Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ถ้ายังดันทุรัง เสนอ ร่าง พรบ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ ฉบับเดิม โดยไม่ถอนออกจากสภาฯ บุคลากรทางการแพทย์จะมีการนัดหยุดงาน  

บอกกล่าวเล่าข่าว เท่านั้น
       ขอแสดงความยินดีกับบุคลากรทางการแพทย์ และแสดงความเสียใจกับประชาชนผู้รับบริการทางการแพทย์

       ที่มา....http://www.consumerthai.org/main/index.php?option=com_content&view=article&id=1381:2010-09-23-10-07-44&catid=25:2008-12-15-17-48-17&Itemid=142
 
       วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน 2010 เวลา 17:05  23  เครือข่ายภาคประชาชนและศูนย์กฎหมายสุขภาพ และจริยศาสตร์คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดเวทีวิพากษ์ (ร่าง) กฎหมายคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากระบบบริการสาธารณสุข พ.ศ. ....

          ภาคประชาชนเน้น สาระในกฎหมายหลายมาตรา ทำให้เป็นเหตุฟ้องแพทย์เพิ่มขึ้น ขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายเดิม พร้อมเรียกร้องแพทย์ให้ทบทวนการนัดหยุดงาน เพราะจะทำให้แพทย์ที่ไม่หยุดงานทำงานหนักเพิ่มขึ้นและหยุดใช้คนไข้เป็นตัวประกัน    

            ซึ่งที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าร่างกฎหมายฉบับที่แก้ไขใหม่นี้ ยังมีจุดอ่อนอีกหลายประการ เช่น

       1.กฎหมายกำหนดให้มีการพิสูจน์ถูกผิดของผู้ให้บริการตามมาตรา  9 และ มาตรา 10 ขณะที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับเดิมของรัฐบาลและฉบับประชาชนยึดหลักการไม่พิสูจน์ถูกผิดของผู้ให้บริการ แต่เน้นการพิสูจน์ว่ามีความเสียหายจริงหรือไม่จากการรับบริการ แต่สอดคล้องตรงกันเรื่องไม่หาผู้กระทำผิด  (การให้พิสูจน์ถูกผิดในชั้นนี้ คือเจตนาตัดตอนการเรียกร้องหรือการฟ้องร้องต่อเนื่องโดยกฎหมายอื่น)

           2.สัดส่วนของคณะกรรมการคุ้มครอง ฯ ไม่เป็นธรรม ตามมาตรา 12 มาตรา 16 และมาตรา 49 ทั้งที่ร่างพระราชบัญญัติฉบับก่อน แพทย์เรียกร้องเรื่องสัดส่วนที่ไม่เป็นธรรมจากร่างรัฐบาล แต่ร่างฉบับแก้ไขของตนเองกลับมีสัดส่วนที่ไม่เป็นธรรมเช่นเดียวกัน

         3.กฎหมายฉบับนี้ไม่รวมถึงผู้ป่วยที่ได้รับความเสียหายจากโรงพยาบาลเอกชน ทั้งที่ปัจจุบันระบบสวัสดิการข้าราชการอนุญาตให้ข้าราชการรับบริการจากโรงพยาบาลเอกชน รวมทั้งไม่เก็บเงินจากโรงพยาบาลเอกชน (มาตรา 26) เนื่องจากอ้างเหตุไม่รวมโรงพยาบาลเอกชน  ซึ่งผิดไปจากเจตนารมณ์ที่ต้องการให้ครอบคลุมผู้ใช้บริการสาธารณสุขทุกสถานพยาบาล(อาจเพราะต้องการให้ร.พ.เอกชนที่เป็นธุรกิจแพทย์พานิชย์ไม่ต้องมารับผิดชอบทั้งการส่งเงินเข้ากองทุน)

          4.มาตรา 24 ให้มีการกันเงินจากกองทุนร้อยละ 10 สนับสนุนสภาวิชาชีพในการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาความปลอดภัย ซึ่งน่าจะเข้าข่ายการใช้เงินที่ผิดวัตถุประสงค์ของกองทุน  (ตอนแรกอ้างว่า กรรมการตามร่าง พรบ.เดิม เป็นผู้บริหารเงินกองทุนก้อนใหญ่  แต่ร่าง พรบ.ที่แก้ไข  ที่แท้สภาวิชาชีพแสดงความต้องการอยากได้เงินกองทุนนี้ส่วนหนึ่งไปบริหารในสภาวิชาชีพเสียเอง ทั้งที่การใช้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลเวลานี้ เป็นการใช้เพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบวิชาชีพที่เป็นกรรมการและอนุกรรมการเท่านั้น แทบไม่มีผลงานที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคทางการแพทย์เลย)

           5.อายุความของการใช้สิทธิตามกฎหมาย มาตรา 29 ขัดต่อพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2550 ทำให้ผู้บริโภคถูกตัดสิทธิตามกฎหมาย และเป็นเหตุในการนำคดีมาฟ้องร้องได้ ซึ่งจะไม่ลดคดีฟ้องร้องทางการแพทย์ น่าจะขัดต่อตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่จะช่วยลดการฟ้องร้อง

            6.กฎหมายฉบับนี้ไม่มีหลักของความรับผิดในการกรณีที่ไม่มีผู้กระทำผิด ไม่มีระบบ No Fault Liability  ดังนั้นมาตรา 10 วรรค 2 ที่ไม่มีการจ่ายเยียวยาความเสียหายในกรณีมีผลกระทบซึ่งให้บริการสาธารณสุขตามวิชาชีพ เช่น ผ่าตัดเลาะผังผืดในท้องแล้วโดนท่อไต ไม่ถูกพิจารณาว่ามีความเสียหายทั้งที่มีความเสียหายแต่ไม่มีผู้กระทำผิดมาตรฐาน  เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เพราะมีความเสียหายจริง แต่เข้าข่ายการให้บริการที่ได้มาตรฐานแล้วไม่มีการเยียวยา ซึ่งแพทยสภาและเครือข่ายประชาชนเห็นสอดคล้องกันในเรื่องนี้ ว่า มีความเสียหายแต่ไม่มีผู้กระทำผิด

        7.ชั้นอำนาจของคณะกรรมการ และการกำหนดให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาร่วมดำเนินการในการจ่ายเงิน ตามมาตรา 31 ในกรณีพิจารณาไม่แล้วเสร็จ

         8.ประชาชนได้รับความเป็นธรรมจากกฎหมายฉบับนี้น้อยมาก เช่นประชาชนไม่มีสิทธิมารับเงินจากกองทุนนี้หากไปฟ้องคดี เมื่อหมอถูกฟ้องเป็นจำเลยเมื่อมีคำพิพากษาให้กองทุนรับภาระแทนได้ เป็นต้น

        ขณะที่ ศ.นพ.วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์ ได้ชี้ว่า กฎหมายที่ปรับแก้ไขฉบับนี้ดูเป็นกฎหมายเฉพาะกลุ่ม ซึ่งขัดต่อหลักกฎหมายที่จะต้องบังคับใช้กับทุกคน และยกเว้นความรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญาให้กับผู้ประกอบวิชาชีพ และให้อำนาจสภาวิชาชีพเหนืออำนาจของประชาชน และเหนืออำนาจของรัฐมนตรี และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนน้อย มีช่องโหว่ของกฎหมายหลายแห่ง เช่น ไม่มีนิยามความหมายของคำว่า รัฐมนตรี การนำเงินร้อยละ 10 ไปให้สภาวิชาชีพ

          นายไพศาล ลิ้มสถิตย์ กฎหมายฉบับนี้ยอมรับระบบ No Fault Liability โดยใช้ระบบ No Blame และกฎหมายอาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 30  มีการยกเว้นการดำเนินคดีแพ่งและคดีอาญา สามารถกระทำได้หรือไม่ การใช้จ่ายเงินกองทุนผิดวัตถุประสงค์หรือไม่

         ดร.ยุพดี ศิริสินสุข กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้สิ่งที่สำคัญอาจจะไม่ช่วยลดคดีฟ้องร้อง เนื่องจากอายุความไม่สอดคล้องกับกฎหมายวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค การผูกยึดความเสียหายกับมาตรฐานวิชาชีพจะไม่ทำให้ลดคดีความ สำนักงานเป็นหน่วยงานใดแน่เนื่องจากกฎหมายเขียนไม่สอดคล้องกัน และดูเหมือนจะคุ้มครองแพทย์มากกว่าคนไข้

         บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนคงสนับสนุนฉบับที่แก้ไขใหม่ เพราะกลุ่มตนเองได้ประโยชน์เต็มๆ   ยินดีด้วย

จากคุณ : กอบพงษ์
เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 10:02:42




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com