ความคิดเห็นที่ 1   ตอนนี้เราเรียนจบแล้วละค่ะ แล้วเข้าทำงานมาได้เกือบ 1 เดือนแล้วค่ะ ในช่วงของการทำงานนี้เอง เราได้เจอรุ่นน้องที่สนิทคนหนึ่งค่ะ ก็ไถ่ถามเกี่ยวกับสารทุกข์สุขดิบทั่วไปกัน จนมาถึงเรื่องชีวิต และการมีครอบครัว ทำให้น้องคนนี้รับรู้ว่าเรายังไม่มีแฟน จากที่พูดคุยในวันนั้นแล้วผ่านไปประมาณ 3 วัน น้องคนนี้ได้โทรมาหาเราค่ะ และแนะนำผู้ชายคนหนึ่งให้เรารู้จัก ผู้ชายคนนี้ไม่เคยมีแฟนค่ะ และมีอาชีพเป็นวิศวกร อยู่ที่กรุงเทพ น้องคนนี้แนะนำว่า เป็นผู้ชายที่น่าจะเหมาะสมกับเรา เพราะพื้นฐานครอบครัว การถูกเลี้ยงดูคล้าย ๆ กัน รวมทั้งฐานะ ความเป็นอยู่ก็ประมาณกัน เราเลยเปิดใจที่จะศึกษาดู ครั้งแรกที่เจอผู้ชายคนนี้ เรามีความรู้สึกว่า ไม่ได้รู้สึกชอบแต่แรกเจอ เป็นความรู้สึกธรรมดาเหมือนเพื่อน (อาจด้วยสเปกเราชอบคนที่ผิวธรรมดาถึงขาวค่ะ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ เรามักโน้มน้าวจิตใจตนเองอยู่เสมอว่า เราไม่ควรมองคนที่เปลือกนอก ควรมองคนที่ข้างในจิตใจมากกว่าค่ะ.......จิตใจเรามักต่อต้านกับเหตุผลที่ควรจะเป็นอยู่บ่อยครั้งค่ะ) หลังจากนั้น เราก็เริ่มเปิดใจในการศึกษาเรียนรู้ค่ะ จากที่คบมาเรื่อย ๆ อาจจะรู้สึกดีนิดหน่อยที่มีคนคุยด้วยแล้วรู้สึกว่าเค้าเข้าใจเรา ไม่เรียกร้องเวลามากนัก เพราะเราไม่ค่อยมีเวลา บางครั้งพูดคุยได้นิดหน่อย เราต้องขอวางสายก่อน หรือถ้าเราไม่ว่าง เค้าสามารถรอเราได้ รอจนบางครั้งเรามีความรู้สึกเกรงใจเค้า (คิดว่า ถ้าเค้าเจอผู้หญิงที่พร้อมกว่าเรา ที่เข้าใจเค้ามากกว่าเรา เค้าคงมีความสุขมากขึ้นค่ะ) แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราคิดมากหลังจากที่ศึกษากันมาเรื่อย ๆ (ในตอนแรกเราไม่รู้ค่ะว่า เรานิสัยเป็นอย่างไร) คือว่า วิถีชีวิตเค้าจะแตกต่างจากเราค่ะ เค้าเป็นคนค่อนข้างชอบความสบายค่ะ (แต่เรามองว่า ไม่ได้เป็นข้อผิดพลาดของเค้าค่ะ เพราะเค้าเติบโตมาในสภาวะแวดล้อมที่ค่อนข้างสบายแต่กำเนิด) แต่สำหรับเรานั้น เราค่อนข้างทำงานหนัก มีความอดทนสูง ทำให้เราเกิดความกลัวว่า ต่อไปหากใช้ชีวิตคู่อาจไปกันไม่รอดค่ะ เพราะอีกคนชอบการทำงานหนัก แต่อีกคนชอบความสบาย ประกอบกับบุคลิก หน้าตา อาจไม่ใช่สเปคเราเท่าไรค่ะ (แต่ประการหลัง อาจมองข้ามไป หากวิถีชีวิตนั้นเข้ากับเราได้) ตอนนี้เรา ตัดสินใจไม่ถูกว่า ควรสานต่อ หรือ หยุดไว้แค่เพื่อน เพราะตอนนี้ หากการคุยกันต่อไปเรื่อย ๆ เราก็คงมองไปถึงอนาคต ถึงการมีคู่ชีวิตเลยค่ะ เพราะเราไม่อยากเสียเวลาค่ะ อยากทราบความเห็นของทุก ๆ คนค่ะ ว่า เราเรื่องมากเกินไปหรือเปล่าค่ะกับเรื่องพวกนี้ และคุณผู้หญิง และคุณผู้ชายมีเกณฑ์ในการตัดสินคู่ชีวิตอย่างไรค่ะ คุณพิจารณาถึงเรื่องพวกนี้หรือไม่ค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 20:56:09 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 2   ตอนนี้เราใช้บัตรผ่านไปก่อน ยังไม่มีโอกาสในการสมัครสมาชิกเลยค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 20:57:31 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 3   ขอแก้ไขใน #1 จาก (ในตอนแรกเราไม่รู้ค่ะว่า เรานิสัยเป็นอย่างไร) เป็น (ในตอนแรกเราไม่รู้ค่ะว่า เค้านิสัยเป็นอย่างไร) จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:00:00 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 4 -อยากทราบความเห็นของทุก ๆ คนค่ะ ว่า เราเรื่องมากเกินไปหรือเปล่าค่ะกับเรื่องพวกนี้ ครับ....คุณเรื่องมากไปหน่อย -และคุณผู้หญิง และคุณผู้ชาย มีเกณฑ์ในการตัดสินคู่ชีวิตอย่างไรค่ะ คุณพิจารณาถึงเรื่องพวกนี้หรือไม่ค่ะ ผมก็แค่เลือกคนที่ผมรักและเขารักผม คนที่ผมคิดว่าชีวิตนี้ขาดเธอไม่ได้แน่ๆ คนที่ผมรู้สึกว่าเราน่าจะใช้ชีวิตกันได้ไปจนสุดทาง คนที่ผมมั่นใจว่าเราจะมีวันเวลาที่ดีด้วยกัน นั่งกุมมือกันในสวนสาธารณะในตอนแก่เฒ่า โอบกอดกันในยามค่ำคืน และหลับไปในอ้อมแขนของกันและกัน หากตกหลุมรักแล้ว ผมไม่ได้มีข้อแม้หรือเงื่อนไขอะไรหรอกครับ เพราะผมใช้ "หัวใจ" ในการเลือก..ไม่ใช่ "เหตุผล" ครับ... จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:21:11

ความคิดเห็นที่ 5 ขอให้คุณคิดว่า คนเรานั้น ไม่ใช่เลือกคนที่เราอยู่กับเค้าได้ แต่ให้เลือกคนที่ขาดเค้าแล้วเราอยู่ไม่ได้ แค่นั้นคะ สั้นๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย จากคุณ : ขอบคุณที่รักกัน (kimpercholic) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:34:33

ความคิดเห็นที่ 6 จำได้ว่าเคยตอบคุณ ในทู้แรก ให้โอกาสศึกษากันไปก่อนดีมั๊ยคะ อย่าเพิ่งตัดสิน .. ..ช่วยลุ้นค่ะ จากคุณ : ยายภูธร เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:35:13

ความคิดเห็นที่ 7   ตอบคุณ ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ และขอรบกวนถามคุณกลับคะว่า จากประโยคนี้ค่ะ "อยากทราบความเห็นของทุก ๆ คนค่ะ ว่า เราเรื่องมากเกินไปหรือเปล่าค่ะกับเรื่องพวกนี้ ครับ....คุณเรื่องมากไปหน่อย" คุณวัดจากสิ่งใดค่ะ ..คุณรับรู้จากข้อความไหนบ้างที่เราเขียนไปคะ... แล้วสามารถทำให้คุณวินิจฉัยเราออกมาว่า เราเรื่องมากค่ะ เราอยากรู้ค่ะ..... เพราะบางทีเรามองตัวเองไม่ออกเหมือนกัน จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:39:21 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 8 "อยากทราบความเห็นของทุก ๆ คนค่ะ ว่า เราเรื่องมากเกินไปหรือเปล่าค่ะกับเรื่องพวกนี้ " คุณก็ประเมินตัวเอง จากตัวตนที่คุณเป็นได้แล้วนี่ครับ คุณถึงได้มาออกตัวไว้ในเชิงคำถามแบบนั้น ผมคงไม่ต้อง "วัด" หรือ "วินิจฉัย" อะไรคุณหรอกครับ เพราะไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวคุณเองแน่ๆ จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:48:59

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องการเลือกคู่ครอง ควรทำใจสบายๆอย่าซีเรียสเกินไป มันอาจอยู่นอกเหนือการคอนโทรลของคุณ (บางคนอาจพูดว่าเป็นพรหมลิขิตหรือเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า..ก็ว่ากันไป) วิธีที่ดีต่อทุกฝ่ายน่าจะเป็นว่า ควรเริ่มต้นความสัมพันธ์จากความเป็นเพื่อน อย่าไปเล็งแต่แรกว่า-คนนี้น่าจะเป็นแฟนได้หรือเปล่า...มันทำให้เกร็ง ซีเรียสและไม่เป็นไปตามธรรมชาติ อาจมีการวางฟอร์มจนดูนิสัยจริงยาก จนเมื่อไปเผยตอนหลังมันเสียความรู้สึกหรือผิดหวังไปเลย และน่าจะมีเพื่อนให้มากๆ ให้มีคนหลายวงการที่ต่างจากคุณซึ่งเป็นนักวิชาการ เพื่อความหลากหลายและเป็นตัวเลือก (ไม่ใช่การเผื่อเลือก-คนละอย่างกัน และในทางกลับกันคนอื่นก็มีโอกาสเลือกคุณและคนอื่นเช่นกัน...งงหน่อยนะ) ผมพอจะจำได้ว่าได้ตอบในกระทู้เก่าของคุณว่า คุณควรจะลองมองๆชายต่างชาติ เช่นเยอรมันหรือยุโรปตอนเหนือ ไม่ก็ญี่ปุ่น ซึ่งพวกนี้อาจถูกนิสัยคุณที่จริงจังกับชีวิตและการงาน เหตุผลอีกอย่างของผมคือ...การผสมข้ามเผ่าพันธุ์มักจะได้ผลผลิตที่ดี ไปลองใช้บริการเลือกคู่เล่นๆ เพื่อความแปลกใหม่ เพิ่มรสชาติให้ชีวิตที่จืดชืดของคุณสักหน่อยไหมครับ ฮี่ ฮี่ จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:52:53

ความคิดเห็นที่ 10 อืม จริงๆผมว่า ไม่มีใครจะได้ดังใจเราทั้งหมดหรอกนะ แต่ถ้ามีข้อที่รับไม่ได้เลยนี่ก็สมควรต้องบอกผ่าน อ่านๆดูแล้วยังงงๆอะครับ  เขาผิวคล้ำ เป็นวิศวะกร น่าจะลุยๆมากกว่านะ แล้วค่อนข้างชอบความสบายนี่ยังไงอะครับ งง   จริงๆมองในอีกแง่ คู่ชีวิตเราไม่จำเป็นต้องเหมือนเราก็เป็นข้อดีเหมือนกัน เช่น คนนึงยุ่ง อีกคนชิวๆสามารถเทคแคร์ดูแลอีกฝ่ายได้     แต่ดูๆแล้ว จขกท.  คงชอบคนเก่งๆ ขยันๆ จนฝังใจไปซะแล้ว อันนั้นก็หาให้ตรงเลยดีกว่า   เพราะอาจทำให้จขกท.ยอมรับข้อเสียของคนสไตล์นี้ได้ง่ายขึ้น ปูลู   นึกไม่ออกเลยนะเนี่ยว่าต่างคนต่างบ้างานมันจะหาเวลาสวีทกันตอนไหน จริงๆลองถามๆเพื่อนที่สนิทๆดู อาจมองความเป็นตัวคุณได้ขาดก็ได้นะ อย่าเป็นอย่างเพื่อนผมที่ต้องเลิกรากันไปก่อนที่จะพบว่า ต้องคนแบบอดีตแฟนนี่แหละที่เหมาะกับตัวที่สุด (บังเอิญคนต่อมานิสัยตรงกันข้ามเลยรู้ตัว) แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 53 21:58:22 จากคุณ : omeg เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:53:36

ความคิดเห็นที่ 11   เรามีแนวคิดเกี่ยวกับความรักและคู่ชีวิต ดังนี้ค่ะ เราจะใช้จิตใจและความรู้สึกนำประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ และอีก 40 % เราจะใช้เหตุผลนำค่ะ ว่าคู่ของเราเข้ากันได้หรือเปล่า และวิถีชีวิตเป็นแบบไหน เราเคยผ่านประสบการณ์ที่เราเคยให้จิตใจทุ่มเทไป 100 % ค่ะ เราพบกับความผิดหวังเกิดขึ้นค่ะ อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับปัจจุบันนี้ จิตใจของเรา เป็น 0 นะคะ เพราะเราไม่ได้รู้สึกรักค่ะ เป็นเพียงความรู้สึกดี ๆ ที่ได้คุยกันเท่ากันค่ะ กลับกันเราพยายามหาเหตุผลทั้งหมด อีก 40 % ในการโน้มน้าวให้เรารักเค้าค่ะ เชื่อมั้ยค่ะ ทุก ๆ ครั้ง ที่เราคุยกับผู้ชายคนนี้ เราพยายามมองหาข้อดีของเค้าอย่างมาก จนบางทีทำให้เราเกิดทุกข์ค่ะว่า ทำไมเราถึงพยายามมากถึงเพียงนี้ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:58:14 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 12   ขอบคุณคุณ FreeWing , omeg , ยายภูธร ที่ตอบคำถามเราอีกครั้ง รู้สึกขอบคุณอย่างมากเลยนะคะ สำหรับที่คุณ omeg ถามค่ะ ว่าเป็นวิศวกรควรลุย ใช่มั้ยค่ะ ตอนแรกเราก็คิดแบบคุณนะค่ะ ว่า ถ้าเป็นวิศวกรควรลุย ๆ แต่เค้าออกแนวเรียบร้อยมากค่ะ ทำงานอยู่ในองค์กร นั่งคิดเขียนแบบ ที่ไม่ได้ทำงานกลางแจ้งค่ะ เค้าชอบคณิตศาสตร์แต่ดั้งเดิม ทำให้เค้าเลือกสายวิศวะค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 22:05:01 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 13   เราชอบคนขยันค่ะ...คนขยันในทีนี้ ไม่หมายได้หมายถึงว่า ทำงานทั้งวันทั้งคืนนะคะ ในทีนี้หมายถึงว่า เป็นคนที่ช่วยกันคิด ช่วยกันวางแผน ทำงานสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูก กับครอบครัว อาจจะว่างเสาร์ หรืออาทิตย์ เพื่อพักผ่อนค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 22:11:10 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 14 เราว่าอย่าไปกังวลกับเรื่องนี้เลย เราก็เคยคิดเหมือนเจ้าของกระทู้จนเลยวัยมามากและไม่คิดว่าจะมีแล้ว แต่มันก็มาของมันเองโดยที่เราไม่ต้องวิ่งตามหาเลยจ้า ปัจจุบันก็ยังคบกันอยู่ค่ะ ทำใจให้สบายเถอะค่ะ ถ้าจะมีมันจะมาเองถ้าไม่มีหายังไงก็ไม่เจอหรอกค่ะ จากคุณ : แกงส้มไข่เจียว เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 22:14:10

ความคิดเห็นที่ 15   ผมคงไม่ต้อง "วัด" หรือ "วินิจฉัย" อะไรคุณหรอกครับ เพราะไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวคุณเองแน่ๆ ------------------- จากประโยคนี้ เราเคยคิดนะคะ ว่าเราเติบโตอยู่ในวัยที่ผ่านการเรียนและการทำงานมาพอสมควร เราควรตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว และเชื่อมั่นในตัวเอง เพราะตัวเราน่าจะรู้ว่าดีที่สุดใช่มั้ยค่ะ แต่บางครั้ง ความเข้มแข็ง ความเด็ดเดี่ยว ที่เรามีอยู่ ก็หมดสลายไปได้ค่ะ.. เหตุผลนั้นอาจมีปัจจัยหลายอย่างที่มีอิทธิพลค่ะ......จนทำให้เราคิด ๆ ๆ ทบทวนตัวเองหลายๆ ครั้ง เพราะกลัวว่าจะตัดสินผิดพลาด ซึ่งอาจส่งต่อชีวิตทั้งเราและเค้าในอนาคตค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 22:29:14 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 16 โอเช เริ่มพอจะเข้าใจคอนเซ็บจขกท.แล้่วล่ะ ผมว่าตอนนี้จขกท.กำลังถูกแผนเป็นเจ้านายแล้วล่ะ เอาล่ะกลับมาตั้งสติกันใหม่  แล้วลองพิจารณาแผนของผมที่เป็นคนนอกดู อันแรก เราต้องเป็นเจ้านายของแผนก่อน ถึงเราจะวางแผนไว้อย่างไร  แต่ถ้าหากคิดดูอย่างรอบคอบแล้วเหมาะสมที่จะเปลี่ยน  "แผนก็ต้องเปลี่ยนได้" 1.ลองคิดดูว่าระยะเวลาสักเท่าใหร่ที่จขกท.ยอมรับได้ที่จะสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ในการที่จะศึกษาคุณวิศวะกร  แต่ขณะเดียวกัน ต้องไม่น้อยเกินไปจน"ไม่รู้จักตัวตนของเขามากพอที่จะสรุปได้ตรงตามความเป็นจริง" 2.ในช่วงเวลาที่กำหนด ลองศึกษานิสัยใจคออีกฝ่ายอย่างกลางๆ สบายๆ ไม่ต้องเค้นหาข้อดี ไม่ต้องจับผิดหาข้อเสียนัก ข้อดีข้อเสียถ้ามันเด่นชัด และมีจริง ควรมองเห็นได้ง่ายๆไม่ใช่เหรอ และอย่าลืมว่าตอนนี้เพิ่งรุ้จักกันไปเดือนเดียวเอง สงครามไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร เกี่ยวกันไหมเนี่ย 3.ถ้าครบกำหนดเวลา สรุปข้อดีข้อเสียแล้ว "มันไม่ใช่" ก็ต้องยอมรับ จะโบกมือลาก็ว่ากันไป แล้วหาต่อไป จำไว้ว่าถ้าหาคนถูกใจกันได้ง่ายๆ  โลกนี้คงไม่มีคนโสด และคนที่เก่งกาจจริงๆ เป็นคนที่ทำผิดพลาดมามากกว่าคนทั่วไป  และใช้ความผิดพลาดนั้นเป็นบทเรียน  ดังนั้นอย่ากลัวความผิดพลาดนัก แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 53 22:54:31 จากคุณ : omeg เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 22:53:09

ความคิดเห็นที่ 17 ผมจำได้..กระทู้นั้น ผมยังจีบคุณในกระทู้นั้นเลย... อย่าคิดมาก ความรัก ของจะมามันก็มา จะไปมันก็ไป อายุเท่านี้แล้ว ทำยังไงก็ได้ให้ชีวิตมีความสุขก็พอ ผมก็รู้จัก สนิท กับคนจบเอก เป็นดอกเตอร์ ก็หลายคน เค้าก็ใช้ชีวิตมีความสุข เฮฮา ไม่จริงจังกับชีวิตก็เยอะแยะ   เห็นเค้าก็มีแฟน มีกิ๊ก มีหนุ่มๆมาจีบ ตั้งมากมาย อายุก็มากกว่าคุณอีก เค้าไม่เห็นคิดมาก ละเอียดละออเรื่องนี้เหมือนคุณเลย.. ความรักไม่มีเหตุผลหรอก ไม่มีอะไรมากำหนดได้ บุพเพอาละวาดเมื่อไหร่ ก็เป็นเรื่องเมื่อนั้นแหละ ขอให้โชคดี เจอคนดีดี เหมาะกับคุณไวๆครับ.. จากคุณ : ax เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 23:18:40

ความคิดเห็นที่ 18   ตอบคุณ omeg ค่ะ อ่านข้อความของคุณ แล้วต้องขอขอบคุณมาก ๆ นะคะ ที่เขียนมายาวเลยค่ะ ความเห็นของคุณตรงกับความเห็นของน้องสาวเราอย่างมากเลยค่ะ ตอนนี้ ก็อยู่ในช่วงตัดสินใจค่ะ อยากให้ตนเองคิดอย่างรอบด้านก่อนค่ะ และไม่อยากปล่อยเวลา ซึ่งทำให้ปิดโอกาสเค้าเจอคนใหม่ๆ ด้วยค่ะ เราอยากเป็นคนเข้มแข้ง และตัดสินใจได้อย่างเด็ดเดี่ยวค่ะ ...แต่ทำไมไม่รู้ว่า เรื่องความรัก ทำให้เราอ่อนแอได้ค่ะ....... ตอนนี้ความน่าจะเป็น ที่เราจะถอยมีมากเหลือเกินค่ะ เพราะไม่อยากทั้งเราและเค้าเสียเวลาค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 23:26:11 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 19   ตอบคุณ omeg ค่ะ อ่านข้อความของคุณ แล้วต้องขอขอบคุณมาก ๆ นะคะ ที่เขียนมายาวเลยค่ะ ความเห็นของคุณตรงกับความเห็นของน้องสาวเราอย่างมากเลยค่ะ ตอนนี้ ก็อยู่ในช่วงตัดสินใจค่ะ อยากให้ตนเองคิดอย่างรอบด้านก่อนค่ะ และไม่อยากปล่อยเวลา ซึ่งทำให้ปิดโอกาสเค้าเจอคนใหม่ๆ ด้วยค่ะ เราอยากเป็นคนเข้มแข้ง และตัดสินใจได้อย่างเด็ดเดี่ยวค่ะ ...แต่ทำไมไม่รู้ว่า เรื่องความรัก ทำให้เราอ่อนแอได้ค่ะ....... ตอนนี้ความน่าจะเป็น ที่เราจะถอยมีมากเหลือเกินค่ะ เพราะไม่อยากทั้งเราและเค้าเสียเวลาค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 23:26:33 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 20   เพราะตอนนี้ ยังไม่ได้เป็นแฟนกันนะค่ะ เพิ่งเริ่มรู้จักกัน.. แล้วเค้าพูดถึงอนาคต การแต่งงาน แล้วค่ะ เลยไม่อยากให้เค้าคิดไกลไปมากกว่านี้ค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 23:31:00 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 21   ตอนคุณ ax ฮ่า ๆ ๆ เราไม่รู้ว่าคุณจีบนะ (เราโง่มั้ยค่ะ) เนื่องจาก เค้าพูดถึงเรื่องการแต่งงานมาค่ะ ทำให้เราต้องเร่งการคิด การตัดสินใจมากขึ้น บางครั้งเวลาเพียงน้อยนิด ทำให้เราตัดสินใจไม่ได้ซะที ทำให้เราต้องตั้งกระทู้มาระบายและถามด้วย เพราะเรื่องที่เล่ามานี้ เราปรึกษาแต่เพียงน้องสาวเท่านั้น และต้องขอขอบคุณพื้นที่ใน pantip ด้วย ที่ทำให้เราได้ระบายในสิ่งที่เราไม่สามารถพูดกับใครได้ (นอกจากน้อง) เราเคยผ่านประสบการณ์ที่มาคนมาจีบมาชอบบ้าง ในช่วงวัยรุ่น แต่เมื่อมาถึงวัยนี้ มีการคิดที่จริงจังมากขึ้น คนที่เข้ามาหาเราตอนนี้ เราเริ่มมองไปถึงคู่ชีวิตเลยค่ะ ถ้าไม่ใช่เนื้อคู่กัน ก็อยากบอกเค้าไปโดยเร็วที่สุดค่ะ เราอยากมีครอบครัว และลูกในวัยที่ยังอายุไม่มากค่ะ หรือตอนนี้อาจจะมากแล้วด้วยซ้ำก็ได้ ปกติแล้ว เราไม่ได้มีการคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ตลอดเวลาค่ะ ถ้าในช่วงสอนหนังสือ หรือมีกิจกรรมทำ ก็ใช้ชีวิตปกติ เฮฮา ยิ้มได้ค่ะ เพราะเราเองไม่ชอบความเครียด แต่จะมีเพียงบางช่วงที่อ่อนล้า เกิดความเหงาขึ้นมา ทำให้เราคิดขึ้นไปอีกครั้งค่ะ......... จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 23:57:14 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 22   อย่างไรก็ตาม ขอบคุณทุกคนที่ช่วยตอบในกระทู้นะคะ แต่ต้องขอโทษด้วย ที่อาจทำให้คนอ่านรู้สึกว่ารำคาญได้ สามารถแจ้งปิดกระทู้ได้เลยนะคะ..... จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 00:10:55 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 23 กำ 1 เดือนพูดๆเรื่องแต่งแระ   สงสัยจขกท.จะหน้าตาดีนะเนี่ย  รู้งี้ลงสมัครมั่งดีกั่ว ล้อเล่นน่ะ ผมก็มีตัวจริงอยู่แล้ว(มั้ง )   แบบนี้ป้ายหน้าโลดเลยจขกท. แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 00:17:00 จากคุณ : omeg เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 00:13:52

ความคิดเห็นที่ 24 ใจเย็นๆครับ คุณสายเกินไป เอ้ย ก่อนจะสายไป จำกันได้ไหม ในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนนะครับ เรื่องบางเรื่องก็อาศัยความรู้สึก บางเรื่องก็อาศัยเหตุผล อ้อ ขออภัยด้วยครับที่ตอบรับช้ามาก ไม่รู้ว่าสายไปไหมนะ อย่าลืมเช็คอีเมล์อีกรอบนะครับ อย่าอ่อนแอกับเรื่องความรักจนเกินไป ถ้าหนุ่มวิศวกรคนนั้นมาอ่าน เขาอาจจะเคืองเอาได้น๊า ใช่ก็คือใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ sense มันตอบว่าอะไรบ้างครับ ติดใจตรงประโยคว่า หาข้อดีของฝ่ายชายนี่แหละ แล้วในใจคุณก็ตอบมาแล้วว่า ตัวคุณเองเป็นคนประเภทสู้ ทนลำบากได้  แต่อีกฝ่ายอาจจะติดสบาย  ตรงนี้ไงที่เป็นปมในใจ ก็เลยรู้สึกกลัว กลัว กลัว ความไม่แน่นอนในอนาคต อยากจะแนะนำ ให้เปิดใจกว้างๆ ใช้ความรู้สึก ไม่ต้องรีบร้อน อายุแค่ 31 มันจะมีช่วงเวลาปรับตัว ถ้าเข้าักันได้ดี ก้น่าจะโอเช  แต่รู้ไหมในโลกนี้ จะตามหาคู่แท้ที่ถูกใจเราทุกเรื่องมันยากกกกกก ขอแค่เข้ากันได้ รสนิยมใกล้เคียง ซึ่ง ก็คือ ศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา ที่เสมอกัน นี่แหละ เรียกว่าคู่แท้  ส่วนที่เหลือจะเป็นคู่เวร คู่กรรม คู่บารมี หรือคู่รักแท้ มันอยู่ที่พื้นฐานการใช้ชีวิต การศึกษา แล้วก้อะไรอีกหลายๆอย่าง ถ้าวันนึงมีหนุ่มหล่อการศึกษาดี นิสัยดี รวยฐานะมั่นคง มาจีบแบบจริงจัง ก็ใช่ว่าจะใช่คู่แท้เสมอไป จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 01:39:19

ความคิดเห็นที่ 25 ขอถามคำถามเดียว ครับ สเปกที่คุณคาดหวังจริงๆตั้งแต่เด็กๆคืออะไรครับ  สมมุติว่าเลือกได้จริงๆ นอกจากเป้นคนดี มีฐานะความเป็นอยู่ใกล้กัน มุมมองการต่อสู้ชีวิต แล้วยังมีอะไรอีกไหม จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 02:42:13

ความคิดเห็นที่ 26   ก่อนอื่นต้องขออภัยค่ะ ....ที่เราอาจตั้งกระทู้ซ้ำอีกรอบ เราเกรงว่าอาจทำให้ท่านอื่น ๆที่เข้ามาอ่าน อาจเกิดความรู้สึกรำคาญขึ้นได้ เรารู้สึกเกรงใจค่ะ... จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 03:19:36 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 27   ตอบคุณ omeg ก่อนอื่น ต้องขอบคุณคุณมาก ๆ นะคะ ที่ช่วยเราคิด และตอบคำตอบกลับมาค่ะ.. จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 03:21:49 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 28   ตอบคุณ venture ขอบคุณคุณอีกครั้งนะคะ ..เรายังจำคุณได้ค่ะ เดี๋ยวเราจะตอบกลับคุณในกระทู้นี้อีกรอบนะคะ...อาจเป็นตอนค่ำของวันพฤหัส เพราะตอนนี้เราเพิ่งเตรียมการสอนเสร็จค่ะ รู้สึกล้า ๆ มึน ๆ หมดพลังค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 03:28:37 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่สายเกินไป... ผู้ชายลักษณะนั้นหาให้เจอก่อน ส่วนเขาจะสนใจคุณมั้ยก็แล้วแต่เสป๊กแต่ละคน แต่ถ้าคุณเป็นคนน่าสนใจ ก็คิดว่าผู้ชายส่วนใหญ่จะสนใจนะ เรื่องพวกนี้ถามไปก็ตอบได้ว่าใช่หรือไม่ใช่ ไม่มีถูกผิด ต้องลอง จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 06:32:08

ความคิดเห็นที่ 30 ความรัก เริ่มต้นด้วยอารมณ์ แต่จะยืนยาวหรือเปล่า ต้องอาศัยเหตุผล คนนึงชอบสบาย คนนึงชอบลำบาก แล้วมันอยู่ไม่ได้กันตรงไหน ถามว่า ถ้าคุณมีเงินสักล้าน คุณจะนั่งซักผ้าริมคลอง หรือจะซื้อเครื่องซักผ้า ถ้ายังจะนั่งซักผ้าริมครอง คุณรวย แต่ใช้เงินไม่เป็น ไม่รู้จักเอาเงินมาช่วยเหลือชีวิต แต่ใช้ชีวิตเพื่อรับใช้เงิน คำว่าชอบความลำบาก ผมตีความหมายว่า ทำงานหนัก มากกว่า ดูแล้วเขาอาจจะไม่ใช่คนที่บ้างาน มากนัก มันก็มีข้อดี ผมมีเพื่อนคนนึง "บ้างาน" แต่งงานกับผู้หญิง "บ้างาน" แต่งได้ปีกว่า "หย่า" ทำงานกันจนบ้านแตก ต่างคนต่างกลับดึก มุดหัวอยู่แต่ออฟฟิซ บ้าน 4-5 ล้าน ซื้อไว้ซุกหัวนอนอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้บ้านเป็น "บ้าน" ได้ บางครั้ง ความแตกต่าง มันก็ทำให้ชีวิตสมดุลย์ อย่าคิดว่า คุณจะหาคนที่เหมือนกับคุณ ถึงจะอยู่ยืด แต่จงหา คนที่มาเติมเต็ม ส่วนที่คุณขาด ดีกว่า คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้า คุณทำงานมาหนักทั้งวัน กว่าจะเลิกงานมา 3-4 ทุ่ม กลับมาถึงบ้าน บ้านมืดตื๋อ เพราะสามีคุณก็ทำงานหนัก ยังไม่กลับบ้านเหมือนกัน ลองมองอีกมุม คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้า คุณทำงานมาหนักทั้งวัน กว่าจะเลิกงานมา 3-4 ทุ่ม กลับบ้านมา สามีนั่งรอคุณอยู่หน้าทีวี โต๊ะอาหารมีกับข้าวที่อุ่นรอเอาไว้ กะเวลาได้เหมาะเจาะว่าคุณจะกลับบ้านมาพอดี "เหนื่อยมั๊ยจ๊ะ จะอาบน้ำหรือจะทานข้าวก่อนดีล่ะ" คำแรกที่คุณได้ยินจากปากเขาทันทีที่คุณก้าวเท้าเข้าบ้าน แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 09:03:07 จากคุณ : OnGaH เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 08:58:05

ความคิดเห็นที่ 31 อยากจะแถมตอนท้ายไว้ว่า ความรักคือการศึกษาเรียนรู้ ค่อยๆเรียนรู้มันไปครับ จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 09:01:02

ความคิดเห็นที่ 32   เราไม่อยากให้คุณใช้เหตุผลมากไป อยากให้ใช้หัวใจว่ารักเขาไหม ถ้าไม่รักก็อย่าคิดเรื่องแต่งงานเลย เหตุผลจะจบลงอย่างไม่มีสาเหตุในวันที่ต่างคนต่างคิดว่าตัวเองมีเหตุผล............ จากคุณ : UBL เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 10:20:57

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบอกค่ะ ว่า จะคบจะศึกษากันอย่างไร นานแค่ไหน 7 ปี 10 ปี ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเราไม่มีทางรู้นิสัย พฤติกรรมของเขาหมดหรอก  นอกจากมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน นอนเตียงเดียวกันนั่นแหละ ถึงจะได้รู้ธาตุแท้...ซึ่งเขาอาจจะใช้ถูกใจเรา หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้  การแต่งงาน คือการเสี่ยง จริงๆๆ  คอนเฟริม์ คุณถามตัวเองให้ดีว่าอยากอยู่เป็นโสด  หรือ อยากใช้ชีวิตคู่ จากคุณ : momeye (momeye) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 11:15:22

ความคิดเห็นที่ 34 เราจะหา ผู้ชายเพอร์เฟคคงยาก ทุกคนมีข้อบกพร่องทั้งนั้นน่ะค่ะ ใช้ใจตัวเองพิจารณาดีที่สุด แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 11:17:51 แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 11:17:51 จากคุณ : momeye (momeye) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 11:15:35

ความคิดเห็นที่ 35 อย่าคาดหวังอะไรกับความรัก   เพราะคุณจะไม่เคยสมหวังเลย ปล่อยมันเป็นไปตามธรรมชาติ ครับ   คนใหนเราคบแล้วสบายใจ ก้อคบกันไป คนใหนคบแล้วลำบากใจ ไม่มีความสุข ก้อเลิกคบซะ แต่ผมเชื่อคำโบราณ ที่ว่า   "รักคนที่เขารักเรา ดีที่สุด" จากคุณ : เดอะไรท์ เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 11:42:39

ความคิดเห็นที่ 36 เราคิดว่าทุกคนคาดหวังได้แต่ควรจะคาดหวังหรือตั้งสเป็กแบบพอเหมาะค่ะ สำหรับเรา เราจะเขียนไว้เลย ว่าหลักๆ เราต้องการอะไร เก้าข้อสิบข้อเขียนเข้าไป ( เช่น .. มีศีลห้าครบ ฉลาด ใจดีเมตตากับเรา เป็นที่พึ่งให้เราได้ มีค่านิยมในการใช้เงิน หาเงิน ศาสนา เหมือนเรา หรือไปในแนวทางเดียวกัน หมายถึง เราเป็นพุทธ เค้าควรจะเป็นพุทธ หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้เราต้องเปลื่ยนความเชื่อตรงนี้ บุคลิกดี มีเงินเลี้ยงเราได้ถ้าจำเป็น หรือ ใช้ชีวิตคุณภาพชีวิตใกล้เคียงกับเราได้ เป็นต้น) และข้ออื่นๆที่ไม่ได้จำเป็นสำหรับการใ้ชีวิตคู่ แต่ตอบสนองตวามพอใจของเรา เช่น  หล่อ สูงกว่าร้อยเจ็ดสิบห้า ขาว ล่ำ คุยเก่ง ตลก ชอบกินอะไรคล้ายๆเรา ช่างเอาใจ เป็นต้น ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องมีความสนใจเหมือนกันก็ได้เหมือนกันก็ได้ค่ะ คือเรายอมค่ะ ถ้าข้อรายละเอียดมีไม่ครบ แต่ข้อหลักๆ ต้องมีครบ ซึ่งไม่ได้โม้ หาได้จริงๆนะคะ บางทีอะไรที่มันไม่ได้จำเป็นมาก เราก็ต้องยอมประนีประนอมบ้างค่ะ ดังนั้น คุณจขกท ลองพิจารณาดีๆ ว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณ และคู่ชีวิต อยู่ต้องกันอย่างมีความสุขได้ไปชั่วชีวิต ก็เอาสิ่งนั้นเป็นหลักๆ ในการหาคนนะคะ เพราะเท่าที่ดูๆ คุณยังไม่ชัดเจนกับตัวเองเลย ว่าอยากได้คนแบบไหนเข้ามาในชีวิตคุณ ตอนแรกๆก็บอกอยากแต่งงานๆ แต่พอมีคนเข้ามาที่ดูโอเคๆ คุณก็บอกว่าไม่ชอบเค้าเพราะ คุณชอบคนผิวออกขาว หรือเค้ารักสบายเกินไป ( ไม่เข้าใจ รักสบายยังไง ไม่ดีตรงไหน ถ้ามันไม่เดือดร้อนใคร ) สุดท้าย เวลาเลือกใคร อยากจะบอกว่า ความหลงนั้นอยู่ไม่นานหรอกค่ะ ( ห้าปี สิบปี ) ความดีต่างหากที่จะผูกใจคนสองคนไว้ด้วยกัน จากคุณ : cardiogenic เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 12:00:54

ความคิดเห็นที่ 37 ใจเย็นๆค่ะ.... เพิ่งรู้จักกันเอง...เราว่าเร็วเกินไปที่จะมาพูดเรื่องแต่งงาน.... แถมคุณจขกท..ยังรู้สึกไม่ตรงใจกับผู้ชายคนนี้ซะทีเดียว... เราว่าคบเป็นเพื่อนไปก่อนดีกว่า.... เพราะถ้าเกิดสักวันคุณจขกทไปเจอคนที่ใช่กว่าอาจจะมาเสียใจยิ่งกว่าเดิมทีหลังก็ได้..... ..... ส่วนเรื่องงานคุณจขกท ชอบทำงานหนักก็ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องให้คนอื่นทำงานหนักไปด้วยนี่คะ.... แค่เค้าเป็นคนตั้งใจทำงานมีความรับผิดชอบก็เพียงพอแล้ว.... ขืนทำงานหนักทั้งคู่ชีวิตคู่อาจมีปัญหาก็ได้.....บ้างานจนการบ้านไม่ยอมทำ....555 จากคุณ : tiNgrOyArrAi เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 12:35:53

ความคิดเห็นที่ 38   ตอบคุณ venture จากคำถามนี้ค่ะ "สเปกที่คุณคาดหวังจริงๆตั้งแต่เด็กๆคืออะไรครับ สมมุติว่าเลือกได้จริงๆ นอกจากเป้นคนดี มีฐานะความเป็นอยู่ใกล้กัน มุมมองการต่อสู้ชีวิต แล้วยังมีอะไรอีกไหม" ----------- เรามีความฝัน ความฝันนี้อาจไม่เป็นจริงก็ได้นะค่ะ..จากสมัยเด็ก ๆ จะชอบที่มีหน้าตาเป็นหลักค่ะ แต่เมื่อผ่านช่วงวัยต่าง ๆ จนก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ เราชอบคนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ค่ะ ช่วยกันคิด ช่วยกันวางแผนชีวิตร่วมกัน แล้วมีแนวโน้มว่าเขาสามารถทำได้ค่ะ (เราไม่อยากคิดคนเดียว เราเหนื่อย) หรือเขาอาจเป็นผู้นำเราได้ค่ะ ถ้าเราทำได้เราขอเป็นผู้ตามค่ะ หรืออยู่เคียงข้างกัน เลยชอบผู้ชายที่ขยัน ๆ มีความอดทนค่ะ จะทำให้เรามีแรงใจที่ก้าวเดินไปด้วย ส่วนภายนอก อาจชอบคนที่ผิวขาว และสูงหน่อย ๆ (เพราะคาดคิดไปถึงลูกที่เกิดมาค่ะ เราเคยเห็นภาพถ่ายของเด็กญี่ปุ่น เรารู้สึกว่าน่ารัก น่าเอ็นดู ก็เลยอยากให้เค้าเกิดมาแล้วน่ารักค่ะ) แต่ทั้งนี้ไม่เป็นไร หากคนที่เข้ามาหาเราไม่ได้ตรงตามสิ่งที่คาดไว้ เพราะคิดว่าเป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น เรายอมรับได้ค่ะ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงจินตนาการที่เรามองไว้แค่นั้นค่ะ และ หากลูกเราเกิดมาหน้าตาไม่ได้สวยหรือหล่อ เราจะสอนให้เค้ามีความเข้มแข็ง ปรับมุมมองทัศนคติความคิดของเค้า ว่าให้มั่นใจในสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่อยู่ภายใน หรือความคิดของเรา เป็นสิ่งที่สวยที่สุด)..ฉะนั้นสิ่งที่เรามองผู้ชายที่ภายนอก จึงเป็นลำดับสุดท้าย ๆ ไม่ได้ตรงนั้น ก็ไม่เป็นไร เพราะเราเองก็ไม่ใช่คน perfect ค่ะ ปล.เราอาจเขียนวกวน เพราะรีบค่ะ มีเวลาจำกัด แต่สิ่งที่เขียนถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึกที่แท้จริงค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:20:14 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 39   สรุป เราคิดไปถึงลูกอีกทอดหนึ่งค่ะ..... อิอิ อ่านแล้วเราคิดละเอียดลออ และลึกจริง ๆ ด้วย เพราะเราสงสารเค้า อยากให้เค้าเกิดมาในสภาพที่พร้อม และสมบูรณ์ค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:27:23 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 40   เป็นการวางแผนสร้างครอบครัวที่มีระบบมากเลยค่ะ ดีจัง ถ้าเราเป็น จขกท. จะลองศึกษาคนที่คุยอยู่ไปก่อนเรื่อยๆ เผื่อเจอเรื่องที่ประทับใจภายหลังได้ แต่ก็เปิดตัวเองเจอคนอื่นให้มากขึ้น จะได้รู้แนวว่าชอบไม่ชอบแบบไหนจริงๆ ขอให้เจอคนที่ใช่เร็วๆนะคะ จากคุณ : 4D เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:35:55 A:202.12.97.118 X: TicketID:243199

ความคิดเห็นที่ 41 เราว่าอย่าเพิ่งเร่งรัดตัวเองดีกว่าค่ะ ลองปล่อยไปตามสบายดีกว่า มีข้อความหนึ่ง จขกท บอกว่าเค้าพูดเรื่องแต่งงาน เราว่ามันเป็นสิทธิ์ของคุณน่ะค่ะว่าคุณจะคิดเรื่องแต่งงานเลย หรือว่าจะลองคบดูเป็นเพื่อนกันไปก่อน จะดูเค้านานแค่ไหนแล้วแต่ใจคุณเองค่ะ คนเราอยู่ด้วยกันได้ตลอดลอดฝั่ง ใช่ว่าต้องเหมือนกันน่ะค่ะ แค่เค้ารับเราได้ เรารับเค้าได้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ใช้เหตุผล ความรู้สึก ตัดสินใจ แล้วถ้าตัดสินใจแล้ว....ผลจะเป็นไง ถามตัวเองว่ารับได้หรือป่าว .........แค่นั้นน่าจะพอน่ะคะ ขอให้โชคดีค่ะ (ไม่รู้ตอบตรงกับที่ต้องการหรือป่าว) จากคุณ : secrethurs เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:47:37

ความคิดเห็นที่ 42 ซ้ำค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 14:50:03 จากคุณ : secrethurs เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:48:01

ความคิดเห็นที่ 43 คุณน้องสายฯ ลองส่ง ว ด ปี เวลาเกิด ให้เราที่อีเมล์นะ เราจะดูให้ว่านิสัยเธอเป็นคนยังไง แล้วมีดาวจรเนื้อคู่แบบไหน ที่เธอจะต้องเจอ จำได้ไหม เราเคยบอกว่า ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอน มันสามารถพลิกผันได้ตลอดเวลา อย่างน้อยมันจะบอกความน่าจะเป็นได้ ไม่ต้องห่วงว่าเราจะเอาไปทำเสน่ห์นะจ๊ะ อิอิ บางทีศาสตร์โบราณบอกว่า สาวที่มีดาวเจี๊ยซิ้ง เซียกัว โดดเด่นมากๆ ก็หาสามียาก แต่ถ้ามีดาวจรโผล่เข้ามาในชีวิต มันก็จะมีเรื่องราวดีๆ อย่างน้อยเราเห็นว่าเธอก็ success ในเรื่องการศึกษาหน้าที่การงานแล้ว น่าจะมีความเป็นไปได้ เราเดาว่าเธอน่าจะทำงานไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ประมาณใกล้ๆทะเล ใช่ไหม จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:55:52

ความคิดเห็นที่ 44 คุณอาจจะกำลังคิดผิด ต้องการให้ลูกเกิดมาในสภาพที่พร้อม และสมบูรณ์ ทราบมั๊ยว่า ลูกหลานในตระกูลเจ้าของ CP ทุกคนต้องไปฝึกงานเป็นพนักงานในบริษัทลูก ทำงานแบบพนักงานธรรมดา แล้วค่อยไต่เต้าขึ้มาเป็นผู้บริหาร พนักงานระดับผู้จัดการของ 7-11 ก่อนจะรับตำแหน่ง ต้องไปขายของในสาขา 7-11 3 สัปดาห์ คนที่มีชีวิตสมบูรณ์เกินไป จะไม่สามารเรียนรู้ได้เต็มที่ จากคุณ : OnGaH เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 15:11:53

ความคิดเห็นที่ 45 ค่อยๆคบกันไป อย่าเร่งร้อนถ้าใช่ก็คือใช่ ถ้าไม่ใช่ก็อย่าเสียใจมากนัก การแต่งงานมีชีวิตคู่ไม่ใช่จุดจบของความรักแต่เป็นการเริ่มต้นชีวิตแบบใหม่ที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง อย่าให้คำว่าอายุมากเป็นตัวเร่งรัด หลังจากแต่งงานคุณจะเข้านอนและตื่นขึ้นโดยมีคนอีกคนหนึ่งอยู่ข้างๆเสมอ ไม่นานก็จะมีตัวเล็กซึ่งอาจจะเพิ่มความลำบากในการดำเนินชีวิตจากปกติ แต่ถ้าคุณพร้อมลุยก็เดินหน้าได้เลย จากคุณ : ลุงน้อยลำปาง เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 15:13:42

ความคิดเห็นที่ 46   แต่ทีนี้ เมื่อมามอง คนที่เราลองคบดู ถึงแม้ว่าเค้าจะใช่สเป๊กภายนอกของเรา เราคิดว่าไม่เป็นไร เรายอมรับได้ค่ะ เพราะสิ่งภายนอกเป็นสิ่งที่เราปรับไม่ได้ แต่สิ่งที่เค้าสามารถปรับและพัฒนาได้คือ ภายในจิตใจ ความขยัน และความอดทนค่ะ เราเชื่อว่าทุก ๆ คนเกิดมา จะมีความขยัน อดทน ทุกคนเมื่อก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เพราะ ต้องคิดวางแผน สร้างครอบครัว สร้างอนาคตให้ลูก และเลี้ยงดูพ่อแม่เมื่อแก่ชราลง สำหรับผู้ชายคนนี้ เราคบเค้าค่อนข้างรู้รายละเอียดมาก เพราะจากการพูดคุยกัน เกี่ยวกับวิธีชีวิต วิธีการคิด ความเป็นอยู่ งานอดิเรก เราพบว่า สิ่งที่เราคล้ายกันก็คือ ชอบอยู่บ้านเป็นหลักค่ะ เมื่อว่าง ๆ เสาร์ อาทิตย์ก็ไปเที่ยวพักผ่อน ไม่เจ้าชู้ สภาพความเป็นอยู่ และการถูกเลี้ยงดูจากพ่อแม่เหมือนกัน สิ่งที่แตกต่างกันอยู่บ้าง คือ เค้าค่อนข้างเงียบค่ะ ไม่ค่อยมีอารมณ์ขัน ส่วนเราจะชอบเสียงหัวเราะ ชอบมีอารมณ์ดี ๆ ค่ะ แต่ข้อแตกต่างนี้เล็กน้อย เราไม่ได้คิดมาเป็นประเด็นเท่าใดนัก แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่ค่อยมีแรงก้าวเดินไปต่อเท่าใด หรือ กำลังใจหดหายไปนั้น เป็นเพราะว่าเค้าไม่ได้คิดสร้างอนาคตเท่าใด (เค้าพูดถึงเพียงว่า เค้าอยากแต่งงาน แต่ไม่ได้วางอนาคตว่าจะทำอะไร จะเป็นแบบไหน ) บางครั้งเค้าท้อเรื่องต่างๆ ง่ายเกินไป งานอดิเรกของเรา ก็คือ การนอนดูทีวีที่บ้านค่ะ ฉะนั้นถ้าวันเสาร์ อาทิตย์ ไม่ไปไหน เค้าก็นอนดูทีวีเกือบทั้งวัน เค้าทำงานบ้านไม่เป็นค่ะ (แต่เราก็คิดว่าไม่เป็นไร เพราะผู้ชายอาจไม่ชอบทำงานบ้านก็ได้ค่ะ) เค้ามีอาชีพเป็นวิศวกร เป็นข้าราชการค่ะ เค้ารับงานอื่นๆ หรืองานนอกเป็นครั้งคราวค่ะ งานหลักที่เป็นข้าราชการของเค้าค่อนข้างสบายค่ะ เริ่มงาน 8 โมงครึ่ง เลิก 4 โมงครึ่ง และเค้าจะเข้านอน ประมาณ 2 ทุ่ม ตื่นนอนตีห้าครึ่ง แต่เราเนี่ย 2 ทุ่มครึ่งนี้เราเพิ่งเข้าที่พักก็มีค่ะ หรือเริ่มต้นทำงานเตรียมสอนก็มีค่ะ ถ้าหากเค้ารับงานนอก เค้าจะโทรหาเราเกือบทุกครั้งว่า เค้ารับทำงานนอกมาทำ แต่พอทำไป ส่วนใหญ่เค้าจะทำไม่เสร็จค่ะ เค้าบอกว่าเค้าเมื่อยค่ะ เค้าก็จะไปจ้างเพื่อนของเค้าหรือญาติเค้าทำต่อค่ะ เราเคยบอกเค้าว่า ถ้าเป็นเรา เราจะพยายามจนเสร็จค่ะ ถึงแม้อดหลับอดนอนไปบ้างก็ตาม ตัวอย่างดังที่กล่าวมา เป็นเพียงลักษณะนิสัยของเค้าค่ะ อาจทำให้เราท้อหรือไม่มีแรงเดินไปบ้าง แต่เราก็ให้กำลังใจเค้าทุกครั้ง ว่าให้ตั้งใจทำงานนะ เพราะมันจะเป็นผลดีต่อตัวเค้าค่ะ เราไม่อยากไปเปลี่ยนใครค่ะ เพราะหากเค้าเป็นแบบนี้ ก็อยากให้เค้าเป็นแบบนี้ต่อไป เราอยากมามองที่ตัวเราเองว่า เรารับได้ไหม ถ้ารับได้ เราก็คบต่อ แต่ถ้าไม่ได้ เราก็ขอเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 15:24:17 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 47   เดี๋ยวค่ำ ๆ เรามาต่อค่ะ เราไปประชุมก่อนค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 15:26:00 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 48 สิ่งสำคัญของผู้หญิงที่จะคบหาเป็นแฟน หรือเป็นว่าที่ภรรยาในอนาคตคือ ถ้าผมคุยเรื่องตลกแล้วต้องหัวเราะครับ ถ้าไม่หัวเราะนี่คงจะไปกันไม่ได้ จากคุณ : Practical x 2 เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 15:52:23

ความคิดเห็นที่ 49 ผมคิดว่า จขกท เป็นคนคิดมาก และตั้งความหวังในสิ่งต่างๆ ไว้ค่อนข้างสูง ชีวิตมีแผนการเอาไว้ก็ดี แต่ไม่ควรจับจดกับมันมากนัก เพราะชีวิตเปลี่ยน แปลงไปได้เสมอ จขกท เรียนจบปริญญาเอกมาแล้วก็น่าจะเข้าใจ เพราะ มีผู้เปรียบเทียบการเรียนปริญญาเอกเอาไว้ว่าเหมือนกับชีวิตคนเรานั่นเอง มีทั้งสมหวังและผิดหวัง จากคุณ : Practical x 2 เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 15:59:05

ความคิดเห็นที่ 50 ลองใช้สัญชาตญาณตัวเองดูค่ะ ลองมองหน้าเขาดู คุณรู้สึกอย่างไรกับเค้า คุณจะรู้ได้เองว่าอยากจะอยู่กับคนๆ นี้มั้ย ตอนเราเจอกับสามีครั้งแรก เค้าสะดุดตาเรามากๆ ขนาดอยู่ในที่พลุกพล่านอย่างสนามบิน แล้วพอได้ร่วมทริปกัน มันรู้สึกได้เลยว่าอยากคบกับเค้า อยากอยู่กับเค้าค่ะ คบกัน 5 เดือน เค้าก็ขอเราแต่งงานค่ะ คนรอบข้างก็คอยทักท้วงเราว่าความสัมพันธ์มันดำเนินไปเร็วเกินไปรึเปล่า แต่ความรู้สึกเรามันบอกว่า เราอยู่กับคนๆ นี้ได้แน่ๆ เราแต่งงานกันหลังจากเจอกัน 8 เดือนค่ะ เดือนที่แล้วเพิ่งครบรอบ 10 ปีค่ะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราก็ยังรู้สึกว่าเราคิดไม่ผิด ที่เลือกที่จะเชื่อหัวใจตัวเองค่ะ ลองให้สัญชาตญาณได้ทำงานดูบ้างนะคะ บางครั้ง บางเรื่อง ก็ไม่จำเป็นต้องคิดมากค่ะ ขอให้คุณโชคดีพอที่จะรู้จักหัวใจตัวเองค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 16:25:15 จากคุณ : Angel4Phoenix เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 16:24:35

ความคิดเห็นที่ 51 แฟนผมจบปริญญาเอกเหมือนกัน ทำงานสอนหนังสือนักศึกษา มาหลายปีแล้ว เธอบอกว่า จขกท คิดมากเกินไป Whatever will be, will be และยังชวนผมไปอ่านกระทู้บอลโลกดีกว่า เป็นงั้นไป !? จากคุณ : Practical x 2 เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 16:40:46

ความคิดเห็นที่ 52   ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่เข้ามาคำตอบและแสดงความคิดเห็นค่ะ.... ท่านที่อ่านข้อความที่เราเขียน คงคิดว่า ยัยนี่!! มีความคิดแปลก ๆ คิดโน้น คิดนี่ คิดลึก ได้มากมายเหลือเกิน ฮ่า ๆ ไม่เป็นไรค่ะ มันเพียงสิ่งที่เราฝันไว้ค่ะ... แต่คงไม่มีจริงในโลก แต่อย่างน้อย ทำให้เราได้ระบาย ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาบ้าง อึดอัดอยู่พอสมควร เพราะเรื่องนี้มาเร็วแบบไม่ทันตั้งตัวค่ะ แถมจะปรึกษาใครมากก็คงไม่ดี เพราะเรื่องของเรา เมื่อเทียบกับ ปัญหาของคนอื่น ๆ คงเป็นปัญหาอันน้อยนิดเท่านั้น ................. แต่เราคิดว่า เราเกิดมาโชคดีมาก ที่มีพ่อแม่เข้าใจเราทุกเรื่อง คอยให้กำลัง ใจตลอดมา และรักเรามากเหลือเกิน พ่อแม่ฝึกให้เราเป็นคนเข้มแข็ง อดทน ไม่อยากเห็นลูกสาวร้องให้กับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง อีกทั้งเรามีน้องสาวที่น่ารัก และอยู่เคียงข้างเราเสมอ ไม่ว่าพี่สาวจะเจอปัญหาต่าง ๆ มากมาย และอีกไม่นาน น้องสาวเราก็จะเข้าสู่การแต่งงานแล้วค่ะ เรายินดีและดีใจอย่างมาก ที่เห็นเค้ามีชีวิตที่ดี มีคู่ชีวิตที่รักเค้าอย่างแท้จริง.... จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 21:22:09 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 53   ยังไม่เข้าใจ จขกท อยู่ดี อย่าไปคิดเอาเองว่าเค้าบุคลิกอย่างนี้ เข้ากับคุณไม่ได้แน่ๆ เราก็ชอบลุย ทำงานหนัก จริงจังทุกเรื่อง สามีเป็นคนชิลล์ๆ ทำงานแผนกเดียวกัน สามีทำงานน้อยกว่าเรามากกว่าครึ่ง โต๊ะทำงานเรารกมากกกก โต๊ะเค้าสะอาดได้มาตรฐาน 5ส ทุกอย่าง เราไม่อ่านหนังสือเลย นอกจากการ์ตูน เค้าชอบอ่านหนังสือมาก เราใจร้อน ขี้หงุดหงิด เค้าใจเย็นมาก ไม่เคยโกรธใครเลย เข้าใจโลกสุดๆ เราไม่ชอบคนผิวดำ ตัวมันๆ สามีเราเป็นอย่างนั้นเลย ตอนแจกการ์ดมีแต่คนทักว่าลูกเราต้องเป็นม้าลายแน่ๆ ความแตกต่าง ไม่ได้ทำให้ไม่รักกัน ความแตกต่าง ไม่ได้ทำให้ไม่มีความสุข ทุกวันนี้เรามีความสุขมาก สามีเราพูดว่าอยากใช้ชีวิตกับเราไปตลอดชีวิต ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเรายังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกะเค้าเลย (แต่มันก็ทำเอาเราคิดมากไปเหมือนกัน) เราก็รู้สึกเหมือนๆ คุณน่ะแหละ แต่เราไม่กลัวที่จะปล่อยให้ความสัมพันธ์มันทำงานต่อไป ถ้าเราปิดตัวเองตั้งแต่ตอนนั้น เราคงไม่มีความสุขอย่างทุกวันนี้ ถ้าช่วงเวลาที่อยู่กับเค้าแล้วคุณมีความสุข ก็อย่าใช้หลักวิชาการมาตัดสินหัวใจเลยค่ะ จากคุณ : ไม่มีล็อกอิน เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 22:09:01 A:125.25.72.72 X: TicketID:258399

ความคิดเห็นที่ 54   ขอบคุณ คุณไม่มีล็อกอินนะคะ ที่ช่วยให้ข้อคิดกับเราค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 22:16:24 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 55   ตอบคุณ OnGaH ค่ะ จากข้อความนี้ค่ะ "คุณอาจจะกำลังคิดผิด ต้องการให้ลูกเกิดมาในสภาพที่พร้อม และสมบูรณ์ ทราบมั๊ยว่า ลูกหลานในตระกูลเจ้าของ CP ทุกคนต้องไปฝึกงานเป็นพนักงานในบริษัทลูก ทำงานแบบพนักงานธรรมดา แล้วค่อยไต่เต้าขึ้มาเป็นผู้บริหาร พนักงานระดับผู้จัดการของ 7-11 ก่อนจะรับตำแหน่ง ต้องไปขายของในสาขา 7-11 3 สัปดาห์" ------- จากที่เรากล่าวว่า อยากให้ลูกเกิดมาในสภาพที่พร้อมและสมบูรณ์ หมายถึงว่า ให้เค้าเกิดมาแล้วเป็นเด็กที่มีสุขภาพดี สมบูรณ์ แข็งแรง และรูปพรรณสัณฐานที่ดีค่ะ ในตอนแรกเกิด ไม่ได้หมายถึงว่า ให้เค้าโตมาเป็นผู้บริหารที่ใหญ่โต มีความสบาย ร่ำรวยเงินทอง ซึ่งเรามองไว้ว่า ตอนโตแล้ว เค้าจะเป็นอะไรก็ตาม ให้เค้าเลือกเอา ถ้าสิ่งที่เลือก เค้ามีความสุขกับสิ่งที่ทำ เราจะมีความสุขมาก และเราเห็นว่า ถ้าหากเค้าจะฝึกงานเป็นพนักงานในบริษัทลูก ทำงานแบบพนักงานธรรมดา แล้วค่อยไต่เต้าขึ้นมาเป็นผู้บริหาร เราจะภูมิใจอย่างยิ่งค่ะ เพราะเค้าจะได้เห็นถึงสภาพความเป็นจริงของมนุษย์ธรรมดาว่าย่อมมีทุกข์ มีสุข เรายิ่งสนับสนุนใหญ่เลย เพราะอยากให้เค้าเป็นคนติดดินค่ะ มีความอดทน เข้มแข็ง และแข็งแกร่งค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 23:01:37 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 56   โห เราอ่านความเห็นของเราทั้งหมดแล้ว แทบพูดออกมาได้ว่า เราถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของเราอย่างสุด ๆ ค่ะ ท่านที่เคยอ่านกระทู้เดิมผสมกับกระทู้นี้ คงทราบนิสัยของเราที่แท้จริงของเราเลยละคะ....... แปลกใช่มั้ยค่ะ... แต่จริงค่ะ ตอนนี้เรานั่งทำงานไป แล้วตามติดกระทู้ไปด้วยค่ะ เพราะวันศุกร์-เสาร์ เราไปต่างจังหวัดค่ะ ไม่สามารถอ่านกระทู้ได้ จะได้อ่านอีกที อาจเป็นเช้าวันอาทิตย์หรือ เย็นวันเสาร์ แต่กระนั้นกระทู้ อาจหาไม่พบก็ได้ เลยต้องนั่งตอบไปเขียนไปในตอนนี้เลยค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 23:23:38 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 57 ผมกำลังจะมีลูก แฟนผมท้อง 5 เดือนครึ่งแล้ว สิ่งเดียวตอนนี้ที่ผมกังวล เขาจะแข็งแรงสมบูรณ์หรือเปล่า สิ่งนี้ รูปร่างหน้าตาของผมหรือแฟนผม ไม่สามารถบอกได้เลย สิ่งที่พอจะช่วยได้บ้าง คือ การไม่มีประวัติโรคทางพันธุกรรม ไม่มีธาลัสซีเมีย ตรวจครรภ์แล้วสมบูรณ์ ultrasound ดูแล้วการพัฒนาการสมบูรณ์ เขาดิ้นอยู่เสมอ เมื่อวานคุณหมอเอาเครื่องขยายเสียงให้ฟังเสียงหัวใจเขาเต้น โห ตื่นเต้นชะมัดเลย ผมไม่เคยสนเลยว่า เขาจะสูงต่ำดำขาว ผมรักเขาโดยยังไม่เห็นหน้าด้วยซ้ำ เห็นแต่กะโหลกตอน ultrasound การที่พ่อแม่รูปร่างหน้าตาดี ไม่ได้หมายความว่า ลูกจะต้องออกมาหน้าตาดีเสมอไป มันแค่ เพิ่มโอกาส กฎของเมนเดล ยังบอกว่า 3:1 คนหล่อมักไม่รวย คนรวยมักไม่หล่อ คนหล่อและรวยมักเจ้าชู้ (ยืนยัน เพื่อนผมมีแบบนี้หลายคน) คนหล่อ รวย ไม่เจ้าชู้ มักมีเมียแล้ว คนหล่อ รวย ไม่เจ้าชู้ ไม่มีเมีย มักเป็นเกย์ ไม่เหลือตกมาถึงมือคุณง่ายๆหรอกครับ ถ้าให้ผมมองคุณ คุณเป็นพวก perfectionist มากเกินไปหน่อย ชีวิตไม่มีอะไรสำเร็จรูปเหมือนบะหมี่หรอกครับ ความไม่สำเร็จรูปนี่แหล่ะ ที่ทำให้ชีวิตมีสีสรร ทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำเถอะครับ อย่าคิดมาก ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ ความสุขยิ่งลดลง จากคุณ : OnGaH เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 23:54:50

ความคิดเห็นที่ 58   ขอบคุณค่ะ OnGaH คุณตอบได้ถูกใจเรามากค่ะ... เราอยากให้กิ๊ฟคุณ แต่เราทำไม่เป็นค่ะ ยินดีกับคุณด้วยนะคะ ที่กำลังจะมีสมาชิกตัวน้อย ตัวเราเองนั้น หากเรามีลูก เราคงดีใจมากเช่นเดียวกับคุณ เมื่อตัดสินใจเลือกแล้ว ลูกหน้าตาจะเป็นอย่างไร ลูกจะเกิดมาพิการ เราก็รักค่ะ และจะเลี้ยงดูเขาอย่างดีที่สุด อืม..เราเองอาจเป็นคิดมากเกินไปจริง ๆ คิดว่าควรปรับปรุงตนเองอย่างมากขอบคุณค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 00:10:16 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 59   ขอบคุณ อาจารย์ Practical x 2 มากนะคะ ที่กรุณาแสดงความเห็นในกระทู้นี้ค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 00:14:15 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 60 อ่านกระทู้คุณแล้ว นึกถึงตัวเอง ผมเองก็เป็นคนไม่ค่อยทำงานบ้าน แต่เด็กแล้ว ที่บ้านจะมีแม่บ้านคอยทำงานบ้าน โตมา เลิกจ้างแม่บ้านแล้ว (เด็กเดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยอยากทำงานบ้านกันแล้ว เข้าโรงงานกันหมด หาที่ไว้ใจได้ก็ยาก ไม่จ้างดีกว่า) แต่ก็ยังไม่ค่อยทำ ทำเป็นบางอย่าง มีแม่ พี่สาว พี่เขย ช่วยๆแบ่งๆกันทำ แต่ผมก็ทำน้อยที่สุด ส่วนมากนั่งอยู่หน้า notebook เพียงแต่ผมไม่ได้รับราชการ ทำงานบริษัท เคยทำงานหนักมาก ทุ่มเทมาก ไม่เคยออกจากออฟฟิซก่อน 3 ทุ่ม พอวันนึง พิษเศรษฐกิจมา ก็พบสัจธรรม ไม่มีอะไรที่ควรทุ่มเทมากไปกว่าครอบครัว ตอนนี้ เลิกงาน 5 โมง ผมก็กลับบ้าน ถ้าอยากทำงาน ก็มาทำต่อที่บ้าน (ที่นอนดึกนี่ก็ทำอยู่) แต่ไม่อยู่ออฟฟิซ อย่างน้อย ขอกลับมาอยู่กับครอบครัว ทุ่มเทงานได้ แต่ต้องแบ่งเวลาด้วยครับ รักษาสมดุลย์ชีวิตด้วย ผมว่า ชีวิตคุณก็เจอมาเยอะนะ อย่ากลัวที่จะเจออุปสรรค เพราะความรัก มักมีอุปสรรคเสมอ ผมเองก็แต่งงานตอนอายุเริ่มจะเยอะ เพิ่งแต่งเมื่อ พ.ย. ที่แล้วนี่เอง ตอนนี้ 36 แล้ว พบแฟนตอนเรียนโท มานั่งเรียนด้วยกัน ก่อนหน้านี้ก็มีแฟนมาก่อน คบกันมา 4-5 ปี แต่สุดท้าย ไปไม่รอด มันรู้ได้โดยสัญชาตญาณ ว่า เราไม่สามารถประคองชีวิตแต่งงานกับคนนี้ได้แน่ กับภรรยาคนนี้ คบกันจนแต่ง ยังไม่ถึง 2 ปีเลย แต่เรารู้ได้ ว่า นี่แหล่ะ คนที่จะมาเป็นแม่ของลูกเรา ตอนขอคบดูใจก็บอกเขาเลย ผมอายุมากแล้ว ไม่คบเล่นๆนะ เอาจริง ถามว่า เขามีอะไรพร้อมหรือเปล่า ไม่มี เป็นพนักงานกินเงินเดือนเหมือนเรา ฐานะทางบ้านก็กลางๆ พื้นฐานแตกต่างกับเรามากด้วย (บ้านผมทำงานบริษัท บ้านเขาทำการเกษตร) เพียงแต่ เราเรียนรู้และยอมรับในสิ่งที่เราและเขาเป็น เชื่อใจกัน ไม่ว่าว่าเกิดอะไรขึ้น เราจะอยู่ด้วยกัน  ดูแลกัน ขนาดนี้ กว่าจะแต่งได้ ก็หืดขึ้นคอเหมือนกัน ขอแค่ ไม่หันหลังให้กัน ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไร คุณจะผ่านมันไปได้ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น ไปนอนและ พรุ่งนี้ลาพักร้อน จะไปพัทยากันทั้งบ้าน ตั้งแต่แฟนท้องนี่ ไม่ได้ไปไหนเลย แพ้ท้องเดินทางลำบาก นี่เพิ่งจะหายแพ้ เลยได้ไปเที่ยวซะที ผมเองก็หาวันหยุดยาก หาวันอยู่นานกว่าจะลงตัวได้ ขอให้โชคดีครับ ให้เขาเป็นคนที่จะอยู่เคียงข้างคุณ ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขแค่ไหน (อย่าไปเชื่อโฆษณาประกันภัย พวกนี้อยู่กับคุณเฉพาะตอนที่คุณยังจ่ายค่าเบี้ยประกัน ลองหยุดจ่ายเมื่อไหร่ มันเฉดหัวส่งเลย) จากคุณ : OnGaH เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 00:49:41

ความคิดเห็นที่ 61 ขำก๊ากเลย ตอนที่อ่านเรื่องที่จขกท.คิดเรื่องลูก นี่ถ้าสมัครล๊อกอินนะ คงได้เป็นเซเลบคนใหม่ของห้องนี้แหงม ใดๆในโลกนี้ล้วนอนิจจังนะครับ  อะไรที่มันเป็นอนาคตแล้วเราไม่อาจควบคุมมันได้ทั้งหมด จะไปซีเรียสทำไมให้เปลืองสมอง ชอบผิวขาวเหรอ อยู่ในห้องแอร์มันทั้ง 24 ชม.คนคล้ำก็ขาวขึ้นมาได้ คนหน้าตาดี แต่มีนน.ใกล้ๆ100 โล ก็ทำให้กลายเป็นดูไม่ดีได้ ยิ่งตีกรอบความคาดหวังมาก เมื่อไม่ได้ดังหวังก็ยิ่งทุกข์มาก จขกท.คิดเหมือนเพื่อนผมเลยอะ เพื่อนผมบอกว่า มันเตี้ยอยู่แล้วเลยชอบผู้ชายสูงๆหน่อย จะได้ปรับปรุงพันธุกรรม   ชอบคนตัวสูงๆ เก่งๆ ติดดิน ต่างกันนิดเดียวเพื่อนผมไม่ชอบขาวๆ ไม่งั้นก็แทบจะลอกกันมา เอางี้ดีกว่า นึกดูให้ดีว่าคุณสมบัติอะไรที่สำคัญ เรียงลำดับ 1-2-3-4-5 อันดับ 1-2 นี่เอาเป็นว่าขาดไปไม่ได้ ถ้าไม่ผ่านก็ดูคนใหม่เลย 3-4-5 คงต้องยืดหยุ่นบ้าง ถ้าขาดไปบ้างก็พอหยวนๆ ไป  ถ้ามีครบก็ยิ่งดี แต่ผมว่านะ จขกท.เป็นคล้ายๆเพื่อนผมเมื่อก่อนน่ะ คือมีความคิดว่าชอบแบบนี้ๆๆๆๆ  ไม่ชอบแบบนี้ๆๆๆๆ แต่ยังไม่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงๆเลยว่า แบบไหนกันแน่ที่อยู่กันได้  แบบไหนกันแน่ที่ทนไม่ไหว แบบไหนที่จริงๆแล้วเหมาะกับตัว จริงๆอย่าไปกลัวว่าอีกฝ่ายจะเสียเวลา  ผู้ชายน่ะยังไงก็มีเวลา+ชิวๆมากกว่าผุ้หญิงเยอะ  40 ยังว่าไม่แก่เลย ถ้าจะทำให้รวบรัดที่สุดนะ ขั้นแรก ที่คิดว่าชอบแบบไหน หาแบบนั้นก่อนเลย ถ้าไม่ใช่รีบผ่าน ไม่งั้นจะมานั่งลังเลปล่าวๆ จากนั้นก็ลองดูว่าคบกันจริงๆแล้วนี่มันมีปัญหาไม๊  เข้ากันได้จริงๆรึเปล่า   ถ้าพบว่า เอ๊ยจริงๆแล้ว อย่างนี้ที่คิดไว้จริงๆไม่เหมาะนะ  ต้องอย่างนี้ซิฯลฯ ก็กลับมาปรับสเป็คใหม่ซะ แต่ผมว่าจขกท.มีโอกาสได้ปรับใหม่สูง   จากคุณ : omeg เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 00:56:52

ความคิดเห็นที่ 62 ฝากอะไรไปบอกแฟนคุณ จขกท. อีกนิดแล้วกัน "เกิดเป็นผู้ชาย ต้องทะเยอทะยาน และความทะเยอทะยาน คือเสน่ห์ของผู้ชาย" ไปและ แว๊บบบบบบบบบบบบบบบ จากคุณ : OnGaH เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 01:12:51

ความคิดเห็นที่ 63   ตอบคุณ OnGaH ค่ะ คือว่า เค้ายังไม่ใช่แฟนเราค่ะ..เพิ่งเริ่มรู้จักกันเท่านั้นค่ะ ตอนแรกอ่านความเห็นของคุณที่ว่า "ขอให้โชคดีครับ ให้เขาเป็นคนที่จะอยู่เคียงข้างคุณ ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขแค่ไหน " น้ำตาซึมไปเลยค่ะ อยากร้องไห้ค่ะ ไม่รู้ว่าเราจะพบผู้โชคดีนั้นมั้ย คนที่เคียงข้างเรา และรักเราจริง พอมาเจอความเห็นของคุณ omeg เข้า ด้วยประโยคที่ว่า "ขำก๊ากเลย ตอนที่อ่านเรื่องที่จขกท.คิดเรื่องลูก" ก็อดขำไม่ได้ เปลี่ยนซีนอารมณ์เราไปเลย แบบนี้แล้วเน๊าะชีวิต อาจมีทั้งความสุข มีความทุกข์ และเรื่องที่ทำให้เสียน้ำตา จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 01:32:19 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 64   ตอบคุณ omeg ค่ะ ประโยคที่คุณเขียน ทำให้เราอดขำไม่ได้ ท่าทางคุณจะอารมณ์ดีนะคะ ขอบคุณคุณมากนะ ที่ตอบคำถามเราตั้งแต่กระทู้ก่อนหน้านี้ (เราจำได้ค่ะ) จนมาถึงกระทู้นี้อีก เราคงตัดสินใจไม่ช้าไม่นานนี้ค่ะ แต่คิดว่า แนวโน้มการเป็นเพื่อนกันน่าจะดี ที่สุดค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 01:42:58 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 65   เราอยากตัดสินใจด้วยภาวะที่เรานิ่งแล้วค่ะ ..... ตอนนี้เราอ่อนแอค่ะ..ไม่มีความเข้มแข็ง ยังไม่อยากด่วนสรุป เพียงแต่มีแนวโน้มไปตามที่เขียนข้างบนค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 01:46:51 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 66   แต่คิดไปแล้ว.......เราสงสารเค้ามากเลยค่ะ เฮ้อ ชีวิต จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 02:04:18 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 67   ไปนอนแล้วค่ะ พรุ่งนี้เช้าถ้ามีโอกาส จะมีเข้ามาดูอีกครั้งค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 02:46:06 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 68 เราว่า คุณอย่ากลัว เกินไปค่ะ บางทีหัวข้อนี้มันไม่มีกฏตายตัว ต้องลองเน้นเรื่องการปฏิบัติ ลองทำ ลองกล้ายอมรับอะไรที่จะต้องเกิดดูนะ เราว่ามันจะสอนคุณมากกว่าในบทความเรื่องความรัก หรือแม้การตั้งกระทู้ในนี้ ผู้ชายคนนี้ของคุณก้อแค่ case เดียวที่คุณจะลองแก้ดู ถ้าข้อนี้ผ่าน ก้อถือว่าโอเค และในการเปิด case อื่นก้อเช่นเดียวกัน กล้าเปิดพร้อมๆกัน เลือกโดยใช้ ความรู้สึก อารมณ์ ข้อไหนของคุณก้อได้น่ะ เลือกดู และอย่าเอาเวลามาตั้งเป็นเกณฑ์ มันกดดันตัวเองเกินไป ปล่อยให้หัวว่างมั่งค่ะ ไม่หมกมุ่น พายเรือในอ่างในเรื่องนี้เกินไปค่ะ เราว่าถ้าสมองโล่ง คนๆนั้นอาจจะปรากฏต่อหน้าคุณก้อได้นะ โชคดีค่ะ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 53 02:55:32 จากคุณ : ลักยิ้ม (rampaii) เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 02:54:08

ความคิดเห็นที่ 69   เรามาแวะอีกที มีเวลานิดหน่อย ก่อนไปต่างจังหวัด ลองอ่านความเห็นของคุณ omeg อีกที ติดใจกับประโยคที่ว่า "ถ้าจะทำให้รวบรัดที่สุดนะ ขั้นแรก ที่คิดว่าชอบแบบไหน หาแบบนั้นก่อนเลย ถ้าไม่ใช่รีบผ่าน ไม่งั้นจะมานั่งลังเลปล่าวๆ" ----------------- เชื่อมั้ยค่ะ ช่วงที่เราอายุ 25 ปี เราเจอกับผู้ชายที่ไม่ใช่สเปกเราเลยค่ะในลักษณะภายนอกนะคะ (ตรงข้ามเลยค่ะ) แต่ลักษณะภายใน ตอนแรกเราไม่รู้ เราลองเปิดใจคบกับเขาไปเรื่อย ๆ พบว่าเราประทับใจความคิดของเขามาก และเป็นสาเหตุที่มาของสเป๊กเราเลยค่ะ บุคคลคนนี้ทำให้เรามองข้ามลักษณะภายนอกเลยค่ะ เราสามารถพูดได้เลยค่ะว่า เขาเป็นบุคคลที่หล่อในสายตามากเลยค่ะ (ถึงแม้หน้าตาไม่ได้ดี ตามมาตรฐานของเพื่อนเรา) แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ที่ไม่สามารถทำให้เราคบกันได้ค่ะ แต่เหตุการณ์นี้ก็นานมากแล้วด้วย ก็เก็บเป็นภาพความทรงจำที่ดี ซึ่งตอนนี้เราก็ยังพูดคุยกันและเป็นเพื่อนเป็นพี่ที่ดีต่อกันอยู่ค่ะ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 09:26:59 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 70   เราต้องไปก่อนค่ะ ขอบคุณทุกคนมากนะคะ พรุ่งนี้ ตอนขากลับจากต่างจังหวัดว่าจะแวะกรุงเทพ ไปซื้อปลาที่จตุจักรมาเลี้ยงดีกว่า อิอิ คลายเครียด ไปแล้วนะจ๊ะ แล้วค่อยพบกันใหม่ค่า......... จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 09:35:19 A:202.28.78.130 X: TicketID:264742

ความคิดเห็นที่ 71   ชอบความเห็นที่ 4 มากเลย มันตรงใจเราที่สุด เมื่อก่อนก้อเคยตั้งสเปกไว้เหมือนกันว่าหน้าตาต้องแบบนี้ สีผิวต้องแบบนี้ (หน้าตาเราก้อใช่ว่าดี แต่ยังตั้งสเปกไว้ซะสูง 555) แต่แฟนคนปัจจุบันตรงข้ามกันหมดเลย ที่คบมาได้ 5 ปีกว่า ก้อเพราะนิสัยเค้านี่แหละ สปงสเปคไม่สนใจมันแล้ว เอาแค่นิสัยที่เข้ากับเราได้ และดูแลเราได้ก้อพอ จากคุณ : หนมปัง เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 11:41:13 A:58.136.51.233 X: TicketID:188249

ความคิดเห็นที่ 72 เราว่าคุณมองความรักแบบเป็นเสต็ปเกินไป วางขั้นตอน ว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้มากเกินไปค่ะ ความรักเป็นเรื่องของอารมณ์และความรู้สึกค่ะ ปล่อยมันไปตามหัวใจ วันนึงที่คุณเจอคนที่ใช่จริงๆ ไม่ใช่แค่อยากมีใครสักคน วันนั้นคุณจะเข้าใจความรักค่ะ จากคุณ : MinnieMoChi เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 21:26:05

ความคิดเห็นที่ 73 อ่านข้อความของจขกท. รู้สึกเหมือนเรื่องของตัวเองเขียนยังไงยังงั้น อยากจะบอกว่า จขกท.มีลักษณะคล้ายๆเรา แตกต่างกันตรงที่เราจบแค่ป.ตรีเท่านั้น แต่คิดอย่างมีระบบคล้ายๆจขกท.มากๆ จึงเข้าใจค่ะ ว่าความรู้สึกเป็นอย่างไร จะมีแฟน คิดถึงลูกโน้น เราตัวไม่สูง แฟนต้องตัวสูงไว้ก่อน ฮ่าๆๆ คิดโน้น คิดนี้ คิดไปเรื่อย ตอนคบกับแฟนคนปัจจุบันครั้งแรก ก็คล้ายๆจขกท.เลย คือเค้าไม่ใช่สเปก (ทางด้านหน้าตา) นิสัยก็คุยไม่เก่ง ไม่มีอารมณ์ขัน อนาคตก็ไม่ค่อยพูดถึงเท่าไร สรุป ก็คล้ายๆคนที่จขกท.เจอนี่แหละคะ แต่เราน่ะชอบคิดชอบวางแผน  เคยบอกเลิกไปแล้วครั้งหนึ่งว่าคนนี้ไม่ใช่แน่ๆ  แต่สุดท้าย ก็กลับมาคุยกันใหม่ สุดท้ายเชื่อไหมคะ ว่าเราเลือกเค้า เพียงประโยคเดียวที่ว่า  การที่จะหาใครสักคนมารักเรานั้นมันยากมาก ถ้าเจอแล้วอย่าปล่อยให้เค้าหลุดมือไป  อยากให้จขกท.คิดทบทวนให้ดีๆก่อนตัดสินใจ บางทีคนเรา มันไม่รักตั้งแต่แรกเห็น ไม่ได้รู้สึกใช่ตั้งแต่แรกพบ แต่เค้าอาจจะเป็นคนดี เป็นคู่ของเราก็ได้ในอนาคต การจะหาคนดีๆสักคนหนึ่งในชีวิตมันยากค่ะ แต่ถ้าตัดสินใจได้ คือยังไงก็ไม่ใช่ แนะนำให้ตัดเสียโดยเร็ว เพราะจะเป็นการดีทั้งสองฝ่ายที่ไม่ต้องผูกพันกันมากนัก ให้เค้าได้มีโอกาสไปหาคนใหม่ พร้อมทั้งเราด้วย  สุดท้ายขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : ^___^ (mikiojung0_0) เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 12:39:48