![](/cafe/image/w40px.gif) |
ความคิดเห็นที่ 13 |
|
Munro and Mount (อ้างใน Cook1986) เสนอผลการศึกษาตัวอย่างผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้ายอายุ 15 ปีซึ่งเผชิญกับความปวดหลังและปวดท้องอย่างรุนแรง ร่วมกับมีความวิตกกังวล แนะนำวิธีการใช้จินตนาการร่วมกับการฟังดนตรี พบว่ามีประสิทธิภาพมาก เพราะผู้ป่วยไม่ใช้ยาระงับปวดขณะวันสุดท้ายของชีวิต
Beck (1991) ศึกษาผลของดนตรีที่ผู้ป่วยชอบต่อระดับความปวดในผู้ป่วยมะเร็ง โดยให้กลุ่มตัวอย่างเลือกฟังเพลงที่ชอบ ประเภทผ่อนคลาย 7 ชนิด เช่น เพลงคลาสสิก, แจซ, ร็อค เป็นต้น ให้ฟังนาน 45 นาที ฟังวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 3 วัน ผลการศึกษาพบว่าความปวดลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
Radziewicz and Schneider (1992) ศึกษาผลของดนตรีที่ผู้ป่วยชอบ เพื่อลดความเจ็บปวดในผู้ป่วย Leukemia ขณะทำการเจาะไขกระดูก ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มทดลองมีระดับความปวดต่ำกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
Smith M และคณะ (2001) ศึกษาผลของดนตรีต่อการลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยมะเร็ง ในระหว่างการฉายรังสีรักษา พบว่ามีแนวโน้มว่าดนตรีมีส่วนช่วยลดความวิตกกังวลลงได้
Maxwell T และคณะ (2001) สนับสนุน วิธีการดูแลให้ความรู้เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็ง Bone Metastasis ในเรื่องการทำ Relaxation therapy, guided imagery , music , meditation และ touch therapy
จากคุณ |
:
athena_b
|
เขียนเมื่อ |
:
18 มิ.ย. 53 21:03:59
|
|
|
|
![](/cafe/image/w40px.gif) |