ความคิดเห็นที่ 1 กระทู้ดักสาลิกาชัด ๆ การขลิบก็คือหัตถการการแพทย์อย่างนึง ซึ่งประโยชน์ของมัน ก็คือเพื่อการดูแลทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น ทำให้ดูแลสุขอนามัยได้ดีขึ้น อย่างที่หลาย ๆ คนรู้กัน คือผู้ชายทุกคนจะมีหนังหุ้มบริเวณปลายของอวัยวะเพศ ซึ่งบางคนที่โชคดีหน่อย หนังไม่ยาวมาก ดังนั้นเวลาโตขึ้นหนังก็จะร่นไปด้านล่างได้ แต่ก็มีผู้ชายอีกจำนวนมากเช่นกัน ที่หนังหุ้มปลายยังยาวอยู่ ทำให้มันคลุมบริเวณหัวของตัวอวัยวะ ตรงนี้แหละครับที่ทำให้เกิดปัญหาได้ เพราะเวลาเราเข้าห้องน้ำแต่ละครั้ง หลังทำธุระเสร็จก็จะมีคราบหรือหยดของฉี่มาค้างไว้ และยิ่งประกอบกับเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ทั้งเหงื่อ ทั้งขี้ไคลมาหมัก ๆ คลุกเคล้า ๆรวมกันจนเข้าที่ ตรงนี้แหละครับที่ทำให้เกิดคราบและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ครับ ซึ่งคนที่ขลิบจะช่วยเรื่องนี้ได้เยอะครับ เจ็บหรือไม่นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ เด็กๆหลายคนก็แค่ฉีดยาชาก็ไหวครับ  ไกลหัวใจ เมืองไทยเมืองร้อน ใส่เสื้อแขนยาวทำอะไรก็ลำบาก จะล้างมือ จะหยิบของก็ไม่สะดวก จะถกแขนเสื้อไปข้อศอก ซักพักแขนเสื้อก็ตกลงมาอีก และพอแขนเสื้อเปียกน้ำ มันก็ชื้น เหนอะหนะครับ  ดังนั้นหาเสื้อแขนสั้นมาใส่ดีกว่า จะทำอะไรก็ง่ายขึ้นครับ หลายคนยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าขลิบแล้วเป็นยังไง ผมเลยรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เอาไว้เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในการหาข้อมูลนะครับ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่บ้างแหละ ลองเข้าไปชมดูนะครับ ที่ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thaicirc20&group=4 ส่วนใครมีข้อแนะนำไงก็ฝากไว้ได้นะครับ ปล.อาจมีภาพไม่เหมาะสมกับเยาวชนบ้าง แต่เจตนาเพื่อการศึกษานะครับ เรื่องเพศศึกษาหรือสุขอนามัยของอวัยวะส่วนสำคัญเมืองไทยเราไม่ค่อยมีคนพูดหรือสอน ปล่อยให้ไปหาความรู้กันเองแบบผิด ๆ แอบถามกันแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ คนตอบก็ถูกบ้าง ผิดบ้าง ตอนสอนครูก็สอนไปอายไป พยายามข้าม ๆ ให้จบ ๆ ผมเลยอยากจะทำเวบเกี่ยวกับเรื่องการดูแลอวัยวะส่วนสำคัญของผู้ชายครับ ไปดูแล้วช่วยกันเผยแพร่หน่อยนะครับ เพราะทุกวันนี้ผมอยู่รพ. มีคนไข้มากมายที่มาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในพันทิพเองก็มีคำถามแบบนี้มาทุกวัน ทั้งที่จริง ๆ เป็นเรื่องที่ควรจะมีการสอนและปลูกฝังให้กับเยาวชนของพวกเราครับ จากคุณ : สาลิกาโบยบิน เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 18:27:27

ความคิดเห็นที่ 2   ของผมไม่ใช่แบบในบล็องครับ แค่หนังมันยาวเท่านั้น ทำอะไรได้ปกติทุกอย่าง จากคุณ : oH my God เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 18:50:50 A:124.121.94.205 X: TicketID:226208

ความคิดเห็นที่ 3   ท่านสาลิกาสอบหมอระดับความยากระดับไหนหรือครับ ผมเองก็อยากเป็นหมอ หนึ่งในเหตุผลก็คือ เพื่อที่จะรู้ว่า ตนมีความผิดปกติอะไรหรือเปล่า และสามารถรักษาได้เอง เกรด 3.79 พอไหวไหม จากคุณ : oH my God เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 18:53:57 A:124.121.94.205 X: TicketID:226208

ความคิดเห็นที่ 4   กรอดดดด !! ตูเลิกยาวไปนานแหละ จากคุณ : T-T เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 18:57:38 A:124.121.94.205 X: TicketID:226208

ความคิดเห็นที่ 5 เรียนหมอก็ยากเหมือนทุกอาชีพแหละครับ ให้ผมไปท่องกฎหมาย หรือออกแบบวิศวะผมก็ทำไม่เป็น ที่สำคัญคืออยากเป็นหมอจริง ๆ แค่ไหน เพราะอาชีพหมอเหนื่อยนะครับ ตอนเรียนก็เหนื่อย ไหนจะสอบ ไหนจะขึ้นวอรด์ ไหนจะอยู่เวร นอนไม่เป็นเวลา จบแล้วความรับผิดชอบก็มหาศาล อยู่กับผู้คนที่แบกความทุกข์มาหาเราวันละเป็นร้อย รองรับความต้องการของคนไข้และญาติอีกมากมาย ซึ่งเราก็ต้องรับมือให้ได้ ดังนั้นถ้าไม่รักจริง ๆ จะผ่านไปแต่ละวันแบบไม่สนุกครับ และเราจะจิตตกครับ อยากรู้ว่าเราผิดปกติอะไรก็ไปตรวจครับ ดีกว่าเอาชีวิตทั้งชีวิตไปทำในสิ่งที่เราไม่ชอบ เสียเวลา เสียเงิน และเสียดายแทนบรรดาคนไข้ที่เสียสละร่างกายมาสร้างหมอครับ จากคุณ : สาลิกาโบยบิน เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 21:29:09

ความคิดเห็นที่ 6   ชอบคำตอบของคุณ สาลิกาโบยบินมากครับ อาชีพไหนก้อเหนื่อย เรียนยากเหมือนกัน ความรับผิดชอบก้อแตกต่างกันไปครับ แล้วปัจจุบันในสายแพทย์ยังเน้นให้มีการทำงานเป็น สหวิชาชีพ อีกด้วยครับ ทำงานกับคนมากมาย หลายวิชาชีพ หลายความภูมิใจ การเรียนรู้ ปรับตัวสำคัญมากครับ   เกรดในความคิดผมไม่สำคัญครับ อย่างที่คุณสาลิกาบอกว่า ต้องถามก่อนว่าอยากเป็นหมอจริงแค่ไหน จิตใจเราอยากช่วยคนมากแค่ไหนครับ อย่าคิดว่าถ้าไม่ได้เรียนหมอ เด๋วไปเรียนทันตะก้อได้ เภสัชก้อดี อย่างนี้แสดงว่าคุณ อาจ จะไม่ได้อยากเป็นแพทย์จริงๆนะครับ จากคุณ : นิสิตเภสัชฮับ(PhAnTKunG) (laxer) เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 53 22:26:10

ความคิดเห็นที่ 7   เหตุที่อยากเป็นหมอของผม 1.สนใจมากในเรื่องศาสตร์ของวิชาแพทย์ ผมหาหนังสืออ่านบ่อยครับ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเรียน(สุขศึกษานั้นแหละ) หนังสือความรู้ทั่วไปอย่าง หนังสือการ์ตูนวิทยาศาสตร์ของเกาหลีที่นำเข้ามา (โตเป็นควายยังอ่านอยู่เลย) หนังสือการ์ตูนหมอก็อ่าน ผมคิดว่ามันวิเศษมากที่หมอสามารถประยุกต์การรักษาจากความรู้รอบตัวเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ อย่างเช่นการเอาเลือดของคนป่วยมาทำยาหยอดตาเพื่อรักษาต้อกระจกที่มีบาดแผล หรือการยิงคลื่นสั่นสะเทือนเพื่อสร้างเส้นเลือดฝอยรอบๆเส้นเลือดที่ตีบเพื่อให้เลือดไหลได้ปกติ หรือไม่ก็การรักษากระดูกในกรณีที่กระดูกถูกตัดออกเนื่องด้วยผลจากพวก เป็นมะเร็ง หรือหรือแตกหักอะไรประมาณนั้ นโดยการเอาความรู้ที่ว่ากระดูกจะงอกออกมา 1 มิลต่อหนึ่งวัน มาใช้โดยการใส่เหล็กดามแล้วเคลื่อนโครงทุกๆวันวันล่ะ 1 มิล ให้กระดูกงอกมาจนต่อกันได้สำเร็จ ผมว่ามันยอดเยี่ยมมากๆ ไม่รู้ว่าคนเป็นหมอคิดได้ไง ผมเองก็อยากจะซักครั้งที่จะคิดรักษาอาการป่วยบางอย่างในแบบของตนเองดูเหมือนกัน 2.ใครๆก็ว่าบุคลิกผมมักคล้องจองกันอาชีพหมอ ซึ่งผมเห็นด้วยตามนั้น 3.อาจฟังดูเป็นพระเอกหน่อยแต่ว่า บางครั้งหากผมสามารถช่วยใครได้อย่าง ในห้องเราสามารถช่วยครูยกของได้ หากผมไม่ทำแล้วเหมือนมันรู้สึกผิดๆไงไม่รู้ เหมือนๆมาอะไรที่เราน่าจะทำได้เราน่าจะทำไปเลย ให้มันจบๆ 4.ผมกลัวครับ ผมกลัวว่าหากซักคนหนึ่งพ่อ แม่ ผมเป็นอะไรไปแล้วผมทำได้แค่ยื่นมองอยู่ตรงนั้นโดยทำอะไรไม่ได้ซึ่งผมไม่ยอมแน่ ผมมันประเภททำอะไรก็ทำให้ถึงที่สุด 5.อย่างที่บอกผมไม่ค่อยชอบพึ่งใครโดยไม่จำเป็น "ตนมีความผิดปกติอะไรหรือเปล่า และสามารถรักษาได้เอง" ส่วนเหตุผลที่ว่า "อยากเป็นหมอเพราะอยากช่วยคน" ผมจะไม่พูดถึงเพราะมันเหมือนเป็นเพียงข้ออ้างของคนที่ไร้เหตุผลเมื่อถูกถามว่าทำไมถึงอยากเป็นหมอ เป็นหมอถ้าไม่คิดจะ ช่วยคนแล้วจะเป็นไปทำไมจริงไหมครับ นี้คือเหตุผลที่ผมอยากจะเป็นหมอครับ จากคุณ : oH my God เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 53 00:27:50 A:124.121.100.109 X: TicketID:226208

ความคิดเห็นที่ 8 ข้อ1 สวยงามครับ มีแรงบันดาลใจที่ดีแม้จะมาจากการ์ตูน ข้อ2 ไม่ใช่เหตุผลการเลือกเป็นหมอ ข้อ3-5 ไม่ต้องเป็นหมอก็ทำได้ครับ แค่เรียนรู้การวินิจฉัยด้วยตัวเอง การช่วยเหลือตัวเองและผู้อื่นในเบื้องต้น พวกร่วมกตัญญูก็เรียนรู้emsเหมือนกัน ก่อนที่จะส่งให้หมอที่มีเครื่องไม้เครื่องมือจริงๆ เป็นหมอถ้าไม่มีเครื่องมือ ก็ช่วยได้พอๆกันนี่แหล่ะครับ ผมอ่านหนังสือการแพทย์ อ่านหนังสือยาที่ทางสมาคมต่างๆส่งมาให้ญาติๆ ซึ่งบ้านผมมีหมอหลายคน ผมก็ช่วยทำงานในคลินิกตั้งแต่เด็ก ร้านขายยาก็มี หน้าตาผมก็หมอเต็มขั้น ไปดูพี่เขยผ่าซีซ่าตอนอายุ16 พยาบาลคิดว่าเป็นหมอ จริงๆแค่เข้าไปดูเฉยๆ ไม่ดูหน้ามั่งเลย หน้าตูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ สุดท้ายผมเลือกไม่เป็นหมอ เพราะผมไม่อยากมีชีิวิตแบบหมอนั่นเอง ถ้าพร้อมจะรับผิดชอบอะไรมากมายก็ลองดูครับ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าหลายคน ที่รู้จักคือ อยากเป็นหมอเพราะเงินดี เพราะเท่ห์  เพราะมีคนนับหน้าถือตา เพราะอะไรไม่รู้ดันสอบได้ เพราะทำอาชีพอื่นคงยากบุคคลิกเงียบๆสันโดษ เพราะแม่ท่านสั่ง เพราะเรียนๆไปเดี๋ยวก็ีคงชอบเอง จากคุณ : PureLife เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 01:09:09

ความคิดเห็นที่ 9 เออ  หนังหุ้มยาวเอาไงต่อดีล่ะ ตัดแล้วก็สวยสบาย ว่างๆไปตัดก็ได้นะ รพเอกชน กินยานอนหลับ แทงยานอนหลับผ่านเส้นเลือด ให้แน่ใจว่าไม่ตื่นขณะพยาบาลสาวๆกับคุณหมอกำลังเพ่งมองการผ่าอะโจ้วคุณ เหมือนปลอกกล้วยเป็นซีกๆ ถ้าเห็นพยาบาลกำลังก้มตัวทำงานอยู่ คุณจะลำบาก ตื่นขึ้นมาก็เรียบร้อย นอนโชยลมที่บ้านดีๆสักเดือนก็พร้อมรบเต็มที่กว่าเดิมแล้ว จากคุณ : PureLife เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 01:16:58

ความคิดเห็นที่ 10   ข้อ 3 ผมกำลังจะบอกว่า ถ้าผมมีความสามารถพอที่จะเป็นหมอได้ ผมก็จะทำมันครับ ส่วนที่ว่าช่วยครูยกของมันแค่ตัวอย่างครับ สมมุติ ให้เข้าใจง่ายๆน่ะ ข้อ 4 กตัญญล้วนๆ ใครเขาจะดูแลท่านเข้าใจท่านได้ดีกว่าลูกตัวเองจริงไหมครับ ส่วนที่ว่าความรู้เบื้องต้นของการพยาบาลนี่บางครั้งอาจผิดพลาดได้เหมือนกันน่ะครับ เช่น อุณหภูมิในร่างกายลดลงต่ำมาก จนหัวใจเต้นอ่อนๆ หากเป็นคนไม่รู้อะไรคงจะทำไปตามขั้นตอนพยาบาลเบื้องตนโดยการนวดตัว ถ้าทำอย่างนั้นเลือดที่คั่งอยู่ตามแขนขาจะไหลไปมั่วๆตามร่างกาย อาจถึงขั้นทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ .......เห้ย กระทู้นี้มันกระทู้อยากเป็นหมอ หรือหนังหุ้มยาวกันแน่ ผมถามว่ามันยาวได้อีกหรือเปล่าไหงไม่มีใครตอบเลย ไม่อยากเอาออกอ่ะเสียดายพ่ออุสาให้มา จากคุณ : oH my God เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 12:49:07 A:124.121.99.234 X: TicketID:226208