ความคิดเห็นที่ 1 http://www.tuvayanon.net/2aminof.html เป็นความรู้เกี่ยวกับโปรตีนครับ ผมกำลังศึกษาอยู่เหมือนกัน เปิดกะลาได้ดีพอควร จากเมื่อก่อนที่เราเคยคิดว่า ทานอาหารครบ 5หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ  เราก็ไม่ต้องทานอาหารเสริม ซึ่งความจริงแล้ว มันไม่ใช่อย่างที่คิดไว้ ถ้าเราจะทานโปรตีนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน เราก็ต้องกินเนื้อสัตว์ในปริมาณมากพอดู ซึ่งก็ทำให้ได้รับไขมันจากเนื้อสัตว์มากขึ้นไปด้วย กลายเป็นว่าได้โปรตีนพอ แต่ไขมันเกิน โปรตีนจากถั่วเหลือง เป็นโปรตีนจากพืชเพียงชนิดเดียว ที่มีคุณสมบัติเหมือนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ และมีกรด อะมิโน ที่สำคัญ 9 ชนิด บางเจ้าเอามาใส่ขวดขาย ที่โฆษณาว่า ซอยเปปทีน หรือ เปปไทด์ นั่นแหละครับ ยังไงก็ลองอ่านฉลากแต่ละยี่ห้อ แล้วลองเปรียบเทียบกันดูว่า ทานยี่ห้อไหนคุ้มกว่ากันครับ จากคุณ : zareaL เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 19:19:12

ความคิดเห็นที่ 2 คห2 ขอบคุณครับ จากคุณ : โทนี่ (ChadChad) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 19:34:38

ความคิดเห็นที่ 3 เราไม่เห็นด้วยกับ คห 1 ถ้าเราเลือกกินเป็น เราได้โปรตีนเพียงพอแน่นอน ประการที่หนึ่ง โปรตีนไม่ได้มีแต่ในเนื้อสัตว์ ในข้าว ก็มีโปรตีน ในนม ในไข่ ก็มีโปรตีน ถ้ากินเนื้อสัตว์ ก็อาจเลือกเนี้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ เช่น ไก่ ปลา เป็นต้น ดังนั้น ถ้ากินเป็น อาหารที่เป็นโปรตีนเสริม ก็ไม่จำเป็นค่ะ ข้อมูลจากสถาบันวิจัยโภชนาการ มหิดล บอกว่า ในแต่ละวันคนเราในวัยทำงานจะต้องการโปรตีนวันละ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม  เช่น ถ้ามีน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม  จะต้องการโปรตีนวันละ 50 กรัม เท่านั้น ปริมาณโปรตีนในเนื้อวัว/หมู 100 กรัม จะมี 20 กรัม ปริมาณโปรตีนในเนื้อปลา 100 กรัม จะมี 16-30 กรัม ดังนั้น ถ้ากินเนื้อวันละ 100-200 กรัม (1-2 ขีด เองนะ) แล้วกินอาหารอื่น เช่น ข้าว ถั่ว เต้าหู้ ผัก ฯลฯ ก็ไม่ยากที่จะได้ปริมาณโปรตีนเท่าที่ต้องการ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 20:26:16

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเล่นเวท ลองคำนวณปริมาณไข่ ที่ผมต้องกินต่อวัน 24-25 ฟอง เกือบ 1 ถาด เชียวครับ ตัวเลขนี้ คิดจากความต้องการโปรตีน 2 กรัม/ นน.ตัว 1 กก. ผมน้ำหนัก 90 กก. ต้องการปริมาณโปรตีน = 180 กรัม ไข่ไก่#0 1 ฟอง มีโปรตีน 7 กรัม (ไข่ขาวเป็น pure protein) จะต้องกิน 180/7 = 25ฟอง ถ้ากินเนื้อไก่ (เนื้อไก่มีโปรตีนสูงกว่า เนื้อสัตว์อื่นๆ) เนื้อไก่ มีโปรตีน 20.2 %  (ไม่ถึง 100%) และ ไขมัน 12.60 % ผมจะต้องกินไก่วันละ 900 กรัม เกือบ 1 กิโลกรัม แล้วจะได้ไขมันเป็นของแถมอีก 12.60 % สมัยที่ผมยังเรียน ผมฝึกงานโรงถลุงเหล็ก ต้องออกแรงมาก ผมกินไก่ย่างวันละ 1-2 ตัว   จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 20:31:06

ความคิดเห็นที่ 5   ^ ^^ ^^^ คุณ TinyNu หาคำตอบได้หรือยัง เกี่ยวกับว่าทำไมต้องกิน 24-25 ฟองต่อวัน และทำไมมันเกี่ยวกับ Whey โปรตีน ถ้าหาคำตอบได้ จะรู้เหตุผลเอง ว่าทำไม พวกเพาะกาย ถึงเลือกกิน Whey กัน จากคุณ : เจริญ Porn เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 20:48:09 A:125.26.78.26 X: TicketID:248235

ความคิดเห็นที่ 6 ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับ คห. 3 ที่พูดว่า "ถ้าเราเลือกกินเป็น เราได้โปรตีนเพียงพอแน่นอน" ผมเข้มงวดถึงกับ ชั่ง นน. อาหารเชียวนะ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 20:50:05

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ TinyNu หาคำตอบได้หรือยัง เกี่ยวกับว่าทำไมต้องกิน 24-25 ฟองต่อวัน และทำไมมันเกี่ยวกับ Whey โปรตีน >>>>>>>>>>> ขอบคุณ คุณเจริญ Porn มาทันเวลา ผมดูจาก ปริมาณเนื้อไก่ ที่ผมต้องกินจำนวนมาก และยังได้ของแถม "ไขมัน" ส่วนเกิน ผมคิดว่า ... กิน Whey โปรตีนจะลงตัวกว่า ... ไม่ทราบจะถูกไหม ? แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 53 20:54:59 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 20:53:10

ความคิดเห็นที่ 8 อกไก่ คุณซัดหนังด้วยหรือเปล่า ไขมันไม่น่าจะถึง 12 % นะ จากคุณ : bankpakim เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 21:09:52

ความคิดเห็นที่ 9 คห 6 เพราะคุณเล่นเวทไง ข้อมูลที่อ้างถึง ใช้สำหรับคนที่มีกิจกรรมปรกติ รักษาปริมาณกล้ามเนื้อให้คงที่ ไม่ใช่นักเล่นเวทที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ ปล. เราไม่คิดว่า แฟน จขกท เป็นคนที่เล่นเวทนะ แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 53 21:50:58 จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 21:38:29

ความคิดเห็นที่ 10 คือแฟนผมเค้าปฎิเสธคนไม่เป็น ญาติ เค้าเป็นพวกขายตรง เค้าเลยช่วยซื้อ แล้ว บอกให้ ผมกิน ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าจะกินไป เพื่ออะไร ในความคิดผม ไม่ต้อง ซื้อให้มันแพง ยังไงก็ ขอบคุณทุกความคิด นะคับ จากคุณ : หิมะ ปังคุง เฉาก๋วย เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 22:04:46

ความคิดเห็นที่ 11 ต้องบอกแฟนล่ะครับ ว่าไม่ซื้อ เซ็งเนอะเจอแบบนี้ แต่เพื่อนสนิทหรือญาติชอบมาขายแม่ผมเหมือนกัน จากคุณ : bankpakim เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 22:24:59

ความคิดเห็นที่ 12   ทำไมคุณถึงคิดว่ากินไปเพื่ออะไร คุณลองสังเกตตัวเองนะครับว่าก่อนกินโปรตีนกับหลังกินโปรตีนจะแตกต่างกันมาก และในโปรตีนในอาหารเสริมมีกรดอะมิโนครบ 9 ชนิดที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่ร่างกายต้องการกรดอะมิโน 21 ชนิด ต่อวัน ที่เหลือ อีก 11 มาจากไหนก็จากรดอะมิโน 9 ชนิดที่กินเข้าไปสังเคราะห์ออกมาอีก 11 ชนิด กรดอะมิโนแต่ละชนิดทำงานต่างกีนนะครับ ต่อให้คุณทานอาหารครบ 5 หมู่ เลือกกินก็ตามคุณจะทำได้ทุกวันหรือเปล่าผมถามหน่อย? เพราะฉะนั้นการทานโปรตีนเสริมเป็นการเพิ่มโปรตีนให้เพียงพอในแต่ละวันที่คุณจะใช้ เพราะมากไปไม่ได้ทำให้อ้วน ไม่เหมือนคาร์โบไฮเดรต       คุณ *Cookies* ครับถ้าคุณไม่ได้ศึกษามาตลอดอย่าตอบมั่ว ๆ ครับ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจอยู่แล้ว ยิ่งทำให้เขางงเข้าไปอีก จากคุณ : petertan (petertan2523) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 22:27:04

ความคิดเห็นที่ 13 อาหารเสริม มีตังก็ซื้อกิน ไม่มีก็ไม่ต้องกิน ไม่ได้จำเป็นอะไรขนาดนั้น จากคุณ : bankpakim เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 23:18:10

ความคิดเห็นที่ 14   เอ้า ใจเย็น ๆ กันครับ ผมเห็นคุณ *Cookies* ตั้งแต่แรกแล้ว ก็ไม่อยากไปว่าอะไรเค๊ามากมาย เพราะที่เค๊าว่ามา มันมีส่วนถูกต้องอยู่เหมือนกัน แต่นั่น มันสำหรับคนธรรมดา ที่ไม่ได้มีกิจกรรมใด ๆ น่ะ นั่นถูกต้อง เพียงพอแล้ว แต่สิ่งที่คุณ *Cookies* ควรจะทราบไว้ ก็คือเรื่องของกิจวัตรประจำวันของทุก ๆ คน ตามที่คุณ TinyNu และคุณ petertan2523 ว่าไว้นั้น คุณควรจะเอามาคิดตามด้วย ซึ่งสำหรับคุณ TinyNu นั้นแน่นอน เค๊าเล่นกล้าม เล่นเวท และอาจจะมีการควบคุมน้ำหนักด้วย ฉะนั้น เค๊าจึงต้องกินตามแบบของเค๊า และมีการคำนวณน้ำหนักอาหาร และสำหรับคุณ petertan252 ที่พูดเอาไว้น่ะ เป็นเรื่องของกิจวัตรประจำวันซึ่งก็เป็นความจริงครับที่ว่าคนเมือง ไม่สามารถทำได้อย่างที่คุณ *Cookies* นำเสนอได้หรอกครับ ผมกล้าท้าพนันเลยว่า คนเมืองทั้งหลายนั้น คงไม่มีใครที่ได้ทานสเต็กทุกวัน และไม่มีใครได้ทานโปรตีนจำนวนเท่ากับที่คุณว่ามาได้หรอกครับ บางมื้อก็กระเพราไก่+ไข่ดาว บางมื้อก็ข้าวขาหมู บางมื้อก็ไก่ทอด KFC บางมื้อก็ Pizza โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ขนาด 100-200 กรัมที่คุณว่ามาน่ะ ถ้าหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้ว แม่ค้าเค๊าสามารถทำผัดกระเพราราดข้าวได้ประมาณ 10-15 กล่องนะครับ คิดดูว่าคุณสามารถรับโปรตีนในแต่ละวันให้เพียงพอตามที่ว่ามาได้หรือไม่ ซึ่งมันเป็นที่มาของอาหารเสริมจำพวกโปรตีนหลากหลายยี่ห้อ ทั้ง แอมเวย์ นูสกิน ฯลฯ อะไรที่เป็นขายตรงทั้งหลายนั่นแหละ และที่น่าขำที่สุดก็คือ แทบจะทุกตัว จะมีส่วนผสมมาจาก Whey ที่พวกนักกล้ามเค๊ากินกันทั้งนั้น บางยี่ห้อก็เอาโปรตีนจากถั่วเหลืองสกัด ซึ่งมีราคาถูกกว่า Whey และมีผลรวนระบบฮอร์โมนต์เพศชายในระหว่างที่ได้อย่างรับต่อเนื่อง นำมาผสมแล้วขายแพงกว่า Whey ที่พวกนักกล้ามกินอีก 3-4 เท่าตัว ใครผิด ใครถูก มีไหมเนี่ย เพราะผมดูแล้ว มันไม่มีใครพูดมาผิดเลย ไม่รู้จะแย้งกันไปทำไม ก็มันถูกกันหมดทุกคน ที่ผิดก็คือเรื่องนอกเหนือจากประเด็นหลักทั้งสิ้นเลย ตลกดี เรื่องของสารอาหารจากโปรตีน เป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนอยู่เหมือนกันครับ แต่ถ้าเข้าใจมันได้ ก็สามารถดึงประสิทธิภาพของมันออกมาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ============================== คุณ TinyNu ตาม คห.7 เข้าใจถูกต้องแล้วครับ และฝากไว้อย่างหนึ่ง เห็นคุณกังวลเรื่องไข่ 24-25 ฟองตั้งแต่กระทู้ก่อนเข้าพรรษาโน่น (พอดีผมออก ตจว. กลับมาอีกทีกระทู้ลอยไปไกลแล้ว เลยไม่รู้จะตอบอย่างไร) ที่จะบอกก็คือ Whey มันสร้างมาเพื่อฃดเชยสิ่งที่เราไม่สามารถยัด (ขอใช้คำว่ายัดนะครับ) อาหารเข้าไปจนถึงขีดที่มันควรจะได้รับตามวัดถุประสงค์ของแต่ละคน คือถ้าคุณ TinyNu จะกินไข่ 24-25 ฟองใน 1 วันได้ไหม มันก็ได้เหมือนกันครับ แต่ว่ากระเพาะของเราจะรับหรือเปล่าล่ะ กินไก่ กินเนื้อให้ได้ตามนั้น + ไข่เข้าไปทำได้ไหม มันก็ทำได้นะ จุกไปเลยทั้งวัน วันรุ่งขึ้นส้วมพังกันไปข้างหนึ่งเลย ไหนจะไขมัน ที่ผสมมาในอาหารที่เรากินเข้าไปอีก ตามที่คุณเข้าใจนั่นแหละ ============================== คุณ จขกท. คงจะรู้แล้วนะครับ ว่ากินไปเพื่ออะไร ส่วนที่ว่า แพงแสนแพงนั้น ให้แม่ทูลหัวของคุณ มาอ่านกระทู้นี้ด้วยนะครับ หมดกระปุกนี้ คราวหน้าก็ไปหา Whey ของนักกีฬามากินได้เลย ปริมาณที่นักกีฬาเค๊ากินกัน ปกติก็ตื่นเช้า 1 Scoop ระหว่างวันอีกมากมาย หลังออกกำลังกายอีก 1-2 Scoop ก็ไม่ต้องไปกินตามนักกีฬา กินมันแค่วันละ 0.5 Scoop ก็ได้โดสเท่ากับที่บอกไว้ข้างขวดของพวกขายตรงแล้วครับ จากคุณ : เจริญ Porn เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 00:30:14 A:125.26.82.193 X: TicketID:248235

ความคิดเห็นที่ 15 เดี่ยวมาร่ายยาวให้ฟัง รอซัก 1-2 ชม นะ จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 00:46:36

ความคิดเห็นที่ 16 ก่อนใครจะตอบหรือแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้ ช่วยแสดงความบริสุทธิ์ใจ... โดยการแสดงตนว่า ตนเองเป็นคนขายอาหารเสริมโปรติน หรือมีส่วนได้เสียกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรือไม่ คนอ่านจะได้ใช้วิจารณาญาณในการอ่านแต่ละความเห็นได้เหมาะสมยิ่งขึ้นครับ จากคุณ : พารามีบ้า เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 00:55:08

ความคิดเห็นที่ 17 ความต้องการโปรตีนของร่างกาย ในทางการแพทย์ อันที่จริงต้องบอกว่า ในทางชีววิทยา จากการศึกษาเราพบว่า มนุษย์มีความต้องการโปรตีนที่แตกต่างกัน โดยดูจาก วัย เพศ และ สภาวะ หรือ กิจกรรมที่ทำ ยกตัวอย่างง่ายๆ วัยเด็กต้องการโปรตีนสูงที่สุด วัยรุ่นต้องการโปรตีนสูง แต่น้อยกว่าเด็ก ผู้ใหญ่ต้องการโปรตีนเพียงพอให้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เพศชายต้องการโปรตีนมากกว่าหญิงนิดหน่อย แต่ไม่เป็นสาระอะไร ผู้ป่วยที่โดนน้ำร้อนลวกมา ย่อมต้องการโปรตีนซ่อมแซมผิวหนังมากกว่า คนที่ป่วยจากการมีไข้ คนที่ออกกำลังกายย่อมต้องการโปรตีนมากกว่าคนปรกติเพื่อใช้ในการ สร้างและ ซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ดีไม่ดีต้องเอามาใช้สร้างพลังงานให้ด้วย ความต้องการโปรตีน อันที่จริงมีสมการคำนวณซับซ้อนครับ แต่ที่ใช้กัน ทุกวันนี้มันเป็นการประเมินง่ายๆ คือ ใช้ค่า 0.8 - 2.0 คูณกับน้ำหนักตัว ผู้ใหญ่ทั่วไปต้องการโปรตีน 0.8 กรัม / กก ก็เพียงพอกับชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยโดนน้ำร้อนลวกไป 30% ของร่างกาย ต้องการโปรตีนเพิ่มเป็น 1.5 กรัม/กก ผมเองไม่รู้ที่มาหรอกว่า ทำไมนักกล้ามต้องทานโปรตีนสูงขนาด 2.0 กรัม / กก เพราะตำราเล่มกล้ามที่ไหน ก็ชอบยกตัวเลขนี้ แต่ไม่มีที่บอกเลยว่า ทำการวิจัยในอะไรมา แต่ถ้าจะให้เดา คงเพราะกลัวจะขาดกรดอะมิโนที่จำเป็น แล้วกล้ามเนื้อจะไม่สร้าง ก็อืม 2 กรัม / กก เนี่ยไม่เยอะอะไรมากมายนักหรอก ผมเองยังกินได้สบายๆ ทีนี้รู้แล้วคิดยังไง เห็นหลายคนคิดเป็นแล้ว แต่ดูไปดูมา ก็เหมือนจะไม่ถูก !! ถ้าคนน้ำหนักปรกติ เอาตัวเลขคูณน้ำหนักไปเลย ผลที่ได้จะออกมาเป็นกรัม ถ้าเป็นคนน้ำหนักมากกว่าปรกติ เช่น อ้วน หรือ ผอมมาก ให้ใช้น้ำหนักมาตรฐาน มันจะมีสูตรคำนวณอยู่ แต่ยุ่งมากมาย เอาง่ายๆ ก็เอาตัวเลข 19 - 23 ไปคูณกับ ส่วนสูงเป็นเมตรกำลังสอง เช่น นายเอ สูง 180 น้ำหนักมาตรฐานควรจะอยู่ที่ (1.8^2) x 19 ถึง (1.8^2) x 23 จะเป็นตัวเลขใดๆ ก็ได้ในช่วงนี้ถือว่าโอเคหมดสำหรับนาย เอ ทีนี้ถ้าคนเล่นเวท น้ำหนักมันต้องเกินมาตรฐานอยู่แล้ว แต่เพิ่มที่มวลกล้ามเนื้อ ก็เอาน้ำหนักจริงๆ ที่ชั่งได้นั่นแหละ คูณไปเลย เพราะน้ำหนักของคุณสะท้อน ปริมาณกล้ามเนื้อมากกว่าไขมันอยู่แล้ว แต่ถ้าคนเริ่มเล่น พุงยังลงอยู่ ยังแนะนำให้ใช้น้ำหนักมาตรฐานไปก่อนนะ เดี่ยวจะโอเวอร์ ตั้งแต่แรกมันจะไม่ฟิตเอานะสิ จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 01:16:47

ความคิดเห็นที่ 18 คำนวณแคลอรียังไง คุณต้องการพลังงานเท่าไหร่ในแต่ละวัน อันที่จริงต้องดูรายคน ไอ้ที่บอกต้องการวันละ 2000 โดยเฉลี่ยนะ โอเวอร์ไปเยอะมาก สูตรคำนวณง่ายๆ ที่จำได้ง่าย และค่อนข้างแม่นยำคือ Rule of Thumb ซึ่งมีตัวเลข 20-25-30-35 กิโลแคลอรี ต่อ น้ำหนักตัว 1 กก คิดแบบโปรตีนเลย คือ ถ้าไม่อ้วน ใช้น้ำหนักจริง ถ้าอ้วนหรือผอม ให้ใช้ นน มาตรฐาน นักกีฬา นักกล้าม ใช้น้ำหนักจริงไปเลย 20 ใช้ตอนลดน้ำหนัก 25 ใช้ในคนปรกติ ผู้หญิงมักอยู่ 25-20 เล่นกีฬาเก่งๆก็ 30 30 ใช้คนทำอะไรว่องไว กระฉับกระเฉง ออกแรงเยอะ นักกีฬาเบาๆ 35 ใช้กับนักกีฬาหนัก และ กรรมกรแบกหาม ถ้านายเอ คนตะกี้ หนัก 70 กิโลเป็นนายแบบหล่อร่างบาง แต่แน่นเล่นเวท ใช้ค่า 30 ก็พอ นั่นคือต้องการ 2100 กิโลแคลอรีโดยประมาณ จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 01:29:09

ความคิดเห็นที่ 19 คนเราได้พลังงานจากอะไรบ้าง แหล่งพลังงานของมนุษย์มี 3 อย่าง ตามตำราตั้งแต่ระดับชั้นประถมคือ โปรตีน 4 กิโลแคล ต่อ กรัม ไขมัน 9 กิโลแคล ต่อ กรัม คาร์โบไฮเดรต หรือ คาร์บ 4 กิโลแคล ต่อ กรัม ซึ่งทั้ง 3 อย่างไม่ว่าจะกินอะไรมาก ก็แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ทั้งหมด และ แน่นอน กลายเป็นไขมันได้หมด ไม่มีทางที่จะกินโปรตีนเยอะๆ แล้วไม่อ้วน เพราะกินแล้วกลายเป็นไขมันได้เมื่อ ร่างกายใช้ไม่หมด ถ้าสนใจจะดู ผมจะแสดง amino acid conversion pathway สำหรับการแปลง เป็นไขมันให้ดู แต่ถ้าไม่สนใจจะดูก็จำไว้เลยว่า ทั้งโปรตีน และ คาร์บ ร่างกายเก็บในรูปไขมันได้ทั้งหมด จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 01:34:14

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยครับ ว่าโปรตีนกลายเป็นไขมัน บางคนยังคิดอยู่เลยว่าโปรตีนทานได้ไม่จำกัด จากคุณ : bankpakim เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 01:52:18

ความคิดเห็นที่ 21 ดูตัวอย่างการคำนวณ ของ คุณ TinyNu กัน ตัวอย่างว่า ความคิดเห็นที่ 4 ผมเล่นเวท ลองคำนวณปริมาณไข่ ที่ผมต้องกินต่อวัน 24-25 ฟอง เกือบ 1 ถาด เชียวครับ ตัวเลขนี้ คิดจากความต้องการโปรตีน 2 กรัม/ นน.ตัว 1 กก. ผมน้ำหนัก 90 กก. ต้องการปริมาณโปรตีน = 180 กรัม ไข่ไก่#0 1 ฟอง มีโปรตีน 7 กรัม (ไข่ขาวเป็น pure protein) จะต้องกิน 180/7 = 25ฟอง ถ้ากินเนื้อไก่ (เนื้อไก่มีโปรตีนสูงกว่า เนื้อสัตว์อื่นๆ) เนื้อไก่ มีโปรตีน 20.2 %  (ไม่ถึง 100%) และ ไขมัน 12.60 % ผมจะต้องกินไก่วันละ 900 กรัม เกือบ 1 กิโลกรัม แล้วจะได้ไขมันเป็นของแถมอีก 12.60 % สมัยที่ผมยังเรียน ผมฝึกงานโรงถลุงเหล็ก ต้องออกแรงมาก ผมกินไก่ย่างวันละ 1-2 ตัว คุณ TinyNu หนัก 90 กิโลกรัม ต้องการโปรตีน 180 กรัมต่อวัน อ้างอิงจากที่ว่า ไขไก่เบอร์ 3, 1 ฟองโปรตีน 7 กรัมโดยเฉลี่ย ไม่ใช่เบอร์ 1 นะ ต้องเบอร์ 3 ใช้กันเป็นมาตรฐานในทุกโรงพยาบาลเลย ไข่ไก่เบอร์ 1 มันแพง โปรตีนเกินจากที่คำนวณด้วย ไม่นิยมใช้กันหรอก ถามโภชนาการ รพ ไหนก็ได้ ดีไมดี ถามแม่ครัวบาง รพ ยังรู้เลย แต่ถามหมออาจไม่ค่อยรู้เพราะไม่ชินงานครัว แต่ผลการคำนวณถูกต้องนะครับ ผมเช็กให้แล้ว แถมเช็กเนื้ออกไก่ และ หมูเนื้อแดงให้ด้วย จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 01:54:02

ความคิดเห็นที่ 22 คห.20 ไม่ต้องรอให้คุณเห็นด้วย มันก็เป็นตามธรรมชาติของมันนะครับ อิอิ ยังไม่นอนอีกหรือครับ ? จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 01:54:57

ความคิดเห็นที่ 23 อิอิ ยังหรอกครับ ที่นี่พึ่งจะ สามทุ่มครับ  ขอบคุณที่มาแบ่งปันความรู้นะครับ จากคุณ : bankpakim เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 02:01:40

ความคิดเห็นที่ 24 <อันนี้ขอแก้ไขนะครับ เข้าใจละว่า ตัวเลขที่คุณ TinyNu อ้างมาได้ัยังไง> ทำงานกับข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตนี่ ไม่มีหน่วยบอกอะไรซักอย่าง ต้องนั่งเดาสุ่มจริงๆ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 53 02:10:34 จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 02:05:06

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้างั้นผมคงต้องถามคุณ TinyNu กลับครับว่า แล้วคุณทานอะไรบ้าง ถึงจะได้โปรตีนครบ 180 กรัม ตามที่คุณต้องการครับ คือ สงสัยหนะคับ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เพราะถ้าคุณทานเฉพาะโปรตีนให้ได้ 180 กรัม เพิ่งจะได้พลังงานแค่ ~800 Kcal เอง คนหนัก 90 เนี่ย ต้องการ 2100 ขึ้นไปทั้งนั้นที่เหลือ คุณกินอะไรครับ ? --------------------------------------------------------------------------------- ส่วนประเด็นเรื่อง เวย์ โปรตีน ผมก็ชอบครับ ชอบให้กินด้วย เพราะราคามันถูก ถ้าต้องทานโปรตีน ปริมาณสูง เวย์เป็นตัวเลือกที่ดีครับ เพราะมันถูก และถูกกว่าโปรตีน ของยี่ห้อขายตรงครับ จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 02:15:24

ความคิดเห็นที่ 26 ส่วน คห ที่ 1 นั่นก็เข้าใจผิดเหมือนกัน คนเราโอกาสขาดสารอาหาร โดยเฉพาะกลุ่ม โปรตีน คาร์บ ไขมันเนี่ย แทบไม่มีเลย โดยเฉพาะคนในเมืองหลวง ถ้าคุณขาดโปรตีนจริง คุณจะต้องมีภาวะ kwashiorkor ออกมาให้เห็นแน่นอน ซึ่งเมื่อแพทย์เห็นตัวคุณปุ๊บ จะรีบจับคุณไปทำการรักษาในทันที เพราะฉะนั้นขอให้เข้าใจด้วยว่า คุณไม่เคยขาดโปรตีน โดยเฉพาะในคน ปรกติ ไม่เคยมีใครขาดโปรตีน แม้จะกินแต่พืชก็สามารถได้โปรตีนได้ครบ ถ้าิเลือกกินอย่างถูกวิธี กรณีนักกล้ามนั้น ก็ไม่ถือว่าขาด เพียงแต่โปรตีนไม่พอจะเอาไปสร้างกล้าม เนื้อเพิ่มให้มันใหญ่ขึ้น ไม่จัดว่าเป็นการขาด แค่ไม่พอกับวัตถุประสงค์ของ เค้าเฉยๆ ครับ อีกอย่าง ร่างกายคุณต้องการ "ไขมัน" อยู่แล้ว อย่างน้อยก็เพื่อ "ละลายวิตามิน" บางตัวให้กับคุณ และ กรดไขมันที่จำเป็นนั้น มีอยู่หลายชนิด ดังนั้นการไม่ทานไขมันเลย ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องครับ มันจะเข้าตำรา ปลาสลิด คือ หุ่นดีน่ากิน แต่หน้าตาไม่ผ่องใสครับ จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 02:38:23

ความคิดเห็นที่ 27 >ความคิดเห็นที่ 12   [แจ้งลบ]   >ทำไมคุณถึงคิดว่ากินไปเพื่ออะไร คุณลองสังเกตตัวเองนะครับว่าก่อน >กินโปรตีนกับหลังกินโปรตีนจะแตกต่างกันมาก และ >ในโปรตีนในอาหารเสริมมีกรดอะมิโนครบ 9 ชนิดที่ร่างกายสร้างเองไม่ >ได้ แต่ร่างกายต้องการกรดอะมิโน 21 ชนิด ต่อวัน ที่เหลือ อีก 11 มาจาก >ไหนก็จากรดอะมิโน 9 ชนิดที่กินเข้าไปสังเคราะห์ออกมาอีก 11 ชนิด >กรดอะมิโนแต่ละชนิดทำงานต่างกีนนะครับ ตรงนี้ไม่ถึงกับผิด แต่ก็ไม่ถูก ร่างกายต้องการกรดอะมิโน 9 ชนิดในภาวะปรกติ และไม่จำเป็นต้องการเพิ่มมากกว่านี้ครับ เราพบ condition เพียงแค่บางอย่างที่ร่างกายจะต้องการกรดอะมิโน ไม่จำ เป็นอื่นๆ เพียงไม่กี่กรณี เช่น โดนไฟไหม้ไป 50% ของร่างกาย เป็นต้น แบบนี้เท่านั้นครับถึงต้องการกรดอะมิโนเพิ่มจาก 9 ชนิด >ต่อให้คุณทานอาหารครบ 5 หมู่ เลือกกินก็ตามคุณจะทำได้ทุกวันหรือ >เปล่าผมถามหน่อย? ถ้าทำไม่ได้วันเดียว ก็ไม่ถึงกับเสียชีวิตหรอกครับ ขอให้ทำได้ 4-5 วัน ใน 7 วันก็เพียงพอแล้ว ทีคุณยังต้องกินโปรตีนทุกวันเลย มีลืมกินบ้างไหมหละครับ แล้วเป็น อย่างไรบ้าง ? >เพราะฉะนั้นการทานโปรตีนเสริมเป็นการเพิ่มโปรตีนให้เพียงพอใน >แต่ละวันที่คุณ จะใช้ เพราะมากไปไม่ได้ทำให้อ้วน ไม่เหมือนคาร์โบไฮเดรต ผิดเต็มๆ >คุณ *Cookies* ครับถ้าคุณไม่ได้ศึกษามาตลอดอย่าตอบมั่ว ๆ ครับ >คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจอยู่แล้ว ยิ่งทำให้เขางงเข้าไปอีก >จากคุณ : petertan (petertan2523) ผมว่า คุณเองก็สมควรไปศึกษาใหม่ด้วยนะครับ ทำความเข้าใจพื้นฐาน ก่อนเลยก็ดีนะครับ จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 02:45:33

ความคิดเห็นที่ 28 ตอบ คห 12 ยอมรับว่า เราไม่ใช่ dietitian ไม่ใช่ nutritionist แต่ก็ทำงานร่วมกันมาเหมือนกัน และได้คุยกันเรื่องปริมาณโปรตีนปกติที่เราควรกิน และตลอดมาพยายามหาความรู้อยู่ค่ะ เพื่อเอาไปใช้ในงาน แม้ว่า อาจจะเข้าใจอะไรผิดไปบ้าง แต่ก็พยายามที่จะให้ความเห็นที่ดีที่สุดที่เราทำได้ อีกอย่างหนึ่ง เราถือว่า เราไม่ใช่อาจารย์สอนในคลาสเรียน ที่นี่เป็นเวปบอร์ด คนอ่านก็ต้องชั่งใจพิจารณาสิ่งที่ถูกเขียนขึ้นและได้อ่านน่ะแหละ This is just a piece of information. คนที่ concern เรื่องอาหารการกิน และพยายามเลือกอาหารกินให้ได้ 5 หมู่เป็นประจำวัน ไม่จำเป็นต้องกินโปรตีนเสริมนะ จาก คห 14 ถ้ากินข้าวขาหมู สั่งเนื้อไม่เอาหนัง เราว่า ก็ได้โปรตีนระดับดีทีเดียวนะ :) และยังได้กินในมื้ออื่นๆอีกตั้งสองมื้อ **** ขอบคุณคุณ V--bank--V ที่มาให้ข้อมูลค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 53 15:25:10 จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 06:50:37

ความคิดเห็นที่ 29 คห. 21 คุณ TinyNu หนัก 90 กิโลกรัม ต้องการโปรตีน 180 กรัมต่อวัน อ้างอิงจากที่ว่า ไขไก่เบอร์ 3, 1 ฟองโปรตีน 7 กรัมโดยเฉลี่ย ไม่ใช่เบอร์ 1 นะ ต้องเบอร์ 3 ใช้กันเป็นมาตรฐานในทุกโรงพยาบาลเลย ไข่ไก่เบอร์ 1 มันแพง โปรตีนเกินจากที่คำนวณด้วย ไม่นิยมใช้กันหรอก >>>>>>>>>>>>>>>> คห. 21 จะมายุ่งกับไข่ของผมทำไม  ?? ผมใช้ไข่เบอร์ 0   ผมเข้มงวดพอสมควร ผมชั่งน้ำหนัก จริงๆ อิอิ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 12:57:28

ความคิดเห็นที่ 30   คห.21 คนเล่นเวท เค๊ารู้กันนะ ว่าไม่กินไข่แดง ปริมาณประมาณการของโปรตีนจากไข่ขาว ของไข่ไก่เบอร์ 0 คือประมาณ 6-7 กรัมเด้อ ที่เค๊าพูดกันเรื่องไข่เบอร์ 0 โปรตีน 7 กรัม ก็มาจากการกินแต่ไข่ขาวของพวกเล่นเวทนะครับ เข้าใจใหม่ ๆ อิอิ เออ เรื่องของโปรตีนที่เปลี่ยนเป็นไขมัน สามารถไหม แน่นอน สามารถครับ แต่กระบวนการในร่างกายมันจะยากกว่าการที่แปลงจากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นไขมันเน้อ คือมันมีโอกาสถูกนำไปใช้ในสภาวะการซ่อมแซม และป้องกันการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อในการไดเอ็ด พวกเล่นเวทและไดเอ็ดถึงนิยามอัดโปรตีนกัน ;) จากคุณ : เจริญ Porn เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 15:23:22 A:125.26.78.26 X: TicketID:248235

ความคิดเห็นที่ 31 ความรู้ความรู้ อิอิ กอบโกยข้อมูลก่อน ถามคุณ Bank หน่อยนะครับ 1.ความเครียดของเรา มีผลทำให้ ร่างกายต้องการโปรตีนเพิ่มรึเปล่าครับ ถ้าต้องการ เราควรต้องการในปริมาณเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ครับ 2.ถ้าปกติทำงานธรรมดาแล้ว ต้องทำงานพิเศษเพิ่มด้วย เราควรต้องการโปรตีนเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ครับ 3.ถ้าคนขาดโปรตีนสัก 5-10% ของปริมาณปกติที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน นานๆเข้า จะมีผลอย่างไรบ้างครับ ไม่เอา kwashiorkor เน้อ อันนั้นมันขาดขั้นรุนแรง แล้ว ขอเมล์เป็นการส่วนตัวได้ไหมครับ เผื่อผมจะแอด msn ไว้คุยด้วย ^^ จากคุณ : zareaL เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 18:14:35

ความคิดเห็นที่ 32   ผมว่านะคุณอิงหลักวิชาการมากไป เคยลองกับตัวเองหรือยัง บางอย่างคุณรู้ แต่คุณเคยลองปฏิบัติหรือยัง ผมก็เล่นเวทคนเล่นเวทเขารู้กันหมดควรจะใช้โปรตีนขนาดไหน ปริมาณเท่าไร ถ้าคุณไม่เคยเล่นเวทอย่าแสดงความคิดเห็นเพราะคนเล่นเวทเขาก็ศึกษาของเขาอยู่แล้ว การที่คุณออกมาพูดหลักวิชาการ โดยที่คุณไม่เคยลองก็ไม่มีทางรู้หรอก คุณTinyNu เขาเล่นเวทเขาก็แสดงความคิดเห็นคนเล่นเวท แต่ผมทนไม่ได้คุณโจมตีเกินจริงเกินไป คุณ V-bank ถ้าให้ผมเดานะคุณต้องมีปมด้อยอะไรสักอย่าง ถ้าไม่เตี้ยก็อ้วน หรือเห็นใครดีกว่าไม่ได้ต้องออกมาโต้แย้ง กระทู้แสดงความคิดเห็นไม่มีผิดไม่มีถูก ผมนับถือที่คุณนั่งคำนวณพลังงาน แคลอรี แล้วไง คุณคิดว่าคนเล่นเวทเขาไม่รู้เหรอ เรื่องเนี้ย          อีกอย่างการที่คุณแจ้งให้ลบกระทู้ผม คุณมีสิทธิ์อะไรครับ ผมแสดงความคิดเห็นเป็นกลางตามหลักวิชาการ ผิดตรงไหน ผมก็ไม่เคยเห็นใครกินเวย์ แล้วอ้วนเป็นหมู มีแต่กล้ามเนื้อทั้งนั้น ผมว่านะคุณทำตัวให้เป็นกลางหน่อย นี่มันกระทู้สาธารณะ นักวิชาการต่างกับคนทำงานยังไง นักวิชาการเก่งแต่ในตำรา แต่คนลงมือทำรู้มากว่าในตำรา เอาเป็นว่าถ้าคุณไม่เคยเล่นเวทขอให้ลองดู คุณจะรู้ว่าพลังงานที่คุณ TinyNu บอกมามันจำเป็นต่อนักเล่นกล้ามจริง ๆ          ส่วนคนทั่วไปนะครับถ้าคุณคิดว่าทุกวันนี้คุณได้รับสารอาหารเพียงพอก็ไม่ต้องทานอาหารเสริมหรอกครับ แต่ถ้าคิดว่าไม่พอแนะนำให้ทานนะครับ          ***ถ้าคุณไม่อยากเจ็บป่วย ไม่อยากเป็นโรค ไม่อยากไม่สบายตอนโดนฝนบ่อย ๆ ไม่อยากเป็นภูมิแพ้ ฯลฯ ทานสารอาหารให้ครบนะครับ แล้วร่างกายคุณจะแข็งแรง และอย่าลืมออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ***         (ขอบคุณ คุณเจริญ Porn ที่เข้าใจความคิดผมไม่เหมือนคนอื่น) จากคุณ : petertan (petertan2523) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 20:27:37

ความคิดเห็นที่ 33 29 - 30 "คนเล่นเวทเค้ารู้กัน" เค้าไปเอาความรู้มาจากไหนครับ ไม่ใช่ คนเล่นเวท ที่เรียนวิทยาศาสตร์การกีฬา ไปเอาความรู้ทาง โภชนาการมาใช้หรือครับ ผมพอจะเข้าใจแล้วว่าที่มีคนเตือนว่าอย่ายุ่งกับพวก นักกล้าม นี่เพราะอะไร แต่ก็ช่างเถอะ ผมถือว่าเอาความจริงมาพูดแล้วกันใครสนใจจะฟัง จะเชื่อก็ตามใจนะครับ ถ้าลองเปิด Nutrient Composition Table กับ Food Edible Portion Table ดูแล้วจะเห็นว่า ไข่ไก่เบอร์ 1 นั้นมีไข่ขาวเพียง 42 กรัม และ โปรตีนในไข่ขาว 100 กรัมนั้นมีเพียง 10.1 กรัม / 100 กรัมของไข่ขาว เอาคณิตแบบเด็กประถมมาใช้จะเห็นเลยว่า ไข่ขาวของไข่ไก่เบอร์ 1 ให้โปรตีนแค่ 4.3 กรัม ไม่ถึง 7 กรัม แบบที่คุณอ้างหรอกครับ เพราะในความเป็นจริง โปรตีนในไข่ มันไปอยู่ ในส่วนไข่แดงเยอะ รวมถึงไขมันด้วย ซึ่งอันนี้พวกคุณเองก็คงทราบดี อยู่แล้วครับ แล้วการที่บอกว่า "ชั่งอาหารทานทุกวัน" มันไม่ได้ช่วยบอกอะไรได้นอก เสียว่า "คุณระมัดระวังปริมาณของอาหารที่ทาน" เท่านั้นเอง ส่วนคุณ เจริญพร ที่ว่า "แต่กระบวนการในร่างกายมันจะยากกว่าการที่แปลงจาก คาร์โบไฮเดรตไปเป็นไขมันเน้อ คือมันมีโอกาสถูกนำไปใช้ในสภาวะการซ่อมแซม และป้องกันการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อในการไดเอ็ด พวกเล่นเวทและไดเอ็ดถึงนิยามอัดโปรตีนกัน ;) " ผมก็ทราบดีครับ แนะนำให้กินอาหารโปรตีนสูงกับคนอยากลดน้ำหนักแทบทุก วันเช่นกัน เพียงแต่ต้องรู้ด้วยครับ ที่อัดเข้าไปหนะ เกินเมื่อไหร่ไม่ใช่ สักแต่ว่า อัดลงไป เท่านั้นเองที่อยากจะบอก แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 53 23:00:58 จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 22:56:49

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ petertan2523 ผมไปสั่งลบกระทู้คุณด้วยหรือครับ มีหลักฐานอะไรไหมครับ ที่ว่าผมสั่งให้ลบกระทู้ (หรือความเห็น) เพราะ เหมือนจะจำไม่ได้จริงๆ ว่าได้กดลบไป ถ้ามีหลักฐานมาให้ผมดู ผมจะขอโทษคุณใน ห้องนี้เลยก็ได้ครับ หรือ จะเจอกันข้างนอกแล้วให้ผมขอโทษก็ยินดีนะครับ อันนี้ ซีเรียสนะ เพราะจำไม่ได้จริงๆ ผมจำได้ว่า กดสั่งลบ คห โฆษณา ขายของไป อันสองอัน แต่ไม่น่าจะใช่ของคุณ เพราะที่คุณตอบ สาระมันก็มีอยู่ แต่ไม่ถูกทั้งหมดเท่านั้นเอง ผมลองกับตัวเองมาโดยตลอดเลยครับ ผมลอง Low Carb Diet ตั้งแต่ยังไม่เคยเรียน Nutrition ด้วยซ้ำ เปิดตำรา Dr.Atkin แล้วอ่านเอา ค้นหาจาก text อื่นๆ เพิ่มเติมด้วย จะเป็นอาหารแบบไหน ผมก็สามารถเตรียม และ ทานได้ อาหารโปรตีนสูง ไขมันต่ำมาก อาหารโปรตีนต่ำมาก พลังงานสูง อาหารจำกัดโซเดียม อาหารที่ให้ใยอาหารครบ 24 กรัม หรืออาหารปั่นเหลวแบบที่ให้ผู้ป่วยทาน อาหารที่ผมเตรียม สามารถให้ Dietitian / Nutritionist หรือ หมอที่มีความรู้ทางโภชนาการ คนไหนก็ได้ คำนวณปริมาณ โปรตีนได้ หรือแม้กระทั่งส่งวิเคราะห์ทางแล๊บก็ทำได้เช่นกันครับ ความรู้ที่ผมเรียน ส่วนใหญ่จะไม่เชื่อครับถ้าไม่ได้ลอง เหมือนกับที่ PT จะมาสอนผมเล่นเวท ผมบอกไม่เป็นไรเดี่ยวขอลอง กางตำราเล่นดู ไม่ได้จริงๆ ถึงจะถาม คำพูดที่บอกว่า "ถ้าคุณไม่เคยเล่นเวทอย่าแสดงความคิดเห็นเพราะคนเล่นเวทเขาก็ศึกษาของเขาอยู่" ผมก็คงต้องถามย้อนกลับไปว่า แล้วคนเล่นเวท ไปเอาความรู้ด้านนี้มาจากไหน มันใช่ความรู้ทางโภชนาการหรือป่าว ถ้ามันเป็นโภชนาการจริง สิ่งที่ผมพูดมาก็ควรจะถูกต้องเกือบทั้งหมดครับ ส่วนที่โจมตีบุคลิกภาพส่วนบุคคล หรือที่พวกผมเรียกกันว่า Ad Hominem แบบที่คุณว่าผมไว้ว่า คุณ V-bank ถ้าให้ผมเดานะคุณต้องมีปมด้อยอะไรสักอย่าง ถ้าไม่เตี้ยก็อ้วน หรือเห็นใครดีกว่าไม่ได้ต้องออกมาโต้แย้ง ผมไม่คิดว่า ผมจะเข้าข่ายใดๆ ที่คุณว่าครับ ผมก็เล่นเวท อาทิตย์ละ 3 วัน คาร์ดิโอทุกวัน ในภาพเป็นผล BIA ของผมล่าสุดที่มีแล้ว แต่เหมือนจะเก่าไปหน่อย วัดครั้งสุดท้ายก็ที่ Cawow นี่แหละครับ ก่อนที่เค้าจะยกเลิกให้บริการไป ถ้าดูค่า PBF, BMI ก็จะเห็นว่า ผมไม่เข้าข่ายใดๆ ที่คุณว่าครับ ที่ว่าทั้งอ้วน และ เตี้ย แม้จะสูงน้อยกว่ามาตรฐานชายไทยรุ่นใหม่ที่ 175 ซม ก็ตามครับ ส่วนเรื่องที่คุณรู้ แต่คนอื่นไม่รู้อย่างพวก คำนวณพลังงาน ผมก็นำมาเสนอให้ดูว่า ควรจะต้องคิดยังไง แต่จะให้อธิบายละเอียดก็เสียเวลามากไปอีก เนื้อหาก็จะเยอะแล้วคนก็ไม่อยากอ่าน ถ้าทำให้ผิดใจ อันนี้ต้องขอโทษจริงๆ แต่การให้ความเห็นที่ผิดๆ มันก็คือ การให้ข้อมูลที่ผิด ผมคิดว่าต้องระวังในส่วนนี้ให้มากๆ ครับ เพราะคนที่อ่าน คือคนที่ไม่รู้ และคนที่ไม่รู้ก็มักจะเชื่อโดยไม่ไตร่ตรอง ให้รอบด้านครับ จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 53 23:41:53

ความคิดเห็นที่ 35 ตอบ 31 ครับ >1.ความเครียดของเรา มีผลทำให้ ร่างกายต้องการโปรตีนเพิ่มรึเปล่าครับ >ถ้าต้องการ เราควรต้องการในปริมาณเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ครับ มีครับ ถ้าความเครียดของคุณหมายถึง emotional stress ก็จำเป็นในการสร้างสารสื่อประสาท ครับ แต่ปริมาณที่ต้องการเพิ่มมันดูน้อยมากๆ ครับ ไม่มีตัวเลขยืนยันออกมาว่า ควรจะต้องกินเพิ่มไหม เพียงแต่ว่าเรารู้ว่ามันต้องการเพิ่มแน่นอนครับ แต่ยังวัดค่าแน่นอนไม่ได้ >2.ถ้าปกติทำงานธรรมดาแล้ว ต้องทำงานพิเศษเพิ่มด้วย เราควรต้องการ >โปรตีนเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ครับ ทำงานธรรมดานี่ คือ งานอะไรครับ ผมว่าส่วนใหญ่จะต้องการพลังงานเพิ่มมากกว่า ถ้าจะดูว่า needs โปรตีนเพิ่มไหม ก็ต้องดูจากว่า มีการวัดค่า Nitrogen Balance ว่าเป็นลบ หรือไม่ ทำนองนี้ครับ >3.ถ้าคนขาดโปรตีนสัก 5-10% ของปริมาณปกติที่ร่างกายต้องการในแต่ >ละวัน นานๆเข้า จะมีผลอย่างไรบ้างครับ ไม่เอา kwashiorkor เน้อ >อันนั้นมันขาดขั้นรุนแรง ส่วนใหญ่ร่างกายเรามักจะมีการ สงวน และ ใช้ซ้ำๆ ในยามโปรตีนขาด แคลน ถ้าขาดโปรตีน 5-10% จากที่ต้องการ ก็มักจะเจอปัญหาเฉพาะใน เด็กเป็นส่วนใหญ่ จะเห็นได้จากการเจริญที่ลดลง แต่ในผู้ใหญ่ ถ้าเป็นคนมีกล้าม ก็จะเริ่มลีบลง แต่จะไม่ลีบลงมาก จะลงมาเพียงแค่ให้เหลือพอที่จะทำงานประจำวันของเขาได้ดี มีการสำรองโปรตีนในร่างกายลดลง โปรตีนที่ไม่จำเป็นต้องสร้าง ก็จะลดลงครับ แต่โดยส่วนใหญ่ โอกาสขาดโปรตีนนั้นค่อนข้างยากครับ เพราะว่า แค่กินโปรตีน 0.4 กรัม / กิโล โดยที่ให้พลังงานอย่างเพียงพอ ก็ยัง สามารถอยู่ได้ครับ โดยไม่มีปัญหาร้ายแรงอะไร muscle lose อย่างเดียวครับ จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 00:22:42

ความคิดเห็นที่ 36   V--Bank--V ครับ ทุกคนเค๊าก็เอามาจากเรื่องของ วิทยาศาสตร์การกีฬา ทั้งนั้นแหละครับ แล้วคุณนิยาม ไข่ไก่เบอร์ 0 ได้ไหม เห็นคุณคุยแต่ไข่ไก่เบอร์ 1 เค๊าพูดถึงไข่ไก่เบอร์ 0 กันนะ ตามท้องตลาดทั่วไป ไข่ไก่เบอร์ 0 ก็คือไข่ไก่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเบอร์ 1 ทุกน้ำหนัก คุณเคยเห็นไหม ไข่ไก่เบอร์ 0 ตอกออกมา 1 ใบเท่ากับ ไข่เบอร์ 3 ถึง 2 ใบน่ะ ซึ่งตรงนี้ เค๊าก็พากันคำนวณจากไอ้ตำราของคุณนั่นแหละ เทียบเป็นบัญญัติไตรยางค์เอากันเอง ในตำราคุณมันมีไหมล่ะ และผมก็ไม่อยากจะว่าคุณสักเท่าไหร่นะครับคุณ V--Bank--V เพราะคุณตอบคำถาม ข้อที่ 3 ไม่ถูกทั้งหมดนะ ดูให้ดี ๆ ที่ผมต้องเตือนเพราะผมเคยผ่านสภาวะข้อ 3 ที่คุณ บลา ๆ มาแล้ว ที่บอกว่าไม่มีผลน่ะ ไม่มีกะผีน่ะสิครับ คุณลองสร้างสภาวะขาดโภชนาการตามที่เค๊าจำลองสถานการณ์มาดูนะ แล้วสังเกตว่าเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่ระบบ Hormone ไปจนถึง Neuron System ไม่ใช่เอาแต่อ่านตำราแล้วมาพ่นโชว์ภูมิข่มคนอื่นแบบนี้ ขอเตือนคุณนะ รู้มาก ไม่ได้หมายความว่าจะเอามาข่มกัน บางครั้งเค๊ารู้ แต่เค๊าไม่เอามาพูดทั้งหมดก็มี อย่าดูถูกดูถุ๋ยกันให้มากครับ ของการตอบกระทู้เรื่องนี้ คุณคิดดูว่า เดือนหนึ่งมีกระทู้เรื่องโภชนาการ กับการออกกำลังกายเกิดขึ้นเท่าไหร่ จะมาให้ตอบแบบ 4 หน้ากระดาษฟูลสแก็บแบบคุณ คุณว่ามันได้ประโยชน์อะไรกับการเล่าอะไรเย่นเย้อ สู้คัดย่อเอาเฉพาะเรื่องจำเป็น ๆ มาเล่าสู่กันฟัง แต่ถ้าคุณมองว่า ปนิธานการตอบกระทู้ของคุณ ว่าต้องเอาทุกเม็ด ไม่ต้องคัดย่อ ผมก็ขออัญเชิญคุณ มาเป็นกูรู ช่วยตอบกระทู้แบบนี้ทุกเม็ดด้วยเลยละกัน ผมเชื่อว่า มีสมาชิกหลายท่าน เค๊าต้องการคนขยันแบบคุณ จบไหมครับ หรือจะเอาอีก จากคุณ : เจริญ Porn เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 03:01:05 A:113.53.214.187 X: TicketID:248235

ความคิดเห็นที่ 37 ู^ ^ ที่ในข้อมูลไม่มีก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรครับ เพราะนิยามไข่เบอร์ 0 มันไม่มีน้ำหนัก ตัวบน มันมีแต่บอกว่า 70 กรัมขึ้นไป ซึ่งทำให้มีความคลาด เคลื่อนได้สูง เรื่องน้ำหนักไข่ ดูตามที่นี่ก็ได้ครับ เขียนไว้ละเอียดดี http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/01/D6271802/D6271802.html#10 ขนาดของไข่ไก่ตามมาตรฐานแบ่งออกเป็น 7 ขนาด นะคะ ไข่ไก่เบอร์ 0  (jumbo) น้ำหนักขั้นต่ำต่อฟอง 70 กรัมขึ้นไป           ไข่ไก่เบอร์ 1 น้ำหนักขั้นต่ำต่อฟอง 65-69 กรัม     ไข่ไก่เบอร์ 2 น้ำหนักขั้นต่ำต่อฟอง 60-64 กรัม   ไข่ไก่เบอร์ 3 น้ำหนักขั้นต่ำต่อฟอง 55-59 กรัม ไข่ไก่เบอร์ 4 น้ำหนักขั้นต่ำต่อฟอง 50-54 กรัม ไข่ไก่เบอร์ 5 น้ำหนักขั้นต่ำต่อฟอง 45-49 กรัม     ไข่ไก่เบอร์ 6 น้ำหนักตั้งแต่ 44 กรัมลงมา ถ้าแบบนั้น คุณเจริญพร ก็ลองดู % ไข่ขาวในตารางที่ผมให้ไว้ก็ได้ แล้วลอง เทียบเป็นบัญญัติไตรยางค์ ดูตามไปเรื่อยๆนะครับ จะเห็นว่า ในน้ำหนักไข่ เช่นเบอร์ 1 จะหนัก 65-69 กรัม แต่จะมีน้ำหนักของไข่แดง + ไข่ขาวเพียงแค่ 60 กรัม นิดๆ ที่เหลือก็เป็นน้ำหนักของเปลือก และส่วนที่เป็นเยื้อขาวติดเปลือกไข่ แล้วเป็นแบบนี้ในทุกขนาดไข่ ที่ต้องหักน้ำหนักราวๆ 5-10 กรัมสำหรับเปลือก ส่วนสัดส่วนน้ำหนักของ ไข่แดงต่อไข่ขาว จะเป็น 30:70 โดยประมาณ คิดหยาบๆ ไข่เบอร์ 0 น่าจะมีน้ำหนักไข่อยู่ที่ 70-80 กรัม หักน้ำหนักของเปลือกไป 5-10 กรัม น้ำหนักเนื้อไข่จริงน่าจะอยู่ที่ 65-75 กรัม คิดที่ 70 กรัมเลยก็ได้ จะได้ง่ายในการคำนวณ น้ำหนักของไข่ขาวจะมีราวๆ 70 x 0.7 = 49 กรัม หรือราวๆ 49 - 53 กรัมโดยประมาณ และจาก Composition table ของไข่ขาวที่บอกว่า มีโปรตีน 10.1 กรัม ต่อ ร้อยกรัม เพราะงั้นในไข่เบอร์ 0 ที่น่าจะหนักไม่เกิน 80 กรัม (รวมเปลือก) ก็ไม่น่าจะ มีโปรตีนในไข่ขาวมากเกิน 5.5 กรัม ========================================= สภาวะในข้อ 3 หมายถึงใน คห. 31 หรือป่าว ? ถ้าใช่ ก็ลองดูโจทย์เสียก่อน >3.ถ้าคนขาดโปรตีนสัก 5-10% ของปริมาณปกติที่ร่างกายต้องการในแต่ >ละวัน นานๆเข้า จะมีผลอย่างไรบ้างครับ ไม่เอา kwashiorkor เน้อ >อันนั้นมันขาดขั้นรุนแรง อย่างแรก นานวันเข้า = นานกี่วัน ? ในทางการแพทย์เรามีเวลาชัดเจน ที่บอกว่า Starvation กี่วัน, weight loss กี่กิโล ใน กี่วัน ถือว่าอันตราย หรือมีอาการอะไรเกิดขึ้นบ้าง ขาดโปรตีน 5 - 10% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการ = ? ร่างกายสภาพไหนหละ เหมือนที่บอก ถ้าจะเอาแค่คงตัว คือ อยู่แบบ lean มีกล้ามเนื้อพอทำงาน บ้านประจำวัน ทั่วๆไปแบบเบาๆ พลังงานที่ต้องการไม่ต่างกับ BMR โปรตีนกินต่ำๆ แค่ 0.5 - 0.4 กรัม / กิโลกรัม แต่โปรตีนต้องเป็น High Biological  Value protein และได้รับพลังงานจากอาหารพอ ก็พอให้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่เกิด อาการแทรกซ้อนใดๆ ผู้เป็นโรคไต ทีต้องจำกัดปริมาณโปรตีนอย่างมากลงมาเหลือ 0.4 กรัม ที่เป็น HBV และได้พลังงานอย่างเพียงพอ ก็ยังมีคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่ ไม่ได้มีปัญหาอะไรในระบบประสาทยังสามารถ เคลื่อนไหว และทำงานได้ ตามปรกติ ถ้าจะให้ Maintenance ร่างกายผู้ใหญ่ มีกล้ามเนื้อพอสมควรเหมือนคน ทั่วไปที่ไม่ใช่นักกล้ามโปรตีน 0.8 กรัม / กิโลกรัม ก็เพียงพออยู่แล้วครับ เรื่อง Starvation Nutrition มีให้เรียนเป็นเล่มๆ เค้าถามมากว้างๆ ผมก็ตอบ ไปได้แค่ ไม่กี่ประโยค เพราะไม่มีข้อมูลให้พิจารณาเลย แล้วที่ว่าผมมาว่า ที่บอกว่าไม่มีผลน่ะ ไม่มีกะผีน่ะสิครับ มันจะมีผลจริงๆ หรอครับ ? ขาดโปรตีน 15% ของที่ต้องการเองเนี่ยนะ ถ้าคิดในคนปรกติ ต้องการโปรตีน 0.8 กรัม / กก. เอาชายที่หนัก 60 กก ก็ต้องการโปรตีน = 0.8 x 60 = 48 กรัม ลดลงไป 15% คือ =48 * 0.15 = 7.2 กรัม เหลือ =48 - 7.2 = 40.8 กรัม ของโปรตีนที่ได้กิน คิดเทียบกลับมาเป็น protein / kg คือ 40.8 / 60 = 0.68 กรัม / กก แล้วอย่างที่ได้บอกไว้ ในผู้ที่เป็นโรคไต ใช้ 0.4 กรัมยังพอเลย ส่วนเรื่องพลังงาน แนวโน้มคนส่วนใหญ่ในเมืองคือ "เกิน" ไม่ใช่ "ขาด" ดังนั้น ที่ผมตอบไปว่า ไม่มีผลใดๆ ก็สมเหตุสมผลดีแล้ว ถ้าคุณคิดว่า ผมตอบไม่ถูกกับที่คุณเป็นมา คุณบอกอาการได้ไหมครับ ว่าคุณเจออะไรบ้าง ขอแบบละเอียดๆ เลยก็ดีครับ ========================================= ส่วนเรื่อง Ad Hominem ที่คุณพยายามว่าผมทั้ง - ตำราคุณมันมีไหมล่ะ - เอาแต่อ่านตำราแล้วมาพ่นโชว์ภูมิข่มคนอื่นแบบนี้ - ขอเตือนคุณนะ รู้มาก ไม่ได้หมายความว่าจะเอามาข่มกัน บางครั้งเค๊ารู้ แต่เค๊าไม่เอามาพูดทั้งหมดก็มี อย่าดูถูกดูถุ๋ยกันให้มากครับ ผมไม่ถือครับ ส่วนคำเตือน หรือ คำขู่ ในข้อสุดท้ายก็ขอขอบคุณไว้ ด้วยแล้วกันครับ จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 06:54:25

ความคิดเห็นที่ 38   ปกติแล้ว เวลาผมไม่พอใจ ผมจะไม่ Share ไม่เล่า กรณีนี้ ผมไม่เล่าเหมือนกัน ปล่อยให้เป็นปริศนาปลาทองต่อไปละกัน ย้อนกลับไปดู คห.29 ไอ้ตราชั่งอันเล็ก ๆ น่ะ คนบ้ากล้ามที่เคร่าครัดเรื่องอาหาร หลายคนเค๊ามีไว้ติดบ้าน ไอ้นิยามไข่ไก่เบอร์ 0 ให้บริมาณเท่าไหร่ มันก็มาจากตรงนี้แหละ เค๊าเทียบกันกับไข่ไก่เบอร์อะไรก็ว่าไป แล้วเทียบเป็นบัญญัติไตรยางค์เพิ่มอัตราส่วนน้ำหนักเอา คนเดินซื้อของที่ตลาด ใครจะไม่เลือกของ ไข่เบอร์ 0 แพงกว่าเบอร์ 1 นิ้ดเดียว พวกก็หยิบ พลิก หมุนกันแทบทุกลูก ไม่ใหญ่จริง กรูไม่ซื้อ เรียกว่าเอาเยอะไว้ก่อน กันสารอาหารไม่พอกล้าม โลภ ๆ ดูท่าคุณจะยังไม่เคยเห็นไข่ไก่เบอร์ 0 ในฤดูหนาวที่เมืองไทยสินะ ว่ามันบะลั่กกั่กขนาดไหน ส่วนไอ้เรื่อง Ad Hominem ที่คุณว่ามาเนี่ย คุณกลับไปดูความเห็นคุณในตอนแรก ๆ เห็นฟาดงวง ฟวดงาไปทั่ว ใครพูดอะไรเปิดช่องเป็นไม่ได้ ต้องไปสกัด ต้องไปแหย่ ไปแทรก คนทั่วไปเค๊าเห็น ก็เป็นธรรมดาที่เค๊าจะสวนกลับแบบสาดเสียเทเสีย แรงมา ก็แรงกลับ ความรู้ของคุณ มันก็ดีครับ เอามาแย้ง ความถูก ความผิด มันมีในหลักวิชาการ ตามที่คุณว่ามา มันใช่ แต่การเอาไปใช้จริง มันคนละเรื่อง มันต้องดูเวลา ดูโอกาสด้วย และไอ้การที่มีความรู้แล้วไปแขวะคนอื่นแบบที่คุณเป็น มันไม่น่ารักเอาเสียเลย รู้ตัวไว้ก็ดี อ้างตาม คห.33 ที่คุณบอกว่า อย่าไปยุ่งกับพวกนักกล้าม จริง ๆ ก็เพราะพวกนี้ เทสโทสเทอร์โรนต์มันแรง มันทำให้พวกนี้ ดิบ เถื่อน อารมณ์แรงบางเวลา พาลจะกัดกัน พาลจะทะเลาะกันด้วยเหตุผลไม่เป็นเรื่อง ซึ่งกรณีนี้ ผมว่าที่คุณว่าคนอื่นน่ะ มันเข้าตัวเองด้วยเหมือนกัน จากคุณ : เจริญ Porn เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 11:03:42 A:125.26.89.34 X: TicketID:248235

ความคิดเห็นที่ 39 ที่ผมถามคุณเรื่อง การตอบคำถามข้อ 3 ของผมคือ อยากให้บอกสิว่า อะไรที่ผมตอบไม่ถูก ? หรือ ไม่ครอบคลุม ? ซึ่งผมพิจารณาดูแล้ว ตอบครอบคลุม และเท่าที่ความหมายของ คำถาม จะตอบให้ได้ ยิ่งรู้ condition มากขึ้นก็เป็นธรรมดา ที่จะต้อง concern เรื่องตรงนี้มากขึ้น ว่าแต่ ไข่ไก่เบอร์ 0 เมืองไทยตอนหน้าหนาว มันหนักสุดกี่กรัมครับ ? ถ้ามีนำหนักมาแชร์ก็ดีครับ จะได้ดูไว้เป็นข้อมูล ส่วนเรื่องพูดเปิดช่อง ต้องแทรก ต้องแหย่ เพราะที่นี่เป็นที่สาธารณะ การตอบคำถามในที่สาธารณะ ซึ่งมีคนที่ไม่รู้จำนวนมากอ่าน แล้วได้อะไร ไปผิดๆ มันจะเป็นเรื่องที่แย่มาก โดยเฉพาะกับการปฏิบัติตัว ให้ได้ตาม Prescription ของแพทย์ ส่วนเรื่องจะแรงมาแล้วแรงกลับ ผมคงบอกว่าชินเสียแล้ว โดยส่วนตัว ไม่ถือว่าที่ผมตอบนั้นแรง เพราะแค่ให้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ นี่คือสิ่งที่ต่างกัน ระหว่าง ผมซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ มันมีคำว่า จรรยาบรรณค้ำคออยู่ ดังนั้น ก่อนจะตอบ ก่อนจะให้ความเห็นมันต้องถูกกลั่นกรองออกมาแล้ว ว่าถูกต้องตามหลักวิชาการ และง่ายต่อการปฏิบัติ ส่วนที่ผมบอกใน 33 คือ ผมได้รับคำเตือนจากหมอรุ่นพี่ว่า - อย่ายุ่งกับขายตรง (โดนเป่าหูจากผู้ผลิตและการตลาด) - อย่ายุ่งกับนักกล้าม (เค้าใช้ศาสต์ที่เราไม่เข้าใจ) - อย่ายุ่งกับผู้จำหน่ายสินค้า (กลูต้า กินแล้วไม่ขาวเค้าก็ยังบอกว่าได้ผล) - อย่ายุ่งกับพวกฉันมั่นใจ (สอนอะไรเหมือนตักน้ำรดหัวตอ) ซึ่งโดยอันอื่นๆ ผมก็ยังพอเข้าใจ จนมาเจอนักกล้ามนี่แหละ คำว่า "ศาสตร์ที่เราไม่เข้าใจ" มันเป็นยังไง ถึงได้รู้ จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 07:26:39

ความคิดเห็นที่ 40 แล้วที่เจอบ่อยมาก ถึงมากที่สุด คือการทีเชื่อในคำโฆษณาของผลิตภัณฑ์ แล้วนำมาบอกต่อ โดยข้อมูลที่ว่า มันไม่ใช่ความจริงทางวิทยาศาสตร์ หรือ ไปจำมาจาก Fw-mail แล้วเชื่อเป็นจริงเป็นจัง หรือจะด้วยรู้เท่าไม่ถึงการ เช่น เรื่องนมกับการดูดซึมแคลเซียม http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L9538346/L9538346.html ซึ่งมีคนอ้างว่า แคลเซียมในผักนั้นดูดซึมดีกว่าในนม ทั้งที่ในความเป็นจริงของผลวิเคราัห์ แคลเซียมในผักที่มีเยอะๆ เช่น คะน้า มีแคลเซียม 164 มก / 100 กรัม แต่ในผักยังเป็นที่รวมอันสุดยอดของ Phytate ซึ่งตกตะกอนโลหะได้ หลายชนิด รวมไปถึงแคลเซียมด้วย และที่นอกเหนือจาก phytate แล้วยังมี phosphate อื่นๆ อีกมาก ซึ่งขัดขวางการดูดซึมของแคลเซียม นี่ยังไม่นับไฟเบอร์ และอื่นๆ ที่ตำรา สมัยก่อนบอกว่า "ถ้าไม่เกิน 24 กรัม / วันไม่ขัดขวางการดูดซึม" ในขณะทีนม 100 ml มีแคลเซียม 100 นิดๆ ดูน้อยกว่าแต่การดูดซึมทำได้ ดีกว่ามากๆ เพราะมี lactose คอยช่วยเหลือในการดูดซึมที่ดีเพียงพอแล้ว แล้วพวกเรียน Nutrition อย่างเดียวไม่เคยเรียน drug-nutrient interaction ก็มักไม่รู้ว่า แคลเซียมจับกับฟอสเฟต เมื่อกินพร้อมอาหาร ซึ่ง เป็น กลไกการทำงานของ phosphate-binder agent และทำให้ตกตะกอน ซึ่งจะไม่ดูดซึม แม้ในตำราทาง nutrition เองจะมี recommendation ให้ กิน แคลเซียมเม็ดพร้อมอาหาร แต่ถ้ารู้เรื่อง phosphate-binder แล้ว ใครจะยังแนะนำให้กินพร้อมอาหารหรือไม่ ? เรื่อง กรดอะมิโน vs ไข่ไก่ ในการเพาะกาย http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9502772/X9502772.html บางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าย่อยโปรตีนแล้วได้กรดอะมิโน แถมยังอ้างมีแฟนเป็นโภชนากร แล้วไงก็ไม่เห็นรู้อะไรมากขึ้นกว่าเดิม แฟนทำงานที่ซีพีด้วย แถมไก่ซีพียังฉีดฮอร์โมนอีก คนฝึกงานที่นี่ อยู่นาน ยังไม่ได้ฉีดยาไก่เสียที ได้แต่ฉีดอินซูลินให้พนักงานที่เป็นเบาหวาน การ "ยกเมฆ" มาอ้าง (คือ ยกเอาตรรกะของคนที่น่าจะเป็นที่ยอมรับ) มา ข่ม เช่น ของเว็บ .... เค้าแปลมาจากเมืองนอก ทั้งที่ตามจริง หนังสืออาจจะผิด ? คนแปลอาจจะแปลผิด ? หรือ จงใจเขียนผิด เพื่อขายของ ? เราไม่รู้ แต่ความจริงตามหลักวิชามันว่าอย่างนั้น แถมผลการทดลอง ก็สอดคล้อง ในทางเดียวกัน ใช้กันจนเป็นหลักการ จะเถียงไปทำไม มันเป็นเรื่อง Absurd ตั้งแต่ไม่รู้แล้วเถียงแล้ว ถ้าไม่รู้แล้วถาม จะไม่ว่าเลย กินน้ำมันมะกอกช่วยมะเร็ง http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L9542022/L9542022.html ไม่รู้ว่าเจตนาจะสื่อสารแบบนี้หรือป่าว ถ้าใช่นี่ผิดเลย กินแอนตาซิด แทนข้าว http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L9542719/L9542719.html กิน Pepsi Max ลดอาการแพ้อาหาร http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9508367/X9508367.html วิตซี http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9506878/X9506878.html กรวยไตอักเสบ http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L9541686/L9541686.html ซึ่งเป็น special condition ต้องดูเป็น case by case แม้แต่ Nephro ยังไม่อยากให้ consult ผ่านโทรศัพท์ ก็ยังมีคนแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ Weight Gainer ผู้ผลิตทำมาหลอกหาเงิน แต่ที่แย่กว่าคือ คนขาย ที่โม้สรรพคุณเกินจริง http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L9483036/L9483036.html มากมายเต็มไปหมด บางทีพูดสั้นๆ ก็โดนหาว่า "ไม่รู้" แสดงออกมาหมดก็โดนด่าว่า "อวดรู้" บางทีก็เซ็งเป็นเหมือนกัน แต่ก็ถือว่ายังดี อย่างน้อย ผู้ป่วยในเมืองไทย มันจะได้ลดลงบ้าง โดย เฉพาะ พวกที่ป่วยจากความรู้เท่าไม่ถึงการของคนขาย แบบป้าเช็ง จากคุณ : V--Bank--V เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 08:38:02

ความคิดเห็นที่ 41 5555+ ..ไม่พอใจ ไม่เล่า ... น่าขันจริงๆ นี่มันบอร์ดที่พูดเรื่องวิชาการหรือเปล่านะ (แต่เดิมคิดว่าเป็นนะ พอมาเจอคำนี้ อึ้งเลย) เหมือนเด็กๆเล่นกันเลย กรูไม่พอใจ กรูไม่เล่นด้วยแล้ว ไม่ต้องมาง้อด้วย 555+ ถ้าเป็นส่วนของวิชาการ รู้จริง มีหลักฐานจริง ยิ่งมาจากการทดลองด้วยตัวเองด้วยแล้ว ต้องทนน้ำทนไฟ ทนการวิจารณ์ และต้องนำเสนอต่อผู้สนใจ เพื่อเผยแพร่ความรู้ และสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์ เพื่อเป็นวิทยาทานแก่คนที่ไม่รู้ เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด แต่เท่าที่ทำงานมา ก็เคยเจอเหมือนกันนะ ประเภทที่ชอบนำเสนอเฉพาะในกลุ่มในพวก เพราะพวกนี้ไม่เสนอข้อโต้แย้ง ไม่มีความคิดแตกแยก ว่าไรว่าตามกัน ไม่เหมือนการนำเสนอในวงกว้าง ในวงวิชาการ ที่ย่อมมีคนคิดต่าง เพราะ ปสก ที่พบเจอต่างกัน และ/หรือ ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เคยพบ หรือยังไม่แน่ใจในหลักฐาน ขอรายละเอียดหรือขอหลักฐานเพิ่มเติม ถ้าไม่ให้ ก็ ซตพ. ยังพิสูจน์ไม่ได้/ยังสรุปไม่ได้ ดังนั้น ถ้าแน่ใจ ต้องยิ่งแสดงหลักฐานให้คนที่ไม่เชื่อดู เป็น advantage ฝั่งตน ปล. อย่าด่านู๋นะ นู๋กลัว 555+ ปล. 2 เออ จากคุณ V--bank ที่กล่าวไว้ เพิ่งนึกออกว่า มันเป็นคนละศาสตร์กันนี่ แต่ก็ใกล้เคียงกัน และ overlap กันอยู่มาก ถ้าอธิบายกันดีดี ก็คงไม่น่าเข้าใจยากเย็นนะ สรีรวิทยาและ kinetics ต่างๆในร่างกายมนุษย์ มันก็เป็นเหมือนๆกันน่ะแหละ แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 53 10:33:06 จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 10:11:50

ความคิดเห็นที่ 42   ^ ^^ ^^^ ขอโทษนะ มันเป็นสิทธิ์ของผม ที่จะเล่า หรือไม่เล่า คุณไม่ต้องมาแขวะ ผมเบื่อผู้หญิงปัญญาอ่อน ทำตัวเป็นติ่งหู แขวะคนอื่นไปทั่วเหมือนกัน อย่าคิดว่าผมไม่ต่อว่าผู้หญิง ปัญหาของผม ไม่ได้อยู่ที่เรื่องวิขาการที่โต้แย้ง แต่อยู่ที่พฤติกรรมการแขวะที่เหมือนเด็กเกรียน และพฤติกรรมแบบติ่งหูของคุณนี่แหละ คนเราคุยกันดี ๆ ไม่ใช่ออกแนวเกรียน หรือเป็นติ่งหู แล้วจะมาอ้างคุยความรู้ กลับไปปรับพฤติกรรมของตัวเองใหม่ก่อน ค่อยมาสั่งสอนคนอื่น เรื่องนี้นะ ที่คุณโดนคนอื่นเค๊าตำหนิแต่แรก ก็เพราะคุณไปเปิดช่องให้คนอื่นเค๊าต่อว่าก่อน ก็เพราะดันไปฟันธง ว่าถูกหรือผิดแน่นอน ตั้งแต่ คห.3 โน่น กลับไปเถือกตาดูเอาเอง เกรียนอีกคนหนึ่งก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไปงัดหลักวิชาการออกมาด่าคนที่เค๊าเปิดช่องเหมือนกัน พวกคุณทำตัวดี ๆ เหมือนปุถุชนคนธรรมดา ที่เค๊าไม่อยากก่อดราม่าเป็นกันหรือเปล่า ทำพฤติกรรมเหมือนเด็กเรียนเก่ง แต่ทำตัวเป็นอันธพาล IQ สูง แต่ EQ ต่ำ คนแบบคุณ จะคุยกันดี ๆ คงจะไม่ได้ เห็นแรง เห็นแขวะเค๊าไปทั่ว มันก็สมควรที่จะโดน จากคุณ : เจริญ Porn เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 10:38:36 A:125.26.86.155 X: TicketID:248235

ความคิดเห็นที่ 43   ตอบ ปล.2 ของน้องติ่งหูนะ เพราะเห็นเพิ่งมาแก้ไข "สรีรวิทยาและ kinetics ต่างๆในร่างกายมนุษย์ มันก็เป็นเหมือนๆกันน่ะแหละ" ยังจะฟันธงอีก รู้หรือเปล่า เรื่องบางอย่างของร่างกายมนุษย์ ไม่ใช่ตรรกศาสตร์ มันมีปัจจัยที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน จากคุณ : เจริญ Porn เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 10:48:11 A:125.26.86.155 X: TicketID:248235

ความคิดเห็นที่ 44   จาก คห.39 ศาสตร์ที่ไม่เหมือน มันไม่เหมือนตรงไหน มันศาสตร์เดียวกัน แต่ที่คุณไม่เข้าใจพวกเค๊า ก็คือ - เค๊าใช้ค่าประมาณการ แทนการกอดตำรา เพราะเสียเวลาทำมาหากิน - ร่างกายมนุษย์ เหมือนในกระบวนการ แต่แตกต่างในผลลัพธ์ตามปัจจัย - พวกเค๊าทราบถึงสภาพปัจจัย ที่มาที่ไป ของความแตกต่าง ทำให้บางอย่างต้องเกินไว้ก่อน กันพลาด ถ้าคุณเข้าใจพวกเค๊า ยอมรับข้อแตกต่าง คุณจะไม่ฉุนเฉียว เป็นไอ้หมาบ้าอย่างที่คุณเป็นมาแต่แรกเลย ส่วน คห. 40 คุณยกมาทำไมเยอะแยะ เห็นไปแขวะกระทู้ Weight Gainer ผมก็ตามไปดู แล้ว มันไม่เห็นมีอะไรในกอไผ่ มีแต่คุณเปิดฉากอยู่คนเดียว คนใช้ที่ใช้อาหารเสริมกลุ่มเพิ่มมวลกล้าม เค๊าเป็นกลุ่มคนขี้เกียจเตรียมอาหารกันทั้งนั้นแหละครับ ผมว่าเค๊ารู้ เค๊าเข้าใจกันดี ว่าของพวกนี้ สร้างขึ้นมาเพื่อเหตุใด มองย้อนกลับไปดูกระทู้บน ๆ โน่นเลยครับ คุณเห็นอะไร จขกท. เค๊าได้ประโยชน์ตรงไหน เค๊าถาม เค๊าได้คำตอบที่ชัดเจนไหม ถ้าไม่สรุปผล คนทั่วไปที่ไหนจะมีเวลาอ่านตำรายาวเหยียดเพื่อทำความเข้าใจในบทสรุปเพียงแค่ 3-4 บรรทัด ที่เราไม่เข้าใจกัน มันไม่ใช่ผิด ไม่ใช่ถูก เพราะในถูก มันก็มีผิด ที่ว่าผิดนั้น มันคือปัจจัยความแตกต่าง ตั้งแต่สภาพจิตใจไปถึงสภาพพยาธิวิทยาในร่างกายของแต่ละคนที่แตกต่างกัน นั่นเป็นที่มาที่ผมพยายามบอกตั้งแต่แรก ๆ โน่นเลย ว่าไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก เพราะทุกคนตอบถูก และในถูกก็มีข้อผิดอยู่ ผมเข้าใจตรงส่วนนี้ และยอมรับว่ามันเป็นแบบนั้น คุณล่ะ พร้อมจะเข้าใจ และยอมรับในสิ่งนี้ไหม จากคุณ : เจริญ Porn เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 11:18:10 A:125.26.86.155 X: TicketID:248235