ความคิดเห็นที่ 1 ผมเองก็ไม่ใด้กินตามสูตรอะไรเลย แค่ลดการกินแป้ง กับไขมันลง อัดโปรตีนเยอะหน่อย ที่บ้านมีอะไรให้กินก็กิน แต่อันไหนที่กินแล้วไม่ดีต่อตัวเองก็กินเล็กน้อย พอให้หายอยาก และที่สำคัญออกกำลังกายครับ (สำคัญมาก) จากคุณ : Rock berry เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 13:38:30

ความคิดเห็นที่ 2   +555 ถุกต้องตาม GetCha ว่าเรยจ้า เเต่ส่วนตัวพี่นะ ตอนนี้เเร้วพี่กลัวมันจะโทรมเเร้วแก่เร็ว จากคุณ : เจ๊ใหญ่ลานนา เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 14:17:32

ความคิดเห็นที่ 3 ลดไม่ได้เพราะกินเยอะเกินไปแล้วไม่ออกกำลังกายเลยค่ะ แต่พอเปิดเทอมรู้สึกว่ามันใช้พลังงานเยอะบางทีเดินขึ้นไปเรียนที่คณะชั้นสี่ อีกวิชาย้ายไปอีกคณะนึง แล้วกลับมาเรียนที่คณะตัวเองขึ้นไปชั้นสามอีก เหนื่อยมากค่ะ แทบจะสิ้นใจ พอใช้พลังงานเยอะ แล้วกินน้อยบางทีนุ่นใจสั่นเลยอ่ะคะ แต่พอกินก็กินเยอะเกิน มันเลยลดไม่ลงสักที -*- มันก็เลยวนเวียน ๆ ๆ ๆ เอาไปเอามาอ้วนเหมือนเดิม 555 จากคุณ : ปุยนุ่นนุ่มนิ่มสีขาว เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 14:43:17

ความคิดเห็นที่ 4 ตามประสบการณ์ตัวเองเลยนะคะ เคยลดแบบหาหมอกินยา กับ ลดเองแบบออกกำลังกายค่ะ - หาหมอกินยา เพราะต้องการความเร็วในการลดน้ำหนักค่ะ(ช่วงนั้นจะถ่ายรูปแต่งงานค่ะ) และคิดว่าเป็นวิธีที่ง่ายด้วย ผลคือลดได้ 3 กิโล หลังจากนั้นก็หยุดแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรกับการควบคุมเลย น้ำหนักขึ้นมาเป็น 6  กิโลค่ะ (ผอมแบบไม่มีเรี่ยวแรง ปากขม ไม่อยากกินอะไรเลย) - หลังจากคลอดลูกได้ ปีกว่า ก็ลองพยายามลดน้ำหนักอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่คิดกินยาค่ะ เพราะให้นมลูกอยู่ แล้วพอดีที่ทำงาน เปิดห้องออกกำลังกาย มีอุปกรณ์บางอย่างให้เล่น ก็จะออกกำลังกายกับคุณสามี เพราะตอนนั้น อ้วนทั้งคู่ คุณสามีเอาจริงเอาจังมาก ศึกษาหาข้อมูลการกิน การออกกำลัง การสร้างกล้ามเนื้อ อะไรประมาณนั้น เราก็ต้องเอาด้วย คุณสามีลดได้ จาก 78 -79 กิโล เหลือ 69 - 70 กิโล ใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน ส่วนเรา ก็ลดได้ จาก 61-62 กิโล เหลือ 52-53 กิโล ประทับใจสุดๆค่ะ ใส่อะไรก็ดูดี ดูสดใส ดูสุขภาพดี แต่พอเราลดได้แล้วเราก็เริ่มขี้เกียจ ไม่ค่อยคุมอาหาร ไม่กี่เดือนก็กลับมา อ้วนอีก ตอนนี้ 57 - 58 กิโลแล้ว แต่คุณสามียังคงออกกำลังกายเ้หมือนเดิม เขากินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนอีก น้ำหนักก็ไม่ขึ้นอีก ตอนนี้เราก็กลับมาออกกำลังกายและคุมอาหารอีกครั้ง คราวนี้อยากทำให้เป็นความเคยชินค่ะ ไม่อยากอ้วนแบบหลังคลอดอีกแล้วค่ะ ตอนนี้ก็เริ่มได้ 1 อาทิตย์แล้ว น้ำหนักหายไปเพียงครึ่งกิโล แต่ก็พยายามไม่ท้อค่ะ เพราะอ่านข้อมูลของคุณ GetCha มาเยอะ ว่าให้มีความสุขกับการออกกำลัง และลดน้ำหนัก ก็จะพยายามต่อไปค่ะ ไม่รีบแล้ว (สู้...สู้) ปล.  ขอโทษค่ะ ยาวไปหน่อย แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 53 14:48:37 จากคุณ : ป้าแก่เจ้าน้ำตา เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 14:45:27

ความคิดเห็นที่ 5   +555 ป้าเเก่ลดเป็นเพื่อนกันนะคะ เราอ่ะอย่างนั้นๆตั้งใจเเค่เดือนละ โลเองค่ะ จากคุณ : เจ๊ใหญ่ลานนา เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 15:15:24

ความคิดเห็นที่ 6   ผลเสียนะคะ 1.สุขภาพแ่ย่ โทรม ขอบตาดำยังกะหมีแพนด้า 2.รู้สึกเบลอๆ หวิวๆ 3.ท้องผูก 4.เปลืองตังค์....อิอิ 5.บางทีรู้สึกว่าตัวเองจะเป็นลม ถ้าออกแรง เหตุผลที่ลดไม่สำเร็จด้วยการทานยา 1.แรกๆก็ลงค่ะ พอเลิกก็เด้งกลับมาอีก เพราะเราไม่ได้เปลี่ยนนิสัยในการกิน 2.ทานยามันง่ายค่ะ ไม่ต้องทำอะไรนน.ก็ลง เลยไม่เห็นความสำคัญในการกินเท่าไหร่ 55 3.เรากลับมารับยาครั้งที่2 แล้วนน.มันลดลงยากมาก +กับมีข่าวว่ามีคนเสียชีวิตเพราะยาเยอะ แถมรู้สึกว่าสุขภาพแย่ เลยเลิกทานค่ะ รู้อยู่เต็มอกว่ามันไม่ดี แต่ก็ยังทาน จากคุณ : Moon on the water. เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 15:39:59

ความคิดเห็นที่ 7 ดีค่ะ คุณ เจ๊ใหญ่ลานนา มีเพื่อนลดน้ำหนัก จะได้มีคนให้นกคอยบอกความเป็นไป แค่ได้เดือนละโลนกก็ดีใจแล้วจ๊ะ จากคุณ : ป้าแก่เจ้าน้ำตา เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 16:34:14

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามาเก็บความรู้ ^_^ จากคุณ : wansugar เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 18:11:21

ความคิดเห็นที่ 9 ได้อะไรดีๆเยอะเลย จากคุณ : Pisitsak2006 เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 19:19:47

ความคิดเห็นที่ 10 นี่มันชีวิตเราเมื่อ 5 ปีก่อนชัดๆเลยค่ะ  55555 เราเหนด้วยกะคุณ จขกท เลยนะคะ เพราะเรามีประสะการณ์ตรง กะไอเจ้ายาลดความอ้วน เจ็บปวดกะมันมากๆ แกทำชั้นจาก 48-49 พุ่งไป 127 กรี๊ดดดดๆๆๆ นี่กระทู้เราค่ะ ใครสนใจตามไปอ่านได้เลยนะคะ http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L9298886/L9298886.html#1 จากคุณ : ตั้งโอ๋ Za เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 20:50:46

ความคิดเห็นที่ 11 เราเองเหรอ  เจอพิษยาลดมาแล้วก่อนลด 61 โล ลดลงไป 2 ปี อยู่ที่ 55 โล  พอซักพักเริ่มขึ้นมาแตะที่ 61 จนตอนนี้เราเลิกและหยุดยาเด็ดขาดมาเดือนครึ่งค่ะ ควบคุมอาหารเคร่งครัด+ออกกำลังกายทุกวัน=น้ำหนักยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆๆๆ เฮ่ออออออออออออออออออออออออออออออออ........................ คุณเมย์ค่ะ เราเองกำลังเผชิญกับ "โยโย่"ตัวร้ายนี้อยู่เลยค่ะ อย่างที่ทราบกันดีนะค่ะ  เพราะว่าเคยปรึกษาหลังไมค์คุณเมย์หลายครั้งแล้ว ตอนนี้เราเองก็กำลังออกกำลังกายต่อเนื่องทุกวันเลยค่ะ และเพิ่มความหนักขึ้นเรื่อยๆๆทุกสัปดาห์ เราออกกำลังกายมาแล้ว 1 เดือนครึ่ง น้ำหนักลดลง 1 โลเอง ถาวว่า  ท้อมั๊ย   ท้อมากค่ะ  แต่ไม่ถอย และไม่มีวันกลับไปหา "ยาลดความอ้วนวายร้ายนั่นอีกแน่นอนค่ะ" แม้ว่าตอนนี้เราลดเท่าไหร่น้ำหนักก็ยังขึ้นมาเรื่อยๆๆๆ แต่เราก็เข้าใจค่ะ ว่ามันคือ โยโย่ ยังไงมันก็ต้องเด้งจนสุดของมันใช่มั๊ยค่ะ มันถึงจะหยุด  และเราหวังว่าตอนนั้นน้ำหนักเราคงจะกลับมาสู่ภาวะปกติ แต่ถึงแม้ว่า  เราออกกำลังกายในภาวะที่โยโย่กำลังเล่นงานอยู่ เราน้ำหนักจะไม่ลดก็ตาม  แต่เราได้อย่างอื่นกลับมาเป็นสิ่งตอบแทนนะค่ะ ***********อย่างแรก  เรามีระเบียบวินัยในการกินอาหารมากขึ้น **********รักและติดการออกกำลังกายไปแล้วอ่ะ ***********มีเพื่อนในพันทิปให้คุยและระบายเรื่องลดความอ้วน                     และเรื่องอื่นๆอยู่เสมอ ประมาณว่า  หัวอกเดียวกันนะค่ะ ***********เราได้ผิวพรรณและหน้าตาที่ สดใส เปล่งปลั่ง                      มีน้ำมีนวล  แถมเริ่มกระชับมากขึ้นด้วยน๊า                     ใครมาจับเนื้อตัวเราตอนนี้   ทักทุกคนเลยว่า                         โหหห   เนื้อแน่นดีจัง  ดูฟิตดีด้วย ************และที่เราภูมิใจมากที่สุด  ก็....หลายคนบอกว่า                        ตอนอ้วนขึ้นแบบนี้หน้าตาดูน่ารักและสดใสกว่า                        ตอนผอมๆๆอีกนะ     อิอิอิออิออิอ   ปลื้มมมมมมม จากคุณ : Lady_แก้มชมพู เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 21:05:36

ความคิดเห็นที่ 12 ยังไม่เคยใช้ยาค่ะ  เลยไม่มีประสบการณ์ตรงนั้นมาแชร์ ส่วนเรื่องที่ลดไม่ได้สำหรับเราเลย คือขาดแรงจูงใจค่ะ มันมีผลต่อเนื่องคือ มันทำให้เราไม่ควบคุมและดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง   นี่แหละค่ะคือหัวใจ  การลดน้ำหนักนี่มันไม่ใช่ทำวันนี้เห็นผลพรุ่งนี้  ต้องทำสักอาทิตย์สองอาทิตย์ถึงจะเห็นผล   ก็เหมือนการกินคุกกี้อ่ะค่ะ  เผลอกินมาตั้งอาทิตย์ ชั่งน้ำหนักทุกวันไม่เห็นมันขึ้น  เผลอแค่วันเดียวขึ้นมาเกือบ 2 กิโล   นี่แหละค่ะ  อ้วนมานาน ก็ต้องให้เวลาร่างกายในการลด จากคุณ : Irishcream เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 21:18:03

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ Moon on the water เราชอบที่คุณบอกในข้อ 2. โดนมากค่ะ ลดแบบนั้นคุณจะไม่ได้เรียนรู้เรื่องอาหารการกินอะไรเลย แต่ถ้าเราลดเองไม่ใช้ยานอกจากน้ำหนักจะลด สุขภาพดีขึ้นแล้วยังสวยขึ้นอีกด้วย เพราะการออกกำลังกายและการกินอาหารที่มีประโยชน์ไงคะ ถ้าคุณกินยาลดคุณจะไม่ได้ตรงนี้ คุณ  Lady_แก้มชมพู  การที่คุณถึงจะท้อบ้างแต่สู้ไม่ถอยคุณมีชัยไปกว่าครึ่งแล้วค่ะ เราเองเคยกินยาลดมาเป็นปีๆกินๆหยุดๆจนน้ำหนักพุ่งปรี๊ดมหาศาล แต่ถ้าเราสู้ซะอย่างจะช้าจะเร็วต้องประสบความสำเร็จแน่นอนค่ะ เราเป็นกำลังใจให้นะ ที่ไม่ได้เอ่ยนามขอบคุณมากๆนะคะที่เข้ามาแชร์ เป็นกำลังใจให้ทุกคนเลย สู้ๆ ต่อไป ^^" จากคุณ : GetCha เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 21:21:42

ความคิดเห็นที่ 14   ของทราย ไม่มีประสบการณ์ในการทานยามาแชร์ค่ะ แต่ที่ลดไม่ได้ 1. ไม่ได้ดูแลตัวเองค่ะ ทำงานทั้งวัน ต่อกลางคืน ยิ่งนอนดึกก็ยิ่งกิน 2. ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ ถ้าช่วงไหนคุมได้ก็ออกกำลังกายได้ด้วย ถ้าคุมไม่ได้ยิ่งแล้วใหญ่ 3. ดริงก์ค่ะ กับเพื่อนบ้าง เลี้ยงลูกค้าบ้าง ฯลฯ แอลกอฮอล์นี่ตัวทำให้อ้วนเลยค่ะ อ้วนด้วยโทรมด้วย แถมคืนนั้นจะไม่สามารถนับได้ทั้งสิ้นค่ะว่า เอาอะไรใส่ปากไปบ้าง 4. ของหวานค่ะ ขนมต่างๆ ส่วนในตอนนี้... กว่าจะปรับให้เข้ารูปเข้ารอยได้ T_T อยากจะร้องไห้ค่ะ แต่ไม่ว่ายังไงก็จะสู้ต่อค่ะ จากคุณ : ทรายละเอียด เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 21:43:23

ความคิดเห็นที่ 15 ในชีวิตเคยโง่ทานยาลดอ้วนถึงสองครั้ง ครั้งแรกสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นปล่อยตัวจนเด้งไปเกือบ 60 เวลากินไม่คิด พอตอนลดจะเอาแบบเร่งรัด ได้ยามาชุดนึง ก็กินไปได้สองสามวัน อาการคือมึนๆ เพลียๆ เหงื่อแตกชนิดที่ว่าเป็นน้ำไหล เสื้อเปียกชุ่มๆ ปากแห้งเป็นสีขาว เสียบุคลิกภาพมากถึงมากที่สุดตอนนั้น ประกอบกับมีรุ่นน้องเสียชีวิต คือวืดในห้องน้ำหัวฟาด ซึ่งสาเหตุจริงๆเราก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่จำได้ว่าน้องเค้าเล่าว่าทานยาที่คลินิกเดียวกับเรามาระยะนึงแล้ว และทุกวันจะเจอเค้าออกกำลังหายที่ฟิตเนสแบบหนักมาก แบบข้าวไม่กิน กินยาลด แถมมออกกำลังหนัก เป็นผลให้เราก็กลัว เลิกกินไปเลย... โง่สอง ตอนก่อนแต่งงาน ก็ไม่เข็ดอ่ะนะ แบบว่าอยากผอมแบบเร่งรัด(อีกแล้ว) คราวนี้ไปร้านที่เพื่อนแนะนำว่าดีไม่มีผลข้างเคียงไม่มีโยโย่(ทำไมตอนนั้นถึงเชื่อเค้านะ) พอกินไปได้แค่วันเดียว อาการออกเลย คราวนี้แย่กว่าครั้งก่อนมากคือ อ่อนเพลียขั้นรุนแรง อาเจียนบ่อยครั้ง หน้ามืดตาลายตลอดเวลา ปากแห้ง รู้ว่าเป็นเพราะยาแน่ เลิกกินและสัญญากับตัวเองว่าจะเลิกตลอดชีวิตแล้วคราวนี้ อยากผอม ต้องอดทน ต้องให้เวลากับตัวเอง เวลากินให้อ้วนยังใช้เวลาตั้งนาน  ที่สำคัญต้องออกกำลังกายด้วยนะคะ จากคุณ : ดีเจแม่หมีแพนด้า เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 53 22:38:43

ความคิดเห็นที่ 16 แอบอ่านมานานมาก วันนี้ขอร่วมเล่าด้วยคนนะคะ ยาลดกับเรานี่เป็นอะไรที่ ซึ้งถึงทรวงมากเลยค่ะ กินยาร้านชื่อดังหน้ารามฯอ่ะคะ ที่คนจะล้นออกมา นอกคลีนิคทุกวันเลย ร้านนั้นแหล่ะ มียาให้กินครบ 3 มื้อ วันๆไม่หิวอะไร แค่นมกล่องเดียวก็แทบจะกินไม่หมด ผลคือ เดือนเดียวลดไป 15 กิโล  โอ้โห ดีใจมากกินใหญ่เลย แล้วยาก็แพง ขึ้นด้วย แต่ก็ต้องซื้อ กินได้เกือบปี ผอมสวยสมใจ กินยาชุดสุดท้ายที่เค้าบอกว่าเป็นยาหยุด แล้วก็เลิก ผลคือเด้งกลับมาเท่าตัว แบบไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวเลย ไหนบอกยา หยุดไม่โยโย่ สุดท้ายก็ต้องกลับไปกินอีก แต่ครั้งที่สองนี่ เราเกิดอาการแพ้ยาค่อนข้างรุนแรง กินยังไม่ทันหมดชุดแรก เกิดแผลพุพองขึ้นเต็มหน้า รักษายังไงก็ไม่หาย คือเกานิดหน่อยไม่ได้เลย จะกลายเป็นแผลลึกทันที จากสิวเม็ดเล็กๆ กลายเป็นแผลลึกมาก เต็มหน้า ไปหมด ไปหาหมอรักษาก็ไม่กล้าบอกว่ากินยาลด หมดไปหลายพันก็ไม่หาย ผิวหนังก็เริ่มเป็นผื่นคัน คันแล้วก็เป็นแผล วุ่นวายไปทั้งตัว กลุ้มใจมาก ผมก็ร่วงเป็นกำๆ ฟันก็โยกทั้งแผง อยู่เฉยๆเลือดก็ไหลออกมาตามรากฟัน เอง เวลากลืนน้ำลายจะรู้สึกได้ว่ามีเลือดปนตลอด เวลาอยู่ในที่โล่ง ลมพัด เราจะรู้สึกหนาวจนขนลุก หนาวจนทนไม่ไหวเลย ก็เคย คนอื่นร้อนจะตายห่าน แต่มีเราที่หนาวอยู่คนเดียว คือร่างกายเรากำลังเหมือนคนป่วยหนัก ใกล้ตายแล้วล่ะค่ะ เลยตัดสินใจเลิก กินแล้วหันมารักษาตัวเองให้ปกติก่อน ถึงค่อยมาเริ่มเรื่องลดน้ำหนักกันต่อ ตอนนี้ก็ออกกำลังกายทุกวัน ควบคุมอาหาร จนกลายเป็นนิสัยได้แล้ว ทั้ง หมดนี่จากการแอบอ่านกระทู้ของหลายๆคน เอามาปรับใช้กับตัวเองจนได้ วิธีที่พอดี ก็ลดลงมาเรื่อยๆแล้วค่ะ ต้องขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ปล. ตอนนี้เรากำลังเจอกับอาการ หิดปลาทู เป็นครั้งที่ 3 แล้ว 2 ครั้งแรก ยอมแพ้ให้กับมัน จนน้ำหนักเด้งกลับ แต่มาครั้งนี้เข้าใจแล้วค่ะ คิดว่าคงจะ ผ่านมันไปได้ แต่ต้องยากแน่ๆ เฮ้อ สมัยเรียนมัธยม เพื่อนในห้องเดียวกันสอบเข้ามหาลัยฯชื่อดังได้ ก็รีบลด ความอ้วนใหญ่ ด้วยการกินยา แต่เค้าไม่รอดค่ะ เสียชีวิตก่อนจะได้ไปเรียน ด้วยซ้ำ เรายังโชคดีกว่าเยอะที่ไม่ร้ายแรงขนาดนั้น จากคุณ : lovenannan เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 53 02:10:41

ความคิดเห็นที่ 17 ทำไมได้บางทีกินแล้วปากแห้ง กินน้ำมาก ใจสั่น เหงื่อออกมา กิน ๆ แล้วก็ เบื่อ ๆไม่อยากกินตลอด ถึงจะดูน้ำหนักลงแต่แป็ปเดียวหยุดกินก็เจอโยโย่ ตอนนี้เราก็ปลงแล้ว ไม่ได้กินยาแต่อาศัยไปออกกำลังกาย     แต่น้ำหนักลงช้ามากแบบเดือนละ 1.3 กก เองมั้งแบบเรากินแบบไม่ ได้ระวังอาหารมากนัก แต่พยายามกินข้าวน้อยลง ขนมน้อยลง ก็ลงไปแค่ 3 กก เองนะ ยังเหลืออีก20 กกที่จะต้องลดที่จะให้ความดันดีขึ้นหมอบอก ให้ลดน้ำหนักลงแต่เรายังทำไม่ได้เลย กะว่าจะพยายามในปีนี้ลดสัก 11 กก นะไม่อยากกดดันตนเองมากเกินไป          เพราะอายุเลข3แล้วลดยากแหละ..ก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรมากพยายาม กินน้อยลงและขนมก็ห่างไปเลยมีซื้อมามองไว้และยกให้พีส่าวไปหมดแล้ว แค่ซื้อมาเฉย ๆ นะคะ คิดว่าถ้าใจแข็งพอก็น่าจะลดได้ปีนึง 10 กกค่ะน้อย หน่อยแต่ชัวร์ว่าลง จากคุณ : เกด (bookan25) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 53 06:07:34