำให้ใครไม่พอใจ  อิฉันขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ อนึ่ง  ดิฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์   จึงตอบไปตามความเข้าใจ และคาดคะเนจากข้อมูลที่ จขกท. ให้มาค่ะ จากคุณ : ฝ้ายผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:53:33

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ จขกท. ทำไมลืมลงชื่อจริง  นามสกุลจริงของตัวเองละ ไม่ยุติธรรมสำหรับหมอที่คุณลงชื่อ นามสกุลเขาเต็มๆเลย แล้วก็เล่าให้ครบสิครับว่าคุณแม่คุณมีอาการอะไร  อย่างไร อ้อ  แจ้งชื้อ นามสกุลจริงด้วยจะได้ตรวจสอบได้หากไปรักษาต่อที่อื่น ถ้าคุณแม่คุณอาการหนักจริง  รอนานขนาดนี้คงขาดใจไปแล้ว แต่ตอนนี้คงยิ้มได้แล้วใช่ไหมครับ จากคุณ : ก็แค่อยากด่าหมอ (silverliner) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:54:00

ความคิดเห็นที่ 20 กระทู้แนวเดิมๆ ข้อมูลฝ่ายเดียว ไม่กล้าใช้ log in จริง คงกลัวถูกฟ้องกลับใด้ เห็นด้วยอย่างยิ่งกับ # 18, 19 จากคุณ : no preservation เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 23:56:35

ความคิดเห็นที่ 21   อืม เห็นใจค่ะ เราว่าคนไม่รู้ย่อมเกิดความกลัว กลัวอะไรก็แล้วแต่ ความกลัวเกิดจากความไม่รู้  เราไม่ใช่หมอ อาจไม่รู้ระบบของโรงพยาบาล ขั้นตอนการทำงานของหมอ  ในฐานะแค่คนไข้ หรือญาติคนไข้  ก็ต้องร้อนใจเป็นธรรมดา เมื่อเห็นว่าพ่อแม่ ญาติ ยังอยู่ในสภาพที่เหมือนไม่ได้รับการดูแล (ทั้งที่นั่นคงเป็นการดูแลแล้วก็ได้) เราก็เคยเจอ "หมอเวร" ที่มันเป็นเวรกรรมที่ต้องเจอ อยู่คนนึงเหมือนกัน แม่เป็นหอบหืด เกิดอาการหลอดลมตีบกระทันหัน ตอนดึก ก็รีบพาแม่ไปโรงพยาบาล ไม่ไกลจากบ้านนัก พยาบาลก็พาไปห้องฉุกเฉิน แต่ "่หมอเวร" คนนั้น กว่าจะออกมาดูอาการได้ ก็ไม่รู้ทำอะไรอยู่ นาน ตอนนั้นไม่มีคนไข้อื่นเลยในห้องฉุกเฉิน   มันจะเรียกว่าห้องฉุกเฉินไปทำไม ก็ไม่รู้   หมอไม่พร้อมจะทำงานแบบนี้ เราโมโหนะ  ตอนนั้น   พอออกมา ก็เดินมาช้าๆ เนิบนาบๆ คือมันดูแล้ว ไม่ได้มีใจจะช่วยคนไข้เลย... หรือแกติดดูหนังอยู่ก็ไม่รู้  ดันมาขัดจังหวะ จากประสบการณ์  เจอหมอดีๆ น้อยมาก จากคุณ : iRepenter เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:27:41

ความคิดเห็นที่ 22 หมอไม่ดีก็มีเยอะ หมอดีๆที่นั่งเล่นBBตอนรักษาก็มีเยอะ จากคุณ : to-n เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:32:22

ความคิดเห็นที่ 23 ผมกับแม่ก็เจอเหตุการเดียวกันกับเจ้าของกระทู้ หลานผมอายุ 5 ขวบ ไม่สบายไอเจ็บคอ กินอะไรไม่ได้ ชัก หลานผมเป็นหอบหืดอยู่ด้วย พาไปรพ.เด็ก หมอบอกไม่เป็นอะไรมากแค่อาการหอบหืด ก็แค่ให้ยามากิน ผ่านไป 3 วันอาการไม่ดีขึ้น แถมแย่ลงกว่าเก่า ปากแตก ตัวเริ่มเขียวๆ ก็พากลับไปที่ รพ.เด็กอีกครั้ง หมอก็ให้ยามากินเหมือนเดิมบอกว่าไม่เป็นอะไร ขอนอนที่รพ.ก็ไม่ยอมให้นอน ไล่กลับบ้านอย่างเดียว วันรุ่งขึ้นอาการหลานผมหนักลงไปอีก ชัก ตัวเขียวมาก แม่ผมจึงต้องพาเข้า รพ.เอกชนแถวบ้าน นอนรพ.แค่คืนเดียว อาการหลานผมหายเป็นปกติ แต่ค่ารักษา หมื่นกว่าบาทเกือบสองหมื่น ซึ่งผมกับแม่ก็ต้องไปขอยืมญาติๆมาจ่าย คนธรรมดาเดินดิน จะหวังมีชีวิตรอดต่ำนะครับ จากคุณ : kook5212 (kook5212) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 01:38:41

ความคิดเห็นที่ 24 คห.18  ตอบจขกท.ได้ดี  มีเหตุผลนะ  ผมคงไม่แสดงคห.ซ้ำ มันเป็นเรื่องความเข้าใจ  และความต้องการ  ที่ไม่ตรงกัน  โดยเฉพาะ  คำว่า  ฉุกเฉิน ที่จะพูด  ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจความรู้สึก  ของคนไข้และญาตินะครับ  ผมเข้าใจดี เป็นห่วง  จึงรีบพามา  บางทีต้องมาดึกๆ  ย่อมต้องการได้รับการรักษาที่เร็ว  ทันใจ  และ  คิดว่า  ฉุกเฉินแน่ๆ  แล้วหมอทำไมมาช้า ยก ตย.คห. 21  บอกคุณแม่เป็นหอบหืด  แล้วมีอาการ  มาตอนดึก  ลูก  คิดว่าฉุกเฉินแน่ๆ แต่แพทย์  เจอโรคหอบหืดมาเยอะ  ถ้ามีประวัติเก่า  ยิ่งช่วย  รักษาโดยพ่นยาก่อนได้เลย  หรืออาจให้ O2  ดมก่อน  แล้วค่อยเดินมา ที่บอกว่าติดหนัง  ผมว่าไม่ใช่หรอกครับ  นอนมากกว่า  เห็นบอกว่าดึกแล้ว แพทย์  ห้องฉุกเฉิน  ส่วนใหญ่  ได้นอนขณะอยู่เวรครับ  เพราะตอนเช้าต้องทำงานต่อ  ไม่ได้ไปพัก  แต่ก็จะนอนใกล้ๆ มันเป็นเรื่องระบบ  และการขาดแพทย์ครับ  ส่วนคนที่ต้องตื่นตลอด  คือ  พยาบาล  พวกเธอเหล่านั้น  จะได้ลงเวรตอนเช้าไปพัก ดังนั้น  ถ้าไม่ด่วนมาก  ก็ต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน  คงไม่ปฏิเสธนะครับ  ว่าถ้าเห็นหมอเสื้อผ้าหลุดลุ่ย  ผมกระเซิง  มันไม่น่าเชื่อถือ แต่ถ้าฉุกเฉินมากๆ  เช่นมาถึงไม่หายใจ  พยาบาลก็จะรายงานแพทย์  ซึ่งก็จะรีบออกมาโดยเร็ว  แม้เสื้อผ้า  ผมเผ้า  ยุ่งเหยิงก็ตาม และจากการที่เจอเคสมามาก  แพทย์จะไม่ตกใจครับ  บางครั้งเห็นมาเนิบๆ  แต่ในหัว  ก็คิดถึงการรักษาอยู่นะครับ อยากเห็นแพทย์  ตื่นเต้นตกใจ  ในขณะรักษาคนไข้หรือครับ?  มันน่าจะดูไม่มืออาชีพนะ  ผมคิดว่า อย่างคห.21  สุดท้ายคุณแม่ก็ปลอดภัยใช่มั๊ยครับ  ลองคิดดู  ว่าถ้าฉุกเฉินจริง  แล้วหมอมาช้าเกินไปจริงๆ  จะเป็นแบบนี้มั๊ย? ที่พูด  หลายคนคงคิดว่า  แก้ตัว  หลายคนคงคิดว่า  ถ้าไมใช่ญาติคุณก็พูดได้นี่  ต้องให้ใกล้ตายหรือไงถึงจะมาเร็ว แต่มันเป็นเรื่องจริงครับ  ถ้าไม่พยายามเข้าใจ  และความต้องการของอีกฝ่าย  เรื่องแบบนี้มันก็เกิดขึ้นอีก ผมไม่ได้หมายถึง  ให้เฉพาะคนไข้ทำความเข้าใจหมอนะ  แต่หมายรวมถึงให้หมอทำความเข้าใจ  ความต้องการของคนไข้ด้วย เพราะมันเป็นข้อแตกต่าง  ทำให้หมอบางคนเป็นหมอที่ดีในสายตาคนไข้  ขณะที่บางคน  ก็รักษาหายเหมือนกัน  แต่กลายเป็น"หมอเวร"อีก  เหมือนหมอในคห.21 ส่วนเรื่องการพูด  ยังงัยก็ไม่มีเหตุผลอะไร  ที่จะทำให้หมอพูดดูถูกกับคนไข้ครับ  อันนี้เห็นด้วยกับจขกท. ตอบกท.นี้แล้ว  ก็เหมือนเตือนสติตัวเองไปด้วย  ^^ จากคุณ : mk096 เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 02:31:02

ความคิดเห็นที่ 25 ผมว่าสาเหตุหนึ่งมาจากนิยามของคำว่า "ฉุกเฉิน" ในมุมมองของญาติ กับมุมมองของแพทย์และเจ้าหน้าที่ต่างกันครับ ปวดหัวมา 3 วัน วันนี้ปวดมากนอนไม่หลับเลยมาตรวจ --> ฉุกเฉินในมุมมองของผู้ป่วยและญาติ ถ่ายเหลว 10 ครั้ง เพลียมาก ทานอะไรไม่ได้เลย (ที่ ER ความดันปกติ ปัสสาวะออกดี) --> ฉุกเฉินในมุมมองของผู้ป่วยและญาติ มาถึงตอนแรกดูดี ต่อมาหายใจแย่ลง เขียว ซึม --> ฉุกเฉินในมุมมองแพทย์ ผู้ป่วยพูดคุยได้ดี แต่ความดัน 60/40 ชีพจร 140  --> ฉุกเฉินในมุมมองแพทย์ ฯลฯ จะเห็นได้ว่า "ภาวะฉุกเฉิน" ในทางการแพทย์ก็มีหลักเกณฑ์เช่นเดียวกัน เช่น ภาวะหยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น ความดันโลหิตตก เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีข้อที่ว่า "ผู้ป่วยและญาติคิดว่าฉุกเฉิน" อยู่ด้วยแน่นอน ดังนั้นผมเห็นว่าควรมีการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีให้มากขึ้นครับ แพทย์หรือเจ้าหน้าที่เองควรจะบอกผู้ป่วยหรือญาติให้ทราบว่าทำอะไรไปบ้าง ตอนนี้รออะไรอยู่ (ผมมักจะบอกก่อนเลยว่าตอนนี้รออะไร หรือทำอะไรไปแล้วบ้าง ช่วยได้เยอะครับ) ผู้ป่วยและญาติก็ควรเข้าใจขั้นตอนว่าต้องมีการรอผลตรวจหรือสังเกตอาการด้วย ซึ่งช่วงนั้นก็จะปล่อยให้ผู้ป่วยได้พัก คงเป็นไปไม่ได้ที่คนไข้คนหนึ่งจะต้องมีคนมามะรุมมะตุ้มตลอดเวลา เพราะพวกเราก็ต้องแบ่งเวลาไปช่วยดูแลคนอื่นเช่นกัน และถ้าไม่แน่ใจก็ควรสอบถามข้อมูลให้ชัดเจนก่อนที่จะแสดงกิริยาอะไรออกไป ที่สำคัญขอความกรุณาใช้ "ประโยคคำถามอย่างสุภาพ" ด้วยครับ ประเภทที่จู่ๆ ก็พรวดเข้ามาแล้วโวยวายว่า "ญาติผม/ฉันเข้ามาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นหมอทำอะไรเลย" ขอเถอะนะครับ มันทำให้บรรยากาศแย่ลงและทำให้อารมณ์คนที่ตั้งใจทำงานขึ้นได้ง่าย (ผมก็เป็นประเภทถ้าโดนว่าอย่างนี้ผมก็อารมณ์เสียเหมือนกัน) เปลี่ยนเป็น "ตอนนี้ญาติผม/ดิฉัน เป็นยังไงแล้วบ้าง" ไม่ต้องถึงกับพินอบพิเทาหรือประดิดประดอยถ้อยคำ แต่ขอแบบที่ "สุภาพชน" คุยกันก็พอครับ ผมเชื่อว่าถ้าถามกันดีๆ ส่วนใหญ่ก็พร้อมจะตอบดีๆ เหมือนกันครับ ส่วนที่แย่ๆ ก็คงต้องให้สังคมและกฎแห่งกรรมลงโทษเอง แต่ถ้าแรงมาก็ต้องทำใจด้วยว่าอาจจะโดนแรงกลับเช่นกันนะครับ จากคุณ : ผู้ปิดปากเงียบ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 03:46:54

ความคิดเห็นที่ 26 หมอเป็นอาชีพที่หากินกับความเจ็บป่วยทุกข์ยากของผู้ป่วย ถ้าหมอเห็นผู้ป่วยเป็นคนไข้ ผมว่ามีจรรยาแพทย์ แต่หมอที่เห็นผู้ป่วยเป็นลูกค้า ก็ไม่ต่างอะไรกับอาชีพอื่น ไม่สมควรได้รับการยกย่องนับถือ หมอที่รักษาในตอนออกเวรงั้นๆ คอยเวลาออกเวรเพื่อจะไปคลีนิกหรือ รพ.เอกชน ไม่น่านับถือ เดี๋ยวนี้ค่าใช้จ่ายทางการรักษาแพงมากๆ รพ.เอกชน เฉพาะค่าหมออย่างเดียวอย่างต่ำก็ 500 แล้ว คนไข้จึงหวังกับตัวหมอมากๆ ถ้าหมอยังไม่เต็มที่กับลูกค้า ก็น่าเศร้าครับ จากคุณ : จอหงวนใหม่ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 05:15:00

ความคิดเห็นที่ 27 ดูซี่รี่ส์ต่างประเทศที่เกี่ยวกับหมอจะเข้าใจวิธีการทำงานของโรงพยาบาลมากขึ้นค่ะ กรณีนี้จขกท.มาพูดฝ่ายเดียว ถ้าไม่มีคห. 18 เป็นต้นมา มีสิทธิ์ที่คนจะฟังความข้างเดียวแล้วพาลด่าหมอกันเป็นทิวแถว จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 07:47:52

ความคิดเห็นที่ 28 เตะปากหมอซักทีดีมั้ยครับ จากคุณ : Hunterr (Darkcompany) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 08:09:29

ความคิดเห็นที่ 30 แรงตรงนี้ จากคุณ : Giftong เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 11:24:31

ความคิดเห็นที่ 32   คุณ คห.24  เราเข้าใจว่ามันมีขั้นตอนอยู่ อย่างคุณว่า  และก็ถูกที่หมอควรบอกญาิติว่าทำอะไรอยู่ตอนนี้   (ที่ว่าดึก ของเรามันก็ประมาณ 3 หรือ 4 ทุ่มนะ หมอนอนไวจัง) ขนาดโรงพยาบาลเอกชน ยังเป็นแบบนี้ คิดว่าโรงพยาบาลรัฐส่วนใหญ่คงจะหนักกว่านี้   หมอก็คน มีทั้งดี ไม่ดี  แต่อยู่ในอาชีพที่ทุกคนมักจะเข้าใจและเชื่อว่า หมอน่าจะเป็นคนดี  เพราะต้องทำงานกับการรักษาชีวิตคน   เมื่อก่อนก็น่าจะใช่ ที่เป็นหมอด้วยอุดมการณ์ อยากรักษาคนจริงๆ แต่เดี๋ยวนี้ ไม่แน่...  พ่อเคยเล่าว่า มีหมอคนนึงที่อุดร ยังจำชื่อได้ถึงทุกวันนี้ ถ้าใครเข้าไปหา แกถามก่อนเลยว่า "มีเงินมั้ย"... จากคุณ : iRepenter เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 13:22:23

ความคิดเห็นที่ 33 ก่อนอื่น อยากจะให้ แก้ไข ชื่้อ นามสกุล แพทย์ ออกไปซะัหน่อย ใช้เป็นตัวย่อ ก็ได้ครับ ... เพราะไม่เช่นนั้น ก็อาจเกิดปัญหาการฟ้องร้อง และให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งอาจไม่มีโอกาสชี้แจง .... ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น อยากจะให้ จขกท. เขียนเรื่องราวทั้งหมด เรียงตามลำดับเวลา แล้ว ร้องเรียนกับ ผู้ทีี่มีหน้าที่ รับผิดชอบ ... เพื่อจะได้ตรวจสอบเหตุการณ์ และแก้ไขปัญหา ... ๑. ผอ. โรงพยาบาล ๒. กองประกอบโรคศิลปะ ... สำหรับเรื่อง สถานประกอบการ ( คลินิก หรือ รพ. ) ที่สงสัยว่าทำผิดระเบียบ http://203.157.6.200/web/home/ http://www.oss.mrd.go.th/mrdInternet/Login/Default.aspx http://203.157.6.200/web/ac/contact_us.asp กอง การประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. เชิญ ส่งคำถามหรือเรื่องร้องเรียนที่ e-mail Address ที่ mrd@hss.moph.go.th โทร 02 5918844 เกี่ยวกับสถานพยาบาล หัวหน้ากลุ่มงาน ต่อ 401 สายตรง 02 5894904 คลินิก ต่อ 402, 403 สายตรง 02 5895085 02 5895113 โรงพยาบาล ต่อ 404, 405 สายตรง 02 5896653 ๓. แพทยสภา สำหรับทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการทำงานของแพทย์ การตรวจสอบชื่อสกุลแพทย์ รวมถึงสงสัยว่าจะเป็น แพทย์ปลอม ผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นแพทย์ ทำหน้าที่ตรวจรักษาผู้ป่วย ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเป็นแพทย์ http://www.tmc.or.th/ ฝ่าย จริยธรรม 02-590-1886-7 ต่อ 210-270 Email : contact@tmc.or.th http://www.tmc.or.th/service_check.php สำนัก งานเลขาธิการแพทยสภา อาคาร 6 ชั้น 7 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ถ.ติวานนท์ จ.นนทบุรี โทร.: 02-5901880-1,3 จากคุณ : หมอหมู เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 14:38:45

ความคิดเห็นที่ 34   จากเจ้าของกระทู้ค่ะ ดิฉันขอขอบคุณทุกท่านนะคะที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ค่ะ หลังจากได้อ่านความคิดเห็นของทุกๆ ท่านแล้ว และหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว ดิฉันอยากจะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ ที่ดิฉันไม่ได้ Log in เข้ามานั้น เพราะดิฉันไม่ได้เป็นสมาชิกของเว็บพันทิพค่ะ อีกประการหนึ่งคือไม่เคยเข้ามาเล่นและโพสต์ของความเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ทำค่ะ จุดประสงค์ที่โพสต์มา จริงๆ แล้วไม่ได้หมายความว่าการเล่นบีบี การเล่มเกมส์ในโทรศัพท์ของคุณหมอนั้นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ หรือเป็นสิ่งที่ผิดค่ะ ที่ดิฉันโพสต์มาถามทุกท่าน นั่นคือการที่ดิฉันและคุณแม่โดนคุณหมอว่ากระทบ ซึ่งเราไม่เคยเจอมาก่อน และเรารู้สึกแย่กับการกระทำนี้มากค่ะ 2. เรื่องของการพักผ่อน ของพยาบาลและคุณหมอนั้น เป็นเรื่องปกติ ซึ่งดิฉันเข้าใจค่ะ และเข้าใจว่าอาการความฉุกเฉินของแต่เคสนั้นแตกต่างกัน คุณหมออาจไม่ตื่นเต้น แต่เราเป็นญาติคนป่วยตื่นเต้น และกังวลมาก -- ที่กังวล แม้คุณแม่ดิฉันจะไม่ได้ป่วยหนัก แต่ก็อายุมากแล้ว อีกทั้งตอนนี้ก็ยังป่วยอยู่ และเมื่อสงกรานต์ก็เพิ่งไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนอีกแห่งหนึ่ง (ซึ่งทำงานดีมาก แล้วหมอก็ดีมากค่ะ) แต่เพราะว่าเมื่อวันที่เกิดเหตุแม่วิงเวียนจนยืนไม่ได้ หายใจไม่สะดวก (แม้อาการไม่ร้ายแรงอย่างที่ท่านผู้อ่านเข้าใจ แต่คนเป็นลูก็ย่อมห่วงแม่เป็นธรรมดา) และกว่าที่จะเดินทางไปสมทบก็อย่างที่เรียนไว้ข้างต้นนั้นก็ใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมงค่ะ -- ส่วนเรื่องที่ความคิดเห็นของคุณพยาบาฃที่ 18 ขอชี้แจง และ ขอโทษด้วยที่ตอนโพสต์อาจจะพูดรุนแรง ดิฉันขอเรียนให้ทราบว่า ดิฉันเป็นคนนึงที่เคยอยากเป็นหมอค่ะ เคยไปฝึกงานที่โรงพยาบาลหมอ คุณหมอ และพยาบาลที่โรงพยาบาลศิริราชที่เคยไปฝึกงานสมัยนั้น (เด็ก ม.5 ที่อยากสอบเข้าแพทย์ต้องไปฝึก) ใจดี และนิสัยดีมาก การดุผู้ป่วย เป็นสิ่งที่สมควร ในบางกรณี การพูดคุยหรือการคุยเล่นกัน ก็เป็นสิ่งปกติ ไม่จำเป็นต้องเครียดกันตลอดเวลาค่ะ รายละเอียดในวันนั้น ดิฉันไปถึง ยังไม่ได้คุยกับคุณพยาบาล แต่ดิฉันถามอาการจากคุณครูที่พาแม่มาส่งค่ะ แล้วก็ได้ทราบความ จากนั้น ดิฉันก้เดินไปถามพี่พยาบาล โดยประโยคสุภาพ และน้ำเสียงสุภาพด้วย (ดิฉันก็ยืนยันว่าพูดจาด้วยความสุภาพแน่นอนค่ะ พยาบาลเลยบอกว่าคุณหมอฉีดยาให้) หลังจากนั้นดิฉันจึงไปที่เตียงพักของแม่ในห้องฉุกเฉินค่ะ จึงเห็นอาการของแม่ที่ยังไม่ดีขึ้น ต้องเข้าใจหัวอกลูกนะคะ ว่านั่นแม่เรานะคะ แต่เราก็มองดูรอบๆ ห้อง มันมีคนไข้ นอนอยู่เช่นกัน อีก 2 เตียง แต่ก็เข้าใจว่าอาจได้รับการรักษาเบื้องต้นแล้ว แต่ว่าดิฉันไม่เห็น และไม่ทราบว่าหมออยู่ที่ไหน จึงเดินไปถามพี่พยาบาลอีกว่า แล้วกว่ายาจะออกฤทธิ์นานหรือไม่ พี่พยาบาลท่านนั้นตอบว่า เห็นคุณหมอดูแล้วนะ แต่ไม่ได้ว่าอะไรสงสัยให้นอนก่อน ดิฉันจึงดูเวลาซึ่งมันก็ประมาณ 2 ชั่วโมงอย่างที่แจ้งในกระทู้แล้วยามันก็น่าจะออกฤทธิ์ได้แล้ว หรือแม่ก็น่าจะมีอาการดีขึ้น จึงดู สักพักหมอที่นั่งอยู่ (ซึ่งดิฉันตอนแรกไม่ทราบหรอกค่ะว่าคนนี้เป็นหมอ) เลยบอกให้พยาบาลเจาะให้น้ำเกลือ และให้เหมือนน้องที่มาฝึกเทคนิคการแพทย์หรือหมอนี่มาเจาะเลือดไปตรวจ ดิฉันอยู่ข้างๆ แม่ พยาบาลก็บอกว่าต้องรออีก 1 ชั่วโมง แต่จริงๆ ก็ประมาณ 40 นาที เห็นผลเลือดมา หมอบอกเลือดจาง (เรื่องประวัติหนะดิฉันไม่เห็นแฟ้มจริงๆ สาบานได้ หมออาจเห็นหรือไม่เห็นก็ได้) ดิฉันจึงเรียนมาไปด้วยน้ำเสียงปกติด้วยคะ (เนื่องจากพี่ที่พาแมม่มาบอกหมอที่ดูคุณแม่ก่อนหมอคนนี้เป็นผู้หญิง) ว่าคุณแม่เคยเข้าโรงพยาบาลนี้ด้วยสาเหตุนี้ มาก่อน ค่ะ (คือใจนี่ แค่อยากรุ้ว่าต้องนอนพักที่โรงพยาบาล และก็ถ้าแม่ไม่ได้นอนเนี่ย สาเหตุมาจากอะไร คุณแม่เป็นอะไรจะได้แก้ไขได้) แต่สิ่งที่คุณหมอเค้าตอบกลับมา มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่คาดว่าจะได้ยิน มันเป็นการพูดที่เหมือนดูถูก ทั้งว่าเครียดเรื่องเงิน เรื่องลูก (ลูก ก็คือ ดิฉันที่ยืนตรงนั้น บอกว่าลูกไม่ดี ลูกมันดื้อ ยังไงแม่ก็ไม่หาย ) รวมทั้งท่าทางของคุณหมอด้วย ซึ่งจากที่รอดูอาการแม่จากที่กระวนกระวาย กลายเป็นโกรธค่ะ ดิฉันยอมรับว่าโกรธ แทบจะโดดขึ้นไปเถียงคุณหมอ หรือเอาเรื่องได้แล้ว แต่พี่เค้าก็ลากดิฉันออกมา รวมทั้งเห็นแม่ที่สีหน้าไม่ดี พูดว่าเอาแม่กลับบ้านเถอะ แล้วดิฉันจะกล้าให้แม่กลับหรือค่ะ ทั่งที่แม่เราลุกไม่ไหว (ใช่ค่ะ แม่ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงอย่างที่มีความคิดเห็นบางความคิดเห็นว่าไว้ ว่า ถ้าเป็นหนักคงตายไปแล้ว) ขอบคุณที่แช่งนะคะ เราก็ไม่กล้าหรอกค่ะ อีกทั้งบ้านดิฉันมีแต่ผู้หญิง จะทำอะไรไปก็ไม่ดี -- แต่ทุกคนที่อ่านค่ะ ถ้าคุณเป็นดิฉันตอนนั้น ทั้งเรื่องที่คุณหมอ บอกว่ารักษาไม่ได้ ต้องรักษาทางใจ มันก็เป็นการว่าแม่ดิฉันว่าเป็นโรคจิต น้ำเสียง กิริยาแบบนั้น การดูถูกแบบนั้น คุณจะทนได้หรือค่ะ -- หมอจะมีบุคลิกลักษณะอย่างไร ดิฉันไม่ได้ว่า แต่พอมารวมๆ กัน บวกกับอารมณ์ที่เกิดขึ้น มันทำให้เจ็บหัวใจค่ะ ว่าแม่เรามานอนเพื่อขอความช่วยเหลือนะ ช่วยเราทีเถอะ เราไม่ได้อยากได้ถ้อยคำ หรือกิริยาแบบนั้น แล้วสิ่งที่โพสชื่อคุณหมอ เพราะดิฉันก็ถามาคุณพยาบาลคนนึงแล้วว่าหมอที่รักษาคุณแม่คนนั้นชื่ออะไร ดิฉันอยากจะจำไว้ ดิฉันกล้าโพส เพราะว่าดิฉันพูดเรื่องจิง จึงทราบ ต้องขอโทษด้วยเพราะไม่ทราบว่าโพสไม่ได้ หลังจากให้น้ำเกลือ สี่โมงเย็นคุณหมอออกเวร เปลี่ยนเวรกับคุณหมออีกคน ซึ่งดิฉันไม่ได้เล่าในตอนแรก ดิฉันกำลังโมโหหมอคนก่อนมาก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร แม่ก็อยากกลับ แม่ให้ไปถามหมอว่ากลับได้ม่ะ ยังไงก็จะกลับ คุณหมอท่านนี้ดีมากๆ ท่านอธิบายสาเหตุอาการ และการป้องกันให้เข้าใจ คำถามในใจของดิฉันจึงมีว่า ทำไมหมอคนนั้นถึงไม่บอกและพูดดีๆ แบบนี้ละคะ ทำไมใช้คำไม่ดีต่อคนไข้ -- แล้วถ้าเป็นแบบนี้ ต่อไป ดิฉันจะกล้าใช้บริการที่นี่อีกหรือ แล้วถ้าไม่พูดไปมันก็อัดอั้น ดิฉันก็มีสิทธิ์อยากทราบเหมือนกันว่า ในฐานะความเป็นคนที่เท่ากันนั้น แม่และดิฉันมีสิทธิ์ที่จะโดนดูถูกแบบนี้หรือ -- นี่คือเจตนาที่โพสต์ค่ะ -- แล้วมีความคิดเห็นที่บอกว่าไม่กล้าโพสต์ชื่อจริงนามสกุลจริง เพราะกลัวถูกฟ้อง ไม่ใช่ค่ะ ดิฉันกล้าโพสต์ ดิฉันชื่อ ไพรำ วิทยาคม ค่ะ ชื่อจริง นามสกุลจริง ดิฉันกล้าพูด เพราะคิดว่าพูดและขอถามในสิ่งที่ต้องการทราบ การโพสต์นี้ โพสต์เมื่อคืนตอนที่อารมณ์โกรธยังคุกรุ่นมาก และก็คิดเหมือนกันว่า ถ้าเราเขียนแบบนี้ลงในกล่องรับความคิดเห็นที่โรงพยาบาล จะมีกี่คนที่มาช่วยกันคิดว่าเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร เขียนใส่ลงไป มันอาจหายไป หรือเหมือนกับไม่ได้เคยเกิดขึ้นค่ะ ก็เท่านั้นค่ะ ต้องขออภัยนะคะ ถ้ามีถ้อยคำ หรือบางคำที่ดูรุนแรง (เช่น ไม่เจาะสักพรุ่งนี้เลยละ นั่นก็เพราะว่า ดิฉันเคยแพ้ยา และไม่สบายในหลายๆ ครั้ง เคยไปโรงพยาบาลเอกชนในห้องฉูกเฉิน การทำงานเค้าเร็วมาก) นั่นก็เพราะอ้างอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ หากทำให้ท่านใดไม่พอใจก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี่ ด้วยนะคะ ปล . ที่ขออภัยเนื่องจาก ดิฉันก็ไม่ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากนัก การตัดสินใจ และการกระทำอาจจะเร็วกว่าความคิด แต่ดิฉันทำ เพราะดิฉันมีความรักต่อผู้มีพระคุณของดิฉันเท่านั้น ถ้าคุณหมอว่าดิฉันอย่างเดียว ดิฉันคงแค่กลับไปร้องไห้เท่านั้น ดิฉันไม่ได้เป็นคนรุนแรงอะไร เพราะถ้าดิฉันหัวรุนแรงพูดจารุนแรง ดิฉันคงทำงานในด้านเกี่ยวกับงานบริการได้หรอกค่ะ ดิฉันเป็นคนยอมคนมาก ถ้าไม่ใช่การกระทำที่ดูไม่มีมารยาทต่อบุพการีของดิฉัน คงไม่กล้ามาโพสต์แบบนี้หรอกค่ะ และก่อนจบ ขอขอบคุณ กระทู้ที่ให้กำลังใจด้วยนะคะ ตอนนี้คุณแม่ดิฉันยังไม่หายดีค่ะ ยังวิงเวียน และปวดศีรษะ บ้างในบางเวลา ก็ยังต้องดูแลกันอยู่ค่ะ แต่หวังว่าจะหายในไม่ช้านี้ อีกทั้งที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษก็เพราะตอนสงกรานต์คุณแม่ของดิแนประสบอุบัติเหตุรถล้ม เอ็นเข่าฉีกจึงต้องใส่เฝือก (หมอที่รักษาอาจไม่เห็ฯค่ะ) แม่ใส่กางเกงวอร์มปิดไว้ แล้วก็เดินไม่ถนัด และไม่ยอมบอกหมอด้วย นี่ละคะ สาเหตุที่ห่วงมากกว่าปกติ คือ กลัวว่า ถ้าเราไม่รู้สาเหตุ ไม่รู้ว่าเค้าเป็นอะไร เราจะดูแลเค้าอย่างไรในเมื่อเค้าก็ไม่สบายมากอยู่แล้ว ขอบคุณนะคะ จากคุณ : ------------------ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 15:40:22 A:161.200.123.154 X: TicketID:266371

ความคิดเห็นที่ 35   จากเจ้าของกระทู้นะคะ เรียนคุณหมอหมูค่ะ ดิฉันส่งอีเมล์เรื่องนี้ ไปยังฝ่ายจริยธรรมแล้วคะ เพราะว่าแม่ไม่ได้เป็นอะไรแค่ถามเรื่องพฤติกรรมค่ะ แต่ไม่มีอะไรตอบกลับมาค่ะ และลองเข้าไปค้นหาชื่อคุณหมอดูแล้ว และได้ส่งไปยังอีเมล์แล้วคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : --------------- เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 16:00:37 A:161.200.123.154 X: TicketID:266371

ความคิดเห็นที่ 36   จากเจ้าของกระทู้นะคะ เรียนคุณหมอหมูค่ะ ดิฉันส่งอีเมล์เรื่องนี้ ไปยังฝ่ายจริยธรรมแล้วคะ เพราะว่าแม่ไม่ได้เป็นอะไรแค่ถามเรื่องพฤติกรรมค่ะ แต่ไม่มีอะไรตอบกลับมาค่ะ และลองเข้าไปค้นหาชื่อคุณหมอดูแล้ว และได้ส่งไปยังอีเมล์แล้วคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ---------------------- เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 16:00:51 A:161.200.123.154 X: TicketID:266371

ความคิดเห็นที่ 38 ผมว่าคุณนะ เจตนาปิดบัง  ไม่เล่าให้หมดว่าคุณพูดกับหมออย่างไร จึงโดนหมอคนนั้นว่ากลับมา เขาไม่ยอมแอ๊ดมิตคุณแม่คุณใช่ไหมเล่า เลยโกรธหมอ  พาลทะเลาะด้วย พูดความจริงให้หมดสิครับ ถ้าหมอเขาเลวจริง  เขาจะให้การรักษา สั่งเจาะเลือดเหรอ คนเนรคุณ !!!!! จากคุณ : silverliner เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 17:42:26

ความคิดเห็นที่ 39 อย่าให้คนผิดลอยนวล แต่ถ้าไม่ผิดจริง คนโพสต์ต้องรับผิดชอบ จากคุณ : silverliner เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 17:45:56

ความคิดเห็นที่ 40   คุณ silverliner นี่จะดราม่าไปไหนคะ จขกท เขาก็มาอธิบาย มาชี้แจง มาขอโทษไปแล้ว คนเรามันเข้าใจผิดกันได้ ควรจะจบได้แล้วนะคะ คุณเป็นหมอรึเปล่า? "อย่ามั่วครับคุณรำไพ เอ๊ยไพรำ ชื่อประหลาด เป็นญวน หรือ กะเหรี่ยงกันแน่นะเนี่ย จาก คุณ : silverliner เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 17:38:51 [แก้ไข] " พูดจา อย่างนี้แย่มากนะคะ ต่อว่ากันก็ควรทำด้วยเหตุผล ไม่ใช่ใช้วาจาดูถูกกัน ชื่อ เขา พ่อแม่ตั้ง พระตั้งมาให้ คุณไม่มีสิทธิ์ไปวิจารย์ เขาฟ้องหมิ่นคุณได้เช่นกัน ชื่อคุณละคะ อะไร ไม่ลองโพสมาให้ดูบ้างเหรอคะ จากคุณ : ดอกบัว เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 19:13:21 A:218.186.170.140 X:218.186.10.235 TicketID:159640

ความคิดเห็นที่ 41 แตกประเด็นไปทำไม มี   เรื่องเดิม ก็เอามาพูดในที่เดิม จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 19:49:24

ความคิดเห็นที่ 42 ความคิดเห็นที่ 39     อย่าให้คนผิดลอยนวล แต่ถ้าไม่ผิดจริง คนโพสต์ต้องรับผิดชอบ ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ L9183611 จากคุณ : silverliner   เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 17:45:56   1.ขอตำหนิเรื่องการล้อชื่อจขกท.ค่ะ 2.เค้าจะสัญชาติอะไร เชื้อชาติอะไรไม่เกี่ยวกะประเด็นในกระทู้ค่ะ 3.หมอก็เป็นมนุษย์คนนึง มีรัก โลภ โกรธ หลง ดังนั้นกริยาของหมอก็ขึ้นอยู่กับนิสัยใจคอ บุคลิกของแต่ละคนค่ะ ไม่มีใครรับรู้นอกจากจขกทกะหมอเท่านั้นค่ะ ดังนั้นควรอสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพนะคะ จากคุณ : nanako_ozone เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 21:04:29

ความคิดเห็นที่ 43 แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 22:18:14 จากคุณ : กาแฟบนดอย เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 22:07:19

ความคิดเห็นที่ 44 ใจเย็นๆกันนะครับ ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็เท่านั้น อย่าทะเลาะกันเลยครับ ตามถนนก็ทะเลาะกันเยอะพอแล้ว ค่อยๆพูดกันดีๆเถอะครับ จากคุณ : bigbill เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 22:30:55

ความคิดเห็นที่ 45 เรื่องแบบนี้ผมเข้าใจ จขกท ครับ ใครไม่เจอคงไม่รู้สึก ตอนผมใครฟังแล้วก็เหมือนมองว่าผมแรง ทำไมทำตัวอย่างนี้ แต่พอรุ่นน้องผมเจอเท่านั้นแหละ เข้าใจสภาพเลย เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่แบบที่เราคิดว่า ต้องดีทุกคน เราต้องระวังตัวกันเอง อยากให้หมอดีๆ ออกมาปกป้องวิชาชีพ มากกว่า ปกป้องกันเอง การร้องเรียนไปก็ดีนะครับ เพราะว่าเขาจะมีการเก็บสถิติ เพื่อส่งผลต่อการร่างกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับการช่วยเหลือ ผุ้ที่ได้รับความสูญเสีย อย่างไรตอนนี้ จขกท ต้องระวัง รักษาจิตใจตนเองเป็นอันดับแรก ถ้าหงุดหงิดมาก หลังไมค์มาคุยกันก็ได้ ผมก็ชอบระบายๆๆๆ หมอ เลวๆ ด้วยปากเหมือนกัน จากคุณ : นายวุ้นกะทิ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 22:41:38

ความคิดเห็นที่ 46   คุณ silverliner ทำไมต้องว่า จขกท. รุนแรงแบบนั้น คุณเจ็บแค้นแทนหมอคนนั้นมากขนาดนั้นเลยเหรอ?? ดีแล้วที่คุณไม่ใช่หมอ... ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ จากคุณ : iRepenter เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 22:53:50

ความคิดเห็นที่ 47 หมอตรวจแล้วปกติดี จะให้หมอเค้าทำอะไรอีกเหรอคะ ไม่ค่อยเข้าใจ พยายามจะให้แอดมิตให้ได้ทั้งๆ ที่ตรวจไม่พบอะไร จากคุณ : เทพบุตรหมัดดาวหาง เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 23:27:44

ความคิดเห็นที่ 48 รับทราบครับ แล้วผู้ที่มาตอบแบบนักมวยบ้าง พ่อเคยบอกว่าอย่างงี้บ้าง เด๊๋นวโดนถีบบ้างละ EQ สูงจังนะครับ ผมเพียงเลือกอยู่ข้างตรงข้าม เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีโอกาสชี้แจง จขกท.เองก็ทิ้งช่องว่างให้ผมสงสัย เรื่องเป็ดไก่ทะเลาะกันแบบนี้  จะเอากัน ให้ถึงแพทยสภา  มโนสาเร่เกินไปครับ แค่เขียนหนังสือถึงผู้อำนวยการ  หรือแคบลง มาหน่อยหัวหน้าห้องฉุกเฉินนั้นก็พอแล้ว เพื่อนๆ ค่ะ ถ้าเป็นๆ เป็นญาติเพื่อนๆ เจอเหตุการณ์แบบนี้จะทำอย่างไร สำหรับดิฉันแล้วคงไมม่อยากให้แม่ไปโรงพยาบาลนี้อีกค่ะ เพราะสิ่งที่หมอ----------ค่ะ ..... ประโยคข้างบนของจขกท.นี้ว่าเหมาทั้งโรงพยาบาล ทั้งๆที่กับหมอคนก่อนๆก็ไม่เคยมีปัญหา ให้องค์กรแพทย์ที่นั่นเขาว่ากล่าวกันเอง  ไม่ดีกว่าหรือ จขกท.ที่น่ารัก (แอบไปเห็นรูปมาแล้ว) ลองคิดดูสิ ลูกเราทำผิดเราลงโทษเองหรือจะให้คนแปลกหน้า มาลงโทษ  อันไหนดีกว่ากัน   เลือกดู เลือกฟังเฉพาะสิ่งที่เราอยากรับอยากเสพ ก็แล้วกัน   ผมไม่คิดว่าหมอเขา..เลว..อย่างที่หลาย คนในนี้มาผสมโรง  ในโลกไซเบอร์เชื่ออะไรไม่ค่อยได้ แต่ผมไม่เคยโกหกในนี้ (พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ) ความรู้ที่มีก็ให้เป็นวิทยาทาน  บางคนที่มาช่วยตอบ กลับชี้ทางผิดๆ  หวังแต่ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ แต่พวกนักมวยชอบเตะต่อยนี่  มันถ่อยมากครับ ไม่ต่างกับพวกแห่ตามไปตีต่อย  แต่หากเจอซึ่งหน้า หายจ้อย  ผมจำได้ตอนเด็กๆผมมีหมอประจำตัวที่ผมว่า เขาไม่เป็นมิตรเลย  ไปรักษาทีไรก็ได้แต่ยาขมๆสี รสเหมือน เดิมแทบทุกครั้ง  พูดก็น้อยมากๆๆๆๆ  แต่ผมก็โตมาได้ ลุงหมอท่านนั้นก็เสียไปนานแล้ว  ทุกวันนี้ผมคิดถึงท่านทีไร ผมก็มองแต่ส่วนดีที่ท่านดูแลรักษาผม  ยุคผมผมไม่เคยได้ยิน เรื่องต่อว่าแพทย์แบบนี้  แต่เด็กยุคนี้เสรีภาพล้นเหลือ ครูบาอาจารย์โดนนินทาด่าไม่เว้น  ถูกต้องหรือครับ อย่างหนึ่งที่อยากให้ จขกท.คิดดูบ้างนะครับ หมอเขาต้องเข้าเวร  ลงเวรแล้วบางครั้งพักผ่อนได้ ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องมาขึ้นเวรหรือออกตรวจคนไข้อีก มันอาจจะทำให้หมอเขาเครียดยิ่งกว่าคุณแม่ จขกท. อีกก็เป็นได้   จขกท.ไม่ได้ทำงานเข้าเวรแบบนั้นคงไม่เข้าใจ ผมเคยทำงานเป็นกะคล้ายๆหมอ   แต่มามองย้อนหลัง ความรับผิดชอบของผมยังน้อยกว่าหมอเวรเยอะ ผมเลยไม่เครียด อโหสิกรรมน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีนะครับ จะได้ไม่เกิด anxiety    ไปลองคิดดู ผมไม่รู้จักหมอท่านนั้นจริงๆ   ผมรู้จักคนที่ใหญ่กว่า หมอคนนั้นมากๆ  เชื่อว่าเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เขาฟัง เขาก็คงไม่ใส่ใจ   ส่วนแพทยสภายิ่งไปกันใหญ่เลยครับ มโนสาเร่ครับ    ลองคิดว่าคุณไปฟ้องสนง.ตำรวจแห่งชาติ ว่าถูกจ่าจราจรคนนึงพูดจาไม่ให้เกียรติ  อย่างมากก็แค่ลงบันทึกไว้ ในประวัติจ่าคนนั้นเท่านั้น   จะเอาให้ถึงขั้นตัดเงินเดือนไล่ออกก็ใช่ที่ จขกท.ก็ได้ลบชื่อหมอเขาออกไปแล้ว  ก็นับว่าเลิกราต่อกันไปครึ่งหนึ่งแล้ว ก็ดีครับ   ผมก็ขอเอวังตรงนี้ด้วยครับ จากคุณ : silverliner เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 23:30:20

ความคิดเห็นที่ 49 คุณsilverliner  ครับ อันนี้ผมเป็นกลางนะครับ สิ่งที่คุณคิดอาจจะสวยงามเกินไปในโลกแห่งความจริง ผมก็ทำตามที่คุณบอกแหละครับ ไม่อยากมีเรื่องอะไร แต่เชืื่ออะไรอย่างหนึ่งไหม ยิ่งเราเป็นคนดีเท่าไร เราก็ยิ่งโดนรังแก โดนเอาเปรียบมากเท่านั้น ไม่มีใครเห็นหัวผม เห็นความดีผมหรอก คุณแม่คุณพ่อผม อายุก็มาก คุณแม่มีโรคประจำตัว ขาก็เดินไม่ได้ แต่เพื่อช่วยเหลือผมที่ต้องนอนเจ็บ เดินตามหามันทั้งโรงพยาบาล คิดดูแล้วกัน โรงพยาบาลใหญ่ขนาดไหน บอกผมว่าให้คุณแม่กับคุณพ่อไปพูด เขาน่าจะเห็นใจ คนแก่ ว่าเดือดร้อนแค่ไหน จะช่วยเหลือ หรือรับผิดชอบอย่างไร เดินไปจนพบมันที่เป็นตัวการ แล้วได้รับคำตอบจากมันว่า "ให้ไปฟ้องศาลเอง" ส่วนผู้บริหารของที่นั้นก็อย่าให้เล่าดีกว่า ปากเก่งทั้งนั้น พอเจอศาลหน่อย แม่เจ้าพระคุณ นาธานยังอายเลย หวังว่าประสบการณ์ของผม จะได้พอทำให้คุณมองเห็นโลกแห่งความจริงในปัจจุบันที่หมอดีๆ ต้องเดือนร้อนไปด้วยนะครับ จากคุณ : นายวุ้นกะทิ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 23:51:33

ความคิดเห็นที่ 50 คุณ silverliner ยังไม่ตอบเรื่องที่หลายๆท่านตำหนิเรื่องที่ไปว่าชื่อ จขกท เลยนะคะ จากคุณ : Adam and Evil เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 00:20:50

ความคิดเห็นที่ 51 ความคิดเห็นที่ 38   ถ้าหมอเขาเลวจริง  เขาจะให้การรักษา สั่ง เจาะเลือดเหรอ "คนเนรคุณ !!!!!" จาก คุณ : silverline silverliner ท่าทางนายจะมั่นใจในตัวเองซ่ะเหลือเกินนะคับ พูดจายังกับเด็กขาดการอบรม ไร้ความเห็นใจกับเพื่อนมนุษย์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ  และอารมณ์ ถ้าไม่ใช่ดั่งที่ผมพูดก้ต้องขออภัยนะคับ แต่ถ้าคุณจิ๊ดทันทีที่อ่านนั้นแสดงว่าแทงใจดำคุณแล้วละ จากคุณ : -เครื่องรางยมทูต- เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 00:42:45

ความคิดเห็นที่ 52 เราเคยเจอหมอปากเสียค่ะ หน้าตาก็ดูดีนะคะ แต่ปากเสียมาก เค้าอาจจะเห็นเราเด็กกว่าก็ได้มั้ง เลยพูดแบบไม่เกรงใจ นินทาอาการคนไข้กับธุรการต่อหน้าเราเชียว ขอบายที่นี้เลยไปรักษาอีกที หมอน่ารักมาก พูดดีมาก คือต้องเข้าใจนะคะว่าคนมีโรคจะโรคอะไรก็แล้วแต่ เค้าย่อมกลัวในการรักษา แต่หมอบางคนพูดแบบถ้ากลัวก็ไม่ต้องมาอะไรแบบนี้ อยากเอาเงินฟาดหน้ายิ่งนัก(โหด) จากคุณ : CuteBaby เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 01:29:02

ความคิดเห็นที่ 53 ผมคิดว่าคุณ silverliner พูดแรงไปนะ ไม่ควรเลย แต่เรื่องที่เห็นด้วยอย่างมากคือ ไม่จำเป็นต้องร้องเรียนถึงแพทยสภาหรอกครับ เค้ามีเรื่องใหญ่ๆให้พิจารณามากพอแล้ว ผมว่าจขกท.ร้องเรียนแค่ในรพ. เรื่องน่าจะไปถึงหมอคนนั้นได้ง่ายและเร็วกว่า และเห็นด้วยกับคคห.18,19 ครับ จากคุณ : ReMind Me เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 02:13:02

ความคิดเห็นที่ 54 เห็นด้วยกับ 46, 53 ค่ะ จากคุณ : กระต่ายเราเอง.. มันนอนตลกดี (นางมารร้ายหน้าใสๆแก้มชมพู) เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 03:47:28

ความคิดเห็นที่ 55 แบบนี้ไงเล่า เขาถึงได้เปรียบเทียบว่า "หมอเทวดา" จากคุณ : sa_bkk เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 06:46:16

ความคิดเห็นที่ 56 ขออภัยเรื่องชื่อ จขกท. ความรู้ภาษาไทยผมไม่ดีเอง ไม่คิดว่ามีชื่อนี้จริงในภาษาไทย จากคุณ : silverliner เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 07:21:05

ความคิดเห็นที่ 57 มันต้องยอมรับอย่างนึงนะ ว่าในบรรดาหมอปากเสีย เวลาไปรับจ๊อบโรงพยาบาลเอกชนนี่ปากหวานมาเชียว บริการตอบข้อซักถามดีเลิศ ปล. ถ้าไม่เดือดร้อนอะไรเรื่องเงิน หา ร.พ.เอกชนดีกว่า ถ้าเงินน้อยก็จำต้องทนอย่างเช่นเราเอง 55 จากคุณ : จัน - กลม เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 09:03:42

ความคิดเห็นที่ 58 เป็นการขอโทษที่กวน teen มากๆ แน่ใจนะว่าประโยคที่พิมพ์มาเป็นการขอโทษแบบจริงใจ ทำไมต้องเหน็บด้วย จากคุณ : kung400club เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 10:15:32

ความคิดเห็นที่ 59 แต่คุณคงไม่เคยแบบเรา ตีห้า ปวดท้องมาก อาเจียน ไม่ไหวนอนซีดจนตัวสั่น ต้องรอวินมอเตอร์ไซต์มาทำงานก็ประมาณตีห้ากว่าๆ นั่งวินไปโรงพยาบาลใน มหาวิทยาลัย กว่าจะได้รับการรักษา ต้องให้เพื่อนไปช่วยปลุกคุณพยาบาล ที่อยู่ด้านหน้าว่ามีคนป่วนมาหาหมอ เสร็จ เงินในมือไม่พอจ่ายค่ายา ต้องให้เพื่อนเดินไปเบิกหน้าหมออีก ส่วนคนป่วยนอน อยู่ม้านั่ง (นอนเป็นเพื่อนพยาบาล 55) เสร็จ ลืมขอเบอร์วินมอเตอร์ไซตต้อง เดินกลับไปหอ อ้วกแตกอีกรอบ พอหายป่วย มานอนนึก วันนั้นแลทุเรศตัวเองจัง สงสารเพื่อนด้วย มันต้องมานั่งส่งตูหาหมอ ปลุกพยาบาลเฝ้าห้องด้านหน้า เดินไปเบิกเงิน หิ้วคนป่วยกลับหอ แถมระหว่าทางต้องมานั่งลูบหลังเพราะคนป่วย:-)อ้วกแตก 555+ จากคุณ : chinjungza เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 10:31:35

ความคิดเห็นที่ 60 อ่าน เกือบทุกความเห็น เบื่อและ เกลียด พวก เอาแต่ด่า ตามน้ำมาก ฟังความสองข้าง เปิดใจให้กว้าง ผมไม่ได้มาแก้ตัวแทน หมอ คนนั้น เล่น บีบี เล่นไพ่ ดูหนัง ดู คลิปโป๊ ผมว่าเป็นเรื่องส่วนตัว สามารถทำได้ ถ้าเป็นช่วงที่ว่าง และไม่มีคนไข้ ที่ต้องทำการรักษาในขณะนั้น แม้แต่ในเวลาการอยู่เวร ก็ตาม สิ่งหมอผิดเต็มๆ โดยไม่ต้อง สงสัย หมอไม่อยู่ หรือ ไม่พร้อมในช่วงที่ตัวเองอยู่เวร โดยเฉพาะห้องฉุกเฉิน จริงๆต้องพร้อมใน ทุกวินาที ด้วยซ้ำ ในช่วงฉุกเฉิน ถ้าต้องรอ ฟ้องไปเลย ผมสนับสนุน ผมยังเคยฟ้อง พวกเดียวกันเองเลย จขกท มีอารมณ์ไม่พอใจ จึงได้โพสออกมา ผมก็เห็นใจ เท่าที่ให้ข้อมูลมา หมอ ก็ใช่ว่าจะนิ่งนอนใจนี่ครับ แต่พฤติกรรมอื่น ผมไม่รู้ เอาไว้แค่นี้ก่อนครับ เซฟ ไว้หมดแล้ว จากคุณ : ARZT_AUGEN เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 10:32:38

ความคิดเห็นที่ 61   จาก เจ้าของกระทู้นะคะ ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นค่ะ ขอบคุณชาวพันทิพย์ทุกท่านด้วย เพิ่งเข้ามาครั้งแรก โพสต์ครั้งแรก และก็ทำให้เปิดโลกได้กว้างขึ้น ขอบคุณจากใจจริงค่ะ หากข้อความที่โพสต์ไปบางคำทำให้ท่านใดไม่พอใจ ก็ต้องขออภัยไว้ด้วยคะ ^^ ปล. ชื่อดิฉัน "พระ" เป็นคนตั้งให้ค่ะ จริงๆ พระตั้งไว้หลายชื่อ แต่คุณแม่เลือกชื่อนี้ เพราะไม่เหมือนใคร และตอนนี้ พระ ท่านนั้น ได้ มรณภาพไปแล้วคะ เป็นชื่อคนไทยแท้ๆ ค่ะ หมายถึง ละอองทองคำที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า (ที่เรียกกันว่า ทองไพรำ) หรืออีกความหมายหนึ่ง จะหมายถึง อัญมณีที่มีค่า / มณีที่มีค่า จากคุณ : Little Monkey เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 11:34:46 A:161.200.123.154 X: TicketID:266371

ความคิดเห็นที่ 62 ว่า จขกท.แอบแรงแล้วนะ มาเจอบางคนนี่  แร๊งแรง    >,< จากคุณ : หมูอ้วนพุงดำ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 12:25:34

ความคิดเห็นที่ 63 บางคนแรงแลั้ว จขกท วิตกเกินเหตุ และเข้าใจผิด ส่วนหมอ พูดแรงปรี๊ดแรงไปหน่อย ส่วน บางคห ในนี้ คะนองคีย์บอร์ดไปหน่อย เตะหมอ 555 เห็นพูดได้ก็ นอกรพ จากคุณ : Wastrel เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 13:41:24

ความคิดเห็นที่ 64 เรื่องอื่น ไม่รู้ครับ แต่ติดใจคำพูดที่หมอพูดกับญาติผู้ป่วยเรื่องดูถูกฐานะทางการเงิน ไม่ว่าจะหมอ หรือเป็นอะไร คุณก็ไม่มีสิทะพูดแบบนั้น จากคุณ : คินนิคุแมน เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 14:53:22

ความคิดเห็นที่ 65 ผมว่า มันก็เรื่องส่วนตัวของหมอนะ ที่จะเล่น bb แต่มันก็ต้องดูมารยาทด้วย ผมเคยไปมาหลาย รพ. ตั้งแต่ รพ.รัฐ จนถึง รพ.เอกชนแพงๆ ส่วนมาก หมอก็จะใส่ใจคนไข้ มากกว่ามาเล่นโทรศัพท์ อ่อ เคยเจอหมออยู่ท่านหนึ่ง ที่ รพ. เซนต์หลุยส์ หมอท่านนั้น ว่างจากตรวจคนไข้ ก็รีบเลื่อนเก้าอี้มาที่โต๊ะคอม พร้อมกับเปิดหน้าพันทิปที่ค้างไว้ และตอบกระทู้ (รู้สึกจะเป็นกระทู้ห้องสวนลุม) คุณหมอจะทำอะไรในเวลาว่าง ก็สิทธิ์ของคุณหมอ แต่ส่วนตัว ถ้าหมออยู่ในเวลาว่าง และเวลานั้น กำลังเข้าเวร แต่ทำอะไรที่มันเป็นประโยชน์กว่าเมาท์โทรศัพท์อย่างออกรสชาติ และก็นั่งจิ้ม bb มันจะดูน่านับถือกว่า ส่วนหมอที่พูดจาดูถูกคนไข้นั้น ผิดจรรยาบรรณเต็มๆ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 14:54:40

ความคิดเห็นที่ 66 คุณ silverliner เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ???? จะมาอะไรมากมาย.... ไม่รู้สิ....ผมว่าคุณดูเรื่องมากจัง จากคุณ : red-racket เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 15:35:09

ความคิดเห็นที่ 67 ขอเสริมเรื่อง BB ครับ พี่สาวเป็นหมอรังสี สามารถอ่านฟิล์ม X-RAY ผ่าน BB ได้ โดยไม่ต้องอ่านจากฟิล์มจริงครับ ที่พี่ผมถอย BB มาใช้ก็เพื่ออ่านฟิล์มโดยเฉพาะ หากเห็นหมอใช้ BB ก็อย่ามองว่าเล่นเรื่องไร้สาระอย่างเดียวนะครับ ด้วยความเคารพครับ . . . . จากคุณ : มามุจัง (IZAMUFINV) เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 15:42:22

ความคิดเห็นที่ 68 กลายเป็นกระทู้นอกเรื่องไปแล้วววว เห็นเจ้าของกระทุ้เข้าใจแล้ว ก็ดีใจ บางครั้งการทำงานที่เราไม่เข้าใจกันก็ทำให้เกิดความแตกแยกกันได้ ทะเลาะกันก็แต่ในบอร์ดนะ  อย่าไปทำอะไรรุนแรง ปัจจุบันนี้ความอดทนของแต่ละคน  มันน้อยมากกกก เกินไป  คิดแล้วเศร้า!!! จากคุณ : gunapide เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 16:11:58

ความคิดเห็นที่ 69 เรื่อง  BB  อีกเสียงครับ เพื่อนผมเป็นสัตวแพทย์ เค้ามีBBไว้ตอบปัญหาสัตว์เลี้ยงครับ MSN ก็เช่นกัน บางคนรักษากันอยู่ประจำ ก็ถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับอาการต่างๆ ถามก่อน ถ้าอาการมันไม่ได้ร้ายแรงก็ ไม่ต้องไปรพ. เค้าตอบตลอดเวลา ถ้าเค้าว่าง แล้วถ้าเป็นแบบนี้ถือว่าผิดจรรยาบรรณไหมครับ แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 53 17:20:20 จากคุณ : mooaomsin เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 17:12:15

ความคิดเห็นที่ 70 ....ประเด็นคือ การใช้บีบี ผิดที่ผิดทาง ผิดกาลเทศะต่างหากครับ จขกท ไม่ได้ด่าว่า หมอเล่นบีบี แต่พูดว่า หมอไม่ค่อยใส่ใจ มัวแต่มานั่งเล่นบีบีครับ เหมือนหลายท่านตีโจทย์ไม่ค่อยแตก จากคุณ : เครื่องทำน้ำขุ่น เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 18:22:32

ความคิดเห็นที่ 71 BB GUN หรือเปล่าเนี่ย ดูเครียดจังคับ จากคุณ : เด็กชลคนพนัส เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 21:14:50

ความคิดเห็นที่ 72 กลับมาอ่านอีกรอบ  ขึ้นเป็นกท.แนะนำซะแล้ว บอกตรงๆ  จริงๆ  ไม่ชอบกท.นี้เลย  โดยเฉพาะการโพสชื่อจริง  มันทำให้คุยกันดีๆได้ยาก  ซึ่งจขกท.ก็ลบไป  ขอบคุณในจุดนี้ และเมื่ออ่านกันดีๆ  แสดงความเห็นกันดีๆ  ไม่ใช่ด่ากันอย่างเดียว  ผมก็ว่าเป็นกท.ที่ดีอันนึง  ทำให้เห็น  มุมมอง  แง่คิดของอีกฝ่ายได้ดีขึ้น การเข้าใจอีกฝ่ายมากขึ้น  ก็ทำให้การทะเลาะกัน  ไม่พอใจกัน  น้อยลง หลังจากอ่านอีกรอบ  พบว่า  ความคิดเห็น  ของผู้ใช้บริการมีเยอะกว่า งั้น  ผมขอเสริม  มุมมอง  ของทางแพทย์บ้าง  อาจไม่ได้เกี่ยวกับกท.  แต่ก็เพื่อความเข้าใจ  เกี่ยวกับแพทย์ให้มากขึ้น 1.  แพทย์จบใหม่  มักมีนิสัยใจร้อน  และ  "ดุ"  ซึ่งเป็นกันเยอะมาก  เป็นโรคติดต่อก็ว่าได้ แต่ส่วนใหญ่  เกิดจากการที่เราหวังดีกับคนไข้มากเกินไป  อยากให้เค้าทำยังโง้น  อย่างงี้  แล้วไม่ได้ดั่งใจ ยกตัวอย่าง  เราสอนคนไข้ให้เลิกบุหรี่  ให้คุมอาหารในโรคเบาหวาน  ตั้งใจสอนอยู่นาน  บอกหมดว่าจะเกิดอะไรได้บ้าง  พูดจนคอแห้ง เจอกันอีกที  ลุง  ก็ยังสูบบุหรี่เหมือนเดิม  ป้า  ก็ยังกินทุเรียน  น้ำตาลก็ยังสูงเหมือนเดิม  ยาเบาหวานก็ลืมบ้าง  กินบ้าง ถ้าเจอหมอใหม่  ก็จะปรี๊ดครับ  ต่อว่าเป็นการใหญ่  ทำไมเป็นงั้น  เป็นงี้  บอกแล้วไม่ใช่เหรอ?   แต่เมื่อเค้าทำงานไปซักพัก  เป็นหมอเก่าหน่อย  ก็จะรู้ครับ  ว่ามันก็เป็นยังงี้แหละ  ดุไปก็เท่านั้น  เค้าก็จะเงียบลงเอง ให้เวลา  กับหมอหนุ่มๆ  สาวๆ  หน่อยนะครับ  โรคดุของหมอใหม่  มันมีจริงๆ  ไม่ได้ล้อเล่น 2.  บางความเห็นบอกว่า  หมอเอกชน  ได้ตั้งห้าร้อย  เลยตั้งความหวังมาก จริงๆ  ตัวเลขที่เห็นในใบเสร็จนั้น  เข้าแพทย์แค่ครึ่งเดียวครับ  ไม่ค่อยมีใครรู้  เพราะเค้าจะเขียนว่า  ค่าแพทย์ และส่วนใหญ่  มักคิดที่สามร้อยเท่านั้น  คือ  เข้าแพทย์ร้อยห้าสิบ  ห้าร้อยนั้นคงต้องบำรุงราษฏร์  สมิติเวช ประเด็นก็คือ  พวกเรามาอยู่เวรเอกชน  บอกตรงๆครับ  อันดับแรกก็เพื่อรายได้  ไม่งั้นจะมาอดนอนทำไม อันดับสองคือ  ช่วยคนไข้ครับ  ยิ่งถ้าคนไข้หนัก  จำเป็นต้องมา  แต่เดือดร้อนเรื่องเงิน  ไม่มีจ่าย  ถึงมาดึกๆ  ผมก็ไม่คิดค่าตรวจครับ ที่พูดเพราะ  เห็นบางท่านบอกว่า  เอาเงินมาจ่ายแล้ว  ก็ต้องดูกันดีๆหน่อยซิ อยากให้มองตรงข้ามบ้าง  บางที  ที่ผมเจอ  คนไข้มาตอนตีสอง  มาขอยาเดิมครับ  ย้ำตอนตีสอง แถม  ไม่ใช่ยาตัวเองครับ  เป็นยาของญาติ  ที่รับประจำอยู่แล้ว  ย้ำอีกทีครับ  ตอนตีสอง ถ้ายังเห็นว่า  ก็จ่ายเงินให้แล้วนี่  เอาเงินฟาดแล้ว  ก็ต้องดูแลซิ ถูกส่วนนึงนะครับ  แต่ถ้าผมเลือกได้  ผมขอนอนต่อไม่ดีกว่าหรือครับ  กับเงินร้อยห้าสิบ  แล้วเสียสุขภาพ แต่ผมเลือกไม่ได้ครับ  ก็ต้องออกมาดู  รายนี้ผมไม่ได้ต่อว่าอะไร  แค่มองเคืองๆ  สงสัยยังคงโดนติ  ว่าไม่เต็มใจรักษาอีก 3.  การแสดงออกทางคำพูด  ท่าทาง  จริงอยู่  มันทำให้ first impression เสียไป แต่การจะตัดสิน  ว่าคนๆนึง  ดีหรือไม่  ผมว่า  น่าจะต้องดูกันนานๆหน่อย  ไม่ใช่หรือครับ (ยกเว้นการพูดดูถูกครับ  อันนี้เห็นด้วยว่าไม่ควรทำ) ยกตัวอย่าง แพทย์คนนึง  ดุ  ชอบต่อว่าคนไข้  เวลาไม่ทำตามที่บอก  แต่ก็ดูแลคนไข้ดี  ถูกตามหลักการแพทย์  ขัดแย้งคนไข้เสมอๆ  เมื่อเห็นว่า  การรักษาบางอย่าง  ที่คนไข้ขอไม่จำเป็น  อาจเกิดโรคแทรกซ้อนได้ในระยะยาว กับแพทย์อีกคน  เอาใจคนไข้เก่ง  พูดเพราะ  คนไข้อยากได้อะไรจัดให้  โดยไม่คำนึงถึงโรคแทรกซ้อน  ในระยะยาว  เช่น  ไม่สบายไม่ว่าโรคอะไร  ก็ฉีด steroid ให้  จะได้หายเร็วๆ  ทันใจ คุณต้องการแพทย์แบบไหนครับ?  แล้วเราจะรู้ได้ยังงัยครับ  ถ้าเจอกันแค่แว๊บแรก  หันาทีสิบนาที  ผมถึงบอก  ต้องดูกันยาวๆ  (แต่ใครจะมาอยากเจอหมอบ่อยๆ หล่ะ) ผมไม่ปฎิเสธ  การให้ความเห็น  การแนะนำ  การเตือนแพทย์  เพื่อแพทย์คนนั้น  จะได้พัฒนาตัวเอง  ให้ดียิ่งๆขึ้น  อาจส่งเป็นใบแสดงความคิดเห็นก็ได้ครับ แต่กรุณาใช้คำที่สุภาพ  ไม่ให้เกิดการท้อแท้  เซ็ง  เครียด  เบื่อหน่ายในการทำงาน  อยากทำดีแต่กลับโดนติ จากที่เคยหวังดีมากเกินไป  ก็จะกลายเป็นทำตามหน้าที่  สุดท้าย  อาจเฉยชาไปเลยก็ได้   อย่างที่หลายท่านบอกหมอไม่เห็นแนะนำ  ไม่พูดอะไรเลย  เพราะบางครั้งพูดมากไปก็เรื่องเยอะ อย่าลืมนะครับ  แพทย์ก็เป็นคนเช่นกัน  มีถูก  มีผิด  มีความรู้สึกเช่นกัน  แต่ส่วนใหญ่  ก็ต้องการให้คนไข้ของเราหายครับ อ่านแล้ว  คิดว่าเป็นอีกมุมมองนึง  และถ้า  ทำให้เข้าใจแพทย์มากขึ้น  เข้าใจกันมากขึ้น  ก็คงดีครับ  ^^ แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 53 00:29:37 จากคุณ : mk096 เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 23:22:39

ความคิดเห็นที่ 73 -*-  เป็นหมอที่แย่มาก และเป็นคนที่แย่ด้วย ถึงได้พูดจาดูถูก กันขนาดนั้น เอาเป็นว่าเลวอ่ะ ส่วนเรื่องการรักษา เราไม่พูดถึง ไม่ด่าด้วย เพราะเขาคงทำเต็มที่ แต่การดูถูกคนมันแย่นะ เอาเป็นว่าเจ้าของกระทู้ก็ใจเย็นๆ นะคะ ถ้าแม่คุณไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว ถือเสียว่าหมาเห่า โดนหมาแซว แล้วก็จบๆ ไป แบบเหมือนถูกนักเลงหน้าปากซอยแซวเอา เพราะคำพูดที่เจ้าของกระทู้เล่ามา ค่อนข้างถ่อย ในสายตาเรา จากคุณ : ธารวรี เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 01:08:38

ความคิดเห็นที่ 74 เข้าใจทั้งเรื่องของญาติและภาระการทำงานของทางโรงพยาบาลค่ะ เราก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ทำงานในโรงพยาบาลเหมือนกัน... เราเข้าใจว่าทางรพ.เค้าไม่ได้ละเลยหน้าที่ เพียงแต่ควรมีการบอกกล่าวอาการให้ญาติทราบข้อมูลการรักษา ของผู้รับบริการเป็นระยะ ๆ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน แต่ดิฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยจึงไม่สามารถระบุได้ว่าทางโรงพยาบาลได้ให้ข้อมูลอะไำรกับทาง จขกท บ้างนะคะ แต่กรณีนี้เรื่องของการฟ้องร้อง ก็ทำเอาขึ้นโรงขึ้นศาลกันมานักต่อนักแล้ว เกี่ยวกับพฤติกรรมการบริการ ถ้าจะให้แนะนำตั้งแต่ตอนนั้นคุณสามารถ Compain กับทาง รพ.ได้ หรืออาจเขียนในใบประเมินการให้บริการ ณ โรงพยาบาลนั้น ๆ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันด้วยค่ะ... จากคุณ : ~Soul_say~ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 03:32:13

ความคิดเห็นที่ 75 หมอไม่ควรปากจอ คนไข้ป่วยเขาก็มีทั้งอาการทางใจและทางกายอยู่แล้ว ไม่ควรไปพูดแย่ๆให้คนไข้รู้สึกแย่ไปอีก เราคิดว่าจิตสำนึกที่ดีของแพทย์มันก็ควรจะมีบ้าง แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 53 09:47:34 จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 09:47:19

ความคิดเห็นที่ 76   ตอนเรียนเค้าไม่สอนเรื่องการสื่อสารกับคนป่วยและญาติเหรอ หมอบ้านเราส่วนใหญ่ขี้เกียจอธิบายกับคนไข้จริงๆ จากคุณ : กรูจะบ้า เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 11:19:17 A:24.215.241.179 X: TicketID:236456

ความคิดเห็นที่ 77 คห. ที่75 หมอไม่ควรปากจอ หมายความว่าอะไร  ถ้าหมายถึง:-)ละก้อ ไม่ว่าจะอาชีพไหน  ขอให้เป็นคน ก็ไม่ควร:-) จากคุณ : kakoo-1 เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 12:37:12

ความคิดเห็นที่ 78 ความคาดหวังสูง...จากสิ่งที่ได้รับ...ทำให้เกิดกระูทู้แบบนี้อยู่้บ่อยๆ เหมื่อนกับไปเที่ยว  ไปพักผ่อน  บริการแย่ๆ เล็กๆ น้อยๆ  ยังเห็นเอามาโพสด่ากันออกบ่อยๆ  (เกี่ยวกันมั๊ยเนีย) โอ้ย......อ่านจนตาลาย..เคลียด.............ไปหากระทู้ เรท...อ่านดีกว่า.....อิอิ แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 53 14:17:38 จากคุณ : ชักธง1 เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 14:16:03

ความคิดเห็นที่ 79 คนไข้ห้องฉุกเฉิน  ไม่ได้ป่วยฉุกเฉินทุกคน   ความเจ็บป่วยบางอย่าง  ไม่ได้หายในสองชั่วโมง          ความเจ็บป่วยทำให้เรา  ได้รับรู้ถึงความไม่เที่ยง ตัวตนของเราพร้อมจากไปได้ทุกเมื่อ   ได้รับรู้ว่าชีวิตที่ปกติ  นั้นมีค่าควรดูแลแค่ไหน  ได้เข้าใจว่าเราหลงลืม ที่จะใส่ใจคนรอบข้างไหม อย่าคาดหวังแค่ทำให้ความเจ็บนั้นหายๆไปสะ เราอาจพลาดที่จะได้มองเห็น  ความจริงในชีวิตบางอย่างไป จากคุณ : blitzs เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 14:16:29

ความคิดเห็นที่ 80   เรื่องการรักษาไม่ต้องพูดถึง ... แต่ประเด็นก็คือ จะพูดดูถูกคนไข้ทำไม ..... ไม่ว่าจะเป็นอาชีพไหนก็ตาม ยิ่งถ้าเกี่ยวกับการบริการด้วยแล้วยิ่งไม่สมควรทำอย่างยิ่งไม่ว่ากรณีใดๆ พอมาเป็นอาชีพแพทย์ด้วยแล้ว ซึ่งหากินกับความเป็นความตายของคนป่วย มันยิ่งไม่สมควรที่จะแสดงกริยาดูถูก เพราะว่าแพทย์ต้องทำตัวเป็นกลาง ไม่เลือกรักษาคนรวยก่อนคนจน คนจนก็มีชีวิต มีเลือดเนื้อ ต้องการการรักษาพยาบาลที่ดีเช่นกันไม่ต่างไปจากคนรวย อาชีพแพทย์คงจะเข้าใจว่าเป็นอาชีพที่คนไข้ฝากชีวิตเอาไว้ถือว่าทำงานอยู่บนความเป็นและความตายของคน ส่วนแพทย์จะนั่งเล่น BB หรือไม่อย่างไร ก็คงจะเป็นสิทธิของแพทย์คนนั้นๆ เพราะยังไงเสียถ้าแพทย์ทำตัวเรื่อยเปื่อยเล่นแต่ BB ทั้งวัน คงจะต้องโดนประเมินจากผู้บริหารของโรงพยาบาลอยู่ดี เพราะคงมีคนไข้หลายคนฟ้องร้องแน่นอน เพราะว่าแพทย์ก็เป็นคน มันก็ต้องมีทั้งคนดี และคนเลวปนกันไป เอาเป็นว่ากระทู้นี้เป็นเรื่องเตือนใจ สำหรับแพทย์และคนไข้ ให้ดูเป็นเยี่ยงแต่ไม่ควรเอาอย่าง จากคุณ : คนผ่านมา เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 14:39:00 A:161.200.123.154 X: TicketID:266578

ความคิดเห็นที่ 81 จากที่เล่ามา เราไม่ชอบใจส่วนนี้น่ะค่ะ "ถ้าเครียดเพราะไม่มีเงิน  ก็ต้องเครียดต่อไปทำยังไงก็ไม่หายหรอก หมอก็ช่วยไม่ได้ แล้วปลายตามาแขวะญาติคนไข้ว่าถ้ามีลูกแย่ ลูกไม่ดี ลูกดื้อ แก้ไม่ได้ ก็ต้องเครียดไป จะมานอน 10 วัน 20 วันก็ไม่หายหรอก" แต่ถ้าเรื่องให้นอนรอให้ห้องฉุกเฉิน ไม่ให้แอดมิดอะไรนั่น เราก็ไม่รู้ว่าหมอเค้ามีวิธีการวินิจฉันแบบไหนนะคะ บางทีหมอเค้าเจอคนป่วยมาเยอะแล้ว เค้าเลยไม่ตื่นเต้นรึป่าว เข้าใจคุณเจ้าของกระทู้นะคะ แม่ใคร ใครก็ห่วงค่ะ ^_^ จากคุณ : ให้เราได้ยิ้มเมื่อคิดถึง เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 14:59:48

ความคิดเห็นที่ 82 หมอเล่น บีบี เป็นสิทธิ์ของหมอค่ะ แต่หมอไม่มีสิทธิ์ดูถูกเรื่องฐานะคนไข้ค่ะ เพื่อนเราเป็นหมอเหมือนกัน ฐานะดี ในขณะที่เราจ๊น จน แต่เพื่อนคนนี้ยังไม่เคยแม้แต่จะคิดดูถูก มันก้เหมือนซื้อหวยโชคดีเจอหมอน่ารัก  หนูว่านเองยังเคยเจอเลยค่ะ ครั้งนู้นไปเจอหมอกวนอารมณ์ แถมด่าเราอีก แต่เจอพยาบาลน่ารัก ครั้งต่อมาเจอหมอน่ารัก แต่ป้าพยบาลใจดีกำลังอารมณ์ไม่ดี ก็เลยเข้าใจว่า คนเราทุกคนมีอารมณ์ คนป่วยเองก็มีอารมณ์ ญาติก็มีอารมณ์ หมอก็มี พยาบาลก็มี สิ่งที่เราทำได้คือบอกรายละเอียดให้มากที่สุดและอดทนรอ จากคุณ : คลับซ่าส์ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 16:49:51

ความคิดเห็นที่ 83 หมอไม่มีสิทธิ์ที่จะดูถูกคนไข้ครับ  แต่เรื่องบีบี  ถ้าเขาตรวจเสร็จแล้ว ก็มีสิทธิ์ที่จะเล่น ถ้ามีเวลาว่าง  บางครั้งที่เขานั่งดูเครื่องบีบีก็อาจจะดูหนังสือทางการแพทย์ในบีบีก็ได้นะ  และในบางครั้งตอนที่ญาติคุณนอนอยู่เฉยๆ  ไม่ใช่ไม่ได้ทำอะไร  เพราะอาการบางอย่างต้องใช้เวลาที่จะดีขึ้น  ฉีดยาไปแล้วก็ดูอาการสักระยะ  ไม่ได้ฉีดแล้วหายเลย  แล้วในช่วงที่รอดูอาการ คนไข้ก็คงไม่ต้องทำอะไรพิเศษ  คงไม่ถึงกับไปนวดหรือทำสปา  หรือว่าคุยอะไรตลอดเวลา หลังจากประเมินถ้าดีก็กลับบ้านกินยาได้  ถ้ายังไม่ดีก็ว่ากันอีกที  ซึ่งบางครั้งเวลาอ่านอะไรก็ควรจะต้องฟังหูไว้หูนะ เพราะเราไม่อยู่ในเหตการณ์จริืง จากคุณ : กุหลาบซ่อนพิษ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 17:02:19

ความคิดเห็นที่ 84   " หมอมีสิทธิ์ดูถูกคนไข้ และนั่งเล่น BB ระหว่างรอดูอาการคนป่วยได้หรือค่ะ " ถ้าตนเองเจอเหตุการณ์แบบนี้กับคุณแม่  ก็คงจะไม่พอใจในคำพูดบางประโยคของแพทย์ท่านนั้นค่ะ  ถ้ามาต่อว่าหรือดูถูกตามที่คุณ จขกท กล่าวมา แต่วิธีการแก้ไข สิ่งที่จะทำก็คือ เรามาในฐานะคนไข้ หรือผู้รับบริการ ก็คงจะพูดกับแพทย์ท่านนั้นไปเลยตรงๆค่ะ ว่าคำพูดและกริยาแบบนี้ไม่เหมาะสมเลยค่ะ ที่จะปฏิบัติต่อผู้ป่วยและญาติเช่นนี้ จากนั้นก็คงจะเขียนเรื่องราวทั้งหมดลงในใบร้องเรียน พร้อมลงชื่อ-นามสกุลจริงไปด้วยค่ะ  และขอให้ทางโรงพยาบาลหรือฝ่ายบริหารตรวจสอบและให้คำตอบในพฤติกรรมแบบนี้ด้วยค่ะ ว่าเหมาะสมหรือไม่ โดยตอบเป็นลายลักอักษรแจ้งมายังเจ้าของเรื่องร้องเรียนค่ะ แบบนี้จะเป็นการระบุตัวบุคคลไปเลย และหัวหน้ารวมถึงฝ่ายบริหารจะได้ทราบพฤติกรรมของบุคคลากรดังกล่าวด้วยค่ะ เชื่อว่าโรงพยาบาลระดับใหญ่มีระบบแบบนี้อยู่แล้วค่ะ คงจะไม่ใช่ร้องแล้วก็หายไป หรือไม่รับผิดชอบในการกระทำ ส่วนการเล่น BB แบบนี้ต้องสังเกตดีๆค่ะ  เพราะการเล่น BB หรือ PDA Phone หรือ Internet บางที่คนอื่นอาจจะเข้าใจผิดได้ เพราะว่า อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นแหล่งค้นคว้าข้อมูลค่ะ  สามารถ load medical sofewares ได้มากค่ะ เข้าใจคุณ จขกท ว่าโกรธค่ะ  เพราะถ้าตนเองอยู่ในสภาพนั้นก็คงโกรธเช่นกันค่ะ  ก็เลยมาเขียนใน pantip แต่ว่าถ้าต้องการระบุชื่อ-สกุลของแพทย์เต็มยศแบบนี้ ก็ดูจะไม่เหมาะค่ะ เพราะที่นี่เป็นสาธารณะเกินไปค่ะ ข้อมูลมาเพียงฝ่ายเดียว  และอาจจะถูกฟ้องได้ค่ะ   แต่น่าจะเล่าเป็นลักษณะกรณีตัวอย่างเท่านั้น ไม่ควรเจาะจงมากนักค่ะ   ใจเขาใจเราค่ะ คงไม่อยากให้ใครมาดูถูก หรือมีพฤติกรรมดูหมื่นทั้งตนเองและบุพการีค่ะ ไม่ว่าจะวิเศษมาจากไหนก็ตาม จริงไหมค่ะ จากคุณ : athena_b เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 22:11:29

ความคิดเห็นที่ 85 ประเด็นคือ หมอไม่ควรดูถูกคนไข้ ส่วนบางคนก็ไม่ได้ความรู้ภาษาไทยตกต่ำหรอก แต่เป็นมารยาทต่างหากที่ตกต่ำ ณ จุดๆ นี้ จากคุณ : อาซิ่ม เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 00:39:45

ความคิดเห็นที่ 86   คำพูดของคุณ silverliner  ดูเหมือส่อไปทางกำพืดนะครับ สงสัยต้องให้ที่บ้านอบรมสั่งสอนเสียบ้างก็ดีนะครับ เหมือนไม่ได้รับการอบรมมาเลยอะ ขออภัยทีว่าแรง แต่ดูแล้ว เหมือนเด็กอมมือครับ จากคุณ : SPORTERO เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 10:05:25

ความคิดเห็นที่ 87 ต้องให้เกียรติกันทั้งสองฝ่ายครับ ทั้งหมอและคนไข้ วันหลังถ้าหมอมีคนไข้ปากปีจอมั่ง จะเอามาลงให้อ่าน ขอระบายมั่ง ได้ปะ จากคุณ : ยุน จุนโซ NT ชั่วนิรันดร์ เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 11:07:10

ความคิดเห็นที่ 88 86"""""แอบแรงนิดๆนะเธอร์ ดูเหมือส่อไปทางกำพืดนะครับ........เนี่ย..ว่าเขาทั้ง..โคตะระเลยนะเธอร์ จากคุณ : ชักธง1 เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 11:26:37

ความคิดเห็นที่ 89 โล่งอก ที่ผมไม่มี BB เพราะมีหลายๆ ครั้งเหมือนกัน ที่คนไข้เวียนหัวมา ผมก็ฉีดยาแก้เวียนหัวให้ แล้วก็ให้นอนดูอาการ  ซึ่งอาจจะดูเหมือนกับว่าไม่ได้ทำอะไรเลย.. จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 13:14:03

ความคิดเห็นที่ 90 จะเล่น BB หรือไม่เล่น หรือจะรักษายังไง ก็แล้วแต่ แต่ถ้าหมอพูด "ถ้าเครียดเพราะไม่มีเงิน" เราว่าแย่มากค่ะ จากคุณ : แบ๊น แบน เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 14:10:55

ความคิดเห็นที่ 91   พนักงานแคชเชียร์ของร้านสะดวกซื้ออาศัยช่วงที่ไม่มีลูกค้ามาจ่ายเงิน จึงหยิบ BB ขึ้นมาเล่นหน้าเคาน์เตอร์ เพราะถือเป็นช่วงเวลาว่าง คุณครูอาศัยช่วงเวลาที่นักเรียนนั่งจดงานบนกระดานดำ จึงหยิบ BB ขึ้นมาเล่นในคาบสอน เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาว่าง พนักงานออฟฟิตทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จเวลาบ่ายสอง จึงหยิบ BB ขึ้นมาเล่นกลางออฟฟิต เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาว่าง คุณหมอดูอาการคนไข้เสร็จ จึงหยิบ BB ขึ้นมาเล่นระหว่างอยู่เวร เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาว่าง แตกต่างกันไหมครับ จากคุณ : ถามดูเฉยๆนะครับ เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 14:49:13 A:180.180.105.95 X: TicketID:247552

ความคิดเห็นที่ 93 หรือว่า เป็นแผนโปรโมต  BB จากคุณ : แช มัน ฮวา เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 17:18:26

ความคิดเห็นที่ 94   ขอบคุณทุกความคิดเห็นอีกครั้งนะคะ ในการแสดงความคิดเห็นในหลากหลายสถานะ และในหลายๆ มุมมองทั้งผู้ประสบเหตุ ผู้ปฏิบัติงาน หรือเพื่อนร่วมสายอาชีพ และในหลากหลายอาชีพที่โพสต์เข้ามาค่ะ อ่านไปแล้วก็รู้สึกเข้าใจการทำงานของแพทย์มากขึ้นค่ะ และจะพยายามเข้าใจให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เราเป็นคนไทย เราควรรักกันไว้ดีกว่านะคะ นอกจากนั้นเราก็ควรจะเข้าใจกันให้มากขึ้นด้วย ^^ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 17:21:48 A:125.24.142.16 X: TicketID:266371

ความคิดเห็นที่ 95 เรื่องอย่างงี้หนูก็เคยเจอค่ะ ต้นปีนี้เอง ถูกรถชน ไปถึงห้องฉุกเฉิน ได้ยินคนในนั้นไม่แน่ใจว่าเข้าหน้าที่หรือใคร เพราะขยับหัวและตัวไม่ได้เลยค่ะ บอกว่าให้นอนรอไปก่อน หมอไปตลาด นอนรอซักพัก แม่ก็เข้ามา ไม่มีใครมาตรวจไรเลย ทั้งที่อาการก็หนัก ปวดคอ ต้นคอ ปวดหลัง นิ้วหักอีกตังหาก ไม่มีซักนิด เราก็กลัวมาว่าจะกระดูกสันหลัง กระดูกคอเป็นอะไร แม่ก็เลยโทรให้ญาติเป็นหมอที่นั้นมาดูให้และเพื่อนที่เป็นพยาบาล คราวนี้นี้ จัดการทันที พอหมอญาติมา ไปสแกนคอม เอ๊กซเร เซ็งเลยจริงๆหมอไปตลาด! จากคุณ : จ.ตาก (im-a-pilot) เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 22:33:01

ความคิดเห็นที่ 96 กรณีเช่นนี้ไม่ควรฟังความข้างเดียวค่ะ อารมณ์ล้วนๆ เท่าที่ฟังมา คุณมีอารมณ์ หมอก็คนก็มีอารมณ์เหมือนกันค่ะ จากคุณ : แอนด้า เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 23:18:16

ความคิดเห็นที่ 97 หนูไม่รู้ว่า BB คืออะไรคะ  ใช่โทรศัพท์มือถือเปล่า  แต่ถ้าทั้งหมดที่พี่เจ้าของกระทู้เล่ามา  ถ้าเป็นความจริง  พี่ต้องกล้า show login ของพี่สิคะ   ถ้าพี่แน่ใจในความผิดของหมอ  ทำไมพี่ไม่แจ้งร้องเรียนแพทย์สภาคะ  พี่มาด่าหมอ  และหาแนวร่วมด่าหมอ  คลายเครียดผ่านสังคมที่ไม่เห็นหน้า  มีแต่ตัวหนังสือ  แค่นั้นหรือคะ  หนูเป็นเด็ก  แต่หนูทราบค่ะ ว่าการฟังความข้างเดียวไม่ยุติธรรม จากคุณ : มัฟฟินนุ่มเหนียวหนึบหนับ เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 02:08:45

ความคิดเห็นที่ 98 เห็นใจเจ้าของกระทู้ครับ บุพการีใคร ใครก็รัก และ...บางคอมเม้นท์แรงจนเกือบเลว จากคุณ : กลมขึ้นทุกวัน เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 06:59:25

ความคิดเห็นที่ 99 เจ้าของกระทู้ยังไม่กล้าใส่ชื่อ  นามสกุล  จริงเลย  ง่ายๆนะคะ  แค่Login ยังไม่กล้าเปิดเผย  แล้วใครจะกล้ารับเรื่องร้องทุกข์ละคะ แน่ใจได้ยังไงว่าไม่ใช่แต่งเรื่องขึ้นมาใส่ความ.. โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมนะคะ... จากคุณ : usbankusa เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 07:55:34

ความคิดเห็นที่ 100 เข้าใจ จขกท. ค่ะ เป็นเหมือนกันค่ะ มันน่าจะเป็นความกลัวลึกๆ ที่คิดไปเอง จนร้องไห้ไปก่อน (พวกมองโลกในแง่ร้ายน่ะ) กลัวว่าจะเป็นตามไปติดคิดกังวลไปเอง (มันจะคิดตั้งแต่รู้ข่าว ตลอดจนเดินทางมาถึงเลยล่ะ) พอมาถึงก็อยากจะทำอะไรบ้าง ทั้งๆที่รู้ว่าทำอะไรไม่ได้เลย ก็ทำได้แค่ประสานงาน คอยย้ำ ว่าทำยัง ตรวจยัง หมอเก่ามายัง(มักไม่เอาหมอเวรหรือหมอเด็ก) ผลเป็นไงยัง ดีขึ้นไหม จะหายหรือยัง คนไขทรมารไหม ขอเข้าไปอยู่ข้างๆได้ไหม แอดมิดเลยได้ไหม ขออยู่ใกล้ๆหมอ(เรา)จะสบายใจกว่า คุณจะรออยู่เฉยๆไม่ทำอะไรเลยเหรอ เดินไปรอผลห้องตรวจก็มี บลาๆ มันจะมาเป็นชุด และเมื่อมันไม่ได้อย่างใจ การตอบสนองของหมอ พยาบาล ไม่ตรงกับที่เราต้องการ ก็อาจเกิดอาการโมโห แต่ก็ควรชังใจไว้ ยังไงก็ต้องพึ่งพวกเขา ยอมรับซะว่าเราทำเองไม่ได้ การจะมางี่เง่า(เคยนะ) จะขอย้ายร.พ. ไปเอกชน ดีๆแพงก็ได้ ก็เป็นเรื่องไม่ควรสำหรับคนป่วย แต่พออ่าน คนในวงการแล้วก็ทำให้เข้าใจพวกเขามากขึ้นนะ แต่เราไม่เคยเจอเมาท์ คุยโทรศัพท์ BB อะไรขนาดนั้น ปกติเขาจะเข้าไปคุยในห้องพัก หรือแอบตามมุมเงียบๆ คุยเบาๆ พยาบาลที่จะอยู่ใกล้ๆในห้องก็จะเดินไปเดินมา นั่งเฉยๆ ไม่ก็กระซิบคุยกันนิดหน่อย ไม่ก็เดินมาคุยกับคนไขและญาติ ปลอบใจ ให้ใจเย็น แต่หมอปากร้ายเนี่ย เจอบ่อย 1 ใน 5 อะไรประมาณเนี่ย พยาบาลมีที่เดียวที่เคยเจอแย่มาก(เมื่อ 10 ที่แล้วนะ ตอนนี้ไม่ทราบ) จากคุณ : ใจเย็นไว้ (น.ส.แสงแก้ว) เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 11:57:59

ความคิดเห็นที่ 101 ดู House บ้างก็ได้นะ  จะได้เห็นหมอในอีกลักษณะนึง จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 15:10:10

ความคิดเห็นที่ 102 ความคิดเห็นที่ 37, 38 แรงไปไหม?? จขกท. ไม่ได้ไปว่าอะไรคุณเลย คุณยังโกรธแค้นเค้าขนาดนี้ แล้วลองนึกถึงหัวอกของคนที่เค้าถูกคนอื่นดูถูกบุพการีต่อหน้าต่อตา  เค้าผิดรึ ? ตรงนี้ต่างหากคือประเด็น ตามหลักภาษาไทยแล้ว ถ้าอ่านดูดีๆ ก็จะรู้ว่า จขกท. โฟกัสไปที่ 2 เรื่อง  คือ 1. หมอดูถูกแม่เค้า ทั้งทางเรื่องสุขภาพจิตแม่  ทั้งทางเรื่องฐานะ ทั้งทางเรื่องการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัว  ซึ่ง ณ จุดๆนี้ ในฐานะคนคนหนึ่ง ว่าแย่แล้ว ในฐานะ คนที่เป็นหมอ กลับยิ่งแย่กว่า 2.การล่าช้าในการรักษา โอเค ณ ตรงนี้ อาจจะมีมุมมองของหมอเข้ามาทำให้กระจ่าง เนื่องด้วย จขกท. ไม่เข้าใจการรักษาของหมอ บวกกับวิตกกังวลอาการของแม่ ทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้น  ซึ่ง หลายคอมเม้นท์ดีๆ เขาก็เข้ามาอธิบายให้กระจ่างแล้ว  ทำให้เพื่อนๆในพันทิปได้เข้าใจการทำงานของหมอมากขึ้น และมันคงทำให้ จขกท. ได้รับคำตอบที่ทำให้รู้สึกแย่น้อยลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีครับ ส่วนเรื่อง บีบี บูบู อะไรนั่น จขกท. เอ่ยถึงเพียงย่อหน้าเล็กๆ ซึ่งอยู่ท้ายบทความ  โดยไม่ได้จับเอาสิ่งนั้นมาเป็นประเด็น แค่ด้วยอารมณ์ไม่พอใจ กอรปกับการเขียนโดยละเอียดตามสิ่งที่เค้าได้เห็นได้ทราบมา เพราะฉะนั้นเรื่อง บีบี เรื่อง หมอคุยกัน มันไม่ใช่ประเด็น   ประเด็นอยู่ที่ 2 หัวข้อ ที่ผมกล่าว ด้านบน  ผิดถูก ควรไม่ควรยังไง ก็ควรจะโฟกัสไปลงความเห็นกันที่จุดนี้   จะมาว่าเขาเนรคุณ? ผมว่ามัน ดราม่าไปหน่อย การที่ลูกโกรธแค้นเนื่องจากบุพการีที่เลี้ยงดูเค้ามาตลอดระยะเวลาหลายสิบปีโดยไม่คาดหวังอะไรตอบแทนผู้นั้นถูกคนอื่นดูถูกเหยียดหยาม  ผมว่าคนอย่างนี้ ไม่น่าจะใช้คำว่า เนรคุณกับเค้า หมอ ช่วยดูแลรักษาอาการของแม่เขาก็จริง แต่มันเป็นไปโดยอาชีพ ซึ่งได้รับผลตอบแทน ถึงแม้จะมากน้อยก็ตาม แต่มันคืออาชีพ มันคือหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากสังคม  โดยหาใช่ทำด้วยใจไม่ เพราะฉะนั้น ในจุดนี้คงถือเป็นบุญคุณไม่ได้ จากคุณ : กลมขึ้นทุกวัน เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 16:56:50

ความคิดเห็นที่ 103   อยากให้คุณ จขกท เข้าใจ คนพวกนี้แค่บุคลากร ที่ชินชากับ  ความทุกข์ยากลำเค็ญ ของชาวบ้านประชาชี ที่อยากจะบอกคือ พวกท่านบุคลากรทั้งหลาย น่าจะได้ตระหนักถึงใจเค้าใจเรา   สีหน้า ท่าทาง การเเสดงออกขณะอยู่ใกล้คนป่วย ทุกข์ยากลำบากใจ ไม่ใช่ดี๊ด๊า กระแนะกระเเหน ปั้นหน้าหลดแหล๋ มันก็พูดยาก พวกท่านชินกะเเบบที่ทำกันอยู่นี้นี่คะ เนอะ...หุหุ จากคุณ : เจ๊ใหญ่ลานนา เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 18:01:29

ความคิดเห็นที่ 104 เข้ามาบอกว่า เข้าใจจขกท มากกกกกกก เคยเจอกะตัว ไอ้พวกหมอ"เวร" ผู้ทรงศีลทั้งหลาย ลองเจอกะตัวจะรู้ ว่ามันคับแค้นขนาดไหน แล้วจะไม่มาแก้ตัวให้หมอเลวๆพวกนี้้เลย!! จากคุณ : ไม่ึตามน้ำ ด่าจริงไรจริง (Bitchy Pooh) เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 22:03:31

ความคิดเห็นที่ 105 ไอเชี้ยนี้มันจบหมอมาได้ไงวะ จากคุณ : .45ACP เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 23:47:40

ความคิดเห็นที่ 106 ทุกอาชีพแหละ มันก็มี ปลาเน่า จากคุณ : ไม้กล้า เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:47:10

ความคิดเห็นที่ 107 เรื่องจริงเป็นยังไง ยังไม่มีใครรู้เลยนอกจาก จขกท กะ หมอ แล้วจะออกความเห็นแบบแรงๆ ให้คนด่ากันเถียงกันไปทำไมละครับ แบบสร้างสรรค์ดีกว่าไหม จากคุณ : gboy เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 03:00:28

ความคิดเห็นที่ 108 อยากแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว เคยโดนหมอพูดแรง ๆ ใส่ แต่บอกได้เลยว่าไม่โกรธนะคะ แถมชื่นชมซะอีก ประสบการณ์ คือ กินยาเกินขนาดค่ะ แม่เห็นตอนตีสี่ พยายามลากไปหาหมอ (อารมณ์นั้นไม่ยอมค่ะ จำได้แม่น) จนแม่พูดมาประโยคหนึ่ง "เรามีกันอยู่สองคน แม่ขอ" เลยไปค่ะ (ทำไมเราแย่แบบนี้เนี่ย) ตัดมาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใกล้บ้าน... เราไปถึงที่นั่นเกือบ ๆ ตีห้า ก็เข้าห้องฉุกเฉินไป ภาพวันนั้นยังจำได้ติดตาคือ พยาบาลวิ่งไปตามหมอ ประมาณไม่เกินห้านาทีค่ะ หมอวิ่งออกมาดู ผมเผ้ายุ่งเหยิงออกมาเลยทีเดียว ตรวจนั่นนี่  ตามกระบวนการของหมอไป แล้วสั่ง ล้างท้อง (มันแน่อยู่แล้ว) หลังจากหมอสั่ง ก็หายตัวไป หายไปเลยนะคะ ***จาก เหตุการณ์นี้ เราเชื่อแล้วว่า ถ้ามันไม่ฉุกเฉินเร่งด่วนจริง ๆ หมอคงไม่ออกมาสภาพนั้น*** ตัดมาตอน หมอเจ้าของไข้ค่ะ ตอนย้ายเราเข้าห้องพักผู้ป่วยแล้ว.... หมอ และ พยาบาล : (หมอพูด น้ำเสียงประชดประชัน) ทำไมเป็นคนแบบนี้ โตแล้วไม่รู้จักคิด ได้คิดหน้าคิดหลัง   บ้างไหม รู้ไหมว่าแม่จะเสียใจแค่ไหน ถ้าเราเป็นอะไรไป (บ่นอีกยาวยืด จำไม่ได้แล้วค่ะ) ในขณะที่หมอพูด ๆ อยู่นั้น ที่ล้างท้อง มันทำให้อาเจียนค่ะ แบบสกปรกเลย คนแรกที่เข้ามาดูคือหมอ แล้วช่วยลูบหลัง  (ยอมรับว่า งง บ่น ๆ ไหงมาถึงตัวก่อนพยาบาล) แล้วหมอก็เงียบ บอกแค่ว่า ต้องใส่สายที่จมูก งดน้ำ งดอาหาร มียามื้อแรก ตอนสิบเอ็ดโมง จำได้เท่านี้ *** ทำไมต้องประชด *** ...เวลาสิบเอ็ดโมง ตามเวลาที่หมอบอกไว้ต้องกินยา... พยาบาล : ยามาแล้วค่ะ (สายตาจิกสุด ๆ ) ยาทั้งหมดยี่สิบสี่เม็ด กินเลยค่ะ จะดู ว่าไม่แอบทิ้งลงถังขยะ เรา : หยิบมาเม็ดแรก เหม็นคาวมาก ๆ กินไม่ได้ ส่งคืนพยาบาล แล้วบอกว่า กินไม่ได้ค่ะ เหม็น ไม่เอา พยาบาล : อยากตายเหรอคะ (อะไรนะ แต่หูไม่ฝาด) น้องกินยาไปนานมากแล้ว ต้องกินค่ะ ถ้าน้องไม่กินจะแจ้งหมอนะคะ แล้วก็เดินสะบัดบ๊อบออกไปจากห้อง ...ประมาณ 5 นาทีผ่านไป...พยาบาลเดินเข้ามาอีกแล้ว พยาบาล : น้องรู้ไหมคะว่ายาอีกตัวแพงกว่ามาก แล้วที่นี่ก็ไม่มียานี้ในสต๊อก ต้องสั่งมาจากอีกที่ ถ้าน้องจะเอาหมอแจ้งว่า จะได้ยาตอนบ่ายสอง มันก็เลยเวลาไปมากแล้ว เรา :   ค่ะ ทราบ แต่กินไม่ได้ ก็สั่งมาแล้วกันค่ะ ไม่มีทางเลือก พยาบาล : ทำไมเอาแต่ใจแบบนี้เนี่ย *** อยากตายเหรอคะ ?, ยาราคาถูกกว่า แพงกว่า, ทำไมเอาแต่ใจ *** (ลมออกหูแล้ว) .................................................... วันต่อมา ตอนเช้า หมอ : ดีขึ้นไหม (ชื่อเรา) เรา : ก็ดีขึ้นอ่ะค่ะ หมอ : (เมื่อวานยังไม่จบ ดันอาเจียนซะก่อน)  จะมาบ่อย ๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ ป่วยบ่อยน่ะชินแล้ว  แต่ กรณีนี้ หมอรับไม่ได้ ทำไมต้องกินยา ไม่รักแม่เหรอ รู้ไหม ทางโรงพยาบาล โทรไปปลุกหมอตั้งแต่ตีห้า  (มีปลุกด้วยเหรอ ไม่เห็นรู้เลย) แล้วสอนอะไรมาอีกเยอะแยะ แต่เสียดแทงใจดำมากมาย *** หมอบ่น เรื่องกินยา, โดนโทรปลุก, สอนอะไรมาอีกเยอะ เสียดแทงใจดำ *** จะบอกว่า เหตุการณ์ที่อยู่ใน ***...*** ตอนนี้เราคิดได้แล้วว่ามันก็จริง เราก็เสียใจ เราก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขยังไง  เพียงแต่สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก รู้ว่าโง่ รู้ว่าบาป แต่ ประเด็นคือ... เราอาจจะไม่รู้ ไม่เห็นว่า ขั้นตอนทางแพทย์ ทำอะไรไปบ้างแล้ว ดูเหมือนล่าช้า ไม่ทันใจ (สำหรับเราแล้ว เราเชื่อว่า หมอและพยาบาลทำดีที่สุด ไม่ใช่เพราะว่าเราเข้า รพ.เอกชน แต่หมอก็คงไม่อยากให้ใครตายด้วยน้ำมือ) อย่างกรณีของหมอในห้องฉุกเฉินหายไปเลย หลังจากสั่งว่าล้างท้อง กรณีพูดแรง ๆ ประชดประชัน ว่าเราแบบนั้น (กลับมามองในวันที่คิดได้ ก็จริงของเขา เขาพูดให้คิด) และกรณีสุดท้าย ราคายา (หมอเลือกที่ราคาประหยัดที่สุด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายคนไข้, แต่เราอยากได้อีกแบบเอง ซึ่งแพงกว่าก็ว่าใครไม่ได้) ..................................................................................................... ***ปัจจุบัน เราอยู่ ตปท. พอดีน้องข้างบ้าน น้องชายของเขาอยู่ไอซียู เดินผ่านหมอ หมอฝากถามว่าสบายดีไหม เห็นหายหัวไปเลย...*** สรุปคือ เราเข้าใจหมอค่ะ จากคุณ : น้ำมันข้าวโพด เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 06:01:57

ความคิดเห็นที่ 109   อ่านให้ละเอียดแล้ว เห็นว่า จขกท. บอกว่า เค้าไม่ได้เป็นสมาชิกพันทิป ดังนั้นจึงไม่มี login และ เค้าได้บอกชื่อจริงไว้แล้ว ใน คห.34 จากคุณ : iRepenter เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 14:14:59

ความคิดเห็นที่ 110 เำกลียดคนใช้ BB ว่ะ แม่่..ง กดอยู่ได้ทั้งวัน.... จากคุณ : ชอบ iPhone มากกว่า (CHoCoLaTion) เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 19:55:52