ความคิดเห็นที่ 1 อยู่ที่พื้นฐานครอบครัวด้วยครับว่ามีความสัมพันธ์แบบไหน ถ้าครอบครัวอบอุ่นมากๆก็จะเป็นเกาะป้องกันเรื่องการมองโลกแง่ร้ายๆได้สูงกว่าคนที่ครอบครัวไม่อบอุ่นครับ ส่วนตัวก็มองโลกแง่ร้ายเหมือนกันหลังๆอาศัยหลักการปลงกับการทำจิตใจให้กว้าง แล้วก็หมั่นทำบุญครับ จากคุณ : b+b (blacklimpbizkit) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 23:30:20

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่ามีผลนะครับ สื่อที่รับมายังไงก็มีผลแน่นอนครับ แต่มีผลมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง และการรับสื่อว่าเยอะแค่ไหนยังไงครับ จากคุณ : Chineseman เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 00:24:55

ความคิดเห็นที่ 3 .. เข้ามารับฟัง พร้อมส่งกำลังใจถึง จขกท ค่ะ สภาพที่ จขกท กำลังประสบอยู่นี้ คงอธิบายได้ว่าการรับรู้เรื่องของโลก นอกตัว กำลังมีอิทธิพลต่อทัศนะและการดำเนินชีวิตของคุณ และมันทำ ให้คุณหวั่นไหวไม่น้อย ว่าคุณจะสัมพันธ์กับโลกนอกตัว และกับตัวของ คุณเองอย่างไร เพื่อให้การดำเนินชีวิตดำเนินต่อไปได้ อย่างน้อย มีความ ทุกข์น้อยกว่าที่เป็นอยู่ เราผ่านทางมาก่อนคุณราวสิบปี เราคิดว่าเราพอจะเข้าใจสภาพจิตใจ ความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ที่เกิดขึ้นอยู่บ้าง คุณอยากรักษาการรับรู้ และการมองเห็นชีวิตและโลกในแง่ "ดี" เหมือนเดิมที่เป็นมา เราอยาก บอกคุณค่ะ ว่าด้วยวัยและประสบการณ์เท่านี้ เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ที่คุณจะเผชิญกับความรู้สึกที่ค่อนข้างยากจะอธิบายเช่นนี้ แต่ทุกอย่าง เป็นอนิจจัง ไม่มีอะไรคงที่ ทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปตลอดเวลา ไม่มากก็น้อย เรากลับเห็นว่า นี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่คุณจะฝึกฝนและ กำกับการมองโลกและการรับรู้เกี่ยวกับตนเองและโลกนอกตัวอย่างไร ให้อยู่ลักษณะที่เรียกว่า "มองโลกได้ตามจริง" และ "มองตนเอง นับถือ ตนเอง ยอมรับตนเอง พร้อมทั้งรู้คุณค่าของตนเองได้ตามจริง" ที่นี่ และ เดี๋ยวนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับตัวคุณเอง อ่านจากเนื้อหาของกระทู้ อดเห็นไม่ได้ว่า คุณติดอยู่ในกับดักหรือหลุมพรางของกระบวนทัศน์ว่าด้วยชีวิตของคน ในโลกสมัยใหม่ ที่ต้องเก่ง เลิศและไม่ธรรมดา ทั้งที่ตามความจริงแล้ว ความพิเศษหาได้ง่าย ๆ ในความเรียบง่ายและความธรรมดากว่าที่คุณ คิดอย่างเป็นจริงเป็นจังจนเกินไปเช่นนั้น -- ขออภัยนะคะ หากข้อความ ประโยคนี้ แรงและไม่เกี่ยวนักกับปัญหาที่คุณประสบอยู่ ในส่วนที่เกี่ยวกับโลก ซึ่งหมายถึงผู้อื่น ประเด็นชวนให้คิดถึงคำถามเชิง ปรัชญาที่คนเราถามกันเสมอ ๆ มาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและที่แน่ ๆ ก็ยัง จะเป็นคำถามที่คนสงสัยกันต่อไปไม่จบสิ้น นั่นคือคำถามที่ว่า โดย ธรรมชาติแล้ว คนเราเป็นคนดี หรือไม่ ทั้งที่คนแต่ละคนนั้นเอง สืบค้น และตอบคำถามนี้ได้ไม่ยากจากตัวของตัวเอง เพียงแต่การสืบค้นนี้ดูจะ ยากขึ้นทุกทีเมื่อโลกและชีวิตดูคล้ายจะสลับซับซ้อน และหมุนวนไป อย่างเร็ว -- แต่เราอยากบอกคุณค่ะ ว่าหากเราคิดเช่นนั้น มันก็เป็นเช่นนั้น .. หากเราวางจิตใจของเราไว้ได้อย่างเหมาะสม เราจะสามารถมองทะลุ ข้ามผ่านมายาภาพ ทั้งที่เป็นความสลับซับซ้อน ความว้าวุ่น และความเร่งรีบ นั้นไปได้ ในความเห็นของเรา คำถามนี้ พระพุทธองค์ได้ตรัสสอนไว้อย่างชัดเจน อย่างแยบคายและล้ำลึกยิ่งนัก กล่าวคือ จิตดั้งเดิมของเราทุกคนล้วนมี ลักษณะที่เรียกว่าจิตประภัสสร มีเมล็ดพันธุ์แห่งโพธิ หรือการตื่นรู้ และ ปัญญาด้วยกันทุกคน ลองสังเกตดูให้ดี ๆ คุณจะพบว่า ไม่มีใครสักคน ไม่รู้ดีรู้ชั่ว แต่จิตประภัสสรและโอกาสที่จะเกิดปัญญาของคนหลายคนนั้น ถูกกลบและปกคลุมด้วยกิเลสและตัณหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากไม่อบรมจิต ไม่เข้าใจการทำงานของจิต จึงเสียโอกาสที่จะใช้จิตดั้งเดิมของตนไป ไม่มากก็น้อย การปัญหาที่คุณประสบ ช่วยชี้ให้เห็นว่าคุณมีจิตที่พร้อม จะตื่นรู้ ผ่องใส และประภัสสร (สะอาด สว่าง สงบ) ในเบื้องต้น เราขอ แนะนำให้คุณค่อย ๆ เรียนรู้หลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ หากคุณ เข้าใจคำสอนของท่าน ปัญหาเรื่องมองโลกแง่ดี แง่ร้ายจะลดลง แต่คุณ จะพบหนทางของการมองโลกตามจริงได้มากขึ้น แต่แน่นอนนะคะ ว่าจะ พบทางนี้ ย่อมต้องอาศัยเวลา ความเพียรและการฝึกอบรมจิตของตนไม่ น้อย ต้องไม่ใจร้อนนั่นเองค่ะ ผลที่ได้จากการมองโลกตามจริง มีค่าวิเศษยิ่ง เนื่องด้วยจะช่วยให้คุณ เข้าใจและพบการดำเนินชีวิตตามหลักมัชฌิมาปฏิปทา และอริยมรรค มีองค์แปด แต่แม้จะพบหนทางนี้แล้ว การดำเนินชีวิตของคุณต่อไปบน โลกนี้ ก็ยังเลี่ยงความทุกข์ได้ยาก แต่ด้วยจิตที่อบรมแล้วของคุณ จะ ทำให้คุณพบว่าทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป และคุณไม่ใช่ ทุกข์ ทุกข์ไม่ใช่คุณ และไม่ใช่ของคุณ เขียนมายาว ไมแน่ใจว่าจะตอบคำถามหรือให้ความช่วยเหลือกับ จขกท ได้บ้างหรือไม่ เพียงใด หวังว่าจะพอได้ประโยชน์อยู่บ้างนะคะ ขอส่งกำลังใจ มิตรภาพ และความปรารถนาดีถึง จขกท และเพื่อนทุก ท่านอาจกำลังประสบปัญหานี้อยู่ ให้พบทางออกที่เหมาะสมกับตนเอง ได้ อย่างน้อย ทีละน้อย ๆ ในที่สุดค่ะ .. แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 53 01:32:40 จากคุณ : Between the birth - Nirvana (ipiup) เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 01:30:33

ความคิดเห็นที่ 4   เราก็คล้ายๆกับคุณนั้นแหละ แต่ว่า มองโลกในแง่ดีไปไช่ว่าจะดีเสมอเพราะมนุษย์ และสังคมมันไม่สวยงามอย่างนิยาย Happy Ever After...เป็นเพียงส่วนน้อยมาก มองโลกในแง่ร้ายเกินไป ก็เครียดหาความสุขไม่ได้ ดังนั้นมองโลกในความเป็นจริงเถอะ ปลงๆซะอย่าไปยึดติด มองกลางๆ ถ้าเครียดจัดลองงดอ่านพวกข่าวหน้าหนึ่งอาชญากรรมไปสักพัก ลองหันไปปลูกต้นไม้ดอกไม้เล็กๆ สีใบไม้เขียวๆช่วยคุณได้ หรือวาดรูป ทำอาหาร ลองหันไปทำอย่างอื่นดูเถอะนะ จากคุณ : ผ่านมาอ่าน เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 02:45:39 A:58.8.120.69 X: TicketID:283088

ความคิดเห็นที่ 5 การรับข่าวสารมันเป็นการรับรู้ในความเป็นจริงที่เกิดรอบตัวเรา เราจะรู้หรือไม่ มันก็เกิดอย่างนี้ล่ะ แล้วมันจะไม่ดีกว่าหรือคะ ถ้าเราจะได้รู้เพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง ทุกอย่างอยู่ที่ใจเรา อยู่ที่การรู้จักคิด รู้จักทำที่ใจ การรู้เรื่องร้ายๆ แล้วเราทำใจให้มันเป็นเพียงข้อมูลชิ้นหนึ่ง อย่าสมมติตัวเองว่าเป็นคนที่ถูกกระทำ เพราะถ้านึกอย่างนั้นแล้ว มันจะมีอารมณ์ร่วมด้วย แล้วก็เกิดโมโห หงุดหงิด โดยไม่ใช่เรื่องค่ะ รับรู้ก็เพื่อรับรู้ค่ะ จากคุณ : good thinking เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 10:05:48

ความคิดเห็นที่ 6 อาการไอเรื้อรังนานๆ ไม่หายซักที บางทีก็เป็นเพราะ นอนพักไม่พอนะ ถ้าพักผ่อนไม่พอ กินยายังไงมันก็ไม่หายซักที คนที่เซนสิทีฟ จะเครียดง่าย กังวลง่าย ก่อนนอนซักสองสามชม. ปิดคอม ปิดทีวี ไม่ควรเสพข่าวสารหรือเรื่องเครียดๆ เพราะเดี๋ยวจะคิดมากต่อเนื่องจนนอนไม่หลับอีก จากคุณ : ซซ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 10:53:52

ความคิดเห็นที่ 7 เรานั่งดูทีวีในบ้านที่มีแต่ความอบอุ่น อยุ่สุขสบาย ข้างนอกจะรบกัน ตีกัน ก็แค่ข่าว ข่าวสารมันก็แค่การรับรู้ทางสายตา ว่าโลกภายนอกเกิดอะไรขึ้น แต่มันไม่ได้เกิดกับเรานะ เหมือนกับ เรานั่งดูละคร เห็นเจ้าหญิงเจ้าชาย แต่งตัวหรู ในขณะที่จานข้าวเรามีปลาทูตัวเดียว เสื้อผ้าที่เราใส่อยู่ก็โครตจะเก่าเลย ไม่ได้งดงามตามละครเลย การรับรู้ข่าวสารร้าย หรือว่า เสพติดละคร มันก็แค่มาเติมเต็ม ความรู้สึกที่ขาดหายไปเท่านั้นเอง มันไม่ได้มีผลกับเรามากเท่ากับ สิ่งแวดล้อมที่เราเจอจริงๆหรอกนะ อันนี้ผลกระทบโดยตรง บางทีคุณอาจจะกำลังคิดว่า สังคมรอบตัวคุณมันโหดร้าย ประกอบกับในทีวีก็มีแต่ข่าวร้ายด้วย ทำให้คุณคิดว่า โลกนี้มันโหดร้ายจัง  ไว้ใจใครไม่ได้เลยจริงๆ เลยระแวงอะไรไปหมด บวกกับความรู้สึกของตนเอง ที่คาดหวังกับตนเอง ก็ทำไม่ได้ด้วย ผิดหวังหนักเข้าไปใหญ่ บางที ก็ถึงคราวที่เราต้องยอมว่า โลกมันก็เป็นอย่างนี้แหละ ตัวเรามันก็ได้แค่นี้แหละ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้คุณยอมแพ้ ยอมรับความเลวร้ายต่างๆ ยอมให้ตนเองอ่อนแอนะ การมีความหวังอยู่เสมอ มันทำให้คนเรามีกำลัง ไม่ว่าจะเจออะไร ก็จะไม่ยอมแพ้ โลกมันก็มีทั้งดี และ ร้าย แบบนี้แหละ ยอมรับแต่จะไม่ปล่อยตัวไปตามกระแสที่มันร้ายๆนะ ใจเราคิดดี อะไรมันก็ดี ใจเรามีความหวัง ว่าสักวันต้องดี อนาคตมันก็จะดี จิตเรามักจะพาเราไปสู่ที่ๆเราอยากไปเสมอ  คิดดี จิตใจดี ก็จะทำดี ผลที่ได้ก็ย่อมดี แต่อย่าลืม ทำดีมันยาก มองโลกในแง่ดี ก็อาจจะยาก แต่ถ้าเราไม่ท้อ เราทำได้เสมอนะ ข่าวสารก็ยังคงเป็นข่าวสาร ละครก็ยังคงเป็นละคร ส่วนชีวิตจริงเราก็ดำเนินมันต่อไป ความจริงก็คือ ความจริง " รับรู้(ข่าว)  เข้าใจ(ควมมจริง) เข้าถึง(ความรู้สึก) และ พัฒนา(จิตใจตน)" ( ขอยืมคำนายกจากโฆษณาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้หน่อยนะ ) จิตใจเราสำคัญ พัฒนาใจเราก่อน ให้มันดี แล้วค่อยไปพัฒนาสิ่งรอบตัวเราให้มันดีขึ้นนะ จากคุณ : ..ฟ้าใส.. เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 11:02:55

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนตัวคิดว่ามันมีผลกระทบมากๆ เราเป็นคนต่างจังหวัด นานๆเข้า กทม.ทีนึง เวลาได้ดูข่าวว่า แท็กซี่ก่อเหตุนั่นบ้างนี่บ้าง เราจะกลัวมากจนไม่กล้าขึ้นเลยค่ะ ... ถ้าไม่มีคนมารับที่ท่ารถ หรือสนามบิน เราเลือกไม่เข้า กทม. ประมาณนั้นเลย 55555 เหมือนพวกวิตกจริตเกินเหตุ ... เรื่องอาการไอ ระคายคอนี่ .... ลองงดอาหารพวก ทอดๆ มันๆ ก็น่าจะช่วยได้นะ จากคุณ : sorry about that เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 19:29:40

ความคิดเห็นที่ 9 ด้านมืดมีอยู่จริง ปฏิเสธมันทำไมคะ รู้เท่าทัน   และอยู่กับมันให้ได้จะดีกว่าค่ะ จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 21:55:12