ความคิดเห็นที่ 1 - -" เอ...เรื่องไตทำงานหนักเพราะดื่มน้ำนี่ก็จริงนะ แต่ส่วนใหญ่ในกลุ่มที่มีอาการผิดปกติทางไตอยู่แล้ว ถามจริงว่าคนเราจะดื่มน้ำอะไรมากมายเกินสองลิตรต่อวัน ไปแบบมากมายโอเวอร์เลยเหรอ ถ้าเกิน ดื่มเกินบ่อยทุกวัน หรือแค่วันที่กระหายน้ำบ่อยๆ อะไรที่มันผิดแปลกไปจากธรรมดา ทำบ่อยๆ นี่ก็ไม่ดีทั้งนั้น ทางสายกลางๆ ดื่มน้ำเยอะ ตัวบวมก็มี เลือดความเข้มข้นต่ำก็มี แต่ดื่มน้อย ตัวเหี่ยวก็มี เลือดหนืดมากก็มี ดื่มน้ำหลังจากมื้ออาหารนี่ก็เหมือนกัน มากไปก็ไปเจือจางน้ำย่อยได้ ดื่มน้ำตามมากๆ ก็ทำให้ท้องอืดเพราะอาหารไม่ย่อยได้เหมือนกัน แต่ถ้าดื่มน้อยไป กากใยอาหารไม่มีตัวช่วยหล่อลื่นให้ย่อยง่าย เหมือนกระเพาะต้องบดของแข็งๆ แทนที่จะมีน้ำช่วยให้อาหารนิ่มขึ้น ย่อยง่ายๆ (นึกออกมั้ย) . . . จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 22:30:40

ความคิดเห็นที่ 2 - คำถามแรก สรุปดื่มน้ำเยอะๆมันจะมีผลอะไรต่อไตรึเปล่าครับ ถ้าเป็นโรคไตระยะเริ่มแรก ให้ดื่มน้ำมากๆ จะทำให้ไตดีขึ้น แต่ถ้าไตสภาพแย่มากแล้ว ควรดื่มน้ำน้อยๆ เพราะไตหมดสภาพ ไม่สามารถกรองสิ่งสกปรก ยิ่งดื่มน้ำมาก จะเกิดอาการตัวบวม ทำให้ฟอกไตบ่อยขึ้น ตัววัดการทำงานของไตคือ Creatinine ค่าปกติคือ 0.5 - 1.5 ค่านี้คือของเสียที่หลงเหลืออยู่ในกระแสเลือด ถ้าไตสามารถกรองสิ่งสกปรกได้มาก จะได้ค่าน้อย แต่ถ้าไตไม่สามารถกรองสิ่งสกปรก ค่าจะสูง ผมเป็นมะเร็งที่ไต และโดนผ่าไตทิ้งไป 1 ข้าง ปัจจุบันเหลือไตเพียงข้างเดียว จึงต้องดื่มน้ำมากๆ วันละ ไม่ต่ำกว่า 3 ลิตร " โ ด ย จิ บ น้ำ เ รื่ อ ย ๆ " ไม่ใช่ดื่มทีละมากๆ ค่า creatinine = 1.6 เท่านั้น (พอๆกับคนปกติ) รักษาประคองตัวมาแบบนี้ 3-4 ปีแล้ว สำหรับคนทั่วไป ควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้วๆละ 250 ซีซี. = 2 ลิตร พยายามให้ปัสสาวะมีสีใสๆ หรือเหลืองอ่อน ลองคิดดูถ้าคุณเอาน้ำที่มีสภาพกรด/ด่างสูงๆ มาเทใส่กระดาษกรอง ย่อมทำให้กระดาษกรองเปื่อย ยุ่ย เสียง่าย แต่ถ้าทำกรด/ด่างให้เจือจางโดยผสมน้ำลงไป กระดาษกรองก็ใช้ได้นานขึ้น ไตของคนเราก็เหมือนกระดาษกรองนั่นแหละครับ จากคุณ : threeS เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 23:18:05

ความคิดเห็นที่ 3 คำถามที่ 2    ดื่มน้ำมากๆหลังทานข้าวทำน้ำย่อยเจือจางนี่น่าเชื่อถือแค่ไหน ตอบ  เชื่อถือได้บางส่วนครับจะบอกว่าทำให้การย่อยไม่ดีไม่ได้เป็นกับทุกคนครับ แต่ถ้าบอกว่าทำให้เกิดแก๊สให้ทางเดินอาหารอันนี้เรื่องจริง ท้องอืดได้ง่าย ยกตัวอย่างในห้องทดลองถ้าเทน้ำลงในกรดเข้มข้นมันจะเกิดแก็สถ้าแรงมาก็ระเบิดได้เล็กๆ ส่วนตัวถ้าผมดื่มน้ำหลังทานข้าวมากๆจะปวดท้องทุกครั้งแต่เพื่อนหลายคนก็ไม่เป็นไรนิข้าวคำน้ำคำกรดจางแหงแต่ก็ขับถ่ายปกติดี จากคุณ : thaimedกานต์ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 00:10:34

ความคิดเห็นที่ 4 ความเห็น 3 ครับ เอ็นไซม์ช่วยเร่งปฏิกริยาเคมีในร่างกายนะครับ ไม่ใช่น้ำกรด และการทดลองที่คุณบอกนั้น ผมว่าแปลกๆนะครับ  พื้นที่ผิวสัมผัสของการเกิดปฏิกริยาเคมี  ถ้าคุณทดลองในระบบปิด  แก้สที่ได้ก็มีปริมาณเท่ากับคุณเทน้ำไม่แรง  สุดท้ายปริมาณการเกิด gas ก้เท่าเดิม เพราะสารตั้งต้นคุณเท่ากัน สำหรับเรื่องทานน้ำเยอะๆ ในคำถามแรกนั้น  ไตมีหน้าที่ขับถ่ายของเสียและอย่างอื่นอีก  อัตราการทำงานของไต ขึ้นอยู่กับกลไกการควบคุมสมดุลในร่างกายครับ  สมดุลของความเข้มข้นของสารต่างๆมาก  ไตก็ดูดน้ำกลับไม่ขับถ่าย  แต่ถ้าความเข้มข้นของสารต่างๆในร่างกายน้อย ไตก็ขับถ่ายน้ำออกมา  จะเป็นกรณีไหนไตก็ทำงานตลอดอยู่แล้ว  เพราะฉนั้นเราก็เลือกการดื่มน้ำเท่าที่จำเป็นและรักษาสมดุลของร่างกาย ถ้าคุณไปออกกำลังกายกลางแจ้ง  คุรก็ต้องดื่มน้ำมากกว่าปรกติ  แต่ไตคุณไม่ได้ทำงานมากกว่าปรกติเพราะมีระบบอื่นๆช่วยอยู่แล้ว  เช่นการขับถ่ายน้ำและเกลือแร่ทางเหงื่อ  เป็นต้น สำหรับคำถามที่สอง  เอ็นไซม์เป็นสารเร่งการเกิดปฏิกริยาเคมีในร่างกาย  ปริมาณการผลิตภัณฑ์ที่ได้ขึ้นกับปริมาณสารตั้งต้น  พื้นที่ผิวสัมผัสที่เอ็นไซม์ไปสัมผัสครับ   เปรียบเทียบง่ายๆ  ถ้าคุณมีปริมาณเอ็นไซม์ 10 หน่วย คุณเจือจางใน น้ำ 10ส่วน หรือ 100 ส่วน  เอ็นไซม์ 10 ส่วนก็ทำงาน 10 ส่วน  ไม่ได้มีผลการเจือจางเลยครับ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 53 18:05:05 จากคุณ : เซียนแมวคารินย่า เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 20:28:12