ความคิดเห็นที่ 1   เข้ามาสังเกตุ การกินอาหารเพื่อหวังผลในการรักษาโรค คงไม่ใช่เร่งกิน หรือกินปุบปับกินวันนี้หรือเดือนเดียวได้ผล แต่ว่าเป็นการกินที่ปกติวิสัยตลอดชีวิต หรือเป็นเวลานาน พืชผัก ผลไม้ ช่วยให้ร่างกายรักษาสมดุลของชีวิตค่ะ จากคุณ : นานา เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 19:29:16 A:190.226.58.2 X: TicketID:047074

ความคิดเห็นที่ 2 นอกจากคึ่นช่ายแล้ว มันยังมีอีกหลายวิธีครับ เอาแบบง่ายๆเลย ก็ต้องขอให้คุณพ่อลด นน.ลงหน่อย แล้วก็หาน้ำตะไคร้มาให้ท่านดื่ม หรือคุณจะดื่มเป็นเพื่อนท่านก็ได้ เพราะมันช่วยบำรุงสายตาได้อีกด้วย ให้ท่านดื่มเหล้าหรือเบียร์ได้ซัก 1 แก้วครับ อันนี้ไม่ได้พูดเล่นนะครับ เพราะมีรายงานทางการแพทย์รองรับ มีนักสนุ๊กเกอร์ที่คนไทยน่าจะคุ้นกันดีคือ "จิมมี่ ไว้ท์" ไว้ท์มีปัญหาเรื่องความดันโลหิตสูงครับ และเป็นอุปสรรคในการแข่ง หมอเลยอนุญาตให้เขาดื่มได้ระหว่างการแข่งขัน แต่คุณไม่ต้องให้ท่านดื่มมาก แค่แก้วเดียวก็พอ จะชวนผมไปดื่มเป็นเพื่อท่านก็ได้ครับ..ผมยินดี..แหะ แหะ.. ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ซีเรียลต่างๆ ก็มีคุณสมบัติในการช่วยลดความดันฯครับ เช่นเดียวกับบร็อคเคอรี่ ผักโขม และฝักทอง แต่หากท่านชอบกินผลไม้ คุณหาพวกองุ่น ส้มโอ มะละกอ มาได้เลย หรือจะพวกถั่วลิสง หรือ เมล็ดทานตะวันก็ได้ครับ ส่วนพวกเนื้อสัตว์ต้องเอาแบบไม่ติดมัน แต่ถ้าจะให้ดีเอาเป็นเนื้อปลาดีที่สุดครับ ขอให้พ่อคุณแข็งแรงนะครับ จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 20:01:05

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ ตอบได้ดีมีสาระครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 20:20:52

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเป็นเบาหวาน คนเป็นโรคนี้ไม่ตายด้วยเบาหวาน แต่ตายด้วยโรคแทรก เมื่อปล่อยตัวไม่เอาใจใส่ระดับน้ำตาล ไม่นานจะทำให้เลือดข้น เหมือนเราเอาน้ำตาลใส่น้ำ กลายเป็นน้ำเชื่อม โรคความดันตามมา และ หัวใจ ที่สำคัญผนังเส้นเลือดจะแข็งขาดการยืดหยุ่น เป็นอันตรายที่เลือดไปเลี้ยงไม่พอเกิดปลายประสาทเสื่อม ฯลฯ ผมเริ่มออกกำลังกายถูกวิธีสักเดือนกับสี่ห้าวัน ได้ผลดีมาก คุณภาพชีวิตก็ดีขึ้น ความดันใครบอกว่าต้องกินยาตลอดชีวิต ก็ไม่ใช่แล้ว หมอให้หยุดยาได้ ที่ผมดีใจมากคือการยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือดดีขึ้นมาก ผมอยากแนะนำให้คุณพ่อจขกทหันมาออกกำลังกายอย่างจริงจัง ดีกว่าใช้อาหารหรือยารักษา การรักษาแบบนั้น เป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ สู้เราออกกำลังกายไม่ได้ เพราะเป็นการฟื้นฟูให้ต้นเหตุดีขึ้น ต่างกันมาก คุณภาพชีวิตจะดี จนคนรอบข้างเอ่ยปาก ผมเพิ่งไปค้างบ้านเพื่อน นอนห้องเดียวกันหลายคน เขาบ่นว่าเพื่อนๆนอนกรนสนั่นหวั่นไหว ส่วนผมไม่กรน (เจ้าของบ้านเล่า) จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 20:29:30

ความคิดเห็นที่ 5 เราก็ไม่ทราบว่า ความดันเราลดลง เนื่องจากทานน้ำปั่นแยกกาก ด้วยเซเลอรี่ (คึ่นช่ายฝรั่ง ต้นใหญ่ๆ) หรือเปล่า  ใส่ผักอื่นๆ ด้วย เช่นแครอท บีทรูท  บางวันก็ใส่สับปะรด บางวันก็ใส่แอบเปิ้ล  แต่เราทานแทบทุกวัน เพราะชอบด้วยค่ะ หวานอร่อยดี แต่เราวัดความดันสองครั้ง  คือตอนที่ทานแรก ๆ และหลังจากนั้น 2 เดือน ความดันอยู่ที่ 60/100 ค่ะ จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 21:06:40

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นความดันสูงครับ เคยวิ่งไปแตะถึง 190 กว่าๆ ก็ทานยา และออกกำลังกาย เช่น วิ่ง หรือปั่นจักรยาน ตอนนี้ก็ลดยาลงแล้ว วันละ 2 เม็ด หลังอาหารเช้าเย็น ความดัน เหลือประมาณ 130 นิดๆ ช่วงนี้ ฝนตกบ่อยเลยปั่นจักรยานอยู่บ้านอย่างเดียวครับ วันละ 40 นาที (6 วันต่อสัปดาห์) จากคุณ : somyosonline เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 21:44:30

ความคิดเห็นที่ 7 คห 5 ความดัน 60/100 สงสัยจะมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ตัวล่างเกิน 90 ตัวบนก้ต่ำไป จากคุณ : fc0ac เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 53 22:01:47

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ จขกท คะ ขอให้ระวังการรับประทานคื่นช่าย และสมุนไพรต่างๆให้มากค่ะ อากงเราเป็นความดันสูงค่ะ เลยคั้นน้ำคื่นไช่ดื่ม นานเหมือนกันค่ะ แล้วท่านก็เสียจากความดันลดลงผิดปกติค่ะ อาการคือ มึนงง เวียนศีรษะ ความดันต่ำขณะเปลี่ยนอิริยาบท (postural hypotention) ฯลฯ สมุนไพร ข้อดีของมันคือ มาจากธรรมชาติ (แต่ไม่ได้บอกว่า มาจากธรรมชาติแล้วจะไม่แพ้นะคะ) แต่ข้อเสีย คือไม่สามารถหาปริมาณที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคนได้ นอกจากจะนำมาสกัด แล้ววิเคราะห์ว่ามีสารสำคัญเท่าใดนะคะ ทำให้ติดตามการรักษาได้ลำบากค่ะ หากคุณพ่อคุณ จขกท ได้รับยาลดความดันอยู่แล้ว ไม่ควรทานคื่นช่าย จำนวนมากๆ นะคะ จะทำให้การติดตาม การปรับเปลี่ยนขนาดยาทำได้ลำบากค่ะ และบางทีจะต้องติดตามว่าผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นมาจากอะไร ก็จะไม่ทราบแน่ชัดว่ามาจากยาหรือสมุนไพรกันแน่ค่ะ สรุป ทานได้ค่ะ แต่ควรระวังอย่าทานมากเกินไปค่ะ จริงๆแล้ว อะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดี น้อยเกินไปก็ไม่ดีเช่นเดียวกันค่ะ จากคุณ : LadySummoner เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 53 00:25:58

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณทุกความเห็นมากค่ะ พรุ่งนี้จะอ่านให้คุณพ่อฟัง ตอนนี้คุณพ่อก็น้ำหนักลดมาราว 10 กก. ได้แล้วค่ะ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ถึงจะไม่ออกหนัก ๆ แต่ก็ไม่เคยขาดค่ะ เสียแต่คุณพ่อยังติดของหวานอยู่พอควร เหมือนอดไม่ได้ ก็ต้องช่วยกันคุมทั้งบ้านค่ะ ต้องเตือน ต้องห้ามซื้อ ถ้าจะกินก็กินด้วยกันต่อหน้า จะได้รู้ว่ากินไปมากแค่ไหน ขอบคุณอีกครั้งนะคะ จากคุณ : nagoyalover เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 53 22:32:33

ความคิดเห็นที่ 10 คห.  7  ตอนแรกเราก็คิดค่ะว่า มันผิดปกติ.. แต่ถามหมอแล้วค่ะ  หมอบอกว่า อยู่ในเกณฑ์ปกติ  แต่ถามเราว่า นอนดึกหรือเปล่า   เราก็บอกไม่ จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 53 11:44:28