|
ความคิดเห็นที่ 13 |
ขอบคุณ จขกท. มากๆที่ส่งข่าว+สรุปข่าวกันนะครับ
ไม่ทราบว่าจะมีคุยกัน จะได้ลงไปกรุงเทพไปคุยด้วย จะไปถามหอคอยงาช้าง สุขสบายดีใช่ไหม 555
คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็อยากเห็นลูกเกิดเป็นธรรมดา 555 จนบางครั้งมองข้ามความบกพร่องไปหรือไม่"สนใจคำท้วงติงจากคนอื่น" เพราะตัวเองรู้สึกว่าดีแล้ว-ชอบแล้วหรือคนอื่นรู้ไม่จริง 555
ผมก็เป็นในบางครั้งเพราะเป็นนักวิชาการเหมือนกัน เข้าใจเลย 555 "ตัวเรา-ของเรา"มันลดลงยาก (แต่ก็พยายามอยู่ได้แค่ไหนก็ว่ากันไป)
เข้าสู่ประเด็นก่อนออกทะเลครับ 555 ผมเห็นด้วยที่ต้องมีกฎหมายที่จัดการเรื่องพรรค์นี้นะครับ แต่ผมยังยืนยันจุดยืนเดิมในการออกกฎหมายนะครับ
การส้ราง พรบ.นี้โดยเอา "ความรวดเร็วในการจ่ายเงิน" และ "ความเห็นอกเห็นใจ" เป็นตัวตั้งในการออกกฎหมายนี้ เป็นตรรกะแนวคิดที่ถูกแล้วหรือ สมเหตุผลแล้วหรือ
คิดในมุมกลับบ้างไหมว่า ความเสียหายของรัฐที่เกิดจากการเจ้าพนักงานของรัฐไม่ได้ทำผิดแต่รัฐต้องจ่ายเงิน ใครรับผิดชอบครับ
มันไม่ง่ายไปหน่อยหรือ จ่ายเงินโดยง่ายๆอย่างนี้โดยไม่สนว่าถูกหรือผิดน่ะ
ประเทศไทยไม่ได้มีแต่เรื่องการรักษาพยาบาลนะ งบฯต้องเอาไปใช้เรื่องอื่นด้วย เกิดสมมติจ่ายปีละเป็นร้อยล้าน-พันล้าน ใครรับผิดชอบครับ สมมติจ่าย 1 พันคน คนละ 1 แสนบาท เท่ากับต้องจ่าย 1 ร้อยล้านบาท เงิน 1 ร้อยล้านเยอะไหมครับ
อีกอย่าง กรรมการรับ"ผิด-ชอบ"อะไรบ้างครับ คิดเล่นๆ -รพ. ฟ้องกลับกรรมการได้ไหมว่าจ่ายเงินไม่สมเหตุผล แถมทำให้เสียชื่อ -ญาติคนป่วยฟ้องกลับกรรมการได้ไหมว่าจ่ายเงินน้อยไป ฯลฯ
ผมเคยออกตัวไว้แล้วว่า ผมไม่เชื่อในรูปแบบคณะกรรมการ บ้านเมืองเรามีปัญหาเพราะมีองค์กรหรือคณะกรรมการ(อิสระ)ใช้อำนาจคล้ายตุลาการ(แต่ไม่ใช่)เยอะแยะไปหมด
เป็นไงล่ะ เกิดปัญหาไหมครับ มองความจริงที่ผ่านมาซิครับ อย่า"คิดฝันถึงสิ่งสวยงาม"เลย มองด้านลบบ้างก็ดีนะ เห็นมั้ย อันโน้นมาวินิจฉัยแบบนึง อีกอันมาอีกแบบ เป็นไงล่ะ แล้วจะจบยังไงล่ะแถมช้าลงอีก
แล้วยังมีการฟ้องแพ่ง-อาญาไปได้อีก เรื่องทั้งหมดจบไหมครับ ไม่จบอยู่ดี ทำไมจะออกกฎหมายทั้งทีไม่ทำให้จบไปเลยล่ะ
อย่าเอาความเห็นใจหรืออารมณ์มาอยู่เหนือหลักการและเหตุผลซิครับ เข้าใจว่าครอบครัวขาดผู้นำ-ผู้หาเลี้ยงเป็นอย่างไร แต่ บ้านนี้เมืองนี้ขาดหลักการมานานพอแล้ว เอาความชอบ-อารมณ์เป็นที่ตั้งจนละทิ้งหลักการซิ
อยากทำให้จบทีเดียว(one-stop service ของแท้) ไม่ออกไปในลักษณะ กฎหมายพิจารณาคดีทางการแพทย์ หรือไม่ก็ กฎหมายประณีประนอมความเสียหายทางการแพทย์ ล่ะครับ
ทำไมละครับ กลัวอะไรกันแน่ครับ ???
กฎหมาย "คน"เป็นผู้บัญญัติและกำหนดระบบทั้งนั้นไม่ใช่หรือครับ จะช้าเร็วขึ้นกับความซับซ้อนของระบบ และสิ่งเหล่านี้คนกำหนดได้ไม่ใช่หรือครับ
ถูกและดีในโลกนี้ก็มีนะครับ อย่านึกว่าถูกแล้วต้องไม่ดีหรือดีแล้วไม่ถูก
ออกกฎหมายทั้งที ทำให้จบเรื่องดีกว่า อย่าเอา"เร็วเข้าว่า" อย่าทำเรื่องนี้เป็น"บริการจ่ายเงิน one-stop service" อย่า"ผลาญเงินเล่นแล้วเรื่องก็ไม่จบ" และ อย่า"เอาความเห็นใจเป็นที่ตั้ง"
อีกอย่าง ต้นตอปัญหาความสัมพันธ์แพทย์-คนป่วยมาจากไหน ทำไมไม่แก้ที่ต้นเหตุ แพทย์ไม่พอ---แก้ซิ ประชากรเยอะ---แก้ซิ แพทย์ไม่ถึงมาตรฐาน---แก้ซิ ฯลฯ
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ แนวความคิดที่ว่า "การแพทย์=การบริการ, คนป่วยไข้=ลูกค้า/ผู้รับบริการ, หมอพยาบาล=ผู้ให้บริการ" ผมว่าเป็นต้นเหตุหลักเลย มันมาจากระบบโน่นนี่ที่พยายามแข่งกันทำหรือประกวดประชันกันไม่ใช่หรือ
คิดดีๆ รู้ไหม...สิ่งนี้กำลังทำให้การแพทย์หมดคุณค่าในตัวมันลงมา ทำให้คนทั่วไปมองว่าจะต้อง"ได้รับบริการ"เหมือนเวลาเดินเข้าศูนย์การค้าหรือเลือกซื้อของ ฯลฯ
ระบบประกันคุณภาพ ระบบ iso อะไรนั่นนะ แข่งกันเข้าไป ไม่มีมันน่าอายหรือไง หารู้ไม่ สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความคาดหวังแบบผิดๆ จากคำหรือถ้อยความที่เขียนลงในกระดาษหรือประกาศหน้า/ใน รพ. นั่นแหละ
ตราบใดที่ยังไม่เลิกทัศนะที่ทำให้การแพทย์การสาธารณสุขเป็น "ของที่ซื้อ-ขายได้" นั้น ปัญหาก็ไม่จบหรอก
ลองเอาไปคิดดูนะครับ
แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 53 10:14:09
จากคุณ |
:
หลักการอยู่เหนือความรูสึก (buddhi)
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ส.ค. 53 10:01:16
|
|
|
|
|