ก่อนที่เมย์จะพูดไปถึงเรื่องการนับแคลอรี่ มี 2-3 อย่างที่เมย์คิดว่าจำเป็นที่ผู้ที่ลดน้ำหนักควรจะทราบไว้ก็คือ เรื่องของ..
ค่า BMI
BMI คือ ค่าดรรชนีมวลกาย หรือความสมดุลกันระหว่างส่วนสูงกับน้ำหนัก ย่อมาจากภาษาอังกฤษคำว่า Body Mass Index จะเป็นตัวบ่งบอกว่าเราอ้วนแล้วหรือรึยัง
โดยคนรูปร่างปกติจะมี BMI อยู่ที่ 18.5 -24.9 ต่ำกว่า 18.5 ถือว่าผอมเกินไปและหากเกิน 24.9 ถือว่าอ้วนค่ะ
แนวทางคนที่อ้วนแล้วก็คงต้องเริ่มลดน้ำหนัก ส่วนคนที่ไม่อ้วนหรืออาจจะแค่มีปัญหาส่วนเกินเฉพาะส่วนก็อาจจะออกกำลังกายเพื่อกระชับร่างกายให้ดูดีขึ้น ในคนที่มีส่วนเกินเฉพาะส่วนมากก็อาจจะจำเป็นที่ต้องลดน้ำหนักลงไปนิดหน่อยเพื่อให้ส่วนเกินนั้นลดลงและค่อยออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อเพื่อแทนที่ไขมันขึ้นมา
วิธีการหาค่า BMI มีหลายเวบไซต์ที่คำณวนค่า BMI ของเราให้เช่น เวบ http://www.nhlbisupport.com/bmi/
หรือสามารถวัด BMI ได้จากเครื่องชั่ง ตามฟิตเนสต่างๆส่วนมากจะมีไว้บริการ
เมื่อรู้จัก BMI แล้วต่อมาที่จะแนะนำให้รู้จัก โดยเฉพาะคนที่ต้องการลดความอ้วนก็คือ
ค่า BMR
BMR คืออัตราพลังงานพื้นฐานที่ร่างกายต้องการซึ่งมีหน่วยเป็นแคลอรี่ ย่อมาจากภาษาอังกฤษคำว่า Basal Metabolic Rate
พลังงานพื้นฐานที่ร่างกายต้องการก็คือพลังงานที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้แม้ในยามที่เราอยู่เฉยๆ นอน หรือไม่ทำอะไรเลย อวัยวะและระบบต่างๆในร่างกายก็ยังต้องการพลังงาน
เวบหา BMR http://www.bmi-calculator.net/bmr-calculator/
ต่อมาที่อยากให้รู้จักคือ
ค่า SLA ย่อมาจากคำว่า Sedentary Lifestyle Assumption คือค่าพลังงานที่ร่างกายใช้ในการเคลื่อนไหว ทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน
ถัดมาก็คือ
ค่า TDEE หรือ Total Daily Energy Expenditure คือค่าที่รวมทั้งค่า BMR และ SLA เข้าด้วยกันหรือพูดง่ายๆก็คือค่าพลังงานทั้งหมดที่ร่างกายของเราต้องการในแต่ละวัน
การที่เราทราบค่าต่างๆ โดยเฉพาะค่า BMR และ TDEE ของตัวเองเพื่อที่เราจะได้มีแนวทางมีหลักยึดในการลดน้ำหนัก
คนเราอ้วนเพราะเราใช้พลังงานไม่สมดุลกับพลังงานที่เรากินเข้าไป พูดง่ายๆก็คือกินมากกว่าที่ใช้ทำให้เราอ้วน
เมื่อเราทราบว่าตัวเราเองมี BMR เท่าไหร่ เราก็จะทราบว่าเราทาน หรือออกกำลังกายแค่ไหนน้ำหนักถึงขึ้นแค่ไหนถึงลด
อีกนิดนึดก่อนเมย์จะเข้าเรื่องแคลอรี่เมย์อยากพูดถึงระบบเผาผลาญ ระบบเผาผลาญนี่ที่จริงมันก็คือขบวนการที่ร่างกายเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานเพื่อที่ร่างกายจะได้เอาไปใช้ ขบวนการเผาผลาญหลักๆ ของร่างกายมี 3 แนวทางด้วยกัน คือ
1. Basal Metabolism หรือกระบวนการเผาผลาญที่เนื้อเยื่อ อวัยวะ ระบบต่างๆที่ร่างเอาไปใช้เป็นพลังงานแม้ในยามที่เราอยู่เฉยๆหรือนอนหลับร่างกายก็มีการใช้พลังงานนี้ตลอดเวลาคิดเป็น 65% ของทั้งหมดเลยก็ว่าได้
2. กระบวนการเผาผลาญที่เกิดจากการเคลื่อนไห วงกาย เช่นการทำกิจวัตรประจำวันหรือแม้แต่การออกกำลังกายคิดเป็น 25% ค่ะ
3. กระบวนการเผาผลาญที่เกิดจากความร้อนที่ใช้ในขณะที่ร่างกายมีการย่อยและดูดซึมสารอาหาร คิดเป็น 10% ของทั้งหมด
เมื่อก่อนเมย์เคยลดน้ำหนักมาหลายวิธี ลดได้บ้างไม่ได้บ้าง ไอ้ที่ลดได้ก็เด้ง ไอ้ที่ลดไม่ได้เราก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร เพราะเราเมื่อก่อนลดน้ำหนักแบบมไม่มีแนวทางยึด ทำให้เราเคว้ง
Calorie คือพลังงานทีทำให้น้ำ 1 กรัมมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 องศา
แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 53 15:02:58
แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 53 14:43:35
แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 53 14:43:16
แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 53 14:42:43