อาจจะเป็นเรื่องจริง ก็ได้ แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวนะ คิดว่าเป็นเรื่องก๊อบมาจากหนังสือ แนว คู่สร้างคู่สม สำนวนนี้ไช่เลย
แต่ในฐานะที่เป็นหนอนหนังสือแนวดราม่านะ คิดว่า เป็นไปได้สูงที่คนแต่งเรื่องนี้เป็นนักเขียนเรื่องดราม่า เพราะมีการกระตุ้นให้ผู้เสพสื่อ กระหาย ใคร่รู้ อยากติดตามตอนต่อไป เฝ้ารอหน้าคอม ว่าเมื่อไรหนอ จะมีตอนต่อไป ยิ่งอยากรู้อยากอ่านเหมือนพวกแต่งนิยายแนวสืบสวน พอถึงจุดไคลแมกซ์ ที่ทุกคนอยากรู้รายละเอียด เช่น ขณะที่พ่อกำลังจะข่มขืนลูก ( เหตุการณ์ที่ข้ามไป สิบกว่าปี ไม่ยอมเล่า ) ทุกคนตั้งตารอ และเกิดความคิดแนวจินตนาการเอาเอง ตามแต่ความคิดของแต่ละท่านว่าจะปรุงแต่งกันไปได้แค่ไหน
แต่นักเขียนที่เก่งจะหักดิบ บอกให้รออ่านตอนหน้า ซะงั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเรตติ้งของหนังให้ดูน่าตื่นเต้น ปนระทึกมากขึ้น เพราะเราก็ไม่เข้าใจว่า ถ้าเราจะเขียนอะไรในกระทู้ แล้วสามีเดินมา ต้องถึงกับเลิกเขียนเลยหรือ แค่ย่อหน้าต่างลง พอสามีเดินผ่านไปหรือสามีเข้านอน เขียนต่อก็ได้ หรือว่าสามีมานั่งหน้าคอมด้วยตลอดเวลา อันนี้ล่ะที่แปลกใจ ดูไม่สมเหตุผลในความเป็นจริง
และการที่ให้ติดตามตอนต่อไป เรื่อย ๆ นี่ล่ะ คือเทคนิคนักเขียนเรื่องดราม่า ส่วนจะทำไปเพื่ออะไรนั้น ไม่ต้องได้โลห์หรอก ขอแค่มีคนมาอ่านมาก ๆ ถ้าเป็นเราเองก็รู้สึกสนุกกับมันแล้ว เหมือนนักเขียนนิยายในเวป ไม่ได้ตังค์หรอก แต่ขอมีคนมุงอ่าน รอติดตามต่อ มันก็รู้สึก สนุก ที่ได้ล้อเล่นกับอารมณ์ของคน ก็แค่นั้น
อ่านตอนแรก รู้สึกเหมือนเคยอ่านเรื่องนี้ในหนังสือ แนว คู่สร้างคู่สม คอลัมน์ "ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย" และหนังสือ ชื่อ " ชีวิตจริง " ที่สาว ๆ ตจว ชอบอ่านกันน่ะ สำนวนเหมือนกันเลย
เหมือน ตีสิบ เลย พักนี้ชอบเรียกเรตติ้งรายการ เอาเรื่องพ่อข่มขืนลูกมาออกบ่อย ๆ คนไทยก็ด่าพ่อกันเข้าไป ลูกสาวเคย เล่นหัวกับพ่อ กลายเป็นระแวงพ่อกันไปหมด หารู้ไม่ว่าเป็นแค่เรื่องแต่งของโปรดิวเซอร์รายการ
ปล. 1. ที่กระทู้เก่ายังโพสต่อได้ ทำไมต้องตั้งกระทู้ไหม่ ก็น่าแปลกอยู่ เพื่ออะไร
2. การที่เล่าเรื่องโดย ใช้คำแทนตัวเองว่า "ฉัน" เหมือนในหนังสือแนวนั้น เป๊ะ เพราะถ้าเราจะเล่าชีวิตเราในเน็ต จะทราบโดย ทั่วไป ว่าสมควรจะใช้คำว่า "เรา"
3. ถ้าเป็นเราหรือท่านผู้อ่าน จะทน โดนพ่อข่มขืน สิบกว่าปี หรือ กรณีแบบนี้ ไม่ได้พิการเดินไม่ได้นะ แค่หนเดียวเป็นเราก็หนีออกจากบ้าน ไปอยู่บ้านญาติ บ้านเพื่อน บ้านแม่ ใครก็ได้แล้ว จขกท มีการศึกษา ย่อมรู้ช่องทางในการหลีกหนี ไม่ไช่ ไปมหาวิทยาลัยทุกวัน กลับไปบ้านก็โดนพ่อข่มขืนทุกวัน วันต่อมาก็ไปเรียนต่อ ไป เจอเพื่อนฝูง ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติไปเลยเหรอ ถ้าบอกว่าโดนจับขัง มัดมือเท้าในห้องใต้ดินแบบเคสเมกา เราก็พอจะเชื่อได้
4. เป็นธรรมเนียมไปแล้ว ที่เมื่อเวลามีคนจับพิรุธได้ อย่างจัง ๆ จขกท ก็มักจะมากราบลา ว่าจะไม่มาอีกแล้ว เหมือนกระทู้คุณ บุ๋มห้องชานเรือนเป๊ะเลย เป็นการทิ้งทวนให้ผู้ช่างสังเกตุ โดนรุมด่า ไม่นานผุดมาใหม่พร้อมกับ ล็อกอินชื่อไหม่ สำนวนเดิม ในดราม่าเรื่องใหม่ให้ติดตามงอมแงม สนุกว่า ดูหนังช่อง 7 กันต่อไป
5. จุดอ่อนของคนไทยคือ ขี้สงสาร และ เชื่อคนง่าย นี่ล่ะที่ทำให้ จขกท สนุกที่จะ ล้อเล่นกับอารมณ์ของผู้อ่าน โดยเลือกนำเสนอพล็อต ใน เรื่องที่คนไทยยอมรับไม่ได้ และเฝ้าเสพอารมณ์ คนที่เข้ามาอวย ให้กำลังใจ ด้วยความปิติ
แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 13:47:49
แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 13:49:13
แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 13:49:42
แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 13:49:42
แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 15:32:19