ความคิดเห็นที่ 1   อยากได้ด้วย..อยากให้หัวใจสดใส จากคุณ : บทนำ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 21:50:45

ความคิดเห็นที่ 2 ผมมีแต่ "อาหารใจ" มาปลอบคุณครับ แน่นอนว่าการอกหักนั้นมันเจ็บปวดครับ แต่คุณต้องคิดซะว่าได้ "ทำทาน" ครั้งใหญ่ ด้วยการให้อิสระเป็นทานกับคนที่เรารัก บางทีการก้าวข้ามการอยากครอบครอง การได้รักแต่เพียงอย่างเดียวและรักษาความรู้สึกนั้นไว้ มีความยินดีที่เห็นคนที่เรารักมีความสุข แม้เราจะทุกข์มากมาย อาจเป็น "ทานบารมี" ที่จะเป็นกุศลให้คุณพบเจอ "คนที่ใช่" ของคุณครับ "คนที่ใช่"  ที่จะใช้เวลาที่เหลืออยู่กับคุณไปทั้งชีวิต... โดยที่ไม่คิดจะทิ้งคุณไปหาคนอื่นครับ... อกหักเป็นโอกาสให้คุณได้ทำอะไรหลายๆอย่างที่ห่างหายไป อาจมีหนังดีๆหลายต่อหลายเรื่องที่คุณไม่ได้ดู ตอนนี้แหละครับ...ได้โอกาสดูให้ฉ่ำใจไปเลย มีหนังสือที่ซื้อกองๆสุมไว้รอคุณอ่าน ไปหยิบมานอนอ่านซะ อย่าปล่อยให้มันกองอยู่แบบนั้น มีสถานที่อีกมากมาย ที่รอให้คุณได้ไปขยายขอบฟ้าให้ตัวเอง ซึ่งตอนที่คบกับเขานั้นคุณอาจไม่ม่เวลาไปเลย ตอนนี้แหละ..โลกเป็นของคุณแล้ว หาโอกาสไปเยือนมันซะ มีเพื่อนฝูงมากมายหลายคน ที่คุณห่างหายจากพวกเขาไปตอนที่มีความรัก คราวนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะได้รื้อความสัมพันธ์นั้นขึ้นมาใหม่ ไปกินข้าวกับเพื่อนๆ ไปดูหนังกัน หรือแวะไปเยี่ยนเยือนกันบ้างก็ดี ถือโอกาสที่ไม่มีใครในชีวิต อยู่กับตัวเอง เพื่อทบทวนไตร่ตรองเรื่องที่ผ่านมา บางทีคุณอาจเห็นแง่มุมมที่งดงามของการอกหักก็ได้ครับ เพราะทุกอย่างในโลกนี้ มันเกิดขึ้นเพื่ออะไรบางอย่างเสมอ การสูญเสียในเรื่องหนึ่งไป มันอาจช่วยเปิด "ประตูแห่งโอกาส" บานอื่นให้คุณก็เป็นได้ อีกทั้งอกหักเป็นการเพิ่ม "วัคซีน" ของความรักครับ มันทำให้คุณมีภูมิต้านทานที่มากขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น ที่ต้องทำก็คืออยู่กับความจริงอย่างมีสติ ผมยังไม่เคยเห็นใครตายเพราะอกหักเลย แน่นอนว่ามันเศร้าที่ต้องสูญเสียความรักไป แต่คุณไม่มีทางรู้หรอกว่ามันอาจมีวันเวลาดีๆรออยู่ข้างหน้า เพราะคุณมีคนๆหนึ่งที่เกิดมาเพื่อคุณ ซึ่งเขาหรือเธอรอเวลาที่จะมายืนต่อหน้าคุณ ตามพรมลิขิตที่กำหนดไว้จากฟากฟ้าข้างบน ไม่แน่ว่าหากวันนั้นมาถึง คุณอาจอยากจะสั่งดอกไม่ช่อใหญ่ๆ ส่งไปขอบคุณคนที่ทำคุณอกหักในวันนี้ก็เป็นได้ เพราะมันทำให้คุณพบกับคนที่ใช่จริงๆที่จะไม่ทิ้งคุณไปไหน ไม่มีใครตายเพราะอกหักครับ...จำไว้.. จากคุณ : ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 21:58:33

ความคิดเห็นที่ 3 สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้วก็ยอมรับ "ผลกรรม"กันต่อไป ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน อย่างนี้แล้วเราจะทำอะไรได้ ก็ต้องยอมรับ "การเปลี่ยนแปลง" กันต่อไป ยาที่ดีที่สุดก็คือ "เวลา" ค่ะ ที่เค้าว่า "เวลา" จะช่วยรักษาแผลใจ นั้น จริงที่สุด!!!! เศร้าได้ แต่อย่าให้นานนะ เรื่องราวดีๆ คนดีๆ อาจกำลังคอยคุณอยู่ก็ได้ เป็นกำลังใจ ให้คุณลุกขึ้นมาเข้มแข็งเร็วๆ จากคุณ : น้อง!!!...คนนี้พี่ขอ เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 22:11:42

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนตัว  ชอบของกิน หวาน หวาน  เย็น เย็น ลืมเรื่องอ้วนไปชั่วคราว ข้างในตัว  ตอนนั้น  ร้อน ชม  เหมือนมีน้ำตาไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ไม่ใช่เลือด จำได้ว่า ผอมลงทันใจ น้ำหนักหายไป 4 กก. ในเวลา 2 เดือน  ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่อคุมน้ำหนัก  หรือ ลดน้ำหนักเลยสักนิด เข้าใจได้ในตอนนั้นเอง ว่า คนตรอมใจจนตาย  เค้าคงรู้สึกกันแบบนี้นี่เอง อาการหนักเข้า ระยะสุดท้าย  ถึงกับ 3 วันดี 4 วันไข้ จนรู้สึกว่า  ไม่ไหวแล้ว  ปล่อยไปเรื่อยๆ  คงได้ตรอมใจตายจริงๆ ถึงได้พยายาม  กลับมาใช้ชีวิตให้มันเหมือนเดิม หาความรื่นรมย์  กับสิ่งรอบตัว ง่ายสุด  ก็เรื่องกินนี่ล่ะค่ะ ^___^ กินของหวาน ของเย็น  อย่างน้อย ตอนกินก็ทำให้รู้สึกดี มันอาจจะไม่ได้ข่วยอะไรมาก แต่มันก็ช่วยได้บ้าง จริงๆนะคะ ^__^ จากคุณ : วัลยา เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 53 22:16:58

ความคิดเห็นที่ 5   ให้ทำสมาธิก่อนนอน หรือสวดมนต์ให้สบายใจ ก่อนนอน คนเรามักจะนอนหลับไปกับ ความทุกข์ ความจริงการนอนทำให้เรา ไม่ต้องคิดมาก ไม่ทุกข์ แต่ถ้าเราหลับแบบมีความสุข อิ่มเอิบใจ การนอนจะทำให้เราลืมเรื่องร้ายๆได้เร็วขึ้น การนึกถึงรูปพระพุทธรูปสวย นึกให้ติดตา อยู่แบบนั้นจนหลับไปเลย ลองดูครับ จากคุณ : โนบุโนบุ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 00:51:37 A:113.53.11.88 X: TicketID:232449

ความคิดเห็นที่ 6 @ คุณ ตุ้ม แม็คคาร์ทนี่ย์ (Toom McCartney) คะ... สิ่งที่คุณแนะนำมา ดีมากๆ ค่ะ ...มันเป็นสิ่งที่เราก็คิดได้  แต่ก็ไม่เคยทำได้ซักที ตอนนี้ก็กำลังมีปัญหาไม่แตกต่างจาก จขกท.เลย  อาจจะหนักกว่าด้วยซ้ำไป..ไม่อยากเป็นแบบนี้เลย อยากจะตะโกนดังๆ ว่า " ใ ค ร ก็ ไ ด้ ช่ ว ย ที !!" ... แต่ก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไร  เพราะคนที่จะช่วยเราได้นั้น..ก็คือตัวเรานั่นเอง เราต้องเข้มแข็งพอ.....   แต่ ณ วันนี้ ผ่านมาปีกว่าแล้ว เราก็ยังไม่เคยทำได้ ใครรู้จักจิตแพทย์ หรือนักสะกดจิตเก่งๆ บ้างคะ ..รบกวนแนะนำที T_T จากคุณ : FaNTa_Zaa' เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 00:54:18

ความคิดเห็นที่ 7 เราก็อกหักมาไม่นานนะคะ วันที่16 พ.ย. นี้ครบ 1ปี อกหักตอนวันหวยออก โดนกินเรียบ ช่วงแรกร้องไห้ทุกวัน แทบจะกินน้ำตาแทนข้าว แม่บอกเพราะเพิ่งจะมีแฟนตอนแก่ 30แล้วเพิ่งจะมีเค้าเป็นรักแรก เป็นแฟนคนแรก เลยไม่มีภูมิคุ้มกันอาการเลยหนัก ซึ่งก็จริง อยู่คนเดียวไม่ได้เลย นั่งน้ำตาไหลตลอด แต่ที่ช่วยให้ดีขึ้นคือคนในครอบครัว เพื่อนสนิท พยายามอย่าอยู่คนเดียว หาอะไรทำให้วุ่นๆๆไว้ หาหนังสือมาอ่าน ดูหนัง ดูทีวี ออกไปเที่ยวพักผ่อน  แล้วก้อหันมาดูแลตัวเองให้มากขึ้น อย่าปล่อยให้โทรม เวลาดูเองในกระจกแล้วจะได้สบายใจ ไม่ต้องถามตัวเองว่า อิคนที่หน้าตาดูไม่ได้ในกระจกนี่ใครทำไม่ดูแย่แบบนี้ เวลาใครทักเราก้อจะยิ่งแย่ไปอีก ทำตัวให้สวยๆๆ เข้าไว้  กว่าเราจะทำได้อย่างที่บอกก็ปาเข้าไป3 เดือน แต่ไม่อยากบอกว่า ตอนนี้เรายังไม่ได้ลืมเค้านะ ยังคิดถึงอยู่ ยังฝันถึงบ่อยๆๆ บางทีก็ยังมีน้ำตาไหลบ้างถ้าเจออะไรที่มันจี้ใจ แต่ตอนนี้เรามีความสุขขึ้นแล้ว ขาดเขาเราก็ไม่ตาย อยู่ที่เราจะหาความสุขให้กับตัวเองอย่างไร  ลองหาดูนะคะ อะไรที่ทำให้คุณมีความสุขกับตัวเอง ของเราคือการหันมาดูแล ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงตัวเอง แล้วก็ไปเที่ยวที่ต่างๆๆ เปิดหูเปิดตา จากคุณ : kiwi_bum เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 02:47:56

ความคิดเห็นที่ 8 อืม..เราชอบฟังเพลง ถึงจะไม่ทำให้ถึงกับ ประปรี้ประเปร่าสดชื่นในทันที แต่ก้อพอช่วยบรรเทา และหันเหเรื่องฟุ้งซ่านในหัวไปได้บ้าง บางครั้งเรารู้สึกว่าเพลงช่วยพูดสิ่งที่เรารู้สึกแต่ไม่กล้าหรืออายที่จะพูดออกไป เหมือนมีเพื่อนคุย   เราอกหักจากรักครั้งแรกมาได้จะห้าหกปีแล้วค่ะ นานๆครั้งบางทียังฝันถึงเค้าอยู่เลย พิลึกจริงๆ ตั้งแต่อกหักคราวนั้น เรามีเสียงเพลงเป็นเพื่อนมาตลอด ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : กลางคืนตื่นกลางวันฝัน... เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 07:32:44

ความคิดเห็นที่ 9 เราเองก็ผ่านช่วงเวลาที่เรียกว่าอกหักมาเมื่อไม่นานนี้ค่ะ หลังจากอกหักแล้วใช้เวลา ดูหนัง อ่านหนังสือ เข้าหาเพื่อนๆ เหมือนอย่างที่คุณตุ้มได้บอกไว้แล้วค่ะ แล้วยังมีเวลาดูแลตัวเองมากขึ้น เมื่อก่อนไม่มีเวลาเพราะต้องทำงานงกๆ สร้างฐานะ สร้างครอบครัว พอไม่มีใคร อยากใช้เงินเท่าไหร่ก็ใช้ อยากซื้ออะไรก็ซื้อ ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองจะสวยขึ้นเยอะ แถมพอไม่มีเจ้าของแล้ว อยากยิ้มให้ผู้ชายคนไหน อยากให้ท่า(แต่พองาม)ผู้ชายคนไหนก็ได้ มีความสุขออก ท้าทายดี ดูแลตัวเองดีๆ และยิ้มไว้ค่ะ เข้มแข็งนะคะ จากคุณ : ije_ab เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 07:36:49

ความคิดเห็นที่ 10 ฟังเพลินๆนะคะ จากคุณ : กลางคืนตื่นกลางวันฝัน... เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 07:43:53

ความคิดเห็นที่ 11 อกหัก หัวใจบอบช้ำ เข้ามาในนี้ครับ ไม่มียาให้ มีแต่เรื่องที่ทำให้ดีขึ้นเท่านั้น ตัวยาก็คือตัวหนังสือที่อยู่ต่อหน้า  ส่วนหมอกับเภสัช  คือเหล่าบรรดาสมาชิกในนี้ที่กำลังรอให้การรักษากับจ่ายยาอยู่ครับ           เคยดูระครเก่าๆอยู่เรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการรักาาเหมือนกัน น่าจะเรื่อง นายแพทย์สนุกสนาน  หากเปรียบแล้ว ในนี้ก็แทบไม่ต่างกันครับ ครบทุกรสเช่นกัน     คุณเลือกแผนกได้ตามใจชอบด้วยซ้ำ จากคุณ : หมอประจักษ์ (ฟุ้งซ่าน) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 08:19:49

ความคิดเห็นที่ 12 ยาที่ดีที่สุดคือ   หนุ่มหน้าใส  กับ ความรักครั้งใหม่คะ จากคุณ : พรุ่งนี้สวย เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 08:57:17

ความคิดเห็นที่ 13   กินน้ำใบบัวบกครับ อาบด้วยก้จะดีมากๆ จากคุณ : ชาวนาแก่ๆ78 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 09:21:31

ความคิดเห็นที่ 14 พวกอุทัยทิพย์ หรือยาหอมชงบำรุงหัวใจ น่าจะช่วยได้นะครับ ต้องลองดู ออกำลังกายเบาๆให้เหงื่อซึมๆก็น่าจะช่วยได้ จากคุณ : มังกรใจเย็น เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 09:33:44

ความคิดเห็นที่ 15   เอาอาหารเสริม มาให้เช่นเดียวกันค่ะ เสริมด้วย บุญ ด้วยการเจริญสติ มีความสุขกับการให้ ที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนค่ะ ของตัวเองผ่านมาได้ก็ด้วยการ ทำบุญ ทำวัตรเย็น ให้อาหารสัตว์ (ตามกำลังศรัทธา) ไม่มีเงินแต่มีกำลังใจค่ะ ฟังธรรมะมา บางครั้ง คนเราคิดว่า ถ้าได้ ( เรียนจบ ได้มีแฟน ได้แต่งงาน ได้มีลูก ได้มีหลาน ได้.... แล้วจะดี จนถึงวันที่แก่เจ็บใกล้ตาย ก็ต้องบอกกับตัวเองว่า ถ้าได้ตาย แล้วจะดี ) จริงๆ ได้อะไร ถึงจะเรียกว่าดี จริงๆ สู้ๆนะค่ะ จากคุณ : บี เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 13:01:24 A:124.122.75.73 X: TicketID:129951

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ จขกท และ คุณ FaNTa_Zaa'คะ ดิฉันเป็นนักสะกดจิตบำบัดกับ (ว่าที่)นักจิตวิทยาค่ะ ตัวจริงเสียงจริงมาเอง การสะกดจิตบำบัดไม่ได้ช่วยให้ลืมเรื่องใดเรื่องหนึ่งไปตลอดกาลหรอกนะคะ ที่เห็น ๆ ในหนังว่าเค้าสามารถทำให้ลืมไปได้ตลอดน่ะ ขี้จุ๊ ค่ะ การสะกดจิตบำบัดความคิดเนี่ย จะเป็นการปรับข้อมูลความคิดกาีรมองโลกและปัญหาในอีกแง่มุมนึงเพื่อทำให้เจ้าตัวรู้สึกสบายใจและสามารถยอมรับกับปัญหาได้มากขึ้น สามารถปล่อยวาง คลายปัญหา คลายเครียดได้อย่างสิ้นเชิง แต่อย่างคนไข้บางราย เขาบอกว่าถึงแม้เขาจะพยายามตัดใจแล้ว รู้ว่าทุกข์คืออะไร พยายามเอาใจออกห่างจากต้นตอความทุกข์แล้ว แต่ก็ยังทำไม่ได้ เพราะมันยากเหลือเกิน อันนี้ก็เพราะว่าความรู้สึกต่าง ๆ นา ๆ มันยังอยู่ในจิตใต้สำนึกเรา ความสุขที่เคยมีเรายังไปยึดติดกับตรงนั้น แถมพ่วงด้วยความเศร้าที่เจออยู่ก็เลยยิ่งหนักไปใหญ่ กรณีนี้เขาเรียกว่าขยะในใจมันเยอะน่ะค่ะ ต้องจับมาล้างขยะในใจออกไปให้หมด บำบัดให้ไม่ไปยึดติดกับความรู้สึกเดิม ๆ ให้อภัยในการกระทำของคนที่เรารักหรือเคยรัก เมื่อใจไม่ไปยึดติด เมื่อใจสามารถให้อภัย ความทุกข์ก็หายไปค่ะ ชีวิตคนเรามันสั้นเกินกว่าจะมาเศร้าและเสียน้ำตาไปวัน ๆ นะคะ ยิ้มเถอะค่ะ จากคุณ : dear143 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 18:34:15