Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เราเพิ่งเสียเจ้านายและพี่ชายที่แสนดีไปคนหนึ่งค่ะ  

อยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆ ในห้องนี้กันบ้าง เพราะการสูญเสียครั้งนี้มันกระทันหัน
ไม่มีสัญญาณใดๆ บอก และเป็นการสูญเสียที่ร้ายแรงที่สุดอีกครั้ง นับตั้งแต่คุณพ่อของเรา


ซึ่งทำให้เราคิดได้ว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนทุกเวลาทุกสถานที่
ทำให้เราคิดว่าต้องใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทเลยอยากจะมาแชร์เพื่อนๆ ด้วยค่ะ



เริ่มต้น ปี 2552 (ปีที่แล้วเอง)
พี่เค้าไปหาลูกค้าแล้วบ่นว่าเหนื่อย จนไม่ไหว จึงพาไป รพ. ในตอนเช้าประมาณ 10 โมงเช้า
คุณหมอสอบถามอาการกับพี่เค้าเอง แล้วก็สรุปว่าน่าจะเกิดจากการพักผ่อนไม่พอ ร่างกายเลยชัตดาวน์ตัวเองไป

คุณหมอให้แอดมิด 1 คืน พี่เค้าก็กลับเป็นปกติเลย


หลังจากนั้นก็มีการตรวจร่างกายประจำปีปกติ ผลที่ได้ทุกอย่างปกติ แม้แต่คลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ยกเว้นแต่เรื่องคอลเรสเตอรอลที่เกินมานิดหน่อย

เราจึงไม่ได้เอะใจอะไรกัน

เวลาผ่านไป จนกระทั่งวันที่เกิดเรื่อง วันที่ 23 เมษายน 2553

หลังจากที่เราผ่านการทำงานกันมาิอย่างหนักตั้งแต่ช่วงก่อนสงกรานต์
วันนั้นพี่เค้าไปคุมการส่งของที่ลูกค้าแถวๆ รังสิต และด้วยความมีน้ำใจ เค้าจึงช่วยเด็กๆ ยกของด้วย


จากคำพูดที่สอบถามเอาจากคนที่ไปด้วย
อาการเหมือนเดิม "พี่เหนื่อยไม่ไหวแล้วไป รพ."

ไปถึง รพ. เฉลิมพระเกียรติื ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที
พี่เค้ายังคุยกับหมอสอบถามอาการกันอยู่ ไม่ถึง 20 นาที พี่เค้าก็เกิดอาการช็อก

เราขับรถจากนนทบุรีไปรังสิต ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที

คุณหมอนำพี่เค้าไปปั๊มหัวใจแล้ว ตั้งแต่เวลา 11.10 กว่าจะมีสัญญาหัวใจกลับมาก็ 12.20

คุณหมอพาไปทำบายพาสหัวใจทันที พ้นขีดอันตราย ณ เวลานั้น

หลังจากนั้นอาการก็ยังคงทรงๆ อยู่ ความดันคงทีื่่อยู่ได้ด้วยยาเพิ่มความดัน และสุดท้ายภาวะไตวาย
ต้องใช้เครื่องล้างไตที่เช่ามาจากบริษัทภายนอก 2 วันผ่านไป ความดันตกลงเรื่อย

เค้าก็จากไปด้วยอาการสงบ


คุณหมอแจ้งว่า คนไข้มาด้วยภาวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
เส้นเลือดบางเส้นแตก หลายเส้นตีบ


อาการที่บ่งบอกของพี่เค้า คือเหนื่อย มือชา และช็๋อคหมดสติไป

เราว่าอาการที่เกิดเมื่อปีที่แล้ว เป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่งซึ่งเราไม่ได้ตามผลต่อ หรือไปเช็คละเอียด เพราะความประมาทในชีวิต

พี่เค้าเป็นคนสูบบุหรี่จัด ทานอาหารมันๆ และพักผ่อนน้อย

แต่พี่เค้าเป็นคนแข็งแรง ร่าเริ่้ง ทำงานด้วยกันมา 9 ปีไม่เคยแม้แต่ลาป่วย ยกเว้นแต่จะหนักไปเลย
ล้มจนกระดูกนิ้วหัก ก็ยังลากเฝือกขับรถมาทำงาน (^^")

เราไม่เคยคิดเลยว่าเค้าจะจากเราไปเร็วขนาดนี้ แต่ตอนนี้เราเรียกเค้ากลับคืนมาไม่ได้
ไม่มีแม้แต่การสั่งเสีย ล่ำลา

แต่สิ่งสุดท้ายที่เค้าสอนเราคือ "อย่าใช้ชีวิตโดยประมาท อย่าคิดผลัดวันประกันพรุ่ง และใช้ชีวิตทุกวินาทีให้มีคุณค่ามากที่สุด"

บ้ายบายค่ะพี่ชาย เราคงได้พบกันซักวันหนึ่ง ขอให้พี่ชายและเจ้านายที่แสนดีคนนี้หลับให้สบายค่ะ



***ลืมบอกไปค่ะ พี่เค้าอายุ แค่ 39 เองค่ะ คนอายุไม่เยอะ ก็สามารถเป็นโรคนี้ได้ค่ะ

แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 53 10:56:42

จากคุณ : จุกแสบเหลือง
เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 53 09:43:34




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com