ความคิดเห็นที่ 1   ในสายตาเพื่อนๆเรา และตัวเรา รวมทั้งที่บ้านเรา แฟนเราถือว่าเป็นผุ้ชายที่ดีนะคะ แต่พอมีปัญหาแบบนี้ ที่บ้านเรา เค้าแบบเหมือนเอือม ระอา คือเค้าห่วงเรา แต่เราก็บอกว่า ไม่เป็นรัย เดี่ยวเราแก้ปัญหากันเอง และบ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร บอกตรงๆนะคะ เราค่อนข้างสับสนมากๆในตอนนี้ เคยถามตัวเองหลายครั้งว่า จะจัดการชีวิตยังไง เรื่องานแฟน พอเพ่อนหายไป เค้าก็จัดการคเดียว แต่ แฟนเราน่ะ เค้าเหมือนเป้นคนสมาธิสั้น กับบางทีเรื่อยๆ เอื่อยๆ ชอบปล่อยอะไรให้มันบานปลาย และเป็นมานานแล้ว ตรงที่ ขอบผลัดผ่อน ดูเหมือนเป็นคนหยวนๆ แต่เราว่า มันส่งผลต่อการจะทำธุรกิจนะคะ เคยคุยว่า ขอเข้าไปช่วยมั้ย เรื่องเอกสาร จัดการหนี้สิน คุยถึงขนาดว่า ถ้าคิดจะใช้ชีวิตร่วมกัน ขอร้อง.. ขอร้องให้คุยเคลียร์กัน เปิดเผยตรงๆว่า ตอนนี้สถานการณ์มันเป็นยังไง หนี้มีเท่าไร และอันไหนด่วน อันไหนทิ้ง เราโทรคุยให้ก็ได้ ว่าจะยังไง.. คำพูดที่เค้าพูดมาตลอดคือ ไม่อยากให้เรายุ่ง และเคยถึงขนาดพูดด้วยความโมโหว่า อย่ามาสั่ง ตอนนั้นเรานิ่ง ไม่พูดเลย และบอกไปว่า ถ้าคิดว่าการพุดแนะคือการสั่ง เราจะไม่พุดอีก และบอกเค้าไปว่า บางทีความพยายามกับความดันทุรังน่ะ มันแค่มีเส้นบางๆคั่นเองนะ เค้าต้องฟังคนอื่นบ้าง ถ้าวิธีการของตัวเองมันไปไม่ได้ ต้อลองวิธีที่คนอื่นแนะบ้าง เผื่อมันจะดีขึ้น ... จากคุณ : Violet เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 17:17:48 A:111.84.8.156 X: TicketID:282019

ความคิดเห็นที่ 2   ถึึง ณ จุดนี้ ทุกวันนี้ เราไม่รุ้ว่า ที่เราอยุ่ด้วยกันทุกวันนี้ เพระามันมีภาระผุกพันธ์กันหรือยังไง แต่เราก็รักและผูกพันธ์กับเค้านะคะ คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน จนถึงตอนนี้ จะ 9 ปี แล้วค่ะ ตอนนี้เราพยายามเข้าใจว่า เค้าลำบากมากๆจริงๆ หันหน้าไปทางไหนก็ไม่ได้ เค้ามีภาระส่งเสียน้องและดุแลแม่(พ่อเสียไปตั้งแต่สมัยเรียนค่ะ) แต่มันก้เหมือน เราหนี้สินล้นพ้นตัว เคยถามตัวเองว่า เราโง่รึป่าวนะ เราคุยกับเพื่อนสนิท แบบเครียดมากๆ ธรรมดาไม่เคยคุยใครเวลามีปัญหากับแฟน จะไม่เคยไปป่าวประกาศออะไรกับเพื่อนเลย ดับเพื่อนคนนี้เราชอบไปทำบุญด้วยกัน เค้าธรรมะธรรมโม เวลาเราสุดๆจริงๆ เราจะปรึกษา เพราะเค้ามองอย่างเป็นกลาง ให้กำลังใจเรา แต่มันช่วยได้ไม่นานค่ะ เคยทะเลาะกับแฟน จนคิดจะทิ้งทุกอย่างไปให้หมด รวมทั้งแฟนด้วย แต่ก็ทิ้งไม่ได้ เพราะ ห่วงพ่อแม่มากว่า คนที่รับความทุกข์ก็ไม่พ้นพ่อแม่เรา สุดท้ายเราก็กลับมาสุ่จุดเดิม บางคนบอกว่า ปัญหาแค่นี้ คนอื่นเค้ามีปัญหาเยอะกว่าเรา โชคดีกว่าเรา เราเคยคิดหลอกตัวเองแบบนั้นแหละค่ะ แต่ มาคิดอีกที ปัญหาเยอะมากค่ะ มากกว่าที่เล่าเยอะค่ะ และตอนนี้ เราถึงทางตันมากๆค่ะ เงินลงทุนไม่มีเพิ่ม เป็นหนี้ รยได้มี แต่ไม่พอ ...จะลงทุนเพิ่ม ก็ทำไม่ได้ เราจนปัญญาจริงๆค่ะ เหนื่อยใจมากๆค่ะ เรื่องเงินทั้งหลายสองเดือนมานี้ เราเลิกคิดรอเงินจากงานแฟนไปแล้วค่ะ เพราะมันไม่เคยมีมาตุนเจือตรงนี้ จนตอนนี้ เราคิดฝังหัวไปเลยว่า เรามีหนี้ก้อนใหญ่ เราจะทำยังไง....หมดหนทางมากๆค่ะ จากคุณ : Violet เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 17:29:53 A:111.84.8.156 X: TicketID:282019

ความคิดเห็นที่ 3   จนตอนนี้ เครียดนะคะ เคยคิดอยากจะคุยกับจิตแพทย์ คืออยากระบายและอยากรู้ว่า เราควรแก้ปัญหายังไงคือสิ่งที่เราทำทุกวันนี้ เรายังไม่แน่ใจเลยค่ะ ว่ายังไงดี บางทีเราก็อยากหนีไปไกลๆ เคยถามตัวเองว่า เราอยากเลิกแฟน ทิ้งแฟนเหรอ มันก้ไม่ใช่ แต่เรารู้สึกว่าทำไม เค้าทำอะไรมันมีแต่ปัญหานะ เราอยากหนีปัญหามากกว่ามั้ย? ก็ไม่เชิงมัน รุ้สึกกดดันมาก จนทำให้เราสับสน คิดว่าการเข้ามาระบายบ้าง มันอาจช่วย ได้บ้าง ถ้าในนี้มีจิตแพทย์ หรือให้คำปรึกษาได้ ขอคำแนะนำเลยค่ะ เพราะเรารุ้สึกเครียด จนกลัวว่าจะมีอาการทางจิตค่ะ จากคุณ : Violet เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 17:45:03 A:111.84.8.156 X: TicketID:282019

ความคิดเห็นที่ 4 1. เลิกกะแฟน 2. ทำงาน หาเงินมาผ่อนหนี้ไปเรื่อยๆค่ะ แล้วจำไว้เป็นบทเรียน พ่อแม่เรามี เงินที่เราหาได้ควรเอาให้พ่อแม่เรา ไม่ใช่ให้แฟนเอาไปผลาญ สำหรับเราคนที่เราจะช่วยคือคนที่เดือดร้อนกว่าพ่อแม่เรา เด็กไม่ได้เรียนหนังสือ เด็กที่ไม่มีข้าวจะกิน เราถึงช่วย ถ้าคนที่เอาเงินไปใช้มั่วๆซั่วๆ เอาไปรูดบัตรติดหนี้ แล้วอย่างแฟนคุณขนาดมีรถใช้ได้ แสดงว่ามีสติปัญญาช่วยเหลือตัวเองได้ เราไม่ช่วยเด็ดขาด จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 18:02:11

ความคิดเห็นที่ 5 เครียดแทนเลยค่ะ ขนาดเป็นแค่แฟนยังให้คุณเป็นหนี้ขนาดนั้น เอาเป็นว่าคุณยอมรับความจริงเถอะค่ะว่าคุณเป็นหนี้ ไม่ว่าใครจะเป็นคน ก่อขึ้นมา จะให้เลิกกับแฟนเลยก็ใช่เรื่องค่ะ ลองแบบนี้ดีไหมค่ะ ช่วยกัน ใช้หนี้เก่าให้หมดก่อน อย่าสร้างเพิ่ม และถ้าแฟนคุณยังมีหนี้มาให้เรื่อยๆ เลิกมันไปเลยค่ะ ศักยภาพในการหาเงินของคุณ เราจัดว่าดีเลยนะ รู้ค่ะว่าเครียด แต่ถ้าแก้ไขและยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น จากปัญหาหนักๆ จะได้กลายเป็นเบาไงค่ะ จากคุณ : moo_yid2 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 18:49:24

ความคิดเห็นที่ 6   ขอบคุณมากค่ะคุณกุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย ถามว่าเราเคยคิดถึงทางเลือกที่จะเลิกมั้ย เคยค่ะ เคยนั่งทบทวน ว่าจริงๆแล้วเค้าผิดและเราโง่รึป่าว เราไม่รุ้ว่าโง่มั้ยค่ะ เพียงแต่ว่า เงินที่ช่วยไป เราคิดว่าช่วยงาน และเค้าก้เอาไปทำงานจริงค่ะ แฟนไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายค่ะ เราซะอีกที่แต่ก่อนใช้เงินอย่างที่ผุ้หญิง คนนึงจะใช้ (ตอนนั้นมีรายได้มั่นคงและมีเงินสำรอง) และส่วนใหญ่ แฟนก็จ่ายทุกอย่างเวลาจะวื้อหรือทำอะไร เค้าถือว่าเป้นหน้าที่ผู้ชายที่ต้องทำ แต่มันโชคร้ายมากๆตรงที่ เพื่อนทิ้งงาน ถุกโกงเงิน และงานขาดทุน เราไม่ได้เงินคืน เงินได้มาจากงาน แต่เอาไปจ่ายหนี้ของและค่าใช้จ่ายตรงส่วนอื่น เพื่อให้งานเดิน ถ้างานไม่เสร็จ ก้เบิกเงินไม่ได้ประมาณนั้น ก่อนหน้านี้ คบมา 7 ปี เวลาเค้ามี เค้าก็ให้เรา อย่างที่แฟนดีๆคนนึงจะให้น่ะค่ะ และให้พ่อแม่เราด้วย ส่วนเรา ไม่ได้ให้แฟนอย่างเดียวค่ะ ทุกวันนี้ไม่มีเงิน แต่เรายังให้ท่านเหมือนเดิม ถึงจะน้อยลง เราก็ให้ค่ะ และค่าใช้จ่ายในบ้าน เราก็ช่วยเหลือเท่าที่ให้ได้ค่ะ แฟนไม่มีหนี้บัตร มีแต่หนี้ที่ไปกู้ยืมคนรุ้จักมาลงงานตอนที่มีปัญหา แค่นั้น ซึ่งมันก้เยอะ และเค้าไม่บอกเรา อาจเพราะไม่อยากให้เครียด ส่วนรถ ตอนเค้ามาทำงานที่จังหวัดเราเพื่อลงหลักปักฐาน แฟนมีเงินก้อนนึง ตัดสินใดาวน์และผ่อน เพราะต้องการมาวิ่งดูงาน แต่มันเป้นชื่อเรา เพือ่ให้ผ่านง่าย ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากมายค่ะ แค่มุ่งมั่นจะทำมาหากินกัน ปัญหามันมีมาปีกว่าค่ะ ตรงนี้แหละ ที่เรามาคิดว่า ถ้าเราเลิก เราจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากๆ เห็นแก่เงิน และทิ้งเค้ายามลำบาก ทั้งๆที่เราน่ะ คบกันจนถึงเรียกได้ว่าเป็นคนในครอบครัวแล้วน่ะค่ะ เวลาสบาย เราอยู่กับเค้า แต่เวลาลำบากแค่ปีกว่า ถึงคราวตกอับ ถ้าเราทิ้งเค้าไป เราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ตรงนี้บอกตรงๆ เราทิ้งเค้าไม่ได้ เพราะว่าถ้าเงินที่เราให้ไปเค้าไปใช้ไร้สาระ เราคงไม่ได้ให้แต่แรกค่ะ เพระาเรารุ้ว่าอะไรควรไม่ควร พ่อแม่เรา เค้าพอรับรุ้ปัญหานะคะ แต่เค้าก้ไม่เคยบอกให้เลิกคบรึยังไง เพราะเค้ารับรุ้มาตลอดว่า เวลาแฟนเค้าสบาย เค้าก็จุนเจือครอบครัวเรา ...เวลาลำบากเราคงไม่ทิ้งเค้าไป ถ้าทิ้งไปเราจะเป้นผู้หญิงที่ใจร้ายมากในความรุ้สึกเราค่ะ จากคุณ : Violet เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 18:59:57 A:111.84.8.156 X: TicketID:282019

ความคิดเห็นที่ 7 ทำธุรกิจรับเหมา  ขึ้นหลังเสือแล้วลงยากสสสส แนะนำให้แฟนเป็นหนี้ ให้เยอะ ๆ แล้วก็ ล้มละลายไปเลยครับ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วววววว เงินทอง ศักดิ์ศรี เครดิต และหน้าตา เป็นของนอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้ แต่ เมียดี ๆ ก็หายาก เหมือนกันนะ จากคุณ : HI Golfer เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 19:23:23

ความคิดเห็นที่ 8 ผมมองว่าถ้าคุณยังไม่ได้แต่งงานกัน คุณก็ไม่ควรจะไปไว้ใจหรือใช้เงินใช้ทองอะไรร่วมกับแฟนขนาดนี้ (ต่อให้มีอะไรกันแล้วก็เถอะ) ทางเลือกที่ผมมองมีสองอย่าง แล้วแต่ว่าคุณจะเลือกอันไหน เพราะเบื้องหลังเบื้องลึกเรื่องราวอื่นๆที่นอกเหนือจากที่คุณเล่า จขกท จะรู้ดีที่สุด 1. เลิกกะแฟนคนนี้และพยายามเก็บหนี้ทั้งหลายที่ให้เค้ายืมไปให้หมดให้ได้ คนแบบนี้ทำอะไรให้เจริญขึ้นยากยิ่งเอาเงินลงไปถมยิ่งเหมือนถมก้อนหินลงทะเล ไม่มีวันเต็ม 2. ให้กำลังใจและอดทนสู้กับเค้าต่อไป ให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ครับ ในช่วงนี้ก็พยายามอย่าไปอุดหนุนอะไรด้านการเงินให้เค้าอีกแล้ว ห่วงตัวเองก่อนครับ จากคุณ : As it happens to be me เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 19:50:21

ความคิดเห็นที่ 9 อ่านแล้วคิดถึงน้องสาวเลยค่ะ น้องเขยทำธุรกิจแล้วโดนโกงไปหลายล้านเมื่อช่วงฟองสบู่แตกปี 40   เป็นหนี้เป็นสินเยอะแยะ   พอล้ม   น้องเขยก็เครียด  นิสัยก็เริ่มเปลี่ยน   หงุดหงิด  ขี้โมโห  ดื่มจัด   ไม่พบปะผู้คน   วันๆเอาแต่เก็บตัวเงียบ  จากที่มีรถหลายคัน  ก็เริ่มทะยอยขาย   จดหมายทวงหนี้ชักถี่ขึ้น  ทั้งหนี้บัตรเครดิต  ทั้งธนาคารต่างๆ   เราล่ะเครียดแทนน้องสาว   ต้องเป็นเสาหลักของบ้าน  คอยหาเงิน  กู้เงินมาแบ่งเบาปัญหา    พี่น้องก็ช่วยไม่ไหวเพราะยอดเงินมันสูงมาก   แต่ก็ช่วยๆเท่าที่ช่วยได้ วันดีคืนดีก็มีหมายศาลมาที่บ้าน   น้องเขยก็เก็บหมดไม่ให้ใครรู้   กว่าทุกคนจะรู้ก็ตอนมีหนังสือจากกรมบังคับคดี   แจ้งขายทอดตลาดบ้าน น้องสาวต้องตามแก้ปัญหาให้    ทั้งๆที่ก็ถามตลอดว่าเป็นยังไง  มีปัญหาอะไร(อีก)   ก็ไม่ยอมบอกไม่ยอมตอบ   เงียบอย่างเดียว   น่าโมโหมาก น้องสาวบ่นๆว่าอยากเลิก   แต่ที่เลิกไม่ได้ก็เพราะคิดถึงความดีสมัยที่ยังรุ่งเรือง  น้องเขยเขาดูแลน้องสาวเราดีมาก   ดูแลเลยไปถึงญาติๆ   ให้เงินน้องสาวเราใช้ไม่เคยขาดมือ   ซื้อเพชร ซื้อทองให้ตลอด   น้องสาวเราก็เลยทนมาตลอด   ก็ได้กำลังใจจากพี่ๆน้องๆด้วย ผ่านมาสิบกว่าปี  ตอนนี้ก็เริ่มฟื้น   พี่ๆน้องๆก็เริ่มหายใจโล่งอก     เชื่อว่าไม่นานน่าจะดีขึ้น จขกท.   ก็อดทนซักนิดนะคะ   ค่อยๆช่วยกันแก้ปัญหาไป    ไม่นานคงดีขึ้น    อย่าเพิ่งทิ้งร้างไปตอนเค้ากำลังล้มเลยนะคะ    สงสารเค้า   เผื่อเค้าคิดสั้นขึ้นมาเราจะรู้สึกผิดไปจนตายนะคะ เป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนนะคะ   ฝากกระทู้นี้เป็นกำลังใจให้ฮึดสู้ค่ะ จากคุณ : นกเจ้าโผบิน เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 20:19:57

ความคิดเห็นที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L9553854/L9553854.html ลืมแปะลิงค์ จากคุณ : นกเจ้าโผบิน เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 20:25:36

ความคิดเห็นที่ 11 อืม... เรารู้สึกว่าคุณเครียดจริงๆแฮะ... แต่คุณอย่าลืมนะคะว่า...แฟนคุณก็เครียดเหมือนกัน คุรกันจริงจังอีกสักครั้ง...ยื่นข้อเสนอไปเลย ว่าต่อไปแฟนคุณยืมคุณไม่ได้แล้วนะ เพราะตอนนี้คุณต้องเคลียร์หนี้ล้านกว่านั่นก่อน จะหยุดให้เค้าสร้างหนี้ก็ไม่ได้อีก เพียงแต่ต้องเป็นหนี้หมุนเวียน ก็หนี้ใหม่ทำงานกลบหนี้เดิม เดินไปคุยกับธนาคารสักหน่อยว่าจะทำยังไง(ไม่แน่ใจเหมือนกัน) มีเครดิตขนาดเป็นหนี้ได้เป็นล้าน เครดิตคุณก็ใช่ย่อยล่ะ เรื่องรถคุณก็ให้เค้าใช้ไป ...อาจจะเสนอช่วยค่าน้ำมันแค่ถังเดียวต่อเดือนอะไรก็ว่าไป แต่หมดแล้วหมดเลยเค้าจะมาตอดคุณไม่ได้อีก ...เรื่องผ่อนคุณถามเค้าหน่อยว่าทำไมจ่ายตรงเวลา ถ้าเค้าไปยืมใคร...คงต้องปล่อยให้เป็นหนี้เค้า ส่วนตัวเราคิดว่าผู้ชายคนนี้อะไรก็ดีหมด ขาดแต่ทักษะด้านการเงินเท่านั้น บังเอิญเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตซะด้วย ต่อไปร่วมกันซื้อบ้านจะมาเหนียวหนี้อะไรอีกมั้ย? คงต้องเคลียร์ด้านพฤติกรรมการเงินสักหน่อย หรือไม่คุณก็ทวงหนี้เค้าเองเลยแบบไปจ่ายให้...ถ้ากล้าพอ แบบว่าต้นเดือนปุ๊บขอเงินเค้าเลย เอาไปจ่ายค่ารถค่างวดอะไรก็ว่าไป ทางที่ดี... ถ้าเปิดใจกันมากพอ ลองจัดสรรหนี้ร่วมกันสักหน่อยค่ะ เขียนใส่สมุดไว้ว่าเป็นหนี้อะไรเท่าไหร่ พอเห็นเป็นรูปธรรมเป็นตัวเลขแต่ละเดือนว่าต้องจ่ายอะไร บางทีอาจจะเข้าใจอะไรมากขึ้นเห็นสภาพการเงินชัดขึ้น เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 23:44:56

ความคิดเห็นที่ 12 ในฐานะคนทำธุรกิจ คงบอกได้ว่า แฟนคุณไม่มีประสบการณ์จริงๆครับ ปรกติแล้ว ไม่มีคนเอามือไปรับมีดหรอก เท่าที่อ่านดู จริงๆแล้ว น่าจะมีปัญหาเรื่อง financial plan แนะนำว่า ลองปรึกษาพวก K-bank สำหรับ sme หรือ bank ที่ใช้ประจำว่า เอาโครงการเข้าค้ำได้หรือไม่ ดีกว่าครับ แล้ว เคลียร์เงินออกมาเคลียร์หนี้ จากคุณ : the_architect เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 01:58:35

ความคิดเห็นที่ 13 ถือเป็นบทเรียนครับ ถ้าจะให้ใครยืมเงิน อย่าเทจนหมดหน้าตัก วางนโยบายการเงินสำหรับตัวเองไว้เลย ไม่ว่าใครมายืมเงิน ให้ได้เต็มที่เท่านี้บาท แล้วเผื่อหนี้สูญไว้ด้วย ผมเคยมีญาติสนิทมายืมเงินหลายแสน เป็นญาติที่นิสัยดีมาก แต่ก็ให้ไปนิดหน่อย เผื่อหนี้สูญเราไม่เสียหายมาก แล้วก็เป็นจริง เงินก้อนนั้น หายกริ๊บเข้ากีบเมฆ แต่ไม่เป็นไร เผื่อหนี้สูญไว้แล้ว ตอนนี้ก็อยากให้ จขกท พยายามฟื้นตัวเองให้ได้ แต้มที่เสียไปในเกมที่แล้ว ให้ลืมมันไปซะ แล้วตั้งใจเริ่มเกมใหม่ให้ดี ผมเชื่อว่าด้วยศักยภาพของคุณ คุณน่าจะฟื้นได้ไม่ช้าก็เร็ว แล้วจงจำไว้เป็นบทเรียน อย่าเทให้จนหมดหน้าตัก (ยกเว้นคนที่เรายอมตายแทนได้ เช่น พ่อแม่) จากคุณ : LamoonMan เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 04:12:02

ความคิดเห็นที่ 14   ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ เห็นด้วยกับการจัดการด้านการเงินของแฟนเรา เค้าจัดการไม่ดีพอค่ะ และเลือกวิธีผิด อาจแค่แก้ไขไปเฉพาะหน้า และไม่คิดว่าจะมีปัญหาขนาดนี้ ตรงนี้เหมือนเค้าก็รุ้ตัวค่ะ และพยายามตั้งสติ ทำให้ดีและแก้ไข เราเคยคุยแล้ว บางทีก็ทะเลาะกันและ งานเค้าตั้งแต่แรก คุยกันว่าเราจะไม่เข้าใจยุ่งเกี่ยวให้เค้าจัดการกับเพื่อนไป นานๆทีเราก็เตือน กระตุ้นบ้างแค่นั้น ปัญหาหนี้ของแฟน ครึ่งปีหลังมา เค้าก็ไม่ได้ก่อเพิ่มนะคะ คือก่อนหน้า เราคาดว่า เค้ายืมมาน่าจะสองสามราย จากคนรู้จัก ตอนเริ่มงาน และจริงแล้ว แฟนไม่เคยเอ่ยปากขอเงินเราหรอกค่ะ อย่างค่าน้ำมัน เราโทรไปหาเค้า เค้าไม่ได้ไปดูงาน ถึงรู้ว่า จ่ายค่าแรงคนงานไปและค่าของจนหมด ไม่เหลือเงินและน้ำมันรถจะหมดพอดี เราถามเค้าว่า ทำไมไม่ไปทำงาน เค้าก็เลี่ยงตอบ สุดท้ายจี้ถามจนรู้ ตรงนี้เราก็ให้ไปเอง เพราะคิดว่า ยังไงก็ต้องไปดูงาน และก็คิดว่าช่วยเหลือกันไป เค้าก้รู้สึกไม่ดีนะคะ เรารับรู้ได้ ที่ต้องมาเอาเงินเรา แต่เราก็บอกไป ตอนนี้ถ้าเราไม่ช่วย คนที่รักกันอยุ่ด้วยกัน ถ้านิ่งดูดาย คงแย่มากๆ เราจะช่วยตอนเค้าลำบาก หมดตัว ไม่มีเงินจริงๆ บางทีเค้าก้คืน แต่เราก็ไม่่ค่อยไปเอาหรอกค่ะ บอกให้เก็บไว้ก่อน เพราะรู้ว่าต้องจ่ายค่าของทุกวัน เค้าก็บอกให้ลงบัญชีไว้ เราก้ลงไว้หมดแหละค่ะ ทำบัญชีมาตลอด เพราะต้องการเช็คค่าใช้จ่ายตัวเอง ประสบการณ์การทำงานเค้าก็พอมีค่ะ เพราะก่อนมาคิดตั้ง บ. แฟนเค้าก็รับงานจ๊อบ ทำเองเป็นงานเสริมมาก่อนหน้า เกือบๆ 2 ปี ค่างานส่วนใหญ่ไม่เกิน 2 ล้าน เพราะทำงานประจำด้วย จริงๆงานนี้ค่างานไม่ถึงสิบล้าน แต่ต้องบอกว่ามันโดนไปทางอื่นเยอะ ไม่อยากพูดมากค่ะ เจ็บใจราชการไทยจนเราเสียน้ำตามาแล้ว กินกันตั้งแต่ล่างยันบน อาจเพราะเค้าเห็นเรายังเด็ก ถ้าไม่ให้ งานก็ตรวจไม่เคยผ่าน ดองเอกสารนานสุดเกือบสองเดือน เบิกเงินไม่ได้ ไม่ทำงานนี้ก็ไม่ได้ เค้าบังคับด้วยอำนาจกลายๆ ว่าต้องทำตั้งแต่แรก มันเหมือนความซวยหลายๆอย่างมารวมกัน โดนเพื่อนเชิดเงินงาน ทิ้งหนี้ไว้ให้ทั้งหมด เอาคนงานไป ส่งผลงานล่าช้า ทำไม่ทัน โดนปรับและปลีกย่อยรายวัน มีทุกวันค่ะปัญหา ก่อนหน้าเค้าทำงานมา ก็ไม่เคยขาดทุนหรืออะไร ได้เงินมา เค้าให้เราฝากเก็บ แต่เงินตรงนั้นเอาไปเป็นค่าประกันงานราชการ 2 งาน เป็นเงินตายอีก 2 ปี เราก็ผิดด้วย ที่ตอนช่วย เราไม่ได้คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้ ช่วยเพราะถ้าเราไม่ช่วย ใครจะช่วย เราแค่คิดว่า เราให้ยืมไปก่อน คนที่อยุ่กับเค้า คนใกล้ตัว ยังดีกว่าไปยืมคนอื่นน่ะค่ะ แต่ต้องบอกว่า แฟนเค้าไม่ได้คิดหนีหรือไม่จ่ายนะคะ แต่เค้าไม่มีจริงๆ เค้าเครียดกว่าเราเยอะ เราสองคนคิดว่าจะไปคุยกับจิตแพทย์ด้วยซ้ำค่ะ เพราะไม่อยากเครียดมาก ไปกว่านี้ จนไม่มีใจทำงานและพาลเสียไปหมด ทุกวันนี้เราก็พยายามคุยปัญหา แก้ไปในแต่ละวัน ในแต่ละเดือนค่าใช้จ่าย ที่ไม่ใช่หนี้สิน ตกเดือนนึง 3 แสนขึ้น และเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่าย ทั้งค่าแรง ค่าของค่ะ มันถึงไม่มีเงินมาจ่ายหนี้ เบิกเงินงวดมา หมดทันทีค่ะ เพราะมันจำเป็นต้องจ่ายทั้งนัน้ แต่เจ้าหนี้ที่ไหนเค้าจะเชื่อล่ะคะ ว่าไม่มี เราคุยกับเค้าค่ะ ว่าต้องพยายามแบ่งจ่ายบ้าง ไม่งั้นปัญหาบานปลาย ถามว่าไปคุยกับธนาคารได้มั้ย บางทีเราคิดว่าเค้าไม่ปล่อยกู้ให้หรอกค่ะ แค่ค่าผ่อนรถ เรายังไม่มีปัญญาหามาจ่ายได้ตรง นับประสาอะไร จะไปกู้เงินอีกก้อน ตอนนี้แค่พยายามหารายได้เพิ่มแค่นั้น การเลิกกัน ถามว่าเคยคิดมั้ย เคยค่ะ เพราะเพื่อนเราบางคนบอกว่าทิ้งไปเลย เราเลยมานั่งถามตัวเองเมื่อเดือนก่อนว่า เลิกเหรอ-? คือเราไม่เคยมีความคิดนี้ในหัวน่ะค่ะ พอเพื่อนบอก ถึงมาคิดว่า เราจะเลิก เพราะอะไร เพราะเค้าตกอับ ไม่มีเงิน มีแต่หนี้สิน ถามว่า ความผิดเค้ามั้ย ก็ไม่ถึงขนาดนั้น เค้าแค่ ทำผิดพลาด งานผิดพลาด บวกด้วยความโชคร้ายมากๆในหลายๆเรื่อง ทำก้ทำไม่ได้จริงๆค่ะ กับเพื่อนเราเค้ามองแค่ว่า แฟนทำให้เราเป็นหนี้ เค้าไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอน่ะค่ะ มีแต่เพื่อนสนิทจริงๆที่รู้จักเค้า ก็จะคอยให้กำลังใจเรา ว่า สู้ต่อไป และแฟนเราเค้าแค่ผิดพลาด จะทิ้งก็ไม่ใช่เรื่อง อย่างที่คุณนกเจ้าโผบิน เล่าเลยค่ะ เข้าใจว่าน้องสาวคุณน่าจะรู้สึกไม่ต่างจากเรา ตอนเค้าสบาย มีเงินทอง เราแทบไม่เคยต้องจ่ายอะไร ตั้งแต่ที่คบเค้ามา เค้าจะถือว่าเป็นหน้าที่เค้าน่ะค่ะ เพราะพ่อเค้าก็เป็นแบบนี้ คือเลี้ยงดูทุกคน คุณแม่ก็เป็นแม่บ้านตั้งแต่แต่งงาน แต่ท่านก็เสียไปแล้วตั้งแต่เค้าเรียนปี 1 เค้าจึงต้องเป็นเสาหลักครอบครัว ดูแลแม่และน้องค่ะ คบเรา เค้าก็เหมือนมาคอยดูเรา ครอบครัวเรา บ้านเราไม่ได้ร่ำรวยค่ะ แต่พ่อแม่อยุ่สบาย และปัญหาเรา เราก็ไม่เคยไปทำให้ท่านลำบากกาย และใจ แต่เค้าไม่ได้มาเลี้ยงดูพ่อแม่เรานะคะ เราเป็นคนดูแลท่านค่ะ เพราะภาระเค้าก็เยอะ ส่งเสียน้องเรียนมหาลัยอยู่ และก็ดูแลแม่ ส่งเงินให้ทุกเดือน ตอนนี้คุยล่าสุด เราตกลงกันว่า จะพยายามหามาจ่ายหนี้ในแต่ละเดือนให้ได้ ไม่ให้ทิ้งไว้นาน ไม่มีก็ต้องโทรไปผ่อนผัน ตรงนี้สำคัญมากๆ เพราะอาจด้วยปัญหาเค้าเยอะมากๆในแต่ละวัน แฟนจะชอบทิ้งตรงจุดนี้ เวลาโดนโทรตามหนี้ บางทีเค้าไม่รับโทรศัพท์ เคยถามเค้าว่าทำไมไม่รับเค้าบอกว่า รับแล้วเครียดเยอะ เพราะโดนด่า เค้ากำลังทำงาน คือไม่อยากให้มีเรื่องมากวนใจมาก และไม่มีเงินไปจ่ายเค้า พอขอเลื่อน โดนด่าเป็นชุดแรงๆ มันทำให้เค้าจิตตกมากๆ ถามว่าเราเข้าใจมั้ยที่เค้าไม่รับโทร เข้าใจค่ะ เพราะโดนมาแล้ว แต่นิสัยเราคือ เป็นคนแบบฝืนยังไงต้องรับ เราเคยโดนเจ้าหนี้ด่า จนร้องไห้มาแล้ว ขอเลืิ่อนไป อีก 2 วัน เพราะรอเช็คเคลียร์ริ่ง เค้าไม่ยอมบอกต้องจ่ายวันนี้ คุยเท่าไร ก็ไม่ยอม คุยเกือบ 20 นาที ขนาดขอร้องตรงๆว่า พี่ รอหนูอีก 2 วันนะ หนุไม่ได้คิดหนี แต่ตอนนี้หนูไม่มีเงินจริงๆ พี่จะให้หนูไปจ่ายไยังไง อีก 2วันถึงจะได้เงิน...เราร้องไห้เลยค่ะ เพราะด่ามาเจ็บมาก เป็นชุดเลย ในชีวิตไม่เคยรู้สึกแย่ขนาดนี้เลย จิตตกไปเลยค่ะ บางคนบอกว่าให้ขอเงินพ่อแม่...ทำไม่ได้ค่ะ ไม่เคยขอเงินพ่อแม่ตั้งแต่เรียนจบ จริงๆสมัยเรียนก็แทบไม่ได้ขอ นอกจากจ่ายค่าเล่าเรียนก้อนใหญ่จริงๆ ทำงานพิเศษหาเงินเอง และไม่คิดเอาปัญหาไปให้ท่าน เค้ารับรู้ค่ะว่ามีปัญหา แต่เค้าคอยดูห่างๆ เพราะเราคุยกับแม่ว่า ไม่ต้องห่วงเรา หนูโตๆกันแล้ว ทำผิดพลาด ก็ต้องแก้กันเองไป มันไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้ว ก็พุดให้ท่านสบายใจน่ะค่ะ แต่ก็รู้ว่าที่บ้านก็แอบกังวล เค้าไม่เคยรู้สถานการณ์แบบชัดเจนจริงๆน่ะค่ะ ถ้ารุ้คงพาลเครียดไปใหญ่ เราถึงโวยวายทะเลาะกับแฟน พอมีหมายศาลมาที่บ้าน เพราะตัวเรา เรายังไม่เคยให้ที่บ้าน ต้องมารู้สึกไม่สบายใจ หรือกังวลกับเรา เค้าจะทำให้เป็นแบบนี้ มันไม่สมควรค่ะ อย่าให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนไปด้วยแค่นั้น ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ ปัญหาเรา คือเราก็รู้อยู่แก่ใจนะคะ ว่าต้องทำยังไง การมาคุยในนี้ มันคือความอัดอั้น กดดัน จนแค่อยากฟังความคิดเห็นคนอื่น เพราะ ณ วันที่เราตั้งกระทู้ ปัญหารุมมาแต่เช้าเยอะมาก จนอื้อไปหมด คือ คิดอะไรไม่ออกจริงๆ อยากได้คนเตือนสติ และฟังคนอื่นแนะ คืออยากหยุดคิดน่ะค่ะ แต่เราทำไม่ได้ จนต้องหาทางทำอะไรซักอย่าง คิดว่าการมาพิมในนี้ อาจช่วยได้ค่ะ ก็ช่วยได้จริงๆค่ะ อย่างน้อยเราก็ตั้งสติใหม่ และตามแก้ปัญหาต่อไปค่ะ จากคุณ : Violet เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 09:51:28 A:111.84.239.9 X: TicketID:282019

ความคิดเห็นที่ 15   ผมถูกแฟนทิ้งด้วยเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ ตอนที่ผมเริ่มเดิม ผมมีทุกอย่าง ให้เขาทุกอย่าง จ่ายหนี้บัตรให้เขา จ่ายค่าเทอม เอาเงินให้ ที่บ้านเขาไปเข้า บัญชีเพื่อเช็คที่บ้านเขาจะได้ไม่เด้ง แต่ด้วยประสบการณ์ที่ไม่มากพอของผม วันหนึ่งผมพลาด พลาดในขณะที่กำลัง ขยายงาน สุดท้าย แทบหมดตัว เครียด เงียบ กินเหล้า หงุดหงิด เขาทนสภาพผมแบบนี้ได้ราวๆ เกือบปี ก่อนไปเขาบอกว่า ความจริง อยากไปตอนที่ผมสภาพดีกว่านี้ ผ่านมา สองปีกว่า วันหนึ่ง เขาบอกผมว่า หลังจากเลิกกันไป เขาเคยคิดว่า วันนี้ถ้ามีผมอยู่ด้วยเขาคงดีกว่นี้ แต่เขาก็หยิ่งพอที่จะไม่กลับมา เรื่องมันก็เลยจบแบบนี้ เก้าปีของผม วันที่ผมทำธุรกิจของตัวเอง ก็เพื่อเราสองคนจริงๆ คุณจะรอไหม จะอยู่ข้างๆ เขาไหมวันที่เขากำลังพยายาม จากคุณ : GZ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 10:05:34 A:125.24.101.209 X: TicketID:172368

ความคิดเห็นที่ 16 คุณจะปรึกษา เรื่อง เงิน หรือ เรื่องความรัก ครับ 1. เรื่อง ความรัก   ถ้ายังรักเค้าอยู่ ยังอยากใช้ชีวิตร่วมกับเค้าอยู่ พร้อมที่จะสู้ พร้อมที่จะลำบากแบบนี้ ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ เชื่อว่าไม่ต่ำกว่าอีก 3 ปี คุณจะทน จะรอมั้ยครับ ถ้าไม่ หาทางลงซะ แล้วไปเถอะ ปล่อยให้เค้าเจ๊บไปเถอะ มันไม่มีอะไรเจ๊บปวดมากกว่านี้แล้ว ( ประมาณแบบนี้ เคยโดนมา) 2. เรื่องเงินนะครับ  - ขั้นแรก คุยกันก่อนเรื่องหนี้ทั้งหมด ว่ามีเท่าไหร่ อย่างไรบ้าง ติดใครบ้าง และชื่อใครบ้าง  - เป็นชื่อของคุณเท่าไหร่ เป็นชื่อเค้าเท่าไหร่ เป็นของเพื่อน ญาติ ที่ต้องจำเป็นใช้คืนจริงๆเท่าไหร่ เป็นของสถาบันการเงินเท่าไหร่ ( แยกแยะให้หมดนะครับ)  - ถ้าดูตัวเลขแล้ว ให้ทำต่อดังนี้นะ            - เลือกใครคนใดคนนึง ที่จะวางแผนล้มละลาย ถ้าคิดว่า ไม่มีปัญญาจ่ายจริงๆ       - แต่ถ้าคุณจะเลิกกับเค้า หาทาง clear ของตัวเองจะดีที่สุด       - ต้องดูเรื่องทรัพย์สินด้วย ว่าใครมี ทรัพย์สินอื่นๆ อะไรเหลือบ้าง ต้องมีให้น้อยที่สุด เผื่อล้มละลายจริงๆ จะได้ไม่ถูกยึดทรัพย์       - หาทางโอนทรัพย์สิน ไปให้คนอื่นซะ ( แต่ศึกษาเรื่องล้มละลายให้ดีที่สุดก่อนนะ ว่ากี่ปี อะไรต่างๆ)    เรื่องเงินมีทางออกอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกครับ แค่ว่า พวกคุณสองคน จะจัดการมันได้มั้ยต่างหาก    ถ้าคิดว่าหาเงินมาไม่พอใช้หนี้ ก็จงล้มละลายซะ  วันข้างหน้า ค่อยหาเงินได้ ถ้าเราสู้นะ    ผมเชื่อว่า ที่เค้าทำอะไรต่างๆ ทำธุรกิจของตัวเอง ส่วนหนึ่งเค้าก็ทำเพื่อคุณ    แค่ว่าเค้าโง่ ที่เอาคุณมาเกี่ยวพันเรื่องเงินแค่นั้นเอง    โดยปกติแล้ว ไม่ควรเอาแฟนมาเกี่ยวข้องเรื่องเงิน หรือเกี่ยวข้องให้น้อยที่สุด เวลาที่จำเป็นแค่นั้น ยืมเงิน กู้เงิน ไม่ควรยืมแฟนเด็ดขาด หรือยืมแล้ว ต้องคืนให้เร็วที่สุด ที่จะทำได้ เพราะ เชื่อมั้ย มันกระทบกับเรื่องความรักจริงๆ เหมือนที่เกิดกับคุณ    การจัดการการเงินก็ส่วนนึง แต่พอเจอวิกฤต เจอปัญหา เจอการโกง casflow ไม่พอ ทุกอย่างก็ตามมา    ปัญหาพวกนี้ ผมผ่านมาแล้ว ผมเข้าใจนะครับ    และ ปัญหาต่างๆเหล่านี้ มันก็เป็นส่วนนึง ที่ทำให้คนที่ผมรักที่สุดในชีวิต ต้องจากผมไป ก่อนที่เรากำลังจะแต่งงานกันไม่กี่เดือน    ขนาดผมไม่เอาเค้ามาเกี่ยวข้องเรื่องเงิน เกี๋ยวให้น้อยที่สุดแล้วก็ตาม แต่สุดท้ายเค้าก็คิดแค่ว่า อนาคตคุณจะดูแลเค้าได้เหรอ?    แต่เคยมองกลับกันมั้ย ว่าที่ทำทุกอย่าง เพื่ออนาคตของใคร ไม่ใช่ของเราสองคนเหรอ? จะตัดสินใจยังไง จะทำยังไง ก็ขอให้โชคดีครับ เป็นกำลังใจให้ครับ เรื่องเงินของนอกกาย ตายไปก็เอาไปไม่ได้.. จากคุณ : ax เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 11:14:17

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นกำลังใจให้นะคะ .... จากคุณ : น้ำตาลสีทอง เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 11:28:19

ความคิดเห็นที่ 18   คุณ ความเห็น 16 คล้ายผมเหมือนกัน ผมก็กำลังวางแผนแต่งงาน คุยสินสอดกันแล้ว ผมใช้เวลา เกือบๆ 3 ปี ในการกลับมายื่นอีกครั้ง เคลียทุกอย่างหมด ประสบการณ์มันสอนเรา ว่าเราควรทำยังไง ผมแกร่งขึ้นเยอะ เจ็บสุดๆ จริงๆ ที่เธอจากไปตอนนั้น เจ็บ จนบอกไม่ถูก ไม่เหลืออะไรเลย ยังดีมี พี่น้อง พ่อแม่ อยู่ข้างๆ อยู่ข้างๆเขาเถอะครับ ผมเชื่อว่าเขาทำ เพื่อ อนาคตคุณสองคนจริงๆ จากคุณ : GZ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 12:00:47 A:125.24.101.209 X: TicketID:172368

ความคิดเห็นที่ 19   -คุณ GZ คะ เราก็ไม่เคยคิดไปจากเค้าหรอกค่ะ และเค้าก็รับรู้ตลอดมาค่ะ การคิดทบทวน เพราะ มีคนทักแนะมา เพื่อนเราทั้งนั้น 4 ใน 5 พอรู้ว่าเราลำบากแบบนี้ บอกให้เลิก แต่เราก็เหมือนคิดไม่เหมือนเค้า แต่แอบมีคำถามแว้บมาบ้างว่า รึเราโง่นะ ที่ยังคิดจะอยู่กับเค้า(อันนี้คิดประชดๆตัวเองค่ะ) - คุณ ax คะ ยอมรับค่ะ ว่าความรัก กับเรื่องแบบนี้ ส่งผลต่อกันมากค่ะ แต่ถามว่าเรายังรักกันมั้ย แน่นอนค่ะ ไม่งั้น คงมีใครฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ทิ้งกันไปแล้วค่ะ ไม่ใช่แค่เราที่สามารถทิ้งเค้าได้ค่ะ เค้าก็สามารถปล่อยทิ้งทุกอย่างไว้ให้เราได้ถ้าจะทำ แต่เรายังเดินไปด้วยกัน ให้กำลังใจกันอยู่ และพยายามแก้กันไป ข้อแนะนำที่ให้มา เป็นสิ่งที่เราคุยๆกับแฟนเมื่อวันก่อนค่ะ แนวๆนั้น พยายามเคลียร์หนี้สินให้หมด เท่าที่จะทำได้ค่ะ ถ้ามันไม่มี ก็ต้องปล่อยไปตามที่จะเป็นค่ะ จากคุณ : Violet เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 13:14:39 A:111.84.241.21 X: TicketID:282019

ความคิดเห็นที่ 20 คุณ Violet ถ้าจะสู้กันสองคนต่อไป ก็ทำเถอะครับ เรื่องเงินเรื่องเล็ก คุณสองคนยังไม่แต่งงานกัน ไม่มีพันธะผูกพันด้าน นิติกรรม ไม่มีเงินจ่าย ก็ล้มละลายไป แค่ 3 ปีเอง แต่ก่อนล้ม จงวางแผนให้ดีๆ ลองหาคนปรึกษาด้านนี้ซะนะครับ ส่วนเรื่อง งานของแฟนคุณ อันนี้ลองคุยกันดูนะครับ ว่าเค้ามีความสามารถที่จะทำเองจริงๆไดหรือเปล่า บางครั้งเป็นลูกจ้างเค้า กินเงินเดือน สบายกว่ากันเยอะ เข้าใจว่าขี่หลังเสือแล้วลงลำบาก แต่ถ้าจำเป็นต้องลง ก็ต้องลงนะครับ เป็นกำลังใจให้ผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้นะครับ ของผมก็กำลังฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นอยู่ครับ คุณ GZ ยินดีด้วยนะครับ ที่ผ่านปัญหาเหล่านั้นมาได้ครับ ของผมกำลังดำเนินการอยู่ครับ ดีขึ้นมามากแล้ว กำลังพยายามต่อไป ซักวันคุณจะเจอคนที่รักคุณและอยากอยู่ร่วมชีวิตกับคุณจริงๆ โชคดีนะครับ จากคุณ : ax เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 14:17:01

ความคิดเห็นที่ 21 มาตอบอีกรอบค่ะ  เราว่าเจ้าของกระทู้มองโลกในแง่ดีมาก รักแฟนจนเวอร์ แฟนคุณน่ะใช้เงินไม่เป็น บริหารเงินไม่เป็น ตอนเค้ามีเงินเค้าให้เงินคุณ ไม่ใช่เพราะเค้าดีกับคุณ แต่เพราะเค้าใช้เงินไม่เป็นต่างหากละคะ -_-' ตอนนี้ลำบากไม่ใช่เพราะโน้นนี่นั่นหรอก เราอ่านยังไงก็ "บริหารเงินไม่เป็น" เหมือนเดิมนั่นแหละ แถมไม่พอยังหนีปัญหาอีก คนเราน่ะ ล้มได้ลุกใหม่ได้ค่ะ แต่ไม่มีผู้ชายดีๆที่ไหน เค้าให้ผู้หญิงที่รักมาพัวพันด้านนิติกรรมหรือเซ็นเป็นหนี้เป็นสินหรอกนะคะ  ถ้าให้เงินก็คือให้เงินสด แต่ไม่ใช่ไปเซ็นรับหนี้ในหลายๆเรื่อง บริหารเงินธุรกิจยากกว่าบริหารเงินส่วนตัวหลายเท่า ขนาดบริหารเงินส่วนตัวเค้ายังไม่ได้เรื่อง จ่ายเงินไม่ตรง แล้วคุณคิดหรือคนแบบนี้จะบริหารธุรกิจได้ เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ค่ะ ไม่ควรขอยืมเงินพ่อแม่ พ่อแม่น่ะเลี้ยงคุณมาจนโตหมดเปลืองเงินไปเท่าไหร่ จะแบมือขอเงินพ่อแม่มาให้ผู้ชายอีกหรือ เรื่องล้มละลายก็ทำได้นะคะตามกฎหมายช่วยได้มาก แต่สุดท้ายแล้วมันก็แค่เอาเงินมาไม่จ่ายหนี้แค่นั้นเอง ก็แค่1ในทางหนี้ปัญหา จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 17:16:35

ความคิดเห็นที่ 22 กอด คห 20 ทีนึง ปลื้มใจแทน... มาอ่านเพิ่มเติม ดูจากเค้าเครียดและหนีปัญหา ...ผัดผ่อนการเผชิญหน้ากับความปัญหาเล็กๆน้อยก็ยังดีแบบนี้ เราคิดว่าตอนนี้ สิ่งที่เจ้าของกระทู้ควรให้แฟนคุณคือ กำลังใจและแรงขับดัน คงไม่ใช่ตัวเงินแล้วละคะ... ค่อยๆ แก้กันไปนะคะ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 18:02:29

ความคิดเห็นที่ 23   ขอบคุณค่ะ รับฟังทุกความเห็นค่ะ ก็จริงตรงที่เรารักเค้า เพราะเรารักใคร เราก็รักจริง แต่เราก็เชื่อว่าเค้าก็รักเราไม่ต่างจากเราค่ะ มีเหตุการณ์หนึ่ง ปลายปี 48 เราเคยเกิดอุบัติเหตุรถชนเจียนตาย นอน รพ. เป็นเดือนๆ เค้าดูแลจนเราหายดี ตอนนั้นสภาพเราแย่มากค่ะ กลัวมากๆคือพิการ จริงๆขวัญเสียเกินกว่าเหตุค่ะ ร้องไห้เกือบทุกวัน งานเค้าก็วิ่งทุกวัน แต่เค้าก็ยังไปเฝ้าดูแล ขับจาก กทม มาต่างจังหวัด ดูแลให้กำลังใจ เกือบทุกวัน เกือบ 3 เดือน ที่เค้าทำแบบนี้ ไม่เคยบ่นเลย เรามองตรงความใส่ใจตรงนี้ มากกว่าเรื่องเงินค่ะ ว่าตอนเราลำบาก เค้าอยุ่กับเรา หรือ คิดทิ้งเราไป เค้าเต็มใจดูแลเราจริงๆมั้ย ทุกวันนี้ลำบาก เค้าก็ยังเอาใจใส่เรา เรื่องเงินที่เราพูดว่าตอนสบาย เค้าให้เรา เพราะว่า ตอนนี้เรามีปัญหาการเงินค่ะ เราเลยพูดแค่เรื่องเงินขึ้นมาเปรียบ สิ่งที่ให้ เป็นเงินก็จริงค่ะ แต่เปิดบัญชีเงินฝาก กองทุนพวกนี้ เพ่ืออนาคตของเราทั้งคู่เองซะส่วนใหญ่ ตรงนี้ก็มีส่วนทำให้เราคิดว่า เค้ามี มันเงินเค้า ไม่จำเป็นต้องมาให้ เพราะเราก็มีของเรา แต่เค้าก็ไม่เคยจะคิดถึงแต่ตัวเค้าเอง ทุกอย่างจะพูดง่ายๆคือ เค้าพยายามให้อยู่ในชื่อเรา ในส่วนของมีค่าหรือบัญชีฝาก เค้าเคยพูดติดตลกว่า เผื่ออนาคตเค้าเป็นอะไร หรือตกอับ เราจะได้ไม่ลำบาก แบ่งเราส่วนนึง ที่บ้านเค้าส่วนนึง ตัวเค้าน่ะ ไม่มีค่ะ เหลือเท่าไร เค้าก็ใช้เท่านั้น ส่วนของนอกกายอื่นๆ มันไม่ได้ทำให้เรารักเค้า หรือคิดว่าเค้าดีกับเรา ด้วยเรื่องแค่นั้นค่ะ มันเลยจุดไปมองตรงนั้นแล้ว เรามองที่ความตั้งใจเค้ามากกว่าตัวของค่ะ เพราะของมันก็หาซื้อได้กันทุกคน ยอมรับค่ะ ว่ามองโลกแง่ดี และแฟนก็มองโลกแง่ดี บ่อยครั้งที่เค้ากลับมาและสีหน้าแย่มาก แต่ก็พยายามยิ้มให้เรา ถามเค้า เค้าก็ไม่เล่าให้ฟัง เราก็พยายามให้กำลังใจกันทุกวัน เค้าพูดบ่อยค่ะ ว่า กลับมา ไม่ต้องการอะไร ขอแค่แบบได้กำลังใจ เดี๋ยวก้หายเหนื่อย สบายอยู่แล้ว บางทีเราฟังเราจะน้ำตาไหลนะคะ ดูจากสีหน้าก็รู้ว่าวันนั้นเค้าคงเจอเรื่องหนักมา ถ้าไม่มองแง่ดีเแบบนี้ เอาแต่โทษเค้า เราว่า สภาพเราทั้งคู่ ก็คงแย่กว่านี้ สถานะมันแย่มากๆแล้ว ก็พยายามไม่ให้จิตใจมันแย่ไปกว่าเก่าน่ะค่ะ ขอบคุณทุกความเห็นและกำลังใจค่ะ ตอนนีเราสงบขึ้นมากกว่าเดิมแล้วค่ะ จะตั้งหน้าตั้งตาแก้ปัญหากันต่อไป ขอให้ทุกคนที่เจอเรื่องไม่ดี ปัญหาต่างๆ ผ่านไปด้วยดีเช่นกันค่ะ จากคุณ : Violet เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 19:48:23 A:1.46.109.174 X: TicketID:282019

ความคิดเห็นที่ 24 โอ้ คห.23ท่าทางเจ้าของทู้จะดีขึ้นมากนะคะ ข้อความที่โพสก็ไม่สับสนแล้วอ่านเข้าใจง่าย ไม่ว่าจะตัดสินใจยังไงก็สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ ^ ^ อะ ให้ดอกไม้เป็นกำลังใจ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 20:18:58

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ violet ผมเข้าใจแฟนคุณนะ ผู้ชาย เวลามีปัญหา เค้าไม่พูดหรอก เข้าใจว่าอยากให้บอกให้กล่าว แต่บางครั้งมันพูดไม่ออก บอกไม่ถูกจริงๆ ส่วนนึงคือ ไม่อยากให้ไม่สบายใจไปด้วย ไม่อยากมาให้ลำบากใจไปด้วย งานก็ส่วนงาน ความรักก็ส่วนความรัก รู้มั้ย เรื่องของผมนะ สำหรับคนที่ผมรักที่สุด เวลาเราเหนื่อย เราเครียด เราเจอปัญหา ผ่านอุปสรรค ปัญหามานักต่อนัก เจอมรสุมชีวิตมาหลายอย่าง เชื่อมั้ย ผมไม่เคยต้องการอะไรเลย ไม่ต้องมาถามว่าเหนื่อยมั้ย ไม่ต้องมาคอยดูแลอะไรมาก ไม่ต้องมาพูดหวานๆ แค่กลับบ้าน แค่โทรหา ได้ยินเสียงเค้า แค่นี้เราก็มีความสุข ทุกอย่างก็หายเหนื่อยแล้ว แค่เค้าไม่เคยเข้าใจแค่นั้นเอง... แล้ววันนึงเค้าก็จากไป ไปกับคนที่เค้าต้องการ คนที่เหมาะสมมากกว่าเรา เหมือนกับ 7 ปีที่คบกัน 21 ปีที่รู้จักกันมา ไม่มีค่าอะไรเลย... ยังไงก็ขอให้โชคดีนะครับ ขอให้ผ่านอุปสรรคต่างๆได้อย่างดีนะครับ ทุกปัญหามีทางออก ค่อยๆแก้ไป อย่าเครียด ให้ใช้สติมากๆ เดี๋ยวมันจะคิดออกเองว่าควรทำยังไงครับ nobody perfect และ ทุกคนเกิดมาย่อมต้องเจอวิกฤตทุกคน ไม่เรื่องใดก็เรื่องนึง เชื่อซิ.. ปล. ถึงหนูออย คคห 22 เจอคราวหน้า ให้กอด 2 ทีเลยจ้า... จากคุณ : ax เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 23:06:31

ความคิดเห็นที่ 26   1. เราเข้าใจแฟนจขกท.เลยว่าโดนเพื่อนไม่รับผิดชอบงานเป็นยังไง มันเสียความรู้สึกจริงๆค่ะ เราหวังว่าเค้าจะจำครั้งนี้ไว้เป็นบทเรียน และรอบคอบขึ้นในการตัดสินใจทำอะไรครั้งต่อไปเหมือนเรานะคะ 2. เรื่องการเงิน เราว่าจขกท.ต้องคุยกับแฟนแล้วแหละค่ะ ว่าจะวางแผนบริหารการเงินอย่างไร ฟังๆดูคุณกับเค้าก็รักกันและผูกพันกันมาก ถ้าจะสู้ไปด้วยกัน เราว่ามาวางแผนคุยกันดีกว่าค่ะ ว่าจะทำยังไง บอกเค้าว่าคุณพร้อมจะร่วมหัวจมท้ายไปกับเค้าเต็มที่แต่ขอให้มาคุยกัน เรื่องไหนไม่แน่ใจก็ไปหาข้อมูล ไปถามผู้รู้ ดีกว่าตัดสินใจคนเดียวนะคะ เรื่องหนี้ในระบบอาจจะไปขอผ่อนผันได้นะคะ 3. ในส่วนของจขกท.เอง เราอยากให้เก็บเงินส่วนตัวของตัวเองไว้ด้วยค่ะ เพื่อเป็นเงินลงทุนทำอาชีพของตัวเอง ช่วยก็ส่วนช่วยค่ะ ตัวดิฉันเองก็มีประสบการณ์ช่วยแฟนทั้งๆที่เขาไม่ได้ร้องขอ แต่เป็นเพราะเราเองที่ทนไม่ได้ แต่แฟนกันเลิกกันไปก็เป็นคนอื่นนะคะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ค่ะ แฟนที่เราช่วยเหลือทุกอย่างมาตลอด3ปี ในที่สุดเค้าก็เจอคนที่ดีกว่าเราค่ะ นอกจากส่วนที่เราทุ่มเทให้กับเค้าแล้วเราควรจะมีส่วนหนึ่งที่กันเอาไว้เป็นของเรา เกิดอะไรขึ้นมาจะได้ไม่เจ็บหนักนะคะ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 09:27:55 A:10.0.1.180 X:125.25.252.59 TicketID:018639

ความคิดเห็นที่ 27   เข้ามาอีกรอบ ถ้าเป็นหนี้สินเกิน1ล้านบาท โดนฟ้องล้มละลายได้นะคะ ศาลจะเอาทรัพย์สินที่เรามาอยู่ไปขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้ และเราจะทำธุรกรรมไม่ได้ ออกนอกประเทศไม่ได้ไป 3 ปี เพราะฉะนั้น วางแผนการเงินดีๆนะคะ ศาลเรียกไปไกล่เกลี่ยก็ไปเถอะค่ะ ขอผัดผ่อนหนี้ เจ้าหนี้เค้าน่าจะยอมให้ผัดผ่อนมากกว่ายอมหนี้สูญนะคะ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 09:35:44 A:10.0.1.180 X:118.175.64.208 TicketID:018639

ความคิดเห็นที่ 28 มาเป็นกำลังใจให้นะคะ อย่าเลิกกันเลยค่ะ ผู้ชายดีๆสมัยนี้หายากนะคะ เค้ามีหนี้สินเพราะทำธุรกิจ ไม่ใช่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ลองคุยกันแล้วช่วยกันแก้ปัญหาเถอะค่ะ จับมือกันเดินไปด้วยกัน น่าจะดีกว่าเดินคนเดียว คิดซะว่าเป็นบททดสอบบทหนึ่งของชีวิต เราว่าคุณสองคนผ่านตรงนี้ไปได้แน่นอนค่ะ จากคุณ : Salma เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 08:22:15

ความคิดเห็นที่ 29 แวะมาให้กำลังใจนะคะ รู้สึกว่าจขกท.จะมีทางออกแล้ว ปัญหาเรื่องเงิน เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตคู่ จัดการให้ดีค่ะ  บางครั้ง เราต้องแปลงร่างเป็นนักรบหญิงบ้าง ก็ต้องทำนะ เรากับแฟนก็ต้องช่วยเหลือกันบ้างในบางครั้ง ไม่มีใครเก่งหรือฉลาดกว่ากันทุกเรื่องค่ะ ต้องยอมรับเลยว่า ต้องฟังกันและยอมรับเหตุผลของกันและกันบ้าง ถ้าเราได้เจอคู่ชีวิตที่ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา ถือว่าเป็นโชคค่ะ อย่างไรก็ตาม สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น เราถือว่าเป็นกรรมนะคะ ในอดีตเราอาจจะไปโกงหรือไปทำอะไรไว้ ถึงได้มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน แต่ก็ให้ตั้งหน้าตั้งตาทำความดี ทำมาหากินที่สุจริตต่อไป เพราะสักวันหนึ่ง ความดีนั้นจะกลับมาตอบแทนเรา จากคุณ : 2nd Ave. เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 22:55:35