ความคิดเห็นที่ 1 ตอนนี้ต้องบอกเลยว่าหลายๆคนที่อยู่รอบๆตัวเรา เป็นมะเร็งปากมดลูกกันหลายคนแล้วคะ แต่ก็ยังโชคดีที่ ที่รู้ตัวเร็ว ซึ่งคนคนใกล้ตัวที่ว่าคือน้องสาวคะ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าน้องสาวมีครอบครัวแล้วนะคะ แต่น้องสาวเป็นคนไม่ค่อยใส่ใจเรื่องสุขภาพแบบนี้มากเท่าไหร่ เพราะ เค้ามักจะคิดว่า และเชื่อเสมอว่า เค้าแข็งแรงเป็น working women ไม่ตายง่ายๆ แต่ตอนนี้บอกเลยคะว่า ต้องขอถอนคำพูด เพราะ เค้าได้ ไปตรวจ คัดกรองมาคะ และปรากฎว่า เค้ามีเนื้อเยื้อเซลล์ผิดปกติอาจเป็นมะเร็งปากมดลูกได้คะ ซึ่งต้องรอผลตรวจอาทิตย์หน้าคะ และคนใกล้ ตัวอีกคนก็คือ คุณน้าคะ ท่านเพิ่งเสีย ด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก เมื่อสอง เดือนก่อนคะ เห้ออเห็นไหมคะว่าคนใกล้ๆตัวทั้งนั้นเลย เราเองดีนะที่ ตรวจสุขภาพทุกปีและฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ อายุ เลขสามอะคะ อย่าเดากันนะคะว่าเท่าไหร่ เหออออ เรามาเข้าเรื่องที่ อยากจะบอกต่อให้สาวๆ กันดีกว่าคะ นั้นก็คือเรื่องของมะเร็งปากมดลูก แน่ นอนคะว่า ตัวเราเองก็ได้หาข้อมูลไว้มากมายเพื่อเพื่อหยิบเอามาให้สาวๆ ได้ อ่านกัน ยังรวมไปถึงคำถามที่หลายๆคนยังต้องการคำตอบเพื่อไขข้อข้องใจ เราได้เตรียมไว้แล้วคะ ออนอกจาก ได้เจอจากรายการผู้ ญ ถึงผู้หญิงแล้ว เรายังได้ ไปเจอจากหนังสือ CosMo ด้วยคะ ซึ่งเห็นหลายๆคนได้เอามาโพลสให้เพื่อนๆได้ดูกันแล้วแต่มาดาม มาขอตรอกย้ำอีกทีคะ จากคุณ : LoVeWeAVeR เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 15:01:56

ความคิดเห็นที่ 2 สาเหตุของมเร็งปากมดลูก คือการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแพพิโลมาซึ่งเรียกย่อๆว่าเชื้อ “เอชพีวี” เป็น สาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูก เชื้อเอชพีวีนี้มีมากกว่า 100 ชนิดหรือสาย พันธุ์แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ · กลุ่มที่ไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น สายพันธุ์ 6 และ11 ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหูดหงอนไก่ · กลุ่มที่ก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น สายพันธุ์ 16, 18, 31,33 และ 45 ซึ่งทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกจนอาจกลายเป็นมะเร็งได้ ซึ่งสิ่งที่หลายๆคนยังไม่ทราบก็คือ โดยทั่วไปแล้วเชื้อเอชพีวีมักติดต่อได้ จากการมีเพศสัมพันธ์(Sex กรี๊ดดดดด พวกที่ชอบปักตะไคร้คงรอด) หรือ การสัมผัสโดยตรงทางผิวหนัง การใช้ถุงยางอนามัย ไม่สามารถป้องกันการ ติดเชื้อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์  การติดเชื้อเอชพีวีนี้พบได้บ่อยมาก แม้ว่าจะมีเพศ สัมพันธ์เพียงครั้งเดียวก็ตาม การติดเชื้อเอชพีวีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแบบชั่ว คราว คือเชื้อจะอยู่ในเซลล์ปากมดลูก ช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วหายไปได้เอง และอาจจะติดเชื้อซ้ำใหม่ได้อีกในภายหลัง จากสถิติพบว่า · 50-80 % ของผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วจะติดเชื้อเอชพีวีในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต (น่ากลัวเวอร์ไปปะ) · 50% ของผู้หญิงที่มีคู่นอนคนเดียวจะติดเชื้อเอชพีวีภายใน 2-3 ปีแรกที่เริ่มมีเพศสัมพันธ์ (น่ากลัวกว่าเดิม) นอกจากนี้แล้วเชื้อเอชพีวีเป็นเชื้อที่มีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถหลบหลีก ภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ ทำให้เชื้อไม่ถูกทำลาย และการที่เชื้อชอบอยู่ เฉพาะบริเวณเยื่อบุผิวปากมดลูก ทำให้ผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีการสร้างภูมิ คุ้มกัน หรือถ้ามีก็มักอยู่ในระดับที่ต่ำ จนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้ ในภายหลัง ดังนั้น ผู้หญิงจึงยังมีความเสี่ยง ในการติดเชื้อไวรัสนี้ได้อยู่ ตลอด.. ตราบใดที่ยังมีเพศสัมพันธ์ (ใครที่คิดว่าชั้นจะไม่มี สามี....และคนที่ปักตะไคร้ได้ คงหายใจแบบโ,ล่งๆใช่ไหมคะ เออตลกมากเหรอยะยายมาดาม ) เห็นไหมคะว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค มันใกล้ตัวเรามากๆ ออลืมบอกข้อมูลอ้างอิงคะ ข้อมูลอ้างอิงได้มาจาก สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย คะ หรือตามลิงค์นี้เลยคะ http://www.tgcsthai.com/dataview.php?id=25&code=KP จากคุณ : LoVeWeAVeR เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 15:13:53

ความคิดเห็นที่ 3 มาต่อที่วิธีการป้องกันซึ่งง่ายแสนง่ายแต่ทำไม พวกเราผู้ หญิงไทย หลายๆคนถึงไม่ทำ เห้อออ ขอถอนหายใจยาวๆเมื่อพูดถึงตรงนี้ เพราะน้องสาวสุดที่รักเค้าเอง มีเซลล์เนื้อเยื้อที่ผิดปกติ เพราะไม่ยอมดูแลตัวเองนี้แหละคะ ในเรืองของการป้องกันหรือดูแลตัวเองมีดังนี้คะ 1. การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้แก่ การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การมีคู่นอนหลายคน และการสูบบุหรี่ (จริงๆผู้ หญิงเราไม่สมควรจะมีคู่นอนเยอะอยู่แล้ว รวมไปถึงการสูบบุหรี่ด้วยเนอะว่าไหม) 2. การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่เรียกว่า "แพปสเมียร์ " (Pap smear) เป็นประจำทุกปี เพื่อให้ทราบว่า เซลล์ บริเวณปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติหรือไม่ เพราะการรักษาในระยะก่อนเป็นมะเร็งจะทำให้มีโอกาสหายขาดได้ค่อนข้างสูง ในขณะที่การรักษาในระยะลุกลามนั้น จะรักษายากและมีโอกาสเสียชีวิตมากขึ้นตามระยะของมะเร็ง 3. การฉีดวัคซีนเอชพีวี เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีชนิดก่อมะเร็งซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูก ง่ายไหมคะดูสิ ถ้าเราทำเป็นประจำ เช่นตรวจ แพปสเมียร์ หรือการฉีดวัคซีนป้องกันเชื่อ HPV แค่นี้ เราก็รอดปลอดภัยจาก โรคร้ายดังกล่าวแล้วคะ ขอบอกคะขอบอก จากคุณ : LoVeWeAVeR เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 15:32:14

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องของมะเร็งปากมดลูก คะ แน่นอนคะ นอกจากอีมะเร็งตัวร้ายตัวนี้ จะทำ ร้ายชีวิตเราแล้ว มันยังสามารถ แปลงร่างออกมาได้อีกหลายภาคเลยคะ และภาคที่น่าเจ็บใจที่สุด ที่การตรวจคัดกรองไม่สามารถเจอได้คือภาคของ อะดีโน โอ้มายก๊อด! (Adenocarcinoma) รู้ไหมคะ ทำไมภาคอะดิโน ถึงน่า จะเจ็บใจที่สุด เพราะ การตรวจคัดกรองไม่สามารถเจอได้ นั้นเอง ก็มันเล่น แปลงร่าง เข้าไปอยู่ในช่วงของคอมดลูกนะสิ คะ (กรี๊ดดดดดดด แกอย่ามา เก่งนะ เจ้าอะดีโน ) จึงทำให้ การตรวจคัดกรองไม่เจอนั้นเอง (มันเก่งไหมละ อะเรามาดูรูป ไอ้ตัวร้ายตัวนี้กันคะ) จากคุณ : LoVeWeAVeR เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 15:45:00

ความคิดเห็นที่ 5 เชื่อยังคะ ว่ามันร้ายมากๆ และรู้ไหมคะ วิธีที่จะเอาชนะเจ้าตัวร้ายนี้คือการ ฉีดวัคซีนเท่านั้นคะ (แกร้ายนักใช่ไหม เอาวัคซีนไปกินเจ้าอะดิโน ) ออมาบอกคร่าวๆคะว่า เจ้าเชื่อ HPV ที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกชนิดอะดีโน ก็คือ 16 18  31 และ 45 คะ ตามรูปเลยคะ จากคุณ : LoVeWeAVeR เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 15:56:11

ความคิดเห็นที่ 6 เชื่อยังคะว่าเจ้ามะเร็งปากมดลูกชนิดอะดิโน ไม่โอเค มันร้ายมากๆคะ เรามา ว่ากันต่อที่การตรวจคัดกรองคะ หลายๆคนอาจจะคิดว่าการตรวจ "แพปสเมียร์ " (Pap smear)  หรือการตรวจคัดกรองเป็นเรื่องน่าอาย ต้องบอกตรงนี้เลยคะว่าไม่ต้องอายคุณหมอหมอเค้าเห็นมาเยอะ ตอนเราไป ตรวจ ก็เป็นคุณหมอผู้ชายคะ คริคริ คุณพยาบาลก็ถามนะคะว่า อยากได้คุณ หมอผู้ หญิงหรือผู้ชายคะ (เราก็แอบคิดในใจ ผู้ชายสิยะ ขอจบใหม่ด้วยได้ มะ เหอออออ ) คุณหมอท่านใดก็ได้คะ ไม่เกียง (มารยาทงามนะยะยาย หล่อน) คะก็นั้นแหละไม่ต้องอายคะ ออไม่ต้องโกนน้องไปนะ เอาแค่จัดแต่งให้สวยงามพอ อืม และอีกอย่างที่สำคัญมากๆคะ ลืมไม่ได้เลยคริคริ คะคือ งดมีเพศสัมพันธ์กับคุณสามีอย่างน้อย ก่อนไปรับการตรวจสองวันนะคะ และก็ไม่ต้องกลัวน้องเหม็น ถึงขนาดฉีดทำความสะอาดเข้าไปข้างในนะคะเพราะว่ามันจะทำให้น้อง จุบุจุบุของเรา แดงก่อนไปตรวจได้คะ ต่อมาก็ห้ามใช้น้ำยาล้างน้องจุบุจุบุก่อนไปตรวจเพราะว่าไอ้ความเป็นกรดเป็นด่างจะทำให้น้องเราละคายเคืองและเกิดการแดงคะ สุดท้าย อย่าไปตรวจตอนน้องร้องไห้นะคะ(ตอนมีประจำเดือนอะคะ) เพราะหมอคงจะตรวจไม่เจอ ต้องทำตามนี้อย่างเค่งคัดก่อนไปตรวจนะคะ โดยเฉพาะการตกแต่งน้องและการล้างน้องคะ คุณหมอเค้าไม่สนใจหรือได้กลิ่นหรอกคะ เพราะคุณหมอเค้ามีผ้าปิดจมูกและปากคะ ล้างเอาแค่ พองามนะคะ   เรามาดูท่าทางการตรวจคัดกรองกันคะ จากคุณ : LoVeWeAVeR เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 16:25:09

ความคิดเห็นที่ 7 เรามาว่าต่อกันที่วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกบ้างนะคะ วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ณ ตอนนี้มีอยู่สองยี่ห้อนะคะ คือ 1 Gardasil ป้องกันเชื้อ HPV 4 สายพันธ์ คือสายพันธ์ที่ 16, 18, 6 และ 11 ซึ่งเราสามารถ แบ่งออกได้อีกดังนี้ 16 และ 18 ป้องกันเชื่อ ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก และ 6 และ 11 ป้องกันเชื่อ HPV ที่ก่อให้เกิด หูดคะ (หูดเป็นและสามารถรักษาหายได้นะคะขอบอก) ซึ่ง ภูมิคุ้มกันของเจ้าตัว Gardasil นี้จะอยู่ที่สร้างภูมิคุ้มกันให้เรา อยู่ที่ 5 ปีหลังจากนั้น จะค่อยๆ ลดลง ในส่วนของ การฉีด วัคซีนยี่ห้อนี้คือเดือนที่ 0 , 2, และ 6 คะ และช่วงอายุที่สามารถรับวัคซีนชนิดนี้ได้คือ 9 – 26 ปี 2 Cervarix สามารถป้องกัน เชื่อ HPV ได้หลายสายพันธ์และยังเป็น เชื้อที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกในอันดับที่ 1, 2 ,3 คือสายพันธ์ ที่ 16 ,18 , 31 , 45 ซึ่งเราสามารถแบ่งออกได้อีกดังนี้ 16 , 18 ป้องกันเชื้อ HPV ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก และ 31  45 ป้องกันเชื่อ มะเร็งปากมดลูกชนิดอะดิโน (ได้ตัวร้าย ที่มันแบ่งภาคแปลงร่างหลบหลีกเราคะ) ซึ่งภูมิคุ้มกันของ Cervarix ยังมีภูมิคุ้มกันในระดับสูงอย่างน้อย 8 ปี และยังติดตามอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปเรื่อย ๆ อาจอยู่ได้ตลอดชีวิตโดยไม่ต้องฉีดกระตุ้นซ้ำ  การฉีดวัคซีนของ Cervarix  คือเดือนที่ 0,1,6  และช่วงอายุที่สามารถรับวัคซีนชนิดนี้ได้คือ  10 – 45 ปี เรามาดูกราฟที่แสดงผลเปรียบเทียบของวัคซีน2 ชนิดนี้กันคะ จากคุณ : LoVeWeAVeR เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 16:30:49

ความคิดเห็นที่ 8 http://mchnetwork.thaihealthykids.com/site_data/thaihealthykids_mchnetwork/1/schedual_53/pdf/10_6VittayaT.pdf ต้องขอบคุณที่มาของข้อมูลกราฟข้างบนคะ ซึ่งคนเขียนบทความนี่คือ รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล  คะ (ขอปรบมือให้ท่านคะ เขียนออกมาได้ ชัดเจนมากคะ) และข้อมความนี้ยังถูกอัพขึ้นบนเว็บ เครือข่ายสุขภาพมารดาและทารกเพื่อครอบครัวของเด็กและเยาวชนไทยในพระอุปถัมภ์  ด้วยคะ (ขอปรบมืออีกครั้งคะ)  ซึ่งข้อมูลตรงนี้มาดามต้องบอกว่าเป็นประโยชน์มากๆ เพราะว่าบางท่านที่กลัวว่าตัวเองจะเป็นมะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งปากมดลูกชนิดอะดิโน เราก็จะรู้และว่า อันไหนฉีดและช่วยให้รอดตายอันไหนฉีดไปและ คงไม่รอดว่าไหมคะซึ่งเราเอง(เจ้าของกระทู้)เลือกฉีดของ  Cervarix  เพราะเรากลัวตาย ซึ่งเรื่องตายไม่ตายนี้ เราได้ คำพูดเจ๋งๆมาจากคุณหมอที่ตรวจ น้องจุบุจุบุ ของเราคะ คุณหมอท่านพูดไว้่ว่า คุณคนสวยครับ(เรียกเองคะจริงๆคุณหมอเรียกชื่อ) คุณรู้ไหมครับ มะเร็งเป็นและตาย (ทราบคะชั้นถึงมานี่งัย) แต่มีมะเร็งชนิดหนึ่งป้องกันได้(คุณหมอหมายถึงมะเร็งปากมดลูกคะ) เราก็เลยตอบหมอไปว่า ดิชั้นกลัวตาย ขอฉีดหลายๆเข็มเลยได้ไหมคะ ^^ จากคุณ : LoVeWeAVeR เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 16:37:25

ความคิดเห็นที่ 9 มาในหัวข้อนี้คือว่า หลายๆคนคงสนใจคะ เพราะเราได้รวบรวมคำถาม ที่เราเองไปหาข้อมูลตามเว็บต่างๆและมักจะมีคนเข้ามาถามเรื่องข้อสงสัยของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกนี้บ่อยๆ เลยข้อตั้งหัวข้ออันนี้ว่า 5 คำถามเด็ดๆเกียวกับมะเร็งปากมดลูกคะ Q :1 มะเร็งปากมดลูกเกิดจากเพศสัมพันธ์เหรอ A: ต้องขอกรี๊ดดดด และพยักหน้าแรงๆและตอบกลับไปว่าใช่คะ ซึ่งการติดเชื้อเอชพีวี ส่วนใหญ่จะมาจากการมีเพศสัมพันธ์ (แม้จะใช้ถุงยางอนามัยก็ไม่อาจป้องกันเชื้อ HPV ได้ 100% และคิดดูสิ ผู้ หญิงแม่บ้านอย่างเรา จะใช้ถุงยางกับสามีเหรอคะ No) แต่ก็พบว่าผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกได้เช่นกัน โดยอาจได้รับเชื้อเอชพีวีจากทางอื่น เช่น การใช้ห้องน้ำร่วมกับผู้อื่นคะ(กรี๊ดดคงต้องพกโถ่ฉี่ติดตัวแหละคะงานนี้) Q : 2 ช่วงระหว่างตั้งครรภ์สามารถฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ไหมคะ A : หลายๆคนคงกังวลมากเลยทีเดียวคะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วถ้าตั้งครรภ์ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปจนกว่าจะคลอดและหยุดให้นมลูกคะ Q : 3 การเป็นตกขาวบ่อยๆและมีเลือดตกออกมาเป็นลิ่ม มีสิทธิที่จะก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกไหมคะ ? A : การที่เลือดออก และ ตกขาวอาจเป็นสัญญาณของมะเร็งปากมดลูกได้ ควรไปปรึกษาแพทย์ค่ะ Q : 4  การที่เราไม่เคยมีเพศสัมกับใครเลย เราจะมีสิทธิ์เป็นมะเร็งปากมดลูกไหมคะ A : มีโอกาสน้อยมากค่ะ แต่ก็ควรไปตรวจแพ๊ปสเมียร์อย่างสม่ำเสมอ(เพื่อเราจะได้ปักตะไคร้อย่างสบายใจใช่ไหมคะ) Q : 5 เราสามารถเลือกคุณหมอในการตรวจคัดกรองได้ไหมคะ เพราะอายไม่กล้าตรวจกับหมอผู้ชาย และ ในการตรวจคัดกรอง เราต้องโกนขนด้วยหรือเปล่าคะ? A : ข้อนี้ต้องออกตัวก่อนเลยว่า Hot Hit มากๆคะ เพราะขนาด น้องสาวเราเองยังถามเลย ขอตอบเป็นข้อๆนะคะ A :5.1เราสามารถเลือกคุณหมอในการตรวจได้คะ (ส่วนเราขอเลือกคุณหมอผู้ชายจบใหม่คะ ต๊๋ ขาว สูงๆ รวยๆ ด้วยคะ ) แต่แม้จะเป็นหมอผู้ชาย ก็ไม่ต้องอายหรอกคะ เพราะคุณหมอเค้าเห็นมา เยอะ เจอมามากๆ เค้าคงชินอะคะ (มันอาจจะแตกต่างกันที่ขนาดบ้างอะไรบ้าง แต่ไม่ต้องอายคุณหมอจริงๆนะคะ) คุณหมอเห็นของเราเดียวเค้าก็ลืมคะ A : 5.2 ในส่วนของเรื่องโกนไม่โกน บอกตรงนี้เลยคะ ไม่ต้องโกนคะ แค่เพียงเราตกแต่งผมของน้องจุบุจุบุ ของเราให้ดูเรียบร้อย อย่าให้ถึงขนาดรกเป็นป่าดิบร้อนชื้นก็พอคะ ออไม่ต้องทำความสะอาดถึงขั้นฉีดน้ำอัดเข้าไปล้าง ด้วยนะคะ เพราะมันจะให้ทำให้เยื้อบุมดลูกของเราอักเสบคะ เดียวจะทำให้การตรวจผิดพลาด ไม่ต้องถึงขนาดนั้นเพราะคุณหมอไม่ได้กลิ่นแน่นอนคะ เพราะเค้ามีผ้า ปิดปากและจมูกคะ แค่ เพียงเราเช็คก่อนไปว่า ไม่มีแม่ค้างคาวไก่บินออกมาก็โอเคและคะ คริคริ ^^ จากคุณ : LoVeWeAVeR เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 16:44:25

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นงัยคะหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ กับน้องๆเพื่อนๆ พี่ทุกคนนะคะ เพราะเราเชื่อว่า การป้องกัน โรคมะเร็งปากมดลูก มันเริ่มได้จากตัวเราเองและการบอกให้คนในครอบครัวเฝ้าระวังคะ เราเองฉีดมาแล้วหลายๆปี แต่ก็ยังทำการตรวจ คัดกรองปีละครั้งคะ เพราะเมื่อเราแก่ตัวลง(กรี๊ดเจ้เกลียดคำนี้) หลายๆคนก็คงเหมื่อนเราที่อยากเห็นลูกหลาน เติบโตได้ดูเห็นประสบความสำเร็จคะ ฝากไว้ด้วยนะคะ ออใครมีคำถามคล่องใจ มาฝากคำถามทิ้งไว้ได้เลยคะ เราขออาสาเป็น สิราณี ปรึกษา เรื่องน้องจุบุจุบุ ก่อนที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกเองคะ^^ จากคุณ : LoVeWeAVeR เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 16:47:56

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าไม่อยากขี้นขาหยั่ง จะใช้วิธีการตรวจแบบอัลตร้าซาวด์ได้ไหมคะ จากคุณ : พะโล้น้อย เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 17:26:47

ความคิดเห็นที่ 12   ข้อมูลละเอียดมาก ขอบคุณค่ะที่นำมาแบ่งปัน ^^ จากคุณ : น้ำ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 04:35:08 A:180.183.2.131 X: TicketID:258005

ความคิดเห็นที่ 13   ขอบคุณมากค่ะ ได้ความรู้เยอะเลย เข้าไปอ่านในลิ้งค์นี้ที่ จขกท บอกค่ะ http://mchnetwork.thaihealthykids.com/site_data/thaihealthykids_mchnetwork/1/schedual_53/pdf/10_6VittayaT.pdf มีรายละเอียดเกี่ยวกับวัคซีนเยอะมากๆ ตอนแรกก็กลัวว่าฉีดแล้วจะอันตรายไหม สรุปว่าก็ปลอดภัยค่ะ ลองเข้าไปอ่านดูนะข้อมูลละเอียดดีมากๆ แล้วก็อ่านเกี่ยวกับวัคซีน Cervarix ที่ป้องกันมะเร็งปากมดลูกชนิดอะดีโนได้ เพราะป้องกันเชื้อไวรัส HPV ข้ามสายพันธุ์ได้ค่ะ ตอนนี้ก็มั่นใจที่จะฉีดแล้วค่ะ จากคุณ : น้อยหน่านุ่ม เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 03:07:54 A:117.47.193.60 X: TicketID:260873