ความคิดเห็นที่ 1 บอกพ่อแม่คุณ พร้อมทั้งเรียกทุกคนมาคุย ถามความจริงจากเขาให้แน่ใจก่อน อย่าเพิ่งเชื่อจากที่เห็นอีเมล ถ้าเธอเป็นโรคจริงจะได้หาทางแก้ไขป้องกัน รักษาหายาต้าน คนเป็นโรคเอดส์อาจจะไม่ได้ตายเพราะเอดส์ แต่โรคแทรกซ้อนบางโรคก็สามารถติดคนใกล้ชิดได้ เช่นวัณโรค ถ้ามีเด้กอยูด้วยต้องระวัง จากคุณ : ลึกลับซับ_tui เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 19:47:24

ความคิดเห็นที่ 2 คุยกับพ่อแม่คุณดูครับ ให้ผู้ใหญ่ช่วยดีกว่า  ดูจากที่คุณเล่ามาคิดว่าเธอคงคิดว่ามีสิทธิ์ในบ้านหลังนี้ครึ่งนึง ถ้าทางบ้านคุณไม่ได้ให้เป็นแบบนี้ก็ต้องรีบจัดการคุยกันให้ชัดเจนนะครับ อย่างไรก็ขอเอาใจช่วยนะครับ จากคุณ : 1002 (1002) เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 19:47:58

ความคิดเห็นที่ 3 โห..เข้าใจเลยค่ะ ว่าจะทำไงต่อไปดี งั้นขั้นแรกลองคุยกะพ่อแม่ของจขกท.เป็นการส่วนตัวก่อนดีกว่าค่ะจะได้แก้ไขด้วยกันแบบประนีประนอม  เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ เมื่อต้องอยู่กับคนมักง่ายแต่อันตราย ที่สำคัญอยากให้ห่วงหลานๆนะคะ เด็กๆยังไม่รู้วิธีป้องกันตัวเองค่ะ จากคุณ : -*canelian*- เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 19:50:27

ความคิดเห็นที่ 4 เชื้อเอดส์ในน้ำลายมีปริมาณน้อยมากครับ โอกาสติดต่อกันทางขวดน้ำจึงแทบไม่มีเลยครับ . ถ้าเป็นผมเพื่อความสบายใจ จะซื้อตู้เย็นเล็กๆ อีกสักเครื่อง ไว้ในห้องส่วนตัว ไว้แช่น้ำดื่มอย่างเดียว หรืออาจจะซื้อเครื่องทำความเย็นน้ำดื่ม ใช้ร่วมกัน แบบใช้แก้วรองเปิดก๊อกดื่มครับ จากคุณ : กระท่อมน้อยริมบึง เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 19:52:24

ความคิดเห็นที่ 5 เปิดใจคุยในฐานะเจ้าบ้านค่ะ พ่อแม่จะเห็นขี้ดีกว่าไส้ก็เอา แต่พูดจากันดี ๆ นะคะอย่าใส่อารมณ์เดี๋ยวสถานการณ์พลิก คุณจะกลายเป็นนางอิจฉาไปเสียฉิบ จากคุณ : No More No Mood!!! เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 19:52:49

ความคิดเห็นที่ 6 ด้วยความเป็นสาวอีสาน ซึ่งสเป็คชาวต่างชาติอยู่แล้ว ------------------------------------------------------------------------------------ ไม่อยากให้ใช้คำนี้เลย เจอหลายกระทู้มากที่คล้ายๆดูถูกคนอีสาน ในฐานะมีเพื่อนสาวๆเป็นคนอีสาน ผมว่าคุณค่าความเป็นคนเขามีเท่าพวกเรานะครับ จากคุณ : Mukzaki เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 19:54:56

ความคิดเห็นที่ 7   ถ้าทำให้ไม่สบายใจต้องขออภัยนะคะ แต่เชื่ออย่างนึงได้เลยว่าเจตนาของดิฉัน ไม่ได้คิดจะดูถูกคนชาติเดียวกันนะคะ เพียงแต่ยกตัวอย่างเฉยๆว่าเป็นสเป็คชาวต่างชาติ ซึ่งในเมืองไทยถ้าดูจากการที่มีคู่เป็นชาวต่างชาติแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นคนแถวภาคอีสาน แต่ไม่ได้หมายความว่าดิฉันจะดูถูกเค้าน่ะค่ะ ถ้าทำให้คุณ Mukzaki ไม่พอใจ ก็ขอโทษด้วยแล้วกันค่ะ เฮ้อ...เครียดหนักกว่าเดิมมั้ยหว่าเรา - -" จากคุณ : ่j เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 20:03:36 A:183.89.18.97 X: TicketID:239185

ความคิดเห็นที่ 8 ความคิดเห็นที่ 6    เห็นด้วยครับ จากคุณ : toto02499 เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 20:04:59

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าในปากคุณมีแผล...ก็มีโอกาสติดได้ค่ะ ใน%ที่ต่ำกว่าทางอื่น แต่มีโอกาสนะคะ ไม่ใช่ไม่มีอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจ (เราเรียนวิทย์ค่ะ เรียนทั้งเพียวไซน์และ เกี่ยวกับพวกแพทย์ด้วย) ทำแบบนี้ไม่ดีเลยอ่ะค่ะ มาอาศัยเขาอยู่ยังทำแบบนี้อีก เป็นคนป่วยที่ไม่น่ารักเอาซะเลย - -" ญาติเราก็มีคนเป็นนะคะ แต่เขาทำตัวดีมาก จนเรายังเกรงใจเขาเลย แล้วนี่อะไรอ่าาาาาาาา จากคุณ : Chunsa เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 20:11:39

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่า เอาคนอื่นมาอยู่ในบ้านมากเกินไปไหม จากคุณ : ranat เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 20:17:29

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านข้อความของจขกท แล้วขอพูดตามตรงนะคะว่าดูคุณจะเหยียดคนอื่นถึงแม้เขาเป็นผู้อาศัยแต่ก็ใช่ว่าเจ้าของบ้านจะเอาเขาพูด ตามใจเราคิด ไม่ว่าจะ ดูถูกคนอีสาน สเปคต่างชาติบ้างละ , คนต่างจังหวัดบ้างหละ , นินทาพี่สะใภ้คุณ '' เพราะเธอมั่วคนโน้นคนนี้'' บ้างหละ อีกอย่าง คุณเป็นเจ้าของบ้านแล้วมีสิทธิอะไรไปอ่านเมล์คนอื่นเขา เห็นเขาไม่ออก ก็กด sing out ซะ ดูๆ แล้วคุณก็แรงใช่ย่อย ไม่ต่างกับคนที่คุณพูดถึง เข้าประเด็น เรื่องของคุณ น้ำลายต้องใช้ปริมาณ 2 ลิตรคะ มันไม่ได้ติดกันง่าย ถ้าจะเป็นก็คง ไวรัสตับอักเสบบี ส่วนเรื่องที่จะให้คุยกัน หากเขาเป็นผู้ติดเชื้อจริงๆ ก็ไม่เห็นด้วยที่คุณจะไปเปิดโปงคุยกับคนในครอบครัวคุณแม้ว่าเขาจะเป็นพ่อแม่คุณ   ( หากเขาเสียใจ ฆ่าตัวตายคุณจะรับผิดชอบหรือเปล่า ??? ) อย่างแรกคุณต้องคุยกับเขาโดยที่ไม่ให้เขารู้ว่าคุณแอบอ่าน mail เขา หัดสังเกตุอาการ ว่าเขาป่วยจริงหรือเปล่า ดิฉันทำงานเอดส์มาหลายปีเข้าใจดีว่า คนโดยทั่วไปยังรังเกียจผู้ติดเชื้อ และฉันเข้าใจคุณว่าพฤติกรรมของเขาไม่น่ารัก แต่อยกาให้คุณเปิดใจ พูดคุย และยอมรับคนเหล่านี้ ไม่ว่าเขาจะมีเบื้องหลังอย่างไร พฤติกรรมอย่างไร ลองทำความเข้าใจกับเขา สื่อสารกับเขาบ้าง ถือว่าคุณได้ช่วยคนคนหนึ่งเลยคะ จากคุณ : Mukrob (Mukrob) เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 20:18:57

ความคิดเห็นที่ 12   ปัญหามากมายเลยนะครับ 1 พี่ชายคุณเป็นอะไรตายครับ   เป็นเอดส์ตายหรือเปล่า  ติดมาจากพี่สะใภ้คุณหรือเปล่า 2 ท่าทางบ้านคุณจะหน้าบางนะครับ  ต่อไป เค้ายกโขยงมาเต็มบ้าน  คงไม่กล้าเอ่ยปากอะไร ไม่กล้าพูด  (กลัว แม้จะปกป้องสิทธิ ในบ้านตัวเอง ประหลาดดี) "ผู้ดี  ย่อมตกเป็นเหยื่อของ พวกหน้าด้าน"  น่าสงสารมั้ยครับ 3  ถ้าสามคน พ่อ แม่ ลูก เจ้าของบ้าน หน้าบางมาก  ไม่กล้าเผชิญความจริง ให้ใช้วิธีรุมครับ  เรียกมาคุย  สามรุมหนึ่ง  จะได้ไม่อายมากนัก - ถามคนมาอยู่ใหม่ ว่าจะอยู่ถึงเมื่อไหร่ - ถามว่า ไม่สบายหรือเปล่า  บังเอิญเห็นอีเมล  เป็นเรื่องจริงหรือไม่ - บอกให้มีมารยาท  ในการอยู่บ้านผู้อื่น ถ้าโดนด่ากลับมาด้วยคำหยาบคาย  โดนด่ามรึงกู ก็ไม่ต้องกลัวครับ  ใจเย็นๆ ตั้งสติให้อยู่ อย่าสั่น อยู่กันสามคน  อย่างมากก็ตบกัน สามรุมหนึ่ง 4 แนะนำ  เชิญลูกสะใภ้ ไปหางานทำ  ช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ระวัง  พวกนี้มันฉลาด  จะเอาหลานมาอ้าง  จะแบ่งเอาทรัพย์สมบัติ วันที่พ่อแม่ จขกทตายไป    ระวัง  จขกท  จะโดนถีบออกจากบ้าน   แล้วบ้านนี้ จะกลายเป็นแหล่งสิงสถิต ของคนเหล่านี้นะครับ เตือนด้วยความหวังดี แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 53 20:28:45 จากคุณ : ร.ป.ภ.บิ๊กซี (GMPLS) เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 20:22:57

ความคิดเห็นที่ 13 เราก็ไม่เห็นว่า จขกท.เค้าจะดูถูกคนอีสานนี่คะ   ก็สาวอีสานมักจะมีผิวสีน้ำผึ้ง   รูปร่างเพรียวตามสเป็คฝรั่งจริงๆอ่ะ    ถ้าลองเป็นสาวเหนือผิวขาว     หรือสาวใต้ผิวคล้ำตาคมเข้ม  มันก็ไม่ใช่สเป็คจริงๆนี่ ส่วนเรื่องผู้อาศัยเจ้าปัญหาเนี่ย   ถ้าเราเป็นคุณคงไม่ให้อยู่อ่ะค่ะ   ไม่ใช่ว่ารังเกียจรังงอน   แต่ผู้อาศัยคนนี้ช่างมักง่ายไม่รู้จักการปฏิบัติตนให้เหมาะสมต่อการอยู่ร่วมกับผู้อื่น   และบ้านคุณมีทั้งเด็กและคนแก่   โรคเอดส์ติดไม่ได้ก็จริง   แต่โรคแทรกซ้อนต่างๆมันติดได้ไม่ยากนะคะ เรื่องน้ำดื่มนั้น   ถึงเอดส์จะติดได้ยากมากทางน้ำลายก็จริง   แต่โรคอื่นๆล่ะ   หากคุณจะหาตู้เย็นส่วนตัวไว้ในห้อง   ก็เป็นการแก้ปัญหาของคุณคนเดียว   คุณพ่อคุณแม่และหลานๆก็ยังคงต้องกินน้ำรอยปากของผู้หญิงคนนี้ต่อไป    คุณทนได้หรือคะ การจะให้เค้าออกไปเราคงบอกได้ยากว่าควรทำวิธีไหน   คงขึ้นอยู่กับคุณเองต้องพิจารณาตามความเหมาะสม   อาจจะพูดตรงๆว่าคุณรู้แล้วว่าเค้าเป็นโรค    ไม่ได้รังเกียจ   แต่อยากให้ช่วยปรับพฤติกรรมบางอย่าง  บลาๆๆๆ   หรือพูดกับคุณพี่สะใภ้ไปเลย    แต่ก็ต้องระวังนิดนะคะ   เผื่อเค้าคิดอยากจะแกล้งขึ้นมา    อีกอย่างนึง    บ้านคุณอาจจะสบายเกินไปจึงดึงดูดสมาชิกใหม่   ทำไมไม่ลองทำให้มันลำบากขึ้นบ้างล่ะคะ   เช่น   น้ำไฟให้จ่ายเอง   อาหารหาทานเอง   ทำความสะอาดบ้านเอง     ตู้เย็นก็แยกกันใช้  (ยกตู้เย็นหนีไปเลย) 5555 จากคุณ : SWEET TOFFY เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 20:28:20

ความคิดเห็นที่ 14   เห็นด้วยกับ คห 6 ค่ะ จากคุณ : BoRn To bE kO-Ei เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 20:28:20

ความคิดเห็นที่ 15 ตาม 12 เลยครับ เข้ามาขอพักพิง แล้วออกแนวชุ่ย แบบนี้ต้องเคลียร์ครับ อย่าปล่อยไว้นาน จากคุณ : Supermop เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 20:30:55

ความคิดเห็นที่ 16   บางครั้งถ้าใครไม่ได้อยู่ร่วมบ้านกับคนเหล่านี้ ก็ยากที่จะเข้าใจค่ะ ส่วนตัวแล้วดิฉันไม่ค่อยยุ่งกับใคร แต่ก็ไม่ชอบที่จะมีใครเข้ามายุ่ง วุ่นวายมากมายในบ้านดิฉัน และการที่ได้เตือนเค้าดีๆ ขอยืนยันค่ะว่าพูดจาดีๆ ว่าอย่ามาใช้ขวดน้ำของดิฉัน เพราะดิฉันถือ ก็น่าจะหยุดพฤติกรรมเหล่านั้น ไม่ใช่ยังดื้อดึงทำต่อไป เหมือนไม่สะทกสะท้าน ทั้งๆที่เป็นผู้อาศัย และกรณีของพี่สะใภ้ดิฉันเองก็ตาม ถึงแม้ดิฉันไม่ชอบเค้าก็จริง แต่เราก็ไม่เคยทะเลาะกันค่ะ เราต่างคนต่างอยู่ ดิฉันเลือกที่จะเก็บอารมณ์ความไม่ชอบไว้ ทั้งๆที่เกลียดเค้ามาก ที่ทั้งมีผู้ชายหลายคน วนเวียนแวะมาหาเค้าที่บ้าน รวมทั้งเค้าติดเล่นการพนัน แต่ดิฉันก็ไม่เคยปริปากว่าเค้า หรือยุ่งเรื่องส่วนตัวเค้าแม้แต่นิดเดียว ส่วนเรื่องการแอบอ่านอีเมล์นั้น ดิฉันก็รู้ว่าดิฉันผิด ดิฉันก็บอกอยู่แล้วว่าถือวิสาสะ และก็ยอมรับผิดแต่โดยดี แต่อีเมล์ฉบับนั้นก็เป็นอีเมล์ที่ญาติเค้าส่งมาหา มาต่อว่าผู้หญิงคนนั้นที่ทิ้งลูกไว้ให้เค้าเลี้ยงดู ทำให้ดิฉันได้รู้เรื่องที่เค้าเป็นเอดส์โดยบังเอิญ ดิฉันไม่รังเกียจที่จะอยู่ร่วมบ้านหรอกนะคะ ถ้าเค้าทำพฤติกรรมในการใช้ของร่วมกันให้น่ารักกว่านี้ เพียงแต่ดิฉันไม่มีข้อมูลความรู้เรื่องการติดต่อของโรคเอดส์เพียงพอ เลยมาตั้งกระทู้ปรึกษาคนที่ห้องสวนลุมฯ ก็เท่านั้นเอง ถ้าดิฉันเป็นคนแรงๆ อย่างที่ คห.11 ว่า ป่านนี้ทั้งพี่สะใภ้และน้องสาว คงไม่ได้ลอยหน้าลอยตาอยู่ที่บ้านนี้มานานหลายปีแบบนี้หรอกค่ะ และดิฉันก็มีชื่อเป็นเจ้าของบ้าน มีสิทธิ์ที่จะให้ใครอยู่หรือไม่อยู่ก็ได้ ดิฉันยังไม่ไล่เค้าไปเลย เพราะคุณพ่อคุณแม่ดิฉันบอกให้เมตตา ดิฉันขอยืนยันว่าไม่เคยเหยียด หรือดูถูกสาวอีสานแม้แต่นิดเดียว เพียงแค่ยกตัวอย่างว่าเป็นสเป็คของชาวต่างชาติก็เท่านั้น ถ้าใครจะแปลเจตนาเป็นการดูถูก ดิฉันก็ต้องขออภัย เจตนาของการตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพียงเพราะกลุ้มใจที่ต้องอยู่ร่วมกับคนที่เป็นโรคเอดส์ แล้วทำพฤติกรรมไม่ดีก็เท่านั้นเอง แต่สภาพเค้าภายนอก ดูแล้วยังไงก็ไม่เหมือนคนปกติค่ะ ผอมแห้ง แรงน้อย หน้าตาซีดเซียว คนในซอยเห็นหน้าเค้าแล้ว ยังมาถามแม่ดิฉันเลยว่าคนนี้เค้าป่วยเป็นอะไรหรือเปล่า และสุดท้ายนี้ ถ้าบังเอิญข้อความที่บอกว่า สาวอีสาน เป็นสเป็คชาวต่างชาติ ทำให้ใครไม่พอใจ ก็ต้องขออภัยด้วยแล้วกันค่ะ ถ้าคำๆ นั้นทำให้โกรธ แต่ดิฉันยังยืนยันคำเดิมว่าประโยคนี้ของดิฉัน ไม่ได้เจตนาจะดูถูกใครแน่นอน ด้วยความเคารพ จากคุณ : j เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 20:37:20 A:183.89.18.97 X: TicketID:239185

ความคิดเห็นที่ 17   ขอบคุณ คห. 12 มากนะคะ อย่างน้อยทำให้ดิฉันรู้แล้วว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป คงต้องให้พ่อแม่เลือกเอา ว่าจะเมตตาคนแบบนี้ต่อไปหรือไม่ หรือดิฉันควรจะแสดงความเป็นตัวตนด้านมืดออกมาบ้าง ปล. พี่ชายดิฉันเป็นมะเร็งค่ะ เสียชีวิตตอนอายุ 30 กว่าๆ ส่วนพี่สะใภ้ไม่ได้เป็นเอดส์ค่ะ แต่น้องสาวพี่สะใภ้ที่ขอลี้ภัยมาอยู่ด้วยต่างหาก จากคุณ : j เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 20:44:36 A:183.89.18.97 X: TicketID:239185

ความคิดเห็นที่ 18   ขอบคุณ คห. 12 มากนะคะ อย่างน้อยทำให้ดิฉันรู้แล้วว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป คงต้องให้พ่อแม่เลือกเอา ว่าจะเมตตาคนแบบนี้ต่อไปหรือไม่ หรือดิฉันควรจะแสดงความเป็นตัวตนด้านมืดออกมาบ้าง ปล. พี่ชายดิฉันเป็นมะเร็งค่ะ เสียชีวิตตอนอายุ 30 กว่าๆ ส่วนพี่สะใภ้ไม่ได้เป็นเอดส์ค่ะ แต่น้องสาวพี่สะใภ้ที่ขอลี้ภัยมาอยู่ด้วยต่างหาก จากคุณ : j เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 20:45:49 A:183.89.18.97 X: TicketID:239185

ความคิดเห็นที่ 19 เข้าใจความรู้สึกของคุณจขกท. นะ คือจะว่าเขาชุ่ย...เรียกว่าการกินอยู่บางอย่างต่างกันมากกว่า เช่นกินน้ำ คนต่างจังหวัดจะสบาย ๆ ไม่คิดอะไรมาก แต่เราจะรู้สึกว่าแก้วใครแก้วมัน ถ้าสนิทกันจริง ๆ ก็อีกเรื่องหนึ่ง หรือถ้าเป็นญาติกันรักกันอะไปอย่าง กรณีนี้เป็นน้องสาวของพี่สะใภ้ ความรู้สึกจะไม่สนิทใจก็ไม่แปลก ยิ่งถ้าเป็นบ้านเราอยู่มาแต่อ้อนแต่ออก วันหนึ่งมีพี่สะใภ้เข้ามา...อันนี้ก็คิดเสียว่าเป็นแฟนของพี่เรา เป็นแม่ของหลานเรา... แต่วันดีคืนดีเธอพาน้องสาวมาอยู่ด้วยอย่างไม่บอกเหตุผล ไม่มีกำหนดนี่ ก็น่ารู้สึกแปลก ๆ หรอก '- - เรื่องอย่างนี้เราว่าควรชัดเจนให้มากไว้นะคะ กรณีคนอาศัยอยู่จนเคยแล้วไม่ยอมไปก็มีให้เห็นกันอยู่ เคยได้ยินกรณีที่ว่า ให้น้องเฝ้าบ้านให้หลายปี พอพี่จะขายบ้าน น้องไม่ยอมย้ายออก ต้องจ่ายเงินให้ถึงยอมไป ก็มี ขนาดนั่นพี่น้องท้องเดียวกันนะ การจะรับใครเข้ามาอยู่ในบ้าน เราจึงว่ามันต้องดูให้ดีมาก ๆ เลย ไม่งั้นนานไปมีปัญหาอะไรขึ้นมา จะเข้าตำราเอากระดูกมาแขวนคอ ดีไม่ดีเห็นกินอยู่ฟรีได้ตามสบาย พาน้องมาก็ไม่ว่า เกิดวันหลังพาลูกพาหลานมาอีกจะพูดลำบาก คือเราก็เข้าใจนะว่าคนต่างจังหวัดรักญาติพี่น้อง ...แต่มาอยู่แล้วก็ช่วยปรับตัวนิดนึง เกรงใจกันนิดนึงก็จะดี ค่าใช้จ่ายในบ้านจะช่วยออกด้วยก็จะดี อย่างน้อยส่วนตัวก็ควรรับผิดชอบตัวเองหน่อยนะ ถึงคุณจขกท.จะทำไม่ถูกที่ไปอ่านเมล์เขา แต่โดยส่วนตัวเราคิดว่า (คือเราก็แอบเห็นแก่ตัวอะ '- -) ถ้าผู้อาศัยมีเรื่องอะไรอย่างนี้ เราก็ควรจะได้รู้นะ คือครั้นจะถามก็ใช่ที่ ถึงถามเขาเขาคงไม่บอกหรอก แต่เกิดมารู้วันหลังตอนมีเรื่องอะไรละทั้งเซอร์ไพรส์ทั้งซวย "- - ส่วนตรงนี้ "แล้วด้วยความเป็นสาวอีสาน ซึ่งสเป็คชาวต่างชาติอยู่แล้ว" เราว่ามันเป็นข้อเท็จจริงอะ ไม่ได้เป็นการดูถูกเหยียดหยามอะไรเลย จากคุณ : atihasita เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 20:54:19

ความคิดเห็นที่ 20 จขกท จริงหรือโจ๊ก จากคุณ : คุณหนูจอมเจ้าชู้ เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 21:03:15

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกับ คห. 12  ค่ะ ปัญหาเกิดเพราะ มันมากเกินไปไงคะ พยายามแก้ไข รวมญาติพ่อแม่ไปเลย ปล่อยนานไป เรานี่ละจะจุกอกตายซะก่อน ขอให้มีทางแก้ไข และเคลียร์เรื่องนี้โดยไวค่ะ ปล. อย่าคิดมากค่ะ ดิฉัน คนอีสานขนาดแท้ แถมมี สามี ฝรั่งด้วยนะ   ลาวแท้ๆยังชิดซ้ายเลย ถ้าได้พูดอีสาน ฮ่าๆ ไม่ได้ยึดติดอะไรมากไป ค่ะ แต่หน้าตาดิฉันออกไปทางเหนือ ก็ ไม่เสมอไปที่ สเปคฝรั่งจะเป็นแบบ เราตั้งมาตรฐานไว้นะ เพราะ คนอีสาน บางคนหน้าตา ออก กทม ก็มีถมไป อย่าซีเรียสค่ะ ขอสวยที่ใจพอ ฝรั่ง คนไทย ไม่ว่าชาติไหน ก็มาหลงรักทั้งนั้น จากคุณ : ทุ่งข้าวเขียวขจี (MajestyLove) เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 21:04:16

ความคิดเห็นที่ 22 เรื่องนี้ เป็นเรื่องความปลอดภัย รีบคุยกับคุณพ่อคุณแม่คุณให้ท่านเข้าใจ อย่าปล่อยไว้ในบ้าน ให้ไปทั้งสองคนเลยครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 21:10:21

ความคิดเห็นที่ 23   "แล้วด้วยความเป็นสาวอีสาน ซึ่งสเป็คชาวต่างชาติอยู่แล้ว" มันดูถูกชาวอิสานตรงไหนนี่ ผมก็เห็นแบบนั้นจริงๆ ขยันขันแข็ง ผิวสีน้ำผึ้ง หน้าตาคมๆ ฝรั่งชาติไหนก็บอกว่าชอบกันทั้งนั้น พวกคุณไทยไปคิดในทางลบกันเองรึเปล่า ส่วนเรื่องญาติ จขกท ผมว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องกินน้ำแล้วหละ มันเป็นเรื่องสัน_านคนแล้ว เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด เลือกเอาละกัน แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 53 21:11:59 จากคุณ : ScaldingTearZ เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 21:11:31

ความคิดเห็นที่ 24   ประเด็น คือเค้ามากินน้ำของ จขกท ซึ่งการกินก็ไม่ใช่เทใส่แก้ว แต่เป้นจับยกซด แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน คือ ซื้อน้ำดื่มกินเองครับ ไปกินร่วมกัน มันมีความเสี่ยงหลายโรคนะ ตับบี ก็เป็นได้ วัณโรค หรือโรคที่ติดต่อกันทางน้ำลาย อะ เลือกเอาครับ จากคุณ : โนบุโนบุ เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 21:11:52 A:118.173.151.123 X: TicketID:232449

ความคิดเห็นที่ 25 เข้าใจความรู้สึกนะครับ คงต้องเรียกมาคุยกันทั้งหมดล่ะครับ เอาให้เข้าใจกัน โตๆกันแล้วไม่น่าจะยาก ถ้าจำเป็นต้องสอนให้เค้าเรียนรู้มารยาททางสังคม ก็ทำไปเลย อย่าเขินอาย บ้านของเรา ชีวิตของเรา เกรงใจมากเกินไปก็ไม่ไหว วันหนึ่งเกิดติดโรคขึ้นมา จะมาคิดแบบนี้ก็คงไม่ทันนะครับ จริงๆคนที่เป็นโรคนี้จะทราบอยู่แล้วว่าตัวเองเป็น และสำนักต่อสังคมก็เป็นสิ่งที่เค้าต้องมีครับ สังคมเราให้โอกาสคนประเภทนี้อยู่แล้ว แต่เค้าก็ควรใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังไม่แพร่เชื้อให้ใคร จากคุณ : AnaKim เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 21:32:35

ความคิดเห็นที่ 26 ส่วนประเด็นเรื่องสาวอีสานผมขอรบกวนท่านที่มาอ่านกระทู้นี้เข้าไปตอบที่นี่ให้ทีนะครับ http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H9516215/H9516215.html คือผมไม่เข้าใจจริงๆ และไม่ทราบด้วยว่ามันผิดยังไง อยากขอความเห็นจากหลายๆท่านในห้องนี้ด้วย ถ้ามันไม่เหมาะสมจริงๆ ผมจะได้ไปขอโทษคนที่ผมเคยพูดกับเค้าเอาไว้ด้วย ขอบคุณครับ แก้ลิงค์ครับ รอบสองครับ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 53 21:47:42 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 53 21:47:16 จากคุณ : AnaKim เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 21:46:28

ความคิดเห็นที่ 27 คุยค่ะ  เก็บไว้เองคนเดียว จขกท อกแตกตายก่อนแน่นอน แต่จะเลือกคุยกับใครก่อนดี ระหว่าง น้องสาวพี่สะใภ้ พี่สะใภ้ พ่อแม่ เราเอง อันนี้ .... เราให้ความเห็นไม่ได้ .....เพราะเราไม่รู้ว่า  แต่ละคนจะมีการตัดสินใจแบบไหนน่ะค่ะ แต่ดูท่า  คุณพ่อ คุณแม่ จขกท คงใจดี  อลุ้มอล่วย แน่นอน..... จากคุณ : gunapide เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 21:49:17

ความคิดเห็นที่ 28 คุยค่ะ  เก็บไว้เองคนเดียว จขกท อกแตกตายก่อนแน่นอน แต่จะเลือกคุยกับใครก่อนดี ระหว่าง น้องสาวพี่สะใภ้ พี่สะใภ้ พ่อแม่ เราเอง อันนี้ .... เราให้ความเห็นไม่ได้ .....เพราะเราไม่รู้ว่า  แต่ละคนจะมีการตัดสินใจแบบไหนน่ะค่ะ แต่ดูท่า  คุณพ่อ คุณแม่ จขกท คงใจดี  อลุ้มอล่วย แน่นอน..... จากคุณ : gunapide เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 21:52:43

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ทราบว่าคห. 11 ทำงานกับคนเป็นเอดส์มานานหลายปีจริงเหรอ  แต่ดูเหมือนความคิดคุณสวนทางกับที่คุณออกคห.มานะ  คนที่ทำงานด้านนี้ ควรเป็นคนที่มีความเข้าใจในการกระทำของบุคคลแต่ละคนอย่างมาก  ถึงจะช่วยงานทางด้านนี้ได้ดี    เท่าที่เราอ่าน ก็ไม่ได้คิดว่า จขกท.เขาจะเจตนาอย่างที่คุณเข้าใจหรอกมั้ง   หากตัดเรื่อง การเป็นโรคเอดส์ไป   เอาแค่เรื่องคนในครอบครัว และผู้อยู่อาศัย   เป็นเราเราก็คงไม่ให้ใครเข้ามาอยู่เพื่อทำลายความสุขคนในครอบครัวหรอกนะ   เมื่อเขามีเมตตาให้อยู่  ผู้อยู่อาศัย ก็ควรที่จะเกรงใจเจ้าของบ้าน   บางเรื่องเป็นเรื่องเล็กๆ  เรื่องจุกจิก  แต่บ่อยๆเข้า  หลายๆเรื่องเข้า  คนเป็นเจ้าของบ้านก็คงอึดอัดไม่ใช่น้อย    คนนอกอาจไม่รู้ว่า มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง   เราคิดในแง่ที่ว่าหากเราไปอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ เราซะอีก ควรที่จะเป็นฝ่ายอึดอัดมากกว่าที่เจ้าของบ้านจะได้รับความรู้สึกนั้น เนื่องจากทำอะไรต้องเกรงใจเจ้าของบ้านมากๆ   แต่หากตรงข้าม  ความรู้สึกนั้นก็จะกลับมาหาที่เจ้าของบ้านเอง  แล้วหากเราเป็นเจ้าของบ้าน เราก็คงรู้สึกว่า นี่มันบ้านเรารึเปล่า   ต้องอึดอัด  หรือเจอแต่เรื่อง    เราว่า เรื่องที่ติงกันเรื่องดูถูกบ้าง  เรื่องโรคเอดส์บ้าง  เรื่องในครอบครัวบ้าง  เราว่ามันคนละเรื่องกันนะ  การให้ใครเข้าใจหรือยอมรับอะไร แต่ละคนย่อมมีระดับของการเข้าใจและการยอมรับแตกต่างกัน  จะบังคับ ด้วยการไปตำหนิ ว่าเขาทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ ถูกหรือผิด   ได้บุญหรือได้บาป  เราว่ามันคงไม่ยุติธรรมนะ เพราะความพร้อมของคนเรามันไม่เหมือนกัน จากคุณ : ลูกนกหลงทาง เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 22:25:08

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นใจ จขกท ค่ะ คงต้องคุยกับพ่อแม่คุณก่อน ว่าจะเอายังไง จากการเมลโต้ตอบของญาตเขา %ที่จะเป็นเรื่องจริงค่อนข้างเยอะนะ ไม่งั้นคงไม่ต่อว่ากันแบบนี้ในเมลส่วนตัวหรอกค่ะ แล้วคุยกับเขาเลย เพื่อความสบายใจก็พาไปตรวจเพื่อที่จะได้ปฏิบัติตัวในการอยู่ร่วมกันอย่างถูกต้อง(ถ้าเป็นและยังคิดจะอาศัยอยู่ร่วมกัน) เขาเป็นคนอาศัยและไม่คิดถึงความปลอดภัยของพวกคุณแบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจหรอกค่ะ HIV ถ้าไม่มีแผลในปากก็ปลอดภัย แต่ก็มี ไวรัสตับอักเสบ วัณโรค ที่มีความเสี่ยงที่จะติดต่อกันได้ ถ้าไม่ระวังใหถูกวิธี ส่วนเรื่องสาวอีสาน อย่าใส่ใจเลย เราก็สาวอีสาน คนที่มีสามีต่างชาติก็เยอะ ที่ดีก็มีที่เป็นแบบญาติพี่สะใภ้คุณก็มี ที่ จขกท รับไม่ได้เพราะพฤติกรรมของเธอไม่ไช่เพราะเธอเป็นคนอีสาน ไม่งั้นครอบครัวคงไม่ยอมรับสะใภ้ได้ขนาดนี้หรอกค่ะ จากคุณ : ร้อยดอกไม้ เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 22:26:38

ความคิดเห็นที่ 31   คุณจขกทท่าทางจะสูงศักดิ์สูงส่งนะคะดิชั้นอ่านแล้วนั่นคุณกำลังดูถูกคนอิสานชัดๆเลยนะคะ ขอบอกเลยนะว่าดิชั้นก้อคนอิสานและเท่าที่เห็นก้อไม่เฉพาะคนอิสานเท่านั้นที่ได้สามีต่างชาิตินะแถมยังเีขียนเสป็ดของต่างชาติอีก โปรดอย่าตีค่าคนอื่นต่ำเกินไปนะคะ คนอีสานก้อคนเหมือนคุณนั่นเหลอะ ป.ล  ดิชั้นก้อคนอิสานคะสามีต่างชาติคะ จากคุณ : มาดามในยุโรป เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 22:30:36

ความคิดเห็นที่ 32 เราว่า ประเด็นสาวอีสาน นี่ช่าง sensitive จริง ๆ บริบทสังคมไทย คำพูดที่ว่า สาวอีสานสเป็คฝรั่ง นี่มันมีมาชาติกว่าแล้ว สาเหตุเป็นเพราะอะไรเรา ๆ ก็รู้กันดี แต่นั่นเป็นเรื่องโบราณอดีตชาติ เพียงแต่คำเปรียบเปรยเนี่ยมันยังชิน ยังติดปากอยู่ จขกท เราแค่ยกเปรียบเทียบ ไม่ได้ต่อว่า เหยียดหยามใด ๆ เลย ส่วนเรื่องน้องของพี่สะใภ้นั้น ขอให้คุณเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง แล้วให้พ่อกับแม่นั่นแหละ เอ่ยถามกับพี่สะใภ้ว่า น้องสาวจะมาพักกี่วัน เห็นไอบ่อย ๆ ไม่สบายเป็นอะไรก็ว่าไป ลองหยั่งเชิงดูปฎิกริยาไว้ก่อน หากพี่สะใภ้บอกว่าน้องเค้าจะพักด้วยไม่นาน คุณก็อนุโมทนา ให้เค้าอยู่ไปเถอะ แต่หากมีแนวโน้มว่านาน คงต้องพูดความจริงไปแล้วล่ะ บอกว่าเผลอไปอ่านเจอใน history ของ com อะไรก็ว่าไป คืออย่าให้เรื่องคนนอกมาทำให้ตัวคุณอึดอัดใจอ่ะ ไม่ชอบก็ต้องพูดนะ จากคุณ : rain&ant เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 23:17:11

ความคิดเห็นที่ 33 เอ ชักจะออกทะเลไปไหนต่อไหนแล้วนะคะ กลับมาก่อนนน คือเรื่องอีสานสเป๊คต่างชาตินี่มันไม่ใช่ประเด็นเลยค่ะ ตอบจขกท. เป็นเรา เราคงพูดกับพ่อแม่น่ะค่ะ ถ้ามาอาศัยอยู่แล้วไม่เกรงใจแบบนี้ก็ไม่ไหวนะคะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เค้าอาจจะเป็นเอดส์ก็ได้ แค่การที่คุณขอร้องเค้าเรื่องทานน้ำแล้วเค้าไม่เคารพคำขอของคุณเนี่ย เราว่ามันเกินไปน่ะ โรคติดต่อมีเยอะแยะ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเค้าไม่ได้เป็นโรคอื่นๆ เป็นเรา เราไม่เสี่ยงกับเรื่องแบบนี้อ่ะ เพราะถึงเค้าจะบอกว่าไม่ได้เป็น แต่เราจะรู้ได้ยังไง จริงมั้ย? ถึงหน้าบาง ใจดีแค่ไหน มันก็ไม่คุ้มกันน่ะค่ะ เอาใจช่วยคุณนะคะ จากคุณ : คนรักแมวตี๋ เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 23:17:28

ความคิดเห็นที่ 34 บอกพ่อแม่ก่อนเลย ว่าจะให้อยู่ต่อไหม ถ้าติดเอดส์จริง แล้วค่อยคุยกับพี่สะใภ้ จากคุณ : ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 23:25:13

ความคิดเห็นที่ 35 บ้านเป็นกรรมสิทธิ์ของใครคะ ถ้าบ้านเป็นชื่อพี่ชาย  เกรงว่าพี่สะใภ้จะมีสิทธิ์ในบ้านหลังนี้ทั้งหมด คุณกับพ่อแม่จะกลายเป็นผู้อาศัย  ทั้ง ๆ ที่รับผิดชอบ คชจ.ในบ้าน แต่ถ้าไม่ใช่  แนะให้ลุยเลย คนแบบนี้ไม่มีมารยาท  และไร้ความเกรงใจ  ถ้าคุณนิ่งเฉย  เค้าก็เอาเปรียบไปเรื่อยๆ คุยกับพี่สะใภ้เลยว่า  ไม่อนุญาตให้นำใครมาพักถาวรที่บ้านคุณอีก แค่เอาลูกติดมาอยู่ด้วย 2 คนก็ไม่เหมาะแล้ว และให้เค้ากำหนดวันย้ายออกของน้องสาวคุณด้วย บอกไปว่า  รับผิดชอบค่าใช้จ่ายไม่ไหว  และน้องสาวเค้าไม่มีมารยาทอยู่ร่วมกันไม่ได้ จากคุณ : Makit เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 23:36:55

ความคิดเห็นที่ 36 แก้ปัญหาง่ายๆ ก่อน แค่เรื่องน้ำทำแบบเราก็ได้ เราอยู่บ้านสามคน กินน้ำขวดคนล่ะขวด ขวดน้ำของเรา อยู่ประตูล่าง ขวดน้ำของน้อง อยู่ในตู้ตรงชั้นแช่น้ำขวดน้ำใหม่ ปนไปเลย จะมีอยู่เฉพาะขวดของน้องที่เปิดแล้ว อยู่ขวดเดียว ขวดอื่นๆปิดซีล ของคนที่มักง่าย คุณแฟน อยู่ประตูบน บ่นจนขี้เกียจบ่นแล้วว่าให้เหยิบขวดของตัวเอง คนมักง่ายต้องให้เขา หยิบง่าย ลดปัญหาได้เยอะ ที่บ้านซื้อน้ำขวดกิน เพราะคิดว่า ปกติชอบกินน้ำอัดลม ก็ 25 บาทอยู่แล้ว แค่น้ำเปล่า 10 บาท ทำไมจะซื้อกินไม่ได้ ดีกว่าน้ำอัดลอมซะอีก ไปร้านอาหารค่าน้ำก็ 10 บาท 500 ml. ซื้อมากินที่บ้าน 10 บาทได้ 1500ml. วิธีแก้ปัญหา ง่ายๆ ของจขกท. แนะนำให้ซื้อตู้เย็นเอามาเก็บไว้ห้องนอนเลย เคยอยู่บ้าน รวมกับเพื่อนหลายคน ก็มีตู้เย็นส่วนกลาง แต่ก็มีของเราส่วนตัว มีเครื่องซักผ้าส่วนกลาง ก็มีเครื่องซักผ้าส่วนตัว มีทีวีส่วนกลาง เราก็มีทีวีส่วนตัว สงสัยเดี๋ยวจะต้องมีปัญหา ดูทีวี ซักผ้า อื่นๆตามมาด้วยหรือป่าววว เอาวิธีของเราไปใช้ด้วยก็ได้นะ... สบายใจเรา สบายใจเขา หลับฝันดี.. จากคุณ : Dante's cove เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 00:07:45

ความคิดเห็นที่ 37   ตาม #12 ครับ เห็นใจ จขกท ครับ ปล. บางความเห็น จขกท อ่านแล้วก็ไม่ต้องไปใส่ใจหรอกน่ะครับ ยิ่งจะปวดหัวมากขึ้นไปอีก เอาใจช่วยครับ :) จากคุณ : ลุยไปเลย เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 00:36:30 A:58.64.95.70 X: TicketID:268376

ความคิดเห็นที่ 38   เข้าใจสิ่งที่จขกท ต้องการสื่อสารค่ะ อย่าไปใส่ใจคห. ที่หลงประเด็น แก้ไขปัญหาตรงหน้าก่อนดีกว่าค่ะ เรื่องนี้ คุณต้องปรึกษาคุณพ่อ คุณแม่ด่วนเลยนะคะ ไม่ว่าเรื่องราวใน email จะเป็นจริงหรือไม่ คุณพ่อ คุณแม่ของคุณมีสิทธิที่จะรู้ค่ะ เพราะผู้ป่วยมาอาศัยอยู่ในบ้านของครอบครัวคุณ แถมยังมีพฤติกรรมเสี่ยงกับการแพร่เชื้ออีก คุณจำเป็นต้องปกป้องคุณพ่อ คุณแม่ และตัวคุณเองค่ะ ในประเด็นที่พี่สะใภ้พาลูกติด 2 คนและน้องสาว มาพักอยุ่บ้านของคุณ เป็นประเด็นที่น่าคิดนะคะ ผู้ที่มาอยู่อาศัยต้องปฏิบัติตามกฎของบ้านค่ะ ถ้าไม่สามารถปฎิบัติได้ ควรจะเชิญออกจากบ้านไป บ้านคุณไม่ใช่องค์กรการกุศล เรื่องบางเรื่องต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม น้ำใจมีให้กันได้ แต่คนเราต้องปกป้องตัวเองและครอบครัวด้วยค่ะ จากคุณ : kungko เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 00:38:32 A:67.188.169.88 X: TicketID:195523

ความคิดเห็นที่ 39 ก็ไม่ได้เห็นว่า จขกท ทำตัวสูงศักดิ์นะ แต่คนในบ้านทำตัวไม่สูงมากกว่า ที่น่ารังเกียจน่ะไม่ใช่เพราะเค้าเป็นเอดส์หรอก แต่น่ารังเกียจด้วยการกระทำต่างหาก มั่วผู้ชาย ไร้มารยาท คุณ จขกท ก็ต้องระวังติดโรคอื่นๆ จากคนนี้ด้วย จากคุณ : noonism เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 00:41:10

ความคิดเห็นที่ 40   เราเคยได้ยินแต่สาวไทยตัวเล็กผิวคล้ำหน้าตาคมฝรั่งชอบ ไม่จำเป็นต้องอิสาน เพิ่งเคยได้ยินความรู้ใหม่ จากคุณ : snyggen เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 00:43:31

ความคิดเห็นที่ 41 งงค่ะ บ้านคุณจขกท. ทำไมทำให้มันยุ่งยาก บอกพี่สะใภ้ไปเลยว่าควรทำงานช่วยเหลือกันบ้าง อย่าหน้าบางค่ะ รักษาสิทธิ์อันพึงมีพึงทำได้ของเรา อ้างตอนนี้ลำบากแล้ว เลี้ยงได้แต่หลานในไส้ ถ้าหลานมันโตก็ไม่เลี้ยงเหมือนกันมันต้องเลี้ยงตัวเองและแม่มันด้วย ส่วนที่เหลือตอนนี้ต้องขวนขวายกันบ้าง แล้วลูกติดนี่เป็นแม่ไม่คิดจะดิ้นรนเลยหรืออย่างไร ตอนจะมีทำไมไม่คิดว่าจะไม่เลี้ยง ส่วนน้องสาวน่ะ ถ้าทำตัวมีมารยาทและเกรงใจว่ามาอาศัยเขาอยู่ไม่ได้เชิญออกทันที อย่าต้องให้ถึงกับตะเพิด และกรุณาบอกมาด้วยว่าจะออกไปเมื่อไหร่ บ้านมันมีค่าใช้จ่าย ข้าวปลาต้องซื้อ ไม่ใช่มูลนิธิประชาสงเคราะห์จะได้ให้อยู่เปล่าๆ คิดถึงพ่อแม่คุณจขกท.ให้มาก นอกนั้นมันคนอื่นทั้งนั้น จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 02:00:04

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่เห็นว่า จขกท จะดูถูกคนอิสานเลยซักนิด คำพูดแค่กลางๆ แค่นี้  ก็ดึงมาเป็นประเด็นกันได้ มีตรงไหนที่อ่านแล้วมันฉุดให้ต่ำลงหรือเปล่า  ก็ไม่มี เราก็คนอิสานแต่ไม่เห็นรู้สึกว่าโดนดูถูกเลย คนที่คิดว่า จขกท ดูถูกน่ะ  นอกจากไม่ช่วยเขาแก้ปัญหาแล้ว   ยังมาชักใบให้เรือเสียอีกต่างหาก แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 53 12:39:54 จากคุณ : Dokkaewguitar เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 02:38:22

ความคิดเห็นที่ 43 เราว่า จขกท. ก็ พ่อแม่ ก็ใจเย็นจริงแหละค่ะ ถ้าเป็นเรา พี่สะใภ้ โดนเหวี่ยงออกจากบ้าน ตั้งแต่ เอาลูกติดสองคนเข้ามาอยู่แล้วล่ะค่ะ โทษนะคะ ลูกเต้าเหล่าใครก็ไม่รู้ ถ้าไม่มองว่า เค้าเป็นเอดส์นะ แต่ทำ พฤติกรรมไร้มารยาทแบบนี้ มาเป็นระยะ เวลาหลายปี เราคงไล่ออกจากบ้านสถานเดียวอ่ะ ขอโทษอีกรอบนะคะ ไม่รู้จะเก็บเอาไว้ทำไมอ่ะค่ะ จากคุณ : idyzlesla เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 03:47:22

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นด้วยกับ คห.12  ตัดไฟเสียแต่ต้นลมซะ  ควรรีบจัดการกับผู้อาศัยที่ไม่มี มารยาทโดยไว    รวมถึงพี่สะไภ้ด้วย ไม่งั้นต่อไปในอนาคตคนที่จะไม่มีที่ซุกหัวนอนคือ  จขกท.เอง    "เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด" จากคุณ : มาม่าน้ำข้น เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 05:42:51

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่เห็นว่า จขกท จะดูถูกคนอิสานเลย... If I were you... ไล่ออกจากบ้าน + I will give them some money to start they new life..(พี่สะใภ้, ลูกติด 2 คนและน้องสาว) จากคุณ : Birdysiam เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 06:35:12

ความคิดเห็นที่ 46 แค่คิดก็สยองแล้ว จากคุณ : ชอบเลี้ยงปลา เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 07:24:59

ความคิดเห็นที่ 47   ...อะไรพี่สะใภ้คุณจะสุขสบายยังกับราชินีในนิยายเลย...เป็นเราจะไล่ตะเพิดให้ไปที่ชอบๆแล้ว...แถมชอบเที่ยวมีกิ๊กหัวกระไดไม่แห้ง..**อิ่มจังตังค์อยู่ครบ** ...ถ้าจะให้ดี...คุณมีวิธีอะไรที่จะพิสูจน์ให้ได้ว่าเค้าเป็นเอดส์จริงๆ...แก้ลงออกอุบายอะไรให้เค้าได้ไปหาหมอดูสักตั้งมั๊ย...ไม่รู้อ่ะ..เราคิดว่าถ้ามีหลักฐาน...คุณพ่อคุณแม่รู้จากหลักฐานทางแพทย์น่าจะมีอาการอยู่ไม่ถูก...และยิ่งต้องจัดการจะให้ไปหรืออยู่...แต่ถ้าเป็นเราๆจะไม่ให้อยู่...อะไรนี่ต้องมาคอยเทคแคร์กันทั้งตระกูลเลยเหรอ...เออถ้าพี่สะใภ้คุณช่วยออกตังค์เรื่องค่าใช้จ่ายพอว่า...แถมยังเอาน้องสาวมาเป็นภาระอีก...ไม่รู้อ่ะ..เราจะถือว่าพี่สะใภ้เราเป็นคนอื่นนะ..ถ้าไปมีกิ๊กกับคนอื่น...ก็ไม่ต้องมาอาศัยบ้านนี้อยู่... จากคุณ : พิมดาว เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 08:28:13 A:41.3.208.113 X: TicketID:225313

ความคิดเห็นที่ 48 เราคิดว่าน้องของพี่สะใภ้คงมีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยดีหลายอย่าง เป็นเราถ้าเปิด mail ทิ้งไว้ เราก็อ่านค่ะ จะได้รู้เขารู้เราบ้าง เพราะเขามาอยู่ในบ้านเรามันเป็นเรื่องใกล้ตัวเรา และจขกท. ก็บังเอิญเห็น ไม่ใช่ไปรื้อค้นหา password หรืออะไร เราว่าเรื่องนี้ไม่เกินไปหรอกค่ะ ยิ่งสะดุดตรงเอดส์ ซึ่งอาจจะดูใกล้เคียงกับพฤติกรรมที่สงสัยอยู่แล้ว นี่ถ้า จขกท. ไม่ทราบแล้วต้องติดเอดส์ แล้วมาโพสต์ว่าด้วยความมีมารยาทในวันนั้นเลยไม่ได้เปิดอ่าน หลายคนก็คงโพสต์ว่า แหม วันนั้นจขกท.ทำไมไม่เปิดอ่านล่ะคะ น่าสงสัยอยู่แล้ว.. หุ หุ ปรึกษาพ่อแม่ดีที่ซู้ดส์ค่ะ และควรให้เขาออกไปจากบ้านค่ะ เพราะเราก็ดูแลหลานและแม่ของหลานอย่างดีแล้ว แต่เราคิดว่าไม่ควรให้เขารู้นะคะว่าเรารู้ว่าเขาเป็นเอดส์ กลัวโดนแกล้งจังเลย ให้พ่อแม่ช่วยให้เขาออกไปแบบเนียนๆ คือพ่อแม่อาจจะเลียบๆ เคียงๆ ถามกับพี่สะใภ้ว่าเขาจะอยู่นานแค่ไหน ยังไง เพราะต้องใช้ห้องให้ญาติคนอื่นมาอยู่อะไรอย่างนี้ แล้ววานให้ญาติคนไหนช่วยมาอยู่ก็ได้ แล้วญาติคนนี้เคยมีบุญคุณ เจ้าระเบียบ แต่ไม่ชอบคนเยอะ อะไรอย่างนี้ ยังไงขอให้สำเร็จนะคะ บ้านของเราควรเป็นที่ที่เราอยู่แล้วมีความสุขนะคะ จากคุณ : เพนกวินสีเงิน เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 08:42:33

ความคิดเห็นที่ 49   เราก็เป็นสาวอีสาน 100% ค่ะ  แต่ไม่เห็นว่า จขกท.จะดูถูกตรงไหนเลย  เรากับเพื่อนๆก็ยังคุยกันบ่อยๆว่าสเป็คอย่างพวกเรา  ฝรั่งชอบเนอะ  ใครจะได้ซ้ามีฝรั่งก่อนกัน  ยังขำๆฮาๆ กันเลย กระทู้นี้แทนที่จะช่วยแก้ไขและให้คำปรึกษา จขกท.  แต่กลับเบี่ยงประเด็นไปเรื่องดูถูกสาวอีสานซะนี่  ขอบอกว่าเราลองถามเพื่อนๆชาวอีสานด้วยกันดูแล้ว  ว่าประโยคนี้เป็นการดูถูกมั้ย  เราและเพื่อนๆก็สรุปกันว่าไม่เห็นจะดูถูกพวกเราตรงไหนเลย เราว่าปัญหาของ จขกท.อยู่ที่ว่า พ่อแม่ จขกท.ดีเกินไปค่ะ  ใจดีที่ให้อาศัยอยู่ด้วย  เพราะด้วยความเมตตาที่มีหลาน  และก็ไม่ว่าอะไรที่จะให้คนนอกมาอยู่ด้วย  เพราะความมีเมตตา  อย่างน้อยคนดีๆ อย่างพ่อ แม่ จขกท. ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้หรอกค่ะ  คนที่เค้าทำไม่ดี สักวันคงแพ้ภัยไปเอง เข้าใจ จขกท.ค่ะ  บางที การกระทำ มันก็ยากกว่าคำพูด  เราเองก็เคยปากเก่งว่าถ้าใครมาทำอย่างนั้นอย่างนี้กับเรานะ  เราจะตอกกลับ  แต่พอเอาเข้าจริงๆ บางครั้งมันก็ทำไม่ได้ค่ะ  อันนี้เข้าใจ จขกท.เต็มๆ   คนที่มาอยู่ร่วมกัน ต้องมีมารยาทค่ะ  คนอาศัยต้องเกรงใจ  และไม่สร้างความลำบากใจให้เจ้าของบ้าน  ในเมื่อเจ้าของบ้านเค้าตักเตือนดีๆ แล้ว  ก็ควรจะเชื่อฟัง  ไม่ใช่ยังประชดทำต่อไป  แบบนี้มันไม่ถูกต้องค่ะ  แสดงว่าผู้มาอาศัยคงนิสัยแย่เข้าขั้นทีเดียว  เป็นเราไปอาศัยอยู่บ้านใคร  เราก็คงไม่ทำตัวแบบนี้หรอก ส่วนเรื่องการดื่มน้ำขวดเดียวกันนั้น  ขอแนะนำว่าให้ซื้อน้ำดื่มเป็นขวดๆไปแช่ไปดีกว่าค่ะ  แช่ทั้งๆที่ไม่ต้องฉีกพลาสติกที่หุ้มฝาไว้นั่นแหล่ะ  อย่างน้อยก็รู้แน่ๆ ว่ามีใครมาแอบดื่มหรือไม่  เราคงแนะนำได้เท่านี้   เป็นกำลังใจให้ จขกท.นะคะ เราว่า จขกท.จิตใจดีมากนะคะ  ที่ยอมให้คนพวกนั้นมาอาศัยอยู่ด้วย  สำหรับคนที่คิดจะเบี่ยงประเด็นไปเป็นเรื่องดูถูกชาวอีสาน  ก็อย่าคิดแบบนั้นเลย  จขกท.เรากลุ้มใจมาตั้งกระทู้ปรึกษา  แต่ทำไมพวกเราไม่ช่วยให้เค้าหายเครียดล่ะคะ  ทำไมกลับทำให้เค้ายิ่งเครียดขึ้นไปอีก จากคุณ : กระปุก (กระปุกตั้งฉ่ายเดินได้) เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 09:12:33

ความคิดเห็นที่ 50 ที่บ้านก็มี แต่ว่าไม่ได้เป็นโรคอะไรร้ายแรงหรอก นอกจากโรคขี้เกียจ นอน กิน เล่นเกม เล่นเน็ท จีบสาวไปวันๆ แหลคนในเน็ทไปเรื่อยว่าทำงานที่นั่นที่นี่ นอนรอสมบัติพ่อแม่อย่างเดียว(พ่อมันเพิ่งเสียซึ่งเป็นลุงผมได้เงินประกันมาเยอะอยู่) ทุกวันนี้มันโผล่มาบ้านทีอยากจะไล่มัน แต่ก่อนผมรำคาญอยู่คนเดียว หลังๆคนอื่นในบ้านก็ไม่ค่อยทน เริ่มจิกกัดไปเรื่อย แต่มันมึน นี่ที่บ้านสร้างบ้านใหม่หลังนึงให้ผมอยู่กับน้อง มีห้องนอนห้องนึง ไอ้นี่มันไปมองไปวางแผนหมดว่ามันจะวางเตียงมันตรงไหน คอมวางตรงไหน (จะยึดห้องตูซะงั้น) บางทีรำคาญมากๆผมหนีไปนอนที่ทำงาน นี่ขนาดมันมีลูกแล้วนะ ลูกมันยังไม่เลี้ยงเลย ก็แอบสะใจอยู่ที่เมียหนีไปหาผัวฝรั่งที่เมืองนอกละ แต่... ทำไมต้องมาทำให้เราลำบากด้วยก็ไม่รู้ ค่าใช้จ่ายก็ไม่เคยช่วยสักกะบาท ค่าไฟ ค่าแอร์(ชอบแอบเปิดแล้วนอนตีพุง) ค่าเน็ท ค่ากิน กับข้าวไม่ช่วยทำ จานก็ไม่ล้าง ออกทะเลไปไกล ก็คิดว่าน่าจะพูดกับคนในครอบครัวดูนะ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เค้าเป็น H แต่มาอยู่บ้านคนอื่นเค้าต้องเกรงใจ ช่วยทำนั่นทำนี่อะไรบ้าง ไม่ใช่สบายหราอย่างเดียว บ้านผมนี่ก็รุมว่าเหมือนกัน แต่ไม่ได้รุนแรงตลอดเวลา หรืออาจจะเพราะพ่อแม่ จขกท. เห็นแก่หลาน ก็เลยไม่อยากว่าอะไรมากหรือเปล่า จากคุณ : KippO เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 10:09:30

ความคิดเห็นที่ 51   รีบคุยกะคุณพ่อ คุณแม่ก่อนเลยจ้า.... เพื่อหาทางแก้ไขปัญหา หากเค้าเป็นอย่างที่คุณจขกท สงสัยก็น่าเป็นห่วงน่ะ แถมเค้ามีพฤติกรรมไม่ดีอีก ... ค่อยๆพูดจากันน่ะจ๊ะ ... (เฮอะ .. คนอยู่กันมากเกินไป ก็งี้แหละ) จากคุณ : สาวน้อยริมบึง เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 11:06:02

ความคิดเห็นที่ 52 เห็นด้วยกับ คห 12 แบบว่า ตอนนี้ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เป็นเอดส์ หรือว่า ไปมั่วกับใครแล้ว แต่การอยู่ในบ้านเนี่ย มัน...นะ สนับสนุนคห. 12 ทุกประการ จากคุณ : แอนด้า เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 11:50:58

ความคิดเห็นที่ 53 จขกท ปรึกษาพ่อแม่นะคะว่าจะเอาอย่างไง แนะนำว่าให้เงินซักก้อน และค่าเลีย้งดูหลานๆเป็นรายเดือน แล้วให้ย้ายออกไปให้หมด เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย จากคุณ : jiri เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 12:21:04

ความคิดเห็นที่ 54 เจ้าของบ้าน...ยังไงก็มีสิทธิ์ไม่ใช่หรอคะ คอมพ์เราหรือเปล่าล่ะ ถ้าเขายืมคอมพ์เราใช้ มันก็น่าจะเป็นสิทธิโดยชอบธรรมนะคะ (เดาเอานะคะ) ญ คนนั้น เป็นผู้มาขออยู่อาศัย บอกตรงๆ จะไล่ออกไปตอนไหนยังได้ แต่มันไม่ใช่นิสันคนไทยไง เราว่า คุยกันตรงๆ คุยกันแบบสันติวิธี น่าจะดีกว่าค่ะ คนทุกคน ถึงแม้จะเป็นอะไรก็ตามจะดีหรือไม่ดี แต่ทุกคนก็ยังมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกันค่ะ ส่วนเรื่องดูถูก เราว่าไม่นะ เพราะ จขกท. ไม่ได้บอกซักหน่อยว่า คนอิสานมีแง่ลบอย่างนั้นอย่างนี้ เขาแค่บอกว่า เป็นสเป็คของชาวต่างชาติ (....ประโยคนี้ขอแก้ไข+ลบออกค่ะ......) คนเรา เกิดไปตรงสเป็คใครเข้า กลายเป็นว่า ถูก"ดูถูก" หรอคะ เห็นด้วยว่า บางคห. ก็อย่าใส่ใจให้มากไป มันจะพาลให้เราหาทางออกที่ดีไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 53 12:45:21 จากคุณ : Immimosa เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 12:42:42

ความคิดเห็นที่ 55 ถ้าเป็นเรานะ ถึงเค้าไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างว่า (มั่ว ผช) แต่ถ้ามาอยู่บ้าน ดิฉันแล้วทำพฤติกรรมไม่มีมารยาทแบบนี้ ดิฉันไม่ให้อยู่แน่นอน เค้าควรจะ รู้สถานะตัวเอง  ไม่ใช่ในฐานะผู้อาศัย  ก็ในฐานะที่ตัวเองป่วยอยู่  ถึงแม้จะ ไม่ติดด้วยทางน้ำลาย  แต่ถ้าเค้าไม่ระวังแบบนี้  จะแน่ใจได้อย่างไรว่าวันนึง จะไม่ติดโรคนี้จากเค้า   ปล. เห็นด้วยกับ คห. 53 ค่ะ ปล.ไม่ได้ใจร้าย  แต่แสดงความคิดเห็นจากที่ จขกท เล่าค่ะ จากคุณ : costarica เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 16:26:01

ความคิดเห็นที่ 56   "แล้วด้วยความเป็นสาวอีสาน ซึ่งสเป็คชาวต่างชาติอยู่แล้ว" เป็นการดูถูก.......คิดมากไปหรือป่าว..... หลงประเด็นไปแล้ว....ความคิดเห็นที่ xx   เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริง ลองถามเค้าดูซิ  ว่าชอบเพราะอะไร.... ในเรื่อง...ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความมีเสน่ห์ รอยยิ้ม สีผิว เสียงหัวเราะ ใจเย็น หรือในเรื่องการทำอาหาร การเอาใจใส่ ดูแลสามี เมื่อเทียบกับสาวๆตะวันตก  สาวอีสานกินขาด......   เราว่า ถ้าคุยกัน ก็ต้องพร้อมหน้า..... คุยแล้ว....น้องคนนั้น ก็ต้องออกจากบ้าน เป็นคำตอบสดท้าย มิฉะนั้น  อาจมีการกลั่นแกล้งได้..... ถ้าไม่ต้องการให้ออก.....สงสารเค้า ก็ไม่ต้องพูดกัน ทนต่อไป ป้องกันที่ตัวเรา แต่ก็อย่าประมาท พี่สาว....ให้ออกไปทำงานบ้าง ได้รู้จักคุณค่าของเงิน หลานๆเด็กๆไม่ผิด....ถ้าเต็มใจเลี้ยงดู ก็ถือว่าได้บุญ ฝึกให้มีหน้าที่ รับผิดชอบงานบ้านบ้างตามวัย.... โชคดี....อิอิๆๆ จากคุณ : toad9116 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 18:02:47

ความคิดเห็นที่ 57 ผมก็มีเชื้ออีสาน ผมก็เห็นว่าข้อความของ จขกท. ไม่มีเจตนาลบหลู่แน่นอน แล้วเจ้าของกระทู้ก็อธิบายแล้วด้วยครับ จึงไม่น่าเอามาเป็นประเด็นเลย จขกท. ควรปรึกษาพ่อแม่นะครับ เพราะถึงแม้ว่าการกินน้ำร่วมกันโอกาสติดจะน้อยมาก (ต้องแลกน้ำลาย 1 ขัน ถึงจะติด) แต่ก็ควรมีมารยาทในการกินการดื่มมากกว่านี้ อย่างนี้ต้องเคลียร์กันเลยครับ ตามความเห็น 12 ทุกประการครับ จากคุณ : โด่งศักดิ์ ปากน้ำโพ เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 18:36:06

ความคิดเห็นที่ 58 ประเด็นหลักคือ นิสัยน่ารังเกียจ ประเด็นรองคือ สงสัยเป็น AIDS ร่วมกับพฤติกรรมแย่ๆทางบ้าน ประเด็นสนับสนุนคือ ตัวพี่สาวก็แย่อยู่แล้ว ถึงข้อมูลทางการแพทย์จะบอกว่าโอกาสติดทางน้ำลายน้อยๆๆๆมากๆๆๆก็จริง แต่ถ้าเจอกับตัวเองคงไม่ง่ายนัก . . . เห็นควรให้ออกไปจากบ้านถ้าเรื่องต่างทั้งพฤติกรรมและใน mail เป็นจริง ระวังการโต้ตอบด้วย จากคุณ : no preservation เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 22:24:50

ความคิดเห็นที่ 59 เราสาวอีสานมาให้กำลังใจจขกทค่ะ ^^ เอดส์ไม่ได้ติดกันง่ายๆ แต่ถ้าจะให้อยู่ด้วยนี่ ต้องเป็นคนในครอบครัว คนที่เรารักเท่านั้นค่ะ คิดว่าจขกท.คงลำบากใจมากๆเลย แต่ต้องคุยค่ะ ปล่อยไว้ไม่ได้แล้วค่ะ อันตรายต่อเด็กๆในบ้าน จากคุณ : หนมตาลนึ่ง เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 22:41:50

ความคิดเห็นที่ 60 ถ้าพูดขึ้นมาว่า ลักษณะคนอีสานพื้นถิ่น เป็นอย่างไร กรามใหญ่ โหนกแก้มสูง หน้าผากกว้าง จมูกแบน ลักษณะคนใต้ล่ะ จมูกโด่ง ตาโตลึก ผิวคล้ำ ผมหยิก คนจีนล่ะ หน้าแป้น ตาตี่ ผมเส้นใหญ่ เหยียดตรง ผิวขาว มันเป็นลักษณะทางชาติพันธุ์ ดูถูกตรงไหน ร้อนตัวไปเองหรือเปล่า การใช้คำว่า สาวอีสาน มันเป็นการอธิบายลักษณะที่ไม่เยิ่นเย้อ พูดปุ๊บ ก็รู้ ว่าลักษณะยังไง แล้วฝรั่งเขาก็ชอบผู้หญิงลักษณะแบบนี้ ก็เหมือนคนไทยบางคนชอบลักษณะสาวหมวย บางคนชอบลักษณะสาวเกาหลี ดูถูกตรงไหน เชื่อว่า คนที่คิดว่าดูถูก ไม่ได้หยุดความคิดคุณแค่นั้นแน่ ตามประสบการณ์คุณ มันมีพฤติกรรมไม่ดีที่เคยเกิดขึ้นระหว่างสาวอีสาน กับฝรั่ง หรือเปล่า คุณเลยรู้สึกว่าพอพูดแบบนี้แล้ว จะออกไปในทาง "ดูถูก" เพราะมันไปกระตุกให้คุณคิดถึงพฤติกรรมเหล่านั้น อย่า เอาความคิดสกปรกของคุณ ไปตัดสินความคิดคนอื่น ทุกที่ ทุกภาค ทุกสังคม มีทั้งคนดี และคนไม่ได้ เจ้าของกระทู้ เขากำลังพูดถึงพฤติกรรมคนร่วมชายคาเขา ที่เขาไม่พอใจ การอยู่ร่วมชายคา มันต้องมีความเกรงอกเกรงใจกันบ้าง เพลงเขาถึงร้อง "ความเกรงใจ เป็นสมบัติของผู้ดี" มาอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ ต้องรู้จักเกรงใจเจ้าของ ทำอะไรต้องดู ว่าบ้านเขา มีระเบียบวิธีการใช้ชีวิตยังไง ก็ต้องหลิ่วตาตามเจ้าของบ้าน ทางที่ดี ให้พ่อแม่คุณเรียกมาคุย  ว่า จะเอายังไง ถ้าเขาจะอยู่ต่อแล้วไม่ว่าอะไร ก็สอนให้ทำตัวตามแบบแผนของบ้านนนี้หน่อย มีอะไรก็ว่าไป แล้วก็ถามตรงไปตรงมา ไม่สบายหรือเปล่า มีโรคร้ายแรงอะไรหรือเปล่า อย่างน้อยได้ช่วยกันดูแล อีกอย่าง ถ้าเขา หรือพี่สะใภ้คุณ เริ่มมีพฤติกรรมชู้สาวในลักษณะที่ไม่เหมาะสม ยิ่งต้องคุยให้เคลียร์ เพราะ อยู่ๆ คุณมีส้วมมาตั้งหน้าบ้าน ให้ชาวบ้านเขาดมแล้วเอาไปนินทา ไม่ไหวเหมือนกันนะ ลูกตัวเองก็ไม่ใช่ จากคุณ : OnGaH เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 53 23:59:57

ความคิดเห็นที่ 61 เห็นด้วยกับ คห.12 และ 13 ครับ จากคุณ : Carlziess Lens เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 08:56:26

ความคิดเห็นที่ 62 ความคิดเห็นที่12 คิดได้ไง 1 พี่ชายคุณเป็นอะไรตายครับ   เป็นเอดส์ตายหรือเปล่า  ติดมาจากพี่สะใภ้คุณหรือเปล่า ถ้าติดมาจากผู้หญิง ทำไมเค้ายังอยู่ต่อมาได้อีกสามปีกว่า แล้วยังไม่ตาย ถ้าติดจริงๆน่าจะติดจากผู้ชายมากกว่าถึงได้ตายก่อน ติดใจอยู่เรื่องเดียวเรื่องอื่นไม่ว่ากัน จากคุณ : ลูกอีสานโขงชีมูล (หนุ่มลุ่มน้ำมูล) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 12:45:28

ความคิดเห็นที่ 63 ถ้าไม่มีความสุข ก็ต้องทำอะไรบางอย่างครับ มีอยุ่ 2 อย่าง 1. ช่างหัวมัน ทำใจ 2. ไม่ช่างมัน สู้ตาย ด้วยเหตุผล และความจริง ที่ว่า เราไม่ใช่คนผิด ในกระทู้นี้ ผมว่าบางคน อีโก้ สูงมากเลยอ่ะ บางสิ่งบางอย่าง มองแบบ positive มันก็ดีนะครับ :) จากคุณ : สักวันฉันจะอ้วนกลม เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 13:25:25

ความคิดเห็นที่ 64 บ้านเรานะคะ อย่าไปยอมให้เขาทำอะไรเกินเลยไปขนาดนั้นเลยค่ะ แล้วอีกอย่างที่คุณสงสัย ถ้าเป็นจริงขึ้นมา คนที่ลำบากและต้องเป็นเหยื่อของการกระทำนั้นๆในกรณีถ้าเขาเป็นโรคจริงแล้วได้รับการติดเชื้อจากเขา พ่อแม่ คุณเอง หลานๆ ก็จะเป็นโรคทั้งๆที่รู้ แต่ไม่ป้องกัน มันน่าเสียใจกว่าจะยอมเสียมารยาทกับคนที่มาอาศัยบ้านเราอยู่แล้วทำพฤติกรรมแบบเสียมารยาทมากๆ อันไหนร้ายแรงกกว่ากัน จัดการอะไรซักอย่าง จะได้สบายใจ ความจริงลูกสะใภ้ ก็ต้องหางานทำได้แล้วค่ะ และที่จริงไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทกับคนทีอาศัยบ้านเราแต่ไม่มีมารยาทกับเราหรอกนะคะ เป็นเรา....เ็ห็นผลไปแล้วค่ะ.............(ไม่ได้ยุนะ แต่เราทำจริงๆ) จากคุณ : ใบบัว (โลตัส) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 15:08:25

ความคิดเห็นที่ 65 ผมเป็น นสพ. นะครับ  จากที่เรียนมา เอดส์ติดได้ทางน้ำลายแต่ต้องกอนเยอะมากๆเป็นลิตรๆจริงๆ แต่มันก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลย อย่าเสี่ยงดีที่สุด 99.9999% ปลอดภัย แต่ใครจะรู้คุณอาจจะซวยเป็น 0.0001% จริงไหม วัณโรคติดได้ทางน้ำลาย(จริงๆมันอยู่ในเสมหะ) อันนี้สำคัญ เพราะระยะฟักตัวนาน อาการจะมีต่อเมื่อเป็นมากๆ ซึ่งเป็นแล้วปอดจะมีรอยแผลเป็นไปตลอดชีวิตแม้ว่าจะรักษาหายแล้วก็ตามและเป็นแล้วรักษานานถึง 6 เดือน + อาจจะซวยเจอเชื้อดิ้อยาอีก เด็กและคนแก่ในบ้านเสี่ยงมากเพราะ immune ต่ำ ไวรัสตับอักเสบ B มีโอกาสทางน้ำลายแต่น้อย ***** เจ้าบ้านมีสิทธิไล่คนอาศัยได้ ถ้าไม่ไปแจ้งตำรวจมากลากไปเลย **** แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 53 22:06:16 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 53 21:43:13 จากคุณ : Winspeed เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 53 21:37:06

ความคิดเห็นที่ 66 เข้ามาให้กำลังใจ จขกท. ขอให้เรื่องทุกอย่างคลี่คลายโดยเร็วนะคะ จากคุณ : dcapar เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 01:21:02

ความคิดเห็นที่ 67   ชีวิตเรานะครับ ต้องปกป้อง อย่ายอมให้มาทำอะไรตามใจครับ ไม่ใช่ไม่มีจิตใจ แต่ เรารักตัวเราทุกคนแหละ ไล่ให้เขาไปเกิดใหม่ ก่อนที่คุณจะต้องไปเกิดใหม่ก่อนวยัอันควรครับ ธรรมชาติ อะไรที่มันอยู่ไม่ได้มันก็ไม่สมควรอยู่ครับ เขาโดนเอดส์พิพากษาแล้ว คุณอยากจะโดนด้วยไหม ด้วยความหวังดีครับ ต้องโหด และแรงครับ จากคุณ : boss เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 01:21:40 A:58.64.111.229 X: TicketID:280064

ความคิดเห็นที่ 68   เป็นกำลังใจให้ค่ะ ก่อนอื่นคงต้องลองคุยกับเค้าดูก่อนเรื่องพฤติกรรมเค้า แต่ถ้ายังไม่ปรับปรุงตัวก็บอกคุณพ่อคุณแม่เลยดีกว่าค่ะ เพราะขืนทนอยู่ต่อไปจขกท.ก็จะยิ่งเครียดนะคะ เคลียร์ให้เรื่องมันจบๆเลยดีกว่าค่ะ จากคุณ : chanonmy เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 20:45:19

ความคิดเห็นที่ 69 ถึงไม่เป็นเอดส์  เราก็ไม่ชอบให้ใครมายกน้ำดื่มจากขวดเดียวกันกะเราง่ะค่ะ ไม่ได้เกลียดคนเป็นเอดส์   (แต่พูดถึงพฤติกรรมมากกว่า) ความเกรงใจ เป็นสมบัติ ของผู้ดี    (ยังใช้ได้เสมอ  หุหุ) จากคุณ : ณ เมืองเบียร์ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 03:53:50