ความคิดเห็นที่ 1 อาหารเค็ม  น่าจะเป็นโทษกับร่างกายที่สุดนะครับ เพราะไตจะไวกับการควบคุมปริมาณแร่ธาตุต่างๆ และความเข้มข้นของสารในร่างกายมาก  ถ้าทานอาหารเค็มมากๆ  ไตจะทำงานแทบจะทันทีเพื่อรักษาสมดุล  ไตจึงทำงานหนักขึ้น อาหารหวาน  ผมยังมองว่าในระยะสั้นๆ  ถ้าไม่เป็นโรคเบาหวานขณะทานอาหารหวาน  อาหารหวานๆจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานสะสมในรูปไขมัน  ยังไม่น่าก่อโทษได้ คำตอบจะเปลี่ยนไป  ถ้าผู้ที่ทานเป็นโรคเบาหวาน  อาหารหวานๆจะเกิดโทษได้มากที่สุด   แต่ในคนไข้โรคไต  คำตอบจะเหมือนเดิม คือ  อาหารเค็มเป็นโทษมากที่สุดครับ จากคุณ : เซียนแมวคารินย่า เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 13:19:17

ความคิดเห็นที่ 2 ที่เราเคยอ่าน ของอาจารย์สาทิส อินทรคำแหง บอกคือ ให้ลอง เอา แกงเผ็ด ข้าว ขนมหวาน น้ำอัดลม ลองเอามาทุกรสชาติแล้วเอามาเทรวมกัน รอไว้ไม่เกินสามชั่วโมงมันก็บูดแล้ว แล้วถ้ามันมาอยู่ใท้องของเราล่ะ ย่อยยาก ซึ่งกว่าจะขับถ่ายออกมาล่ะ นี่ก็เป็นสาเหตุของมะเร็งลำใส้อย่างนึง คือคนเรากินหลายรสพร้อมกัน คนจีนจะกินรสจืด ๆ ก็ดีต่อสุขภาพ เราก็แค่มาบอกนะคะ เพราะเราก็กินอย่างคุณเหมือนกันเมื่อก่อน แต่ตอนนี้เราเริ่มลดน้ำหนักก็เลยเบาของหวาน ๆ กะเค็มค่ะ จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 13:34:40

ความคิดเห็นที่ 3 ด้วยความเคารพความเห็นที่สองนะครับ ขอนอกเรื่องนิดนึง  คือ  การทดลองของอาจารย์สาทิสนั้น ถ้าผมทานอาหารชีวจิตเข้าไป  กลไกในร่างกายที่มีทั้งน้ำย่อยและแบคทีเรียก็ทำให้อาหารบูดในท้องเหมือนที่เราทานอาหารปรกตินะครับ สมมุติผมเอาขนมหวานๆๆ + แกงเผ็ดๆ + น้ำอัดลม + ข้าว ใส่รวมกันแล้วไปต้มและปิดในระบบปิดที่ฆ่าเชื้อแล้ว  อาหารมันก็ไม่บูดครับ  เพราะฉนั้น  ถ้าให้คิดแบบวิทยาศาสตร์ไม่อยากจะเชื่อว่ารสชาดอาหารที่ผสมๆกันจะเกี่ยวกับการบูดครับ   แต่คิดกลับกัน  ถ้าผมมีอาหารหวานๆ หรือเค็มๆ  ในความเข้มข้นสูงมากๆ  ด้วยความเข้มข้นของสารต่างๆ มันก็เป็นสารกันบูดในตัวมันเองอยู่แล้ว  เช่น  น้ำเกลือหรือน้ำผึ้ง  หรือน้ำเชื่อมความเข้มข้นสูงๆ ซึ่งแบคทีเรียไม่สามารถอยู่ได้  มันจึงไม่บูด ผมเองไม่ได้ต่อต้านชีวจิตนะครับ  แค่อยากลองคิดก่อนจะเชื่อครับ จากคุณ : เซียนแมวคารินย่า เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 13:50:21

ความคิดเห็นที่ 4 เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด มีผลต่อร่างกายทั้งทางบอก และทางลบ ส่วนจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน มีพื้นฐานที่ต่างกัน โดยภาพรวมแล้ว การกินอาหารรสจัด ไม่ดีต่อสุขภาพทั้งนั้น อันที่จริงคนเราควรกินอาหารที่มีรสชาติตามธรรมชาติของมัน มีแต่มนุษย์ที่มีการปรุงแต่ง สัตว์อื่นๆทั้งหลายกินตามธรรมชาติทั้งนั้น จากคุณ : atm เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 16:51:25

ความคิดเห็นที่ 5 ขอตอบความคิดเห็นข้อที่สามนะคะ ในการทดลอง   สมมุติผมเอาขนมหวานๆๆ + แกงเผ็ดๆ + น้ำอัดลม + ข้าว ใส่รวมกันแล้วไปต้มและปิดในระบบปิดที่ฆ่าเชื้อแล้ว  อาหารมันก็ไม่บูดครับ แต่ร่างกายของเราเวลารับเข้าไปไม่มีระบบต้มในท้องนะคะและในลำใหญ่ อุจจาระของเราก็มีเชื้อโรคเยอะด้วย แค่ลองคิดดูอ่ะคะ ชอบค่ะ ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่าง จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 18:53:12

ความคิดเห็นที่ 6 เราก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องอาหารชีวจิตดีเท่าไร แต่อาหารชีวจิตเน้นย่อยง่าย ไม่ปรุงแต่ง  เรียกว่า อาหารชั้นเดียว คือ ข้าวกล้องก็เอาไปหุงกินเลย ไม่ผ่านหลายขั้นตอนแบบ มาม่า     เคล็ดลับเวลาจะทำอาหารชีวจิตให้อร่อยต้องใส่  ความรักค่ะ  คือ รักคนกิน รักตัวเอง ใส่แต่ของ สด สะอาด ด้วยรสชาติของมันก็ทำให้อาหารอร่อยขึ้นเองค่ะ จากคุณ : meawki8 เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 18:58:14

ความคิดเห็นที่ 7 อะไรที่มากเกินไปไม่ดีทั้งนั้นครับ เปรี้ยวคงมีโทษน้อยที่สุด แต่ก็ไม่ดีมากๆอยู่ดี ผมว่าคนจีนไม่ได้กินจืดนะครับ เค็ม มัน เผ็ด หวาน ของเค้ามีหมดครับ ตามแต่ละภาค จากคุณ : ชอบเลี้ยงปลา เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 20:07:58

ความคิดเห็นที่ 8 เดินทางสายกลางเลยค่ะ รสชาติ.........ที่ถามมา ถ้าหนักไปทางไหน ก็เกิดโทษทั้งนั้นแหละค่ะ เค็ม ก็ไม่ดีกับ ไต กับความดัน หวาน ก็เสี่ยงต่อเบาหวาน ไขมัน เปรี้ยว,เผ็ด  ก็เสี่ยงกับโรคกระเพาะ ริดสีดวงทวาร  (มันจะเพิ่มความเป็นกรด) เปรี้ยว....เสี่ยงต่อฟันกร่อนได้นะค่ะ จากคุณ : gunapide เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 00:28:10

ความคิดเห็นที่ 9 ขอตอบความเห็นข้อที่ 5 นะครับ ที่ผมเขียนในความเห็นที่ 3 ที่ว่าร่างกายไม่มีระบบต้มเนี่ยถูกครับ แล้วอาหารชีวจิตเนี่ย  ไม่บูดเหรอครับ ผมต้องการคิดในแนววิทยาศาสตร์  โดยสมมุติฐานผมคือ รสชาดอาหารที่ผสมกันไม่มีผลต่อการบูดของอาหาร ผมจึงตัดปัจจัยของแบคทีเรียทิ้ง ผมเริ่มการทดลอง  โดยใช้ แกงส้ม ( เปรี้ยว เผ็ด  เค็ม )+ ขนมชั้นสุดอร่อย + น้ำเชื่อม ต้ม  และใส่ในภาชนะปิดที่ฆ่าเชื้อแล้ว เทียบกับ  แกงจืดเต้าหู้  ไม่ใส่หมู ทำการทดลองแบบเดียวกัน 3-5 ชมผ่านไป ยังไม่บูดทั้งคู่ครับ ชมที่. 7 ก็ยังไม่บูดครับ  ( ว฿งผมคิดว่า 7 ชม.น่าจะเพียงพอที่อาหารไปสู่ลำไส้เล็กแล้ว ) ผมจึงอยากจะคิดว่า รสชาดอาหารที่ผสมกัน ในช่วงเวลา 7 ชม ไม่มีผลต่อการบูดของอาหารครับ จากคุณ : เซียนแมวคารินย่า เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 08:29:10

ความคิดเห็นที่ 10 ขอโทษที่ออกทะเลครับ แต่ที่ทำเพราะไม่อยากจะเชื่อเรื่องรสชาดครับ แต่ถ้าบอกว่าอาหารชีวจิต ย่อยง่าย  อันนี้เชื่อครับ จากคุณ : เซียนแมวคารินย่า เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 08:33:22

ความคิดเห็นที่ 11 ลืมบอก ผมเอาแกงส้ม + ขนมชั้น + น้ำเชื่อม  มารวมกันโดยไม่ต้ม 4ชมผ่านไปก็ยังไม่บูดครับ  แต่ตอนชิมว่าบูดหรือยัง  รสชาดสุดยอดกากนิวเคลียร์ครับ จากคุณ : เซียนแมวคารินย่า เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 08:58:21

ความคิดเห็นที่ 12   ในร่างกายคน  มันคงเอามาเปรียบแบบ คห.2 ไม่ได้หรอกค่ะ เอาอาหารมารวมๆกัน  แล้วมันบูด  ถ้ามันไม่บูด นี่สิแปลก วันๆคนเรากินสารพัด  มัีนก็ไปรวมกันทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่จัดจนเกินไป  เค็มจัด  หวานจัด  เผ็ดจัด  ก็คงไม่เป็นไรมั้ง เค็ม ก็คงส่งผลต่อไต   หวาน  ก็อาจทำให้เป็นเบาหวานได้ เผ็ด  ก็อาจเป็นโ่รคลำไส้  หรือกระเพราะ เปรี้ยว  ก็น่าจะคลายๆเผ็ด  เพราะมันคงกัดกระเพราะและสำไส้ จากคุณ : . (คราวที่แล้ว) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 10:29:30

ความคิดเห็นที่ 13 คิดว่าเผ็ดกับเปรี้ยวน่าจะไม่ทำอันตรายกับร่างกายมากนะครับ 1. เผ็ด  ปัจจุบันมีการวิจัยหลายๆอย่างที่บอกว่าอาหารเผ้ดไม่มีผลต่อแผลในกระเพาะครับ 2. เปรี้ยวคงไม่สามารถทำอันตรายต่อกระเพาะเราได้  เพราะเราคงไม่ได้ทานสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงเท่า HCl ซึ่งเป็นกรดในกระเพาะครับ ขอโทษที่คิดต่างอีกแล้วครับ จากคุณ : เซียนแมวคารินย่า เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 10:54:50

ความคิดเห็นที่ 14   เผ็ดจัด โรคกะเพาะ หวานจัด เบาหวาน เค็ม จัด ไต+ความดัน เปรี้ยวจัด ฟันกร่อน โรคกะเพาะ ตัวเหม็น อยากได้อารัยก็ลองดูคับ ส่วนผมทานรสกลมกล่อมนะครับ จากคุณ : อ.ยิงศรี เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 10:56:44 A:202.176.88.106 X: TicketID:265860