ความคิดเห็นที่ 1 อืม เราก็ไม่ใช่หมอแหะ เลยไม่รู้ว่าควรหยุดยาหรือไม่ควร แต่เรื่องนอนหลับนี่ ปกติเราไม่หลับเพราะว่าใจไม่สบาย เมื่อใจสบายมันก็จะหลับ อยากทำให้ใจสบายมีหลายวิธีครับ ฟังเพลงเบาๆ เป็นต้น หรือที่ทำให้ไม่ต้องคิด ใจก็จะสบาย แล้วก็หลับ... เมื่อก่อนผมหลับยากมาก เผลอๆ ตอนกลางคืนตื่นมาแบบผวาอีก มีเรื่องคิดเยอะ หัวนี่แล่นๆๆๆ ไม่หยุดเลย เดี่ยวนี้ก่อนนอน พยายามทิ้งเรื่องคิดหมด ด้วยการฟังเพลงเบาๆ แล้วก็หลับไปเลยครับ จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 09:03:41

ความคิดเห็นที่ 2 เคยลองหัดนั่งทำสมาธิไหมครับ ทำให้จิตใจสงบ ถ้าทำได้ ก็น่าจะทำให้หลับได้ง่าย จากคุณ : phahurat เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 09:08:57

ความคิดเห็นที่ 3   แปลกดีทำไมผู้หญิงไทยที่มีสตางค์ เขาซัดยานอนหลับกันจังครับ เพื่อนผมเคยเป็นดาวมหาวิทยาลัยชั้นหนึ่งของเมืองไทยนะครับใครๆก็รักก็หลงเขา ฐานะชาติตระกูลไม่เป็นรองใครในประเทศนี้ จบมาก็สอบเข้าหน่วยราชการเกรด เอเอ ได้ที่หนึ่ง แต่ทุกวันนี้หมอจ่ายยานอนหลับให้จนเบลอเหมือนกัน ใครมาเห็นตอนนี้ก็เสียใจน่ะครับ เทียบกับลูกน้องผมรายนั้น มาจากต่างจังหวัด ค่าแรงเขาไม่มากต้องส่งให้พ่อแม่ด้วย เริ่มงานปั๊ปหาแฟนแชร์ค่าเช่าบ้านอยู่ด้วยกันเลย ทำงานสายตัวแทบขาด มีฟังชันเพิ่ม มีโอที ทำหมด เจอทีไรยิ้มสู้ไม่เคยเห็นเขามีเวลาซึมเศร้าเลยครับ ล่าสุดท้องแก่มาทำงานจนวันคลอดน่ะครับ มาคิดๆดูแล้วผมสงสัยว่าคุณหมอท่านจะมีวิธีรักษาไหมนอกจากจ่ายยา พี่ลองหาแฟนที่เขาเอาใจใส่ มีเวลาให้พี่ไหม จะรักษาก็ไปหาหมอด้วยกันเลย ใช้ยาก็ช่วยกันดู เอาแบบรักษาเอาใจใส่ให้หายจากโรคกันจริงๆน่ะครับ จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 09:11:34 A:116.58.231.242 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 4 ทำไม ไม่ลองปรึกษาจิตแพทย์คะ เราว่าคุณจขกท.เป็นผู้ป่วยทางจิตนะคะ น่าจะหาสาเหตุที่ทำให้คุณนอนไม่หลับ แล้วแก้ที่ตรงนั้นน่าจะดีกว่า จากคุณ : meyamotim เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 09:47:31

ความคิดเห็นที่ 5   เอ้า อ่านดีๆค่ะ เราหาหมอมาตลอดนะคะ หมอนี่ก็จิตแพทย์นั่นแหละค่ะ ยานี่ก็หมอนั่นค่ะจ่ายมา ไม่ได้ซื้อกินเองซี้ซั้วนะคะ คห.3 พูดเหมือนเราชอบกินเลยนะคะ คุณไม่ป่วยบ้างก็พูดได้แหละนะ เรามีแฟนที่คบมาสามปี เป็นกำลังใจให้ตลอดแล้วก็ไม่ทิ้งกันแม้เราจะแย่แค่ไหน เราก็อยากหายนะคะก็พยายามทำให้ดีที่สุด ประเด็นตอนนี้ถามเรื่องยานะคะ จากคุณ : Epilogue เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 09:50:56

ความคิดเห็นที่ 6 กินตัวเดียวกันกับเราเลยค่ะ กินมากๆเบลอไหมคะ เราเบลอเหมือนคนหลับในเลยอะ จากคุณ : ลงต่อรถป้ายหน้าเลยน้อง เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 10:25:06

ความคิดเห็นที่ 7 ค่อย ๆ ลดค่ะ ทานครึ่งเม็ดสักสองอาทิตย์ แล้วลองหยุดดู ช่วงแรก ๆ จะนอนไม่หลับ ขอให้อดทนนะคะ   เพราะระบบประสาทและร่างกายเคยชินกับการได้รับยามานานเป็นปี  กลไกที่ทำหน้าที่หลั่งสารเคมีที่ทำให้เรารู้สึกง่วง ก็ไม่ได้ทำงานมานานมาก จะให้เขาเริ่มทำงานใหม่เป็นปกติ  ต้องให้เวลาเขานิดนึงค่ะ ออกกำลังกาย  ทานอาหารมีประโยชน์  ทำใจให้สบาย  ฟังเพลงเพราะ ๆ  อ่านหนังสือดี ๆ  ทำสมาธิ   ให้อภัยคนอื่น และให้อภัยตัวเองด้วย  จะทำให้จิตใจเราสงบค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ : ) จากคุณ : dreamin เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 11:25:07

ความคิดเห็นที่ 8 อืมม.. ต้องค่อยๆลดมั้ย พุดยากจังค่ะ อยากที่คุณบอก ไม่ป่วยก็พูดไม่ได้ เพราะดิฉันเป็นพวก หัวถึงหมอนก็สิ้นชีวิต55555 หรือไม่ก็ลองออกกำลังกายตอนเย็นๆ เรียกเหงื่อ อาจช่วยได้นะคะ จากคุณ : หนูธันย์ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 11:27:11

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นใจค่ะ กับคนที่มีปัญหานอนไม่หลับ ทั้งที่ตัวเองไม่เคยเป็น อย่างมากแค่กระสับกระส่ายพลิกไปหมุนมา แต่สุดท้ายก็หลับจนได้ แต่มีคนรอบข้างบางคนเจอปัญหานี้ นับถือคุณEpilogue นะคะที่ยอมรับกับตัวเองว่ามีปัญหา และตัดสินใจไปพบจิตแพทย์ รักษาจนดีขึ้นแล้ว และสามารถคิดด้วยว่าทำไมจ่ายยาง่ายจัง กินนานๆแล้วจะไม่ติดหรือ ถ้าไม่เหลือสติคงไม่สนใจจุดนี้ คงกรอกยากินให้หลุดภาวะทุกข์ไปเรื่อยๆ เรื่องหมอกับยา ด้วยข้อมูลและความเห็นส่วนตัว อาจไม่ถูกใจใครก็ขอโทษด้วยค่ะ คือเพื่อนมีร้านขายยาซึ่งขายส่งด้วย จึงรู้ว่าบริษัทยาเอาใจร้านขายยามาก หาโน่นหานี่มาให้มากมาย แต่ยังไม่เท่าที่หมอได้รับ เซลบริษัทยาต้องคอยปรนนิบัติเอาใจหมอรวมไปถึงครอบครัวหมออย่างสุดๆ เพราะหมอเป็นคนสั่งยาไงคะ เคยดูหนังแต่จำชื่อไม่ได้ บอกเล่าให้รู้ว่าบริษัทยาเป็นบริษัทที่มีอิทธิพลและทำเงินมากอันดับต้นในโลก บางภาวะการณ์ที่เราตื่นกลัว เป็นเพราะการปั่นกระแสของบริษัทยานี่ล่ะ ไม่รู้ปัญหาลึกซึ้งของคุณ แต่จากที่เห็นคุณมีจุดฉุกคิดในเรื่องกินยา เห็นแนวโน้มที่ดีค่ะ แสดงว่าคุณใส่ใจสนใจชีวิตตัวเองแล้ว คงเหลือแค่ความเข้มแข็งที่จะเอาชนะบางเรื่องไปให้ได้ อย่างที่ความเห็นที่ 2 แนะให้นั่งสมาธิก็ดีค่ะ และศึกษาข้อคิด วิธีการใช้ชีวิตของคนอื่นๆ เพื่อนำไปสู่การ “ปลง” และ “วาง” ตามหลักธรรม ถึงตอนนั้นแล้วคุณจะสามารถใช้ชีวิตได้มีความสุขด้วยใจตัวเอง ด้วย “ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว” ขอเป็นกำลังใจ ให้พบทางทำให้ชีวิตมีความสุขด้วยตัวเองได้ในไม่ช้านี้ค่ะ จากคุณ : ทิพย์อัมพร เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 12:23:29

ความคิดเห็นที่ 10 ต้องปรึกษาแพทย์ค่ะ แพทย์จะเห็นความเหามะสม แล้วจะปรับยาให้ค่ะ ยาพวกนี้ไม่สามารถหยุดได้ทันที ต้องค่อยๆ ลดขนาดยาลงค่ะ จากคุณ : บางส้มเปรี้ยว เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 13:45:17

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่รู้ว่าจขกท.เคยทำแล้วรึยัง แต่อยากแนะนำให้ออกกำลังอย่างหนักหรือทำงานบ้านมากๆ ถูบ้านเยอะๆๆ ขัดห้องน้ำมากๆเอาให้ขาวกันไปข้างนึงเลย ลองดูซักครั้ง ถ้าไม่ดีขึ้น ทีนี้ต้องหาที่พึ่งทางใจแล้วหล่ะค่ะ เอาใจช่วยนะคะ เห็นใจจริงๆ จากคุณ : gegee (chitlada_ch) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 15:22:17

ความคิดเห็นที่ 12 หมอจ่ายแต่ยานอนหลับอย่างเดียว หรือมียาตัวอื่นร่วมด้วยครับ ผมเคยเป็นอาการนอนไม่หลับเหมือนกันเมื่อต้นปีครับ ตอนแรกมีอาการเครียดตื่นกลางดึกแล้วนอนไม่หลับ พอเป็นนานๆก็ไม่หลับเลยตาสว่างเมื่อถึงเวลานอน เลยขอ Zanaxหมอมาทานก็หลับได้ ทานอยู่เป็นเดือน เพราะวันไหนไม่ทานก็จะนอนไม่หลับ ตอนหลังกลัวติดยาเลยพยายามเลิกยาด้วยตนเอง และพึ่งหมอทางเลือก ปรากฎว่าเป็นหนักกว่าเดิม ไม่มีแรงเดินเลย และร่างกายกระตุกตลอดเวลา จากความเครียดและการอดนอน เข้าใจดีครับว่าการนอนไม่หลับนั้นทรมานขนาดไหน ใครไม่เป็นไม่มีทางทราบหลอกครับ เป็นอยู่ประมาณ 3 เดือนจนร่างกายไม่ไหวแล้ว สั่งเสียทางบ้านไว้หมดแล้ว หลังสุดจึงปฏิบัติตามจิตแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด บวกกับการปฏิบัติ autogenic ปัจจุบันก็เกือบปกติแล้วครับ ผมได้ยาจากจิตแพทย์มา 2 ชนิดครับ คือยารักษาโรคซึมเศร้า กับยานอนหลับครับ ตอนแรกก็ทานทั้ง 2 ตัว ครับ ทานได้ประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วค่อยๆลดยานอนหลับลง จนปัจจุบัน ไม่ได้ทานยานอนหลับแล้ว การลดยานั้นผมใช้วิธีสังเกตอาการตนเองครับ คือ จับอาการของเราตอนเข้านอน ตอนแรกจิตแพทย์จะให้เราเข้านอนตอน 5 ทุ่ม ห้ามขึ้นนอนก่อน เราก็ดูอาการเราเทียบกับเมื่อวานกับวันก่อนเมื่อวาน ว่าเมื่อเราทานยาแล้วเรานอนดีขึ้นมาก และเกินพอหรือไม่ ถ้าเรารู้สึกว่าเรานอนเก่งมาก เราก็ลดยาลง และสังเกตอาการต่อไปเรื่องๆ พร้อมกับค่อยๆลดยาลง อย่าใจร้อนและกังวลว่าเราจะติดยาไปแล้ว เพราะมันไม่มีอะไรจะเสีย และเราก็กินยามานานแล้ว ความกังวลมันก็ยิ่งทำให้เรานอนไม่หลับเข้าไปใหญ่ ผมใช้เวลาประมาณ 1 เดือนก็เลิกยานอนหลับได้ แต่ปัจจุบันยังทานยารักษาอาการย้ำคิดย้ำทำอยู่ Autogenic สำหรับผมก็ ช่วยในด้านจิตใจครับ ทำให้อาการดีเร็วขึ้นครับ ยังไงก็พยายามนะครับ เป็นได้ก็หายได้ครับ จากคุณ : สมาน1 เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 16:10:43

ความคิดเห็นที่ 13   โอ้ ขอบคุณทุกๆคนที่ตอบนะคะ คห. 12 ตอนนี้กินยาอยู่สี่อย่างค่ะ รวมยานอนหลับแล้ว ก็เป็นต้านซึมเศร้านั่นแหละค่ะ เรื่องนอนหลับเราดีขึ้นเยอะแล้วเลยอยากจะหยุดยา แต่หมอให้กินนี่สิคะ เราไม่ได้บำบัดวิธีอะไรเป็นพิเศษนอกจากไปหาหมอ ฟังหมอด่าเอ๊ยแนะนำ ใช้วิธีหาอะไรทำเยอะๆและอยู่กับคนอื่นให้มากขึ้นแบบบังคับตัวเองเลยค่ะ ตอนนี้คิดว่าตัวเองเกือบจะ 100% แล้ว อยากจะเลิกยาจังค่ะ แต่ก็ไม่อยากขัดคำสั่งหมอกลัวไม่หาย เราเคยหยุดยาเองมาครั้งนึง แล้วก็ลงเอยฆ่าตัวตาย (แต่มันมิตาย) มานั่งนึกตอนนี้ก็ไม่รู้ตัวเองเป็นไปได้ไงขนาดนั้นนะคะ แต่ตอนนี้ดีใจนะที่ยังมีชีวิตอยู่ จากคุณ : Epilogue เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 19:40:28

ความคิดเห็นที่ 14 ของผมหมอไม่เห็นห้ามเลยนะครับ มีแต่บอกว่าถ้าง่วงมาก นอนมาก ให้ลดยานอนหลับลงครับ แต่ก็ไม่ทราบหมออาจจะมีเหตุผลก็ได้นะครับ แต่การรักษาโรคนี้ให้ได้ผลดีก็คือ อย่าสงสัย และค้นคว้าหาเหตุผลครับ เพราะคนที่เป็นโรคนี้ จะเชื่อตัวเองครับ จะพยายามสงสัยและค้นคว้าหาเหตุผลมาสนับสนุนความเชื่อของตนเองตลอดเวลา รวมทั้งดื้อรั้นเชื่อตัวเองด้วยครับ ไม่เชื่อผู้อื่นแม้แต่หมอ สงสัยว่าสิ่งที่หมอทำนั้นมันถูกหรือไม่ ถ้าอยากพูดคุยส่วนตัวก็ E-mail มาครับ     Limpkittisins@yahoo.com    ยินดีให้คำปรึกษาในฐานะที่เคยเป็นครับ จากคุณ : สมาน1 เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 08:19:13

ความคิดเห็นที่ 15 อย่าหยุดยาเองนะคะ เชื่อหมอดีกว่านะคะ ไม่มีใครรู้อาการของคุณ จขกท. ดีเท่ากับหมอที่รักษาุอยู่นะคะ  ถ้าอยากเลิกยาจริงๆ ลองคุยกับคุณหมออีกครั้งนะคะ  หรือหา second opinion ดู  อย่าหยุดยาเองนะคะ ไม่ว่ายาอะไร ถ้าหมอห้ามหยุดเองแล้ว อย่าหยุดเองเด็ดขาดค่ะ จากคุณ : Doraemon no fushigi na POKKE เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 17:15:54

ความคิดเห็นที่ 16 มาให้กำลังใจค่ะ เคยเป็นซึมเศร้า แต่ไม่ต้องใช้ยานอนหลับค่ะ เพราะเป็นประเภทตื่นเร็วเกินไป วิธีรักษาซึมเศร้าที่ดีที่สุดของตัวเอง ได้มาโดยไม่รู้ตัวค่ะ คือได้ไปอยู่ในสถานที่ที่เรากลายเป็นคนที่มีคุณค่ามากๆ อากาศดีมาก ได้ช่วยเหลือคนอื่น ได้แสดงความสามารถที่เรามีแต่ครอบครัวเฉยๆ ไม่ได้ยอมรับอะไรเท่าไหร่ นอนหลับสบาย สนิทมากที่สุดในชีวิตอยู่เป็นปี เพราะมีอะไรให้ทำเยอะตั้งแต่เช้า จนเพลีย หลับ เดินชายหาด ว่ายน้ำทุกวัน อ่านหนังสือเยอะขึ้น และตัดตัวเองจากสังคมเมือง แทบไม่ได้ใช้เงินเลย ในที่สุด ทุกวันนี้แทบจะไม่เคยมีอาการซึมเศร้ามาเยือนแบบหนักๆเหมือนก่อน คือผ่านมาสามปีแล้วค่ะ โรคภูมิแพ้(อากาศ) ก็หาย ประจำเดือนมาเป็นปกติ (แปลกมาก อายุสามสิบกว่า ไม่เคยมาปกติเลยตั้งแต่อายุ11) คือที่พูดมาอาจไม่เกี่ยวกับเรื่องยาเลย แต่อยากจะให้รักษาโดยให้ธรรมชาติปรับระบบในร่างกายของคุณใหม่นะคะ คุณโชคดีค่ะที่มีแฟนเข้าใจ ..และเป็นกำลังใจไม่ทิ้งกัน ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : khorbfaa เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 22:06:36