** บันทึกน้ำตา..จากชายกล้ามเนื้ออ่อนแรง ตอนที่ 4** หมอครับ..ผมเจ็บ 2/2
|
|
บทที่ 6 ตัดชิ้นเนื้อก่อนยาชาออกฤทธิ์
หมอมีเพื่อนอีกโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง กลางกรุง มีอนุสาวรีย์อยู่ข้างโรงพยาบาล ไปพบเขาได้ เขาเป็นหมอเชี่ยวชาญในเรื่องผ่าชิ้นเนื้อ ให้ไปพบเขาได้ และนำผลมาให้หมอก็ได้คะ
เรา : ผ่านไปกว่าสองอาทิตย์ ทำบัตร ตรวจโรค นัดพบหมอ แค่นั่งรอพบหมอนี่แสนยากเข็ญใจจริงๆ กับโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งผู้ป่วยมาใช้บริการอย่างมากมาย ไปหาหมอ 6 โมงเช้าเพื่อพบหมอตอนเที่ยง จึงได้คุยกันก่อน แนะนำให้รู้จักกัน และนัดพบกันอีกสองสามรอบ จึงเห็นใจทั้งคนไข้ และเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานซ้ำแล้ว ทุกวันๆ พบกับคำถามมากมาย มิน่าละ หน้าตาพยาบาลของรัฐ ถึงได้กระฟัดกระเฟียด ดูโหดร้ายในสายตาผู้ป่วย และเมื่อมีการบริการช่องทางพิเศษ ที่เรียกว่า คลีนิคพิเศษ เปิดบริการช่วงเย็นหลังเลิกงาน ซึ่งต้องไปจองชื่อ ไว้กับเจ้าหน้าที่รับเรื่อง แต่เมื่อได้ทำนัดแล้ว ได้รับคำตอบว่า คิวเราจะถึงภายใน 3 เดือน ไม่ดีกว่า ยอมมาตี 5 ดีกว่า และแล้ววันนัดผ่าก็มาถึง ในต่างประเทศการเอาชิ้นเนื้อออกจากร่างกาย อาจทำได้สองวิธี คือการใช้เข็มแทงและคว้านเอาเนื้อออกมา และการผ่าตัดเล็ก คือการผ่าตัดโดยยาชา และไม่ใช้ยาสลบ
วันผ่าตัดข้าพเจ้าทำตัวน่ารักมาก โกนขนขาออกให้หมดตามคำสั่งแพทย์ ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนในชีวิต เมื่อโกนแล้วก็พบว่าเริ่มติดใจ..เอ๊ยไม่ใช่..เริ่มเห็นว่า เมื่อขาไร้ขน มันช่างน่าเกลียดจัง คือได้เห็นกล้ามเนื้อที่ผิดรูปร่าง การผ่าตัดเล็ก ทำให้ห้องผ่าตัดเช่นเดียวกัน แต่ขนาดเล็กว่ามาก เมื่อเทียบกับคราวผ่าตัดไส้ติ่ง หมอเลือกที่จะผ่ากลางต้นขาหน้าซ้ายของผู้ป่วย ข้าพเจ้าภาวนา คิดถึงพระ คิดถึงมารดา ให้ปกป้องคุ้มครองรักษาการผ่าตัดครั้งนี้ให้ผ่านไปด้วยดี
พยาบาล : คนไข้ชื่ออะไร นามสกุลอะไร
เรา : ผมชื่อ *** นามสกุล *** อายุ ** ครับ คงเป็นการเช็คว่า ไม่ผิดตัวเป็นแน่แท้ พร้อมกับมองในสิ่งรอบตัว แต่ละคนสาละวนกับเครื่องมือมาเป็นถาดๆ มีสายยางมากมาย แล้วพยาบาลก็เอาผ้าเขียวๆมาคลุมตัว คลุมหน้าอก คลุมต้นขาไว้
พยาบาล : อย่าลุกขึ้นนะ มือกอดอกไว้ ห้ามลงไปต่ำว่าสะดือ อยากคุยอะไรคุยมาเลย
เรา : เข้าใจแล้วว่า เมื่อคนเราเครียด มันจะแสดงพฤติกรรมบางอย่างออกมาให้เห็น ขาทั้งสองข้างรู้ได้ว่าเปียกชุ่มไปแล้ว แม้ว่าในห้องผ่าตัดจะเย็นเยือกก็ตาม เหงื่อมันออกมาเอง ออกมาอย่างมากด้วย จนเรียกว่า เปียก ปากก็เริ่มทำงาน พูดพร่ามไปเรื่อย พูดไม่หยุดจริงๆ ไร้สติมาก แต่เมื่อได้สติอีกครั้งเมื่อทุกอย่างนิ่ง สงบ เพราะว่าคุณหมอผ่าตัด เดินเข้ามาในห้องแล้ว เป็นหมอคนเดียวกับที่เราไปพบในห้องแพทย์เมื่อหลายครั้งก่อนนั่นเอง หมอ : อย่าลุกนะ อย่าดู มดกัดนะ
เรา : แม่เจ้า..มดมันมาอีกแล้วววว พร้อมกับเกร็ง กอดอกไว้แน่น ตอนนี้ นะโม ตัสสะ เริ่มมา เริ่มก้องในหัว ท่องต่อไปๆ ๆ อย่าหยุดๆ
หมอ : ขอยาชา xx มิลิกรัม พร้อมกับปักเข็มไปที่หน้าขาซ้าย มีการดุนสองครั้งเกิดขึ้น ครั้งแรกที่ชั้นผิว ชั้นที่สองดำดิ่งสู่ชั้นกล้ามเนื้อด้านใน
เจ็บ ปวดมาก... ทิ้งเวลาไว้สักครู่รอให้ยาชาทำงาน เห็นนาฬิกาเหนือปลายเท้า เวลาเดินช้ามาก เข็มวินาที ทำไมในห้องนี้มันช่างช้าเสียกระไร
หมอ : ทันใดนั้นเวลาอันแสนเลวร้ายก็บังเกิดขึ้น หมอลงมีด ควับด้วยความว่องไว เปิดพื้นที่หน้าขาอย่างชำนาญ แต่ว่า หมอลืมถามคนไข้ว่า ชาหรือยัง ??
เรา : ตามประสามนุษย์.... โอ๊ยหมอ !!! ตะโกนลั่นห้องผ่าตัด ยาชายังไม่ออกฤทธิ์.. ผมเจ็บ คือความรู้สึกเย็นวาบเหมือนน้ำแข็งตกที่หน้าขา พร้อมกับร้อนวูบเหมือนไฟลุกในเวลาต่อมา ขนหัวลุกชัน ร้อนไปหมด
หมอ : ขอเพิ่มอีก xxx มิลลิกรัม ......ปึ๊ก....สองเข็มเลย สุดยอด...ปลอดภัย เรา : บัดนี้เป็นไปตามกระบวนการของหมอแล้ว จะทำอะไรก็ตามสบาย อาการหนึบๆ ยังรู้สึกได้ แต่การลงมีดกรีดหลังจากผ่านผิวหนังไปแล้ว รู้สึกว่า หมอเอามีดมาตัดเส้นประสาทที่วิ่งไปหัวเข่า
เรา : โอ๊ยหมอ !! โดนเส้นประสาท
หมอ : หันชะโงกมามองหน้าเรา แล้วหันไปทำต่อ
เรา : รู้เลยว่าเส้นประสาทมันโดนตัดออกไป มันเย็นวาบแกมเหน็บชาแล้วหายไปเลย และรู้สึกว่าหมอเหมือนกำลังจะคุ้ยหาอะไรสักอย่าง มีการเอาเครื่องมือมางัดกล้ามเนื้อไว้ด้วย คงเหมือนเนื้อตาแห้งมั้ง หลังจากนั้นเหมือนกำลังโดนยัดๆๆ ทุกอย่างที่เคยงัดขึ้นมา ยัดกลับลงไปที่มันควรจะอยู่ ก่อนเริ่มปิดปากแผล
เรา : หมอครับ ไขมันผมเยอะไหมครับ สีเหลืองหรือสีขาวครับ หมอ : หันชะโงกมามองหน้าเรา แล้วหันไปทำต่อ คงตอบในใจ อะไรสักอย่าง
ความกังวลต่างๆ เริ่มหมดไปเมื่อเห็นการสาวไหม ปิดปากแผล เพื่อแสดงว่าการผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อไปตรวจได้เสร็จสิ้นลงแล้ว เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้วปิดแผล ผมลุกเดินได้อยู่ เพราะแผลยังไม่ระบบ แต่เริ่มเจ็บนิดๆแล้ว
ผมนอนพักฟื้นที่บ้านอยู่บนเตียง เกือบสองสัปดาห์ เพื่อให้แผลหายและลุกเดินเพื่อไม่ให้เกิดพังผืด ความรู้สึกถึงไฟฟ้าในร่างกายช่วงที่ถูกตัดระบบประสาทไป ช่วงข้างเหนือหัวเข่า มันวิ้งๆ วิ้งๆ เป็นระยะๆ เต้น ตอด ตุ๊บๆๆ แล้ววิ้งๆๆ ไฟฟ้าวิ้งๆ พื้นที่ข้างเข่ามีอาการชา หยิกแล้วไม่เจ็บ ไร้ความรู้สึก ไม่เจ็บ ไม่ปวด ชา กับ ชา ความวิตกกังวงเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ความโหดร้ายที่จะวิเคราะห์โรคนี้ สิ้นสุดกันเสียที ในความคิดของเรา ซึ่งต้องคอยติดตามต่อไป ว่าผล Lab จะออกมาอย่างไร ซึ่งผลฟังแล้วสยิวกิ้วมากมาย
จากคุณ |
:
หนุ่มรัตนะ
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ก.ค. 53 09:51:10
|
|
|
|