ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาให้กำลังใจคะ สู้ๆ นะคะ ส่วนเรื่องที่ถามนั้น... จะมาซุ่มอ่าน คำตอบ ด้วยนะคะ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 53 06:11:23 จากคุณ : lithop เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 06:10:59

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาให้กำลังใจค่ะ เป้าหมาย 30 กิโลเหมือนกันเลยค่ะ เรื่องออกกำลังกายเราไม่ค่อยถนัดค่ะ  ทำบ้างไม่ทำบ้าง พยายามเอาเคล็ดลับของคนนู้นคนนี้อย่างละนิดมาปรับใช้ค่ะ ของเราถ้ากดดันและจริงจัง มันจะทำไม่ได้อะค่ะ เราพยายามปรับมันเข้ากับชีวิตประจำวันค่ะ มีความสุขแล้วก็จะไม่เบื่อค่ะ พยายามปรับลดแป้ง งดอาหารจุกจิก  เลือกทานอะไรที่อยากทานบ้าง ให้รางวัลตัวเองบ้าง อะไรงี้อะค่ะ เข้ามาอ่านบล๊อคเราได้นะคะ  ลอไปด้วยกันค่ะ ^^ จากคุณ : nokara เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 07:16:04

ความคิดเห็นที่ 3 ลดฮวบฮาบไม่ดีน่ะค่ะ ทานอาหารให้มีประโยชน์ดีกว่าค่ะ เราไม่ได้อ้วนแค่ช่วงข้ามคืน การลด เพื่อให้สุขภาพดีต้องใช้เวลาและความอดทนค่ะ การออกกำลังกาย ไปยิมก็ดีน่ะค่ะ ยก นน เพื่อให้กล้ามเนื้อได้กระชับ การลด นน เร็ว ให้หนังย่อยยาน ต้องมาแก้ปัญหาที่หลังอีก ในห้องนี้มีหลาย ๆ คนะขียนไว้เยอะค่อย ๆ ศึกษาดูค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : Emma ณ USA (บาร์บี้vsนักกล้าม) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 07:23:56

ความคิดเห็นที่ 4   ถ้าจะบอกว่า เป็นไปได้ยากจะหมดหวังมั้ยคะ? นน.เราที่มากที่สุด 104 กิโลกรัม สูง 168 ซม.ค่ะ ห่างกันไม่เท่าไหร่เนอะ เราเองอ้วนมาแต่เด็ก แล้วช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัยเครียดมาก เลยกินจุ จนพุ่งไปร้อยโลกว่า ใช้เวลา 7 เดือน ลงมาได้ถึง 80 ค่ะ เรียกว่าช้าได้หรือเปล่าไม่ทราบ แต่ว่า พอจะลงต่อ ลงไม่ได้ค่ะ ยากมากๆ และสิ่งที่พบคือ ผิวหนังเหยี่ยวย่น T T กรี๊ด เลยค่อยๆ เล่นกีฬา อ่อ ลืมบอกไป ตอนแรกที่ลด เน้น ลดอาหารและคาดิโอ้ เวทอะไรไม่เคยลอง พอเล่นกีฬา น้ำหนักลงสามกิโลฯ แต่เอว ต้นแขน ต้นขา หายไปเป็นนิ้วๆ คือ เท่าที่อ่านๆ มา เห็นบางคนพอตั้งกระทู้ว่า อยากลดเท่านั้น เท่านี้ ก็มีแต่เชียร์ แต่ไม่มีใครมาบอกเลยว่าควรทำอย่างไร ทำให้คนลดยิ่งมีความหวัง ถ้าผิดหวัง ก็ ไปกันใหญ่ สิ่งที่เราจะแนะนำคือ คุณต้องตั้งใจลดจริงๆ ของเราช่วงที่ลดเพราะเข้าชมรมกีฬาค่ะ มันเลยเป็นการบังคับว่าต้องออกกำลังกายทุกวันอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่ตัวใหญ่ ซึ่งตรงนี้ดีค่ะ ไม่มีใครมองว่าเราแปลก หลังจากนั้นเราถึงว่ายน้ำ และเข้าฟิตเนสในมหาวิทยาลัยตามลำดับ ใช้เวลาประมาณ 2 ปี สัดส่วนถึงค่อยๆเข้ารูปค่ะ อยากให้คุณเผื่อใจไว้ว่า คุณไม่สามารถใช้เวลาแป๊ปเดียวแล้วสัดส่วนจะดีขึ้นมาได้ในทันที สำหรับคุณซึ่งตัวสูงอยู่แล้วนะคะ คาดว่า 30 กิโลฯ เผื่อใจไว้ปีครึ่งกำลังดีค่ะ อาจจะเพิ่มเป็นสองเท่าที่คาดหมายไว้ แต่ว่าถ้าค่อยๆลด อย่า่งช้าๆ ไม่สุดโต่ง น่าจะช่วยเรื่องกระชับผิวพรรณ และเรื่องของสัดส่วนได้มากขึ้น คงไม่อยากผอมแบบหนังเหลวๆ ใช่มั้ยคะ? มาถึงสิ่งที่เราจะแนะนำก็คือ 1. ขนม น้ำตาล น้ำอัดลม ไ่ม่ใช่ลด ให้เลิก ยกเว้นน้ำตาล กินได้บ้าง ส่วนเราตอนนี้เลิกเลยค่ะ น้ำอัดลม ขนมนี่เดือนกินครั้งนึง พวกขนมปังที่ชอบ เค้กที่ชอบ ไอศกรีม ไม่ได้กินมาเป็นเดือนๆ แล้วค่ะ ถ้าจะทาน 1 ส่วน 4 พอ สาเหตุที่เราอ้วน เพราะเราบริโภคเบเกอร์ีรี่ทุกวันค่ะ เค้ก เอแคลร์ พวกนี้กินทุกวัน และเวลาว่างๆ ก็กินน้ำปั่นเยอะมาก ปัจจุบันเลิกกิน ถ้าหิวน้ำเปล่า ช่วงที่คุณลด ถ้าหิวน้ำ กรุณาเป็นน้ำเปล่า ถ้าออกกำลังกายแล้วหิวอนุญาตให้กินนมได้ 2.มื้อเย็นกินผักให้ได้ 60 % ช่วงที่เราอ้วนเป็นร้อยก็ทำแบบนี้นะคะ แป้งนี่จะอาศัยแป้งในพืชแทนอ่ะค่ะ พวกฟักทอง และจำกัดปริมาณ กับไม่กินก่อนจะนอน 4 ชม. 3. ผลไม้ เลือกเอาพวกน้ำตาลน้อยเส้นใยสูง เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง โยเกิร์ตทานได้ นมเปรี้ยวทานได้ แต่น้ำผลไม้กล่องๆ ไม่แนะนำ แนะนำเป็นคั้นเองจะดีกว่านะคะ 4. คุณน้ำหนักขนาดนี้ ควรทำ คาร์ดิโอ เช่นวิ่ง ร่วมด้วย เ้ข้าใจว่าเหนื่อย งั้นเิดินบ้างวิ่งบ้าง เพราะเป็นแบบนี้เหมือนกัน ช่วงนี้เน้นคาร์ดิโอให้มากๆค่ะ ถ้าพอรู้สึกลดไปบ้างแล้วค่อยเวท เอาแบบคาร์ดิโอให้มากกว่าเวทหน่อยๆ แล้วถ้านน.ลงสัก 85 ค่อยเน้นเวทให้มาก คาร์ดิโอเอาขำๆพอ และคุณควรปรับนาฬิกาชีวิต คือ เข้านอนเป็นเวลา และตื่นเป็นเวลา ถ้าให้เราเดา คือ ประจำเดือนคุณมาไม่ปกติใช่มั้ยคะ ขอโทษที่ต้องเดาแบบนี้นะคะ เพราะตอนนั้น เรามาไม่ปกติค่ะ มา 35 วัน บาง 2 เดือนบ้าง 30 วันบ้าง การออกกำลังกายจะช่วงคุณมากกว่าที่คิด ถ้าโยคะไม่เข้าคลาส ช่วงนี้พักก่อนค่ะ เพราะบางทท่าถ้านน.มากๆ ทำได้ยาก คุณอาจจะถอดใจไม่เล่นเลยก็ได้ พยายามดูว่าสิ่งเหล่านี้คุณปกติหรือไ่ม่ ขับถ่ายทุกเช้า และเป็นเวลา ประจำเดือนมาปกติ +- 3 วัน นอนเป็นเวลา ดื่มน้ำวันล่ะ 4 ขวด 8 แก้วนั่นแหละค่ะ ทานครบห้าหมู่ทุกวัน ผิวหนังเนียนนุ่มน่าสัมผัส ถ้าคุณผิดไปจากนี้หนึ่งข้อ กรุณาทบทวนการใช้ชีวิตและจัดระบบใหม่ก่อนลดความอ้วนค่ะ เพราะคุณคงไม่อยากผอมแบบโทรมๆ หรือผอมแบบย้วยๆ ผอมต้องสุขภาพดี ปัจจัยที่ทำให้คุณผิดไปจากนี้ กรุณาตรวจสอบอาหาร ถ้ามีของทอดมากในมื้ออาหาร อนุญาตเฉพาะตอนเช้า หรือถ้ามีแป้งในอาหาร อนุญาต เป็นแป้งจากพืช ธัญพืชไ่ม่ขัด และงดอาหารฟาสฟู้ดทุกชนิด ถ้าเข้านอนไม่เป็นเวลา มันจะทำให้ระบบนาฬิกาชีวิตรวน และทำให้คุณเจ็บป่วยเอาง่ายๆ จัดระบบชีวิตใหม่เลยค่ะ ถ้าขับถ่ายไม่เป็นเวลาให้เพิ่ม พืชผักเป็น 80% จนระบบขับถ่ายมาเป็นปกติ นอกจากจะนน.ลงแล้ว ผิวจะดีขึ้นอีกระดับหนึ่ง และน้ำควรดื่มให้มาก ทำได้นน.จะึค่อยๆลง อย่างมีสุขภาพดีค่ะ ที่ต้องถอดล็อกอินเพราะ กำลังจะสมัครแอร์ค่ะ กลัวเพื่อนแอบรู้ว่าอ้วนมากก่อน อิอิ จากคุณ : เคย 104 โล เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 07:41:43 A:125.24.72.76 X: TicketID:275507

ความคิดเห็นที่ 5   ป.ล. ตอนนี้เรากลับมาลดความอ้วนต่ออีกค่ะ เพราะว่าอยากให้หุ่นกระชับมากกว่านี้ มากๆ และถ้าสมัครแอร์ไม่ทันก่อนเปิดเทอม เราคงเรียนต่ออ่ะค่ะ แต่อย่าเืชื่อเรามากนะคะ กรุณาหาวิธีที่เหมาะสมกับคุณและปรับใช้ค่ะ โชคดีค่ะ จากคุณ : เคย 104 โล เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 07:50:45 A:125.24.72.76 X: TicketID:275507

ความคิดเห็นที่ 6 ว๊าวๆๆๆ คุณเคย 104 โล เก่งจังเลยค่ะ อ้วนขนาดร้อยอัพ แล้วพยายามลดจนสมัครแอร์ได้นี่ เก่งมาก เก่งจริงๆ ค่ะ ^__^ ต้องเอาอย่างมั่งแล้ว สู้ๆๆ จากคุณ : กลิ่นพยอม เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 08:06:15

ความคิดเห็นที่ 7 อุ๊ย...คนข้างบนนี่จะลาออกจากโรงเรียนไปสมัครแอร์เหรอเนี่ย อิอิ จะว่าไปก็เป็นแอร์ได้นะ หน้าให้อยู่....แต่อายุเกินเนี่ยสิ...555 เดี๋ยวค่อยเม้าท์กันในเอ็มเน้อ กลิ่นพยอม จากคุณ : [NostalgiA] เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 09:26:57

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ เคย104โล แนะนำได้ดีค่ะ แต่ขออนุญาตออกความเห็นนิดนึงค่ะ เวทเทรนนิ่ง ทำได้ตั้งแต่เริ่มลดความอ้วนเลยค่ะ ผิวหนังจะได้ไม่ห้อยย้อย การเน้นคาร์ดิโอมากๆในช่วงแรก ลดเร็วก็จริง แต่โอกาสเหี่ยวก็มากด้วยค่ะ โดยเฉพาะหน้าท้อง มันจะลงยากในภายหลัง แล้วจะบ่นตามมาว่า ส่วนอื่นๆลงแล้วแต่ทำไมพุงยังป่อง การเวทเป็นการเร่งสร้างกล้ามเนื้อตั้งแต่ต้น แรกๆอาจจะท้อใจว่าทำไมน้ำหนักไม่ลงเลย หรือลงช้า แต่เมื่อกล้ามเนื้อมีมากขึ้น น้ำหนักและรูปร่างจะลงเร็วในภายหลัง จะไม่ติดปัญหาลดไม่ลง เราลดมา 15 กก. ปัจจุบันยังเวทและคาร์ดิโอ น้ำหนักต่ำกว่า ส่วนสูง-110 แล้ว แต่ยังลงดีอยู่เรื่อยๆ ไม่มีติด โดยเฉพาะในเดือนหลังๆนี่ กล้ามเนื้อชัดขึ้น เห็นความแตกต่างมาก ทั้งๆที่อัตราการลดน่าจะชะลอแล้ว แต่ก็ยังลงไปได้เรื่อยๆเหมือนเดิม นอกจากรูปร่าง + น้ำหนัก ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่น่าสนใจมากกว่า คือ สุขภาพดีขึ้นมาก ความฟิตดีขึ้นมากค่ะ อัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก แต่ก่อนเท่าไหร่ไม่แน่ใจ ไม่เคยวัดตอนนั่งเล่นนอนเล่นซะที แต่เคยวัดตอนเริ่มเข้าฟิตเนสครั้งแรก ได้ 75 ครั้งต่อนาที (นั่งเฉยๆ ยังไม่ได้ทำอะไร) ปัจจุบัน อัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก อยู่ที่ 47 ครั้งต่อนาที (ค่าปกติของผู้ใหญ่อยู่ที่ 60-80 ครั้งต่อนาที นักกีฬาอาจต่ำกว่า 60 ได้ แสดงถึงความฟิต) ปกติเป็นคนประจำเดือนมาสม่ำเสมอตรงเวลาอยู่แล้ว รอบละ 28 วันเป๊ะ แต่ตอนนี้เลือดลมคงไหลเวียนสะดวกขึ้น ร่างกายสมบูรณ์ขึ้น ประจำเดือนเลยมารอบละ 26 วันเป๊ะ จากที่เคยวิ่งความเร็ว 6.5 กม.ต่อชม. สองนาที เหนื่อยแทบขาดใจ เดินขึ้นบันไดสิบขั้นก็ยืนหอบ หัวใจเต้นรัว ปัจจุบัน วิ่งความเร็วเฉลี่ย 9 กม.ต่อชม. 45 นาทีต่อเนื่องแบบสบายๆ ที่เล่าให้ฟัง ไม่ใช่ว่าอยากจะอวด เพราะอวดไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับชีวิตเรา แต่จุดประสงค์คือ อยากให้มองเรื่องสุขภาพ ให้เห็นประโยชน์ของการออกกำลังกาย โดยได้รูปร่างที่ดีเป็นของแถม อยากให้สำรวจตัวเองว่าตอนนี้สุขภาพเป็นอย่างไร อยากมีสุขภาพเป็นอย่างไร อีก10ปีข้างหน้า 20ปีข้างหน้า 50ปีข้างหน้าอยากเป็นอย่างไร อย่ามองแค่ผอมเดือนนี้ ปีนี้ ถ้าออกกำลังกายสม่ำเสมอ สุขภาพดี รูปร่างที่ดีมันตามมาอยู่แล้วค่ะ เมื่อแก่ตัวลงจะรู้ว่าสุขภาพดีมันซื้อไม่ได้ด้วยเงินทอง การตั้งเป้าว่ากี่เดือนจะลดกี่กิโล ผิดตั้งแต่เริ่มเลย จะทำให้คุณท้อใจได้ง่าย เมื่อไม่ได้ตามเป้า เพ่งตัวเลขตั้งแต่แรกนับว่าผิดตั้งแต่ก้าวแรกแล้ว ลองเปลี่ยนเป็นแบบนี้ดีไหม เริ่มออกกำลังกาย จดบันทึก เราทำได้แค่ไหนตอนเริ่ม หนึ่งเดือนข้างหน้าเราควรจะพัฒนาไปแค่ไหน เช่น เคยวิ่ง+เดินบนลู่วิ่งได้ระยะทางเท่าไหร่ใน 15 นาที หนึ่งเดือนผ่านไป สถิติดีขึ้นไหม อาจจะฟังดูตลกที่มาแนะนำคนอยากลดความอ้วน ให้สนใจเรื่องสมรรถภาพแทน แต่ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าในระยะยาว คุณจะมีความสุขกับผลลัพธ์ที่ตามมาจนเรื่องตัวเลขน้ำหนักเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยเลย (มันต้องลงอยู่แล้วหละ อาจจะช้าในช่วงแรก แต่จะเร็วในช่วงหลัง และจะง่ายขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่ยากขึ้นเรื่อยๆเหมือนวิธีอื่น) จะดีกว่าไหม ถ้าลดน้ำหนัก ลดความอ้วนแล้ว ตอนผอมสวย มีสุขภาพที่ดีเยี่ยม สดใส แจ่มใส ทานอาหารได้เต็มที่ ไม่ต้องคอยระวังทานน้อยๆ กลัวเด้ง อยากทานอะไรก็ทานได้ บุฟเฟต์ได้ งานเลี้ยงได้ ตอนนี้เราทานอาหารไม่น้อยกว่าตอนเราอ้วนๆเลย อาจจะเยอะกว่าด้วยซ้ำ แต่น้ำหนักก็ยังลงทุกเดือน รูปร่างดีขึ้นทุกเดือน ถ้าลดความอ้วนแล้วเป็นแบบนี้ได้ มีความสุขกว่าไหม? เริ่มต้นให้ถูกต้อง เดินช้าๆ แต่มั่นคง ที่บอกว่ามีคำศัพท์หลายอย่างอ่านแล้วไม่เข้าใจ ถามได้เลยค่ะ ถามในกระทู้ก็ได้ ถ้ากลัวคนเขียนไม่มาตอบ ก็หลังไมค์ไปถามเจาะจงตัวเลยก็ได้ค่ะ เชื่อว่าทุกคนยินดีตอบ^^ ขอให้ผอมสวยสมใจอย่างมีสุขภาพดีในเร็ววันนะคะ^^ จากคุณ : ณัฏฐา เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 10:05:48

ความคิดเห็นที่ 9 ตามหลักความจริงแล้ว ก็ถูกตามที่คุณณัฏฐา บอกนะครับ แต่คนที่น้ำหนักเกิน 100 (แบบผม) คงรู้สึกแปลก ๆ ถ้าแต่ละสัปดาห์น้ำหนักเราไม่กระดิกลง หรือลงช้ามาก ๆ ความรู้สึกแบบนี้มันจะบั่นทอนความตั้งใจลดความอ้วนน่ะครับ เพราะงั้น ถ้าใครน้ำหนักเกิน 100 ต้องตัดความรู้สึกนี้ให้ได้ แล้วตั้งใจลดน้ำหนักแบบวิธีของคุณณัฏฐา นะครับ ช้า แต่ชัวร์ ได้ผลแน่ ๆ ลองอ่านกระทู้ล่างๆ  ของพี่ยายหนูดูนะครับ จากคุณ : nume เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 10:24:16

ความคิดเห็นที่ 10   มาให้กำลังใจค่ะ เห็นด้วยกับคุณ 104 โล เพราะว่าตัวเราเองเคยพยามๆใช้สูตรนู่นนี่นั่นที่ลดได้ภายใน 2 ,3โล บลาๆๆ กินผลิตภัณท์ต่างๆที่ช่วยได้ แต่มันไม่ได้ผลในระยะยาวเลยค่ะ เพราะว่าสุดท้ายเราก็กลับไปกินแบบเดิมๆ ทุกวันนี้เลยใช้วืธีนับแคลที่กินเข้าไป แต่ยังกินทุกอย่างเหมือนเดิม ใช้วืธีออกกำลังกายแบบเดินประมาณหนึ่งชัวโมงประมาณ 5วันต่อสัปดาห์ คือแค่ลงรถเมล์ให้ห่างจากบ้านมากขึ้นแล้วจจับเวลาให้เดินประมาณ 1hrน่ะ ที่ใช้วิธีนี้เพราะว่าเป็นคนขี้เกียจออกกำลังกาย ดังนั้นถ้าทำแบบนี้ยังไงก็ต้องเดินกลับให้ถึงบ้านอยู่ดีเป็นการบังคับตัวเองไปในตัวเพราะว่ายังไงเราก็ต้องออกจากบ้านทุกวันอยู่แล้ว ผลจากการใช้ลดได้ 2kg เวลา 1 เดือน แต่วิธีนี้ทำให้สุขภาพดี กินอาหารครบสามมื้อเหมือนเดิม มีความสุข เพราะคิดว่าสักวันนึงมันต้องผอมจะช้าหน่อยแต่มันก็ถึงเป้าหมายแน่นอน และทำให้เราเปลี่ยนนิสัยการกินคือกินให้พอดีนะคะ วันนี้ก็ยังกิน chocolate เยลลี่ เลยค่ะ หวานๆทั้นนั้นแต่แบ่งกินค่ะ เช่น choccolate ยี่ห้อ meiji ห่อสีดำ ทั้งห่อ 130kcal มี 4 อัน เราก็กินสักอัน หรือ สองอัน แล้วแบ่งให้เพือ่นหรือเก็บไว้กินต่อพรุ่งนี้ก็ได้ ช่วงเแรกๆ เราก็อยากจะลดให้ได้เยอะแบบ จขกท นะคะ ตั้งกฎแบบนั้นเหมือนกัน แต่พอเราตบะแตกแล้วมันไม่มีกำลังใจ เลยเปลี่ยนวิธีคิดว่า ไอ้น้ำหนักที่มันอยู่กับเราเนี่ยเราสร้างสมมันมาเป็น 10ปีแล้วจะให้มันหายไปทันทีภายในเวลาไม่กี่เดือนคงจะยาก เพราะฉะนั้นการลดน้ำหนักต้องใช้เวลา ลองคิดแบบนี้เพื่อจะได้มีกำลังใจในการลดน้ำหนักนะคะ ขอตัวไปทำงานต่อนะคะ สู้ๆเป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : it's not just a tree เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 11:05:47 A:10.0.0.239 X:115.87.81.150 TicketID:276262

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกะคุณณัฏฐา และคุณเคย 104 โล ค่ะ แล้วก็แอบรู้สึกคล้ายๆคุณ nume นะในฐานะคนเคยหนักร้อยกว่า.. เรื่องผิวหนังหลังลด.. คนที่หนักไม่เกิน 70-80 แล้วลดได้ไม่เหี่ยวเราเคยเจอเยอะแล้ว แม้กระทั่งคนลดแบบไม่ออกกำลังกายแล้วไม่เหี่ยวเลย(แต่น่าจะไม่เฟิมแต่ก็ไม่เหี่ยว)ก็เคยเจอมาบ้าง แต่ส่วนมากก็หนักกันไม่เกินราวๆนี้ เราเจอผู้เข้าแข่งขัน TBLA ที่เขาลดแบบออกกำลังกายมีเทรนเนอร์ฝึกทั้งเวทคาร์ดิโอ้ดูแลเรื่องอาหาร ก็ยังหนีไม่พ้นเหี่ยว  แต่เทียบแล้วก็น้อยกว่าคนที่ไปผ่าตัดเย็บกระเพาะมาแล้วน้ำหนักลดโดยไม่ออกกำลังกายเลยน้อยกว่ามากๆ (ต้องขอบคุณน้องคนนึงที่เคยไปผ่าแล้วโชว์ให้ดูเป็นวิทยาทานทำให้เราไม่คิดจะผ่าอีกเลยหันมาออกกำลังกายแทน) คืออย่างน้อยก็ผ่อนหนักเป็นเบา และยิ่งถ้าเราลดช้าๆยิ่งมีโอกาสดีกว่า (ในรายการเขาลดไวไป) เคสหนักร้อยกว่าๆโดยเฉพาะผู้หญิงแล้วลดน้ำหนักตัวเองลงได้ 60-70% ของน้ำหนักตัวแล้วไม่เหี่ยวเลยนี่ ถ้าเจอคงจะได้ไว้เป็นอีกแรงบันดาลใจ เราคิดว่าเราเลือกทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ลดน้ำหนักอย่างสุขภาพดี ลดช้าๆ ออกกำลังกาย ฝึกเวทควบคู่ไปด้วยซะแต่ต้นตามคุณณัฎฐาแนะนำและเป็นแบบอย่างที่ดีให้เพื่อนๆ ทำเท่าที่ทำได้ก็จะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ ไม่ได้หวังขนาดว่าจะไม่มีเหี่ยวเลยสำหรับคนหนักร้อยกว่าๆ เคยอ่านเจอว่ายังไงซะเรื่อง Loose skin นอกจากการออกกำลังกาย อาหารการกิน การบำรุงแล้วต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายปีกว่าจะกลับเข้าที่ แต่จะคืนตัวได้แค่ไหนก็คงแล้วแต่คน โครงสร้าง กรรมพันธุ์ เพศ อายุ วิธีการลดด้วยอีกหละ คุณ จขกท ค่อนข้างสูงหนักร้อยนิดๆน่าจะมีโอกาส โดยเฉพาะถ้าเริ่มต้นดีแต่แรกค่ะ แต่ก็อยากให้ลดอย่างสุขภาพดี มีความสุขแต่ต้นถ้าทำได้ ตามที่เพื่อนแนะนำไปแล้วข้างบนค่ะ อาจจะปรับเล็กๆน้อยๆตามความเหมาะสมของตัวเราแล้วแต่.. เอาที่เรารู้สึกว่าเราทำได้ จะได้ทำได้เรื่อยๆจนชินเป็นนิสัยได้ ไม่งั้นอะไรที่เราฝืน หรือกัดฟันทำมันจะทำได้ไม่นานนะ ลดน้ำหนักไม่อยากให้เครียด เอาสบายๆ ยังไงก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปเราจะได้ปรับเปลี่ยนนิสัยไปในตัว เรื่องลดเรื่องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมยังไงก็เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาอยู่แล้ว โดยเฉพาะเริ่มลดแรกๆอย่าไปกดดันตัวเองตั้งเป้าไว้ไกลหรือรีบ อย่าสนใจตัวเลขมาก เริ่มแรกเอาแค่ว่าเราหาวิธีการกิน การออกกำลังกายได้ลงตัวหรือยัง เช่น ลองใจจดใจจ่อกะการออกกำลังกาย ฟิตขึ้น แข็งแรงขึ้น ทำได้ขึ้น รู้สึกสนุก ในระยะยาวก็จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดขึ้น (เราเมื่อก่อน ปจด มาไม่ตรงตั้งแต่อ้วนแต่พอออกกำลังกายเท่านั้นแหละมาเป๊ะๆและไม่ค่อยปวดมากจนแปลกใจ มา 3-4 วัน จากที่เคย 5-6 วัน) ปรับแก้อะไรตรงไหน แล้วเราทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน รู้สึกอย่างไร เริ่มแรกๆอยากให้ลองใส่ใจตรงนี้ก่อน หาวิธีที่ลงตัวกะเรา เราทำได้ ลดแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ให้เสียสุขภาพค่ะ ลดน้ำหนักได้สำหรับเราไม่ใช่แค่วัดกันที่น้ำหนักที่ลดได้ แต่รวมถึงว่าเรารู้สึกว่าเราได้ปรับเปลี่ยนนิสัย การใช้ชีวิต ถ้าเรรารู้สึกว่ามันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ที่สำคัญอย่างมีสุขภาพดี นั่นแหละค่ะถึงจะนับว่าคุณประสบความสำเร็จ อ่านกระทู้เพื่อนๆเยอะๆ ไม่แน่ใจว่าคุณ จขกท เคยอ่านกระทู้นี้เหล่านี้หรือยังนะ แต่ลองอ่านดูไว้เป็นอีกไอเดียค่ะ บางลิ้งเปิดยากหน่อยนะคลิ๊กหลายๆทีหรือใช้หมาไฟเปิดถ้าเปิดไม่ได้ค่ะ http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2010/02/L8880742/L8880742.html http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L9355876/L9355876.html http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L9306603/L9306603.html http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2010/03/L9027746/L9027746.html http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L9355876/L9355876.html http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2010/04/L9194433/L9194433.html จากคุณ : GetCha เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 12:42:05

ความคิดเห็นที่ 12 มาเก็บความรู้เพิ่ม ค่ะ ขอบคุณข้อมูลดีๆของทุกๆท่านค่ะ จากคุณ : รักกุ๊ต่ายเลี้ยงกุ๊ต่าย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 16:27:43

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณสำหรับทุกๆคำตอบเลยนะค่ะ มี่ไม่ได้รีบหรอกค่ะแต่เราก็ควรตั้งเป้าหมายเป็นแรงจูงใจใช่ไหมค่ะ? แค่อยากรู้สึกว่าสุขภาพดีขึ้น...สวยขึ้น ที่ตั้งเป้าไว้7เดือน30โล เพราะว่าจะรับปริญญาอีก7เดือนอ่ะค่ะ อยากถ่ายรูปสวยๆ ^^ และอีกอย่างคือคุณแม่ป่วยด้วยโรคความดันและโรคหัวใจ เนื่องจากว่าอ้วนอ่ะคะ.... คุณหมอเลยแนะนำให้ลดความอ้วนเลยลดพร้อมกับแม่น่ะคะ ตัวมี่ตอนนี้ปกติดีคะไม่ได้ป่วยแต่ก็กลัวเลยพยายามลด ประจำเดือนมาปกติคะ มาทุกเดือน เดือนละ3-4วัน แต่มีปัญหาคือปวดท้องมาก บางทีป่วยเลยก็มีคะ การออกกำลังกายมี่ไม่ค่อยมีปัญหานะคะแต่ไม่รู้จะเล่นอะไรดีหรือเล่นแบบไหนมากกว่า....เล่นโยคะก็ไม่มีปัญหานะคะอาจจะตัวไม่อ่อนเท่าคนอื่นๆแต่เล่นได้คะ...และก็มีแอโรบิค...เต้น..แต่ยกแวทอะไรแบบนี้เล่นไม่เป้นอะคะ แล้วพอมีใครใจดีแบ่งตารางลดความอ้วนให้หน่อยได้ไหมคะ คือประมาณว่าทำอะไรบ้าง....กินอะไรบ้าง...เอามาเป็นแนวทางอะคะ ขอบคุณทุกความเห็นทุกกำลังใจมากๆเลยนะคะ....มี่จะพยายามแต่ไม่เร่งรีบหรอกคะ...แค่อยากให้แม่มีกำลังใจในการลดและให้ตัวเองสวยขึ้น...อยากให้แจกกิ๊ฟทุกคนเลยแต่เดือนนี้กิ๊ฟหมดจากห้องแป้งแล้วขอโทษด้วยนะคะพึ่งเคยเข้ามาห้องนี้แต่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นมากๆขอบคุณจริงๆคะ...เป็นกำลังใจให้กันต่อไปนะคะ จากคุณ : MiMi (Yachitha) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 17:40:54

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ จขกท คะเรื่องอาหารการกินไม่ต้องคิดมาก 1. อยากกินอะไรก็กิน แต่ดูปริมาณให้เหมาะสม กินที่ประโยชน์ให้มากขึ้น 2. วางแผนการกินล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน จะช่วยให้มีแนวทางในการคุมไม่ให้ตัวเองกินมากเกินไป หรือต่อให้เกินบ้างก็นิดๆหน่อย เช่นก่อนนอนมานั่งนึกไว้เลยพรุ่งนี้มีอะไรบ้างที่เราอยากกิน แล้วลองคิดดูจะกินอะไรเท่าไหร่แค่นั้นเอง ลดน้ำหนักไม่จำเป็นต้องกินอะไรพิเศษ เอาให้ปกติเราเคยกินนี่แหละจะได้ทำได้ง่ายหน่อย ทำได้เรื่อยๆ อาจจะแค่ใส่ใจมากขึ้น อาจจะมีแนวทางเพิ่มมาว่าให้จัดว่าเราอยากจะกินหนัก เบา ปานกลาง หรือจะแทรกมื้อว่างตอนไหน แค่นั้นเองค่ะ อย่างตัวเรากินปานกลางตอนเช้า ก็ตั้งแต่แซนวิช ซาลาเปา ขนมจีบ โจ๊ก ข้าวต้ม ก็แล้วแต่ เรากินเบากลางวันค่ะเพราะไม่ค่อยหิวอยู่แล้วก็จะเป็นแค่ซุป เนเจอร์อัพ ขนมปัง ผลไม้ ยำ ลาบ หรื เกาเหลา อะไรก็ว่าไปค่ะ เราหนักเย็นเพราะสบายใจดี 55555 แต่จะพยามเน้นทานโปรตีนและไฟเบอร์มากหน่อย ชอบทานข้าวกล้องแดงๆน่ะค่ะ กะ กับข้าว 1 อย่างปริมาณถ้วยนึง ปิดจ๊อบด้วยขนมหรือผลไม้สักอย่าง พอดีว่าเราลดแบบนับแคลอรี่ก็จะเผื่อโควต้าไว้กินจุบจิบนิดๆหน่อยแล้วแต่ค่ะ ลองอ่านๆดูมีกระทู้นึงที่ให้น่าจะพอเป็นไอเดียได้บ้าง ส่วนการออกกำลังกาย ไม่ทราบเล่นฟิตเนสที่ไหนคะ? พี่ออกกำลังกายงูๆปลาๆ โดยการเล่นเวทก่อน เล่นทั่วตัวค่ะ แล้วแต่เดือนบางเดือนก็อาจจะแบ่งว่าจะเล่นเน้นส่วนไหน แรกๆให้ไปทำความรู้จักกะเครื่องต่างๆก่อน ส่วนฟรีเวทดูๆเขาเอาหรือหาคลิปศึกษาจากใน youtube ก็ได้ อยากเล่นส่วนไหนก็คำนั้นแล้วหาคลิป ตอนนี้เราเล่นเวทก่อนประมาณ 40 นาที ต่อด้วยคาร์ดิโอ้อีก  80 นาทีค่ะ เรื่องระยะเวลาเล่น และความเข้มข้นต้องๆค่อยๆปรับให้เหมาะกะเรา เริ่มจากน้อยๆเอาที่เราไหวก่อน ออกกำลังกายให้โดยรวมเหนื่อยพอสมควร แล้วจะไม่ค่อยหิวหลังออก หากเล่นเบาเกินไปหรือหักโหมเกินไปอาจจะยิ่งทำให้หิว ถ้าร่างกายเครียดจะทำให้เผาผลาญได้ไม่ดีแล้วปวดเมื่อยตามตัวได้ค่ะ เล่นเวท ตามด้วยคาร์ดิโอ้ จบด้วยก็โยคะ ก็ดีนะได้ยืดกล้ามเนื้อ เรื่องแรงจูงใจอยากแนะนำว่าให้จูงใจตัวเอง เช่น ว่าวันนี้เราจะออกกำลังกายให้สนุกให้ได้ดีให้ออกกำลังกายเสร็จมีความสุข หรือคุมอาหารได้ดีแบบที่เราไม่ทรมานตัวเองดีต่อสุขภาพ ถ้าจะจูงใจจูงใจแบบนั้นดีกว่าโดยเฉพาะการออกกำลังกาย เพราะพี่เห็นบางคนเล่นแบบเนือยๆไม่ใส่ใจเล่นแบบไม่ค่อยสนุก... ถ้าเรามีแรงจูงใจบิ๊วตัวเองเราจะออกกำลังกายสนุก พอออกสนุกเราก็ไม่ค่อยหิว พอไม่ค่อยหิวเราก็คุมอาหารได้ดีขึ้น พอคุมได้ดีขึ้นน้ำหนักก็จะลด ไม่อยากให้เอาแรงจูงใจไปผูกไว้กะตัวเลขว่าจะลดได้เท่าไหร่หรือทำไมไม่ลดลงสักที มันจะทำให้เรากดดันค่ะ เอางี้พี่จะพยามตอบเป็นข้อๆตามกระทู้น้องดีกว่าเผื่อจะนั่นขึ้น... ตอนนี้ที่ทำอยู่คือ ๑.พยายามลดแป้ง น้ำตาล ขนม น้ำอัดลม >>>> ดีแล้วอันนี้ พยามลดไม่จำเป็นต้องอด แป้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง พยามหาขนม เครื่องดื่มที่อร่อยเหมือนกัน แต่มีประโยชน์และแคลอรี่น้อยกว่าดู เช่น กาแฟ ชาเขียว นมพร่องมันเนย น้ำขิง โกโก้ มอลท์ น้ำมะนาว อะไรก็ได้ดื่มในปริมาณเหมาะสม ของพี่ทานพวกนี้ครั้งละไม่เกิน 100 ml. ค่ะ ขึ้นอยู่กะว่าดื่มอะไรด้วย ๒.มื้อเย็นกินพวกยำ สุกี้ หรือพวกเนื้อย่าง ไก่ย่าง ไม่ทานข้าวหรือแป้ง >>>>  อันนี้ก็ดีแล้ว แต่จะทานแป้งบ้างก็ไม่เสียหายเช่น ข้าวกล้อง โฮลวีตเป็นต้น พยามมีหลักในเรื่องปริมาณอาหารให้ตัวเองนิดนึง เช่นกินอะไรเท่าไหร่ กี่ทัพพี กี่ช้อนก็ว่า เราจะได้รู้ตัวเองด้วยว่าทานเยอะหรือน้อยไปไหมด้วยค่ะ ๓.ทานผลไม้ โยเกิร์ต นมเปรี้ยว น้ำผลไม้ >>>>> ดีแล้วค่ะ นมเปรี้ยว โยเกิร์ต นี่ควรติดบ้านไว้เลย ลดน้ำหนักเยอะๆแล้วจะท้องผูกง่ายด้วย แต่อย่าลืมทานปริมาณให้เหมาะสม พี่มีบีทาเก้น 25 แคลติดบ้านตลอด ล้างปากหายอยากของหวานดีมีประโยชน์ โยเกิร์ตเอาแช่แข็งทำไอติมก็อร่อย ๔.ออกกำลังกายด้วยโยคะ และเครื่องออกกำลังกายอื่นๆนิดหน่อย >>>>>> ออกกำลังกายแนะนำไปแล้ว รอเพื่อนๆมาแนะนำเพิ่มเติมนะคะ ปัญหาคือ ๑.ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง ที่ทำอยู่ถูกต้องไหม >>>  แก่นของการลดน้ำหนักคือใช้พลังงานให้มากกว่าที่กิน และอย่าให้เสียสุขภาพ ถ้าเราไม่แน่ใจที่ทำอยู่ถูกไหมให้นึกถึงตรงนี้ค่ะ ๒.อาหารที่ทานควรทานอะไรยังไง...ไม่มีความรู้เรื่องแคลลอรี่หรือฯลฯ >>>> ตอบให้แล้วเหมือนกัน ทานอย่างที่อยากทานแค่ดูแลเรื่องปริมาณ เน้นทานมีประโยชน์ให้มากกว่าที่ไม่มีประโยชน์ เรื่องแคลอรี่ลองอ่านกระทู้ที่ให้ดูเป็นไอเดียค่ะ ๓.เป็นคนติดนิสัยนอนดึกตื่นสาย...บ้างครั้งทำงานถึงเช้านอนตอนกลางวัน >>>>>> ไม่เป็นไรค่ะ มื้อแรกของวันควรเป็นมื้อหลังตื่นนอนไม่เกิน 1-2 ชม. ค่ะ มื่อต่อๆไปก็ห่างกันสัก 4-6 ชม. ๔.ไปสมัครฟิตเนสแต่เล่นได้แค่บางอย่าง และพวกโยคะเนื่องจากไม่มีความรู้ว่าควรเล่นยังไง ไม่มีเงินจ้างครูฝึกส่วนตัว ควรออกกำลังกายยังไง >>>>> ค่อยเป็นค่อยไปค่ะ ไม่รู้อะไรถามคนแถวนั้นก็ได้นะ สู้ๆ พี่ไปกินข้าวแระ วันนี้มีสปาเก็ตตี้ของโปรดกะนมเปรี้ยวลูกพรุน จากคุณ : GetCha เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 21:00:32

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณพี่GetChaมากเลยนะคะ ได้ประโยชน์เยอะมากๆคะ มี่ออกกำลังกายที่ฟิจเนสเฟริ์สเดอะมอลงามวงวานคะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะตอนนี้ก็พอจะได้แนวทางแล้ว มี่ว่าค่อยเป็นค่อยไปเอาที่ไม่ทรมานตัวเองดีที่สุดเนอะ จากคุณ : Yachitha เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 53 13:02:27