ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ค่อยถนัดการนับ แคลลอรี่ แต่รู้สึกทานเยอะไปนะ เน้นผักไม่ดีกว่ารึครับ พวกสลัด เกาเหลา จากคุณ : aketty เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 01:20:31

ความคิดเห็นที่ 2 BMR 2188 วันนี้ คุณทานไป อย่างน้อยประมาณ 2150 Kcal เช้า-คาปูชิโน่ 1 แก้ว(ไม่รู้กี่แคล)+เค้กกล้วยหอม S&P คาปู  ประมาณ 400-500   เค้กกล้วยหอม ประมาณ 200 กลางวัน-ราดหน้าเส้นหมี่+ชาเขียว 1 กล่อง ราหน้า ประมาณ 300-350 ชาเขียว  ประมาณ 100 นิดๆ บ่าย-ส้มตำ+น้ำตก หมู+ข้างเหนียว+ไอติมวนิลา 1 ถ้วย หนักไปค่ะ ณ จุดนี้ รวมๆประมาณ 700 (ถ้าทานเยอะ ก็เพิ่มไปอีก) เย็น- ก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่ลูกชิ้นหมูตุ๋น+น้ำส้มคั้น ก๋วยเตี๋ยว ประมาณ 300 น้ำส้ม ประมาณ 150 ถ้าปรกติคุณทานน้ำอัดลมต่างน้ำด้วย.. เราว่าคุณน่าจะอ้วนกว่านี้ คุณอาจจะต้องวางแผน การทานอาหารล่วงหน้า อย่าปล่อยให้ตัวเองหิวเกินเหตุ จิบน้ำเรื่อยๆ ทานน้ำให้มากขึ้นนะคะ อาหารว่างก็ สูตรคุณเมย์( Getcha ) เลยคะ โยเกริต์ ไม่พอก็อัดผลไม้ พวกแตงโม สัปปะรด อย่าโทษตัวเองกับมื้อที่ผ่านไป แต่อย่าลืมมัน!!! แล้วตั้งใจออกกำลังกายควบคู่ ไปด้วยนะคะ   สู้!!!!! เพิ่มเติมชื่อลอคอินคุณเมย์ เพื่อง่ายต่อการสืบค้นคะ เหะ ๆ แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 53 04:06:43 จากคุณ : lithop เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 04:05:06

ความคิดเห็นที่ 3 ตัดมื้อบ่ายออกค่ะ  ถ้าให้ดีตัดกาแฟตอนเช้าออกด้วย จะลดแคลลอรี่ไปได้เยอะมากๆๆๆค่ะ  มื้อบ่ายอาจจะทานแค่ไอศกรีมหนึ่งถ้วย หนึ่งสกูปก็พอ  หนึ่งสกู้ปเล็กๆนี่ เหมือนจะน้อยใช่มั้ยคะ แต่ถ้าเป็นไอศกรีมแบบฝรั่ง เช่นของไฮเกนดาซ สกู้ปนึงจะตกประมาณเกือบสามร้อยแคลค่ะ เราอยู่ญี่ปุ่น ทุกอย่างมีบอกแคลลอรี่หมด ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน เลยเพิ่งมาได้รู้ความจริงก็ที่นี่แหล่ะค่ะ  ตอนอยู่ไทย นึกว่าไอศกรีมหนึ่งสกู้ปคงแค่ประมาณร้อยแคล เหอๆๆ ปล. กาแฟถ้ายังต้องดื่ม ชงเอง ใส่นมพร่องมันเนย กะสารให้ความหวานแทนดีกว่า ใส่นมเยอะๆๆๆไปเลยก็ได้ค่ะ จากคุณ : Doraemon no fushigi na POKKE เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 11:16:07

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ จขกท BMR ไม่น่าเกิน 1500 แคลนะคะ ไม่แน่ใจเคยอ่านยังนะคะ อันนี้เป็นวิธีนับแคลอรี่ http://www.saladpuk.com/bbs/home.php?mod=space&do=blog&uid=299&id=174 ควรจะคุมแคลอรี่เท่าไหร่ดีอ่าน http://www.saladpuk.com/bbs/home.php?mod=space&do=blog&uid=299&id=173 ทำไมเราคุมแคลอรี่แบบซิกแซก http://www.saladpuk.com/bbs/home.php?mod=space&do=blog&uid=299&id=176 ถ้าไม่ถนัดนับแคลลองใช้วิธีนี้ดูค่ะ http://www.fb.com/notes.php?id=747755037#!/note.php?note_id=408476287293 (ลิ้งเราใช้ตัวย่อ fb แทนชื่อเต็มนะไม่งั้นโดนลบ  copy and paste ลิ้งอย่าลืมใส่ชื่อ fb เต็ม) เวลาหาแคลอรี่ให้หาจากวัตถุดิบอาหาร หาเป็นภาษาอังกฤษจะมีแทบทุกอย่างค่ะเราใช้เวบ www.calorieking.com นอกจากวัตถุดิบต้องรู้จักกะปริมาณเป็น เช่น 1 ขีด ถ้าไม่มีที่ชั่งก็กะเอาว่าประมาณกำปั้นเล็กหรือ1 ฝ่ามือ 1 หยิบมือประมาณ 30-50 กรัม 3 ข้อนิ้วประมาณ 1 ชต. อันนี้เป็นวิธีกะแบบรวดเร็ว ถ้าคิดจะนับแคลอรี่จริงจังควรมีที่ชั่งอาหารติดบ้านค่ะ แคลอรี่อาหารที่เราเจอบ่อยๆเช่นเนื้อสัตว์ต่างๆ ไข่ นม เนย ควรจะให้ขึ้นใจ เช่นอาจจะจะว่าเนื้อไก่ล้วน 1 ขีดมีแคลอรี่ 120 แคล ตอบเป็นข้อๆดีกว่า 1. อ่านลิ้งข้างบนแล้วน่าจะพอได้ไอเดียค่ะ 2. เหมือนข้อ 1 ประมาณมันอยู่ที่เราวางแผนกะตัวเองค่ะ มาดูเมนูของคุณ เนื่องจากเราไม่เห็นของจริงได้แค่กะๆเอานะคะ เช้า-คาปูชิโน่ 1 แก้ว(ไม่รู้กี่แคล)+เค้กกล้วยหอม S&P >>> คาปู 100 แคล เค๊กกล้วย 250 กลางวัน-ราดหน้าเส้นหมี่+ชาเขียว 1 กล่อง >>> ราดหน้าค่อนข้างแคลสูง 500 ชาเขียว 80 บ่าย-ส้มตำ+น้ำตกหมู+ข้างเหนียว+ไอติมวนิลา 1 ถ้วย >>>  ส้มตำ 120  น้ำตกหมู 400 ข้าวเหนียว 150 ไอติม 250 เย็น- ก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่ลูกชิ้นหมูตุ๋น+น้ำส้มคั้น >>>> เตี๋ยว 400 น้ำส้ม 150 รวม 2400 แคลอรี่ค่ะ (ทานเยอะไปนะจ๊ะ) สุดท้ายข้อคิดในการกินที่อยากฝากค่ะ 1. กินให้อิ่ม มันทำให้เราสบายท้อง มีพลังงานรู้สึกดี ไม่โหย ลดการกินจุกจิก รู้จักเลือกอาหารให้เป็น อาหารไหนที่ให้ปริมาณอิ่มท้องแต่แคลอรี่ต่ำเป็นต้น บางคนลดแบบนับแคลแล้วบอกว่าหิวไม่ไหว อันนี้ก็ต้องมาดูในรายละเอียด จริงๆพอเรากินน้อยไปสักพักกระเพาะหดเล็กลงก็อิ่มไวขึ้นเองอยู่ดีค่ะ 2. กินให้อร่อย กินได้น้อยกว่าเดิมแล้วต้องกินให้อร่อยแล้วมันจะมีความสุข กินของที่ชอบบ้างไม่ต้องอดหรืองด พอมีความสุขแล้วก็จะทำให้เราลดน้ำหนักอย่างสบายใจทำได้เรื่อยๆ จนตอนนี้รู้สึกว่าลดก็เหมือนไม่ได้ลดเพราะรู้สึกชิวๆมาก ที่สำคัญการกินให้อร่อยช่วยลดกินจุกจิกได้ กินไม่อร่อยแล้วมันคาใจเนอะ 3. อันนี้สำคัญที่สุด กินอย่างมีคุณค่า เวลาที่เราลดน้ำหนักเรามักจะกินได้น้อยลงเพราะฉะนั้นยิ่งต้องกินอย่างมีคุณค่าให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ข้าวขาวเปลี่ยนมาเป็นข้าวกล้อง แป้งขัดขาวเปลี่ยนมาเป็นโฮลมีตพยามให้มีผักในทุกมื้อ มื้อเย็นเน้นไฟเบอร์กะโปรตีน นม โยเกิร์ตก็เป็นของหวานที่เราต้องมีติดบ้าน จากคุณ : GetCha เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 13:05:45

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกๆท่านมากๆค่ะ มีกำลังใจขึ้นเป็นกองเลย เอาใหม่ วันนี้จะจัดระบบใหม่ ฮึดดดดด สู้ว้อย! จากคุณ : In the park เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 13:36:15

ความคิดเห็นที่ 6   คุน Getcha ค่ะ เนื้อไก่ 1 ขีด 120 แคลเองหรอคี่ะ เราอ่านกระทู้นับแคลของคุณ คุณบอกให้คุณสอง เราก็คุณสองตลอดเลยค่ะ ตกลง นี่มันเท่าไรค่ะ เพราะถ้าเราคูนสอง ก็เท่า ว่า มันสองร้อยแคลค่ะ แต่เวลาเราซื้อ ไก้ในซุปเปอ เค้าเขียนว่าร้อยกรัม ประมานร้อยกว่าแคลอ่ะค่ะ แต่เราก็คำนวนตามที่คุนเคยบอกให้คูนสอง ตกลง เนื้อไก่นี่มันเท่าไรค่ะ จากคุณ : bbgoing (bbgoing) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 15:47:33

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ bbgoing เรื่องแคลเรากะๆเอาค่ะ ถ้าไก่ไม่ติดหนังเลยแคลต่ำมาก(สูงกว่าปลาเนื้อขาวหน่อย)ค่ะ คูณ 1.2-1.5 แล้วแต่ประมาณนี้ แต่ถ้าไก่ติดหนังเราจะคูณ 2 ค่ะ บางที่เราใช้ตามความรู้สึกด้วยอ่ะค่ะ เพราะไงแต่ละเวบ หนังสือแต่ละเล่มก็บอกไม่เท่ากันอยู่ดี ถ้าอันไหนมีแคลบอกอยู่แล้วก็ยึดตามนั้นถ้าไม่มีก็กะๆเอาค่ะ จากคุณ : GetCha เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 22:20:12

ความคิดเห็นที่ 8   อยากแชร์ จขกท ค่ะว่า คาปูชิโน่เนี๊ยะ ตัวอ้วนเลยค่ะเราเคย คาปูชิโน่ เช้าแทนกาแฟทั่วไป แล้วทานอาหารเท่าเดิม นน.ขึ้น เดือนหนึ่ง 5 ก.ก.เลย ประสบการณ์จริงค่ะ ตอนนี้ไม่แตะอีกเลย สู้ๆค่ะ จากคุณ : G (กี่คำรัก..ก็ไม่เท่าที่ใจรู้สึก) เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 13:00:57